ขออนุญาต เรียนเชิญบุญ ผ้าป่าสามัคคี เพื่อเป็นกองทุนสมทบเพื่อสร้างศาลาการเปรียญ

ขออนุญาต เรียนเชิญบุญ ผ้าป่าสามัคคี

เพื่อเป็นกองทุนสมทบเพื่อสร้างศาลาการเปรียญ ณ วัดบ่อหลวง อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

วันที่ 1 มกราคม 2564





นี่เป็นกองทุนแรกเริ่ม ของศาลาการเปรียญแห่งนี้ เพื่อในอนาคต จะได้มีผู้มาต่อยอดเพื่อสร้างให้เสร็จสิ้นครับ

จุดประสงค์ในการสร้าง เพื่อให้ชาวบ้าน และพุทธศาสนิกชนได้ใช้ประโยชน์ เช่นจัดเป็นที่ สถานที่ประกอบ ศาสนพิธี พิธีกรรมงานบุญต่างๆ เนื่องจาก วัดบ่อกลวง ตั้งอยู่บนเขา และเป็นพื้นที่ห่างไกล ยังขาดเจ้าภาพและทุนทรัพย์ในการจัดสร้าง โดยชาวท้องถิ่นส่วนใหญ่ จะเป็นชาวเขา ร้อยละ 80

และครั้งนี้จึงเป็น ปฐมผ้าป่า ของปี 2564 และ ยังเป็นกองทุนแรกที่จะทำให้มีการเริ่มต้นเกิดขึ้นครับ จึงอยากร่วมเชิญมาร่วมบุญด้วยกัน เพื่อให้ชาวบ้านที่ห่างไกล ได้ใช้ประโยชน์ของศาลาการเปรียญนี้ในอนาคต ครับ


ยังขาดปัจจัยในการสร้างอยู่มาก ครับ




โดยจัดเป็นกองบุญ

ประธานกิตติมศักดิ์ กองบุญละ 5,999.-

ประธานกองบุญละ 999 บาท

รองประธานกองบุญละ 599 บาท

กรรมการ 199 บาท



สามารถร่วมบุญได้ที่ :

บัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส.)
สาขา ปัว

ชื่อบัญชี พระบุญแทน คำปา

เลขที่ 020-187-432-861

เบอร์ติดต่อ 099-8965351 (โตโต้ โยมอุปถาก)












ความเชื่อส่วนบุคคล


การเป็นผู้นำ ผู้ริเริ่มมงานบุญใดใด จักมักได้รับสิ่งเป็นมงคลอันดับแรกๆ มักมีคนนึกถึงลำดับแรกๆ

และเป็นบุคคลซึ่งสิ่งศักดิ์ ทวย เทพ เทวดา จักรักและเอ็นดู และรับคำขอ เป็นบุคคลแรกๆ เช่นกัน

***************************************************************************


อานิสงส์แห่งการสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ศาลาการเปรียญ

อานิสงส์ในชาตินี้เพื่อตน )

๑.ทำให้จิตใจเยือกเย็น ครอบครัวอบอุ่น ลูกหลานกตัญญู มีปีติสุขตลอดเวลา

๒.มีเพื่อนดี มีบริวารซื่อสัตย์ ธุรกิจก้าวหน้า ธุรกิจมั่นคง

๓.ชีวิตมีแต่ความเป็นสิริมงคล มีความอุดมร่มเย็นเป็นสุข

๔.พ้นทุกข์ ภัย โรค โศก ศัตรู ภัยพาลทั้งปวง


อานิสงส์เพื่อคนอื่น (

๕.ได้สร้างธรรมนาวา ขนสัตว์น้อยใหญ่ ข้ามทุกข์ในวัฏฏะสงสาร ก้าวถึงฝั่งคือพระนิพพาน

๖.ได้ให้ธรรมทาน และให้อโหสิกรรม


อานิสงส์ในภพหน้า )

๗.มีอริยทรัพย์ ไม่ทุกข์ยากลำบาก

๘.มีสุคติโลกสวรรค์ในเบื้องหน้าแน่นอน

๙.เลื่อนชั้นจิต ได้ภพภูมิที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป




รายชื่อผู้ร่วมบุญ
​

ประธานกิตติมศักดิ์ กองบุญละ 5,999.-

1 คุณชัยธวัฒน์ มอญขันธ์
2 คุณปัทมาพร มานะกิจ
3 คุณกชมน
4 คุณกรกช คุณวุฒิมโนธรรม
5 คุณปวีณา แฝงจันดา

ประธาน กองบุญละ 999.-
1 คุณธนัชพรรณ ก่อสกุลรุ่งโรจน์ พร้อมครอบครัว
2 คุณวรชัย สุทำแปง และครอบครัว พร้อมครอบครัว
3 คุณอาทิตยา โวทาน
4 คุณรุ่งนภา ทรายหมอ
5 คุณอมรพงศ์ อมฤก
6 คุณฐิติวัชร จันทะลือ
7 คุณชยกร ตั้นไสว
8 คุณวรพล บุญสวัสดิ์
9 คุณวิฑูรย์ ตั้งปฏิการ
10 คุณสุนี เตชะพนาดร
12 คุณธนศาสน์ ลือคำหาญ
13 คุณ พนิตา สุเดชมาร์ค
14 คุณ ณัฐวุฒิ เลิศวนานนท์ และครอบครัว


รองประธาน กองบุญละ 599.-
1 คุณฉลาด - คุณดวงจันทร์ สุคันธตล
คุณ ระชานนท์ สุคันธตล และ คุณธัญชนก สุคันธตล
2 คุณปริยากร เกษประดิษฐ์


กรรมการ กองบุญละ 199.-


1 คุณพนัชกร สังข์ใหม่
2 คุณตรีทิพย์นิภา เตชะเพิ่มผลและ คุณรติรส เผ่าพหล
3 คุณวรผกา ด.ช.รตนสุธี หัวเพชร และคุณบุญญฤทธิ์ วัฒนาคาม
4 คุณเอกมล ปิ่มแก้ว
5 คุณนพพร ไชยโย พร้อมครอบครัว
6 คุณศุภชีพ ชำนาญจุ้ย พร้อมครอบครัว
7 คุณธนกร ถนอมเวช และครอบครัว
8 คุณเซาะเจ็ง แซ่ตั้งและครอบครัว
9 คุณมงคล คุ้มสกุล และครอบครัว
10 คุณอัฐตพล อินต๊ะเสน และครอบครัว
11 คุณฤทธิชัย หิสวาณิชย์ และครอบครัว
12 คุณธันวา - คุณศรัญญา ม่วงเลี้ยงและครอบครัว
13 คุณชัยณรงค์ สุธรรมแปง -คุณมยุรา ลื้อหลัว และครอบครัว
14 คุณพรพรรณ กิจพายัพ และครอบครัว
15 คุณลิขิต ทนุกิจ
16 คุณแม่โสภา - คุณอภิวัฒน์ วิประเสริฐ
17 คุณปพิชญา สุขใจ

 

อนุโมทนาบุญครับ

 

ร่วมทำบุญ 20 บาทครับ

 

ขอร่วมบุญ 20 บาทครับ เเละขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วย สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุคับ

 

อนุโมทนาสาธุคับ

 

อนุโมทนาสาธุคับ

 

อนุโมทนาสาธุบุญ
กับคุณ กรกช คุณวุฒิมโณธรรมครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

อนุโมทนาบุญ กับคุณ อักษิกา อัมพุชนานนท์ ร่วมบุญ 2,000 บาท

 

ขอร่วมสมทบเพื่อสร้างศาลาการเปรียญ จำนวน 10 บาท

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

อนุโทนาสาธุครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับที่ร่วมบุญ สร้างกุศล ในสภาวะแบบนี้

 

อนุโมทนาสาธุกับทุกกองบุญครับ

 

35 อานิสงส์สร้างศาลา

......นันทิยะได้ถวายศาลาแก่พระบรมศาสดา ความว่านันทิยะเป็นมหาทานบดี
สร้างวิหารที่ป่าอิสิปตนะพร้อมด้วยเครื่องเสนาสนะ แล้วทำมหกรรมการฉลองอย่างมโหฬาร ถวายแก่
พระภิกษุสงฆ์ มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธานได้หลั่งน้ำทักขิโณทก ตกลงเหนือฝ่าพระ
หัตถ์พระบรมศาสดาในขณะนั้น ปราสาทอันเป็นทิพย์สำเร็จแล้วด้วยแก้ว ๗ ประการ ใหญ่ ๑๒ โยชน์
สูง ๑๗ โยชน์ เพรียบพร้อมไปด้วยนางเทพธิดา ก็อุบัติขึ้นในเทวโลกรอคอยนันทิยะอยู่ “กาลํ กตฺวา”
ครั้นนันทิยะสิ้นชีพทำลายขันธ์แล้ว ก็ได้ไปเสวยสมบัติในเทวโลกอันรอคอยอยู่นั้น มีนามปรากฏว่า
นันทิยะเทพบุตรบริโภคทิพย์สมบัติ อันมีนางฟ้าเป็นบาทบริจาริกา แวดล้อมบำเรออยู่ทุกทิพราตรีกาล
สุขเกษมสำราญอยู่ในทิพย์วิมานนั้น อย่างไม่มีเวลาสร่างซา


ที่มา :https://84000.org/anisong/35.html

 

วิหารทาน
คือการทำบุญถวายหรือร่วมสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ถวายไว้เป็นสมบัติพระศาสนา เช่น การสร้างพระอุโบสถ (โบสถ์) กุฏิ ศาลา วิหาร หอฉัน หอระฆัง ห้องน้ำ เป็นต้น องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่าการถวายวิหารทานมีอานิสงส์มาก โดยมีพุทธดำรัสตรัสเอาไว้ว่า"แม้ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว""แม้การถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าการถวาย " วิหารทาน" ครั้งเดียว"

พ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เคยให้โอวาทธรรม ในเรื่องการให้ทานเอาไว้ว่า
"เราไปที่ใด เกิดที่ใด ผลทานที่เราให้ไปนั่นแหละจะตามสนับสนุนเรา ให้เป็นคนมีความสุขความเจริญ นึกอะไรก็ไหลมาเทมาเพราะเราเคยให้มาแล้ว สิ่งที่ให้ไปนั้นคือมิตร คือสหาย สิ่งที่พึ่งเป็นพึ่งตายของเรา เมื่อเรานึกถึงผลทานย่อมไหลมาเทมา เมื่อนึกถึงบุญต้องมา เพราะเป็นของของเราที่เคยสร้างไว้แล้ว ให้ไปแล้ว ต้องกลับมาสนองตัวเราโดยไม่ต้องสงสัย "

การให้ทานเสนาสนะ (ในที่นี้ที่เราร่วมกันสร้างกุฏิ) นั้นใน กินททสูตร สัง. สคาถ. ข้อ ๑๓๘ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าการให้ข้าวและน้ำ ชื่อว่า ให้กำลังการให้ผ้า เครื่องนุ่งห่ม ชื่อว่า ให้ผิวพรรณการให้ยานพาหนะ ชื่อว่า ให้ความสุขทั้งกายและใจการให้ประทีบดวงไฟ ชื่อว่าให้ดวงตาการให้ที่อยู่อาศัย ชื่อว่า ให้ทุกอย่าง คือให้กำลัง ให้ผิวพรรณ ให้ความสุข และให้ดวงตาแต่การพร่ำสอนธรรม คือการให้ธรรมะ ชื่อว่าให้สิ่งที่ไม่ตาย เพราะบุคคลจะพ้นจากความตายไม่ต้องเกิดอีกได้ ก็เพราะอาศัยการได้สดับตรับฟังธรรม ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงตรัสว่าการให้ธรรมะชนะการให้ (สิ่งอื่น) ทั้งปวง แม้การจะทำทานให้ถูกต้องก็ต้องอาศัยการฟังธรรม

เสนาสนะทานการให้ที่อยู่ที่อาศัย ชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็ยังเป็นรองจากการให้เสนาสนะทานเหตุนี้เพราะอะไร จะเป็น กุฏิ ศาลา วิหาร ที่มุงบัง หรืออะไรก็ตามแต่หากพออาศัยอยู่ได้ก็เป็นเสนาสนะ สามารถเข้าหลบฝน แดด ลม เย็นร้อนหนาว น้ำหมอกน้ำค้าง และสัตว์ก่อความรำคาญทั้งหลายอันมีเหลือบ ริ้นไร ยุงแมลงเป็นต้น เป็นที่คนทั้งหลายมาทำบุญ – ทำความดี เป็นที่เร้นหลีกพักผ่อน พิจารณาศึกษาวิจักษ์วิจัยธรรม เป็นที่บดบังอิริยาบถอันไม่งาม ได้ฟังธรรมได้แสดงธรรม ได้สนทนาธรรม ได้อยู่สบายก็เพราะอาศัยร่มเงาของเสนาสนะ

ด้วยเหตุนี้ การให้เสนาสนะเป็นทาน ท่านจึงว่าเป็นผู้สร้างได้บุญมาก ได้บุญอยู่เรื่อย ๆ ได้บุญอยู่ทุกขณะ ได้บุญทุกครั้งที่มีผู้เข้าพักอาศัยใช้สอยใช้ประโยชน์เข้าใช้ชั่วคราวก็ได้ชั่วคราว ใช้มากก็ได้มาก ตลอดเวลาก็ได้ตลอดเวลาทั้งนี้เพราะมันเป็นประโยชน์ถาวร ก่อประโยชน์ยาวนาน ให้คุณค่าตลอดเวลาไปจนรื้อถอน หรือใช้การอะไรไม่ได้ผู้ทำได้บุญ ผู้ใช้ได้กุศล

ธรรมะจาก พระธมฺมธโร ครูบาแจ๋ว http://www.dhammasav....php?category=6

 

อนุโมทนาสาธุ

 

อนุโมทนาสาธุ กับทุกท่านครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับ