ขอนอบน้อมแด่ฆราวาสผู้เข้าถึงธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 19 ตุลาคม 2018.

  1. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ รู้สึกว่า "กระทู้นี้ เป็นกระทู้พันธ์ เกษตรอินทรีย์ จริง ๆ" โตเร็วเป็นพิเศษ ลุงแมวใส่ปุ๋ยอะไร ถึงได้โตไวขนาดนี้
    +++ แต่อย่าใส่ "ยาฆ่าแมลง" เกินขนาดนะ ไม่งั้น คนพ่น จะเดือดร้อนไปด้วย นะครับ
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    เหตุเพราะแสดง
    คารวะธรรมที่มีต่อฆราวาสอรหันต์
    มังฮับ
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ การแสดง "คารวะธรรมที่มีต่อฆราวาสอรหันต์" นั้นมีค่าเท่ากับ การแสดงคารวะกับ พระอรหันต์ และ ความเป็นอรหันต์นั้น พ้นจากความเป็น "เพศ" ไปแล้ว จริง ๆ นับตั้งแต่ "พรหม และ ผู้ที่ พ้น จากกามาวจร" ไปแล้วนั้น ล้วน "พ้นจากการ มีเพศ" ไปหมดสิ้น

    +++ หากจะใช้คำว่า เพศ จริง ๆ ก็สมควรใช้คำว่า "เพศพรหมจรรย์" ซึ่งเป็น "เพศพ้นสมมติ" มากกว่า

    +++ ส่วน "เพศฆราวาส/เพศสมมติสงฆ์" นี้ เป็น "เพศสมมติ" ทั้งหมด
    ==================================================
    ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐปุริสปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
    อาหุเนยโย, ปาหุเนยโย, ทักขิเนยโย, อัญชะลีกะระณีโย, อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

    ได้แก่ บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ นั่นแหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านเป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้
    ==================================================
    +++ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า คือ "บุคคล 4 คู่ มรรค 4 ผล 4" เท่านั้น นอกนั้น "ไม่ใช่ สงฆ์ของ พระพุทธเจ้า" แม้ว่าจะใส่ "เครื่องแบบสงฆ์อยู่ก็ตาม" ตรงนี้ พระพุทธองค์ ไม่นับ นะครับ
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    อ้อครับ เป็นพระคุณครับ
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    คำยืนยันฆราวาสบรรลุธรรมอีกแล้วคับทั่น

     
  6. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +342
    นพเอ้ย เอ็งจะพิม ห่าไรมาเยอะแยะว่ะ กุละขี้เกียจอ่านจริงๆ คนพิมพ์เยอะ แบบนี้คือ คนคุยไม่รู้เรื่องนะ ตกลงจะเอารึไม่เอา ตอบสั้นๆ พอข้าขี้เกียจอ่าน มันไร้สาระ มีแต่น้ำ แม่งไม่มีเนื้อเลย

    พิมพ์ตอบมาแค่สั้นๆ นี้มึงทำไม่เป็นเรอะ นี้กุคุยกับคนบ้าอยู่รึเปล่าว่ะ

    ถ้ากุคุยกับคนบ้า กุจะได้เลิกคุย คุยกับคนบ้าไม่มีประโยชน์นะ

    จะเอาก็ว่ามา ถ้าไม่เอากุกะขี้เกียจคุยกะเอ็งแล้ว ไห้วครูอยู่นั้นละ ไม่ตีซักที

    พิมพ์มากเจ็บนิ้ว ok
     
  7. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    ฆราวาสถ้าไม่บวชเป็นพระ สามารถสำเร็จพระอรหันต์หรือไม่? หลวงพ่อพุธ เทศน์ถวายกับ สมเด็จพระราชินี
    5-3(9).jpg

    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย” (พระราชสังวรญาณ) เป็นลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ซึ่งถือว่าเป็นพระอาจารย์และสหธรรมิก (สหายธรรม) ของหลวงปู่มั่น ท่านมองเห็นความทุกข์ เห็นธรรมตั้งแต่ยังเด็ก ต่อมาเมื่อท่านบวช ท่านก็ได้พบกับธรรมอีก ด้วยเหตุว่า ท่านมีสุขภาพไม่ดี ป่วยหนักเป็นวัณโรคจนหมอไม่รับรักษา ท่านจึงเปลี่ยนทุกขเวทนาของท่านให้กลายเป็นธรรมะ สอนเรื่อง “มรณสติ” ให้กับตัวท่านเอง

    เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้มีพระราชพระราชปุจฉาวิสัชนาธรรม ระหว่าง

    “หลวงพ่อพุธ”เทศน์ถวายกับ ‘สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่๙ “อีกเรื่องที่น่าสนใจดังนี้
    5-2(13).jpg

    สมเด็จพระนางเจ้าฯ :

    หากเผื่อว่าไม่ได้บวชเป็นพระนี้ จะสามารถชำระจิตของท่านจนสามารถบรรลุธรรมได้ไหมเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อพุธ :

    อาศัยตามหลักฐานในพระคัมภีร์ ผู้ที่เป็นฆราวาสก็สามารถที่จะชำระจิตให้ถึงวิมุตติความหลุดพ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น สมเด็จพระสุทโธทนะ พระพุทธบิดา พระองค์ก็ทรงสำเร็จพระอรหันต์ในขณะทรงเป็นฆราวาสอยู่ เพราะเมื่อได้ฟังเทศน์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็สำเร็จอรหันต์ ทั้งๆ ที่ยังเป็นฆราวาสอยู่

    ในปัจจุบันนี้ คฤหัสถ์ที่ยังครองเพศอยู่ก็สามารถที่จะปฏิบัติในทางจิต ทำให้มีจิตสงบเป็นสมาธิ รู้ธรรมเห็นธรรมได้เหมือนกับพระในพระพุทธศาสนา

    สมเด็จพระนางเจ้าฯ :

    หมายความว่า ถ้าแม้ว่าเข้าถึงพระอรหันต์แล้ว ถ้าไม่บวชก็วางเบญจขันธ์ได้อย่างสิ้นเชิง ใช่ไหมเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อพุธ :

    ตามพระคัมภีร์ก็ยืนยันอย่างนั้น แต่ถ้านำมาพิจารณาให้รู้แน่นอนและจะหาเหตุผลมาขัดแย้งก็อาจจะมีทาง เพราะในแง่ที่ขัดแย้งได้มีว่า โดยธรรมชาติของพระอรหันต์แล้ว ท่านจะวางเบญจขันธ์ คลายความยึดมั่น หมดกิเลสตัณหา มานะ ทิฏฐิ แม้อาสวะน้อยหนึ่งก็ไม่มีในจิตของท่าน อาจจะดำรงชีพอยู่จนกระทั่งอายุขัยก็ย่อมเป็นได้ ถ้าหากว่าหามติมาขัดแย้งได้ แต่ว่าคุณของความเป็นพระอรหันต์นั้นเป็นคุณธรรมหรือสัจธรรมที่สูง ซึ่งโดยหลักธรรมชาติของพระธรรมขั้นนี้แล้วจะไปสิงสถิตอยู่ในร่างของคฤหัสถ์ซึ่งถือเป็นร่างของชาวบ้านธรรมดาเป็นการไม่คู่ควรกัน จึงสามารถทำให้ร่างของฆราวาสผู้สำเร็จอรหันต์แล้วต้องสลายตัวไป อันนี้เป็นกฎความจริงของธรรมชาติในขั้นนี้

    ถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับแร่ธาตุบางอย่างในโลกนี้ ในเมื่อมาพบกันเมื่อใดแล้วจะต้องมีปฏิกิริยาสลายตัวหรือเกิดธาตุใหม่ขึ้นมา ในกรณีเช่นนี้ ธาตุแท้แห่งพระอรหันต์ที่บริสุทธิ์ที่สะอาดอย่างแท้จริง เมื่อเกิดอยู่ในร่างของคฤหัสถ์ธรรมดาจึงมีประสิทธิภาพหรือมีอำนาจที่จะทำให้ร่างกายของคฤหัสถ์สลายตัวลงไปได้ เพราะเป็นร่างที่ไม่ควรที่จะรองรับคุณธรรมของพระอรหันต์


    https://m.tnews.co.th/contents/211356
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    เขียนบอกครั้งที่ ๔ แล้ว
    แสดงว่าไม่ฉลาดจริงๆ
    ถามจริงๆ อ่านภาษาไทยไม่รู้เรื่องไหม ๕๕๕

    ได้อ่านกติกาหรือยัง
    ให้พอคุ้มที่จะเสียเวลา
    ไปดูหนังหน้า ไอ้ขี้โม้
    หลงตัวเองหน่อย

    กลายเป็นคนที่
    พูดแบบคนไม่มีสติในการอ่าน ๕๕
    แต่สันดานขี้โม้ยกตน กลับยังมีอยู่
    ตรรกะหายไป
    หมด

    ทำไม่ได้แบบที่เขียนกติกา
    ก็บอกมาตรงๆเหอะ ๕๕๕
    ทำเป็นฟอร์มเบี่ยงประเด็นยกตัว
    ขี้คุยไปได้ ๕๕๕ เหมือนเด็กน้อย
    ทำได้ก่อน เรื่องระหว่าง ขี้โม้อย่างคุณ
    กับข้าพเจ้าค่อยว่ากันอีกที
    จะรีบโชว์โง่ไปเพื่อ ?

    อ้อ เห็นโม้ว่าคืนนี้จะทำอะไร ข้าพเจ้า
    รออยู่นะ ช่วยจัดให้หนักๆหน่อยนะครับ
    เป็นไปได้ควรเอาให้ตายเลยนะ ^_^
    พอดีข้าพเจ้าคนธรรมดาๆ นี่หละ
    เลยอยากลองของมากเลย ^_^


    สรุปได้เลย จากพฤติกรรมที่ผ่านมา
    ว่านาย ช่างเถอะ ขี้โม้หลวง คนนี้
    กระจอก....ชิหาย.
    นึกว่าจะเก่ง เหมือนปาก
    ที่ไปปรามาส หลวงพ่อ
    มีชื่อที่ล่วงลับไปแล้วที่อุทัยธานี
    นึกว่าจะแน่เหมือนที่คุยยกตัวเอง
    ว่าผ่านกรรมฐาน ๔๐ มาแล้ว
    โม้ว่าเข้านิโรธฯได้ ๕๕๕
    โม้ว่าผ่านมโนยิทธิมารู้ดี

    แต่ไม่กล้าแสดงความสามารถอย่าง
    ที่เขียนเป็นกติกา ๕๕๕


    Bye Bye.
    ยังไงคืนนี้ ช่วยจัดหนักๆมาทางนี้
    แบบที่โม้ด้วยนะ.
    รออยู่ๆ อิอิ

    ปล ใครมาดีก็ยิ้มรับ
    ใครมาไม่ดีก็ยิ้มรับ ^_^
    ไปก่อนเด้อ บักหำาาน๊อย(เสียงสมรักษ์ คำสิงห์) ๕๕๕๕๕
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ส่วนที่แผ่บุญยกมาและขีดเส้นใต้ไว้นะ
    ใช่ตามที่ท่าน ลพ. อธิบายไว้เลย ^_^
    ประเด็นนี้ ลุงแมวพิจารณาไว้ก็ดีครับ
    ยกเว้นจะเป็น ฆารวาสประเภท
    เหาะเหิรเดินอากาสได้เหมือนเราหายใจ
    และมีบารมีทางด้านปัญญาบารมีร่วมด้วยชนิดรู้ได้ทุกเรื่องในโลกนี้ครับ
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    แปลว่าถ้าฆราวาสบรรลุอรหัตผล ร่างกาย
    ต้องแตกดับทันทีไม่มีโอกาสไปเดินโชว์
    ตามห้างฯได้อีก
    ยกเว้น มีอภิญญาเหาะได้
    แต่ปัจจุบันผู้บรรลุธรรมที่เป็นฆราวาส
    ยังเดินโชว์ได้ก็มีฮับ แต่ไม่ทราบท่าน
    อภิญญามีฤทํขนาดไหนฮับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2018
  11. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    ฆราวาสบรรลุพระอรหันต์ ต้องตายภายใน 7 วันหรือไม่

    ผู้ถาม :- “ทีนี้ถ้าบวชเป็นแม่ชีแล้วสำเร็จเป็นอรหันต์ จะอยู่ได้กี่วันครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ถ้าเป็นอรหันต์นะไม่เกินพรุ่งนี้ตาย คือว่าชีหรือฆราวาสก็มีสภาพเท่ากันละ เขาไม่ได้ถือว่าเป็นภิกษุณี คำว่า ชี รักษาศีล ๕ บ้าง รักษาศีล ๘ บ้าง ฆราวาสเขาก็รักษาได้ คือว่ามีเวลาปลีกตัวออกจากบ้านไปนุ่งขาวเท่านั้นเอง และสภาวะทุกอย่างก็เหมือนฆราวาส ฉะนั้นจะทรงความเป็นอรหันต์อยู่ไม่ได้ เป็นอรหันต์ก็ต้องนิพพาน”

    พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรมฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๘๒-๘๗

    ****************************

    ถาม : อย่างคนที่จะบรรลุอรหันต์ ถ้าไม่บวชเป็นพระแล้วจะตายภายใน ๗ วันอย่างถ้าบวชเป็นเณรหรือบวชในนิกายอื่นเช่นมหายาน ?

    ตอบ : ขอให้เป็นพระภิกษุสงฆ์ก็แล้วกันเพราะว่าพระอยู่ในเพศสูงที่เขาให้ความเคารพ คนเขาไม่ล่วงเกินอยู่แล้ว ถ้าเราเป็นฆราวาสอยู่ คนที่ไม่รู้เป็นประเภทเพื่อนกันมาตบหัวเล่น ไอ้นั่นก็ซวยไปตลอดชาติและอีกหลายๆ ชาติ เมื่อเป็นดังนั้น ถ้าเป็นฆราวาสอยู่จึงจำเป็นต้องตัดให้ตายไปเลย จะได้ไม่ไปเป็นโทษกับผู้อื่น

    ถาม : ถ้าเป็นผู้หญิง ?
    ตอบ : ถ้าเป็นผู้หญิงก็ตัดใจเถอะ..ไปดีกว่า

    ถาม : บวชเป็นแม่ชีละครับ ?
    ตอบ : แม่ชีก็ยังนับเป็นฆราวาส

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
    ณ บ้านวิริยบารมี เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

    temp_hash-b46e1a78849636ffb84ce7b8c337fab7-jpg.jpg
    https://palungjit.org/threads/ฆราวาสบรรลุพระอรหันต์-ต้องตายภายใน-7-วันหรือไม่.614292/
    ปล.สำหรับคนเข้าใจผิดแบบหัวชนฝา
     
  12. Rogulair

    Rogulair Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +53
    ก็แปลง่ายๆได้ว่านิพพานฆ่าคนใน 7 วัน...นี่มันไม่บ้าไปเหรอครับ ?
    พระอรหันต์ถ้ายังไม่ตายก็ต้องใช้กรรมไม่ใช่เหรอครับ ?
    อย่างพระมหาโมคคัลลานไงครับ, ทำไมไปบอกว่าต้องตายในเจ็ดวันล่ะ ?
    นิพพาน กับ ตาย จะไปเหมือนกันได้ยังไง.
     
  13. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    อ่างั้นรอแป๊บ มีให้เบิ่ง เนื้อๆ
     
  14. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    มิลินทปัญหา
    ปัญหาที่ ๓ ถามถึงความเป็นพระอรหันต์แห่งคฤหัสถ์


    พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า


    " ข้าแต่พระนาคเสน มีคำกล่าวไว้ว่า " คฤหัสถ์ผู้สำเร็จอรหันต์แล้ว ย่อมมีคติ ๒ ประการ คือ

    บรรพชาในวันนั้น ๑

    ปรินิพพานในวันนั้น ๑ ไม่อาจเลยวันนั้นไปได้ " ดังนี้


    ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าในวันนั้น ไม่ได้อาจารย์ หรืออุปัชฌาย์ หรือบาตร จีวร ผู้สำเร็จอรหันต์แล้วนั้นจะบรรพชาเอง หรือเลยวันนั้นไป หรือมีพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์องค์ใดองค์หนึ่งมาให้บรรพชา จะได้หรือไม่ หรือต้องปรินิพพานไป ? "

    พระนาคเสนตอบว่า

    " ขอถวายพระพร พระอรหันต์ทั้งบรรพชาเองไม่ได้ ถ้าบรรพชาเองก็ชื่อว่า " ไถยสังวาส " ( ลักเพศ คือปลอมบวช ) และเลยวันนั้นไปก็ไม่ได้ จะมีพระอรหันต์องค์อื่นมาหรือไม่มีก็ตาม ก็ต้องปรินิพพานในวันนั้น"

    " ข้าแต่พระนาคเสน ถ้าอย่างนั้นความเป็นพระอรหันต์ ก็ทำให้สิ้นชีวิตน่ะซิ "

    " ขอถวาายพระพร คฤหัสถ์ถึงสำเร็จอรหันต์แล้วต้องบรรพชา หรือปรินิพพานในวันนั้น เพราะเพศคฤหัสถ์ไม่มีกำลังพอข้อที่สิ้นชีวิตไปนั้น ไม่ใช่เป็นเพราะโทษแห่งความเป็นพระอรหันต์ เป็นเพราะโทษแห่งคฤหัสถ์ ไม่มีกำลังพอต่างหาก

    ขอถวายพระพร ธรรมดาโภชนาหารย่อมรักษาอายุ รักษาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายไว้ แต่ว่าโภชนาหารนั้น ย่อมทำให้สิ้นชีวิตได้ด้วยไฟย่อยอาหารไม่พอ การสิ้นชีวิตนั้นไม่ใช่เป็นโทษแห่งอาหารนั้น เป็นโทษแห่งไฟย่อยอาหารไม่พอฉันใด


    การที่คฤหัสถ์ผู้ได้สำเร็จพระอรหันต์แล้วต้องบรรพชาหรือปรินิพพานในวันนั้น ข้อนั้นไม่ใช่เป็นโทษแห่งความเป็นพระอรหันต์ เป็นโทษแห่งเพศคฤหัสถ์มีกำลังไม่พอฉันนั้น
    อีกประการหนึ่ง เหมือนกับบุคคลยกเอาก้อนศิลาหนัก ๆ วางลงบนฟ่อนหญ้าเล็ก ๆ ฟ่อนหญ้าเล็ก ๆ นั้น ก็ต้องจมลงไปเพราะกำลังไม่พอฉันใด ข้อนี้ก็มีอุปมาฉันนั้น


    อีกอย่างหนึ่ง เหมือนบุรุษผู้มีบุญน้อยเมื่อได้ราชสมบัติอันใหญ่แล้ว ก็ไม่อาจรักษาความเป็นอิสระไว้ได้ฉันใด คฤหัสถ์ผู้ได้สำเร็จพระอรหันต์แล้ว ก็ไม่อาจรับรองความเป็นอรหันต์ไว้ได้ฉันนั้น เพราะฉะนั้น จึงต้องบรรพชาหรือปรินิพพานในวันนั้น ขอถวายพระพร "

    " ถูกต้องดีแล้ว พระนาคเสน "
     
  15. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    [๔๘] ก็สมัยนั้นแล ภิกษุมากรูปด้วยกันจงกรมอยู่ในที่แจ้ง พาหิยทารุจีริยะ
    เข้าไปหาภิกษุทั้งหลายถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้ถามภิกษุเหล่านั้นว่า ข้าแต่ท่านทั้งหลาย
    ผู้เจริญ บัดนี้ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ที่ไหนหนอ
    ข้าพเจ้าประสงค์จะเฝ้าพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ภิกษุ
    เหล่านั้นตอบว่า ดูกรพาหิยะ พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปสู่ละแวกบ้านเพื่อ
    บิณฑบาต ลำดับนั้นแล พาหิยทารุจีริยะรีบด่วนออกจากพระวิหารเชตวัน เข้าไป
    ยังพระนครสาวัตถี ได้เห็นพระผู้มีพระภาคกำลังเสด็จเที่ยวบิณฑบาตในพระนคร
    สาวัตถี น่าเลื่อมใส ควรเลื่อมใส มีอินทรีย์สงบ มีพระทัยสงบ ถึงความฝึก
    และความสงบอันสูงสุด มีตนอันฝึกแล้ว คุ้มครองแล้ว มีอินทรีย์สำรวมแล้ว
    ผู้ประเสริฐ แล้วได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค หมอบลงแทบพระบาทของพระผู้มี-
    *พระภาคด้วยเศียรเกล้าแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์ ขอพระสุคตโปรดทรงแสดง
    ธรรมที่จะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์สิ้นกาล
    นานเถิด ฯ
    [๔๙] เมื่อพาหิยทารุจีริยะกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
    ดูกรพาหิยะ เวลานี้ยังไม่สมควรก่อน เพราะเรายังเข้าไปสู่ละแวกบ้านเพื่อ
    บิณฑบาตอยู่ แม้ครั้งที่ ๒ พาหิยทารุจีริยะก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่
    พระองค์ผู้เจริญ ก็ความเป็นไปแห่งอันตรายแก่ชีวิตของพระผู้มีพระภาคก็ดี ความ
    เป็นไปแห่งอันตรายแก่ชีวิตของข้าพระองค์ก็ดี รู้ได้ยากแล ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์ ขอพระสุคตโปรดทรงแสดง
    ธรรมที่จะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์ตลอด
    กาลนานเถิด ฯ
    แม้ครั้งที่ ๒...แม้ครั้งที่ ๓ พาหิยทารุจีริยะก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ความเป็นไปแห่งอันตรายแก่ชีวิตของพระผู้มีพระภาคก็ดี
    ความเป็นไปแห่งอันตรายแก่ชีวิตของข้าพระองค์ก็ดี รู้ได้ยากแล ข้าแต่พระองค์
    ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์ ขอพระสุคตโปรด
    ทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์สิ้นกาล
    นานเถิด ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพาหิยะ เพราะเหตุนั้นแล ท่านพึงศึกษา
    อย่างนี้ว่า เมื่อเห็น จักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อทราบจักเป็น
    สักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ดูกรพาหิยะ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล ดูกร
    พาหิยะ ในกาลใดแล เมื่อท่านเห็นจักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อ
    ทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มี
    ในกาลใด ท่านไม่มี ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มีในโลกนี้ ย่อมไม่มีในโลกหน้า
    ย่อมไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ
    ลำดับนั้นแล จิตของพาหิยทารุจีริยะ กุลบุตรหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ
    ทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่นในขณะนั้นเอง ด้วยพระธรรมเทศนาโดยย่อนี้ของพระผู้มี-
    *พระภาค ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสสอนพาหิยทารุจีริยะกุลบุตรด้วย
    พระโอวาทโดยย่อนี้แล้ว เสด็จหลีกไป ฯ
    [๕๐] ครั้งนั้นแล เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จหลีกไปแล้วไม่นาน แม่โค
    ลูกอ่อนขวิดพาหิยทารุจีริยะให้ล้มลงปลงเสียจากชีวิต ครั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จ
    เที่ยวบิณฑบาตในพระนครสาวัตถีเสด็จกลับจากบิณฑบาตในเวลาปัจฉาภัต เสด็จ
    ออกจากพระนครพร้อมกับภิกษุเป็นอันมาก ได้ทอดพระเนตรเห็นพาหิยทารุจีริยะ
    ทำกาละแล้ว จึงตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจง
    ช่วยกันจับสรีระของพาหิยทารุจีริยะยกขึ้นสู่เตียงแล้ว จงนำไปเผาเสีย แล้วจงทำ
    สถูปไว้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พาหิยทารุจีริยะประพฤติธรรมอันประเสริฐเสมอ
    กับท่านทั้งหลาย ทำกาละแล้ว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ช่วยกัน
    ยกสรีระของพระพาหิยทารุจีริยะขึ้นสู่เตียง แล้วนำไปเผา และทำสถูปไว้แล้ว
    เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้นั่งอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้
    ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สรีระของพาหิยทารุจีริยะข้าพระองค์
    ทั้งหลายเผาแล้ว และสถูปของพาหิยทารุจีริยะนั้น ข้าพระองค์ทั้งหลายทำไว้แล้ว
    คติของพาหิยทารุจีริยะนั้นเป็นอย่างไร ภพเบื้องหน้าของเขาเป็นอย่างไร ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พาหิยทารุจีริยะเป็นบัณฑิต
    ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้งไม่ทำเราให้ลำบาก เพราะเหตุแห่งการแสดงธรรม
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย พาหิยทารุจีริยะปรินิพพานแล้ว ฯ
    ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทาน
    นี้ในเวลานั้นว่า
    ดิน น้ำ ไฟ และลม ย่อมไม่หยั่งลงในนิพพานธาตุใด
    ในนิพพานธาตุนั้น ดาวทั้งหลายย่อมไม่สว่าง พระอาทิตย์
    ย่อมไม่ปรากฏ พระจันทร์ย่อมไม่สว่าง ความมืดย่อมไม่มี
    ก็เมื่อใดพราหมณ์ชื่อว่าเป็นมุนีเพราะรู้ (สัจจะ ๔) รู้แล้ว
    ด้วยตน เมื่อนั้น พราหมณ์ย่อมหลุดพ้นจากรูปและอรูป
    จากสุขและทุกข์ ฯ

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=25&A=1607&Z=1698
    เคลียร์นะจ๊ะ อาจารย์แดง...ยังไม่ถึงอรหันต์(อาจเข้าใจไปเอง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2018
  16. Rogulair

    Rogulair Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +53
    แปลว่ากรรมเป็นเหตุ...ไม่ใช่นิพพาน. สาธุครับ.
     
  17. เส้นทางยาวไกล

    เส้นทางยาวไกล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +206
    ธรรมะย่อมมีเหตุผลในธรรมเสมอครับ เมื่อบรรลุอรหัตถผลแล้วไม่มีกิจใดจำต้องกระทำอีก นอกจากดำรงธาตุขัณฑ์อยู่เพื่อสงเคราะห์สรรพสัตว์แลเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐของโลก การต้องดำรงอยู่ในสถานะบรรพชิตจึงเป็นฐานะอันสมควร ที่จะได้รับการสักการะแลไม่ทำให้พุทธศาสนิกชนผู้มั่นคงในธรรมหลงปรามาส ดังนั้น นักอ่านที่พอรู้ธรรมะบ้างเล็กๆน้อยๆ มีสมาธิแลบุคลิกภาพภายนอกดูน่าเลื่อมใสอยู่บ้าง เที่ยวอุปโลกตนประกาศว่าข้าสำเร็จเป็นพระอรหันต์น๊ะเว้ย ในทัศนะผม คือ ผู้วิปลาส กราบขออภัยด้วยครับที่กล่าวจากความรู้สึกมาตรงๆ แต่ ณ ตรงนี้ ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้ฝักใฝ่ธรรม และท่านเจ้าของกระทู้ซึ่งเป็นผู้มีปณิธานอันน่าสรรเสริญ ขออวยพรให้ทุกท่านเจริญในธรรม มั่นคงในสัมมาทิฏฐิแลเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันตลอดไปครับ
     
  18. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ก็ขีดเส้นใต้ 2 เส้นได้แล้วนะฮับว่า
    มีฆราวาสสามารถนิพพานได้เพราะปฏิบัติ
    วิปัสสนากรรมฐานจน
    สำเร็จอรหัตผลได้เช่น
    เดียวกับบรรพชิต

    ส่วนจะตายเร็วตายช้าแค่ไหน
    หรือไม่ตายก็ได้นั้น
    กะมู้นี้ไม่หยิบมาเป็นประเด็นวิจารณ์
    ขอให้พิสูจน์ความจริงกันเอาเอง
    ตามอัธยาศัยฮับ
     
  19. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    ด้วยฆราวาสผู้หยั่งธรรมอันลึกซึ้งได้จนบรรลุแจ้งแทงตลอดมีมากขึ้น
    แต่บุคคลเหล่านนั้นไม่ได้แสดงตัวเพื่อเกิ้อกูล
    ต่อสาธารณะมากนัก
    ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอโอกาสขอ
    น้อมกราบแสดงความเคารพและกราบเชิญ
    กราบอาราธนาฆราวาสผู้บรรลุธรรม
    ที่ยังใช้ชีวิตปกติกับครอบครัวและสังคมรอบตัว
    ได้เมตตาแสดงตนเกื้อกูลธรรม
    แด่เหล่าเวไนย เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผูู้
    ปรารถนาความหลุดพ้นแต่ละครอบครัว
    และสังคมยังไม่ได้
    จะได้ถือเป็นแบบอย่างการปฏิบัติเพื่อบรรลุ
    ธรรมอย่างฆราวาสเสียด้วย

    (ไม่มี ถ้ามีก็ไม่มา(เขาตาย(นิพพาน)ไปก่อนแล้ว))
     
  20. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    แม่หลวงตาเยื้อน.... เป็นปุถุชนคนธรรมดา..แก่ตายอย่างสงบ

    ใครเคยรู้ไหมว่า อัฐิเป็นพระธาตุ....(คนไม่ดัง. คงไม่มีใครเอามากล่าว..และไม่ได้ประกาศให้ชาวโลกรู้. ).

    (อย่าเชื่อ..ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง).....
    #หลวงตาท่านเคยเทศน์ให้ฟัง....เป็นอะไร ระดับไหน ไม่ต้องสนใจ.ถ้าลงถูกรู มันจะต่อยอดไปได้เรื่อยๆ เอง...เป็นอะไรแล้วก็คือเป็น.....ไม่ใช่ว่าทุกคนจะออกมาแสดงตนให้โลกรับรู้...ผู้ปฏิบัติดี มีอยู่เยอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...