ขอคำปรึกษาครับ แฟนเก่าสาปแช่ง

ต้องขอเล่าเบื้องต้นก่อนว่า
ผมกับแฟนเก่าคบกันมา 5- 6 ปีแล้ว
ตลอดเวลาืี่้ที่คบกันมีทั้งสุขและทุกข์

เรื่องเงินทอง
ช่วงปีแรก ๆ แฟนเก่าขัดสนเรื่องเิงินทอง ผมก้อคอยช่วยหา หยิบยืมคนโน้นคนนี้บ่อย ๆ
ช่วงปีหลัง ๆ ผมเองก้อมียืมเค้า แต่พอเวลาเค้าไม่มี ผมก้อหาให้เท่าที่ผมสามารถหาได้

เรื่องสุข
เวลาทีี่มีความสุขก็มีนะครับ ไปเที่ยวต่างประเทศ ต่างจังหวัด โดยผมจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่
ไปกินข้าว ดูหนัง ก้อปกติทั่วไป ไปเที่ยวตามเทศกาล

เรื่องทุกข์
เวลาทะเลาะกัน แฟนเก่าเค้า่ชอบโมโหร้าย สติแตก เอาไม้แขวนเสื้อมาฟาดผมที่หลัง ที่แขน ที่ัตัว , เคยมีเอามีดมาแทงที่ขา
จนผมกลัวและทนไม่ไหว
ยิ่งไปกว่านั้น ด่าพ่อแม่ผม "พ่อเ-ง ตายหรอ " " เวลาทะเลาะกัน

จนล่าสุด ผมขอเลิกกับเค้า เพราะจริง ๆที่บ้านก้อไม่ค่อยชอบด้วย ถ้าแต่งงานกันไปคงมีปัญหาลูกสะใภ้ กับ ที่บ้านผมแน่

เแฟนเก่าเค้ากลับมาแช่งผม แช่งพ่อแม่ผม
"ต่อไป เมิ- พวกเมิ- ก็อย่าได้มีความสุขกันอีกเลย จะเจอกับสิ่งที่ไม่ได้เจอ
พ่อเมิ- จะตายเร็วขึ้น " (พ่อผมเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว )

ผมจะทำอย่างไรดีครับ มีการกระทำไหนที่ป้องกันไม่ให้เรื่องร้าย ๆเกิดขึ้นบ้าง
ผมกลัวเค้าจะมาทำอะไรผม ครอบครัวผม
ได้แต่สวดมนต์ อุทิศ แผ่ผลบุญไปให้ มีบทสวดไหนที่บรรเทาเรื่องร้ายให้เบาลงได้บ้าง
หรือควรบูชาพระองค์ไหนมาห้อยคอดีครับ

ขอบคุณมากครับ

เพิ่ิมเติมครับ -- ที่เค้าแช่งเพราะแฟนเก่าเค้าเสียใจมาก เค้าคิดว่าผมหลอกเค้า เค้าพูดว่า
"ทำไมต้องทำกันแบบนี้ ทำไมต้องให้คบมายาวนานขนาดนี้ ที่บ้านไม่ชอบ
ก้อทำตามที่บ้านงั้นหรอ คิดเองไม่เป็นหรือไง "
แต่จริง ๆแล้ว ผมก้อทนไม่ได้เหมือนกันกับการที่เค้ามาตี แทง หรือ ด่าพ่อแม่ผม
-- และก้อจริง ๆแล้วผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะครับ ก่อนหน้าที่เค้าจะมาคบกับผม
เค้าก้อมีแฟนอยู่แล้ว แล้วผมก็ไปแย่งเค้ามา ตอนนั้นผมรัก และอยากจะใช้ชีวิต แต่งงานอยู่กับเค้าจริง ๆนะครับ
แต่พอคบไป ๆ มันก้อเริ่มทะเลาะกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
การที่ผมไปแย่งเค้ามา ผมก็รู้ตัวว่าผมบาป ผมไม่ดีเหมือนกันครับ

 

ตอบคุณ MOO BM
**แฟนเก่าคุณยังมีชีวิตอยู่ อุทิศส่วนบุญไม่ได้หรอกครับ เพราะมนุษย์ มีอาหารของมนุษย์อยู่แล้ว...

ส่วนการจะเอาอะไรมาคล้องคอ หรือกลัวการสาปแช่ง ให้ดูพระสูตรของพระศาสดาพระสูตรนี้ครับ (หากคุณเชื่อมั่นไม่หวั่นไหวในพระรัตนตรัย)

ภิกษุ ท. ! ฐานะที่ไม่อาจเป็นไปได้ ๖ ประการ
เหล่านี้ มีอยู่.
หกประการ เหล่าไหนเล่า ?
หกประการ คือ : -
ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจมาสู่ทิฏฐิ
ว่า “สุขและทุกข์ ตนทำเอง”;
ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิไม่อาจมาสู่ทิฏฐิ
ว่า “สุขและทุกข์ ผู้อื่นทำให้”;
ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิไม่อาจมาสู่ทิฏฐิ ว่า “สุขและทุกข์
ตนทำเองก็มี ผู้อื่นทำให้ก็มี”;

ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจมาสู่ทิฏฐิ ว่า “สุขและทุกข์
ไม่ต้องทำเอง เกิดขึ้นได้ตามลำพัง”;
ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจมาสู่ทิฏฐิ ว่า “สุขและทุกข์
ไม่ต้องใครอื่นทำให้เกิดขึ้นได้
ตามลำพัง”;
ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจมาสู่ทิฏฐิ ว่า “สุขและทุกข์
ไม่ต้องทำเอง และไม่ต้องใครอื่นทำให้
เกิดขึ้นได้ตามลำพัง”;
ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่าเหตุ (แห่งสุขและ
ทุกข์) อันผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิเห็นแล้ว โดยแท้จริง และ
ธรรมทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่เกิดมาแต่เหตุด้วย
ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ฐานะที่ไม่อาจเป็นไปได้
๖ ประการ.
ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๐/๓๖๖.

***ขอให้เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย ไม่มีใครบันดาลอะไรให้ใครได้ ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากกรรม
ทุกคนมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นของตนเอง...ขอให้เชื่อกรรมครับ
ให้ทาน ถือศีล นั่งสมาธิ...แล้วทุกอย่างจะดีเอง

 

ไม่ต้องทำไรมากหรอกค่ะ ก็แค่ทำอย่างที่เขียนมา สวดมนต์แผ่เมตตาน่ะดีแล้วค่ะ บทไหนก็ได้ ยอดพระกัณฑ์ฯ พาหุง ชินบัณชร บทเมตตาใหญ่หรือบทสวดพรหมวิหาร บทพระจักรพรรดิ์ ฯลฯ ดีหมดเลยค่ะ จบลงที่แผ่เมตตาทุกครั้ง นั่งสมาธิด้วยก็ได้ ทุกวันเลยด้วยยิ่งดี
อ้อ... เรื่องใครเกลียดแล้วมาสาปแช่ง ก็ ได้ยินหูซ้ายแล้วให้ออกไปหูขวา ลงขยะไปเลยค่ะ ไม่ต้องเก็บไว้กับตัว ใครทำยังไงได้อย่างนั้น สำคัญที่ตัวเราไม่ไปแช่งเขาตอบหรือไม่ไปสนใจดีที่สุด ในเมื่อเป็นแฟนเก่า ก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันแล้ว นานๆได้เจอที ไม่ต้องทุกข์ไปหรอกค่ะ จำไว้ว่า มุมเมอแรงขว้างออกไปแรงก็กลับมาเร็ว เขาขว้างสิ่งไม่ดีออกมามันก็กลับไปหาเขา เราขว้างความเมตตาไปก็กลับมาหาเราเช่นกัน
เจริญในธรรมค่ะ

 

***ขอย้ำ ทำทาน ถือศีล นั่งสมาธิ นี่คือวิธีที่พระศาสดาทรงตรัสสอนไว้ครับ....

 

ขอบคุณ ท่านพุทธวจน000 , ท่าน Rungdao มากนะครับ ที่แนะนำ
พอดีท่านทั้งสองตอบแนะนำผมมาก่อน ก่อนที่ผมจะพิมพ์เพิ่มเติมรายละเอียดในเนื้อหาไปอ่ะครับ

ถ้าท่านทั้งสองได้อ่านรายละเอียดที่เพิ่มเติมแล้ว จะแนะนำใหม่ก็ได้่นะครับ

ขอบคุณมาก ๆ ครับ

 

นั้นแหละ คือกรรมของการไปใช้ผู้หญิงโดยที่ไม่ได้ไปขอพ่อแม่เขาก่อน ไม่ได้ให้สินสอดทองมั่น นี้ยังดีนะที่คุณยังมีชีวิต ผู้ชายบางคนที่ทำแบบนั้น ยิ่งถ้าผู้หญิงมีบุญมากกว่า ผู้ชายถึงกับมีอันเป็นไป ถึงกับตายไปเลยก็มี.... แต่อยากจะบอกว่าผลของคำสาปแช่งคุณแก้ไม่ได้หรอกคะ อย่างมากก็แค่ประคองไว้ไม่ให้มันเกิดตอนนี้ แต่อยากจะบอกว่าคำสาปมีจริงมยิ่งถ้าเขาอาฆาตแรง ยิ่งส่งผลเร็ว ถึงตาย แต่ตัวผู้อาฆาตก็จะเจอดีเช่นกัน

 

ดิฉัน ยังยืนยันตามเดิมค่ะ ใครทำยังไงก็ได้อย่างนั้น คุณทำกรรมอะไรกับเขาไว้มั่งก็จะได้รับแน่นอน ส่วนเขาทำอะไรมั่งก็จะได้คืนเช่นกัน กรรมมันเที่ยงตรงค่ะ รายละเอียดของคุณสองคน ก็มีคุณสองคนเท่านั้นที่รู้ การที่คุณบอกว่าสวดมนต์แผ่เมตตานั่น ทำถูกแล้วนี่คะ ดิฉันก็แนะนำไปบ้างแล้ว ... การกระทำคนเรา ทำกาย วาจา ใจ ให้ดีแล้ว มันก็จะคืนมาดีค่ะ ถ้าทำไม่ดีก็ได้ไม่ดีกลับมา ...
คุณทุกข์ใจเรื่องแฟนเก่าแช่ง มันก็โลกธรรมแปดอยู่ดี โกรธเกลียดกัน มันก็แช่งกัน เข้าข่าย สรรเสริญ-นินทา
กรรมที่มีต่อกัน บางทีก็อาจข้ามภพชาติ แต่การปฏิบัติ ไม่พ้น ทาน ศีล ภาวนาค่ะ ..
การที่เราจะสุข-ทุกข์ อยู่ที่ตัวเรารับหรือไม่รับเข้ามา ถึงบอกให้ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไงคะ ...
ใจเย็นๆค่ะ เราไม่เป็นไปตามคำแช่งคนง่ายๆหรอกและถ้าหากคุณจะเพิ่มกรรมโดยแช่งเขาตอบ มันก็จะยาวไปเรื่อย ... แต่กรรมที่คุณสองคนได้ทำต่อกันมันอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คุณเองก็เริ่มเพิ่มกรรมดีได้นี่คะ ... คิด พูด ทำ ให้ดี นั่นแหละค่ะ สิ่งที่ควรทำ แล้วสิ่งที่ดีๆ มันก็วิ่งมาหาเอง

 

เขาสาปแช่งเรา เราก็อวยพรให้เขาไป ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง

 

ปล่อยวางครับ และขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง ว่าจะเลิก หรือ ไม่เลิก คนเราต่อให้รักกันมากแค่ไหน ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ต้องเลิกรากันไปอยู่ดีครับ แต่ในทางกลับกัน คนที่เข้ากันไม่ได้เลย ถึงจะแต่งงานกัน และมีลูกด้วยกันแล้ว ก็อย่าร้างกันมานัดต่อนัดแล้วครับ

เรื่องคำสาปแช่งนั้น ยิ่งเรากลัว ยิ่งเราอ่อนแอ มันยิ่งส่งผลครับ อันดับแรกที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ เรื่องของจิตใจ ยิ่งคุณใส่ใจ มันยิ่งทำให้ใจคุณเป็นทุกข์ ก่อนอย่างอื่นเลยทีเดียวครับ แต่ถึงเขาจะแช่งให้พ่อคุณตาย หรือไม่แช่งก็เถอะ วันหนึ่งเขาก็ต้องเสียชีวิตอยู่ดีครับ เช่นเดียวกับเราทุกๆคน การเอาเรื่องที่เป็นปกติสุดๆ อย่างเรื่องความตายมาสาปแช่ง มันไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน

อีกอย่างคนที่สาปแช่งเองนั่นแหละครับ จะต้องพบเจอกับเรื่องราวที่ไม่ได้คาดฝัน เพราะความโกรธ ความอาฆาต ความเคียดแค้น ฯลฯ เหล่านี้ไม่เคยให้คุณแก่ใคร มีแต่จะให้โทษ คนที่สาปแช่งคนอื่น ก็เหมือนกับการถือประทัดยักษ์ ที่จุดแล้วเอาไว้ในมือ เมื่อคนที่เขาแช่ง ไม่ยอมรับประทัดยักษ์นั้น มันก็จะระเบิดใส่มือเขาเองครับ

ไม่ต้องไปใส่ใจ ไม่ต้องเก็บมาคิด พระพุทธเจ้าถูกสาปแช่ง จากเหล่ามาร คนพาล และคนบาป พระองค์ยังไม่ทรงประวิงใดๆเลย สุดท้ายเป็นอย่างไรครับ? พระองค์ได้บรรลุเป็นศาสดาเอกของโลก! แล้วพวกประดานั้นล่ะครับ? ถ้าไม่ถูกธรณีสูบ ก็ถูกน้ำซัดจนจมน้ำตาย ไม่ใช่เหรอครับ?

วางใจไว้ในกล่องเพชร ที่เป็นเพชรแห่งพระธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเกราะกำบังจากสิ่งอัปมงคล ไม่ยึดถือ ไม่แบกรับ ไม่เก็บเอาความร้อนเร่า จากความโกรธของผู้อื่นมาใส่ใจ เราก็จะไม่วิบัติครับ... เขาร้อน ปล่อยให้เขาร้อน เขาร้าย ปล่อยให้เขาร้าย และสุดท้าย เขาก็จะถูกความร้อนอันร้ายกาจนั้น แผดเผาตัวเองจนวอดวาย

ทำใจเป็นน้ำ ไม่ใช่น้ำมัน ต่อให้เขาโยนมหาอัคคีลงมาที่ใจ มันก็ไม่มีวันมอดไหม้ได้หรอกครับ มันมีแต่จะดับ เสียงดัง ฟี่~~~ แต่ถ้าเราทำใจเป็นน้ำมัน ไม่ต้องใช้ถึงมหาอัคคีหรอกครับ แค่ไฟจากปลายไม้ขีด ก็ลุกพรึ่บแล้ว...

 

ผมไม่อยากคุ้ยเรื่องเก่านะครับ แต่เล่าเป็นวิทยาทาน เห็นผมธรรมะธรรมโม ผมนี่แหละครับโดนแช่งตายทั้งโคตร ให้ตกนรกหมกไหม้ อะไรประมาณเนี้ย แช่งเยอะแยะเลยครับขีัเกียจจำในเว็บพลังจิตนี่แหละครับ สบายๆ ครับ ขำๆ

 

นี่แหละปัญหาสังคม.....ที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯต้องแก้ไข...ฮา
แต่ก่อนหน้านั้น โรงเรียน ต้องแก้ไขมาก่อน
และก่อนโรงเรียน ก็ต้องครอบครัว แก้ไข อบรมมาก่อน
นี่เป็นจิตวิทยาสังคมซึ่ง ซิกมันด์ ฟร์อย เป็นผู้ค้นพบและสอนไว้
ปัญหาสังคมไทยที่กำลังกลายเป็นทุนนิยม มักจะมีความแปลกแยกเช่นนี้
ครอบครัวแต่ละครอบครัว ผลิตลูกหลานออกมา โรงเรียนผลิตนักเรียนออกมา แบบ ไม่ค่อยตรง พอมาเข้าสังคมจึงเฉ
อีกประการเป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจบีบรัดด้วย
สมัยนี้ หญิงชายพบหากันง่าย ตัดสินใจด้วยตนเอง ไร้ปู่ย่าตายายพ่อแม่ช่วยกันดูแล
วัยรุ่นจึง"มั่วกาม"กันทั้งประเทศ
น่าตกใจตรงที่ว่า ปัจจุบันนี้ ปี2555นี้ ไทยเราติดอันดับหนึ่งของอาเซียน ที่หญิงไทยวัยรุ่น ท้องไม่มีพ่อ สูงสุดของอาเซียนแล้ว
นี่แสดงว่า ผลผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่ได้กล่าวมา"ล้มเหลว"
เพราะผลิต"หญิงร้าย ชายเลว"มามากมายก่ายกอง
แต่ทั้งหมดล้วนเป็นกรรมร่วมของประเทศ แล้วแยกเป็นกรรมร่วมของสังคมนั้นๆ จนแยกไปเป็นกรรมร่วมเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องใกล้ชิด
ปัญหาแบบนี้ ผมไม่อยากแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นเอากฏแห่งกรรมมาอธิบายยกตัวอย่างต่างๆนาๆ เอาธรรมะมาแนะนำก็ตาม เพราะมันเป็นปัญหาสังคมที่ต้องมีผู้รับผิดชอบแก้ไขมากมาย แต่ได้กระทำแบบ"ล้มเหลว"
แต่ถ้าครอบครัวดี โรงเรียนดี เศรษฐกิจดีแล้ว ก็มีแนวโน้มที่บุคคลจะดี เป็นส่วนมาก
โดยเนื้อแท้แล้ว แค่ศีลข้อ สาม กาเมฯยังรักษาไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปพูดถึงการแก้ไข ต้องปล่อยให้ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม

 

ก็บอกไปสิ เจริญพรเถอะเธอ
กรรมไปแย่งเค้ามา กรรมของผู้หญิง ที่ไม่ได้เลิกกับแฟนก่อนแล้วมาคบคุณ
80 เปอร์เซ็นของผู้หญิง ถ้าไม่ใช่มีแฟนคนแรกนะ เค้าจะไม่เลิกกับแฟนตนเองก่อน แต่จะมาคบที่ละสอง หรือมากว่า หากเค้าคิดจะเปลี่ยนใจ และเมื่อแน่ใจว่าผู้ชายใหม่ดีกว่า เค้าก็จะเลิกแฟนคนนั้นไปคบคนใหม่ (นี่คือกรรมของผู้หญิง เพราะ เค้าหลอกแฟนตัวเองอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวของการเลิก) ผมไม่เคยเห็นพวกที่เป็นแฟนกันแบบนี้จะอยู่กันดีและยืดเลย พวกที่ฆ่ากันตาย หึงกัน ยิงกัน ก็กรณีแบบนี้แหละ แย่งเค้ามา แต่ถ้าเลิกกับแฟน แล้วอยู่เป็นโสด พอดีมาเจอผู้ชายใหม่แล้วคบกัน แบบนี้อยู่กันโอเคหน่อย ไม่ต้องมีกรรมผูกพัน หากเลิกกัน

 

ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่แนะนำ

วันก่อนแม่ผมได้คุยกับแฟนเก่าแล้ว แม่ผมบอก " ขอให้จากกันด้วยดี ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนกัน ก้็มาเป็นลูกสาวแม่อีกคนก็ได้ "
เค้าบอกแม่ผมว่า "ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง ไม่ิทำอะไรหรอก "
แม่ผมก็สบายใจ
แต่หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที
เค้ากลับบอกผมว่า " ระวังตัวไว้เถอะ พวกเมิ- มันไม่จบง่าย ๆ หรอก "
........
ผมจะคิดดี ทำดี ต่อจากนี้ไปครับ
ผมเข้าใจนะ กรรมไม่ดีใครทำไว้ก็ต้องได้รับผลกรรมนั้น
เช่นผมด้วย

ผมได้แต่คิดดี ทำดีให้มากขึ้น สวดมนต์ ไหว้พระ ไม่เบียดเบียนใคร
พยายามรักษาศีล 5 ต่อจากนี้ไป
ผลจากการทำดีอาจจะช่วยเจือจาง บรรเทาอะไรได้บ้าง

ขอบคุณทุกท่านมากจริง ๆ ครับ ที่แนะนำ

 

จะพูดไงดีละ ...
.. เอางี้แล้วกันนะคะคุณ จขกท. ดิฉันก็เจอเรื่องแบบนี้มาเยอะคะ .. ยอมรับว่าตัวเองก็เคยแช่งแฟนเก่าไปเยอะเหมือนกัน ... แต่ในส่วนตัวของดิฉันแล้ว ดิฉันทำดีกับแฟนมากว่าทำเสีย ส่วนมากจะเรื่องหึงหวงมากกว่า และ แฟนเขาไม่ค่อยทำมาหากินอะไร .. ทำร้ายร่างกายดิฉันโดยเฉพาะพ่อของลูกนานหลายปีเหมือนกันคะที่ทน .. แต่ก็จบไปแล้วเลิกแล้วต่อกัน .. คิดเสียว่าเราทำบุญร่วมกันมาแค่นี้

.. เรื่องสาปแช่งถามว่าที่ดิฉันแช่งแฟนไปนั้นเกิดกับเขาไหม๊ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะคะ แต่เกิดคะคนแรกเขาให้ดิฉันทำแท้งแต่ดิฉันไม่ยอมทำทั้งเขายังมีผู้หญิงหลายคนไม่ซ้ำหน้าไม่ทำงานอะไร ตอนเลิกกันก็กรวดน้ำคว่ำขันกันเลยคะ ทุกวันนี้เขาแต่งงานไปหกเจ็ดปียังไม่มีลูกเลยคะชีวิตก็ไม่มีความสุขด้วย และ ที่เจออุปสรรคในชีวิตอย่างที่ดิฉันเคยออกปากไป แต่ไม่ใช่ว่าเขาทิ้งจะแช่งเลยนะคะ แต่มันมีเหตุที่เขาทำเราจริงเสียใจจริง ๆ
.. จนพออายุเริ่มากก็หันมาสนใจอ่านหนังสือธรรมมะบ้างเรื่องกรรมบ้าง ทำให้รู้ว่าบางที่ก้ไม่ใช่เพราะเราไปแช่งเขาไว้หรอก มันก็มีกรรมในส่วนของเขาทำมาด้วยผสมกันไป .. ถ้าคุณกลัวว่าคำสาปแช่งของแฟนจะมีผลต่อคุณ คุณควรรู้สำนึกผิดในสิ่งที่ทำว่าเราทำอะไรไม่ดีไปบ้างตอนที่คบกัน อันไหนผิดก็ว่าตามผิด หลังจากนั้นควรเริ่มทำบุญสวดมนต์ไหว้พระบ่อย ๆ ขอพรพระท่านให้เมตตาเราผู้สำนึกผิดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็ไปขอโทษเขาในสิ่งที่เราสำนึกผิดไป คนเราอยู่ด้วยกันมันย่อมมีกระทบกระทั้งกันเป็นธรรมดาคะ แต่สิ่งที่คุณจะได้นั้น คือ
1. จิตใจคุณจะสงบขึ้น ไม่กังวลมากเพราะความกลัว
2. ได้ตรวจสอบตนเองโดยรอบว่าทำไรดีไม่ดีบ้าง รู้ข้อเสียของตนเองมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาอีก
3. เพิ่มความเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง
4. ได้สั่งสมบุญบารมีให้ตนเองมากขึ้นเพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเองจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง

 

อนุโมทนาด้วยนะครับที่พบทางสว่าง สำหรับการยึดถือเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะ
ไม่มีอะไรเหนือไปยิ่งกว่าพระพุทธคุณอีกแล้วครับ อีกทั้งถ้ายังครองศีลห้าโดยเคร่งครัด
ผมเชื่อว่าคำสาปแช่งใดๆของเขาจะไม่สามารถเข้ามาทำอันตรายคุณได้
เนื่องด้วยคุณมีกำแพงแก้วของพระพุทธคุณ อีกทั้งยังด้วยเกราะป้องกันสิ่งไม่ดีด้วยศีล
ขอให้ปฏิบัติให้ต่อเนื่องนะครับ

 

คนทิ้งกับคนโดนทิ้ง ความรู้สึกไม่เหมือนกัน :'(

 

ลัทธิความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับกรรม3แบบ
1. ลัทธิความเชื่อว่าสุขและทุกข์เกิดจากกรรมเก่าอย่างเดียว
2. ลัทธิความเชื่อว่าสุขและทุกข์เกิดจากเทพเจ้าบันดาลให้(รวมถึงผู้อื่นบันดาล เช่นคุณในตอนนี้
3. ลัทธิความเชื่อว่าสุขและทุกข์เกิดขึ้นเองลอยๆ ไม่มีอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย

ไม่ว่าคุณจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไร แต่ถ้ายังเชื่อว่าสุขทุกข์ของคุณจะเกิดจากแฟนคุณบันดาลนั้นก็ผิดแล้ว แนะนำ "ทาน ศีล ภาวนา" ตามคุณ "พุทธวจน" ครับ