ขอความช่วยเหลือครับผมโดนคุณไสย์ 2

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย nine_hmon, 18 ตุลาคม 2006.

แท็ก: แก้ไข
  1. nine_hmon

    nine_hmon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +80
    จากที่ได้มีท่านผู้ใจบุญมาให้ความกระจ่างแก่ผมทำให้ผมได้รู้ว่า นรก สวรรค์มีจริงๆ ที่ผ่านมาผมได้โทรไปขอคำชี้แนะจากหลายท่าน ขอเอ่ยชื่อท่านผู้ที่ผมขอคำชี้แนะนะครับ คุณ ดังตฤณ. คุณ เธียรไท และท่านที่ผมได้เอ่ยชื่อด้วยนะครับ และผมได้นำพระคาถาที่ท่านผู้ใจบุญนำมาบอกกล่าว นำไปปฏิบัติ แต่ก่อนอื่นนั้น ผมขอบอกก่อนนะครับว่า ก่อนหน้านั้นผมไม่ทราบว่าต้องปฏิบัติอย่างไรผมก็คิดอะไรได้ผมก็ทำตามความคิดผม เช่น ผมเอาน้ำมนต์ที่วัดพิชญาติการามมา ทั้งดิ่มทั้งอาบเองที่ห้องพักแต่ไม่ทราบหรอกว่าต้องท่องคาถาอะไรบ้าง ทั้งไปเอาน้ำมนต์ที่วัดพระแก้ว ทั้งดื่มทั้งอาบเหมือนกัน แต่ก็ได้ผลนิดหน่อย ต่อมาก็สวดมนต์ ท่องคาถาที่อยู่ในหนังสือสวดมนต์ทั่วๆ ไปก็ไม่ค่อยดีขึ้นตอนแรกนั้นผมสัทธา สมเด็จพุฒตาจารย์โตมากครับ ผมก็อ่านพระคาถาชินบัญชรหลังสวดมนต์ ทั้งอิติปิโส 8 บท ก็ดีขึ้นตามลำดับแต่ก็ยังโดนอยู่ทั้งกลางวันกลางคืน ตอนแรกๆนั้นทรมานมากเพราะม่มีผู้ที่จะให้คำชี้แนะได้ มีกระทั่งนั่งรถเมล์ไตอนกลางคืนไปเรื่อยพอสิ้นระยะ ก็ต่อรถสายอื่นต่อจนเกือบเช้าเราะไม่อยากอยู่ห้องเพราะอาการหนักกว่าเดิมจนเกือบโดนปล้นดีที่ไหวตัวทัน ตอมารู้ว่าคนที่ทำผมนั้น(ผมได้ยินเสียงคนทำตลอดเวลา)หลอกผมให้ผมพูดกับเค้ามากๆ ยิ่งพูดมากจะโดนหนัก ผมไม่สามารถอธิบายใครได้เพราะผมอยู่ในโลกที่ไม่มีใครคิดว่าคุณไสย์จะยังมีอยู่จนกระทั่งมีปากเสียงกับพ่อแม่ ท่านคิดว่าผมเป็นโรคทางสมอง แฟนผมก็เข้าใจผมแต่เธอก็ไม่ทราบว่าจะช่วยได้อย่างไร วันหนึ่งทนไหวเลย มานั่งร้านอินเตอร์เน็ท เลยพบกับเว็บลังจิต ก็ทำให้รู้อะไรหลายๆอย่าง จากคนที่เพิ่งเริ่มเข้าวัด (ครั้งแรกที่ วัดพิชญาติการาม ตอนวัดเกิดท่านแม่ชีพอดี เมื่อวันเกิดของท่านแม่ชีที่ผ่านมา)มีน้องคนหนึ่ง พาเข้าวัด จากคนที่ใจร้อนมาก ไม่พอใจอะไรก็ชักสีหน้าๆม่พอใจ ก็เริ่มจะดีขึ้นโดยน้องคนนั้น ชื่อ เอ้ น้องเค้าพยายามหา ไฟล์หนังที่เล่าว่า นรกเป็นอย่างไร สวรรค์เป็นอย่างไร และเพลงพระคาถาชินบัญชร และพระคาถาอื่นๆ ผมก็เปิดฟังทั้งวันทั้งคืน ก็คิดเอาเองว่าน่าจะใช้ได้ถ้าแบบนี้ ก็ดีขึ้น บ้างครั้งเค้าทำอะไรได้น้อยลง ถ้าผมสวดมนต์ เช้าเย็นและตั้งแต่ได้เข้าเว็บนี้ก็นำให้ผมคิดอยากจะบวชตลอดชีวิตเสียแล้ว เพราะว่าคนที่ไม่เจอคงไม่เข้าใจว่าไอ้ที่คิดว่าไมเกร็นที่ทรมานแล้วกินยาแก้ปวดเข้าไป 2-3 เม็ดนั้นไม่ระคายเลยยิ่งพูดตามยิ่งเจ็บ ถ้าเค้าหยุดก็หาย 2-3 วิเจ็บ 5 วิต่อมาหายแต่ก็ได้ยินเค้าคุยกันว่ากำลังทำอะไร พูดอะไรอยู่ท่านผู้ที่กำลังอ่านครับจวบจนวันนี้ผมรู้แล้วว่าพระพุทธเจ้านั้นมีจริง มารนั้นมีจริง กิเลสนั้นยากมากที่จะ แยกออกจากจิตใจที่บริสุทธ์ กล่าวมาเสียนานเลยนะครับ ขอเล่าต่ออีกนิดนะครับว่า ตอนนี้ผมได้ใช้พระคาถา สัมปจิตฉามิแล้วอาการดีขึ้น อาการจะเป็นอย่างนี้นะครับ คือมันจะปวดหัว แต่ถ้าตั้งสติดีๆนั้นการปวดหัวไม่ใช่ปวดของจริงเหมือนมีใครคิดให้ว่าปวดหัว วูบที่หน้าอก คล้ายๆกับแน่นหน้าอกแว็บเดียว หลังจากนั้น จะถูกนักถ้าไม่กลั้นหายใจไว้ถ้ารู้สึกเหมือน วูบๆที่หน้าอก ถ้าโดนเข้าไป จะทำให้เหมือนมีอะไรมายึดหัวไม่ให้หมุนไปทางใหนถ้านั่งสมาธิโดนหนักคือถ้าจิตกำลังเผลอจะโดน คล้ายกับเค้าหลอกทางจิตว่ากำลังดึงหน้าผมไปถ้ายอมตัวจะแข็งๆ แต่ถ้าลุกออกเดิน ก็จะยังรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรดึงขาไว้เดินไม่สะดวก เดินไปใหนถ้าเห็นผู้หญิงไม่ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ให้คิดต่ำๆอย่างเดียว ถ้าจิดเพลอแค่นิดเดียว เค้าก็พูดว่า มึงคิดลามกกูคิดให้มึง สาธุ มก็จะปวดหัวแบบมึนๆ บางครั้งก็ได้กลิ่น ฟอร์มาลีน กลิ่นร่มผ้าที่อับๆไม่ต้องบอกนะครับ แล้วก็พูดว่ามึงได้กลิ่น นี้มั้ยถ้าคล้อยคามเป็นอันเสร็จทรมานต่อมากขึ้น
    เมื่อคืนนี้ผมได้ท่องพระคาถา สัมปจิตฉามิ ตอนที่เค้าเผลอ ทำให้รู้สึกมึนหัวมากและเหมือนมีอะไรพยายามออกจากจิตผมแต่ผมก็ไม่ทราบว่าคืออะไรเท่าที่ได้ยินเหมือนเค้าจะโดนของเค้าเอง แต่ตอนนี้ผมไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรต่อไปเพราะ ผมทดลองแล้วว่าทุกคั้งที่ผมจะคิดจะพูดจะเหมือนมีอะไรส่งออกไปก่อนแล้วผมก็ค่อยนึกคำพูดนั้นทำให้ทุกครั้งที่จะพูดจะคิดเค้าจะรู้ก่อนแล้วพูดให้ทับคำพูดผม แล้ว สาธุ อีกอย่างถ้าผมมีอาการเจ็บตรงใหนถ้าจิตจดจ่ออยู่ที่ตรงนั้นถ้าเค้าพูดว่า สาธุ ผมก็จะเจ็บได้ทุกวันเช่นเป็นสิว สิวหายแล้วก็ยังเจ็บอยู่ได้ที่ตรงที่มีสิวถ้ารู้สึก วูบๆ เหมือนแน่นหน้าอก แล้วก็เป็นอย่างนี้ทุกวันผลัดเปลี่ยนเวรยามกันทำเพราะว่าเค้ากลัวที่ของที่ทำผมไว้จะหลุดตอนนอนก็ไม่วายยังให้ฝันลามก ได้ยินว่าถ้าลามกจะทำให้ ติด คำว่าติดของเค้านั้นคงหมายถึงทำให้ผมเจ็บ ผมปวดหัว ปวดหู และมีเสียงวี้แหลม ตลอดที่โดนมา ผมก็อยากให้หายก่อนลงทะเบียนก่อน ในไม่กี่วันนี้เพราะถ้าผมเห็นอะไรเค้าก็เห็นด้วยผมลอง คิดโกหกดู แล้วจริงอย่างที่ผมคิดว่าเค้าอ่านจากจิดผม ผมเห็น เลข 1 เค้าก็คงรับรู้ว่าเป็นเลข 1ละที่สำคัญมี pass word ในการลงทะเบียนถ้ารู้ก็เข้าไปทำให้ผมต้องจบโดยปริยาย ขอความกรุณาด้วยนะครับ......hmon
     
  2. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,587
    เดินทางไปหาท่านพระอาจารย์วราห์ ที่วัดโพธิ์ทอง แถวสุขสวัสดิ์26 ขอความช่วยเหลือจากท่านดูนะ การศึกษาธรรมะ ตอนนี้จะง่าย เพราะน่าจะรู้จักทุกข์ได้ดีแล้ว ส่วนเส้นทางที่จะพ้นทุกข์ก็ยังต้องศึกษาและปฏิบัติต่อไปครับ อย่าท้อถอย พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ให้ได้นะครับ
    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  3. nine_hmon

    nine_hmon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +80
    ขอบคุณครับที่ชี้แนะ
     
  4. hassana

    hassana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +78
    ดิฉันเชื่อเรื่องคุณไสย์เพราะดิฉันเองก็เคยโดนเมื่อไม่นานมานี้เอง ตอนที่โดนนั้นดิฉันจะแน่นหน้าอกก็คือเค้าบีบห้วใจเรา ต่อมาดิฉันเจ็บหน้าอกแทบขาดใจ
    มันเหมือนมีอะไรมาแทงที่หัวใจก็คือเค้าตอกตะปูที่หัวใจดิฉัน แต่เค้าทำอะไรดิฉันไม่ได้มาก เพราะทุกครั้งดิฉันจะตั้งสตินึกถึงพุทธคุณ นึกถึงพระคุณพ่อแม่
    แล้วดิฉันก็ด่าไอ้คนทำในใจว่ามันทำบาป ตายไปตกนรก ไสยดำไม่มีทางชนะ
    ความดี ชนะพุทธคุณได้หรอก ประกอบกับดิฉันมีอาจารย์ท่านหนึ่งท่านเก่งเรื่อง
    ถอนคุณไสย์มาก เพราะท่านเป็นไสยขาว หมอที่ไหนว่าแน่รักษาไม่หาย แต่มาหาท่านแก้ได้หมด ท่านเป็นอิสลามดิฉันเรียกท่านว่าป๋า ท่านเป็นคนที่ช่วยคนอย่างแท้จริงนอกจากค่าครูแล้ว ท่านไม่เคยเรียกร้องอยากได้อะไรเลย ลูกศิษย์นับถือท่านมาก และท่านจะบอกด้วยว่าเราโดนอะไร เป็นใคร และจะมีของให้เราป้องกันตัว ดิฉันรอดตายมาได้เพราะป๋าหลายครั้ง บางคนที่มาหาท่านไม่มีเงินค่าครู ท่านก็ไม่เอาบอกว่าช่วยกัน ค่าครูถอนของและป้องกันไม่ให้ใครทำของใส่เราได้อีก 1,556 บาทไม่มีมากกว่านี้ ค่าดูดวง 100 บาทท่านดูจากเทียนคือหยดเทียนลงในขันน้ำ แล้วเทียนจะออกมาเป็นรูปที่เราถามท่าน
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล ดิฉันเคยโดนมาจึงทราบ
    ว่ามันทรมานและเจ็บปวดแค่ไหน บทสวดสัมปจิตฉามิดิฉันก็สวด แต่มันต้องแก้เอาของออกจากตัวเรากลับไปหาคนทำด้วย จึงจะหายขาด
     
  5. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    ยังมีคุณไสย์เหลือในโลกอีกหรอกครับ แต่ถ้ามีคุณไสย์จริงให้ไปปล่อยสัตว์ที่มีชีวิตที่กำลังจะถูกเขาฆ่าตาย ปล่อยให้มากกว่าอายุ สวดอิติปิโส และตามด้วยพระคาถาชินบัญชร แผ่เมตรา กวดน้ำไปให้เจ้ากรรมนายเวร ถ้าให้ดีถือศีล 8 นุ่งขาวห่มขาว 9 วัน นั่งสมาธิ หรือไม่ไปขอคำชี้แนะที่วัดท่าซุ่ง จ.อุทัยธานี ไม่ปฏิบัติธรรม จะช่วยได้ตั้งเยอะ
     
  6. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,518
    ค่าพลัง:
    +27,187
    หายรึยัง ถ้าถือศีล5ได้จะรักษาให้
     
  7. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ชีวิตเหมือนหนึ่งน้ำค้างหนาว กรรมสิ้น เวรหมด ใจหลุดพ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 พฤศจิกายน 2007
  8. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +973
    ลองจุดธูป9 ดอก อธิษฐานอาราธนา พระรัตนตรัย กับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และเทพ พรหม ทุกพระองค์ นั่งสมาธิทำใจสบายๆแล้วนึกถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้แม่น ว่ารูปร่างท่านเป็นแบบใด (ดูจากในเวบก็ได้ มีวัตถุมงคลหรือน้ำมนต์ มาวางข้างหน้าก็ยิ่งดี ) อธิษฐานให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำทำน้ำมนต์ และอาราธนา หลวงพ่อฤาษีลิงดำแทรกเข้าในจิตของเรา แล้วนึกถึงกายของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เข้ามาในหน้าอกแล้วเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจิตเราแล้วภาวนา สัมปะติจฉามิ เรื่อยๆแล้ว นึกถึงองค์ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ขยายกายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเข้าเป็นหายเดียวกับตัวเราแบบเหมือน 2 คนซ้อนทับกันอยู่ ภาวนา สัมปะติจฉามิ เรื่อยๆ ทำสัก10-20 นาที ก่อนออกจากสมาธิอธิษฐานให้ท่านคุ้มครองทุกขณะจิต
     
  9. chanin

    chanin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2005
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,331
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2007
  10. windham

    windham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +121
    ถ้าวิธีอื่นเอาไม่อยู่แล้ว ใช้พลังจิตตัวเองรักษาตัวเองแล้วยังไม่ดีขึ้นลองไปเจอ อ.ศักดา สกุลพนารักษ์ ที่โรงธรรม-โรงทานมังสวิรัติพนารักษ์ 4 645-647 ม.อมรชัย ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี แขวงศาลาธรรม์พสน์ เขตทวีวัฒนา กทม.ลองโทรเข้าไปที่เบอร์ 02-4412155 เพราะ ไม่แน่นอนว่า อ.จะอยู่ที่โรงทานในวันใหน
    ผมเคยพาน้องคนหนึ่งซึ่งโดนของ ไปให้อ.รักษา และก็ได้ผล และผมก็เห็นกับตาว่าเรื่องการทำของใส่คนมีจริงๆ ในโลกนี้มีเรื่องที่เราคาดไม่ถึงอีกมากมาย
    ****ขอให้หายเร็วๆนะครับ****
     
  11. den_siam2523

    den_siam2523 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,267
    เกิดทั้งที่...หาสิ่งดีๆให้ชีวิต...กลับสร้างกรรมให้ตัวเอง..
    สัญญากรรม ผูกพันเหนี่ยวแน่น..ไม่สิ้นสุด..ทำอย่างไรจะหยุดมันได้
    สร้างกุศล แผ่บุญให้เขาไป...ใจเป็นสุขจริงๆ
     
  12. Robert

    Robert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2005
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +3,118
    คุณ "จขกท" ผมส่ง "ข้อความ" ไปให้ ถ้ามีเวลา ก็เปิดอ่านจั๊กหน่อยแน
     
  13. nine_hmon

    nine_hmon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +80
    ถึงคุณ sertrit และท่านอื่นๆ

    ผมได้เจอข้อความที่คุณ sertrit โพสมาแล้วเป็นอย่างที่ คุณ sertrit พูดเลยผมขอโทษที่จะถามคุณ sertrit ว่าต้องไปพบท่านอาจารย์ที่ใหนครับตอนนี้ผมเดือดร้อนมากเลยแค่จะสวดมนต์ก็ลำบากเหลือทน ให้เบอร์โทรก็ได้นึกเสียว่าเอาบุญเถอะครับ ตอนบวชอยู่ผมก็ยังโดนขณะบวชซึ่งเป็นมาอยู่ก่อนแล้วหลอนผมมากเกือบทำใหฆ่าคนตายกันทั้งหอเพราะความเข้าใจผิด ทำให้คนไห้คนไกล้ตัวผมเดือดร้อนไปทั่ว ใครว่าอะไรเหมือนมีคนบอกว่าเราทำเค้ากำลังด่าเราทั้งที่ตอนนั้นถ้าเลือดร้อนคงทำร้ายคนอื่นไปทั่วคิดด่าผู้อื่นไปทั่วตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าผมไม่ได้เป็นคนที่คิดเลวๆมีบางอย่างทำให้คิดเมื่อคืนเล่นผมจนนอนไม่ได้เลยอยากรู้ว่าเสียงที่ได้ยินนั้นมาจากใหนเลยรองน้ำให้เต็มกะละมังแล้วเอาหัวจมลงไปในน้ำเพราะไม่ให้ได้ยินเสียงอะไรเป็นอย่างที่คิดเสียงที่ได้ยินมาจากในกัวผมเอง.....ขอกลับไปตอนที่ผมบวชอยู่นั้น ขณะบวชอยู่ปวารณาว่า จะเป็นพระที่ดีจะฉันน้อยๆ ปฎิบัติเยอะๆก็ทำไม่ได้หลอนผมจนน้ำตาร่วงตอนบวชเป็นพระเพราะผมไม่เคยเจอว่ามันคืออะไรกินยาก็ไม่หาย เค้าพยายามให้คิดชั่วอย่างเดียวและผมเกือบจะลาสิกขากลางคันเลย บอหพระพี่เลี้ยงว่าต้องไปหาหมอตอนเย็นเพราะทนไม่ไหวท่านบอกว่าไม่มีรถเพราะไปปฎิบัติที่ขาใหญ่ ที่ผมเล่าให้ฟังนั้นแค่จะบอกว่าผมไม่ได้โกหกนะครับอยากหายมากแต่การสวดมนต์เค้าจะกวนตลอดให้คิดเรื่องลามกตลอดผมทรมานมากแรกๆนั้นจะทำให้อ่านผิดท่องผิดเอาคำอื่นมาใส่มั่วไปหมดพอผมอ่านผิดท่องผิดก็ดีใจกันยิ่งฮึกเหิมทำได้เมื่อใดเอาใหญ่เลย ฟังจากน้ำเสียงที่ได้ยินนั้นยังเป็นเด็กอยู่เลย ผมไม่แน่ใจว่าโดนกลอนอยู่อีกหรือเปล่าและตอนนี้ผมยังเรียนอยู่เลยช่วยหน่อยเถอะครับแค่ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่เลยแต่ก็ขึ้นอยู่กับจิตใจด้วยเลยอ่อนแอไม่ได้เลย และผมได้แช่งพระบางรูปว่าบางอย่างผมไม่ทราบว่าปาบต้องตกนรกหรือเปล่าเค้าบอกว่าพระท่านที่ผมว่าไปให้มาฆ่าผม และเสียงที่ได้ยินนั้นบางครั้งเหมือนเสียงที่ผมได้ยินในบริเวณที่ผมอยู่ เลยทำให้เชื่อ ตอนนี้รู้แล้วว่าเค้าจะหลอกให้ผมเชื่อยิ่งเสียใจมากเท่าใดยิ่งเจ็บ มีท่านคนที่พูดได้ถูกมากที่สุดว่าผมมีอาการเป็นอย่างไรก็ตามกระทู้ที่ผมบอกไปนะครับ...........คิเสียว่าทำบุญแล้วกันนะครับช่วยบอกผมหน่อยว่าอาจารย์ที่ใหนช่วยได้บ้างตอนนี้ช่วยตัวเองอยู่ สวดมนต์ตามที่บางท่านบอกมาแต่ก็แค่อาการทุเลาลงพอจะหลุดหมดก็กลับมาอีกต้องทำอย่างไรบ้างครับ...........ถ้าไม่มีอาจารย์ที่จะช่วยผมได้ผมจะลองไปหาหมอที่ให้สะกดจิดดูเพราะว่าถ้าเกิดจากที่ได้ยินเสียงที่คนอื่นพูดมาแล้วได้ยินในหัวเลยคิดว่าถ้าให้ทำให้ลืมไปเลยจะได้มั้ย คิดแบบว่าคนไม่รู้อะไรนะครับ........
     
  14. aphichaiy

    aphichaiy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +149
    พ่อมดโลจิ คาถาท่7...ปัญจะปะทุมังทิสวา (ท่ถูกน่าจะเป็นแบบนี้นะ)
     
  15. kirikou

    kirikou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +125
    อยากรู้ว่าตอนนี้เรึองราวไปถึงไหนแล้วคะ ช่วยกันนำมาเล่าหน่อยนะคะ เพื่อเป็นวิทยาทานค่ะ
     
  16. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    ขอให้รีบเอาออกเพราะการคุณมีสติรู้ตัว ขาดสติไป กลับไปกลับมา บ่อยๆ จะทำให้มีอาการเป็นโรคประสาทได้ เหมือนคนที่ถูกเสน่ห์ยาแฝด ตอนหลังจะมีคล้ายคนเป็นโรคประสาท ลองไปพบหลวงพ่อเล็กที่บ้านอนุสวรีย์ ต้นเดือนนี้
     
  17. tadah.

    tadah. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +408
    คุณ HMON ผู้ถูกคุณไสย์

    เราเป็นคนหนึ่งที่มีอาการเหมือนกับคุณ เริ่มเป็นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2549 แรก ๆ บอกใครก็ถูกหาว่าประสาท อาการก็เป็นเหมือนกับคุณเลย และเราก็รู้ด้วยว่าใครทำ เพราะคนทำก็ยังเสแสร้งมีชีวิตที่ปกติอยู่ข้างๆ บ้าน และเราก็ได้ยินเสียงของคน ๆ นั้นและลูกๆ ช่วยกัน 3-4 เสียง สาเหตุคาดว่าเกิดจากความอิจฉา หรือด้วยเหตุประการใดก็แล้วแต่เขาเถอะ และเขาก็ทำทุกๆ วิถีทางเพื่อขู่ พยายามทำให้เราเป็นบ้า และทำให้เราเสียชื่อเสียงด้วยการถ้าไปในที่ใด หรือมีใครมาอยู่ใกล้ ๆ ก็จะให้ได้กลิ่นเหม็นทุก ๆ อย่างที่เขาจะทำได้ เช่น กลิ่นผ้าอนามัย กลิ่นปลาร้า สะตอ กลิ่นตัว และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะถ้าเราพูดหรือเคลื่อนไหวก็จะจ้องหาจังหวะให้มีกลิ่นเหม็นมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเป็นผู้หญิงก็ต้องการให้ได้อายและเสียชื่อเสียงให้มากที่สุด และพยายามทำลายสมาธิเราโดยทำให้รู้สึกเจ็บปวดในที่ต่างๆ บ้าง ทำให้รู้สึกร้อน หรือ หนาวบ้าง เวลากินอะไรก็ทำให้รู้สึกไม่รู้รสอาหารบ้าง เผ็ดมากๆบ้าง หรือเวลากินก็ให้รู้สึกกัดโดยก้อนกรวดก้อนทรายบ้าง แต่พอคายออกมาแล้วก็ไม่มีอะไร สรุปทำพิธีมาแล้วทุกอย่าง ก็ดีขึ้นบ้างแต่ก็ไม่หาย ภายหลังได้เรียนรู้จากพระหลาย ๆท่านว่าวิธีเดียวที่จะช่วยให้หายสนิทได้ก็คือ "การปฏิบัติธรรม" ซึ่งคือการนั่งสมาธิจะสมถกรรมฐานหรือวิปัสสนากรรมฐานก็สุดแท้แต่ ซึ่งก่อนทำต้องสวดมนต์ไหว้พระโดยเฉพาะพระปริตรบทต่าง ๆ และพระคาถาชินบัญชร,พระพุทธชัยมงคลคาถาเพื่อระลึกถึงพระพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ และที่สำคัญที่สุดเราต้องตัดความสนใจทั้งหมดจากคนที่เขากระทำคุณ และตัดความสนใจทั้งหมดจากอาการทั้งหลายที่คุณรับรู้และรู้สึกได้จากเขา โดยคุณต้องแผ่เมตตาอโหสิกรรมทั้งหมดในทุกสิ่งที่เขากระทำกับคุณและอโหสิกรรมให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมทั้งหมอที่ถูกเขาจ้างมากระทำคุณไสย์ใส่คุณด้วย และที่สำคัญที่สุดคุณต้องถือศีล 5 อย่างบริสุทธิ์ ไม่ผิดศีลเอง ไม่ยุให้ใครผิดศีล และไม่ยินดีเมื่อมีใครผิดศีล และคุณต้องพยายามทำบุญทุกอย่างด้วยศรัทธาไม่ว่าในขณะที่คุณทำเขาจะรบกวนอย่างไรก็ไม่ต้องสนใจ ต้องช่วยเหลือทั้งคนและสัตว์ด้วยจิตเมตตาจริง ๆ ถ้าคุณมีเวลาแนะนำให้ไปพบพระที่วัดไหนก็ได้เพื่อขอคำแนะนำในเรื่องปฏิบัติกรรมฐานเพื่อให้ถูกจริต (ถ้าคุณบวชได้ก็จะดีมากเพื่อพักจากโลกภายนอกสักพักเพื่อค้นหาความสงบด้วยตัวเอง) ตอนนี้เราก็ปฏิบัติธรรมอยู่แต่เนื่องจากเราเป็นผู้หญิงและยังต้องทำงานจึงไม่สามารถบวชได้ (เคยไปบวชชีพราหมณ์ แต่ตอนนั้นจิตใจว้าวุ่น จึงไม่ค่อยได้ประโยชน์) ตอนนี้ก็บวชที่ใจ อาการตอนนี้ก็ยังไม่หายแม้แต่ตอนที่พิมพ์กระทู้นี้ก็ยังได้ยินพวกเขาอยู่ แต่ถึงตอนนี้พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้มากแล้วก็ได้แต่เต้นผาง ๆ โกรธเกลียดเคียดแค้นไป เราก็วางเฉยซะในทุกสิ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมต่อไปไม่ต้องในใจอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ต้องมีสติและสัมปัชชัญญะ ทุกลมหายใจเข้าออก มองให้เห็นความจริงตามความเป็นจริง ตัวเราเองเท่านั้นที่จะดับมันได้ "ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน"

    tadah
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2007
  18. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    7.จากนั้นท่องคาถาครอบจักรวาล
    นมัสสิตวา ติโลกะนาตัง
    มะนาปะกับเป สุอาคะโต
    ปัญจะทุมังทิสวา นะโมพุทธายะ วันทะติ
    พุทธัง สรนัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรนัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรนัง คัจฉามิ
    -------------------------
    ไม่ได้เขียนผิดครับ คุณ อภิชัย ^_^
     
  19. ศักดิ์

    ศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,187
    ค่าพลัง:
    +2,022
    นะโม ภาคะวะเต ไภษัชะเย คุรุ ไพฑูรยะปะระภะ ราชายะ ตะถาคะตายะ อะระหะเต สัมยัก สัมพุทธายะ ตัทยะถา โอม ไภษัชะเย ไภษัชะเย มะหาไภษัชะเย ราชา สมุทคะเต สะวาหา
    เป็นพระธารณียสูตรแห่งพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต(เคยได้ยินว่าใช้สวดทำน้ำพระพุทธมนต์ได้โดยอาราธนาพระกริ่งแช่ลงในน้ำ)ท่านเป็นพระหมอ เป็นพระพุทธเจ้า1ใน3ในพระอุโบสถของทางมหายาน คนจีนเรียกว่า หยกซื่อฮุกโจ...ลองดูนะครับขอพุทธบารมีท่านได้คุ้มครองครับ.....นโมพระโพธิสัตว์กวนอิม...
     
  20. tadah.

    tadah. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +408
    พระคาถาธารณปริต ช่วยดึงสติ

    อ้างอิงจากคุณ mr.tom zaa คาถาพระปริตรจากพม่ามาสู่ไทย "พระคาถาธารณปริตร" (กระทู้ หน้า 15)

    คาถาพระปริตรจากพม่ามาสู่ไทย "พระคาถาธารณปริตร"
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
    พระคาถาธารณปริตรffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    น้อมรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระเมตตาธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ โดยกล่าวคำนอบน้อมนมัสการคือ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ๓ จบ<O:p></O:p>
    ๑.พุทธานัง ชิวิตตัสสะ นะ สักกา เกนะจิ อันตะราโย กาตุง ตถา เม โหตุ<O:p></O:p>
    อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง อนาคตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง<O:p></O:p>
    ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง<O:p></O:p>
    ๒.อิเมหิ ตีหิ ธัเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต<O:p></O:p>
    สัพพัง กายะกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง สัพพัง วจีกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง <O:p></O:p>
    สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง<O:p></O:p>
    ๓.อิเมหิ ฉะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต<O:p></O:p>
    นัตถิ ฉันทัสสะ หานิ นัตถิ ธัมมะเทสนายะ หานิ นัตถิ วิริยัสสะ หานิ นัตถิ วิปัสสะนายะ หานิ<O:p></O:p>
    นัตถิ สมาธิธัสสะ หานิ นัตถิ วิมุตติยา หานิ<O:p></O:p>
    ๔.อิเมหิ ทะวาทะสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต<O:p></O:p>
    นัตถิ ทะวา นัตถิ ระวา นัตถิ อัปผุฏฏัง นัตถิ เวคายิตัตตัง นัตถิ พะยาวะฏะมะโน นัตถิ อัปปฏิสังขารุเปกขา<O:p></O:p>
    ๕.อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง<O:p></O:p>
    สัมมาสัมพุทธัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ กายะทุจริตตัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ วจีทุจริตตัง<O:p></O:p>
    นัตถิ ตะถาคะตัสสะ มโนทุจริตตัง นัตถิ อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ อนาคตัง เส<O:p></O:p>
    พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง <O:p></O:p>
    นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง<O:p></O:p>
    นัตถิ สัพพัง วจีกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง<O:p></O:p>
    นัตถิ สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง<O:p></O:p>
    อิมัง ธาระณัง อะมิตัง อะสะมัง สัพพะสัตตานัง ตาณังเลณัง สังสาระ ภะยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ๖.อิมัง อานันทะ ธาระณะปริตตัง ธาเรหิ วาเรหิ ปริปุจฉาหิ<O:p></O:p>
    ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กะเมยยะ อุทะเกนะ ลัคเคยยะ อัคคีนะ ทะเหยยะ นานาภะยะวิโก นะ เอกาหาระโก นะ ทะวิหาระโก นะ ติหาระโก นะ จะตุหาระโก นะ อุมมัตตะกัง นะ มุฬะหะกัง มนุสเสหิ อะมนุสเสหิ นะ หิงสะกา<O:p></O:p>
    ๗.ตัง ธาระณัง ปริตตัง ยถา กะตะเม<O:p></O:p>
    ชาโล มหาชาโล ชาลิตเต มหาชาลิตเต ปุคเค มหาปุคเค สัมปัตเต มหาสัมปัตเต ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง<O:p></O:p>
    ๘. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง สัตตังสะเตหิ สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง<O:p></O:p>
    วัตเต อะวัตเต คันธะเว อะคันธะเว โนเม อะโนเม เสเว อะเสเว กาเย อะกาเย ธาระเณ อะธาระเณ<O:p></O:p>
    อิลลิ มิลลิ ติลลิ มิลลิ โยรุกเข มหาโยรุกเข ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง<O:p></O:p>
    ๙.อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง นะวะ นะ วุติยา สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง <O:p></O:p>
    ทิฏฐิลา ทัณทิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา.<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>

    คำแปลพระคาถาธารณปริตร<O:p></O:p>
    ๑.อันชีวิตแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย อันใครๆ ไม่อาจทำอันตรายได้ฉันใด ขอชีวิตความเป็นอยู่แห่งข้าพเจ้า จงเป็นเหมือนเช่นกัน อันว่าญาณที่ไม่มีเครื่องกระทบของพระพุทธเจ้าผู้มีบุญมีย่อมมีในอดีต ในอนาคต ในปัจจุบัน<O:p></O:p>
    ๒.อันว่ากายกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ อันว่าวจีกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ อันว่ามโนกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ <O:p></O:p>
    ๓.อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของประโยชน์ที่ประสงค์ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีบุญ ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรม ๖ ประการเหล่านี้<O:p></O:p>
    อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงแห่งการแสดงธรรม ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัม<O:p></O:p>
    พุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของความเพียร ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัม<O:p></O:p>
    พุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของวิปัสสนาญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัม<O:p></O:p>
    พุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงแห่งกามาวจรและรูปาวจรวิมุตติ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    ๔.อันว่าการพูดเล่น ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ผู้ประกอบด้วยคุณธรรมทั้งหลาย ๑๒ ประการเหล่านี้<O:p></O:p>
    อันว่าการพูดพลั้งเผลอโดยขาดสติ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่าความไม่แพร่หลายในเญยยะธรรม ๕ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่าการกระทำใดๆ อย่างผลุนผลัน โดยไม่การพิจารณาเสียก่อน ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่าความมีใจวุ่นวายด้วยกิเลส ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่าการกระทำที่ไม่มีอุเบกขาในเตภูมิสังขาร ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัม<O:p></O:p>
    พุทธเจ้า<O:p></O:p>
    ๕.อันว่าความเคารพนอบน้อม ขอจงมีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรม ๑๘ ประการเหล่านี้<O:p></O:p>
    อันว่ากายทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต<O:p></O:p>
    อันว่าวจีทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต<O:p></O:p>
    อันว่ามโนทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต<O:p></O:p>
    อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในอดีต<O:p></O:p>
    อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในปัจจุบัน<O:p></O:p>
    อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในอนาคต<O:p></O:p>
    อันว่ากายกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่าวจีกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่ามโนกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่ามโนกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จ<O:p></O:p>
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    อันว่า ธารณปริตร นี้ ไม่มีเครื่องเทียบ ไม่มีเครื่องเสมอเหมือน เป็นที่ต่อต้าน เป็นที่หลบซ่อนของสัตว์<O:p></O:p>
    ผู้ที่กลัวภัยในสังสารวัฏทั้งหลาย อัคคัง ประเสริฐ มหาเตชัง มีเดชมาก<O:p></O:p>
    ๖.ดูกรอานนท์ ท่านจงท่องจดจำ สอบถาม ซึ่งธารณปริตรนี้<O:p></O:p>
    อันว่ากายของผู้ท่องสวดมนต์ธารณปริตรนี้ ไม่พึงตายด้วยพิษงู พิษนาค ไม่พึงตายในน้ำ อันว่าไฟไม่พึงไหม้เป็นผู้พ้นภัยพิบัติต่างๆ ใครคิดทำร้ายในวันเดียวก็ไม่สำเร็จ ใครคิดร้ายทำลายในสองวัน สามวัน สี่วัน...ก็ไม่สำเร็จ ไม่พึงเป็นโรคหลงลืม ไม่พึงเป็นบ้าใบ้ อันอมนุษย์ทั้งหลาย ไม่สามารถเบียดเบียนได้<O:p></O:p>
    ๗.อันว่าธารณปริตรนี้ มีความศักดิ์สิทธิ์ คือ<O:p></O:p>
    ชาโล มีอานุภาพเหมือนพระอาทิตย์ ประชุมกัน ๗ ดวง ที่ขึ้นมาในเวลาโลกาพินาศ<O:p></O:p>
    มหาชาโล มีอานุภาพเหมือนมุ้งเหล็ก ที่สามารถป้องกันภัยจาก เทวดา อินทร์ นาค ครุฑ ยักษ์ เป็นต้น<O:p></O:p>
    ชาลิตเต มีอานุภาพประหารศัตรูทั้งหลาย<O:p></O:p>
    มหาชาลิตเต มีอานุภาพให้พ้นจากกัปทั้ง ๓ คือ โรคันตรกัป, สัตถันตรกัป และทุพภิกขันตรกัป<O:p></O:p>
    มีอานุภาพให้พ้นจากโลกต่างๆ ในเวลาปฏิสนธิคือ การเป็นใบ้ เป็นพิการ เป็นคนหูหนวก อีกทั้งไม่พึงตกต้นไม้ ตกเหว ตกเขาตาย สามารถได้สมบัติที่ยังไม่ได้ ทรัพย์สมบัติที่ได้มาแล้วก็จะเจริญขึ้นโดยความเป็นจริง สามารถประหารความมืด แล้วได้ความสว่าง<O:p></O:p>
    ๘.ดูกรอานนท์ อันธารณปริตร ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงตรัสไว้พึงสมาคมคนดี ไม่พึงสมาคมคนชั่ว พึงนำมาซึ่งกลิ่นและรสอันเป็นธรรม พึงน้อมนำมาซึ่งน้ำใจดี ไม่พึงน้อมนำมาซึ่งน้ำใจร้าย พึงทำกายให้เป็นกายดี พึงนำมาแต่สิ่งอันเป็นกุศล ไม่ถึงนำมาซึ่งสิ่งอันเป็นอกุศล พึงฟังแต่สิ่งที่ดีไม่พึงฟังสิ่งที่ไม่ดี พึงเห็นแต่นิมิตดี ไม่ถึงเห็นนิมิตร้าย<O:p></O:p>
    โยรุกเข ต้นไม้ที่ตายแล้วสามารถฟื้นขึ้นมาได้<O:p></O:p>
    มหาโยรุกเข ต้นไม้ที่ยังเป็นอยู่ ก็ทำให้เจริญงอกงามโดยความเป็นจริง<O:p></O:p>
    สามารถประหารความมืด แล้วได้ความสว่าง<O:p></O:p>
    ๙.ดูกรอานนท์ อันธารณปริตรนี้ สามารถรู้ความคิดร้ายของผู้อื่น<O:p></O:p>
    อาวุธต่างๆ มีเครื่องประหาร เช่น มีด หอก ปืน ไฟ เป็นต้น ไม่สามารถทำอันตรายได้<O:p></O:p>
    มันติลา สามารถทำน้ำมนต์คาถา ให้มีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น สามารถประหารโรคต่างได้ และโรคร้ายแรงต่างๆ ไม่อาจทำอันตรายได้<O:p></O:p>
    ทุพพิลา สามารถหลุดพ้นจากเครื่องผูกมัด<O:p></O:p>
    ด้วยอำนาจแห่งสัจจะวาจานี้ ขอความสวัสดีมีชัยจงมีแก่ข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อเถิด<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>

    ความเป็นมาของพระคาถาธารณปริตร<O:p></O:p>
    เมื่อครั้งออกพรรษาปี ๒๕๒๖ พระป่ากรรมฐานรูปหนึ่งได้มีโอกาสออกวิเวก เจริญรุกขมูล ธุดงค์ทางภาคเหนือและชายแดนฝั่งพม่าเขตติดต่อพรมแดนในแวดวงหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆ นานเกือบ ๓ เดือน ขณะปักกลดพักที่ดอยพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน ได้พบและปรึกษาธรรมปฏิบัติและอื่นๆกับพระอาจารย์รังสรรค์ โชติปาโล ซึ่งเพิ่งจะธุดงค์เดินป่ามาจากประเทศพม่า และได้จดจำเอา
     

แชร์หน้านี้

Loading...