ขอนอบน้อมแด่ฆราวาสผู้เข้าถึงธรรม

คือ ขอประทานโทษจริงๆน๊ะครับ คนเราถึงแม้ศึกษาพุทธธรรมเช่นเดียวกัน แต่ ในรายละเอียดปลีกย่อยอาจมีทัศนต่างกันไปบ้างเป็นธรรมดา ส่วนตัวผมเข้ามาในเวปนี้เพื่อปรารถนาจะแลกเปลี่ยนกับทุกท่านในฐานะ
กัลยาณมิตร ไม่ประสงค์จะวิวาทะกับท่านใด
จึงขอแสดงจุดยืนเป็นครั้งสุดท้ายในกระทู้นี้ว่า ในความเห็นผม ฆราวาสที่ถือเพียงศีล5 ที่เป็นพระอรหันต์น่ะ ผมไม่เชื่อครับ เพราะเพศฆราวาสไม่อาจรองรับภูมิพระอรหันต์ได้ และพระอริยเจ้าที่ไม่มีอินทรีย์สังวรณ์ ผมก็ไม่เชื่อเช่นกัน เราเห็นต่างกันได้ เป็นธรรมดา จึงไม่ขอให้ทัศนะของผมกรณีนี้เป็นประเด็นมาถกแสดงหลักฐานอะไรกันอีก ไว้สนทนากันในกรณีอันเป็นประโยชน์ต่อเราทุกฝ่ายแล้วกันน๊ะครับ ขอให้เจริญในธรรม ในสัมมาทิฏฐิ ในสัมมาสมาธิ ทุกท่านน๊ะครับ

 

ถูกใจครับ ความจริงก็คือมันไม่มีนั่นแหละครับ ฆาราวาสที่ถึงธรรมอรหันต์(เอง) กระทู้ลักษณะนี้จึงมีเอาไว้แค่คุยกันฮาเฮตามเคยครับ

 

ข้าว่า เอ็งตานพ เอ็งนี้สันดาน ตุ๊ด รึเปล่านะ ท้ามา พอข้ารับแล้วเสือกบอกไม่ได้ท้า กลับไปกลับมา สันดานตุ๊ด ชัดๆ

ข้าพูดแล้ว ไม่เคยกลับคำ มาซิวะ มีคนรอจะไปด้วย ตั้งหลายคน รอการพิสูจน์จากเอ็งอยู่เยอะ

รึมาแล้ว กลัวแว่นจะแตก รึ รุ่นนี้แล้ว ไม่มีใช้กำปั้นวัดกันหรอก

ถ้าไม่มาเอ็งลองยิง มโนห่าอะไร ของเอ็งมาดิ ข้าจะรอ รับ เอาแรงๆ เลยนะ ไม่ต้องออมมือ

ส่วนข้า เตรียมพร้อมให้เอ็งหมดแล้ว

แค่รอตามเวลาที่บอกให้เตรียมตัวให้ดีนะ นพ นะ

55555555 คืนนี้เจอกัน

เห็นเอ็งบอกมีพันธมิตร ภพภูมิ ก็เอามาด้วยนะ นพ อยากเจอว่ะ แต่จะมีตัวไหนกล้าเป็น พันธมิตรเอ็งวะ มโนแดกซะขนาดนั้น หือ นพ

 

เพศฆราวาสที่ทรงศีล 5 แล้วบำเพ็ญ
เพียรสมถและวิปัสสนากรรมฐานเอง
ตามคำชี้แนะจนเกิดวิปัสสนาญาณประหาร
กิเลสได้หมดจดสิ้นเชิง
เรียกว่าได้อรหัตผล
จบกิจเป็นอริยบุคคลเพศฆราวาสมีมาตั้ง
แต่พุทธกาลที่พระศาสดาทรงชี้
แนะให้ปฏิบัติเจริญสติปัฏฐาน4
ไม่มีเลยหรอฮับ
ปัจจุบันฆราวาสชาย หญิงบรรลุธรรม
เป็นอรหันต์ด้วยปฏิบัติสติปัฏฐาน4
ได้วิปัสสนาญาณมีปัญญาญาณ
ทำการฆ่า
กิเลสได้หมดจดสิ้นเชิงไม่มีหรือ
ฮับ
แต่ผมเห็นในคลิป มีทั้งชาย ทั้งหญิง
ความรู้มาก รู้น้อยป.4 หรือ ดอกเตอร์
ก็ประกาศตัว ประกาศธรรม
ตามที่ตนได้รู้แจ้งมีลูกศิษย์นับพัน
นับหมื่น มันเฮฮาแบบไหนฮับ

 

แบบฮาเฮก็ที่คุณต้องการให้ฆาราวาสบรรลุอรหันต์มาแสดงธรรมให้คุณรู้แจ้งตามไง ถึงกับฮาา

 

สมัยพุทธกาล มีฆราวาสสำเร็จอรหัตผลครับ เฉพาะที่ผมทราบมี ๒ คน(ความจริงอาจมีมากกว่า)

คือ พระเจ้าสุทโธทะนะ(พระบิดาของพระพุทธเจ้า)
และอีกคนหนึ่งคือ สันตติมหาอำมาตย์

กรณีของพระเจ้าสุทโธทะนะนั้น พระพุทธเจ้าไปเทศน์โปรดพระบิดา
จนนิพพานคาบัลลังค์ เสียชีวิตก่อนที่จะได้บวช

 

ตรงพุทธกาลสมัยนั้นผมก็ไม่ได้ค้านว่าไม่มี แต่ตรงนี้ ณ บอร์ดนี้ไม่มี

 

จริงๆลุงแมวก้อ่านพระไตรปิฏกฟังพระมาก้พอสมควร ก้น่าจะก้น่าจะเพียงพอแล้วนะครับผมว่า

ลงมือไปตามทางวีธีทำที่ได้ฟังพระไตร
กับพระที่ท่านสอนวิธีแล้ว ก้ลุยได้ตลอดอยู่แล้ว

ฆราวาสที่ท่านบรรลุธรรมขั้นไดขั้นหนึ่ง

มีแต่จะมุ่งตรงไปตามทาง
มีพระรัตนตรัยเป้นสรณะ
ไม่มีเชื่อมไปหาทางนู้นทางนี้
ไม่มีการอกตัญญูต่อพระรัตนไตร
มีอัตตาทีปะอัตตะสรณา
มีตนเป้นเกราะเป้นที่พึ่ง
ด้วยคุณของรัตนตรัยปรากฏที่จิต


ส่วนพวกฆราวาสที่เกินเลยไปจากธรรม 8ข้อ
ก็อนุมานได้เลยว่า เก๊ดูง่าย

เช่นฆราวาสไปรับรองอะไรคำๆว่าเป้นอรหัน
ไปสอนพระตั้งตนเป็นอาจารย์บลาๆ

 

ยกมาให่้ชั่งเถอะอ่านเพื่อความเฮฮาฮ้บ
ไม่ได้คิดเอาชนะใครฮับ

. เรื่องสันตติมหาอำมาตย์ [๑๑๕]

ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภสันตติมหาอำมาตย์ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อลงฺกโต เจปิ สมญฺจเรยฺย" เป็นต้น.

สันตติมหาอำมาตย์ได้ครองราชสมบัติ ๗ วัน
ความ พิสดารว่า ในกาลครั้งหนึ่ง สันตติมหาอำมาตย์นั้นปราบปรามปัจจันตชนบท ของพระเจ้าปเสนทิโกศล อันกำเริบให้สงบแล้วกลับมา. ต่อมา พระราชาทรงพอพระหฤทัย ประทานราชสมบัติให้ ๗ วัน ได้ประทานหญิงผู้ฉลาดในการฟ้อนและการขับนางหนึ่งแก่เขา. เขาเป็นผู้มึนเมาสุราสิ้น ๗ วัน ในวันที่ ๗ ประดับด้วยเครื่องอลังการทุกอย่างแล้ว ขึ้นสู่คอช้างตัวประเสริฐไปสู่ท่าอาบน้ำ เห็นพระศาสดากำลังเสด็จเข้าไปบิณฑบาตที่ระหว่างประตู อยู่บนคอช้างตัวประเสริฐนั่นเอง ผงกศีรษะ ถวายบังคมแล้ว.

พระศาสดาทรงทำการแย้ม พระอานนท์ทูลถามว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอแล? เป็นเหตุให้ทรงกระทำการแย้มให้ปรากฏ" เมื่อจะตรัสบอกเหตุแห่งการแย้ม จึงตรัสว่า

"อานนท์ เธอจงดูสันตติมหาอำมาตย์ ในวันนี้เอง เขาทั้งประดับด้วยอาภรณ์ทุกอย่างเทียว มาสู่สำนักของเรา จักบรรลุพระอรหัตในเวลาจบคาถาอันประกอบด้วยบท ๔ แล้ว นั่งบนอากาศ ชั่ว ๗ ลำตาล จักปรินิพพาน."

 

ไม่หรอกฮับเรื่องคำภีร์อันเป็นหลักฐานทางคำสอนและ
ทางพระวินัย
ผมไม่สันทัดเท่าไรเลยจริงๆ ฮับ
ผมสนแนวทางและเทคนิคต่างๆในการปฏิบัติ
เพื่อกำจัดอวิชชาโดยทางตรงมากกว่า
ถ้าไปอ่านตำรามาก รู้มาก จำมาก
แต่ขาดผู้ปฏิบัติ อวิชชาจะไม่หมด กิเลสตัณหา
อุปาทานจะไม่หมด
แต่ศาสนาจะหดลง หดลง
และหายไปพร้อมกัน
กับความตายของคนที่แม่นคำภีร์ฮับ

 

ความเชื่อว่าไม่มี
จะไปทำลายความมีได้ไหมเอ้อ
เพราะยุคปัจจุบันมีผู้ประกาศตนว่าเป็น
อรหันต์ไม่ต้องห่มผ้าเหลืองและ
ไม่ต้องตายด้วย
เช่นน้องสาวหลวงตามหาบัวฯ
(หลวงตารับรองให้)
หรืออาจารย์แดงกีตาร์(รับรองตนเอง)
เป็นต้น

 

เรื่องของคนอื่นเขา คุณรู้ว่าจริงได้ไง จิตคุณเป็นอรหันต์แล้วหรือ

 

คุณตั้งกระทู้มาแค่ มาเล่นลิ้นคำคมอะไรของคุณไปวันๆ ผมยังไม่เห็นคุณจะละอะไรได้อย่างปากว่าต้องการละเลย

 

ผมถามเรื่องการปฏิบัติของคุณก็ทำพูดว่า พูดไปก็กลัวคนด่า แหมๆ มีแต่คำคมไปวันๆสิ คุณแมว

 

ถ้าเป็นนักปฏิบัติจริงก็กรุณา บอกแนวทางที่คุณปฏิบัติมาซิ คุณปฏิบัติยังไง กับการที่บอกว่าจะละกิเลส ให้ได้ชาตินี้เนี่ย

จิตคุณพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว ลองบอกมาตามจริงซิ

 

ก็ผมรู้ไงว่าเนื้อแท้คุณก็ยังไม่ได้อะไรสักอย่างแม้แต่ขั้นสมาธิ แล้วจะพูดคำคมให้ดูดีประดุจตนเองเป็น ฆาราวาสผู้บรรลุเป็นพระอริยะแล้วงั้นแหละ มันไม่เมคเซ้นไง

 

คุณอยากให้กระทู้คุณมีสาระกว่านี้ป่าวล่ะ หรือจะเอาแค่คำคม ถากๆ ไปแค่วันๆ

 

ถ้ายังคิดไม่ได้ก็ไปย้อนไล่ดูกระทู้ที่คุณตั้งมาสิ เป็นเนื้อหาอะไรเกี่ยวกับการปฏิบัติที่เน้นลดละกิเลสบ้าง ไม่มี มีแต่ตั้งคำคม โวหาร เพื่อให้คนมาตอบแบบใช้สัญญาความจำแบบโลกๆไง เนื้อหาการปฏิบัติจริงไม่มีเลย

 

เป็นอรหมุน ยิ่งกว่าอรหันต์ไหมฮับ