ขอคำแนะนำการฝึกกสินลมคับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฮักตัวน้อย, 17 กรกฎาคม 2018.

  1. pisces2018

    pisces2018 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +37
    แบบนี้เค้าเรียกกสิณลมหรือเปล่า พระนั่งสมาธิตัวลอยเหนือพื้นประมาณ 1 ฟุต...ในคลิปบอกเป็นพระเนปาล...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2018
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ไม่รู้ข้างบนถามใคร
    แต่ขออนุญาตเล่าให้ฟังนะครับ
    ตามคลิปถ้าทำได้จริง
    คิดว่าไม่น่าใช่กสิณลมครับ
    เพราะอาศัย
    กำลังจากฐานสัมผัสภายในที่ท้อง
    ที่มาจากการสะสมกำลังสมาธิ
    บวกกับพลังงานภายนอก ในลักษณะของ
    พลังงานจักรวาล เพราะมีการเปิดเชื่อมจุด
    ดึงพลังงานที่บริเวณแถวๆก้น ทำให้มีการดึงพลังงานมาหนุนส่ง ที่กล่าวมานี้
    ทำงานร่วมกันครับ

    ถ้าเพียวกสิณลม จักระต่ำแหน่งนี้
    จะไม่เปิดเชื่อมพลังงานภายนอก
    ลักษณะนี้ครับ แม้ว่าพลังภายใน
    บางจุดจะใช้เหมือนกัน
    แต่ก็มีความแตกต่าง
    ตามเอกลักษณของพลังงาน
    ให้เราพอที่จะแยกได้อยู่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2018
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ปิติจากสมาธิครับ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ปิติจากสมาธิไม่น่ามีความสามารถทำให้ตัวลอยได้จริงนะครับ ถ้าจริงป่านนี้ประเทศไทย
    เราคงเห็นคนลอยได้กันเยอะแล้วครับ

    แต่ถ้าทำให้รู้สึกว่าตัวเบาเหมือนลอยไปในอากาศอย่างนี้เป็นปิติครับ
    เพราะอาการปิติแบบรู้สึกตัวเบา
    ลอยไปในอากาศได้ บางคนอาจจะลอยไปทางด้านหลังก็มีครับ
    แม้คนไม่เคยฝึกสมาธิมาก็เกิดขึ้นได้ครับ
    มีข้อมูลทางด้านตำรามาประกอบครับ

    https://th.m.wikipedia.org/wiki/ปีติ

    • อุพเพคาปีติ หรือ อุพเพงคาปีติ ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรง ให้รู้สึกใจฟู แสดงอาการหรือทำการบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน เป็นต้น หรือให้รู้สึกตัวเบา เหมือนลอยขึ้นไปในอากาศ

    ^_^
     
  5. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อีกอย่าง ผมคิดว่า ไม่น่าจะใช่ กสิณลม เพราะ ถ้าเป็นกสิณจริง จะใช้งานได้จริง ต้องคล่องใน ฌานสี่ รูปฌานสี่ ถึงจะใช้งานได้ แล้วถ้าคล่องในฌานสี่ ไม่ต้องนั่งหรอก แค่รำพึงในจิตใช้งานฌาน กสิณ ลืมตา ยืน ก็ใช้งานให้เห็นได้เลยแค่พริบตา มันจะออกมาอีกรูปแบบนึงแบบใช้งานได้เลยครับ ให้ถ่ายทำ

    อีกอย่าง เคยมีลูกศิษย์ เอาคลิปไปให้ครูบาอาจารย์ท่านดูแล้ว ท่านบอกว่า เป็นสมาธิ ที่ประเภท ปิติ ตัวลอย ส่วนคำเทศน์นั้น จำไม่ได้ละว่าของปีไหน ถ้าอ่านเจออีกจะเอามาลงให้ดู เคยอ่านผ่านๆ แล้ว คลิปนี้เคยมีคนเอามาลงในบอร์ดแล้ว เคยโพสไปทีนึงมั้งนานละจำไม่ได้ว่าอยู่กระทู้ไหนแล้ว
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    นั่งสมาธิตัวลอยขึ้น… ลืมตาขึ้นดูตกลงมาก้นกระแทกกับพื้นอย่างแรง

    ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าว่า นิสัยของท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นไปอย่างเรียบๆ และเยือกเย็นน่าเลื่อมใสมาก ที่มีแปลกอยู่บ้างก็เวลาท่านเข้าที่นั่งสมาธิตัวของท่านชอบลอยขึ้นเสมอ บางครั้งตัวท่านลอยขึ้นไปจนผิดสังเกต เวลาท่านนั่งสมาธิอยู่ ท่านเองเกิดความแปลกใจในขณะนั้นว่า..

    "ตัวเราถ้าจะลอยขึ้นจากพื้นแน่ๆ" เลยลืมตาขึ้นดูตัวเอง ขณะนั้นจิตท่านถอนออกจากสมาธิพอดี เพราะพะวักพะวงกับเรื่องตัวลอย ท่านเลยตกลงมาก้นกระแทกกับพื้นอย่างแรง ต้องเจ็บเอวอยู่หลายวัน ความจริงตัวท่านลอยขึ้นจากพื้นจริงๆ สูงประมาณ ๑ เมตร ขณะที่ท่านลืมตาดูตัวเองนั้น จิตท่านถอนออกจากสมาธิ จึงไม่มีสติพอยับยั้งไว้บ้าง จึงทำให้ท่านตกลงสู่พื้นอย่างแรง เช่นเดียวกับสิ่งต่างๆ ตกลงจากที่สูง

    ในคราวต่อไปเวลาท่านนั่งสมาธิ พอรู้สึกว่าตัวท่านลอยขึ้นจากพื้น ท่านพยายามทำสติให้อยู่ในองค์ของสมาธิแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นดูตัวเอง ก็ประจักษ์ว่าตัวท่านลอยขึ้นจริงๆ แต่ไม่ได้ตกลงสู่พื้นเหมือนคราวแรก เพราะท่านมิได้ปราศจากสติ และคอยประคองใจให้อยู่ในองค์สมาธิ ท่านจึงรู้เรื่องของท่านได้ดี ท่านเป็นคนละเอียดถี่ถ้วนอยู่มาก แม้จะเห็นด้วยตาแล้วท่านยังไม่แน่ใจ ต้องเอาวัตถุชิ้นเล็กๆ ขึ้นไปเหน็บไว้บนหญ้าหลังกุฏิ แล้วกลับมาทำสมาธิอีก พอจิตสงบ และตัวเริ่มลอยขึ้นไปอีก ท่านพยายามประคองจิตให้มั่นอยู่ในสมาธิ เพื่อตัวจะได้ลอยขึ้นไปจนถึงวัตถุเครื่องหมายที่ท่านนำขึ้นไปเหน็บไว้ แล้วค่อยๆ เอื้อมมือจับด้วยความมีสติ แล้วนำวัตถุนั้นลงมาโดยทางสมาธิภาวนา คือพอหยิบได้วัตถุนั้นแล้วก็ค่อยๆ ถอนจิตออกจากสมาธิ เพื่อกายจะได้ค่อยๆ ลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัย แต่ไม่ถึงกับให้จิตถอนจากสมาธิจริงๆ

    เมื่อได้ทดลองจนเป็นที่แน่ใจแล้ว ท่านจึงเชื่อตัวเองว่า ตัวท่านลอยขึ้นได้จริงในเวลาเข้าสมาธิในบางครั้ง แต่มิได้ลอยขึ้นเสมอไป นี้เป็นจริตนิสัยแห่งจิตของท่านพระอาจารย์เสาร์ รู้สึกผิดกับนิสัยของท่านพระอาจารย์มั่นอยู่มากในปฏิปทาทางใจ

    จิตของท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นไปอย่างเรียบๆ สงบเย็นโดยสม่ำเสมอ นับแต่ขั้นเริ่มแรกจนถึงสุดท้ายปลายแดนแห่งปฏิปทาของท่าน ไม่ค่อยล่อแหลมต่ออันตราย และไม่ค่อยมีอุบายต่างๆ และความรู้แปลกๆ เหมือนจิตท่านพระอาจารย์มั่น

    (คัดมาจากหนังคือ ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต)

    1013999_564691783621798_757935951_n.jpg
    1526186_564691803621796_872082494_n.jpg
     
  8. pisces2018

    pisces2018 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +37
    ผมก็รู้สึกว่าเหมือนจะเคยอ่านผ่านๆ ตาเมื่อหลายปีก่อน ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเคยเล่าไว้ช่วงแรกๆ ตอนไปฝึกนั่งสมาธิกัน 3-4 รูปในโบสถ์ ท่านว่าบางรูปลอยขึ้นไปเกือบถึงหลังคาโบสถ์ก็มี แต่เข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะช่วงแรกที่ฝึกสมาธิแล้วสติยังตามรู้อาการปีติที่กระเพื่อมทางกายและใจไม่ทันหรือเปล่า จึงเกิดความรู้สึกว่าตัวลอยขึ้นและควบคุมไม่ได้ เพราะถ้าสติตั้งมั่นแล้วอาการปีติแบบนั้นจะไม่ค่อยเกิด แต่ของผมก็เคยเป็นช่วงแรกที่ฝึกสมาธิได้ระดับหนึ่ง ตัวจะโอนเอนโยกโคลงไปมาบังคับไม่ได้ แต่ดูพระในคลิปท่านจะนิ่งมากเหมือนตั้งใจควบคุมการลอยด้วยสมาธิจิตของท่าน ก็เลยนึกถึงในอานาปานสติในระดับที่สูงขึ้นไปที่พูดถึงการบังคับจิตให้เกิดปีติปราโมทย์ได้ เป็นสมาธิที่สามารถบังคับควบคุมจิตได้ตามต้องการระดับหนึ่งแล้ว...
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม: ฝึกกำลังภายใน ฝึกไป...?
    ตอบ: ท้าย ๆ ก็เป็นเรื่องของจิตทั้งหมด ดูอย่างในมังกรคู่สู้สิบทิศ ตอนนี้ถึงขั้นสัมพันธ์กับฟ้าดินแล้ว แต่ว่ายังมีอีกขั้นหนึ่งคือสู่อนุภาค ตอนนี้จะเหลือแต่จิตล้วน ๆ

    สมัยก่อนคนไทยของเรา เวลาฝึกมวยฝึกอาวุธ จะต้องหัดสมาธิภาวนาไปด้วย ระยะแรก ๆ การใช้อาวุธ ท่าเท้า การเคลื่อนไหวของร่างกาย ต้องสัมพันธ์กันหมด ในเมื่อสัมพันธ์กันหมด พอเริ่มกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็อยู่ในระดับที่เรียกว่า ม้าย่อง พอต่อไปกำลังจิตเริ่มส่งออกมากดดันคู่ต่อสู้ได้ จะอยู่ในจุดที่เรียกว่า เสือย่าง คือเดินแบบเสือ เห็นแค่การเดินคู่ต่อสู้ก็รู้แล้วว่าเราเอาตายแน่ บางคนแพ้ตั้งแต่ไม่ทันจะลงมือ เพราะระดับห่างกันมาก พอสุดท้ายเขาเรียก สีหยาตร เดินแบบพญาราชสีห์ แบบนี้มีพลังจิตออกกดดันคู่ต่อสู้รุนแรงมาก ส่วนใหญ่คู่ต่อสู้จะยอมแพ้ตั้งแต่ก่อนที่จะลงมือ ที่เราอ่าน ๆ ไปในหนังสือนั่นแหละ สังเกตไหมว่าพอถึงระดับสุดท้ายแล้ว ของเขาสามารถที่จะใช้กำลังของเขาควบคุมคนอื่นได้

    ในการฝึกพาหุยุทธ์ (มวยไทยโบราณ) มีท่าเหินเตะ ท่านี้เขาเรียกว่าหนุมานเหินหาว เป็นการใช้กำลังใจคุมร่างกายตัวเองให้ลอยขึ้น ตามเตะคู่ต่อสู้ไปเรื่อย ถ้าไม่หมอบคาเท้าก็ไม่เลิก ปัจจุบันเท่าที่รู้มีทำได้อยู่คนเดียว ก็คือคุณสเกน แก้วผดุง ตอนนี้เปิดค่ายมวยอยู่อังกฤษ ต้องอัดกับพวกไอ้มืดไอ้หรั่งตัวยักษ์ ๆ ที่มาท้าสู้เป็นประจำ สเกนเขาให้ฝรั่ง ๆ ๒ คนขี่คอกัน แล้วเอาดาบเสียบลูกแอปเปิลชูขึ้นไปสุดแขน สูงน่าจะเกิน ๓ เมตร คุณสเกนเตะถึง ลักษณะเหมือนกระโดดในสายตาคนอื่นเขา แต่ในสายตาของพวกเราก็คือลอยขึ้นไปเฉย ๆ

    หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่าใช้กำลังใจไม่มาก แค่คุมอุเพ็งคาปิติให้อยู่ในระดับนั้นก็พอ กำหนดใจเมื่อไรให้ได้ตรงจุดนั้นก็ใช้ได้ แค่นั้นเอง ไม่ได้ใช้กำลังใจเยอะเลย แต่อย่าลืมว่าเป็นส่วนหนึ่งของสมาธิ เพราะฉะนั้น..ปัจจุบันของเราอย่างที่หัด ๆ กันอยู่ในเรื่องของอาวุธ อย่างสำนักพุทไธสวรรย์ ตามปัจจุบันแย่มากแล้ว ถ้าสามารถใช้ได้แค่นี้เมืองไทยไม่รอดจากข้าศึกมาจนทุกวันนี้หรอก

    เคยอ่านประวัติพระยาสีหราชเดโชหายตัวได้อึดใจหนึ่ง พอถึงเวลากลั้นใจว่าคาถา เขาเรียกคาถาวิรุฬจำบัง ข้าศึกจะมองไม่เห็นทั้งตัวทั้งเงาไปชั่วอึดใจหนึ่ง เหลือเฟือที่จะฟันหัวฝ่ายตรงข้าม ก็อาวุธยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแต่เขามองไม่เห็น นั่นคือการใช้พลังจิตอย่างหนึ่ง

    มารุ่นหลัง ๆ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ อยุธยา เจ้าของหนึ่งในเหรียญเบญจภาคี แพงที่สุดในประเทศไทย หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านเปิดสำนักสอนกระบี่กระบองในวัด สมัยนั้นยังมีการค้าขายสำเภากับจีนอยู่ มีมือกระบี่จากเมืองจีนมา อยากทดสอบวิชาตัวเองว่าอยู่ระดับไหนแล้ว ก็ตามลุยไปทีละสำนัก เขาชนะมาตลอด พอไปถึงวัดพระญาติก็ขอลองด้วย หลวงพ่อกลั่นบอกว่าท่านเป็นพระ ท่านสอนแต่ลูกศิษย์ ถ้าคุณอยากลองก็ยอมให้ลอง แต่ว่ามีข้อแม้

    หลวงพ่อกลั่นท่านบอกจะปิดให้ตีเพลงหนึ่ง เพลงหนึ่งเขาตีกลองกันลิ้นห้อยเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พักเดียว อย่าลืมว่าเพลงหนึ่งอาจจะมีสักร้อยแปดกระบวนท่า จะปิดให้ตีเพลงหนึ่ง ถ้าคุณไม่สามารถทำอันตรายได้ คุณต้องกลับเมืองจีน แล้วอย่ามารังควานคนไทยอีก เขาก็ตกลง หลวงพ่อกลั่นถือพลองสั้น ๒ อัน ฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธได้ตามถนัด ลูกศิษย์บอกว่าพอหลวงพ่อกลั่นควงไม้พลอง มองไม่เห็นตัวหลวงพ่อเลย เห็นแต่เงาพลองล้อมอยู่ เจ้านั่นฟันจนลิ้นห้อยไม่ถูกสักที เข้าไปเท่าไรกระดอนกลับออกมาหมด ก็เลยยอม วางกระบี่กราบหลวงพ่อกลั่นแล้วก็กลับ ไม่รู้จะสู้ไปทำไม เขายังไม่ทันจะตีคืนเลย นั่นแหละ..วิชาการต่อสู้ที่บวกกับการฝึกจิตไปด้วย จึงทำได้เกินกว่าคนทั่ว ๆ ไป


    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3281
     
  10. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    ถ้าตามความเข้าใจ พระท่านในคลิปน่าจะใช้สมาธิที่เกินกว่าปิตินะคะ และยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่คิดเองคือ หลวงพ่อหลายๆท่านที่เข้าสมาธิแล้ว สามารถยกตนขึ้นลอยได้ ก็น่าจะมีอะไรที่เกี่ยวกับความสามารถในอดีตส่วนหนึ่ง ระดับท่านแล้ว น่าจะเกินปิติที่เกิดโดยทั่วไป แต่เราอาจเข้าใจและหมายรวมว่านั่นคือส่วนหนึ่งของปิติ
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ส่วนตัวมองว่าในภาพรวม
    ความเข้าใจทางด้านกิริยา
    มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
    บางทีอาจจะต้องสมมุติภาษา
    ขึ้นมาสำหรับกรณีที่ควบคุม
    การลอยได้แบบนี้
    เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น

    ไม่รู้นะครับส่วนมองว่า
    นอกจากกำลังสมาธิแล้ว
    มันยังมีส่วนของพลังงานภายนอก
    ที่เชื่อมโยงกับจักระในร่างกาย
    มาเกี่ยวข้องด้วย เลยไม่รู้ว่าจะเรียก
    กิริยาแบบนี้ว่าอะไรดี
    เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
    แบบสากลครับ
     
  12. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    เรื่องนี้มีถกกันใน Pantip นานมาแล้ว

    พิธีกรในคลิปนักเป็น "นักมายากล"

    ส่วนจะว่า นักมายากลเข้ามาจับผิด
    หรือเขาช่วยกันแสดงกล แบบที่นักแสดงกล
    เขาชอบทำกัน

    ก็เป็นเรื่องนานาจิตตัง ที่คนดูจะเชื่อไปทางไหน

    จบตฺีง!!
     
  13. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    หา link เจอแล้ว มีถกกัน
    ตอนปี 55 กับ ปี 58

    https://pantip.com/topic/13111087
    https://pantip.com/topic/33563940

    For your Information ครับ

    หมายเหตุ link ปี 55 มีคลิปเต็ม ที่เขาแสดงกลที่อื่น
    ก่อนที่จะไปเจอพระคนนี้ ในตอนท้ายคลิป
    ที่ คห 1

    คลิปเต็ม แก้ไข***

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2018
  14. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    ส่วนตัวเชื่อในคลิปนี้ค่ะ ส่วนมายากลคนลอยได้ ทั้งแบบใช้ไม้ค้ำยัน แบบใช้เครื่องมือยื่น และใช้กำลังแขนเคยเห็นผ่านตาอยู่ สำหรับข้อพิพากษ์เรื่องจัดฉากเพราะจุดเทียนมากมาย ก็อาจเป็นไปได้ว่า ทางทีมงานเขาเป็นคนจัดเตรียมก่อนถ่ายทำ มันก็แล้วแต่ความเชื่อ
     
  15. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    มันเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เหนื่อยเปล่า ตามเห็นเกิดดับของรูปนาม กิจอื่นให้ทำยิ่งขึ้นไปไม่มี เข้าใจป่าว
     
  16. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ คลิปข้างบน "ตัดต่อ" มาจากภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เคยดูนานมาแล้ว

    +++ พระเอกเป็น "นักมายากล" คนที่กำลังหยิบผลไม้นั่นแหละ

    +++ นักมายากลคนนี้ เดินทางไปพิสูจน์เรื่อง ลามะลอยได้

    +++ แต่ "จับไม่ได้ ว่า ลอยยังงัย" จึงทำให้ พระเอกคนนี้ "นับถือ"

    +++ แล้วพระเอกคนนี้ ก็ "แสดงกล ลูปคลำ พระอาทิตย์ พระจันทร์ ดวงดาว ด้วยมือเปล่า" ให้ดู

    +++ แล้วก็ลงท้ายว่า ละมะ ก็นับถือเช่นกัน

    +++ แต่ นักมายากลผู้นี้ เฉลยว่าเป็น "การแสดงกล ของเขาเอง"

    +++ จบลงที่ "ต่างฝ่าย ต่าง นับถือซึ่งกันและกัน"

    ++ หนัง "จบ" แค่นี้นะ
     
  17. pisces2018

    pisces2018 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +37
    เห็นขึ้น The Supernaturalist ก็ว่าคุ้นๆ เป็นหนังซีรีย์เคยดูผ่านๆ 2-3 ตอนนานแล้ว แต่ดูแล้วไม่ค่อยน่าติดตามเลยไม่ได้ดูต่อ แต่ดูจากคลิปนี้เดินเรื่องเหมือนทำเป็นสารคดี นึกว่าไปพิสูจน์มาจริงๆ...
     
  18. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ว่าจะไม่ตอบ เพราะมีผู้มาให้คำตอบแยะแล้ว

    +++ ให้คุณ "ฮักตัวน้อย" เปรียบเทียบเอาเอง

    +++ ระหว่าง "วาโยกสิณ VS วาโยธัมมารมณ์ (ธัมมานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน)"

    +++ ว่าระหว่าง "การดูกสิณวาโย VS การอยู่และเป็น วาโยธาตุ" มันต่างกันอย่างไร

    +++ จะได้ "รู้ชัดเจน" ว่า อะไรกันแน่ ที่เป็น "องค์กรรม-ฐาน"

    +++ ระหว่าง "การเห็น (อุคคหนิมิต) VS การเป็น (อนิมิต)" มันต่างกันอย่างไร

    +++ และ "สายการปฏิบัติใด" ที่บอกว่า "มหาสติปัฏฐาน 4 เป็น สุขะวิปัสสโก" นั้น

    +++ "มันโกหก" หรือเปล่า หรือว่า "แม้กระทั่ง สติ มันก็ไม่เคยมี เอาเสียเลย"


    +++ ให้คุณ "ฮักตัวน้อย" ใช้วิจารณญาณ เปรียบเทียบเอาเอง ก็แล้วกัน

    +++ กระทู้ข้างล่างนี้ "ไม่มีการ ถ่ายทำภาพยนต์" เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ประการใดทั้งสิ้น

    ลองฝึกกำหนด ลม เป็นอารมณ์ ปรากฎว่า

    https://palungjit.org/posts/6998833/
    +++ ส่วนระหว่างการ "ปรับธัมมารมณ์" ตรงนี้ จะตรงกับ "โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานังวิจะโย ตะถา"

    +++ ตรงนี้ คือ "ธัมมะวิจัย" ใน โพชฌงค์ 7 และตรงกับ "จิตตะ (การเดินจิต) + วิมังสา" ในอิทธิบาท 4


    +++ รวมทั้ง เป็นอาการ "โยนิโสมนสิการ" โดยแท้จริง "ไม่ใช่การพิจารณา อย่างทางโลก" ที่เข้าใจกัน

    +++ แต่จะพ้องกับ คำศัพท์ที่เกี่ยวกับ "วิชาการเดินธาตุ" หรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ นะครับ
     
  19. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    _temp_hash-83c4ec8186f8781bc948bad36d5b32c3-jpg-jpg.jpg










    เมื่อสมเด็จฯเกี่ยว อุปเสโน กล่าวถึงมโนมยิทธิและสติปัฏฐาน 4


    พอถึงเวลา เขาอ่านถวายรายงานพิธีการเปิดสำนักจบลงแล้ว จำได้ติดตาติดใจว่า หลวงพ่อสมเด็จฯกล่าวสัมโมทนียกถาแบบพิเศษ....หลวงตา(วัชรชัยฯ วัดเขาวง ถ้ำนารายณ์ สระบุรี)ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยในชีวิต

    "ฟังรายงานแล้ว....ก็รู้ได้ว่า ที่นี่เป็นสำนักปฏิบัติธรรมสายท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ....แล้วก็คงจะมีพระและฆราวาสในสายอื่นมาร่วมงานอยู่ไม่น้อย เอ้า!!!....ใครปฏิบัติกรรมฐานแบบมโนมยิทธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ให้ยกมือขึ้นหน่อย นั่นแหละ....ยกสูงๆ....ยกไว้นานๆ ....เอ้า!!!....ก็มากมาย....เอาล่ะ.....เอามือลงได้...."

    วันนั้น ท่านเจ้าประคุณหลวงพ่อสมเด็จ(เกี่ยว อุปเสโน)เมตตาให้โอวาท ด้วยลีลาท่าทางสมสมณจริยา แต่จริงจังเป็นพิเศษ สีหน้า สายตามือไม้ของท่าน ออกท่าทางประกอบคำพูดจากใจที่รู้จริงออกมาได้....หลวงตาว่า....ท่านพูดได้สมกับใจที่ท่านปรารถนาจะถ่ายทอดออกมาได้ทั้งหมด ความสำคัญมีว่า....

    "...การปฏิบัติกรรมฐานนี่ สรุปแล้วก็น่าจะมีอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกสำคัญที่สุด ก็คือ "มหาสติปัฏฐาน" ตามที่พวกเราทางอิสานปฏิบัติกันอยู่ ดีอยู่แล้ว....อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การปฏิบัติที่ใช้"กำลังใจพิเศษในด้านอภิญญา"เข้ามาช่วย อย่าง"มโนมยิทธิ"ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนอยู่....ปฏิบัติกันอยู่ในสำนักสายของท่าน เช่น สำนักนี้....มีวัดท่าซุง เป็นต้นแบบ ซึ่งวันนี้ ท่านพระครูปลัดอนันต์ ท่านเจ้าอาวาสก็มานั่งอยู่ที่นี่แล้วด้วย

    จากนั้น...หลวงพ่อสมเด็จฯก็กล่าวยกประเด็นเด่นชัดว่า.....

    "ทางสายสติปัฏฐานนี่ เรียกว่า สุขวิปัสสโก....ใช้สติปัญญากำหนดกำกับอยู่ในบทพระกรรมฐาน เป็นทางของความบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ในปัจจุบัน ถ้าทำถูกดี ถึงดี มีความเพียรเพียงพอ ไม่ต้องสนใจในความเป็นทิพย์ หรือ การพิสูจน์กฎของกรรมใดๆ มุ่งทรงสติเฉพาะหน้าไปจนตายจากร่างกายนี้ไป

    แต่การฝึกมโนมยิทธิควบไปด้วย จะทำให้หายสงสัยคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องกฎแห่งกรรมดีกรรมเลว ว่ามีผลจริง อัยเป็นผลให้หนักแน่นมั่นคงในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เพราะสัมผัสได้ รู้ได้ด้วยใจตนเอง ใครก็ตาม ทำเองก็ดี สอนให้ผู้อื่นก็ดี ได้ความหนักแน่นมั่นคงในพระรัตนตรัย มีใจสบายทั้งในส่วนที่ต้องละ และส่วนที่ต้องยึดมั่นเป็นสรณะ ถือว่าปฏิบัติถูก สอนถูก แต่ให้ระวังไว้ให้ดี มโนมยิทธินี้ ถ้าใช้แต่มุ่งรู้เห็นสัมผัสความเป็นทิพย์ และติดพันพอใจอยู่ ก็จะทำให้ฟั่นเฝือ เวียนเพลิดเพลินเกิดต่อ...ไม่จบทุกข์ ต้องเอาความเป็นทิพย์ คือ กำลังใจที่มั่นคงเข้มแข็ง ผ่องใสนั้น กลับมาคุมสติ พิจารณาร่างกาย เจริญวิปัสสนาเป็นงานหลักสำคัญ จึงจะถูกต้อง...พ้นทุกข์ได้"!!!....

    https://palungjit.org/threads/เมื่อ...มโนมยิทธิและสติปัฏฐาน-4.650742/#post-10762973
     
  20. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ก็ยังคงเน้นไปที่สติจะภายนอกภายในก็ยังคงเป็นดังนั้น...ผู้ทำภายในได้จนเป็นวสีก็ทำภายนอกได้เช่นเดียวกัน...
     

แชร์หน้านี้

Loading...