ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นชมสวน

ไปชิมก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นสูตรดั้งเดิมวัดดงมูลเหล็ก แต่ร้านอยู่หลังวัดคู้บอน แถวรามอินทรา กม. 8 มีนบุรี (เข้าซอยวัดคู้บอน) อยู่ติดถนนฝั่งที่ไปทางพระยาสุเรนทร์

แล้วปรากฏว่าอร่อยติดใจทั้งรสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อม แบบไม่ต้องปรุง น้ำซุปหอมกรุ่น ติดใจทั้งบรรยากาศร้านที่จัดเป็นสวน มีแบบกลางแจ้งใต้ร่มไม้ กับแบบใต้หลังคามุงจาก กินไปก็เพลิดเพลินไปกับการดูต้นไม้ไป เหมือนนั่งอยู่ในสวน

ร้านนี้ไม่ได้มีแต่ก๋วยเตี๋ยวที่อร่อย หมูสะเต๊ะปิ้งร้อนๆ ใหม่ๆ จากเตา ก็มี มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดและอาจาดเผ็ดๆ หวานๆ ราคาก็ปานกลางทั่วไป อิ่มอร่อยสบายกระเป๋า เลยมาแนะนำกัน

 

แล้วก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นไม่มีเหรอคะ หน้าตาน่าทานแต่ไม่ทานเนื้อน่ะค่ะ

 

รู้สึกจะไม่มีเนื้อหมูครับ...เพราะเฮีย ฯ ผ่านตลอดเมื่อกลับ กทม.

ไม่ได้แวะเพราะไม่ทานเนื้อเหมือนกัน...

หมูสะเต๊ะ เคยทานครับร้านนี้ รสชาติดีมั้งจำไม่ได้แล้ว

 

ลืมบอกไป ร้านนี้มีทั้งหมูและเนื้อ คนทำเป็นกันเองยิ้มแย้มแจ่มใส ร้องทักมาแต่ไกล (ไม่เคยรู้จักกันซะหน่อย) วันนั้นไปถึงร้านรีบจองนั่งตรงขอนไม้ก่อนเลย

คนในร้านเดินมาบอกว่าฝนจะตกแล้ว เลยย้ายไปนั่งในศาลามุงจาก สรุปไม่รู้ว่าชอบก๋วยเต๋ยวหรือชอบร้านกันแน่ แต่ท่าทางเจ้าของร้านจะเป็นคนรักต้นไม้

 

ไม่มีหมูจริงเหรอเฮียปอ เมื่อวันที่ไปกิน สงสัยจะดูไม่ทั่วเพราะมัวแต่เล็งต้นไม้

 

คุณพนม ฯ .. เฮีย ฯ ก็ไม่รู้ว่ามีหมูหรือเปล่า เพราะคุณภรรยาที่รัก

เขาบอกว่าไม่มีเนื้อหมูครับ แต่นั้นเมื่อปีที่แล้วที่เขาบอกครับ...ปัจจุบันไม่แน่ใจครับ

แต่คนที่ทานเนื้อ เขาบอกมาว่า อร่อยมาก ... ^_^

 

ผมตัวจริงครับ ชอบทาน ก๋วยเตี๋ยว มากจริงๆประเภทแทนข้าวเลยครับ

 

พอกันเลยคุณอดุลย์ บุษก็ชอบอาหารประเภทเส้น ข้าวไม่ค่อยเท่าไร

 

ไม่ทราบว่าชื่อดอกอะไรคะ สวยแปลกน่าจะหอมนะคะ หน้าตาคล้ายจำปีมากเลย แต่ตรงกลางคล้ายกล้วยไม้ สวยค่ะ

 

ซะงั้นนะเฮีย สงสัยมัวแต่มองต้นไม้มากกว่ามองก๋วยเตี๋ยวจริงๆ นั่นแหละ
ดอกนี้ชื่อวานิลลา ที่สกัดกลิ่นไปทำไอติมน่ะคุณบุษบากาญจน์
มายกมือ ขอเข้าชมรมคนกินเส้นกับคุณอดุลย์ด้วยคน

 

โห้เหรอคะ ฝักนึงราคาแพงมากนี่ค่ะเคยรู้มาอ่ะ เฮียปอจ๋า บุษว่าระหว่างรอฤดูท่องเที่ยว เฮียก็ปลูกต้นวานิลลา ไปพลาง ๆ ก่อนดีมั้ยคะ เพราะฝักนึงราคาโขอยู่นะคะ

 

เข้าไปหาดูเรื่องวานิลลา เพิ่งรู้ว่าเป็นกล้วยไม้ของอเมริกาใต้ ขายกันแพงลิ่ว

ไหนๆ พูดเรื่องก๋วยเตี๋ยว ก็เลยเอาสูตรหมูตุ๋นยาจีนจากครัวไกลบ้านมาฝาก แต่ถ้าจะให้เป็นสูตรวัดดงมูลเหล็ก ต้องทำพริกน้ำส้มแบบดั้งเดิมด้วย



เครื่องยาจีนสำหรับทำหมูตุ๋น

กานพลู 10 ก้าน
หญ้าหอม 4 - 5 ก้าน
เปลือกส้มจีน 1 - 2 ชิ้น
ดอกจันทน์ 2 ดอก
เปราะหอม ใส่นิดเดียว ( 1 หยิบมือเล็ก)
ชะเอม 3 แว่น
อบเชย ก้านเล็ก ยาวประมาณ 1 นิ้ว 1 ก้าน
โป๊ยกั๊ก 4 - 5 ดอก
น้ำตาลกรวด 200 กรัม
ลูกเฉาก๊วยทุบ 1/2 ลูก

ทั้งหมดนี้ห่อด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้นแล้วมัดให้แน่นหนา

เครื่องตุ๋น

น้ำ 2.5 แกลลอน
กระเทียมปอกเปลือกแต่ไม่ต้องทุบ 200 กรัม
รากผักชีล้างให้สะอาด ไม่ต้องทุบ 100 กรัม
หอมใหญ่ปอกเปลือก 5 หัว
หัวไชเท้าหั่นบางๆ 3 หัว
กระดูกหมูทำน้ำซุป 2 ท่อนใหญ่ , ซี่โครงหมูอ่อน , เอ็นหมู
ซีอิ๊วขาว 1 กระบวยใหญ่
น้ำมันหอย 1 กระบวยใหญ่
เกลือห่อเล็ก 1 ห่อ
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำปลาอย่างดี 1 ถ้วยตวง



วิธีทำน้ำก๋วยเตี๋ยว

ตั้งน้ำให้เดือด แล้วใส่กระดูกหมู พอเดือดอีกทีก็ใส่เครื่องยาจีนที่ห่อไว้แล้ว และเครื่องปรุงรสต่างๆ ลงไป แล้วใส่ซี่โครงอ่อน , เอ็นหมูลงไปเคี่ยวพอเปื่อย

หมายเหตุ สูตรนี้สามาีรถปรับสัดส่วนได้ตามใจ เพราะสูตรนี้สำหรับทำทานหลายคน

 

อิอิ...คุณบุษ ฯ เฮีย ฯ ไม่ได้เข้าไปกินในร้านก็เลยไม่เห็นนะเจ้าดอกวนิลลาเนี๊ย

เฮีย ฯ ซื้อหมูสะเต๊ะไปซื้อหน้าร้านเขาจ๊ะ..เขาเอาออกมาขายนอกร้าน

ช่วงนั้นถนนหน้าวัดคู้บอนซ่อม คนไม่ค่อยผ่าน.เขาเอาหมูสะเต๊ะออกมาดัก

ขายอยู่ริมถนน

พึ่งจะเคยเห็นเหมือนกันดอกวนิลลา

----------------------------------------

ก๋วยเตี๋ยวหน้าตาหน้าทานมากครับ คุณพนม ฯ หมูตุ๋นชอบ ๆ ๆ (||)

 

ยุคข้าวของแพง มาชวนกันประหยัด ด้วยการทำกับข้าวที่เก็บเข้าตู้เย็นไว้กินได้หลายๆ มื้อ มีหลายเมนู พอจำได้ว่าพ่อกับแม่เคยทำให้กินบ่อย อย่าง หมูตุ๋น พะโล้ หมูโค้เค็ม กระดูกซี่โครงหมูเคี่ยวเปื่อยๆ กับเต้าหู้ยี้ เอาเข้าช่องฟรีซ พอจะกินก็ตักแบ่งมาอุ่น

 

ดอกวานิลลา ไปหามาจากเวปอื่นน่ะเฮีย แต่บรรยากาศร้านนี้มองแล้วนึกว่าร้านขายต้นไม้ เพราะมีทั้งไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม้กระถางเขียวชอุ่มเต็มไปหมด

 

โอ้ย.....น่าทานมาก

 

เหมือนกันเลยอยู่บ้านเวลาดึกๆไม่มีร้านค้า ก็อาศัยเส้นจากบะหมี่ซองไปก่อน บางร้านบางที เขาเอาโหระพามาเคียงด้วยนะครับ ได้รสชาติอีกแบบ

 

ที่แปลกก็ต้องภูเก็ต กินกะปิแกล้มก๋วยเต๋ยว กับที่ลาว (จำปาสัก) มีซอสพริกแบบกินกับไข่เจียวมาให้ด้วย

 

ก๋วยเตี๋ยวใส่กะปินี่รู้สึกจะเป็นของจีนฮกเกี่ยนนะคะ ส่วนของลาวนี่สงสัยได้รับวัฒนธรรมมาจากฝรั่งมั้งคะถึงมีซอสพริกเป็นเครื่องปรุงด้วยน่ะ

 

แล้วรสชาติ จะออกมาแบบไหนเนี่ย น่าลองทานดูเสียแล้ว แถวๆไหนครับเนี่ยคุณพนม