ขอถามประสบการณ์ สัมพเวสี มาด้านซ้ายหรือขวากันคะ

คุ้นๆนะคะ แถวๆนี้เดินเข้าไปตามตรอกซอยดีๆ จะเจอบ้านวิริยบารมีค่ะ ไปกราบพระสุปฏิปันโนได้ทุกๆเสาร์-อาทิตย์ ต้นเดือนค่ะ

 

ดิฉันบังเอิญไปเจอรูปในเวปนี้แหละคะ ไม่ได้จำกัดที่ใดในประเศไทย
เป็นพิเศษ แต่คือ ที่ต้องการจะสื่อก็คือ บ้านเมืองประเทศไทยดูแล้ว
ไม่ค่อยเจริญตา บ้านช่องระเกะระกะสกปรก พัง ร้อน
อะไรทำนองนั้นนะคะ ต่างจากตปท ภาษีสูงมาก บ้านเรือน
สาธารณะก็จะดีกว่าคะ

 

ค่ะ พอเข้าใจที่สื่อความหมายค่ะคุณ DuchessFidgette

มีความงามซ่อนอยู่ในความไม่งามค่ะ

 

ขอถามเป็นความรู้เพิ่มได้หรือเปล่าคะ (ปกติไม่ค่อยทราบเรื่องลึกลึบนะค่ะ)
-สภาพที่มาเละ มาจากจิตปรุงแต่งหรือเปล่าคะ เพราะถ้าเจริญสติไม่ได้
หรือ มาจาก จิตดวงนั้นๆ ต้องการสื่อ ให้เละ

-มโมนยิทธิ แปลว่า มีฤทธิ์ทางใจ เป็นการเตรียมอภิญญา ไปไม่ได้แต่เห็นได้ นั่งอยู่ตรงนี้ สามารถเห็นเทวดา เห็นพรหม เห็นพระอริยะ สามารถคุยกันได้ นั่งอยู่ตรงนี้สามารถคุยกับเปรตได้ คุยกับอสุรกายได้ คุยกับพวกสัตว์นรกได้แต่ก็นั่งตรงนี้เอง หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอบคำถาม
ดังนั้นที่เห็นคือสภาพของดวงวิญญาณนั้นๆเอง เว้นแต่ว่าเค้าจะแปลงกายให้เราเห็นเป็นอื่น เช่น เทวดามาทดสอบ ถ้าเราหมั่นฝึกต่อจะเก่ง แต่เรากลัวหลงกับฤทธิ์จึงไม่อยากฝึกมาก เคยหลงมาแล้ว


จักระในส่วนของดิฉัน ดิฉันไม่ได้ฝึกค่ะ มันเปิดเอง และไม่ทราบด้วยว่าคืออะไร จนสงสัยอาการ ทนไม่ค่อยได้ เลยโทรหาเพื่อน ว่าเป็นการสื่อจากสิ่งที่มองไม่เห็นหรือเปล่าทิ้่งไว้ ประมาณเกือบปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะเหมือนเพื่อนบอก (เพื่อนไม่แนะอะไรมากนักค่ะ นอกจากระวังล้ม/อุบัติเหตุ ขอให้เจริญสติอย่างเดียว ถ้ามีอะไรเปลี่ยน)

-โดยมากคือเปิดไว้ให้ระลึกเสมอว่าราต้องหมั่นทำความดี จักระเปิดเป็นเรื่องปรกติแต่ต้องรู้จักควบคุมนิ่งเฉยไว้ ถ้าหนักมากก็ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปิด


เพราะยิ่งเปิดให้สิ่งอื่นเข้ามาใช้ร่างได้ง่าย
ตรงนี้ดิฉันก็เพิ่งทราบขอบคุณค่ะ แล้วจะมีวิธีป้องกันอย่างไรคะ

-ก็เราเปิดประตูบ้านทึ้งไว้คนอื่นก็เข้ามาง่าย เคยไปช่วยหาคนหายโดยการถามเจ้าที่ ปรากฏเป็นวิญญาณชั้นล่างแถวนั้นมาขอส่วนบุญแทน แล้วเจ็บทั่วตัวเลยไม่ทำอีก


ดิฉันเคยมีเพื่อนที่เขามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครององค์ใหญ่ เปิดเนตรแล้วด้วย กลับโดนครอบทั้งตัว (ไม่รู้ว่าคำนี้หรือเปล่านะ ขอโทษถ้าไม่ถูกค่ะ) ไม่ใช่แค่แฝง หรือ อยู่ข้างๆ แค่ดลใจ

ดิฉันไม่เห็นเอง แต่จากการอ่าน/สำนวนการพูด เขาไม่ใช่คนเดิมแล้วในทุกประโยค ทุกคำพูด (ไมใช่แบบ รู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง) จนญาติธรรมท่านอื่นมองออกว่าคืออะไร (แล้วไม่เล่าต่อว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกเล่าไม่หมด อธิบายยากและเยอะ)

เพื่อนคนนี้จักระยังไม่เปิดค่ะ และปฎิบัติมากกว่าดิฉันเยอะทั้งสมถะ/วิปัสสนา/สวดมนต์ ฯลฯ

-เรียกว่าองค์ลงเต็มตัว รู้สึกตัวแต่บังคับไม่ได้ ตอนแรกเจอบ่อยถ้าฝืนจะโดนบีบเจ็บ แต่เราขอไม่เปิดตำหนักเลยไม่ค่อยมาลงแบบนี้ เว้นว่าทำพิธีสำคัญๆจะปล่อยให้ท่านลงจัดการเอง เช่น ทำน้ำมนต์รักษาโรค


แล้วตกลงดิฉันต้องฝึกหรือเปล่าเนี่ย หรือปล่อยไปเรื่อยๆ ดิฉันยังไม่รู้เลยว่า พลังจักระคืออะไร มีไว้ทำไม ฯลฯ

-ตามความเข้าใจเรานะไม่อ้างอิงตำราใด จักระนี่เป็นพลังจักรวาลมีอันตรายมากเพราะมีทั้งประโยชน์และโทษ เช่น รักษาโรคหรือดึงพลังไปทำอย่างอื่นได้ ตามแต่ละจุดมีความสามารถอะไร แต่ฝึกกรรมฐานดีที่สุด เพราะพาเข้าถึงนิพพานได้

ถ้ามีองค์ให้หมั่นทำความดี รักษาศีล อย่าคิดร้ายหรือแช่งใคร ใครจะว่าเราก็เงียบๆไว้เค้าจะได้รับผลกรรมของเค้าเอง

กระทู้แนะนำสำหรับคนมีองค์
http://palungjit.org/threads/ประสบการณ์เมื่อเรามีคนทักว่าเรามีองค์-แนวให้ความรู้.497842/

 

ตอบ คือระดับความเป็นทิพย์ที่เกิดจากความคิดที่เกิดจากจิต
ปรุงร่วมกับจิตนั่นหละครับ.พูดง่ายๆคือ คิดเอาเองตามความรู้สึกตน
แต่ว่าไปคิดตอนที่สภาวะจิตยังไม่เป็นกลาง.คือไม่ใช่คำตอบแรก
หรือความรู้สึกแรก.หรือคำตอบที่ ๒ หรือ ๓ ที่มีการเริ่มมีการเลือก.
คือ คำตอบอะไรก็ตามที่ต้องใช้ความเป็นทิพย์ของจิต.
ที่ผิดนั่นหละครับ.หรือการเห็นนิมิตรก็ลักษณะคล้ายๆกันเผลอให้ความคิด
เข้าไปปรุงร่วมในการค้นคำตอบ..ส่วนตัวก็ชอบ
เรียก ว่า ทิพยเดาญาน นั่นหละครับ..แต่เป็นเรื่องปกตินะครับ เกิดขึ้นได้
ทุกคนครับ.ส่วนมากคนที่จะไม่เก่งคือ พวกที่ไม่ยอมรับความจริงเพราะ
กลัวเสียฟอร์ม กลัวเสียหน้าทั้งหลายนั่นหละครับ.
บางคนที่เคยแซะด้วย ขนาดบอกแล้วห้ามแล้วก็ยัง
มา ทิพยเดาญาน กับผมนั่นหละครับ นั่งอ่านที่เค้าเขียน ๓ ถึง ๔ ครั้ง
แล้วข๋ำๆ แต่ไม่อยากต่อความยาวสาวความหยืด เลยบ่อยๆไป.๕๕๕๕
หรือพวกที่ไม่มีความสามารถทางนี้แล้วชอบไปใชว์พาว์ เดาคนที่เค้ามี
ความสามารถทางนี้..หรือพวกที่พูดๆเพื่อให้ดูว่าตนเองเหมือนมี
ความสามารถพิเศษก็เหมือนกันครับ..คนแบบนี้ผมชอบลองทดสอบด้วย
ครับว่าจะเก่งเหมือนที่โม้หรือเปล่า แต่ไม่ค่อยทำหรอกครับ.เพราะกลัว
เค้าเสียฟอร์ม ถ้าเค้ายังพอมีความดีอยู่..
และถ้าไปแซะส่วนมากจะมาเกลียดเราและปรามาสเราอีกต่างหาก
เพราะหลอกผมไม่ได้หลอกครับ ผมดูรูปแทนก็พอรู้ความสามารถแล้วครับ ๕๕๕
แต่พวกนี้เก่งมากนะครับ เรื่องสร้างภาพ ประเด็นนี้คงสู้เค้าไม่ครับ ถือว่ามาคนละทาง..พวกนี้เฝือได้หมดหละครับ..
ถ้ามาทางสายวิชาพิเศษ ถ้าผ่านช่วง ทิพย์เดาฌาน
บ่อยๆมันจะจำอารมย์เดาญานตัวนี้ได้ครับ
เพราะจะรู้ว่าอารมย์ไหนที่ใช่หรือไม่ใช่ คนที่เค้าเก่งๆจะไวมาก
ครับแต่เค้าจะตั้งต้นด้วยการระลึกถึงครูบาร์อาจารย์ก่อนเสมอทุกคนนะครับ.
และต่อไปมักจะเก่งได้เองส่วนละเอียดแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับระดับกิเลสครับ.แต่ประเด็นนี้แล้วแต่
ว่าจะชอบหรือเปล่านะครับ..
-คุยกะคุณนพ ได้ศัพย์ใหม่เยอะเลย มี
แซะ..
เฝือ..อันนี้ดิฉันคงต้องระวังให้เยอะ เพื่อนบอกตอนจักระเปิดว่า มั่นใจหน่อย ไม่ต้องถามแล้ว คิดเองได้แล้ว
ดิฉันว่า ยังไงก็ยังคิดเองไม่ได้ค่ะ และยิ่งปล่อยจนสนิมจับมา 1 ปี ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ว เมื่อก่อน อ่านยังพอจะรับอะไรได้บ้างว่า ใช่/ ไม่ใช่ ตอนนี้ไม่ได้แล้วค่ะ มีแต่ไม่แน่ใจเลยมักมีคำถามไปทางร้อยตำรวจเอกคนนั้นเรื่อยเลย

คำถาม แล้วถ้าคุณนพมีจิตที่ไม่เป็นกลาง จะทำอย่างไรคะเวลาคิดเพื่อหาคำตอบ

ตอบ เป็นภูมิเทวดาอยู่สวรรค์ลำดับชั้นที่ ๕ เรียกชื่อว่าอะไรก็ไม่รุ้เหมือนกันครับ
มีหน้าที่คอยขวางคนปฏิบัติธรรมทางใดทางหนึ่งเพื่อไม่ให้ปฏิบัติต่อหรือ
ให้เราเลิกปฏิบัตินั่นหละครับ...เราจะรู้จักกันว่า มารที่มาทดสอบกำลังใจ
ซึ่งเค้าเก่งมากครับ เพราะจะเล่นงานทุกเรื่องที่เป็นจุดอ่อนเราในทางธรรม
เราถึงมาสร้างสติทางธรรมให้มากๆไงครับ.ไม่ต้องคิดไปสู้ หน้าที่เราทำดีที่สุด
เก่งไม่เก่งก็ทำให้เรากลับมาเกิดได้นั่นหละครับ..
-คิดว่า เคยโดนค่ะ ไปจำชื่อร้อยตำรวจเอกได้ เพราะเขามาตอบกระทู้ดิฉันนะค่ะ เลยคิดว่า Ghost ทำไมตอบได้เหมือนอย่างกับอยู่ในเหตุการณ์ คราวนั้นกะจะเลิกปฎิบัติเพราะขี้เกียจ รู้สึกไม่ก้าวหน้า เสียเวลา
จากคนที่ตื่นเช้าไม่ได้ รีบเผ่นลุกขึ้นมาแต่เช้ามืดเลยค่ะ

ครับ สงสัยจะเป็นพวกมังกรซ่อนกาย .แต่คงไม่ค่อยจะดุ
เหมือนมังกรทั่วไปเท่าไร ๕๕๕.
-รตอ.คนนี้ไม่ดุเลย คุณนพดูขรึมว่าอีกน่ะ คุณนพยิ้มครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่นะ (ไม่ใช่ยิ้มในใจนะ แบบว่า ยิ้มให้คนทั่วไปนะค่ะ)เรื่องหัวเราะ คิดว่าคงลืมไปแล้วมั้งคะ ๕๕๕ ของคุณนพ อาจจะต้องพิมพ์ 5555555555555555555++++ อาจจะทำให้คุณนพ ดูเป็นคนขรึมน้อยกว่านี้ค่ะ คำตอบกระทู้นี้คุณนพดูมีน้ำหนัก ไม่โหวงเหวง เหมือนกระทู้ก่อนหน้านี้เลยค่ะ ดูเบาๆ แฮ่มมมม..... รตอ. ไปนินทาอะไรดิฉันหรือเปล่าเนี่ย
ร้อนตัวค่ะ!!!
หรือพิมพ์ตัวใหญ่ขึ้นก็ไม่ทราบสินะ ดิฉันก็เฝือเป็นเหมือนกัน


ตอบ อ้าว!! เทสมือประกบเป็นขั้นแรกไงครับ เราทดสอบตอนนั่งสมาธิจะดีกว่าครับเพราะต้องรักษาอารมย์
ให้คงที่ไปในตัวเป็นการฝึกสมาธิรูปแบบหนึ่งครับ.ดีกว่านั่งหลับตา
มันจะกลายเป็นฌานสมาหลับนะครับ ๕๕๕
..ต่อไปก็ให้ทำคล้ายๆกันแต่ให้ฝึกขยายมือออกเรื่อยๆคับ มาแบบนี้เค้าก็ฝึกสมาธิกันอย่างนี้หละครับ.
แรกปลายนิ้วห่างกันแค่เซนต์ ก็ฝึกจนกระทั้งแขนเรากางออกได้สุดนั้นหละครับ
แต่พยายามหาท่าทางที่ทำแล้วคล้ายท่าออกกำลังกายด้วยนะครับ.
ให้มันดูเนียนๆหน่อยนะครับ ถ้าในกรณีที่มีคนอื่นๆเห็น..
เด่วคนจะนึกว่าเราเป็นแม่มดนะครับ...๕๕๕๕๕
ลมที่หมุนๆมันก็รู้สึกได้ครับ จากเท่าลูกเทนนิส ขยายมาเป็นลูกบาส แล้วก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ..ฝึกกดได้เหมือนกันเค้าเรียกฝึกขยายวงสมาธิ
และขยายวงความหนาแน่นครับ..ทำแบบนี้ได้ ต่อไปยืนๆอยู่
วงแบบนี้เราก็ฝึกให้มันหมุนรอบตัวเราได้ครับ..ความหนาแน่นเป็นตัวบอกระดับ
กำลังจิตเราครับ..นึกภาพพระธุดงค์ในป่าที่ท่านทำแบบนี้ไงคับ ที่มาทางสาย
อภิญญาภายนอก คือพวกนี้มันสามารถ
ทำได้ตอนลืมตาปกติทั่วไปหรือใช้เวลาแค่เสี้ยววิมันก็ทำได้แล้วครับ
.ที่ไม่ใช่การอฐิษฐานจิต เพียงแต่ท่าน
ใช้พลังงานกสิณไฟมาให้หมุนรอบตัวไงครับ เลยพอประทั่งความหนาวได้ ถ้าร้อนก็ใช้กสิณลม.ทำได้สนุกไปอีกแบบ
นั่งๆอยู่ก็ฝึกทำได้ครับ คนอื่นๆมองไม่เห็นหรอกครับ มีแต่วิญญานมองเห็นครับ..และกระแสของพระจันทร์เนี่ยวิญญานเค้าจะชอบ
มากเลยครับ.เพราะมันจะเย็นสบายและอบอุ่นปลอดภัย
มากสำหรับเค้าด้วยครับ.อาการเหมือนที่เราเอาศีรษะไปหนุนตักใครซักคน
นั่นหละครับ..และไอ้เรื่องเซไปเซมา มันเรื่องปกติ
วงกลมมันไม่ได้หมุนแค่วงเดียวนะคับถ้าขยายวงได้แล้ว
..มันมีวิธีการหมุนของมันอยู่ถ้าหมุนรอบตัวนะครับ..
คล้ายๆจะเคยเห็นรูปแบบนี้ในเนทอยู่..
-แม่มด..คำนี้อีกแระ รตอ. ก็ชอบใช้แฮะ... ตกลงคุณนพกับ รตอ.เพื่อนสนิทกันใช่มั้ยเนี่ย พูดถึงแม่มดบ่อยๆ
-เมื่อเช้าหันซ้าย-ขวา ไม่มีลูกค้า ไม่มีใครเห็น เฝ้าหน้าร้าน (คุณนพบอกให้ทำสะสมไว้ได้ทั้งวัน) ดิฉันลองนั่งพุทโธ แล้ววางมือออก มืออุ่นนิดๆ แต่ไม่เทสมือประกบ เพราะกลัวคนเห็น เพราะกลัวจะเป็นยายแม่มดเนี่ยละ 555

ตอบ เพื่อนบอกถูกครับ.ถ้าจุดแรกไม่เปิดก่อนจุดอื่นก็ไม่เปิดครับ.
อาการถึงจะเป็นอย่างที่เพื่อนบอกว่าจุดอื่นๆจะย้ายไปหมุนเอง แต่เราไม่ดึงพลังงานภายนอกไม่ว่าร้อนหรือเย็น
มาใช้งานเลย ไม่ได้มาฝึกเรียกขึ้นมาเพื่อฝึกสมาธิ ไม่ได้ไปดึงเข้ามาเสริมตอนมีแสงอาทิพย์เพื่อเสริมกำลัง
และการป้องกัน
ไม่รับแสงจันทร์มาหนุนเพื่อทำให้จิตใจสงบและเสริมเรื่องสมาธิ.
มันก็ขึ้นสนิมเป็นธรรมดาครับ.เหมือนหน้าต่าง
วงกบไม้นั่นหละคับ ไม้มันมีการขยายตัวได้หดตัวได้ถ้าอุณหภูมิมันต่าง
เราเปิดปิดเช้าเย็นมันก็ต่างกันนะครับ..เราไม่ค่อยได้ปิดได้เปิดมันก็ฝืดๆ
เปิดปิดยากเป็นธรรมดานั่นหละครับ..
-ช่ายแล้ว สนิมจับหมดแล้วค่ะ ไม่เป็นไร สู้ต่อไป ทาเคชิ!


คำถาม
ดิฉันขอถามเรื่อง เดินจงกรมค่ะ
1.เป็นสมถะใช่หรือเปล่า ถ้าเราเดินให้เป็นสมถะ ทำอย่างไร เอาตั้งแต่เริ่มเลยค่ะ ดิฉันไม่เคยเดิน (แปะลิ้งก็ได้ค่ะ) กะว่า ช่วงเช้ามืดถ้าง่วง อาจจะหาทางเดินแทนนั่ง ถ้านั่งแล้วหลับ หนีมาเดินในครัวก็ได้ ยังพอมีที่ว่างอยู่
เคยถามในห้องอภิญญานานแล้ว แต่ไม่ได้คำตอบค่ะ เพื่อนบอกเดินจะเข้าฌาณยาก เลยไม่แนะนำ แต่เนื่องจากดิฉันติดเรื่องหลับ เลยคิดว่าควรเปลี่ยนดีกว่า หลังจากตื่นนอนมานั่งก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร

เดินจงกรม ขอคำแนะนำจากท่านอื่นๆก็ได้นะค่ะ ดิฉันไม่ทราบแม้แต่นิดเดียวเลยค่ะ ไม่ได้จำกัดเฉพาะคุณนพค่ะ ขอบคุณทุกท่านค่ะ

 

-มโมนยิทธิ แปลว่า มีฤทธิ์ทางใจ เป็นการเตรียมอภิญญา ไปไม่ได้แต่เห็นได้ นั่งอยู่ตรงนี้ สามารถเห็นเทวดา เห็นพรหม เห็นพระอริยะ สามารถคุยกันได้ นั่งอยู่ตรงนี้สามารถคุยกับเปรตได้ คุยกับอสุรกายได้ คุยกับพวกสัตว์นรกได้แต่ก็นั่งตรงนี้เอง หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอบคำถาม
ดังนั้นที่เห็นคือสภาพของดวงวิญญาณนั้นๆเอง เว้นแต่ว่าเค้าจะแปลงกายให้เราเห็นเป็นอื่น เช่น เทวดามาทดสอบ ถ้าเราหมั่นฝึกต่อจะเก่ง แต่เรากลัวหลงกับฤทธิ์จึงไม่อยากฝึกมาก เคยหลงมาแล้ว
-มโนดิฉันยังไม่ทราบเลยค่ะ ยังความรู้น้อยมากค่ะ คิดว่าคงยากถ้าจะมีค่ะ


-โดยมากคือเปิดไว้ให้ระลึกเสมอว่าราต้องหมั่นทำความดี จักระเปิดเป็นเรื่องปรกติแต่ต้องรู้จักควบคุมนิ่งเฉยไว้ ถ้าหนักมากก็ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปิด
-อันนี้รายละเอียดดิฉันไม่ทราบเลยค่ะ ว่าจักระเปิดเป็นเรื่องปกติ? เลยต้องขอรบกวนคุณนพหรือท่านอื่นมาช่วยแนะนำต่อให้ เพราะเพื่อนไม่แน่ต่อ บอกให้คิดต่อไปเอง ปฎิบัติต่อให้เหมือนๆเดิมที่ทำมา
แต่ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยปิดจักระ อันนี้ไม่เคยได้ยินนะค่ะ
ถ้าหนักในความหมายของคุณ ประมาณ 1 เดือนกว่าจะหายหนักค่ะ ร่างกายจะรับได้เอง
จะให้นิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (เจริญสติ) คงทำไม่ได้ค่ะ เป็นอาการทางร่างกาย ไม่ใช่จากการปรุงแต่ง ถ้าเทียบเป็นภาพ เหมือนมีอะไรมาผลักนะค่ะ เซซ้าย เซขวา ถลาหน้า ล้มหลัง ต้องหาที่จับไม่ให้ล้ม(แค่วันแรก) แต่จะค่อยๆดีขึ้น ทำตัวให้เนียนได้ เมื่ออยู่ในสังคม แกล้งหยิบยาดม บ่นความดันต่่ำ ฯลฯ

-ก็เราเปิดประตูบ้านทึ้งไว้คนอื่นก็เข้ามาง่าย เคยไปช่วยหาคนหายโดยการถามเจ้าที่ ปรากฏเป็นวิญญาณชั้นล่างแถวนั้นมาขอส่วนบุญแทน แล้วเจ็บทั่วตัวเลยไม่ทำอีก
-เท่าที่ทราบ การเจริญสติปฎิฐาน 4 จะช่วยได้ค่ะ แม้คนที่เปิดเนตรอาศัยบารมีองค์สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองแล้ว ยังโดนได้ค่ะ ถ้าเผลอ จิตต่างๆ ที่ยังมีกิเลสอยากมีรูปขันธ์เพื่อขโมยบารมียังมีอีกเยอะ เพื่อนบอกว่า แม้จะเปิดเนตร แม้บารมีเยอะ จิตพวกนี้ชอบ.....


-เรียกว่าองค์ลงเต็มตัว รู้สึกตัวแต่บังคับไม่ได้ ตอนแรกเจอบ่อยถ้าฝืนจะโดนบีบเจ็บ แต่เราขอไม่เปิดตำหนักเลยไม่ค่อยมาลงแบบนี้ เว้นว่าทำพิธีสำคัญๆจะปล่อยให้ท่านลงจัดการเอง เช่น ทำน้ำมนต์รักษาโรค
-จิตพราห์มค่ะ วันนั้นเพื่อนพากันไล่จับ (ดิฉันไม่เห็นนะค่ะ รอฟังเพื่อนเล่าค่ะ) จับไปลงโทษค่ะ เจ้าตัวไม่ทราบ คิดว่าองค์ลงค่ะ เขายังโทรมาย้ำดิฉันเลยค่ะว่า เขาไปได้มากกว่าเดิมแล้วนะ พอดิฉันซักว่า เป็นอะไร ไม่ยอมพูดค่ะ ว่าคืออะไร
บอกว่า เออๆๆ รู้แค่นี้พอแล้ว

เพื่อนคนแรกพยายามไล่ต้อน(ทางข้อความเฟซ) หนีไปแอบคุยกะเพื่อนที่ 2 (จิตพราห์มไม่ทราบว่า เพื่อนอีกคน เขาพอจะไล่จับได้แล้ว) เลยเสร็จเลย หนีผิดคน
แทนที่จะหนีมาทางดิฉัน (เพราะดิฉันจับไม่ได้) ดิฉันไม่มีอภิญญาใดๆค่ะ เป็นคนธรรมดา ที่มีโอกาสเจอะญาติธรรมหลายคน มีโอกาสได้รู้จักอะไรๆ แค่ผ่านตัวหนังสือ มองอะไรไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นค่ะ

จิตพวกนี้พอเอาเข้าจริงไม่ค่อยเนียนค่ะ ดันไม่ดูจังหวะ มาใช้ร่างเขาตอนที่สนทนาธรรมรวมๆกันอยู่หลายคน เลยช่วยกันสังเกตุได้ค่ะ

-ตามความเข้าใจเรานะไม่อ้างอิงตำราใด จักระนี่เป็นพลังจักรวาลมีอันตรายมากเพราะมีทั้งประโยชน์และโทษ เช่น รักษาโรคหรือดึงพลังไปทำอย่างอื่นได้ ตามแต่ละจุดมีความสามารถอะไร แต่ฝึกกรรมฐานดีที่สุด เพราะพาเข้าถึงนิพพานได้

ถ้ามีองค์ให้หมั่นทำความดี รักษาศีล อย่าคิดร้ายหรือแช่งใคร ใครจะว่าเราก็เงียบๆไว้เค้าจะได้รับผลกรรมของเค้าเอง
-ดิฉันคนธรรมดาค่ะ ไม่ได้มีองค์ค่ะ

ขอบคุณนะค่ะที่ให้คำแนะนำ ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยค่ะ

 

ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้ละกัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วยได้หมด ขอแค่ไม่เกิดกรรม
อย่างเรากว่าจะรับเป็นร่างทรงก็มีร่างทรงท่านอื่นทัก แนะนำให้รับ 4 คน
แล้วก็คำสัญญาเก่าถึงยอมรับเป็น เพื่อนำมาบูชา ปฏิบัติ ช่วยเหลือคนอื่น ไม่ใช่เปิดตำหนัก

"จิตพราห์ม"พึ่งเคยได้ยิน ปรกติเจอแต่วิญญาณแอบอ้าง มาแฝง เชิญเทพสายปราบมาช่วยจัดการ

คนเปิดจักระโดยบังเอิญมีเยอะแยะ แต่น่าจะเรียกว่าเพราะบุญเก่าพาไปมากกว่า

เห็นสนใจเลยบอกเยอะๆ เราเน้นการปฏิบัติ ไม่เน้นพิธีกรรม

 

ปล.ประมาณนี้หละครับ....

 

ถือว่า แลกเปลี่ยนความรู้กันค่ะ จะได้เป็นญาติธรรมกันด้วยค่ะ
แม้ดิฉันเอง จะตั้งกระทู้ถามเรื่องพลังจักระ ก็ไม่กล้า ถามเพื่อนก็ได้แค่ ปฎิยัติต่อ /ทำตามสัญญาและปัญญาเก่า
เวลาผ่านไป 1 ปี มีแต่ถอย พอดีรู้จักกับ รตอ.ปลอมตัวมาอยู่แล้ว เลยได้จังหวะถามเมื่อไม่กี่วันนี้
รตอ.บอกมาให้ถามคุณนพดูดีกว่า

แรกๆดิฉันกะจะถามหลังไมค์ แต่ลำบากเขียนยากกว่า และอ่านยากกว่า เพราะคิดว่ายาวและควรเก็บกระทู้ไว้เป็นความรู้น่าจะดี เพราะถามหลายเรื่องค่ะ

"จิตพราห์ม"
ก็เป็นจิตที่มาอ้างว่าเป็นองค์สิ่งศักดิ์สิทธิ์นะค่ะ (อย่างยึดกับคำเรียกเลยนะค่ะ เพราะดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน 5555 เพื่อนไม่เล่าค่ะ) พวกมาขโมยบารมี อยากได้สังขารคนปฎิบัติ
ร่างแฝง(เพื่อน) ก็จะมีหน้าที่จัดการจิตพวกนี้ หรือ มาปราบมาร (เพื่อนเล่าค่ะ ดิฉันไม่ทราบหรอก) ไม่แน่ใจว่าองค์เต็มตัวด้วยหรือเปล่า เพราะหายากมาก ที่เคยเจอะก็เจ้าพ่อเฮ่งเจียสวนผักค่ะ เพิ่งทราบเหมือนกันว่า ท่านองค์เต็มตัวและของจริง กว่าจะทราบท่านก็เสียชีวิตตามศาลเสร็จและตั้งใจลงมาสร้างบารมีเพื่อให้ศาลเสร็จ

เท่าที่ทราบ สิ๋งศักดิ์สิทธ์แต่ละองค์จะลงมาต่างหน้าที่กัน ไม่ว่าจะแฝงหรือเต็มตัว
ของคุณ naitiw องค์ท่านลงมาเพื่ออะไรคะ ร่างแฝงหรือเต็มตัว


กรณีเพื่อนที่โดนคิดว่า ไม่ใช่แค่แฝงหรืออยู่ใกล้ (..เพื่อนที่จับไม่อธิบายต่อนะค่ะ..)เพราะเจ้าตัวที่ไปจำไม่ได้เลย และจากสำนวน/ความคิด ไม่ใช่แบบ รู้ตัวบ้าง /ไม่รู้ตัวบ้าง แต่คุยกันอยู่ หลายครั้ง เหมือนเป็นคนละคนไปแล้ว ( จะบอกว่า เพี้ยน ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะไม่ใช่แบบ ค่อยๆเพี้ยน แต่อยู่ๆ เหมือนหลุดเลยนะค่ะ)

ดิฉันก็เน้นปฎิบัติภาวนาค่ะ ไม่ได้เน้นพิธีอะไร คุณนพบอกจุดเทียนด้วย ดิฉันยังไม่เอาเลยค่ะ ไม่ไหวๆ ดูอลังการงานสร้างเกินไปค่ะ

แล้วโทษของพลังจักระคืออะไร ดิฉันก็กลัวค่ะ จะได้ไม่ต่อยอดหากมันเสี่ยงเกินไปค่ะ

 

[COLOR="Redเล่าให้ฟัง ยังมี โชว์พาว์ โชว์สเต็ง และหลายๆโชว์ทั้งหลาย.
-โชว์พาว์ พอรู้จัก
-โชว์สเต็ง ไม่เคยได้ยินเลยค่ะ
ดิฉันเลยไม่เข้าห้องนั่นเท่าไหร่ เพราะอ่านไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

ตอบ แหมๆฉลาดลวงข้อมูลนะครับ.๕๕ ปกติถ้าใจไม่เป็นกลาง
.ก็คือมันมีความคิดที่เกิดจากจิตเข้าไปปรุงร่วมกับจิต
หรือมีขันธ์ ๕ ฝ่ายนามธรรมที่เป็นฝ่ายอารมย์เข้ามาปรุงร่วมนี่ก็ส่วนหนึ่ง..
มี ๒ ตัวนี้ตัวใดตัวหนึ่ง จิตก็กระเพื่อมจนบ้านจะพังแล้วคับ..๕๕๕
ส่วนวิธีการจะวางขึ้นอยู่ที่เทคนิคคอลเทอม.ในการหาจุดที่จิตมันจะวางไงครับ
มันมีประมาณ ๓ ถึง ๔ วิธีครับ เล่าให้ฟังก่อนแต่จะรู้เรื่องหรือเปล่าอีกประเด็นนะครับ
.แต่ง่ายๆก็คือ รอจนกว่าจิตมันจะไม่กระเพื่อม
นั้นหละครับ.เอามือจับได้นะครับอาการนี้.รอจนมันนิ่ง
คือไม่มีทั้งความคิดเกิดขึ้นและอารมย์เข้ามาร่วม
(สังเกตุนะครับว่า ความคิดใช้เกิดและอารมย์ใช้คำว่าเข้ามาร่วม)
ไว้มีโอกาศจะอธิเบยให้ฟังคับนอกจากเรื่องภพภูมิเรื่องนี้ก็โม้ได้ครับ ๕๕๕
สติที่เราสร้างก็ส่วนหนึ่ง จิตก็ส่วนหนึ่ง ขันธ์ ๕
ส่วนนามธรรมมันก็ส่วนหนึ่งนะครับ คนละตัวคนละกิริยา เด่วถ้าวันหนึ่งเห็นตรงนี้จะเข้าใจที่พูดครับ.
มันเป็นการแยกระหว่างส่วนนามธรรม(จิต)กับนามธรรม(อารมย์ออก
ความคิดออกจากขั้น ๕) ไม่ใช่แยกแค่รูปธรรม(กายและนามธรรม(จิต)
ส่วนมากคนจะแยกได้แค่รูป(กาย)กับนาม(จิต)
มักจะเข้าใจว่าตัวเองบรรลุเลยขี้เกียจไปคุยด้วยเรื่องนี้
เป็นส่วนหนึ่งที่เลยมาตอบ อะไรๆขำเล่นๆให้ ห้องผี ผี นี่แระครับ.
สังเกตุได้ครับ ใครที่แยกได้ส่วนกายกับจิต จะพูดไปเรื่อยเปื่อย
ประมาณว่าสวยหรูป่านว่า จะบรรลุอรหันต์.แต่พอไปถามว่า
กิริยาของจิตเป็นอย่างไร กิริยาของขันธ์ ๕ เป็นอย่างไร.ลักษณะ
อาการจิตว่างเป็นอย่างไรจะตอบไม่ได้ซักคนแถมจะมาย้อนถาม
คืนแบบแถๆอีกต่างหาก และก็จะเกลียดตามมาในที่สุด ๕๕๕.
(นิสัยชอบลองของปัจจุบันนี้ยังแก้ไม่หายครับ พอรู้ตัว)
.ต้องแบบแยกนามธรรมกับนามธรรมโน้นถึงเริ่มเดินปัญญาได้
(เริ่มเดินนะครับ)ส่วนตัวเนี่ยอาจารย์เป็นพระที่ท่านสอนบอกว่ายังแยกได้
ในระดับหยาบๆเองครับ..
ขนาดหยาบๆยังหาคนตอบ คนคุยเรื่องจิตด้วย แทบจะไม่ได้.เห้อ!!!
...และส่วนถ้าจิตถ้ามันนิ่งก็โฟกัสภาพพระที่เป็นอาจารย์
ทางภพภูมิท่านปัจจุบันให้เห็นด้วยตาเปล่าแบบชนิดเป็นสีปกติ
ก่อนแล้วค่อยตอบและรักษาอารมย์ไว้อย่าให้หลุดครับ แต่มันก็หลุดปกติแระครับ ๕๕๕๕..
-.เอามือจับได้นะครับอาการนี้.
-ใช่ค่ะ ดิฉันอ่านไม่เข้าใจค่ะ การดูจิต ยังทำไม่ได้ และไม่เข้าเลยซักนิดเดียวค่ะ คุณนพความหมายเดียวกับ ดูกาย ดูเวทนา ดูจิต
ดิฉันอ่านแค่นี้ยังไม่เข้าใจเลยค่ะ



เล่าใหฟัง วิริยะกะคนนั้น เค้าจะมาสายตรงทางวิชาพิเศษนะครับ..ส่วนเทวปบุตรมาร
เด่วต่อไปวันไหนถ้าไม่โดนไม่เจอมันจะแปลกครับ.
สำหรับเราอย่างส่วนตัวก่อนมาอ่านก็โดนครับ.แต่ว่าไม่สนใจครับ
เพราะแพ้จนชินครับ ๕๕๕๕๕ ..
-แพ้ยัง โดนอะไรคะ ฯลฯ

ตอบ ฮั่นแน่ๆๆ.สงสัยใช้ตัวหนังสือใหญ่ขึ้นครับมันเลยดูมีน้ำหนักขึ้นมั่ง ๕๕๕๕
แต่ว่าทิพย์เดาญานจะคลาดเคลื่อนนะครับ.เพราะจริงๆเป็นคนนิสัยขี้เล่น
อารมย์ดีมากครับทั้งแมวและน้องหมาสนิทกันได้หมดครับ..เน้นฮาเป็นหลัก..
รตอ.ปลอมตัวมาน่าเค้าจะขรึมได้ไงหละครับ
ก็เค้าเป็นพวก วิริยะกะล่อนเป็นพิเศษ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ นึกแล้วขำข๊ำ.ชื่อนี้ ตั้งแต่คุณ Duch ตั้ง
ฉายาให้ ๕๕๕๕ แต่ส่วนตัวมองว่าน่ารักดีนะครับ
-สรุปเคลื่อนเป็นเดาจริงๆ ดิฉันดูคุณนพ ไม่ขี้เล่นเลยซักนิดเดียวค่ะ จริงจัง หนักแน่น จนมาไม่นานนี้เองตัวหน้งสือเบา โหวงเหวง อาจจะเพราะสายตายาวขึ้นก็ได้นะ 5555 แต่ดิฉันว่า มันหนักแน่นขึ้นตั้งแต่ตัวหนังสือตัวเล็กแล้วค่ะ ตกลงไม่ได้ไปนินทาอะไรดิฉันนะค่ะ
คนนั้นน่ะชื่อ วิริยะกะล่อน คุยด้วตลกดีค่ะ แต่กับดิฉันเขาไม่ค่อยกล้ากะล่อนเท่าไหร่ค่ะ คงกลัวคนแก่ 55555555555

คำถาม..แล้วเราจะระวังการเดายังไงคะ เรื่องพวกนี้เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ ไม่มีคำตอบเป็นตัวเลขแน่นอน เผลอๆ ก็คิดไปเองเสียด้วยซ้ำ ญาติที่เก่ง เดากันถูกหมดเลยเนี่ย

ก็รู้จักเหมือนๆคุณรู้จักนั่นหละครับ.ยังไม่เคยลองเอามือไม่จิ้มๆตัวเป็นๆดูครับ..
ส่วนที่กล่าวถึงแม่มด..เพราะเป็นบุคคลิก ญ ที่ชอบครับ..คือภายนอกดูดี
แต่ว่าแอบซ่อนฤิทธิ์ไว้ข้างใน..เอาไว้เวลา ญ ไหนมารังแกเราก็ให้
แม่มดไปจัดการครับ ๕๕๕๕๕
-งั้นดิฉันขอผ่านคำนี้ เพราะข้างนอกไม่ได้ดูดี ข้างในก็ไม่มีฤทธิ์ค่ะ


ตอบ นั่งกำหนดหมุนรอบ ขา รอบ ตัว รอบเท้า รอบศีรษะแทนครับ
ไม่ต้องเคลื่อนไหวมือ..
-ขอบคุณมากค่ะ สำหรับความรู้ใหม่เป็นประโยชน์จริงๆค่ะ ไม่ต้องเปิดแขนให้ท่าทางพิลึกแล้ว เวลาอยู่หน้าร้าน
แต่คงต้องเล่นคอมให้น้อยลง มิน่า ญาติธรรมถึงหายหมด(ไม่เล่นคอม ไม่แชทเฟซ ) บอกว่า เน้นไปปฎิบัติแล้ว

ตอบ ทาเคซิ ก็อย่าลืมสู้กับ นิวรณ์ทั้ง ๕ ด้วยนะครับ..๕๕๕
-ค่ะ เฮ้อออออออออออออออ เมื่อเช้า มือร้อนแล้ว พยายามรู้-ละ มาตลอด มาฟุ้งซ่านตอนเวลาใกล้หมดเวลา เรื่องกระทู้เนี่ยล่ะ อยากได้อยากมีอยากเป็น ฯลฯ อย่างที่คุณนพบอก
คำถาม มือทั้ง 2 อุ่นไม่เท่ากันค่ะ มือซ้ายรู้สึกร้อนกว่า
ต่างกับวันแรกที่อ่านน้อย รู้น้อยกว่านี้ มือกับอุ่นเท่ากัน ประกบไม่ค่อยได้ ดิฉันว่า ถามมาก ถอยมากกว่าค่ะ

ตอบ เรื่องนี้ขอลาเลยครับ ไร้ซึ่งความสามารถครับ
.เคยลองแล้วครับ เดินยังไงก็ไม่ตรงและสั่งยังไง
มันก็เป็นแต่จงให้ตรง..จงเดินให้ตรง และจงเดินให้ตรง
ไม่เคยเป็นจงกลมเลยครับ...ถ้าถามว่าเดินยังไงไม่ตรง
จะตอบง่ายกว่าครับ..
-ดิฉันคิดว่าคงไม่เดินเป็นวงกลมค่ะ ที่ ที่ครัว มีนิดเดียว เดินขึ้นตรง แล้ว หันกลับ (เป็นเส้นตรง) ระยะแค่ 2เมตรเอง กำหนดอย่างไรค่ะ หายใจเข้าออก สัมพันธ์กับขาที่เดินยังไง

[/B][/SIZE][/COLOR]

คำถาม พลังจักระ มีประโยชน์/ มีโทษ อย่างไรค่ะพอดีคุณ naitiw หวังดีนะค่ะ ถ้าโทษจะได้ระวังมากเป็นพิเศษค่ะ

จะเอาไปทำอะไร ดิฉันยังไม่รู้เลย เพื่อนบอกแต่ปฎิบัติต่อไป จะสมาธิได้ดีขึ้น (ไม่เห็นจริงเลย)

 

-ลงมาสร้างบารมีเหมือนกับคนอื่นๆนั่นล่ะจ้า ถ้าว่าขนาดเป็นร่างทรงไม่มีแฝงแล้วจ้า จะคุมร่างเลยก็ได้ ลงมาวันแรกฟ้อนรำกันเลยล่ะ แต่ต่อรองขอเป็นผู้บูชา ให้คำปรึกษา รักษาโรค นานๆทีถึงมีคนมาขอให้ช่วยถอนคุณไสย ถ้ามีคนเดือดร้อนมาขอให้ช่วยก็ช่วยไป นี่คือเหตุผลที่มาตอบคำถามคนอื่นในบอร์ดไง

-พวกนี้เรียกว่า วิญญาณแฝง อาจเป็นได้ถึงเจ้ากรรมจนถึงวิญญาณบรรพบุรุษ มาหลอกเพื่อหวังเกาะบารมีอยู่ด้วย แต่ถ้าบอกเป็นแค่วิญญาณใครจะให้อยู่ เลยต้องหลอกว่าเป็นเทพองค์ใหญ่ๆ

-รูป รส กลื่น เสียง ใช้ประกอบให้เข้าถึงสมาธิได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าชำนาญแล้วก็เลิกใช้

-จักระ มีประโยชน์นะ แต่เราเคยไปเล่นฤทธิ์มาก่อน พวกคาถาอาคม เวทมนต์ ไม่ชอบทำสมาธิ เข้าญาณ
สุดท้ายมีเทวดามาทดสอบการก้าวหน้าทางการปฏิบัติ เค้าถามว่า กรรมฐาน 40 ห้องได้อะไรบ้าง
เราไม่ได้ฝึกทางนี้เลย ไปมั่วแต่ทำอย่างอื่น สอบตกจ้า เลยได้เลิกหมดมาเริ่มตั้งแต่การทำสมาธิเบื้องต้น
มโนมยิทธิของเก่าเลยไม่พัฒนา แต่ดีว่าจิตมีธรรมะมานาน ไม่งั้นคงหายหมด

การฝึกจักระมีช่วงกำหนดสมาธิเพ่งไปยังจุดต่างๆ สมาธิดีขึ้นจริง แต่กรรมฐานนี่ช่วยพ้นนรกได้ เราจึงยกย่องว่าดีกว่า

 

ขอบคุณที่ตอบนะค่ะ ตามกระทู้มาตลอดนะค่ะ

องค์ท่านเน้นไปที่เจริญสติปฎิฐาน 4 หรือเปล่าคะ

พอดีเพื่อนเราเป็นร่างแฝงกันหลายคนอยู่ แต่พวกนี้นิ่งสนิท ดูไม่ออกเลย เหมือนคนธรรมดาทั่วไป มีรักโลภโกรธหลง
เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บารมีระดับสูง (แม้จะพระนามเดียวกัน บางองค์ก็มีทั้งแฝงทั้งเต็มตัว) เจ้าตัวจะรู้ตัวตลอดเวลา พูดคิด ฯลฯ ตามได้ตลอด
(ขำๆ ค่ะ พอเจ้าตัวไม่ทราบความหมาย องค์ท่านบอกว่า เปิดกูเกิ้ลสิ...) เล่าแต่ละอย่างตลกดีค่ะ
แต่ต้องบารมีถึง ท่านถึงจะแฝง หรือองค์ท่านจะเปิดเนตรเอง
ถ้าให้เร็วอีกนึด บางคนอาจจะต้องอาศัย เพื่อนที่สามารถเปิดเนตรได้ เปิดแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อกดทับ(เพื่อนใช้คำประมาณนี้ค่ะหรืออะไรไม่ทราบแนวๆนี้)
แต่ทั้งนี้เจ้าตัวต้องปฎิบัติเองด้วยเป็นหลัก การสื่อจะแม่น/จะชัดอยู่ที่สมาธิของเจ้าตัวไม่ได้อยู่ที่บารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กำลังจิตมาก ก็ช่วยงานองค์ท่านได้มากตามกำลัง
แต่หน้าที่ของแต่ละองค์ที่มาแฝงต่าวกันไป

เสียดายว่าตอนนี้ ไม่ค่อยได้คุยกันแล้วเท่าไหร่ค่ะ เพื่อนแต่ละคนคงทำงาน/ติดงาน/ปฎิบัติกันเยอะ จนไม่มีเวลาหมดเลย

ดิฉันไม่ได้มีองค์ค่ะ แต่พอดีได้จังหวะเจอะเพื่อนกลุ่มนี้นะค่ะเลยได้อ่านจากที่เขาเล่าให้ฟัง

ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์บารมีไม่มากนัก จะทรงเต็มตัวค่ะ เจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเท่าไหร่ มีกำหนดเวลาแน่นอน อย่างเจ้าพ่อเฮ่งเจีย ท่านจะหายใจแรงๆทีนึงแล้วก็ค่อยพูด น้ำเสียงปกติ ดูไม่ออกค่ะ
จะมีคนเฝ้าศาลบอกค่ะว่า ทรงแล้ว ถามได้
บางอย่างควรรู้ ท่านก็จะตอบ
บางอย่างยังไม่ถึงเวลารู้ ท่านจะพูดเป็นนัย (เช่นเรื่องลูกเราค่ะ) พูดกันล่วงหน้า 15-20ปีเลย รู้แม้แต่วันเกิดลูก
เรื่องลูกเนี่ยละค่ะ ทำให้เชื่อว่าท่านของแท้จริงๆ

 

เราจัดจำพวกคนที่มีบุญเกี่ยวพันธ์กับชาติก่อนทำให้ชาตินี้สามารถมีความ สามารถพิเศษ ไม่ใช่ born to be ร่างทรง ดังนั้นความสามารถจะไม่เท่ากับร่างทรงทั่วไป ได้อำนาจมาจากญาณขององค์แต่จะไม่เปิดตำหนักได้ ไม่โดนเอาถึงตายหรือเสียสติไปเหมือนกับจำพวกบริวารที่เกิดมาเพื่อเป็นร่างทรงโดยตรง

ไม่เกี่ยวกับองค์เล็ก ใหญ่นะ ขึ้นกับบารมีและการปฏิบัติของคนนั้น ยิ่งถ้าของเก่ามีมาก
องค์ยิ่งจะลงง่าย ตราบใดที่องค์ยังไม่ต้องการจะลง ก็ไม่ต้องไปขนขวนมา ยิ่งเป็นดาบสองคมเพราะรู้แล้วว่านรก สวรรค์มีจริงยังไม่ทำความดี ยิ่งได้รับโทษมากกว่าคนทั่วไป

องค์ท่านจะไม่ลงตลอดเวลา จะเพียงส่งพลังงานผ่านเท่านั้นในยามที่ต้องการสื่อสาร เพราะเป็นพลังงาน ถ้าลงร่างจริงๆร่างกายรับไม่ไหวร่างแตก บางคนอาจจะตกลงกันว่าให้ลงในช่วงเวลานี้ๆ วันนี้ๆ บางคนอาจจะขอพักวันนี้ๆ
ขึ้นกับว่าตอนรับขันธ์ ตกลงกันไว้ว่ายังไง ขออะไรไว้บ้าง เยอะไปป่ะเนี้ย จะกลายเป็นเขียนคู่มือร่างทรงไปละ

 

นั่นสิค่ะ กลายเป็นคู่มือร่างทรงไปเสียงั้น ดิฉันก็เขียนเพลินนะค่ะ จริงๆ จะถามเรื่องอพลังจักระ เอาเป็นว่าที่อ่านมาขำๆ ละกันไม่ต้องเชื่ออะไร เพราะจริงๆแล้ว ดิฉันก็แค่คนฟัง/คนอ่านนะค่ะ
ต้องไปกระทู้ความรู้คนมีองค์
ดิฉันไม่ได้ไปลงความเห็นอะไร เพราะไม่ทราบ ได้แต่อ่าน เลยเขียนอะไร /ออกความเห็นอะไรไม่ได้


ถ้าลงร่างจริงๆร่างกายรับไม่ไหวร่างแตก

.....ฟังแล้วน่ากลัวจังค่ะ


เดวแฟนดิฉันมาอ่าน เข้าใจดิฉันผิด แย่เลยค่ะ

 

มาได้ทุกด้าน อยู่รอบๆตัวเรา ตามสะดวกของเขาเลย

 

ดิฉันไม่เข้าใจจุดประสงค์คุณว่าเขียนมาซ้ำซากทำไมเรื่ององค์หลังไมค์ค่ะ
ดิฉันบอกแล้วว่าไม่มีองค์ หรือคุณมองว่ามีไม่ทราบคะ

คุณจะนั่งสมาธิหรือไม่ ดิฉันไม่เกี่ยว และไม่สามารถบังคับคุณได้
การสนทนาหน้าบอร์ดเป็นเพียงคำถามโต้ตอบกันไปมาเพื่อการสนทนาธรรมเป็นหลัก
ไม่ว่าจะเจริญสติหรือ สมถะ ก็ล้วนเป็นการปฎิบัติภาวนาอยู่ในหลักของพุทธศาสนา
และเพื่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ต่างได้มา ถือเป็นญาติธรรมกัน

คุณตอบมา ดิฉันก็ตอบต่อไป ไม่ได้คิดอะไร ยังย้ำว่าขอบคุณที่ตามกระทู้

และกระทู้นี้จุดประสงค์นี้ถามเรื่องพลังจักระ
และยังถามต่อในความเห็นท่านอื่นๆ ว่าพอจะแนะนำดิฉันเพิ่มได้บ้างหรือไม่ ไม่ว่าจะพลังจักระหรือ การปฎิบัติ
ไม่ได้ถามเรื่ององค์ค่ะ ไม่ขอรับคำแนะนำเรื่องนี้ หรือไม่ต้องการทราบวิถีทางที่คุณปฎิบัติอยู่ เพราะไม่เกี่ยวกับดิฉันเลยซักนิด
เพราะ ......ดิฉันไม่มีองค์.........

ขอบคุณค่ะ

 

...ขออภัยข้อความซ้ำค่ะ...

 

เห็นคุณถามจึงตอบในข้อสงสัย ถ้าเป็นการรบกวนก็ขออภัยละกัน

 

คุณนพคะตอนนี้กสิณเริ่มติดตาแล้วคะแต่ดวงไม่ค่อยใหญ่คะ

 

กสิณไฟหรือครับ.ถ้าหลับตาในกรณีใช้อุปกรณ์ช่วย ขึ้นอยู่กับขนาด
แสงเริ่มต้นของอุปกรณ์..ถ้าลืมตาขึ้นอยู่กับระยะใกล้ไกลของดวงกสิณ
ถ้าลืมตาแล้วนึกๆ ก็ขึ้นกับระยะของกสิณ..จะแบบหลับตาหรือลืมตา
หน้าที่เราคือ ไปไหนไปด้วยตามตลอดและรักษาภาพไว้ให้ได้.ถ้าไม่เบื่อ
ก่อนหรือหลับก่อนนะคับ.ถ้าหลับตาและลืมตาแล้วสีเริ่มเหลือแค่สีเดียว
แสดงว่ากำลังขึ้นระดับฌาน.
ถ้าลืมตาถ้ามีควันไฟขาวๆดูละเอียดๆมาพร้อมกันจากด้านซ้าย
และด้านขวามือจนมองอะไรไม่เห็นไม่ต้องตกใจ
ถ้าหลับตาแล้วมีควันพุ่งๆออกมาจากด้านล่างบริเวณช่วงท้อง
ก็ไม่ตกใจ.หรือลืมตาแล้วควันขึ้นตามตัว พวกนี้คือกำลังไต่
ระดับฌานขึ้นไปอยู่คับ..