ขออนุญาต นอกเรื่อง วันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ. 50 นี้ ไปฝึกมโนฯ ที่บ้านสายลมกันมั๊ยครับ

ขอต่ออีกนิดนะครับ พอดีเกิดความรู้สึกขึ้นมา

ช่วงนี้เบื้องบนประทานพลังให้มายังโลกมนุษย์
โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้นจะปฏิบัติทางจิต
จะได้รับกระแสพลังบวกได้มาก
แต่ในทางกลับกัน กระแสพลังลบ ก็คอยขัดขวาง
ไม่ให้มีคนเจริญภาวนา สมาธิจิต กันมาก

ดังนั้นผู้ที่ตั้งใจไปปฏิบัติก็มักจะถูกขัดขวาง
ให้มีเหตุจำเป็นต่างๆนานา
ทำให้ไม่ได้เริ่มต้น หรือ ไม่ได้รับการพัฒนาให้สูงส่งขึ้นไป

เปรียบเสมือนความมืด เป็นแดนสิงสู่ของภูตผี มาร ปีศาจ
ที่มีอารมณ์ ชอบทำลาย
หากแสงสว่างเข้ามาสาดส่องเมื่อใด พวกเขาก็อยู่ไม่ได้
ฉันใดก็ฉันนั้น

ผมจึงรู้สึกว่า ต้องรีบเร่ง ปฏิบัติ พัฒนาจิตวิญญาณให้สูงส่ง
เวลาเหลือน้อยแล้วจริงๆ เหล่ามาร กำลังเริงร่า
เราต้องช่วยตัวเราเองให้แข็งแรง ก่อน จึงจะช่วยผู้อื่นได้ นะครับ

 

เห็นด้วยกับคุณ MOUNTAIN ครับ ว่าตอนนี้เราต้องเริ่มปฏิบัติกันแล้ว
รอช้าไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับครับว่าอุปสรรคเยอะจริง ๆ
บ้านตลิ่งชันนี่ก็ยังไม่แน่ไม่นอนเลยครับว่าจะไปได้หรือเปล่า เพราะช่วงตรุษจีน
ต้องตระเวนเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ตอนนี้ก็ต้องฝึกสมาธิที่บ้านตามแนวทางเดิม
ที่เคยฝึกมา แต่รู้สึกเหมือนกันว่าช่วงนี้เวลาทำสมาธิที่บ้านมันง่ายขึ้น
แล้วก็ไวขี้น รู้สึกว่าก้าวหน้ามาก ๆ อาจจะจริงอย่างที่คุณ MOUNTAIN
บอกก็ได้ว่า เบี้องบนส่งพลังลงมา หรือว่าผมอุปทานไปเองก็ไม่รู้ แต่ยังไง
เรื่องมโนฯ นี่ก็จะลองสู้ดูอีกที ถ้าอยู่กรุงเทพฯ ยังไม่มีหวังสงสัยต้อง ทำแบบที่
คุณ kananun บอกครับ ทิ้งเรื่องวุ่นวาย แล้วหนีไปวัดท่าซุง ซัก ๒ - ๓ วัน
ไม่งั้นคงไม่ได้ฝึกซักที
(b-uh)

 

วันนี้ เห็นไปฝึกมโนกันหลายท่านครับ

ทางคุณCattbrewer พาเพื่อนไป 7ท่าน คุณตั้ม คุณกิ๊ก คุณกิเลสหนา คุณถาวร ส่วนคุณลุงหมูบินกับผมคลาดกันแป๊บนึงครับ

เลยมีสนทนาธรรม และสัปเพเหระกันต่อ นอกรอบที่หน้าปากซอยสายลมครับ

ขอโมทนาบุญทุกท่านที่มีความตั้งใจ และความเพียรไปฝึกเพื่อความเข้าถึงซึ่งความดีทุกๆท่านครับ

พรุ่งนี้คงมีไปฝึกกันอีกชุดหนึ่งครับ ของโมทนาด้วยเช่นกันครับ

 

ขอโมทนา ยามมีภัยบุ๋นและบู๊ต้องเคียงกันไป

 

อืม ตามที่เข้าใจนะคับ ที่บ้านตลิ่งชัน ไม่ได้มีการสอนฝึกมโนฯ อย่างที่บ้านสายลมคับ คือไม่มีครูฝึกมาฝึกให้ ไม่มีการนั่งเป็นวง ๆ สอน ไม่ได้สอนผู้มาฝึกใหม่อะคับ

เมื่อวาน ผมก็ไปบ้านสายลมเหมือนกัน แต่ไม่เจอใครเลย อุอุ ...

 

อ้าวไปกันตั้งร่วมยี่สิบคนครับ

แต่ไม่เจอก็ไม่เป็นไรครับจะได้ไม่พะวักพะวงห่วงกัน

ขอโมทนาบุญกับทุกท่านอีกครั้งครับผม

 

วันเสาร์ไปฝึกกับอาจารย์ไก่มา ส่วนวันอาทิตย์ไปบ้านสายลมคนเยอะมาก ได้แค่ทำสังฆทานกับซื้อหนังสือไม่ได้ฝึก

 

เมื่อวาน(อาทิตย์ 4/2/50) ผมแวะไปฝึกมโนฯ
ที่บ้านซอยสายลม สมปรารถนาครับ
คนมากๆๆๆ จริงๆ
ที่มาถวายสังฆทาน ก็หนาแน่น ตลอดทั้งวัน

ผมได้ขึ้นไปฝึกชั้นสาม (สำหรับผู้เริ่มต้น)

ก่อน 11.00 น. คนมานั่งคอยการฝึกยังน้อย
พอ 11.30 น. ไม่รู้มาจากไหน นั่งกันเกือบเต็มห้อง

ผมเห็นมีผู้ปกครองพาเด็กมาฝึกด้วย ประมาณ 20 กว่าคน
ต้องแยกฝึก ไม่ฝึกรวมกับผู้ปกครอง
เด็กๆ อายุ ประมาณ 5-7 ขวบ เท่านั้น
เห็นแล้วก็ปลื้มครับ
สมัยผมอายุ เท่านี้ ยังไม่รู้เรื่องการฝึกสมาธิเลย
น่าละอายจริงๆ หากได้ฝึกตั้งแต่เด็กๆ
ผมว่าป่านนี้ คงใช้ประโยชน์ให้กับสังคมได้เยอะทีเดียว

มีรูปมาฝากด้วยครับ

 

ห้องฝึกชั้นสาม จะมีห้องย่อยซ้าย ขวา
รวม 13 ห้อง เมื่อทุกคนมารวมกันแล้ว
รับฟังคำแนะนำ หลังจากนั้น
ก็แบ่งเข้าห้องย่อย ห้องละ 10-12 คน
แยก ชาย-หญิง ไม่ปะปนกัน
เด็กๆ จะอยู่ห้องโถงกลาง
ห้องย่อยแต่ละห้อง จะมีครูฝึก 1 ท่าน
ห้องชั้นสามนี้ ติดเครื่องปรับอากาศ แบบท่อ
อากาศเย็นมาก บางท่านต้องเตรียมเสื้อหนาๆ ไปด้วย
(f)

 

คนเยอะจังเลย

มารในตัวเรามันชอบสันโดษ สงสัย อด ชัวร์


-_-"



อนุโมทนากับคนที่ได้มีโอกาสเดินทางไปฝึกค่ะ
._/l\_.

 

ในการฝึกมโนฯ ครั้งแรกของผม
ครูฝึกจะเน้นให้ทุกคน พยายามรู้เห็นด้วยใจ
ทุกขณะที่นำไปสู่ยังสถานที่ต่างๆ ด้วยคำพูด
ทุกคนต้องตอบรับคำถาม ว่า เห็นมั๊ย เป็นอย่างไร
ถ้ายังเห็นไม่ตรงกัน ก็ให้อธิษฐานขอให้เห็นตามสภาวะที่เป็นจริง

การนำใจให้เข้าไปรู้เห็น ตามคำพูดของครูฝึก
ถ้ามองอย่างผิวเผิน เหมือนกับการพูดนำ แล้วให้สร้างจินตภาพตาม

แต่ถ้ามองอย่างลึกซึ้งและเข้าใจความหมาย
คำว่า มโนมยิทธิ คือ ฤทธิ์ทางใจ แล้ว
ก็ต้องมีวิธีการ ทำอย่างไร ให้เกิด ฤทธิ์ทางใจ

ตามปกติ เราใช้ชีวิต ไปวันๆ
โดยอาศัยการรู้สึก เห็น ผ่านทางตา
รู้สึกหวาน ขม เผ็ด ทางลิ้น ได้ยิน อาศัยหู ได้กลิ่น ผ่านทางจมูก
รู้สึก เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง

ชีวิตเราช่ำชองชำนาญ กับการรับรู้ผ่านอายตนภายใน
ไม่เคยรู้โดยตรง ด้วยใจ
ดังนั้น การจะใช้ใจเข้ามารับรู้โดยตรง ไม่ผ่าน ประสาทสัมผัส
ต่างๆทางกาย จึงจำเป็นต้องฝึก
ฝึกเพื่อให้ ใจ เกิดความเคยชินให้ได้
เมื่อนั้น ผลทางใจที่ไม่ต้องผ่านประสาทสัมผัสทางกาย
ก็จะเกิดประสิทธิภาพ เกิดเป็นฤทธิ์ อำนาจขึ้นทางใจ

ดังนั้น อย่าเพิ่งปฏิเสธ การฝึกมโนมยิทธิ เบื้องต้น
วิธีการนั้น แม้จะต้องสร้างจินตภาพ ตามคำชี้นำ ก็ตาม
แต่ผลของมัน จะทำให้ ใจ หรือจิต ของเรา
ค่อยๆ เกิดความชำนาญ ในการเห็นภาพด้วยใจ
แล้วการพัฒนา ก็จะเกิดตามมา เป็นลำดับขั้นตอน
ซึ่งอาจต้องใช้เวลามาก สำหรับคนบางคน ที่ไม่มีพื้นฐาน
การฝึกสมาธิมาก่อน และอาจทำให้เบื่อหน่าย ถอดใจไปก่อน
ก็จะเป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

ขอให้พยายาม อดทน ตั้งใจฝึก
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น นะครับ

สำหรับผม ก็จะพยายามฝึกต่อไปครับ
แต่ต้องระวัง กลลวง ของ ผีปีศาจ มาร ซาตาน นะ
มันกำลังจ้องทำลายอยู่

ด้วยความปรารถนาดีครับ(f)

 

มีข้อแนะนำสำหรับผู้ฝึกใหม่ นิดนะครับ

การฝึก จะมีการพูดถึงสถานที่ ที่จะนำจิตเรา
ให้เห็นภาพ โดยเฉพาะบางคนอาจไม่เคยเห็น
ภาพและสถานที่เหล่านั้นมาก่อน
ลองหาภาพมาดูให้เห็นจริง ก่อน จะทำให้
การฝึกง่ายขึ้นนะครับ

- ภาพพระจุฬามณี ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว)
-ภาพวิสุทธิเทพ
-ภาพวิมานของเทวดา
-ภาพพระพุทธเจ้า(สมเด็จองค์ปฐม)
-ภาพท่านพ่อ-ท่านแม่
-ภาพพระอิศวร

เมื่อมีความชัดเจนในภาพและสถานที่ ดังกล่าว
จะทำให้เกิดกำลังใจในการฝึกต่อๆไป

สำหรับ การฝึก ญาณแปด ทราบว่า
มีการนำชม ขุมนรก ของ พวกผิดศีล ด้วย

ฝึกครั้งต่อไป คงต้องลอง แล้วครับ(f)

 

เพิ่มเติมอีกหน่อยครับ

ทุกครั้งที่มีการเปิดบ้านสายลมรับสังฆทาน
และฝึกมโนฯ ก็จะมีร้านค้ามาเปิดจำหน่าย
อาหารด้วยนะครับ
ใครที่หิว แนะนำ ข้าวขาหมู ตุ๋นยาจีน สุดอร่อย
และ กระเพาะปลาแท้ๆ รสชาติเยี่ยม

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกมากมายหลายร้าน
สาธยายไม่หมด เชิญตามอัธยาศัยครับ