ขอความรู้และประสบการณ์เรื่องพญาครุฑ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย นาย เอ, 30 ธันวาคม 2008.

  1. นาย เอ

    นาย เอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอชวนผู้ที่มีความรู้ ประสบการณ์ หรือเป็นร่างประทับของพญาครุฑ มาช่วยเปิดทางและแนะนำการบุชาพญาครุฑที่ถูกวิธีครับ
     
  2. สิงห์แดง

    สิงห์แดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +153
    ครุฑเป็นสัญญลักษณ์แห่งฤทธิ์เดช และอำนาจเวลาใช้ต้องระวังอย่าไปแขวนรวมกับพระพิมพ์นาคปรก พลังจะตีกัน อาจทำให้เจ็บป่วยได้ และอย่านำไปใช้เวลาจีบผู้หญิง เพราะอาจใจอ่อนหมดตัวได้โดยง่าย เพราะครุฑแพ้ความสวย ยิ่งเจอประเภทนางกากีล่ะเสร็จกัน
     
  3. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    อื้มมความรู้ใหม่ครับ ครุทห้ามจีบหญิง

    มันก็จริงแหะ
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อย่าลืมแจ้งเรื่องไปยังสำนักราชเลาขาฯ หรือ สันติบาล ว่าคุณต้องการ

    นำสัญลักษณ์ครุฑมาไว้ที่บ้าน
     
  5. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +973

    ไม่เกี่ยว แม้ซักกะติ้ด............

    1. แขวนรวมกับพระนาคปรกได้เพราะ มีรูปพระพุทธองค์อยู่ โดยปกติ เมื่อมีพระอยู่ เหล่านาคและครุฑจักไม่ทำอันตรายซึ่งกัน
    อีกอย่าง นาค คอยปกปักรักษา พระพุทธศาสนา ครุฑก็เช่นกัน คอยดูแลอุปัฏฐากพระ พระท่านก็คอยห้ามทัพให้ พลังจะไม่ตีกัน จะเป็นพลังแนวฤทธิ์อำนาจ ตบะเดชะ แบบครุฑ รวมกับ เมตตา มหาลาภ แบบนาค (นาคมักชอบอัญมณี ขุมทรัพย์ ) จะรวมกัน โดยมีพระพุทธคุณ เป็นตัวสมาน หาก นาค แขวน รวมกับครุฑ ไม่มีพระ ซวย ตีกัน ย่ำแย่ และที่แย่คือนาค เพราะเป็นอดีต ชาติเวร กันมา

    2. ครุฑไม่แพ้ความสวย นั่นมันในชาดก ที่พระโพธิสัตว์ เสวยชาติเป็นครุฑ แล้วลักนางกากี คราวหลังรูว่านิสัยหญิงเป็นแบบนี้ เลย ปาวารณาตัว ถือศีลข้อ 3 นับถือครุฑ ไม่ควรผิดศีล ข้อ 3
    ครุฑเคารพพระ ฤาษี มาก แม้บินผ่านไป เห็นฤาษี เห็นพระ ยังยอมลงมาพื้นดิน ไปไหว้ แล้ว บินกลับ ไม่ค่อยยอมบินข้ามหัวพระ
    ผิดกับนาค บางที ยังมีการ แกล้งพระ แต่หากศรัทธา แล้วมักศรัทธาถวายหัว เช่น เมื่อคราว ปลอมบวชเป็นพระ พอสึก น้ำตาไหลพราก เพราะรักเพศพระมาก ถือศีลได้ดี มาก
     
  6. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +973
    3. การใส่ครุฑ ไม่ควรแขวนเดี่ยว ควรมีพระพุทธ และ พระมหากษัตริย์ด้วย เนื่องจาก พระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ครุฑ เคารพ และพระมหากษัตริย์ นั่น เป็นดั่ง พระนารายณ์ มีอำนาจเป็นเจ้านาย ครุฑ 3 สิ่งนี้ จะเสริมกัน เหมือนกับที่ราชการ มักใช้ตราปรมาภิไธย และตราครุฑ แทนอำนาจของพระมหากษัตริย์

    4. ควรเป็นผู้ที่ รัก และไม่ดูหมิ่น ชาติ ศาสนาพุทธ และพระมหากษัตริย์ (แต่ควรพิจารณารัฐบาล ได้ 555 รัฐบาลบางท่านมัน โกงชาติ ... บลาๆๆๆๆ พอๆ เดี๋ยวติดคุก )

    5.ศีล 5 รักษาให้ครบนะจ้ะ ถ้าห้อยนาค มีข้อว่า อย่าผิดสัจจะ กะ ลักขโมย นาคไม่ชอบ คนผิดศีลข้อนี้ พวกนี้ ถือ ให้เคร่งนะ
     
  7. โหลโล

    โหลโล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +42
    แล้วคนเกิดปีมะโรงบูชาครุฑ หรือห้อยครุฑได้ป่าวครับ

    มันจะไปเกี่ยวกับครุฑยุดนาครึป่าว?
     
  8. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    ครุฑ เด่นเรื่องการมีฤทธิ์ตั้งแต่เกิด แม้ไม่ฝึกแบบยักษ์และนาคก็มีฤทธิ์ได้
    ครุฑ จะมีศรัทธาจริตมาก หากศรัทธาใคร ยอมตายถวายชีวิตเลย โดยเฉพาะเทพที่ลุยๆ
    ครุฑ จะมีวิสัยมุทะลุดุดัน ห้ามไม่ทันก็ไปเสียแล้ว ทำอะไรวู่วาม นิสัยออกเป็นนักเลงนิดๆ


    การได้ครุฑมา แทบไม่ต้องสอนอิทธิฤทธิ์ให้เขา เขาก็มีอยู่แล้ว เรียกว่าทำงานได้ทันที
    แต่ต้องเข้าใจกันหน่อย เรียกว่า ใจนักเลงเหมือนกัน แบบลูกพี่ลูกน้อง ถึงไหนถึงกัน
    การทำให้ครุฑศรัทธา ต้องเป็นคนที่เก่งเจ๋งจริง กล้าหาญ กล้าลุย ถ้าขี้ขลาดครุฑไม่ชอบ
     
  9. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    ยักษ์นิสัยเสียอย่างหนึ่ง คือ เปลี่ยนนายง่ายกว่าครุฑ
    พอมีคนเลี้ยงดูให้อาหารการกินได้มากกว่า ยักษ์ก็เปลี่ยน
    นายเสียแล้ว


    ครุฑดีกว่านาคตรงที่ไม่ต้องฝึกเลย ได้มาก็ใช้งานได้ทันที
    แต่ข้อเสียของครุฑคือ วู่วาม อุปมาเหมือนซุนหงอคงกับพระถังฯ
    คงจะนึกภาพอกนะครับ คนที่คิดจะเลี้ยงครุฑจะต้องทำอย่างไร
     
  10. นาย เอ

    นาย เอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +535
    แล้วพญาครุฑมีกี่ประเภทละครับ หรือมีลักษณะเด่นกี่แบบครับ
     
  11. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130

    ไม่ได้อ่านจากไตรปิฎกมาน่ะครับ
    แต่เท่าที่สัมผัสมาเอง
    ยังไม่รู้ละเอียดขนาด
    ที่จะตอบคำถามนี้ได้ครับ


    (ถ้าจะให้จำแนกตอนนี้ก็รู้แค่ครุฑที่
    เป็นนายและครุฑที่เป็นบริวารเท่านั้น)
     
  12. nailart

    nailart สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +17
    คาถาบูชา พญาครุฑ โอม คะ รุ ทา
     
  13. นาย เอ

    นาย เอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +535
    แล้วพญาครุฑมีลักษณะนิสัยอย่างไรชอบหรือไม่ชอบอะไร ควรบูชา อย่างไร รบกวนผู้มีความรู้ช่วยตอบหน่อยครับ
     
  14. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    ถ้าจะเป็นลูกน้องครุฑ สู้เป็นนายครุฑ เขาดีกว่า


    ถ้าจะบำเพ็ญเป็นนายของครุฑ คือ ขี่ครุฑได้ ควรจะได้กายทิพย์
    ที่มีบารมีมากพอควร ที่เห็นก็มี กายนาราย, กายโพธิสัตว์ แต่บาง
    กายกุมารก็มีบุญบารมีขี่ครุฑก็มีเหมือนกัน(คงเป็นลูกเทวดาชั้นสูง
    กระมัง)


    ถ้าเพ่งดูดีๆ บางท่านก็มีสัตว์เทพขี่อยู่ เช่น มังกรดำ, เต่ามังกร, สิงห์
    สัตว์เทพเหล่านี้ไม่มีกายสังขารร่างเนื้อ เมื่อมาทำงานให้เราก็จะอาศัย
    ในกายสังขารเรานี่เอง แต่ไม่ได้ทำหน้าที่แบบคนทรงเจ้า เขามาอยู่ด้วย
    อาศัยด้วย และคอยปกป้องดูแลเราเอาความสามารถพิเศษแบบสัตว์
    ที่คนลืมไปแล้วมาให้เราด้วยเช่นลางสังหรณ์แบบสัตว์ เช่น เต่ามังกร
    เขาจะเก่งประเมิณคู่ต่อสู้ กบดานอยู่ในกระดองรอจนถึงวาระที่เหมาะ
    เขาก็จะบอกเรา ให้เราเปิดตัวเราก็รอดภัยจากศรัตรูได้ เป็นต้น


    จะเป็นนายครุฑ ก็บำเพ็ญบารมีให้ได้อย่างน้อยนาราย แต่ถ้าจะดี
    ถึงโพธิสัตว์เลยดีกว่าครับ (ให้เกิดโพธิจิตให้ได้ กายโพธิสัตว์ก็เกิด)
     
  15. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +973

    ห้อยได้ แต่ไม่นิยม หากอยากห้อยควรมีพระด้วย

    เรื่องสัตว์อริ กัน ศัตรูกันนี่ ต้องดูที่พระไตรปิฏกและธรรมชาติสัตว์ อย่าเอาความเชื่อทางโหราศาสตร์จีนมาใช้เพราะโหราศาสตร์จีนใช้ต่างกัน และใช้วิชาธาตุ แบ่งแยก สัตว์ ไม่ใช้ธรรมชาติ
    เช่น ลิงกับเสือ ไม่ถูกกัน แต่ หนุมาน เกิดปีเสือ คนเกิดปีเสือ นิยมห้อยหนุมาน เสริมดวง หรือ เพิ่มอำนาจบารมี พอโหราศาสตร์จีน หาว่า ห้อยไม่ได้เพราะ ลิงกับเสือไม่ถูกกัน ลักษณะเช่นนี้ โหราศาสตร์จีนตามธาตุที่เหมือนสัตว์ เพราะ ลิง มีลักษณะ ธาตุเหล็ก คือ ธาตุเหล็ก มีลักษณะเหนียว ยึด เหมือนมือลิง ไก่ มีลักษณะเหมือน ธาตุเหล็ก คือ แหลมคมเหมือนปากไก่ แต่โดยปกติ ลิงกับเสือ มีทั้งถูกและไม่ถูกกัน เช่น นาคและครุฑ มีทั้งถูกกันและไม่ถูกกัน คนเกิดปีมะโรงจึงห้อยครุฑ ได้ แต่ไม่ควร หากอยากห้อย หรือเคยเป็นครุฑมาเกิด ควรมีพระพุทธเจ้า หรือ พระนารายณ์ คุมด้วย .....




    คนเกิดปีไหน เค้าถือว่าคุณอยู่ในสังกัดสัตว์ชนิดนั้น หรือธาตุคล้ายสัตว์ชนิดนั้น เรื่องศัตรู ตามปีเกิดหรือปีชง มักดูแบบง่ายๆ คงไม่จริงที่ คนเกิดเป็นแสนเป็นล้าน ในปีนี้ จะชงกับปีนี้แล้วจะมีเคราะห์ หมด คนเกิดปีที่เป็นมิตร(ฮะ)กับปีนี้จะโชคดี มาก ไม่จริงหรอกครับ เป็นแค่การดูง่ายๆ ไม่ละเอียดมาก ของจริง ต้องดูทั้งวัน เดือน ปี และเวลาที่เกิด หรือ ว่าเป็นลูกคนที่เท่าไร ด้วย ค่อนข้างละเอียดเพื่อดูแนวโน้มขะตาว่ามีชะตาแนวดี หรือเสียตรงไหน ดูไปดูมา ปีที่ชง กลับเป็นปีที่ดีที่สุดเพราะ ดวงรุ่งพอดี ก็ได้ 55555

    เรื่องปีก็ยังมีการถกเถียงกันว่า คนที่เกิด ช่วง 1 มค - 31 มีค เกิดปีอะไรกันแน่ เพราะไทยเราดันถือศักราชซ้อนกันตอนปี ที่จอมพลป เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ และ สงกรานต์ ช่วงวันเถลิงศก จะเป็นการเปลี่ยนปี ชวด ฉลู ขาล หรือไม่ เพราะ การเปลี่ยนปี มีช่วงเปลี่ยนปีที่ต่างกันมาก

    ตรุษจีน ประมาณ กพ ถือว่าเปลี่ยนปี
    ตรุษไทย วัน ขึ้น 1ค่ำเดือน 5
    วันปีใหม่ 1 มค
    เปลี่ยนปีจันทรคติ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1
    วันสงกรานต์ ช่วง 14 -15 -16 เมษา ช่วง วันที่ พระอาทิตย์ย่างเข้าราศีเมษ วันแรก
    เปลียนปี พุทธศักราช วันขึ้น 15 คำเดือน 6
    คริสตศักราช 25 ธค
    ......
     
  16. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    โอ้ววว พี่นายเมความรู้แน่นมากครับ ขอคารวะ
     
  17. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +973
    เช่นกันครับ ...ขอคารวะด้วยน้ำใจ 1 จอก เอ้า เชิญ .....
     
  18. นาย เอ

    นาย เอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอบคุณทุกๆท่านครับ
     
  19. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,205
    ค่าพลัง:
    +235
    ขอความเมตตา ให้ผมสักหนึ่งเหยือก นะครับท่าน

    ผมอยู่กับครุฑตลอด ทุกวันนี่แหล่ะ ท่านใจดีมั่กๆ

    ผมไปไหนมาไหน ผมก็พกพญาครุฑไปด้วยทุกวัน

    ปล. พญาครุฑอยู่ในกะเป๋าตังค์ของผม ตลอดเวลา จับจ่ายใช้สอยคล่อง พ่อค้าแม่ค้าต่างก็ยินดีปรีดา ที่ได้พญาครุฑจากผม และผมมีหลายใบ สีเขียว สีแดง สีม่วง และสีขาว แต่ช่วงหลังสีขาวนี่มีปลอมบ่อยๆ ผมเลยพกสีแดงๆ แทน ... และขอย้ำว่า พญาครุฑกับผมนี่คู่กันจริงๆ ไปไหนมาไหน ถ้าผมมีพญาครุฑอยู่ ไม่มีวันอดตาย และผมเชื่อว่า คนไทยทุกๆ คนชอบพญาครุฑ เหมือนๆ กันหมด ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแก่แม่เฒ่า วัยชะแรแก่ชะรา ลูกเล็กเด็กแดง นักเรียนนักศึกษา แม้กระทั่งขอทาน ต่างชื่นชอบพญาครุฑด้วยกันหมดทั้งสิ้น แลฯ
     
  20. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    จัดให้ตามคำขอ..แบบรวมมิตรทั้งคติพราหมณ์และคติพุทธ

    ความเดิมมีอยู่ว่า…

    “ท้าวกัศยปมีมเหสี 2 พระองค์เป็นพี่น้องกัน องค์พี่มีนามว่า นางวินตา มีบุตรนามว่า พระยาครุฑ ส่วนองค์น้องนามว่า นางกัทรู มีบุตรนามว่า ท้าววาสุกรีหรือพระยานาค มเหสีทั้งสองพระองค์ไม่ค่อยจะถูกคอกันนัก มักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลา ประกอบกับท้าวกัศยปโปรดปรานนางวินตาเป็นพิเศษ ทำให้นางกัทรูเกิดความอิจฉาริษยาและแค้นเคืองเป็นอันมาก จึงได้คิดอุบายหาเรื่องโต้เถียงและท้าทาย นางวินตา ด้วยการตอบทายปัญหาว่า “ม้าที่ใช้เป็นพาหนะราชรถบุษบกของพระอาทิตย์ คือสีอะไร?” หากนางวินตาตอบผิด ต้องยอมเป็นทาสรับใช้และถ้าตอบถูกนางกัทรูจะยอมเป็นทาสรับใช้เช่นกัน ความแจ้งไปยังท้าวกัศยป ด้วยความลำเอียงจึงบอกคำตอบที่ถูกต้องคือ สีแดง ให้แก่นางวินตา แต่ความรู้เข้าถึงนางกัทรูจึงรู้สึกเสียใจ แต่คำตอบก็ยังไม่ได้พิสูจน์เป็นทางการ ในระหว่างนั้นท้าววาสุกรีบุตรชายของนางกัทรูเกรงว่าแม่จะปราชัย จึงอาสาช่วยโดยนำขนม้าสีดำปลอมมาประดับไว้ที่ตัวม้าราชรถบุษบกของพระอาทิตย์ ให้เป็นสีดำทั้งตัว เมื่อถึงวันพิสูจน์คำตอบมาถึง ม้าราชรถบุษบกของพระอาทิตย์กลับเป็นสีดำอย่างไม่คาดคิด ทำให้นางวินตาเป็นฝ่ายแพ้ในที่สุด จึงต้องเป็นทาสรับใช้นางกัทรูตลอดไป ท้าวกัศยปขอร้องให้นางกัทรูยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวเสีย แต่นางมีเงื่อนไขว่าจะต้องนำน้ำอมฤตให้แก่นาง เพื่อที่นางจะได้นำไปมอบให้บุตรชายของตน

    พระยาครุฑผู้เป็นบุตรชายของนางวินตาเมื่อทราบเรื่องราวเข้า จึงอาสาจะไปนำน้ำอมฤตจากองค์พระศิวะ ณ เขาไกรลาส ซึ่งมีเทวบุตรเป็นผู้ดูแลรักษาไม่ให้ใครแตะต้องได้ พระยาครุฑได้พยายามลักลอบเข้าไปเพื่อแย่งชิงจากเทวบุตร ความแจ้งไปยังพระศิวะ จึงมีพระบัญชาให้พระนารายณ์ไปปราบ พระนารายณ์สู้รบกับพระยาครุฑเป็นเวลานาน ยังไม่มีใครรู้แพ้รู้ชนะ เนื่องจากพระยาครุฑได้รับพรจากพระศิวะให้เป็นผู้มีฤทธิ์เสมอเหมือนพระนารายณ์ เมื่อพระนารายณ์สอบถามความเป็นมาที่เกิดขึ้น จึงเกิดความสงสารในความกตัญญูต่อมารดาของพระยาครุฑเป็นยิ่งนัก จึงได้มอบหม้อน้ำอมฤตแก่พระยาครุฑไป โดยมีข้อแม้ว่า “หากพระองค์ขณะบรรทม ให้พระยาครุฑอยู่สูงกว่าได้ แต่หากพระองค์ทรงประทับยืนอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม ให้พระยาครุฑอยู่ต่ำกว่าและให้พระองค์ทรงประทับอยู่เหนือพระยาครุฑ เพื่อเป็นพาหนะของพระองค์ได้” พระยาครุฑยินยอมในข้อตกลงนี้ พระองค์ทรงแนะนำให้พระยาครุฑนำหม้อน้ำอมฤตนี้ขว้างทิ้งลงต่อหน้าท้าววาสุกรี (พระยานาค) เพื่อชดใช้และสู่คืนอิสรภาพให้กับมารดาของตน

    พระยาครุฑรับพระบัญชา แล้วจึงไปเผชิญหน้ากับท้าววาสุกรี พระยาครุฑจึงขว้างหม้อน้ำอมฤตใส่ลงไปเบื้องหน้า ทำให้น้ำอมฤตหกกระจายอยู่บนพื้นหญ้า ท้าววาสุกรีเกิดความเสียดาย จึงได้รีบเลื้อยไปเลียน้ำอมฤตในทันที ปรากฏว่าไม่ทันได้ระมัดระวัง ลิ้นของท้าววาสุกรีไปโดนหญ้าบาดเป็นทางแตกแยกออกเป็นสองแฉก ทำให้ท้าววาสุกรีไม่สามารถดื่มน้ำอมฤตได้ จึงโกรธแค้นเป็นยิ่งนักและจะขอจองเวรพระยาครุฑ ตลอดไปนับแต่บัดนั้นมา”

    คราหนึ่งพระอินทร์ได้ให้พรแก่พระยาครุฑสามารถจับนาคกินเป็นอาหาร ยิ่งสร้างความเกรงกลัวให้กับท้าววาสุกรีมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเกรงว่าเผ่าพันธุ์ตนจะสูญพันธุ์หมด จึงได้ทำข้อตกลงกับพระยาครุฑว่า จะส่งนาคไปให้กินเป็นอาหารคราวละตัวทุกวันที่ริมหาด วันหนึ่งถึงครานาคหนุ่มนามว่า “ศังขจูทะ” ซึ่งจะต้องเป็นเหยื่อในรายต่อไป มารดาของนาคศังขจูได้บังเกิดความอาลัย คร่ำครวญและร่ำให้อยู่นั้น วิทยาธรผู้ใจบุญนามว่า “ชีมูตวาหน” เป็นผู้มีพระญาณและอาคมที่แก่กล้ามาก ได้พบเข้าและสอบถามถึงเรื่องราวทั้งหมด จึงขอเสนอตัวปลอมเป็นนาคให้พระยาครุฑกินแทน

    เมื่อพระยาครุฑได้ตะครุบเหยื่อและกำลังจะฉีกนาคจำแลงกินอยู่นั้น ก็มีรู้สึกว่าทำไมนาคตัวนี้กำลังจะโดนกินอยู่แล้ว ทำไมจึงไม่แสดงถึงอาการเจ็บปวดใดๆ เลย วิทยาธรผู้ใจบุญล่วงรู้ด้วยอำนาจแห่งพระญาณจึงกลับกลายร่างดังเดิม และได้บอกเล่าถึง เรื่องราวทั้งหมดให้แก่พระยาครุฑทราบ จากนั้นจึงได้แสดงธรรมให้แก่พระยาครุฑได้เห็นบาปบุญคุณโทษจากการจองเวรซึ่งกันและกัน ด้วยความทราบซึ้งและสำนึกในบาปที่ตนกระทำ จึงตัดสินใจจะวิ่งเข้าสู่กองไฟหมายจะปลดชีวิตตน เพื่อชำระบาปที่ได้ทำลงไป แต่วิทยาธรผู้ใจบุญได้ห้ามไว้ทันท่วงที และขอร้องให้พระยาครุฑเลิกกินนาคเป็นอาหาร พระยาครุฑยินยอมและรับปากโดยดี จากนั้นจึงกลับไปทูลขอน้ำอมฤตจากองค์พระนารายณ์ เพื่อนำมาประพรมกระดูกนาคที่สุ่มกองสูงเป็นภูเขาเลากา ทั้งหมดให้กลับมาฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง”

    พระยาครุฑมีพระชายานามว่า “อุนนติ” (วินายกา) และพระโอรสสองพระองค์นามว่า “สัมปาติ” (สัมพาที) และ “ชฎายุ” ตามวรรณคดีพุทธศาสนากล่าวว่า พระยาครุฑมีปีกขนาดใหญ่มาก วัดจากปีกด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งกว้างถึง 150 โยชน์ ขณะกระพือปีกสามารถทำให้เกิดพายุขนาดใหญ่ขึ้นได้ ซึ่งมีอำนาจในการทำลายล้างสูงมาก พระยาครุฑประทับอยู่ที่วิมานสุบรรณพิภพ บนต้นสิมพลีหรือต้นงิ้ว ตรงเชิงเขา พระสุเมรุ พระยาครุฑมีชื่อเรียกหลายพระนาม เช่น กาศยปิและเวนไตย พระยาครุฑเป็นเจ้าแห่งเวหา มีหน้าสีขาว ปีกสีแดง กายสีทอง มีจงอยปากและเล็บที่คมเป็นอันมาก
    <!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...