ก สิ ณ น้ำ - อาโปกสิณ

ก สิ ณ น้ำ - อาโปกสิณ​

กสิณน้ำ หรือ อาโปกสิณ
เป็นกสิณ กองที่สองใน ๔๐ กองกรรมฐาน
ที่นับเป็นสมถะกรรมฐาน โดยใช้น้ำเป็นอารมณ์

ดิฉันคุ้นเคยกับกสิณน้ำเป็นอย่างยิ่ง
ครั้งแรกเลยที่ได้ฝึกกสิณน้ำ ก็มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น

ดิฉันได้ถ้วยโฟมมาม่า ง่าย ๆ แบบนี้
ใส่น้ำเกือบเต็ม แล้วก็เอาไปเพ่ง
พระอาจารย์บอกว่า อย่าให้มีอะไรตกหล่นไปอยู่บนผิวหน้านะ มันจะเป็นกสิณโทษได้
ดิฉันก็เขี่ยเศษฝุ่นที่ลอยอยู่ออก

 

นิมิตกสิณน้ำ
พระอาจารย์บอกว่าให้บริกรรมคำว่าอาโปกสิณัง
ยังไม่ทันที่จะหลับตาเลย ภาพที่เห็นก็ปรากฏชัดบนผิวน้ำนั้นเอง
เหมือนอย่างภาพที่เอามาให้ดูน่ะค่ะ
แต่เป็นตัวเลขลอยอยู่สองตัว
เลขเป็นภาษาอารบิค ว่า 37
(อันนี้ไม่ใช่หวยงวดใหม่นะคะ เดี๋ยวจะเอาไปแทงกัน)

ดิฉันไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ก็ถอดแว่นตาออก
เอามาเช็ดทำความสะอาดใหม่ แล้วเพ่งไปที่น้ำ
ภาพยิ่งปรากฏชัดกว่าเดิม เอาสิ

มันยังไงกันนะ จิตก็วกวนอยู่ตรงนั้นเลย
ว่ามันไปไงมาไง ทำไมภาพนิมิตนี้มาปรากฏ
ชัดยิ่งกว่าชัด

 

หลังจากนั้น ก็หาคำตอบว่า
มันคืออะไร ความหมาย หรือนิมิต มาเร็วตั้งแต่ครั้งแรกเลยหรือ
เลข 37 ความหมายในพระคัมภีร์บอกใบ้ว่าให้ขยัน3 และอดทน7เช่นนี้เองหรือ

หรือว่าดิฉันจะได้กสิณน้ำเร็วกว่ากรรมฐานกองอื่น ๆ
ไม่รู้สิ ต้องค้นคว้าต่อไป

ดิฉันได้ฝึกกสิณน้ำเป็นกองที่สอง หลังจากฝึกกสิณดินไม่ได้เรื่องอยู่หลายเดือน
ที่ว่าไม่ได้เรื่องคือ ไม่เห็นอะไรพอที่จะเป็นกำลังใจให้ฝึกต่อไปเลย
แต่ก็ไม่ยักกะหมดกำลังใจ

เพราะดิฉันสรุปเองว่าตนเองต้องฝึกกสิณจึงจะเติบโตในกรรมฐานได้
ก็ไปที่นี่ ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ เพื่อเรียนกสิณ




http://palungjit.org/threads/ฝึกกสิณดินน้ำไฟลม-ฟรี-ครั้งที่-๖-วันอา-ที่-๑๑-พย-นี้.369503/

 

ภาพที่หลายครั้งที่สงสัยว่า คืออะไร
เพราะเป็นภาพของน้ำที่มาอย่างสม่ำเสมอ น้ำเต็มตลิ่งบ้าง
น้ำท่วมบ้านบ้าง น้ำคลองบ้างสลับกันไปมาแบบนี้เสมอ ๆ
ดิฉันก็อยากรู้ว่ามันคืออะไรหมายความว่าอย่างไร
ทำไมภาพของน้ำจึงชัดมาก มาให้เห็นทุกคืน
เป็นอะไรกัน หรือว่าเราต้องย้ายบ้าน ตามคำทำนายอีกแล้ว

ความสงสัยก็เริ่มหายไป
หลังจากนั้น ดิฉันก็มาเอาดี ทางกสิณน้ำ เพราะน่าจะเป็นนิมิตของตน
แต่กสิณโทษก็มาติด ๆ อะไรคือกสิณโทษ




http://palungjit.org/threads/ฝึกกสิณดินน้ำไฟลม-ฟรี-ครั้งที่-๖-วันอา-ที่-๑๑-พย-นี้.369503/

 

อย่างที่เล่าไว้ตั้งแต่กระทู้ กสิณแม่ธาตุ
http://palungjit.org/threads/ก-สิ-ณ-แ-ม่-ธ-า-ตุ.360035/page-4
ว่าดิฉันเริ่มต้นฝึกกสิณดินที่นี่

แต่เอาดียังไม่ค่อยได้ หลายเดือนกว่าจะได้ฝึกกสิณน้ำ
เพราะสถานที่ยังไม่มีนโยบายฝึกกสิณสี่ครบ
ดิฉันได้มาร่วมเดินทางไปพิษณุโลก เพื่อถวายผ้าป่าและฝึกกสิณแม่ธาตุที่นั่น
พอกลับมาจากพิษณุโลก ก็มาฝึกกสิณน้ำต่อ
ภาพกสิณดินที่ไม่เคยเห็นเลย หลายเดือนที่ฝึกกสิณดิน ก็มาปรากฏชัดเจน แจ๋วแวว
เอากะเขาสิ
ภาพที่เกิดขี้นเป็นกสิณดินนี่แหละ เขาเรียกกสิณโทษของกสิณน้ำ


http://palungjit.org/threads/จริต-๖-เพื่อฝึกกรรมฐานที่เหมาะสม.310598/
http://palungjit.org/threads/ฝึกกสิณดินน้ำไฟลม-ฟรี-ครั้งที่-๖-วันอา-ที่-๑๑-พย-นี้.369503/
http://palungjit.org/threads/ก-สิ-ณ-แ-ม่-ธ-า-ตุ.360035/page-4

 

ใครจะเช็คจริต และกสิณ ต้องไปกระทู้นี้นะคะ
ตอบผิดกระทู้ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวโดนย้ายไปอยู่ห้องอื่น

http://palungjit.org/threads/จริต-๖-เพื่อฝึกกรรมฐานที่เหมาะสม.310598/

 

อย่างที่เล่าไว้ตั้งแต่กระทู้ กสิณแม่ธาตุ
ว่าดิฉันเริ่มต้นฝึกกสิณดินที่นี่

แต่เอาดียังไม่ค่อยได้ หลายเดือนกว่าจะได้ฝึกกสิณน้ำ
เพราะสถานที่ยังไม่มีนโยบายฝึกกสิณสี่ครบ
ดิฉันได้มาร่วมเดินทางไปพิษณุโลก เพื่อถวายผ้าป่าและฝึกกสิณแม่ธาตุที่นั่น
พอกลับมาจากพิษณุโลก ก็มาฝึกกสิณน้ำต่อ
ภาพกสิณดินที่ไม่เคยเห็นเลย หลายเดือนที่ฝึกกสิณดิน ก็มาปรากฏชัดเจน แจ๋วแวว
เอากะเขาสิ
ภาพที่เกิดขี้นเป็นกสิณดินนี่แหละ เขาเรียกกสิณโทษของกสิณน้ำ

 

กสิณโทษ​

กสิณโทษ คือเราตั้งจิตไว้เพื่อจะเจริญกสิณน้ำ
แล้วเกิดนิมิต ของกสิณอื่นเข้ามา เช่นกสิณดิน
หรืออาจเป็นเทพ เทวดา พระพทธเจ้า อะไรก็ตาม
เราต้องให้จิตละ สิ่งลวงนั้นออกให้ได้
หากใครน้อมเข้ามาใส่ตน ก็น้อมเอากสิณโทษเข้ามาใส่ตนค่ะ

จึงควรสังวรให้มากว่า ท่านจะตั้งจิตฝีกกสิณกองไหนกันแน่
ภาพต้องเป็นกองนั้นน ๆ

วิธีแก้ไข คือให้ลืมตามามองใหม่เท่านั้นเอง
หานิมิตที่ได้ไม่ใช่น้ำแล้ว ล้วนเป็นกสิณโทษทั้งสิ้น


ต้องการเรียนรุ้ ๑ วัน คลิกที่ลายเซนต์แล้วลงทะเบียนเรียนได้ค่ะ

 

กระทู้หายไปไหนก็ไม่รู้ งงโพสไป ไม่รู้ไปปรากฏไหม

 

ออ เข้าใจแล้ว หากโพสกระทู้อ้างอิงเยอะไป จะไม่ปรากฏข้อความ

 

ท่านที่ pm รอหน่อยนะคะ
ขอทำกระทู้นี้ก่อน เดี๋ยวจะไปตอบคำถามให้

 

สมาทานพระกรรมฐานกันก่อนนะคะอันนี้สำคัญ​

คำบูชาพระรัตนตรัย​

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ. (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ. (กราบ)
สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. (กราบ)

บทสวดนมัสการนอบน้อมบูชาพระพุทธเจ้า​

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ )

สมาทานพระกรรมฐาน กสิณกรรมฐาน​

อุกาสะ อุกาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าขอสมาทาน ซึ่งพระกรรมฐาน สมถะและวิปัสสนาญาณ ขอให้บังเกิดมี ในขันธสันดานของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะตั้งสติกำหนดไว้
ที่ อาโปกสิณ (เปลี่ยนเป็นกองอื่น..วาโยกสิณ..ปฐวีกสิณ..เตโชกสิณ)
ข้าพเจ้าขอระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า คุณครูอุปัชฌาอาจารย์ คุณมารดาบิดา คุณทานบารมี คุณศีลบารมี คุณเนกขัมมะบารมี คุณปัญญาบารมี คุณวิริยะบารมี คุณขันติบารมี คุณสัจจะบารมี คุณอธิษฐานบารมี คุณเมตตาบารมี คุณอุเบกขาบารมี ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ตั้งแต่เล็กแต่น้อย ร้อยชาติพันชาติ หมื่นชาติแสนชาติ อสงไขยกัปกัลป์ ที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ขอบารมีทั้งหลายเหล่านี้ จงมาช่วยประคับประคองให้ข้าพเจ้าปฏิบัติสมถะและวิปัสสนาญาณให้ลุล่วงบ่วงมาร ให้สำเร็จ มรรคผลนิพพาน ในอนาคตกาลเบื้องหน้านี้เทอญ

บทแผ่เมตตา ​

สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุอัพพะยาปัชฌา โหนตุอะนีฆา โหนตุสุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ ..........เริ่มเพ่งกสิณ

 

เมื่อเรารู้แล้วว่า เราควรเดินกสิณอะไร สมมตว่าเราสรุปได้แล้วจากการเช็คจริต ๖
อยู่ห้องบริการดูดวง ที่จริงดิฉันไม่ได้แสวงหารายได้จากการพยากรณ์ ไม่อยากอยู่ห้องนี้เท่าไร แต่ยินดีทำตามกติกาของเวป เพื่อความเป็นระเบียบ
หากจะย้ายไปอยู่ห้องสมาธิ ได้ก็ยินดีอย่างยิ่ง

ทีนี้ เรามาเริ่มกสิณน้ำว่าต้องอย่างไร
ดิฉันอยากจะให้ท่านหาภาชนะมาสักหนึ่งใบกลม ๆ
เอาสีที่ไม่ใช่ ขาวเหลืองแดงเขียว ที่จริงน้ำมากกว่า
หมายความว่า ไม่ให้เพ่งน้ำเขียว น้ำแดง แบบนี้ เพราะจะเป็นวรรณกสิณไป
ภาชนะ ขนาด ๑๑ นิ้ว ไม่ง่ายเลย
เอาเป็นว่า บาตรพระนี่ โอเคเลยค่ะ

แต่ราคาสูงมากไป ลองหาดูนะคะ
ดิฉันก็ใช้ กระทะ ตลกไหม เอาน้ำใส่ไว้เสมอ เลย ผ่านเมื่อไร ก็หยุดดู
ดิฉันฝึกกรรมฐาน แบบใช้ของรอบตัว ห้องน้ำก็เป็นที่ฝึกกสิณน้ำเหมือนกัน
นั่งรถผ่านบ่อน้ำ หากน้ำไม่เขียวเพ่งได้เลยค่ะ แล้วตั้งจิตทีกสิณน้ำหรืออาโปกสิณ
ฝนตกนี่ถูกใจนัก น้ำแฉะตรงไหน ก็เพ่งตรงนั้น
อย่างนี้ค่ะ

 

หากคุณมีนิมิตเป็นน้ำ เหมือนดังที่ดิฉันเล่ามาก่อนหน้านี้
อาจลองเริ่มที่กสิณน้ำก็ได้ค่ะ
ดิฉันเองเป็นคนที่มีพื้นของกสิณน้ำเป็นทุน
ทุนคือของเก่านะคะ

เรารู้เพราะเราอ่านดวงชาตาได้

หากคุณเป็นสายพญานาค ก็เริ่มที่กสิณน้ำได้นะคะ
ไม่ยากเลยหากเป็นของเก่า
แล้วไม่ใช่ล่ะ ก็ต้องทำไปก่อนแล้วจะเป็นของเก่าทีหลัง

รูปภาพที่เห็นเป็นห้องฝึกกสิณกรรมฐาน ท่านสนใจจะเรียนรู้ก็คลิกตรงลายเซนต์ค่ะ

 

ภาพนิมิตที่เกิดขึ้นในจิต อาจเป็นภาพเช่นนี้

 

ก่อนเริ่มเจริญกสิณน้ำ ท่านควรดื่มน้ำสักหนึ่งแก้ว
สมาทานพระกรรมฐาน
เริ่มวางภาขนะไว้ข้างหน้าดังรูป
แล้วเริ่มเพ่งไปที่น้ำ ผิวหน้าของน้ำต้องไม่มีเศษฝุ่นตกลงไป

สักสามสี่ลมหายใจแล้วหลับตา
ภาพกสิณน้ำ อาจมาช้าหน่อยเวลาเริ่มต้น
อดใจรอหน่อย
หากไม่มีอะไรก็เพ่งน้ำไปก่อน
ภาพของน้ำจะถูกบันทึกเป็นของเก่าแล้ว
(ตามสมการพฤติกรรม)
จากนั้น หากอยู่ที่ใด มีโอกาสก็หลับตา นึกคำว่าอาโปกสิณ
ภาพจะมาเองค่ะ

แบบนี้ยากไหม ดิฉันว่าง่ายดี

 

ทางลัดก็มีด้วย​

ดิฉันมักเป็นคนนอกครูบางเรื่อง ชอบทดลองตามวิสัยของตน
ครั้งหนึ่งที่ดิฉันได้มีโอกาสไปพระบาทน้ำ
หลายท่านคงฟังไม่คุ้น พระบาทที่ไหน เป็นพระบาทน้ำ

จริง ๆ ค่ะ พระบาที่ดิฉันไป ใหญ่โต ในน้ำท่านบรรลุน้ำไว้
พลังจากรอยพระบาทยังปรากฏอยู่
ดิฉันก็เอาหน้าจุ่มลงในน้ำ ลืมตา อธิษฐานจิต

สองสามรอบที่ทำเช่นนี้ ภาพนิมิต มาทันทีที่หลับตา จนงง
ว่าทำไมวันนี้มาเร็วจัง เลยลืมตาขึ้นด้วยปีติ
แล้วหลับตาใหม่ ก็ปรากฏนิมิตของกสิณน้ำ ทันทีเหมือนเดิม

หากท่านหาน้ำรอยพระบาทไม่ได้ ก็น้ำมนต์นี่แหละค่ะ ดีนัก ลองได้นะคะ
อาบบ้าง ดื่มบ้าง แล้วนำมาเพ่งเป็นกสิณน้ำบ้าง

เมื่อเกิดนิมิคแล้วค่อยคุยกันใหม่ค่ะ

สาธุการ

เรียนกสิณดินน้ำไฟลม ฟรี รุ่นที่ ๖ ลงทะเบียนได้ที่เวปชมรม
คลิกที่ลายเซนต์

 

ใครลงทะเบียน เวลา ๒๒.๔๒น.
ไม่มีอะไรสักตัวเลยค่ะ ลองเช็คหน่อยนะคะ

 

เชิญคุณ แสนสวาท ช่วย น้องคนนี้หน่อยนะครับ

http://palungjit.org/threads/จริงหรือไม่ว่าผู้หญิงห้ามฝึกกสิณ.369246/


ตรงเลย

 

รู้จักตนเอง​

หลังจากตรวจสอบดวงชาตาแล้ว
ก็ได้สรุปว่า ตนเองเป็นน้ำ น้ำเปนปฏิสนธิของตน
จิตและใจเป็นน้ำ ที่มา และที่ไป เป็นน้ำ
ฟังเล่นเพลิน ๆ นะคะ ตรงนี้ คนที่รู้ศาสตร์แห่งสุวรรณภิงคารจะเข้าใจได้

เมื่อทราบว่ามาจากไหน มาทำอะไร และที่ไปคืออย่างไร
ก็เดินเครื่อง เป็นอย่างนั้นมิใช่หรือ
เราไม่รู้จักตนเอง เพราะเราไม่รู้จักตนเอง
รบกี่ครั้งโอกาสแพ้มีมากกว่า

ต้องรู้จักตนเอง ต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง เพราะเรามีแผนที่
เพราะรู้ชาตาเกิดของเรา เราก็จะรู้หนทาง หากอ่านออกนะ

เมื่อดิฉันรู่จักตนเองว่ามีหน้าที่มาทำอะไร จึงมาทำอยู่ตรงนี้
มาเพื่อบอกเล่าเรื่องราว เพื่อชี้แนะให้คนรู้จักตนเองมากขึ้น
มีหนทางชัดขึ้น และเดินทางได้เร็วขึ้น

กสิณน้ำคือทางของตน