ขออย่าได้เชื่อเรื่องหรือสิ่งที่นอกเหนือ จากพระไตรปิฏกเลยครับ...เช่นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย narit, 31 ธันวาคม 2004.

  1. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    <TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>เฉพาะคำสอนในพระไตรปิฏก ก็เพียงพอที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานได้แล้วครับ มิต้องบัญญัติขึ้นมาใหม่



    สิ่งที่ ไม่ได้บอกไว้ในพระสูตร ถึงคิดว่ามีก็ไม่ควร เอามา บัญญัติกันใหม่หรอกครับ เช่นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม..
    ถ้ามีประโยชน์ต่อการ บรรลุธรรมจริงแล้ว พระพุทธเจ้าท่านจะแสดงธรรม ไว้เป็นพระศาสดาแทนพระองค์แล้ว
    แต่นี่คุณถูกสร้างเรื่องหลอกมาตั้งนมนานแล้วครับ เพราะความไม่ศึกษา ถึงพระอภิธรรม ว่าลักษณะของจิต เจตสิก รูป นิพพาน เป็นเช่นไร
    นิพพาน คือ ดับอาไรบ้าง
    จะมุ่งปฏิบัติอย่างเดียว ก็เลยพากันหลง งงงวย ไปตามกัน
    จะพากันวน อยู่ตรงเมืองนิพพานนั่น ไม่พ้นตรงนั้นสักที
    คนที่ศรัทธา แบบนั้น เมื่อตายไป ก็จะทราบเองครับ ผมรู้มา
    เยอะแล้ว
    ส่วนคนที่มาใหม่ ก็ขอให้ศึกษาให้ดีครับ ผมมิได้บอกว่าการฝึกกรรมฐานไม่ดีนะครับ
    ดีครับ แต่อย่าหลง คำสอนเรื่องพระนิพพานเท่านั้น
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    เรื่องเกี่ยวกับ มาร

    มาร มีอยู่มากมายตั้งแต่สมัยพุทธกาลครับ โปรดหาอ่านในพระสูตรได้ครับ ....
    แต่ถ้าหาว่าอ้างตำรา ก็มีผู้ได้ฌานอภิญญา มากมายที่จะบอกคุณได้ครับ ....และกว่าที่เขาจะสำเร็จฌานอภิญญา..ที่บริสุทธิ์ ก็เลือดตาแทบกระเด็น...ไม่เห็นมีที่ไหน ที่จะสำเร็จฌานอภิญญาง่ายๆครับ....เขาไม่ยอมให้มองเห็น หรือให้เก่งกว่าเขาได้หรอกครับ
    ที่เห็นง่ายๆ หรือฝึกผ่านไปได้ด้วยดีนั้น ส่วนใหญ่(ส่วนใหญ่) ก็เห็นเพราะแฝง ให้พลังฌาน และทีนี้ ภาพที่ปรากฏในนิมิตที่ถูกควบคุมก็จะง่ายในการ ควบคุม การเห็นของที่เป็นทิพย์ ก็จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง
    การฝึกกรรมฐานดี นะครับ ผมแนะนำ แต่ให้ระวังตรงนี้
    เมื่อฝึกได้ระดับหนึ่งแล้ว จิตผ่องใสดีแล้ว ปราศนิวรณ์ดีแล้ว ก้อเพิกนิมิต(ซึ่งมีของปลอมเยอะ) แล้ว วิปัสนา ตามแนวสติปัฏฐาน4 ก็จะ มุ่งตรงต่อพระนิพพานโดยแท้จริง
    ยกเว้นผู้บำเพ็ญบารมีโพธฺสัตว์ ก็ขอให้ ระวังการใช้ฌานอภิญญา ให้ดี ว่า มักไม่ค่อยบริสุทธิ์ (ที่พบมาก็ทุกท่านที่ได้ฌาน แล้วไม่บริสุทธ์ แต่ก็ใช้ได้ในระดับหนึ่ง)
    อย่าไปคิดมากเลยครับ แค่ศึกษาธรรมให้ถูกให้ตรง เรื่องอื่นๆเป็ฯเรื่องของกรรมครับ พระพุทธเจ้าท่านยังผจญ มามากกว่าพวกเราหลายร้อยเท่าครับ
    เราจะพ้นอุ้งมือมารก็ต่อเมื่อ นิพพาน อ่ะครับ
    ปฏิบัติ กันไปเถอะครับ แต่ให้รู้ไว้ ว่าจุดประสงค์จริงๆ ของการ
    ฝึกกรรมฐาน คือการระงับกิเลส ขัดเกลากิเลส ให้ปราศจากนิวรณ์
    เมื่อขจัดนิวรณ์ได้แล้ว ก็ เจริญสติปัฏฐาน4ต่อไป
    หรือจะแสวงหาครูอาจารย์ ที่เก่งๆมาก ก็ได้ครับ แต่เท่าที่ทราบ มีอยู่ไม่กี่ที่หรอกครับ
    ข้อพิจารณาง่ายๆ ใครที่นั่งสมาธิแล้วเห็นอาไรได้ง่ายๆ ผมว่าเกือบ 100 เปอร์เซนต์ไม่ได้เห็นจากพลังฌานตนเองหรอกครับ
    นั่งสมาธิเพื่อขัดเกลากิเลสเถอะครับ นิมิตอย่าไปสนใจ ทำจิตให้ผ่องใส จะได้ไม่หลงวนไปวนมา ศึกษาพระธรรม ละหยาบ เข้าสู่ละเอียด ละความยึดมั่นถือมั่น ในตน ก็พ้นกิเลส สู่นิพพานครับ
     
  3. มารสะท้าน

    มารสะท้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +97
    พระอนุรุทธาจารย์ ได้แสดงไว้ในคัมภีร์พระอภิธัมมัตถะสังคหะว่า "ตีณิ นิมิตฺตานิ" แปลว่าในพระสมถะกรรมฐานภาวนา ประกอบด้วยนิมิต ๓ ประการ คือ :-
    ๑. บริกรรมนิมิต
    ๒. อุคคหะนิมิต
    ๓. ปฏิภาคนิมิต
    นักปฏิบัติในพระพุทธศาสนานี้ โดยมากก็ถือเอาเป็นเครื่องรู้ เป็นเครื่องเล่น เป็นเครื่องพิจารณา แต่ผู้มุ่งโลกุตตรธรรมเป็นเครื่องอยู่อันแท้จริงแล้ว ย่อมไม่ติดข้องอยู่ในนิมิตทั้งหลายเหล่านี้ ฯ คือเมื่อเห็นแล้ว ก็แก้ไขให้หลุดพ้นผ่านไป ก้าวหน้าสู่โลกุตตรธรรมอย่างเดียว
    เรื่องนิมิต ที่ปรากฏเห็น หรือบังเกิดขึ้นนั้น มีนัยดังกล่าวต่อไปนี้คือ
    ๑. จิตในเวลานอนหลับ ก็บังเกิดนิมิตได้ เรียกว่า ฝัน
    ๒. จิตในเวลานั่งสมาธิ ก็บังเกิดนิมิต เรียกว่า นิมิตสมาธิ

    ในที่นี้มีประสงค์ จะอธิบายเฉพาะ แต่นิมิตสมาธิเท่านั้น เพื่อไม่ให้หลงไปตามนิมิต จะได้มีปัญญารู้เท่านิมิต และแก้นิมิตต่อไป
    ในเวลานั่งสมาธิภาวนาจิตตกลงสู่ภวังค์แล้ว เผลอสติ บังเกิดนิมิตเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้น ก็มี หรือไม่เผลอสติ จิตเป็นขณิกสมาธิ อุปจาระสมาธิ อัปปนาสมาธิ ย่อมมีนิมิตต่าง ๆ บังเกิดขึ้น ปรากฏเห็นชัด ในจักขุทวาร มโนทวาร

    นักปฏิบัติ ผู้ที่มีปุพพภาค แห่งการปฏิบัติเบื้องต้น ได้กระทำถูกต้องแล้ว เมื่อนั่งสมาธิภาวนาจิตตกลงสู่ภวังค์ บังเกิดมีนิมิตขึ้นก็ดี หรือจิตเป็นขณิกสมาธิ อุปจาระสมาธิ อัปปนาสมาธิอันใดอันหนึ่ง บังเกิดมีนิมิตปรากฏเห็นชัดในจักขุทวาร มโนทวาร ย่อมไม่ดีใจ เสียใจ คือ ไม่ยินดี ยินร้าย ในนิมิตนั้น ๆ ย่อมเป็นผู้มีสติทำจิตให้เป็นสมาธิตลอดไป

    นิมิตบางประการ เมื่อบังเกิดขึ้นแล้ว เป็นอุบายให้ได้สติ มีปัญญา พาให้จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิเรียบร้อยดีก็มี

    นิมิตบางประการ เป็นนิมิตตที่น่ากลัว กระทำให้จิตหวาดเสียวตกใจกลัวก็มี ผู้ไม่มีสติอาจฟุ้งซ่าน เสียสติอารมณ์ไปก็เป็นได้ จึงขอเตือนสติไว้ในที่นี้ว่า ท่านผู้ปฏิบัติใหม่ทั้งหลาย พึงเป็นผู้มีสติ กำหนดจิตไว้ให้ดีอย่าตกใจกลัว และอย่าประหม่า กระดาก เก้อเขิน คืออย่าเป็นผู้กล้าหรือผู้กลัวจนเกินไป ถ้ากล้าเกินไปก็ทำให้ใจฟุ้งซ่านได้ หรือกลัวเกินไป ก็ทำให้เสียสติ อารมณ์ท้อถอยจากความเพียร ไม่อาจนั่งสมาธิภาวนาอีกได้ เพราะหลงนิมิตเท่านั้น

    อนึ่ง นิมิตบางประการ แสดงเรื่องมนุษย์ บางประการแสดงเรื่องสวรรค์ บางประการแสดงเรื่องพระนิพพาน ฯ นักปฏิบัติบางจำพวก ชอบเล่นนิมิตเกินไปก็หลงเพลินไปเที่ยวเล่นในมนุษยโลก และเที่ยวเล่นในสวรรค์ตลอดเข้าสู่พระนิพพาน ตามอาการของนิมิตที่ปรากฏ จนสามารถพูดอวดได้ว่า ตนได้สำเร็จสวรรค์ สำเร็จพระนิพพานไปแล้ว ครั้นออกจากสมาธิแล้ว ก็เปล่า ๆ หาได้สำเร็จอะไรไม่ นี่แสดงว่านิมิตหลอกให้หลง ก็หลงตามจริง ๆ ด้วยความเข้าใจผิด เห็นผิดจากความจริง ทุกประการตลอดไป

    นักปฏิบัติ ในพระธรรมวินัยนี้ ที่มุ่งโลกุตตรธรรมจริง ๆ ย่อมเป็นผู้ไม่หลงไปตามอาการของนิมิต เมื่อนิมิตบังเกิดขึ้น ย่อมมีสติพิจารณาให้รู้แจ้งว่า นิมิตนี้บังเกิดขึ้นจากเหตุ แห่งคำบริกรรม เรียกว่าบริกรรมนิมิต และนิมิตนี้บังเกิดขึ้นเป็นอุบาย ให้มีสติ มีสมาธิยิ่ง ๆ ขึ้นไปเรียกว่า อุคคหะนิมิต ทั้งอีกนิมิตนี้บังเกิดขึ้นจากปฏิภาคในร่างกายตัวเรา หรือภายในร่างกายของคนอื่น เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต ย่อมรู้รอบคอบตลอดทุกประการ

    นิมิตที่ปรากฏ เห็นดวงเดือน ดวงดาว ดวงอาทิตย์ หรือเห็นแสงสว่างภายในดวงใจของเรา นับเข้าในพวกอุคคะนิมิต ไม่เป็นของที่น่ากลัว

    นิมิตที่ปรากฏ เห็นโครงกระดูกในร่างกายเราหรือเห็นตัวของเราตาย เป็นซากศพ นอนกลิ้งอยู่ต่อหน้า ตลอดเห็นซากศพมนุษย์ทั้งหลายตายเต็มโลก นับเข้าเป็นปฏิภาคนิมิต ผู้ไม่มีสติ ย่อมตกใจกลัว แต่ผู้มีสติ ย่อมไม่กลัว ยิ่งได้สติดีขึ้น คือได้ใช้เป็นอุบายพิจารณาอสุภกรรมฐานแยกส่วน แบ่งส่วนซากศพนั้นออกดูให้ตลอดก่อนแล้ว น้อมเข้ามาพิจารณาในร่างกาย จนเห็นแจ้งประจักษ์แล้ว พิจารณาร่างกายของบุคคลผู้อื่น ก็แลเห็นแจ้งแทงตลอดทุกประการ บังเกิดมีนิพพิทาญาณ เหนื่อยหน่ายสังเวชสลดใจ น้ำใจสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ แน่วแน่ดี สติก็มีกำลังดียิ่งขึ้น เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต

    จากหนังสือพระปฏิปัตติสัทธรรม ของพระญาณวิศิษฐ์ (หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม)
     
  4. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    อนึ่ง นิมิตบางประการ แสดงเรื่องมนุษย์ บางประการแสดงเรื่องสวรรค์ บางประการแสดงเรื่องพระนิพพาน ฯ นักปฏิบัติบางจำพวก ชอบเล่นนิมิตเกินไปก็หลงเพลินไปเที่ยวเล่นในมนุษยโลก และเที่ยวเล่นในสวรรค์ตลอดเข้าสู่พระนิพพาน ตามอาการของนิมิตที่ปรากฏ จนสามารถพูดอวดได้ว่า ตนได้สำเร็จสวรรค์ สำเร็จพระนิพพานไปแล้ว ครั้นออกจากสมาธิแล้ว ก็เปล่า ๆ หาได้สำเร็จอะไรไม่ นี่แสดงว่านิมิตหลอกให้หลง ก็หลงตามจริง ๆ ด้วยความเข้าใจผิด เห็นผิดจากความจริง ทุกประการตลอดไป


    อนุโมทนา คุณมารสะท้าน กล่าวได้ชัดเจนยิ่งนัก เป็นบุญของผู้ศึกษา มากเลยครับ
     
  5. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    ว่างๆ ขอเชิญไปรด ในเวบคนเมืองบัวหน่อยนะครับ...หรือขอขอความไปโพสหน่อยครับ
    จะได้เป็นบุญแก่ผู้ที่สนใจการปฏิบัติครับ..
     
  6. มารสะท้าน

    มารสะท้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +97

    ครับ แล้วเว็บนี้มันอยู่ที่หนายล่ะครับ ขอลิ้งหน่อยจิ ว่างๆจาไปป่วนครับ อิๆๆๆ
     
  7. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +230
    สาธุ สาธุอนุโมทนามิครับ
    กับกระทู้ธรรมและข้อคิดเห็นอันเป็นสัมมาทิฐฐิ(เท่านั้น) กระผมรู้น้อยคงไม่สามารถจะก้าวก่าย กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมอันบังเกิดจากมิจฉาทิฐฐิได้ครับ ส่วนที่ถูกมีมากกว่าผิด แต่ถ้าที่ผิดแม้เพียงกึ่งคำพูดซึ่งไม่ถึงประโยคมันร้ายแรง มากเกินเยียวยา ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้แล้วครับ ที่คุณมารสะท้านพูดมาทั้งหมดถูกต้องทั้งสิ้น และขอโมทนากับ อรรถาธิบายที่นำมาแสดงจากหลวงปู่สิงห์ ด้วยครับ สาธุๆ ยิ่งประโยคนี้
    นักปฏิบัติบางจำพวก กระทำปุพพภาค แห่งการปฏิบัติเบื้องต้น ไม่ถูกต้อง จะทำโลกุตตระให้แจ้ง ก็ทำไม่ได้ เมื่อนั่งสมาธิภาวนา ได้แต่เพียงนิมิตสมาธิ ภาวนา คือได้เห็นนิมิตต่าง ๆ มาปรากฎ ในจักขุทวาร มโนทวารเท่านั้น ก็ดีใจบังเกิดถือทิฏฐิมานะว่าตนได้รู้ได้เห็น และได้สำเร็จมรรค ผล ธรรมวิเศษชั้นนั้น ๆ ไม่รู้เลยว่าตนเป็นผู้หลงติดข้องอยู่ในชั้นโลกีย์ ไม่ใช่ชั้นโลกุตตระ
    แน่นอนเลยครับประโยคนี้ถูกต้องมากมาก โลกียปัญญา กับโลกุตรปัญญา ต่างกันที่ ไม่ได้นึกหรือคิด หรือเดา เอาเอง ละอีกทั้งยังจำได้ว่า มีปัญญาชนหลายท่านได้อ้างกาลามาสูตรในการเชื่อ-หรือไม่เชื่อ ........ดังนั้น แม้พระไตรปิฎกเอง ถ้าสักแต่ว่ารู้ในอรรถทั้งหมดทั้งสิ้น แต่ไม่ได้นำมาปฏิบัติก็ไม่สามารถเกิด โลกุตรปัญญาได้เลย มีเพียงแต่ ปัญญาจากสัญญาเท่านั้น
     
  8. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    คุณมารสะท้าน กรุณาไปโปรดหน่อยนะครับ
    ที่นี่
    http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard.asp
    หูตาอาจสว่าง ขึ้นบ้าง เรื่องนิพพาน
     
  9. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    นิพพาน เป็น ธรรมเหนือโลก หาที่ตั้งไม่ได้ แต่มีอยู่จริง ทีว่าเป็นแดนเป็นสภาพ ผมก็ฟังๆ อยู่ ผมไม่ปักใจเชื่อ 100 เต็มหรอก

    แต่ผมชอบ แนวคิด เอานิมิตที่เห็น มาเป็นประโยชน์ สร้างกำลังใจในการ ปฏิบัติธรรม คนที่เชื่อแนวนี้ ผมเห็น เขาก็ตั้งใจทำความดีกันทุกคน กลุ่มนี้กลุ่มใหญ่เลย ของมันทำแล้วต้องมีดีสิครับ

    นิมิตบนโลก ของลวงทั้งนั้น กรรมฐาน 40 กอง ก็ของลวง เป็นมายาครับ แต่ตราบใดที่ยังก้าวไม่ถึง เราก็ต้องเอาของลวง บนโลก มาทำประโยชน์ เป็นพาหนะ เข้าฝั่งครับ ถึงฝั่งแล้วค่อยว่ากัน

    ผมเชื่อ เทคนิคนี้เต็มๆ 100 ครับ ในแง่ เป็นอุบายในการนำคน สร้างกำลังใจคน มองการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องง่าย เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะ การทรงอารมณ์ ละตัวละตน ละขันธ์ 5 ทุกนาที จิตจับอารมณ์กรรมฐานตลอด ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา เขาก็มีครับ

    มองธรรม คือ ชีวิต ชีวิต คือ การปฏิบัติธรรม สร้างความดี เพื่อ นิมิต สิ่งที่เขาเห็น ผมเชื่อในเทคนิคนี้ ว่า เป็นอุบายจูงคนที่สุดยอดครับ

    ไม่สน นิพพาน จะ เป็น อย่างไร เป็นบ้าน เป็นแดน แต่สนคือ

    1. เทคนิค และ อุบายในการเข้าถึง
    2. เขาทำความดี ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
    3. เชื่อ นรก สวรรค์ นิพพาน กรรม ไม่ มิจฉาทิฐิ
    4. มองนิพพานเป็นเรื่อง ง่าย สร้างกำลังใจในการปฏิบัติ
    5. ทำความดี อย่างน้อย ก็ สวรรค์ แล้ว สวรรค์บนดินครับ ความสุขในปัจจุบันก็ได้ ตายไปก็ได้
    6. เป็นกำลังในการสืบทอด ศาสนา ต่อๆ กันไป


    และที่สำคัญ คุณไม่ใช่ จริตแบบ นี้ เลยไม่ชอบ ก็ไม่แปลก อาจไม่ใช่สายคุณ ต่างสาย ต่างความคิด ถ้าไม่เปิดใจ ยอมรับความต่าง คุยกัน ไม่รู้เรื่องหรอกครับ

    จุดที่คุณตีกระทบ สำหรับผม แล้ว น้ำหนักมันน้อยครับ ผมมอง รายละเอียด สิ่งที่เขาทำมากกว่า ผมตามและศึกษาแนวนี้มาตลอด คิดหลายรอบ ผมก็ชั่งน้ำหนัก ความดี ให้ 100 เต็ม

    นิพพาน เป็น ของจริง ไร้ลักษณ์ ไร้รูป หาที่ตั้งไม่ได้ แต่ มีจริง
    นิมิต เป็น ของลวง และ ต้อง เอานิมิต เป็น แพ ข้าม เกาะนิมิต เพื่อ จุดหมาย
     
  10. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    อนุโมทนาครับ....คุณ ไรเดอร์ พูดได้ดีครับ
    ประเด็นสำคัญ อยู่ที่ว่า ผู้ที่ไม่เข้าใจแบบคุณ จะยึดถือ เป็นเรื่องราว พระไตรปิฏก จะผิดไป
    มีการบัญญัติ คำสอนของสมเด็จองค์ปฐมขึ้นมาใหม่ หรือจูงใจ โดยไม่สนใจที่จะศึกษาพระไตรปิฏก ที่แท้จริง อันนี้เป็นภัยของผู้มาใหม่ และ ภัยของศาสนา ครับ คนเก่าๆผมมิได้อยากไปเปลี่ยนความคิดเขาหรอกครับ และก้อคนที่เข้าใจดีแบบคุณ ก็ ดีอยู่แล้วนี่ครับ แต่ขอให้เข้าใจเรื่องการดับกิเลส ดับทุกข์อย่างแท้จริง ถ้ามุ่งสู่พระนิพพาน มิฉะนั้นจะไปไม่ถึง ไม่รู้จุดหมาย แล้วจะไปถึงได้อย่างไรละครับ....แต่ทำดีก้อดีแล้ว ผมมิได้ ขัดขวางการทำดีของใครเลยครับ
     
  11. มารสะท้าน

    มารสะท้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +97
    ครับ การปฎิบัติก็เหมือนกับการเดินทางครับ ซึ่งมีจุดหมายทีเดียวกัน นั่นก็คือความสิ้นชาติขาดภพ แต่การปฎิบัติอาจต่างกันไปตามอุปนิสัยของแต่ละคน แท้จริงแล้วก็จุดหมายเดียวกันครับ

    เหมือนกับการเดินทางไปสนามหลวง ย่อมมีถนนหลายสายหลายทางที่จะไปได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเลือกเส้นใหน จะเร็วหรือช้า อันนี้แล้วแตความฉลาดในการเดินทางครับ แต่สุดท้ายก็ถึงเหมือนกัน ยกเว้นคนที่เดินทางโดยประมาท ก็อาจไปไม่ถึง..........
     
  12. bandit

    bandit บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    น่าจะได้ข้อสรุปนะครับว่า ผู้หวังดี ในบอร์ดคนเมืองบัว narit ในบอร์พลังจิต รักษ์สัทธรรม และอื่นๆ ในบอร์ดต่างๆ เป็นคนเดียวกันกับ เว็ปมาสเตอร์ของ http://apinyatatip.cyber2host.com/ ที่มีบอร์ด คือ http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=apinyatatip

    หลังจากมีผู้รู้ที่มาของคนผู้นี้ กระทู้ป่วนต่างๆ หายไปเลยครับ ในบอร์ดคนเมืองบัว อาจมีการลบกระทู้ แต่ในพลังจิต ไม่มีการลบ ก็ไม่เข้าไปป่วนอีก

    น่าขำดีนะครับ ของตัวเองเพี้ยนหนักกว่าชาวบ้านอีก เที่ยวไปว่าชาวบ้านเขา มีการบอกว่า ดูสวรรค์หรือนรกครบกี่ครั้งก็ไม่รู้ล้างบาปได้ ลองอ่านดูนะครับจากhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5&highlight=%BE%D4%C1%BE%D2
     
  13. Tom

    Tom บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คำสอนที่ถูกต้องเชิญศึกษาได้จากครูบาอาจารย์ของ คุณnarit จากhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5

    คำสอนที่ถูกคือ เผาบัญชีบาปได้ เลยว่าพระได้ ไม่ตกนรก นี่เป็นคำสอนของครูของnaritทั้งหลาย เก่งกว่าพระพุทธเจ้าอีก
     
  14. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    ทำกรรมเองรับกรรมเองครับ อันไหนไม่รู้จริงก้ออย่าเสี่ยงกล่าว มันเสี่ยงนรก
     
  15. Tom

    Tom บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่เป็นไรผิดพลาดอย่างไร ค่อยไปเผาบัญชีบาปเอา
     
  16. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    ตามสบายครับ อยากจะพูดอาไร กล่าวอาไร หรือพูดเล่นอาไรก้อตามสบายครับ...เท่าที่รู้มีผู้กล่าวสอนธรรมะผิด...ไปใช้กรรมในนรกเยอะแยะครับ ส่วนดีก้อมี ส่วนไม่ดีก้อรับไป...
     
  17. Tom

    Tom บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เฮ้อ...ขำ ทีตัวเองว่าอาจารย์คนอื่นไม่เป็นไร พออาจารย์ตัวเองโดนว่าบ้าง ดันมาบอกเสี่ยงนรก ถุย
     
  18. udomsak

    udomsak สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +8
    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕

    ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
    </CENTER>





    <CENTER></CENTER><CENTER>ทีปังกรพุทธวงศ์ที่ ๑</CENTER><CENTER>ว่าด้วยพระประวัติพระทีปังกรพุทธเจ้า</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    ลองไปอ่านดูก่อนนะครับ คุณ นริศ
    <CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>

    </PRE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2005
  19. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +230
    แด่คุณนาริท ผู้แตกฉานในพระไตรปิฏก.....?

    ปริยัติ ต้องปฏิบัติ นะครับ
    คุณไรเดอร์กล่าวได้ดีมากๆๆ .....ไม่สนใจว่านิพานจะเป็นอะไรแต่สนใจในกุศโลบาย
    สนใจเป้าหมายและหนทางที่จะไปครับ ถ้าไปถึงแล้วว่ากัน ถ้าไม่ถึงอย่าทะลึ่งแต่เดาเอาเอง
     
  20. นิรทุกข์

    นิรทุกข์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +93
    ยังเต็มเปี่ยมกันอยู่เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...