ขอพื้นที่ระบายครับ เรื่องจริงยิ่งกว่าในละคร พูดไม่ออกเลยครับ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Tawan1990, 28 มกราคม 2014.

  1. Tawan1990

    Tawan1990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +320
    ผมพึ่งเรียนจบมหาลัย เธออายุมากกว่าผม5ปี คบกันจะสองปีแล้ว

    เธอมีลูกติด 1 คน มีลูกกับพี่ทิ้ง (เดี๋ยวจะอธิบายภายหลัง)

    สถานะของผมในสังคม : โสด
    สถานะของเธอในสังคม : แต่งงานแล้ว

    ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอก เธอแต่งงานแล้วครับ

    ผมจะสมมุติชื่อขึ้นนะครับ
    ผมจะใช้ชื่อว่า พี่แทนแล้วกันครับ อายุ40ปี แต่งกับพี่แทนมา 10กว่าปีได้
    เนื่องจาก แฟนเก่าของเธอชื่อ พี่ทิ้ง ซึ่งเธอถูกพี่ทิ้ง ทิ้งไปครับ
    จากนั้นไม่นาน พี่แทน เสนอที่จะเป็นพ่อให้ โดยพากันไปจดทะเบียนกันอย่างถูกต้อง
    (จากที่ผมทราบคือ พี่แทนเค้าไม่ชอบผู้หญิงครับ หรือเป็น Ga...นั่นเอง) แต่ท่าทางก็เหมือนผู้ชายปกติทุกอย่าง


    จนเธอมาเจอผม เราก็คบกันจน เธอเปิดเผยเรื่องทั้งหมด
    แต่ครอบครัวของเธอ ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน

    ผม เธอ พี่แทน เราสามคนรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร

    จะเห็นว่าครอบครัวเธอมีพร้อมแล้ว จดทะเบียนถูกต้องทุกอย่าง

    จนวันนี้ เธอท้องกับผมครับ

    (เธออยากมีลูกมากเพราะว่าไม่อยากมีลูกตอนแก่) ก็สมใจเธอครับ ดีใจทั้งเธอทั้งครอบครัวเธอ เพื่อนเธอ สังคมของเธอ


    ส่วนผมพูดไม่ออกครับ มึนตึบไปหมด

    เพราะผมยังไม่อยากมีลูกกับเธอ

    เพราะจะทำให้อะไรๆหลายอย่างมันซับซ้อนมากขึ้น

    ไหน จะเรื่อง ลูก

    เพราะเธอแต่งงานแล้ว

    ผมแทบจะไม่มีสิทธิในตัวของเด็กเลย

    มันจุกครับ พูดไม่ออกเลยครับ

    ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ไม่ได้เจอเค้าทุกวัน ไม่ได้ทำหน้าที่พ่อ


    ถ้าเป็นภาษาชาวบ้าน ผมก็คือ ชู้ นั่นเอง แต่ผิดตรงที่ว่า เราทุกคนรู้หมดว่าอะไรคืออะไร


    แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ผมก็คงต้องยอมรับความจริงให้ได้


    *ทางบ้านผมเค้าก็ไม่ค่อยชอบเธอ เพราะเธอเป็นคนตรง คนแรงไม่เรียบร้อย
    นี่ก็ยังไม่ได้บอกที่บ้านเลยครับ เพราะบอกไปเขาคงจะดีใจหรอก
    ที่ได้ หลานเถื่อน

    ล่าสุดผมคุยกับเธอว่าเอายังไง
    เธอจะให้ผมบอกที่บ้านผม
    ผมเลยถามว่าแล้วเธอบอกที่บ้านหรือเปล่าว่าท้องกับผม
    เธอก็ตอบมาว่า ใครจะสนใจ รู้ว่าเป็นลูกของเธอพอ
    เรื่องมันชักบานปลาย เมื่อผมเสนอ2ทางเลือกให้เธอ

    ทางเลือกที่ 1.ต่างฝ่ายต่างบอกที่บ้านของตัวเองว่าความจริงเป็นยังไง
    ถามเธอว่าอยากอยู่กับผมไหม จะแต่งกับผมไหม
    เธอก็ตอบว่า ผมเลี้ยงเธอไหวเหรอ
    ให้ผมจัดงาน ให้ผมมาขอเธอกับแม่ คุยเรื่องสินสอด ถามว่าผมมีตังเหรอ
    จดทะเบียนสมรสด้วย ถามว่าผมกล้ามั้ย
    เพราะเธอรู้จุดอ่อนของผม ว่าผมอยู่กับแม่กัน2คน นอนกับแม่ทุกคืน
    แม่ผมเป็นโรคหัวใจ เป็นความดันไม่อยากให้ท่านคิดมาก
    แถมเธอจะเอาเสื้อผ้าเด็กมาฝากไว้ที่บ้านผม บอกว่าโบราณถือเดี๋ยวเด็กจะไม่ได้เกิด

    ผมก็ถามว่าเธจะทิ้งพี่แทนได้หรออยู่กันมาตั้งนาน เธอก็ไม่ตอบ
    ผมก็บอกว่า ครอบครัวเธออยู่กันปกติมีความสุขดี จะให้ผมมาทำลายครอบครัวเธอเหรอ
    เธอก็ไม่ตอบ
    ถามว่าเคยเข้าใจ สถานะ เข้าใจความรู้สึกบ้างไหม เธอก็ไม่ตอบ

    ทางเลือกที่ 2 คือให้ผมเป็นญาติสนิท เป็นน้า คอยดูเค้าเติบโตอยู่ห่างๆ
    คอยส่งเงินช่วยเหลือตามสมควร ที่บ้านผมไม่รับรู้เรื่อง แน่นอนว่าทางนี้
    ฝ่ายที่เจ็บก็คือผม แต่ผมคิดว่าทางเลือกนี้มันดู นุ่มนวลและไม่ก่อเรื่องให้วุ่นวาย

    ขอบคุณทุกท่านที่อ่านเรื่องราวของผมนะครับ ขอบคุณที่แบ่งพื้นที่ให้ผมได้ระบาย
    เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป ผมก็คิดหาทางอยู่ตลอดเอาเท่าที่เขียนก่อนนะครับ ขอบคุณครับ
     
  2. DuchessEderlezi

    DuchessEderlezi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    อย่าโกหกเลยความจริงก็คือความจริงโกหกไป
    วันข้างหน้าเด็กก็ต้องรู้อยู่ดี ความจริงในเมื่อ
    ฝ่ายหญิงก็ไม่ได้รักสามีเก่าอยู่แล้วก็น่าจะเลิกกัน
    และมาแต่งงานกับคุณเสีย
     
  3. จริงจังนะ

    จริงจังนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +11,536
    ยอมเจ็บคนเดียวเถอะค่ะ
    เพื่อให้ใครอีกหลายคนไม่ต้องเจ็บเพราะการกระทำของเรา
    ทางเลือกที่ 2 น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
    พี่แทนเป็นคนดี เขาึคงไม่รังเกียจที่จะเป็นพ่อของเด็กอีกคนหรอกค่ะ
     
  4. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    คนที่จะตัดสินใจคือคนกลาง นั่นคือผู้หญิง ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร ท่านจขกท คงต้องยอมรับเพราะเธอเท่านั้นย่อม เห็นว่าเธอเลือกทางที่ดีที่สุด แก่ตนเองบนพื้นฐานของความเชื่อว่า นั่นเป็นทางมาแห่งความสุขเฉพาะตนหรือ/และลูก...

    ขออภัยที่ต้องกล่าวตรงๆว่าท่านจขกท ไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมตั้งแต่แรกที่คบกับหญิงคนนี้...แม้เธอจะอ้างเรื่องสามีที่แต่งด้วยเป็นเกย์ เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาคนอื่นที่ท่านจขกท ไม่ควรยุ่งเกี่ยวด้วย..

    จากการแสดงออกของหญิงนี้ ท่านไม่อาจทราบว่าสิ่งที่เธอเล่ามานั้นเป็นความจริงหรือไม่ เพียงใด ...ดูเหมือนเธอเพียงต้องการที่ระบายเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านควรทราบว่าการตรวจ DNAให้ทราบชัดว่าเด็กนั้นเป็นลูกของท่านจริง..

    หรือหากท่านไม่ติดใจสงสัยอะไร ก็พึงรับผิดชอบเท่าที่จะทำได้..ตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยการตัดสินใจของฝ่ายหญิง..

    ความพลาดพลั้งครั้งนี้ของท่าน ให้จำเป็นบทเรียน เพื่อห้ามปรามตนในเรื่องที่ไม่ควรทั้งหลาย...ในภายหน้า...เพราะการเกี่ยวข้องด้วยการล่วงศีลใดๆ นำมาแต่ความทุกข์ทั้งในปัจจุบันและสัมปรายภพ...

    ไม่ว่ารูปการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป เวลานี้ท่านไม่อาจทราบได้ การปล่อยใจให้เศร้าหมอง ไม่มีประโยชน์อะไร..ท่านพึงตั้งสติให้มั่นคง ยังใจไว้ในความสงบรำงับว่า เมื่อเราทำดีที่สุดแล้วเพื่อเกื้อกูลแก่เด็กและแม่ของเด็กแล้ว แต่หญิงนั้นไม่ยอมรับเอง ท่านจขกท จะทำอะไรได้อีก พึงทราบว่า...นั่นมีมาด้วยอำนาจจัดการของกรรมที่เหมาะสมลงตัว..ที่ใครๆไม่อาจเข้าแทรกแซงได้แม้ด้วยความพยายามนานัปการ...การปลงลงได้ด้วยอาการนี้ย่อมช่วยยุติความเร่าร้อนระส่ำระสายในทุกข์ที่เกิดแล้วลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย..

    อนึ่ง ไม่มีอะไรเที่ยงตัังมั่นคงเช่นนั้นตลอดไป ท่านพึงเตรียมใจว่า อาจมีในวันใดข้างหน้า ที่หญิงนี้ เมื่อหมดที่พึ่งอื่นใดที่มีอยู่ในบัดนี้ อาจหวลกลับมาเพื่อให้ท่านอุปการะ...เวลานั้น ท่านพึงพิจารณาความเหมาะควรตามสมควรแก่ศีลธรรมเถิด ย่อมได้ข้อยุติที่จะไม่เป็นไปเพื่อความเดือดร้อนใจในภายหลังเลย..

    เป็นกำลังใจให้นะครับ..
     
  5. Tawan1990

    Tawan1990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +320
    ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามา ให้ข้อคิด แนะนำ ชี้ทางแก่กระผมมากๆนะครับ
    ่อ่านไปก็น้ำตาไหลไป
    เรื่องทั้งหมดผมเป็นคนก่อเอง ไม่ยอมห้ามใจ ปล่อยใจ ให้เป็นไปตามอารมณ์
    โดยไม่คิดถึงความถูกต้อง
    เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะลองคุยกัน สามคน ดูครับว่าจะเอาอย่างไร
    ขอบคุณทุกท่านจริงๆครับ จิตใจผมจากทุกข์ เศร้าหมอง
    กำลังดีขึ้นมา และกรรมครั้งนี้่เป็นบทเรียนแก่ตัวผมมากๆเลยครับ
     
  6. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +2,951
    ดิฉันคงได้แต่ย้ำว่าอ่านข้อความของคุณ ddmanให้ดีค่ะ

    คำตอบของผู้หญิง บอกตรงๆว่า อ่านแล้วแปลกๆค่ะ
    ทำไม เขาไม่ให้คุณมาขอ และรับเป็นพ่อจริงๆเลย (อาจจะติดด้วยฐานะทางสังคมก็เป็นได้)

    เกย์ไม่ใช่ว่าทำลูกไม่เป็นค่ะ ขออภัยถ้าตรงไปค่ะ
    เธอก็ตอบว่า ผมเลี้ยงเธอไหวเหรอ
    ให้ผมจัดงาน ให้ผมมาขอเธอกับแม่ คุยเรื่องสินสอด ถามว่าผมมีตังเหรอ
    จดทะเบียนสมรสด้วย ถามว่าผมกล้ามั้ย


    ผมพึ่งเรียนจบมหาลัย เธออายุมากกว่าผม5ปี คบกันจะสองปีแล้ว
    ผมจะใช้ชื่อว่า พี่แทนแล้วกันครับ อายุ40ปี แต่งกับพี่แทนมา 10กว่าปีได้ - ดิฉันขอใช้คำว่า คุณละอ่อนค่ะ

    เธอก็ตอบมาว่า ใครจะสนใจ รู้ว่าเป็นลูกของเธอพอ-อ่านแล้วแปลกค่ะ ถ้าเขารักคุณจริง ลูกคือครึ่งนึงของคนรักค่ะ



    ดิฉันไม่สามารถฟันธงว่า เธอโกหก หรือ เป็นเรื่องจริง ขอให้เจ้าของกระทู้มีสติมากๆค่ะ
     
  7. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    คุณTawan1990 นี่ โครตโชคดีเลย มีผู้หญิงที่รักคุณมากขนาดนี้ ยอมเลี้ยงลูกเอง โดยไม่ตั้งเงื่อนไขอะไรเลย

    สิ่งที่เธอบอกน่ะถูกต้องที่สุดแล้ว ณ วันนี้ เวลานี้ คุณไม่มีปัญญา หาเงินมาเป็นค่าสินสอด หรือ แม้กระทั่ง หาเงินมาเลี้ยงดู เมียและลูก หรือ แม้กระทั่งตัวเอง

    แต่ไม่ใช่ว่าวันพรุ่งนี้ คุณจะทำไม่ได้ สิ่งที่เธอต้องการบอกคุณก็คือ ตอนนี้ไม่ต้องห่วงเธอกับลูก ห่วงตัวคุณเองก่อนเถอะ สิ่งที่คุณต้องทำในเวลานี้ก็คือ หางานทำซะ สร้างฐานะตัวเองให้มันดีซะก่อน เก็บเงินสักก้อนหนึ่งเป็นค่าสินสอดด้วย แล้วค่อยไปคิดเรื่องแต่งงาน หรือ เรื่องดูแลเมียกับลูก

    บอกตรงๆนะ ผมไม่สงสารคุณเลยอะ แต่สงสารเมียกะลูกคุณมากกว่า
    เพราะขณะที่คุณทำงานสร้างฐานะ เกิดไปปิ๊งสาวอื่น เมียกะลูกคุณก็คงโดนทิ้งเป็นหมาหัวเน่า

    รู้มั้ยแฟนคุณTawan1990เนี่ย สเป็คผมเลยนะ ผมชอบคนใจเด็ดแบบนี้
    ดังนั้นรีบไปทำงานเก็บเงินแต่งซะ ก่อนที่ผมจะสืบได้ว่าเธอเป็นใคร แล้วตามไปจีบ 555+
     
  8. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    ทุกคนมีทุกข์กันคนละแบบนะคะ แล้วแต่ว่าใครจะเจอเรื่องอะไร แล้วเราจะตัดสินปัญหานั้นอย่างไร สำหรับผู้ที่มีศาสนาเป็นที่พึ่ง ได้รับรู้ในคำสอนเกี่ยวกับความจริงของชีวิตไว้บ้าง ก็คงจะทำให้ทุกข์ไม่มาก หรือ ทุกข์ไม่นาน แต่ถ้าผู้ที่กำลังประสบชะตาชีวิต แล้วไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับไม่ได้ ไม่รู้เหตุและที่มาและที่ไป พยายามจะให้เป็นไปอย่างที่เราคิด เราต้องการ ก็จะเกิดมากทุกข์อย่างมาก เมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วเราต้องพยายามแก้ไขด้วยสติ ด้วยเหตุผลที่ให้เป็นไปตามเหตุปัจจัย เกิดอะไรขึ้นถ้าเรารู้เท่าทัน ไม่ยึดมั่นกับสิ่งนั้นมาก แล้วพยายามปล่อยวาง พอวันเวลาค่อย ๆ ผ่านไป ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง

    อันดับแรกเลย ที่ท่านจะต้องกำจัดมันออกไปจากใจให้ได้เสียก่อน กับคำว่า “ถ้าเป็นภาษาชาวบ้าน ผมก็คือ ชู้ นั่นเอง แต่ผิดตรงที่ว่า เราทุกคนรู้หมดว่าอะไรคืออะไร แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ผมก็คงต้องยอมรับความจริงให้ได้ ”

    เพราะคำนี้มันเป็นคำที่ทิ่มแทงหัวใจเราให้ทุกข์ ถ้าเราคิดและนึกถึงมันตลอดเวลา นั่นคือ เราก็มีความทุกข์กับความคิด และติดอยู่กับมัน ถ้าความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นในใจตลอดเวลา มันจะฝังรากลึกลงไปในใจ ทำให้เราติดภาวะนั้น (พระพุทธศาสนาเรียกว่า ติดอยู่ในภพ ในความมีความเป็นนั้น) เราเราแก้ไขที่ใจตรงนี้แล้วไม่ได้ มันจะทำให้เราได้เจอเรื่องเสมอ เหมือนกับว่าใจเราติดอยู่ในภพแบบใด ก็จะมีแรงดึงดูดไปหาสิ่งนั้นเสมอ

    อันดับแรกเลย เราต้องหาเหตุผลให้กับตัวเองก่อนว่า ใจเรายินดีกับสภาวะนี้ไหม ถ้าใจเราไม่ยินดีเลย เราไม่ต้องการทำมัน เราไม่ต้องการผิดศีล เราไม่มีวันทำมันโดยเด็ดขาด เราก็ลองมาหาเหตุผล ดูอีกทีว่า คำว่า ชู้ นี่หมายความจริง ๆ คือ สภาวะแบบใด คือ

    “ทำให้เขาได้รับความเจ็บปวดทางใจ” หรือเปล่า เป็นประเด็นสำคัญ ที่เขารู้สึกว่าต้องสูญเสีย หรือ หวาดระแวง หรือ มีปัญหากัน

    หากเขาเป็นกันโดยพฤตินัย คือ ไม่มีความผูกพันทางใจ อาจด้วยเขาต้องการเพื่อปกปิดฐานะทางสังคม หรือ เขาเคยอุปถัมภ์ค้ำชูกันมาแต่ปางก่อน หรือ อะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้รับความเจ็บปวด นั่นก็ให้บอกกับตนเองว่า เราไม่ใช่อย่างที่คิด เราจะเลิกยึดติดกับสิ่งนั้น แล้วทำให้เราทุกข์ แต่ถ้าเรายังรู้สึกว่ายังเป็นอยู่อย่างนั้นอีก ให้หาวิธีทางทำให้ทุกอย่างให้เราพ้นจากสภาวะทุกข์ทางใจที่คำว่า เป็นแค่ ชู้ ออกไปให้ได้ก่อน อย่าตกอยู่ในสาภาวะแบบนั้น เพราะ ถ้าคนเขามีความผูกพันทางใจกันจริง ๆ ย่อมมีความหวงแหน เป็นของตน ไม่อยากให้ใครมาแย่งของตนไป

    กรณีทางเลือก ที่ 1

    สำหรับทางเลือกที่ 1.ต่างฝ่ายต่างบอกที่บ้านของตัวเองว่าความจริงเป็นยังไง
    ถามเธอว่าอยากอยู่กับผมไหม จะแต่งกับผมไหม
    เธอก็ตอบว่า ผมเลี้ยงเธอไหวเหรอ
    ให้ผมจัดงาน ให้ผมมาขอเธอกับแม่ คุยเรื่องสินสอด ถามว่าผมมีตังเหรอ
    จดทะเบียนสมรสด้วย ถามว่าผมกล้ามั้ย
    เพราะเธอรู้จุดอ่อนของผม ว่าผมอยู่กับแม่กัน2คน นอนกับแม่ทุกคืน
    แม่ผมเป็นโรคหัวใจ เป็นความดันไม่อยากให้ท่านคิดมาก
    แถมเธอจะเอาเสื้อผ้าเด็กมาฝากไว้ที่บ้านผม บอกว่าโบราณถือเดี๋ยวเด็กจะไม่ได้เกิด

    ผมก็ถามว่าเธจะทิ้งพี่แทนได้หรออยู่กันมาตั้งนาน เธอก็ไม่ตอบ
    ผมก็บอกว่า ครอบครัวเธออยู่กันปกติมีความสุขดี จะให้ผมมาทำลายครอบครัวเธอเหรอ
    เธอก็ไม่ตอบ
    ถามว่าเคยเข้าใจ สถานะ เข้าใจความรู้สึกบ้างไหม เธอก็ไม่ตอบ


    ถ้าเรามองโลกในแง่ความเป็นจริง เราก็ควรพยายามมองว่า เราเพิ่งจบมายังไม่มีฐานะอันควรที่พอจะเลี้ยงเธอกับลูกได้ดีเท่ากับที่เธออยู่ตรงนี้ หรือ ในอดีตชาติกับผู้ชายคนนั้น เขาอาจเคยผูกพันกันมาก่อน (ผลจากการที่ผู้ชายมีเมียมาก หรือ หลอกลวงผู้หญิงไว้มากทำให้เกิดชาติใหม่เป็นเกย์เพื่อมารับกรรมค่ะ)หรือ ทำกรรมไม่ดีร่วมกันมา ที่ต้องชดใช้ร่วมกัน หรือ เธอไม่ต้องการให้มีปัญหากับครอบครัว ของ จขกท. นะคะ

    กรณีทางเลือกที่ 2


    ทางเลือกที่ 2 คือให้ผมเป็นญาติสนิท เป็นน้า คอยดูเค้าเติบโตอยู่ห่างๆ
    คอยส่งเงินช่วยเหลือตามสมควร ที่บ้านผมไม่รับรู้เรื่อง แน่นอนว่าทางนี้
    ฝ่ายที่เจ็บก็คือผม แต่ผมคิดว่าทางเลือกนี้มันดู นุ่มนวลและไม่ก่อเรื่องให้วุ่นวาย


    ถ้าหากเป็นทางเลือกนี้ แล้ว สบายใจ เข้าใจเหตุที่มาที่ไป ที่เราเคยอาจสร้างกับใครไว้ก่อน หรือ เราเรียนรู้เรื่องนี้ เพื่อที่จะไม่ไปทำกับใครให้เขาได้รับทุกข์อย่างเรา ถ้าเราเข้าใจและยอมรับ เราก็จะตัดสินใจด้วยเหตุผล ให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นไปตามเหตุที่มันควรจะไป ไม่มีการน้อยใจ และพยายามทำในสิ่งที่ดีสุด เพื่อไม่ให้ใจเกิดการกระทำกรรมในสิ่งที่ไม่ดีร่วมกัน ถ้าหากรักจริง ก็หมั่นชวนกันร่วมกันสร้างความดี บางทีอาจทำให้ใจเราสบายใจขึ้นก็ได้นะคะ ทำให้สิ่งที่เรารู้สึกสบายใจที่สุด นั่นเป็นทางที่ดีที่สุด

    เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ด้วยดี อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่บอกนะคะ พิจารณาหาเหตุผลให้ประจักษ์กับใจตนเสียก่อน ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงการเสนอแนะแนวทางออก ท่านเองเท่านั้นที่เป็นผู้รู้ดีที่สุด ว่าใจจะเอาอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2014
  9. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,515
    ยังหวังอีกหรือคุณ GhostHead เค้าผ้วสามแล้วนา
     
  10. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,816
    ค่าพลัง:
    +15,099
    มลทินใจนั้นยากถอนหมดสิ้น
    บ่วงหน่วงเหนี่ยวรั้งชีวิญหม่นหมอง
    ทำจิตใจให้ไหวหวั่น
    อดีตพลาดประมาทพลั้งเพราะหลงกลกาม

    แก้ใจอย่าให้กำหนัด
    รึงรัดยากเกินจักถอน
    รักแท้มิควรตัดรอน
    ทุกข์สอนอนาคตให้ปล่อยวาง

    วางกายวางใจให้ถูก
    คิดถูกทำถูกเถิดหนา
    ถึงยามแก่เฒ่าชรา
    จะหาอะไรในเปลือกตม!
     
  11. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    สำหรับผม ถ้ารักใครสักคน ความรักและความเข้าใจ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
    ส่วนเรื่องปัจจัยภายนอกไม่มีความสำคัญสำหรับผม
     
  12. Penty

    Penty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2014
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +1,580
    พระเอก พ่อพระตัวจริง แซวๆ นะคะ
     
  13. Penty

    Penty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2014
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +1,580
    ทางเลือกนี้นี่ ก็มีผลลัพธ์ 2 ทางแฮ่ะ อารมณ์เลี้ยงลูกชาวบ้าน ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นลูกตัวเอง แบบแรก คุณคอยดูแล ให้กำลังใจ แต่ต้องทนกับความเจ็บปวดใจ เหมือนเป็นส่วนเกิน ลูกเรียกพ่อก็ไม่ได้ เจ็บลึกๆนะ แบบ 2 คุณดูแลเค้าอ้ะแหล่ะ แต่พอทำงาน เจอสังคมใหม่ๆ สาวใหม่ๆ คุณอาจจะทิ้งลูก เมีย ก็ได้ เพราะอาจจะคิดว่าแค่คอยดูแลห่างๆ ก็ไม่ผิดอะไร เพราะคุณ 3 คนเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่คนอื่นไม่รู้ คุณอาจจะได้มีแฟน ในอนาคตอาจจะแต่งงานกลายเป็น มี 3 ครอบครัว ครอบครัวของเธอ ครอบครัวของฉัน และครอบครัวของเรา เอาเป็นว่ายึดที่ฝ่ายหญิงสบายใจที่สุด ยังไงเธอเป็นแม่ เธอต้องคิดเผื่อลูกของเธออยู่แล้วล่ะค่ะ
    ปล.ขอโทษมากๆล่วงหน้า ตรวจดีเอ็นเอ ด้วยก็ดีนะคะ อย่าโกรธเรานะ สู้ๆนะคะ ทุกปัญหามีทางออกค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2014
  14. Tawan1990

    Tawan1990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +320
    อัพเดทครับ 3 ก.พ.57
    ผมตัดสินใจยังไม่ได้บอกที่บ้านครับ
    กะว่าจะหางานทำหาเงินใช้เองได้ก่อนจึงบอกกับที่บ้าน

    ส่วนเรื่องตรวจ DNA ผมคุยกับเธอครับว่า อยากตรวจ
    เธอก็บอกว่า ไม่ตรวจถ้าจะตรวจก็เลิกกันเลย เธอเลี้ยงลูกเอง
    ดูถูกเธอเหรอ ไม่ไว้ใจเธอเหรอ หาว่าเธอมั่วทั้งที่มีอะไรกับผมคนเดียว
    ถ้าผลออกมาไม่ใช่ลูกผมล่ะ ผมจะไม่รักเด็กคนนี้ใช่มั้ย ? ผมนี่อึ้ง+เงียบเลยครับ เฮ่ออ


    วันนี้ไปฝากครรภ์มาครับ
    ไปกับ 3คน
    มีตรวจโน่น ตรวจนี่
    ตรวจเลือดพ่อ เลือดแม่
    ผมก็ถามเธอนะ ว่าให้ผมตรวจไหม ถามตั้ง2-3ครั้ง
    เธอก็อ้ำอึ้ง
    สุดท้าย เธอตรวจเลือด พี่แทนตรวจเลือด ปล่อยให้ผมนั่งเฝ้าของนั่งรอ อืม...
    ผลออกมา ปกติทั้งคู่
    บอกตามตรงว่าผม อึดอัด-เหนื่อยใจ-ลำบากใจ มากครับ
    ที่ต้องทำตัวเหมือนญาติ เหมือนน้องชาย

    พอผมกลับบ้านมาก็คุยกับเธอ
    เธอจะให้ผมไปตรวจเลือดอีกต่างหากคนเดียว
    ผมก็บอกว่า แล้วทำไมไม่ให้ตรวจตั้งแต่เมื่อเช้า
    เธอก็บอกว่า เดี๋ยวพาไป เตรียมตังมาด้วย 1200บาท
    พวกเค้าไม่เสียเงิน เพราะใ้ช้สิทธิสามี-ภรรยา
    ผมก็บอกว่า เออดีเนอะ ไอเรามันคนไม่มีคู่
    และผมพูดความในใจออกมาว่า ผมเบื่อ ผมเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ อึดอัด ตลอดเวลา
    ที่ต้องหลบๆซ่อนๆ ไม่ตกในสถานะเธอไม่รู้หรอก บ่น+ระบายออกมาหมดเพราะเก็บกด

    เธอก็บอกว่า ไม่ให้จ่ายค่าฝากครรภ์ก็บุญแล้ว เบื่อมากก็เลิกไปสิ
    แล้วเธอก็ตัดการติดต่อไปเลย

    ไว้จะมาอัพเดทเรื่อยๆนะครับ
    ใครที่รู้ตัวว่ากำลังจะตกอยู่ในสภาวะแบบผม คิดให้ดีนะครับ
    บ้านพลังจิตแห่งนี้ อบอุ่นเหลือเกินครับ

    พรุ่งนี้ผมไปสัมภาษณ์งานครั้งแรกด้วย ตื่นเต้นมากเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2014
  15. Penty

    Penty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2014
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +1,580
    เอาใจช่วยนะคะ
     
  16. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,248
    ค่าพลัง:
    +68,023
    พี่แทนก็ทราบเรื่องแล้วใช่ไหมคะ

    แล้วเขาออกความเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ

    อืม วันก่อนคุณTawan บอกว่าจะคุยกันสามคน
     
  17. Tawan1990

    Tawan1990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +320
    ใช่ครับ ว่าจะคุยแต่พอถึงเวลาพูดไม่ออกจริงๆ

    แต่พอจะเข้าใจล่ะครับ

    ว่า ผมคงเป็นเหมือนญาติสนิทเท่านั้น สายตาในสังคมเขาคือสามี-ภรรยากัน

    แถม อนุญาตให้ผมเลี้ยงลูกด้วยนะ แต่เลี้ยงที่บ้านเขาเท่านั้น เอากลับมานอนกอดที่บ้านคงไม่ได้

    ผมว่า ผมคงทนรับสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแน่ๆครับ

    ถึงเด็กในท้องจะเป็นลูกผม แต่เขาเติบโตอยู่กับพวกเค้า
    ยังไงเขาคงไม่รัก ไม่ผูกพันกับผมแน่นอน
    ไม่ได้อยู่ ไม่ได้เลี้ยงลูก แถมยังต้องส่งเงินช่วยเหลือค่าโน่นนี่อีก
    คิดแล้วปวดใจจริงๆครับ
     
  18. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    แฟนคุณเค้าเครียดอะไรหรือเปล่า ชีวิตเค้ามีความกดดันมากเลยเหรอ
    อ่านๆ ดูแล้ว ทำไมคำพูดคำจาเค้าเหมือนไม่รัก ไม่แคร์ ไม่ให้เกียรติคุณเลย
    ก็น่าแปลกนะ ที่เค้าอายตอนท้องไม่มีพ่อ แต่ไม่อายที่จะใช้ชีวิตแบบสามคนผัว-เมีย
    ส่วนเรื่องใจเด็ดน่ะ ผู้หญิงหลายคนใจเด็ดกว่านี้เยอะ ใจเด็ดตรงที่ถึงท้องไม่มีพ่อ ก็พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตตัวเองและลูก
    เป็นคุณแม่ใบเลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองคนเดียว ไม่จำเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้ชาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2014
  19. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940

    ท่านจขกท ยังไม่สำคัญว่าท่านเป็น"คนนอก"อีกหรือครับ?
    ท่านจขกท..อายุยังน้อย ประสบการณ์เรื่องผู้หญิงอาจน้อยมาก (คะเณตามเรื่องที่ท่านเล่ามา..).. อย่าอยู่ในโลกแห่งละครเลย..ความจริงคือท่านนั้นเป็น"บุคคลที่๓" หรือคนนอกมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ท่านพาตนไปคบคุ้นเสพส้องกับสามีภรรยาูคู่นี้แล้ว แม้ท่านจะได้มีเพศสัมพันธ์ใดๆกับหญิงนี้ ท่านก็เพียงพาตนจมไปในฐานะ"ชู้"เท่านั้น ไม่อาจเปลี่ยนหรือเชิดชูฐานะท่านให้กลายเป็นสามีอะไรๆของหญิงนั้นได้ ... เวลานี้ท่าน"อาจ"มีฐานะเพิ่มอีกคือการเป็นพ่อของทารกในครรภ์หญิงนั้น ซึ่งเป็นสิ่งประจานตนของท่านและหญิงนั้น อย่างน้อยก็โดยสำนึกของท่านและหญิงนั้น.....แม้ใครอื่นๆไม่ทราบก็ตาม..


    ดังนั้น แทนที่ท่านจะนึกสลดสังเวชว่าตนไม่ได้รับความสำคัญในฐานะอะไรๆในชนกลุ่มนี้ ท่านพึงสังเวชสลดใจในพฤติกรรมผิดพลาดที่ท่านได้ล่วงศีล ทำเรื่องที่โลกติเตียน แม้หากคุณแม่ที่เลี้ยงดูท่านมาด้วยความรัก เมตตายิ่งนัก จะปวดร้าวระทมขมขื่นสักปานใดหากทราบพฤติกรรมของท่าน หากท่านไม่ต้องการทำร้าย หรือเป็นเหตุแห่งมาตุฆาตร(ทราบว่าคุณแม่เป็นโรคหัวใจ) ท่านพึงยุติ ความอาลัยอาวรณ์ในหญิงนี้ เสีย โดยเร็ว มาตรว่าท่านต้องตายเพราะไม่ได้พบหรือเสพเพศรสแห่งหญิงผู้มีเจ้าของนี้ ท่านก็ยังไม่ไปอบายด้วยเหตุนั้น แต่หากท่านเป็นเหตุให้หัวใจคุณแม่แตกสลายที่ทราบการล่วงศีลของท่าน บาปกรรมย่อม เพิ่มพูนหาประมาณมิได้ ...ตัวท่านเองเล่า..หากท่านมีลูก แล้วในภายหน้า เขาเดินตามรอยเท้าของท่าน เลียนแบบชีวิตท่าน เสพส้องด้วยอาการเป็นชู้กับคู่คนอื่น ท่านจะสามารถปลื้มใจโสมนัสยิ่งนัก ในวิถีนั้นหรือไม่?...

    บัดนี้ท่านพึงสลดใจที่ท่านกลายเป็นทาสของตัณหาที่ลากจูงท่าน ให้ยินดีปรารถนาในสิ่งที่ผิดปรกติให้มาก พึงพยายามฝืนสู้กับกิเลสที่มีกำลังนี้ให้ได้
    เ พราะท่านกำลังสั่งสมอุปนิสสัยที่ จะยินดีร่าเริงในการทำบาปเวรภัยอันรังแต่จะนำความวิบัติมาสู่ตนเท่านั้น ท่านอย่าได้ประมาทกำลังของกิเลสเลย เขาฉลาดและแข็งแรงกว่าเรามากมายนัก...





    ท่านจขกท. อย่าได้หลงผิดคิดว่าทารกกับตุ๊กตาจะเหมือนกันเลย ในละครนั้น การเลี้ยงเด็กดูเหมือนการเล่น ตุ๊กตา...แต่ในชีวิตจริง การเลี้ยงเด็กเป็นเรื่องที่ลำบากมาก เป็นงานหนัก ที่ต้องอาศัยทั้งแรงกายแรงใจอย่างมาก..เขาจะแหกปากร้องไม่หยุด ในตอนที่ท่านนอนหลับสบายไม่อยากได้ยินอะไร และไม่ต้องการตื่นมาทำธุระอะไรอื่นนอกจากถ่ายหนักหรือเบาเพราะเป็นทุกข์บีบคั้นตนอยู่..เขาจะแผดเสียงร้องไม่หยุดเพราะหิวแทบตลอดเวลา ถ้าให้ดื่มกินมากไปหรือน้อยไป เขาอาจอ้วกหรือ ปวดท้อง ร้องไห้มือเท้าเกร็งราวกับต่อสู้กับยมบาลเพื่อรักษาชีวิต...

    .เมื่อเอาอาหารเข้าไปในกาย ที่เขาจะไม่ถ่ายเทออกมาเป็นอุจจาระบ้างปัสสาวะบ้าง อาเจียรบ้างแทบตลอดเวลา นั้นอย่าหมาย ท่านจขกท จะไม่ได้นอนกอดทารกที่นิ่งๆเหมือนตุ๊กตาอะไร ดังที่ท่านเห็นในภาพวาดหรือภาพถ่ายน่ารักๆที่เขาแสดงไว้ในที่ต่างๆ แต่จะต้องคอยเปลี่ยนผ้าอ้อมที่เต็มไปด้วยขี้แลเยี่ยวนับครั้งไม่ถ้วน...แล้วท่านจขกท..จะมีเวลาว่าง หรือพร้อมที่จะตื่นมาตอนตี๒เพื่อต้มน้ำร้อน ชงนมให้ทารกหรือเปล่า?..

    ความรักที่ท่านควรมีคือรักโดยไม่ต้องอยากเป็นเจ้าของ..รักด้วยเมตตา หากลูกจะไปรักคนอื่นที่เลี้ยงดูเขาอย่างดี ท่านก็พึงยินดีปราโมทย์ในบุญที่สนับสนุนรับรองเด็กในอาการนั้น มากกว่าจะมานั่งคิดน้อยใจหวงแหนว่า เอ้อ ไอ้นี่ลูกเรา เราต้องได้มาครอบครอง เพื่ออะไรครับ?..เพื่อให้เ็ป็นภาระให้แม่ที่แก่เฒ่าต้องมาเลี้ยง? เพราะท่านจขกท ไม่มีเวลาเลี้ยงเอง?....ท่านจขกท มีโอกาสส่งเสียเงินให้แม่เขาเลี้ยงก็เป็นบุญกุศลมากแล้ว ส่วนความกระตือรือร้นอย่างอื่นที่ท่านไม่อาจทำได้เพราะมีปัจจัยอื่นๆมาขวางกั้น ..ท่านก็พึงยอมรับ ว่าท่านทำผิดมาแต่แรก ที่ใหนผลที่ถูกต้องจะโผล่มาเพราะเหตุที่ผิดนั้นได้ แล้วรักษาใจตนไว้ในความสงบสันติ ไม่กระวนกระวายอะไรๆอีก ..

    สิ่งใดท่านทำได้ก็ทำไป ถ้าทำไม่ได้ก็ปล่อยวางด้วยปัญญาไม่คิดจะแย่งยื้ออะไรๆมาแบกให้หนักตน ..ชีวิตท่าน ยังมีเวลาที่จะแบกภาระอีกยาวนาน ท่านพึงขวนขวายเดินตามครรลองแห่งศีลธรรมเถิด.. ถ้าว่าจะต้องย้ายภพในเวลาใดในขณะจิตเร่าร้อนด้วยตัณหาแล้ว การได้กำเนิดเป็นสิ่งมีชีวิตรอบตัวหญิงที่ท่านยึดมั่นจะเป็นไปได้สูง..แต่ในฐานะเหล่านั้น ท่านอาจกลายเป็นเป้าหมายแห่งการฆ่าเพราะท่านไม่ได้มีกายของมนุษย์หรืออวัยวะมนุษย์ แต่อาจมีร่างเป็นแมงมุม จิ้งจกหรือแมลงสาปฯลฯ ใครเล่าจะไม่คิดกำจัด?!..

    ขอให้ท่าน มีตาดีมีใจเข้าสู่ความสงบ เจริญในศีลธรรมเป็นปรกติ รักษาตนไว้ในครรลองแห่งธรรม เพื่อประโยชน์และความสุขของตนและผู้เกี่ยวข้องทั้งมวลได้ตลอดไป..

    เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ



     
  20. Tawan1990

    Tawan1990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +320
    คุณ ddman มาทีไร ชีวิตผมเหมือนได้รับแสงสว่างเสมอเลยครับ
    ข้อคิดเต็มไปด้วยแง่คิด ข้อเตือนใจ เปี่ยมไปด้วยความหวังดี
    ผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้
    และยอมรับผลของการกระทำของตนเองครับ
    ขอบคุณมากๆ จากใจเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...