บุญสำเร็จแล้ว ยอดฉัตรเจดีย์ทองคำ พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว)

นายภีรียศ เมฆม่วงแก้ว ร่วมบุญสร้างฉัตรเจดีย์ยอดทองคำ หลวงตามหาบัวฯ วัดป่าคำน้อย
จ.อุดรธานี ครั้ง ที่ 2 ประจำเดือน มิถุนายน จำนวน 2,500 บาท อุทิศบุญกุศลนี้ ให้บิดา มารดา เจ้ากรรมนายเวร เทวดารักษาตัว หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และท่านพยายมราช และขอให้ท่านพยายมราชเป็นพยานบุญนี้ให้ข้าพเจ้าด้วย
สาธุ ด้วยผลบุญการร่วมสร้างยอดฉัตรเจดีย์ทองคำถวายองค์หลวงตาฯเกิดมาชาติใดภพใด คำว่าตกต่ำในรูปร่าง หน้าตา ทรัพย์สมบัติ ยศถาบรรดาศักดิ์ในสถานท่ีข้าพเจ้าเกิดนั้นๆ อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลยจนถึงพ้นทุกข์ถึงแดนนิพพานเทอญ

 

ทองคำที่ไหลกันมา จะทำยอดฉัตรเจดีย์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เราก็ไม่เคยอวดหรอก แต่เดี๋ยวจะหาว่าเราอม สองกิโลเราเคยเอาไปถวายหลวงพ่ออินทร์แล้ว ทีแรกก็ว่าได้ทองเท่าไรก็เท่านั้น เรานี่แหละเป็นคนแหย่ว่า ไม่ใช่นะหลวงพ่อ สร้างขึ้นไปต้องมีฐานรองรับ ต้องกำหนดน้ำหนักนะ กำหนดให้วิศวกรสร้างจะได้รับน้ำหนักกันได้ ท่านก็ถามว่า เท่าไรดี เราก็เสนอว่า ๙๘ กิโลเท่าอายุพ่อแม่ครูอาจารย์จะเหมาะ พออย่างนั้นเราเลยบอกเราจะร่วมด้วย นี่ ไปชวนแล้วต้องร่วมด้วย ไม่ใช่ชวนแต่ลมปาก

ตอนแรกเราว่าจะรับไว้ ๙ กิโล โลกุตรธรรม ๙ ถวายทองคำ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ แต่เราหยุดไว้ก่อน เป็นถวาย ๕ กิโล เพราะเราต้องซื้อที่ทำลานจอดรถที่วัด ยังไม่รู้ต้องใช้ปัจจัยเท่าไร เงินจตุปัจจัยที่ถวายเรามาเราแทรกทุกที่นะ วัดนี้อะไรเกิดขึ้นมา หรือจะให้ทานอะไร โรงเรียน เครื่องมือแพทย์ ปัจจัยที่ถวายเรามาก็แทรกไปหมด ถวายเรามาบาทเดียวก็แทรกไปหมด เราอธิษฐานให้ ไม่ต้องตีตราจองว่าถวายไปนี่เสานี้กูจอง เขียนชื่อไว้ ทั้งศาลากูได้เสาต้นเดียว นี่ กิเลสมันแยบคายไหม มันตัดทอนกุศลที่ควรจะได้เยอะ นั่นล่ะความตระหนี่ถี่เหนียว ความโลภ สร้างพระประธานกูก็ขอเหมาหมดไม่ให้คนอื่นทำ ถ้าคนอื่นทำด้วย ไม่เอา ให้คนอื่นทำเถอะ ถ้าให้ผมทำ กี่ล้านก็ได้ มาพูดกับเรา เราไม่ให้เลย เราไม่เอา นี่เป็นศูนย์รวมของคน คนละสลึง ห้าสิบ มารวมหลอมเทใส่เบ้า แล้วเป็นรูปร่างขึ้นมา จะทำคนเดียว คบได้ยังไง

พวกเราก็อย่าคิดว่าไม่ได้ถวายทองคำนะ ปัจจัยพวกเราถวายมาจะเท่าไร ยี่สิบสามสิบบาทหรือจะเท่าไร แทรกหมดทุกอย่าง เรารวมซื้อทองคำจ่ายนั่นจ่ายนี่ บุญกุศลทุกอย่าง เหมือนเราปั้มน้ำขึ้นไปที่แทงค์ แล้วเราก็ต่อก้อก อะไรควรจ่ายก็จ่ายไป ไปได้ทุกที่ อานิสงส์ไม่มีประมาณ ให้ระลึกเอานะ ถ้าใครไม่มีก็โมทนาเอา ไม่ต้องเสียใจ เราไม่มี ก็พลอยยินดีเอา ไว้มีโอกาสก็ค่อยทำ นี่เราจะเอาทองคำอีก ๓ กิโลนี้ไปถวายหลวงพ่ออินทร์ถวายนะ เป็น ๕ กิโลครบแล้ว ไปถวายที่วัดป่าบ้านตาด ไม่ได้ให้พ่อแม่ครูอาจารย์มารับ ท่านเหนื่อยแล้ว ท่านทำงานเหนื่อย

หลวงพ่อสงบ กุสลจิตโต
๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับคุณภีรียศ เมฆม่วงแก้ว ที่ได้ร่วมทำบุญสมทบปัจจัย ทำฉัตรทองคำ ยอดเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ในครั้งนี้ด้วยครับ

 

การสร้างบุญสร้างกุศลเป็นมงคลทั้งหมด ดีทั้งนั้น ใครจะทำมากใครจะทำน้อย ดีทั้งนั้น แต่สร้างบาปอกุศลถึงจะทำน้อย ถึงจะทำมาก ไม่ดีทั้งนั้น ทำมากยิ่งไม่ดี ทำบุญก็เช่นกัน ทำมากทำน้อยก็เป็นบุญ ทำน้อยก็บุญน้อย ทำมากก็บุญมาก แต่การทำบุญก็อย่าให้ตนเองเดือดร้อน เราซื้ออย่างอื่นเราซื้อได้ ซื้ออยู่ซื้อกินเราซื้อได้ แต่จะมาทำบุญห้าบาท สิบบาท ร้อยบาท พันบาท ทำไม่ได้ ถ้าเราทำไม่ได้ก็แปลว่า เราพลาดโอกาส สิ่งที่เป็นประโยชน์ไม่ทำ ไปทำสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์

ในเมื่อเราเจอของดี เราก็ต้องเอาของดี ต่อไปเมื่อเราเห็นของดีเรื่อย ๆ เราก็ทิ้งของเก่าไปเรื่อย ๆ ทิ้งของที่ไม่ดี และรับของดีไปเรื่อย ๆ นี่คือผู้มีปัญญา ถ้าผู้ไม่มีปัญญา ได้อะไรก็ถือไปอย่างนั้น ไม่มีศรัทธาก็ไม่มีศรัทธาอย่างเก่า ทำบุญก็ไม่ทำบุญอย่างเก่า ผลที่สุดก็เป็นผู้เปล่าประโยชน์

เหมือนที่พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบเทียบ ว่ามีพ่อค้าเกวียนสองคนไปด้วยกัน เอาเงินไปแลกเปลี่ยนสินค้า ได้ผ้าด้ายดิบมา พอเดินทางไปอีกไปเห็นผ้าแกมไหมที่ราคาดีกว่า คนแรกบอกเราต้องเปลี่ยนเอาผ้าไหมมา แต่คนที่สองไม่ยอมเปลี่ยน เพราะถือมาถึงขนาดนี้แล้ว จะไปเปลี่ยนก็เสียดาย

พอเดินทางไปอีก ไปเห็นผ้าไหม พ่อค้าคนแรกก็ไปเปลี่ยนผ้าแกมไหมเป็นผ้าไหมหมด คนที่สองก็ยังไม่ยอมเปลี่ยน เพราะถือมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว พอเดินทางไปอีก ไปเห็นเงินทอง พ่อค้าคนแรกก็เปลี่ยนผ้าไหมเป็นเงินทองมาอีก ส่วนคนที่สองก็ยังไม่ยอมเปลี่ยน เพราะอุตส่าห์รักษามานาน ผลที่สุดพ่อค้าคนแรก เปลี่ยนของที่มีเป็นของดีไปเรื่อย ๆ อันไหนที่ไม่ดีเปลี่ยนออก เอาของดีเข้ามาแทน พอกลับถึงบ้านญาติพี่น้องก็มายินดีกับพ่อค้าคนแรกที่ฉลาด ส่วนอีกคนที่ได้ผ้าดิบมาก็ไม่มีใครมายินดีด้วย

ในเมื่อเราพิจารณาว่าสิ่งไหนดีกว่า สิ่งที่ไม่ดีเราก็เปลี่ยนออก เราเอาสิ่งที่ดีมาปรับปรุงกายวาจาใจของเรา ใช้สติปัญญาความรอบคอบ เหมือนกับพ่อค้าสองคน พ่อค้าโง่ได้ผ้าดิบก็เสียดายไม่ยอมเปลี่ยน แต่พ่อค้าที่ฉลาดก็เปลี่ยนไปเรื่อย จนได้ของดี แต่ไม่ใช่เปลี่ยนแบบไม่คิดไม่อ่านนะ ต้องกลั่นกรองไตร่ตรองดู ว่าสิ่งไหนมีคุณค่าเหนือกว่าแล้วค่อยเปลี่ยน

นี่ก็เหมือนกัน ที่หลวงพ่อแนะนำบอกกล่าวศรัทธาญาติโยมแต่ละครั้ง หลวงพ่อชี้ประเด็นให้ดู ว่าอันนี้ดีนะ อันนี้ไม่ดีนะ อันนี้ควรจะทำนะ พวกเราก็คิดติดตามว่าสิ่งที่หลวงพ่อชี้ เป็นประโยชน์ไหม กลั่นกรองไตร่ตรองด้วยเหตุและผลว่าจริงไหม ถ้าจริงก็ปฏิบัติตาม ถ้าปฏิบัติยังไม่ได้ก็รอไว้ก่อน เพราะกำลังเรายังไม่พอ ในเมื่อเรายังไม่พร้อมก็เตรียมไว้ก่อน เมื่อภายหน้ากำลังเราพอเมื่อไร เราก็พร้อมปฏิบัติ

อย่างที่หลวงพ่อบอกว่า ยอดฉัตรพระเจดีย์หลวงตา ถ้าเปรียบเทียบเป็นหุ้นก็น่าซื้อนะ บุญนี้หลวงพ่อมั่นใจ เป็นการทำบุญหลวงตา การทำบุญกับพระอริยบุคคลจะเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ติดภพติดชาติไป แต่ไม่ใช่เรามีเท่าไรเราก็ทุ่มลงไป เราต้องรู้จักกำลังตัวเอง เราจะแบกได้ขนาดไหน ไม่ใช่ทุ่มจนหมดหน้าตัก แล้วจะกินอะไรจะใช้อะไร ผลที่สุดพอทำบุญเสร็จต้องมาเป็นขโมย ก็ยิ่งสร้างบาปกรรมให้ตัวเองไปอีก

เหมือนกับเราจะแบกแท่งทอง เราแบกได้ไหม ถ้าแบกได้ก็เอาเลย มีประโยชน์ แต่ถ้าแท่งทองมันหนักเกินไป แบกไปแล้วหลังหัก แท่งทองก็ไม่ได้ ยังต้องมาดามเอวอีก เป็นคนพิการไป เพราะฉะนั้น หลวงพ่อไม่ได้พูดหน้าเดียวนะ เราต้องใช้ปัญญา แต่ถ้าพอเป็นไปได้แล้วเห็นแท่งทองตรงหน้าแล้วเฉย ไม่ได้ใส่ใจสนใจ นั่นก็ไม่ได้เห็นคุณค่า แต่ถ้าเห็นแท่งทองใหญ่เกินไปแล้วเข้าไปแบกหลังหัก นั่นก็โง่อีก สิ่งทั้งหลายทั้งปวงหลวงพ่อมีแต่แนะนำบอกกล่าว ให้ลูกหลานใช้สติใช้ปัญญา ถึงจะมีศรัทธา ศรัทธาก็ต้องสัมปยุตด้วยปัญญา ถ้ามีศรัทธาอย่างเดียว อะไรก็เชื่อไปหมด ก็ฉิบหายเพราะศรัทธาไม่ลืมหูลืมตา ต้องคิดให้รอบคอบแล้วค่อยทำลงไป

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “ศรัทธาแบบผู้มีปัญญา”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

ขอเชิญร่วมงานถวายผ้าป่าและทองคำ เพื่อสร้างยอดฉัตรทองคำ ยอดพระเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย ๓

วันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๑
เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำวัตรสวดมนต์เย็น
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก แสดงพระธรรมเทศนา

วันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๑
เวลา ๐๖.๐๐ น. พระสงฆ์ออกรับบิณฑบาต
เวลา ๑๑.๐๐ น. พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมาบำเพ็ญกุศลถวายผ้าป่าและทองคำเพื่อสร้างยอดฉัตรทองคำ ยอดพระเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

สถานที่จอดรถวันงาน
๑.เดอะทรีโอ ฝั่งตรงข้ามสวนแสงธรรม
๒.ตลาดโบนันซา ฝั่งตรงข้ามสวนแสงธรรม ถัดจากเดอะทรีโอ ก่อนถึงแยกสัญญาณไฟจราจร ใกล้จุดกลับรถมาสวนแสงธรรม

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

ปัจจัยที่จะซื้อยอดฉัตรทองคำนี้ ไม่ใช่เงินวัดของเรา ไม่ใช่เงินหลวงพ่อ เป็นเงินของคณะศรัทธาญาติโยม ก็เก็บรวบรวมไว้ และวันที่ ๒๔ ที่จะถึงนี้ ก็จะได้ลงไปที่สวนแสงธรรม พุทธมณฑลสายสาม พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระองค์จะเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อรวบรวมร่วมยอดฉัตรพระเจดีย์ขององค์หลวงตาในวันนั้น ประมาณ ๑๑ นาฬิกา ศรัทธาญาติโยมผู้ใดได้ยินเสียงหลวงพ่อนี้ ก็ไปร่วมสมทบร่วมยอดฉัตรพระเจดีย์ในวันนั้น ก็จะเป็นมงคลมหามงคลยิ่ง เป็นการรวบรวมครั้งยิ่งใหญ่

การหล่อฉัตร คณะกรรมการก็ได้กะกันเอาไว้ว่า วันที่ ๑๒ สิงหา เป็นวันเกิดขององค์หลวงตา ก็ได้มีหนังสือทูลเชิญเสด็จ แต่ยังไม่ทราบว่าพระองค์ไหน ในเดือนสิงหาทั้งเดือนก็เป็นเดือนมหามงคล เพราะเป็นเดือนเกิดขององค์หลวงตา เพราะฉะนั้นยอดฉัตรทองคำที่หลวงพ่อได้พูดนี้ หลวงพ่อก็พูดกระหน่ำ ถ้าเป็นกลองก็ตีรัวเลย เพราะมีเวลาจำกัด พอหล่อฉัตรทองคำแล้วก็จะหยุดพูด ขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมทองคำจากผู้มีศรัทธาอยากจะทำบุญยอดฉัตรเจดีย์ขององค์หลวงตา แต่ผู้ใดยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร แต่ผู้ที่พร้อมก็คนละมากคนละน้อย พอเดือนสิงหาก็คงจะหล่อหลอมเป็นยอดฉัตร

ต้องการเท่าไรล่ะหลวงพ่อ ก็ ๙๘ กิโล เท่ากับอายุขององค์หลวงตา หลวงตาอายุ ๙๘ ปี ถ้าเหลือก็จะทำเป็นผอบทองคำ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรืออัฐิธาตุ หรือพระธาตุของพระอรหันต์ ถ้าเหลือก็ไม่เป็นไร ดีกว่าขาด ถ้าขาดก็ไม่พอ ถ้าเหลือยังทำอย่างอื่นได้อีก เป็นบุญกุศลของคณะศรัทธาญาติโยมลูกหลาน

ที่หลวงพ่อพูดนี้ ไม่ได้พูดเพื่อหลวงพ่อ แต่พูดเพื่อสาธารณประโยชน์ เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เพื่อคณะศรัทธาญาติโยมจะได้มากราบมาไหว้ สักการะบูชา นี่คือเรื่องยอดฉัตรเจดีย์ขององค์หลวงตา

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
ปรารภธรรมเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

ท่านไก่มาปรึกษาเรื่องที่จะรวบรวมทองคำในกลุ่มลูกศิษย์ของพระอาจารย์หมูที่เชียงใหม่ อยากจะร่วมถวายทำยอดฉัตรเจดีย์ที่วัดป่าบ้านตาดของท่านอาจารย์มหาบัว ร่วมทำบุญกับท่านอาจารย์อินทร์ เพราะได้ยินข่าวสารที่ท่านบอกบุญ

พวกเราลูกศิษย์ลูกหา ลืมตาอ้าปากได้ เพราะได้อรรถได้ธรรมจากที่หลวงตาท่านเปิดจิตเปิดใจให้พวกเราตื่น สะดุ้งกลัวหวาดผวาต่อความเป็นอยู่เป็นไป เพราะพวกเราเกิดมาอาภัพอับเฉา เกิดมายากจน เกิดมาอยู่ในวิกฤต แต่จะวิกฤตขนาดไหน ก็ยังมีโอวาทคำสอนขององค์ท่าน จะว่าจอมปราชญ์ทุกวันนี้ก็มีหลวงปู่มั่น ผู้เป็นอาจารย์ ผู้เป็นลูกศิษย์ก็คือหลวงตาพระมหาบัวที่พวกเราทราบกัน ท่านเหล่านั้นก็ผ่านไป ๆ พวกเรากลุ่มลูกหลานก็มาสร้างถาวรวัตถุ อะไรจะเป็นเลิศยิ่งกว่าพระเจดีย์ไม่มีอีกแล้ว

ในครั้งพุทธกาล สาวกของพระพุทธองค์ท่านยังไม่ได้บวชด้วยซ้ำไป เมื่อครั้งท่านพาหิยะ เดินทางไปฟังเทศน์ สองวันสามวัน เดินทางไปด้วยปีติแก่กล้าเป็นแรงผลักแรงดัน เดินทางไปจากมหาสมุทรทะเลจนถึงสถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่พระเชตวัน ไปถึงตอนเช้า เช้ามืด ถามพระสงฆ์ทราบว่า พระองค์เสด็จเข้าไปบิณฑบาตในคามนิคม จะมาขอเฝ้าฟังธรรมะจากพระองค์ท่าน เดินทางมาสามวันสามคืนแล้ว พระก็บอกว่ารอพระองค์อยู่ที่นี่ล่ะ อีกไม่นานพระองค์ก็จะกลับจากภิกขาจารบิณฑบาต ก็รออยู่ไม่ได้ คิดดูสิ ความกระตือรือร้น ความขวนขวายที่จะได้ยินได้ฟังเพราะเห็นภัย เห็นพิษเห็นภัยจากวัฏสงสาร เห็นความพ้นไปจากภัยคือวิมุตหลุดพ้น กำลังจิตกำลังใจเดินทางมาสามวันสามคืน พระให้รอ ก็รออยู่ไม่ได้ เพราะปีติแก่กล้า จนตามเข้าไปในสถานที่ที่พระองค์ดำเนินบิณฑบาต

ไปถึงก็กราบขออาราธนาให้พระองค์แสดงธรรม โปรดเถิดพระเจ้าข้า วัฏสงสารนี้ไม่ใช่เป็นที่น่าไว้ใจ ข้าพระองค์ปรารถนาที่สุดแห่งทุกข์

พาหิยะ นี่ยังไม่ใช่เวลาสมควรของเธอ เรื่องเหล่านี้พระองค์ทราบแต่ค่อนรุ่งแล้ว จากข่ายพระญาณของพระองค์ พระองค์ก็ทราบว่า มาแล้วเหรอ นี่ยังไม่ใช่เวลาสมควรของเธอ คนกำลังพุ่งพล่านด้วยปีติ อยากจะรู้จะเห็น อยากได้ยินได้ฟัง พออาราธนาครั้งแรก พระองค์ก็บอกยังไม่ถึงเวลา ก็ยุบตัวไประดับหนึ่ง แต่ยังไม่พอ ก็อาราธนาครั้งที่สอง โปรดเถิดพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ปรารถนาที่สุดแห่งทุกข์

พระองค์ก็ว่าดูแล้วยังไม่เหมาะที่จะฟังเทศน์ จึงกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาของเธอ ก็เกิดกระตุกให้จิตใจฝ่อลงไปอีก ครั้งที่สามก็อาราธนาอีก คราวนี้อยู่ในระดับที่พอดี พอจะฟังได้ พระองค์จึงกล่าวเทศนาว่าการ บอกข้ออรรถข้อธรรม คติของธรรม เป็นเคล็ดลับของธรรมอันยิ่ง อย่างที่ผู้ฟังธรรมดาไม่อาจจะรู้ได้ แต่จิตใจดวงนั้นพร้อมที่จะรู้เพราะขัดเกลามานาน เพราะเป็นอุคฆฏิตัญญู

ดูก่อนพาหิยะ เธอได้เห็นก็สักแต่ว่าเห็น เธอได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน ถ้าเธอสำเหนียกได้อย่างนี้ เธอจะไม่มีในโลกนี้ หรือโลกหน้า หรือแม้แต่โลกไหน ๆ

ท่านองค์นั้นฟังแล้วเกิดคล้อยตาม บรรลุธรรมจนเป็นพระอรหันต์ในตอนนั้นทันที พวกเราฟังแล้วยังไม่เห็นบรรลุ เพราะต่างกันด้วยอินทรีย์ อินทรีย์ยังไม่ถึงพร้อม จะว่ากี่ครั้งกี่หน ก็ได้แต่ความจำ ยังไม่ถึงความจริง

จากนั้นท่านก็ขอบวช พระองค์ก็ให้ไปเสาะแสวงหาบริขารมาก่อน ท่านก็เดินไปตามคามนิคม แต่วิบากกรรมของท่านทำให้โดนตัดรอนด้วยอุปฆาตกกรรม เช้านั้นมีวัวแม่ลูกอ่อนมาขวิดตาย ทั้ง ๆ ที่ถึงพร้อมด้วยความสมบูรณ์ขนาดนั้น แต่วิบากกรรมก็คือวิบากกรรม จิตใจท่านอยู่เหนือกรรมแล้ว แต่ร่างกายยังอยู่ในวัฏสงสาร ยังเป็นไปตามวิบากอยู่

จากนั้นพระสงฆ์ที่พระเชตวันก็ร่ำลือกัน ว่าคนเมื่อเช้าที่ให้รอที่วัด แต่ไม่ฟัง ได้ยินข่าวว่าวัวขวิดตาย พระองค์ท่านก็ได้ยิน ท่านจึงประชุมสงฆ์ และให้จัดการฌาปนกิจศพให้ท่าน เผาตรงที่สี่แยกที่โดนขวิดนั่นล่ะ เสร็จแล้วท่านทำสถูปให้

คำว่า “ถูปารหบุคคล” ก็เกิดขึ้นตอนนั้น คือบุคคลที่สมควรทำสถูปคือคนนี้แหละ คือพระอรหันต์ ในศาสนาในธรรมวินัยของเราตถาคต มีเธอองค์นี้ล่ะ เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่ายที่สุด ด้วยธรรมไม่กี่บท เป็นพระอรหันต์ เป็นบุตรของเรา สมควรแก่การสร้างสถูปให้ เป็นบุคคลที่ควรแก่การกราบไหว้บูชา เป็นนาบุญของโลก เธอคนนี้เป็นหนึ่งในนั้น ยิ่งกว่านั้นก็เป็นเอตทัคคะ เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย

เวลานี้ พวกเราได้ยินกลิ่นไอของคำว่า บุคคลผู้สมควรแก่สถูปก็คือที่วัดป่าบ้านตาด ที่เรากำลังสร้างเจดีย์อยู่เวลานี้ ได้ยินกิตติศัพท์ กิตติคุณของท่าน ได้ยินมานานแล้ว ปานนั้นพวกเราก็ยังติดสอยห้อยตาม ไม่มีกำลังจะทำได้ แต่อาศัยกำลังของมหาชน คนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง คนละนิดคนละหน่อย คนละน้อยคนละมาก ตามกำลังปัจจัยที่มีอยู่ในกระเป๋า คนนั้นบ้างคนนี้บ้าง ก็จะกลายเป็นมหาเจดีย์

จากนั้นก็ยังมียอดฉัตรที่ท่านอาจารย์อินทร์เป็นหัวหน้า หัวเรี่ยวหัวแรงระดมหาทองคำ พวกเราก็รวมทองคำกันได้ ออกจากใจที่มีศรัทธา จะมากจะน้อยก็ขอเอาออกไปจากหัวใจ หาประมาณไม่ได้นะอานิสงส์ของพวกเรา ข้ามมากี่จังหวัด อุปสรรคเท่าไรกีดขวาง เหตุเภทภัยทั้งหลายเป็นอุปสรรคทั้งนั้นล่ะ ไกลใกล้ก็เป็นอุปสรรคหมดถ้าศรัทธาอ่อนแอ

แต่นี่เราแก่กล้าสามารถ พร้อมด้วยกำลังทรัพย์พอประมาณ พร้อมด้วยศรัทธาหาประมาณไม่ได้ นั่นล่ะ คำว่าศรัทธาพละ จิตใจที่มีกำลังแก่กล้าสามารถ พร้อมที่จะไป ไปเพื่อเทิดทูนบูชา เอากายของเราเสียสละ ป่วยก็ป่วยกายสิ ใจอย่าให้ป่วย มาจนได้ มาจนถึง เดินทางไปถึงวัดป่านาคำน้อย

วัดป่านาคำน้อยอยู่ไหน ไกลใกล้ไม่สำคัญ สำคัญที่ไปเพื่อเทิดทูนบูชา เป็นเครื่องเทิดทูนบูชา จำแนกแจกทานออกจากกระเป๋าของเราเป็นเครื่องเทิดทูนบูชา เป็นความเหมาะสม เหมาะสมเพราะอะไร เพราะจะไปติดอยู่บนยอดเจดีย์ ทุนทรัพย์ โภคทรัพย์ ทรัพย์ของเรานั่นล่ะ แก้วแหวนเงินทอง เป็นของเราโดยสมบูรณ์ แต่จะไปประดับประดาอยู่บนยอดพระเจดีย์ให้เหลืองอร่ามบนยอดพระเจดีย์เพราะเป็นทองคำ แต่สิ่งที่ติดจิตติดใจของเราจะเป็นอะไรถ้าไม่ใช่มหาสมบัติ คือธรรมสมบัติ อย่างน้อยก็ความเป็นสุข ความปีติ ความอิ่มอกอิ่มใจ เป็นสุขในธรรมเพราะปลุกตื่นง่าย ไม่ใช่ปลุกแล้วปลุกอีก นอนขี้เซา ปลุกไม่ตื่น บอกแล้วบอกอีก ก็ไม่ได้ยิน ทำเป็นหูทวนลม นั่นพวกไกล ไม่เหมือนที่ปฏิญาณตนเป็นอุบาสก อุบาสิกา

อุบาสก อุบาสิกา แปลว่าผู้เข้าใกล้ อยู่ใกล้ต้องได้ยินได้ฟัง กลิ่นไอของอรรถของธรรม ประกาศเปรี้ยง ๆ อยู่เวลานี้ อย่าไปนอนหลับทับสิทธิ อย่าไปให้มันจม ถ้ามันจมมันจะจอด มันจอดมันจมมันจะเป็นสมบัติตรงไหน มันจะวิบัติฉิบหายเพราะไม่ได้เจอของจริง ยังไม่ถึงฝั่ง เราจะขึ้นฝั่ง เพราะเวลานี้เราลอยอยู่ในมหาสมุทร เราเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในมหาสมุทรเวลานี้ ถึงจะเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในเวลานี้ แต่ขอให้มีทุน มีชูชีพ มีเครื่องป้องกันหนีจากทุกข์ได้ในระดับหนึ่ง ถึงจะเวียนว่ายตายเกิด แต่เกิดในสุคติมันก็ดีกว่าเกิดในทุคติเป็นกี่เท่า

ทุคติ เปรต สัตว์นรก อสุรกาย เดรัจฉาน มีแต่เครื่องอำนวยความทุกข์ เพราะบุญน้อย เพราะทำไว้น้อย เราสมาทานวิชาเปรต วิชาสัตว์นรก เพราะต่ำต้อยด้อยคุณธรรม เวลานี้เรามายกจิตยกใจ เอากายวาจาของมนุษย์นี่ล่ะ มายกบูชาคุณธรรม ทานะ จาคะ ออกมาจากความรู้ที่เพียบพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ทำไมจะไม่เป็นบุญมหาศาลล่ะ เพราะไม่ได้ทำด้วยความป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ทำด้วยเจตนาจงใจทำความดีขนาดนี้ มันต้องดีสิ เชื่อมั่นขนาดนั้น เพราะผลก็ปรากฏชัดขณะนี้ พวกเราก็ปกติผาสุกร่มเย็น ไม่ได้ระแวงแคลงใจคิดว่าเจ้าของโดนลวง มีแต่แน่วแน่ว่าเจ้าของทำถูก เพราะทำด้วยสติสัมปชัญญะ ทำด้วยความร่มเย็น ทำด้วยความสุข มีปีติความอิ่มอกอิ่มใจ คิดขึ้นมาก็เป็นปีติแล้ว เต็มรอบด้วยกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม รอบด้วยการกระทำถึงพร้อมหมด เป็นผลมหาศาลเลิศมาก

เรามีหน้าที่สร้างเหตุ แต่เวลาจะสร้าง จะมีอุปสรรคกีดขวางคือความขี้ตระหนี่ ความห่วง ความหวง เป็นธรรมดา เราจะทำมันจะออกมาขวางทันที มันไม่ชะล่าใจ ไม่ปล่อยเราง่าย ๆ นะ มันเป็นข้าศึกศัตรูต่อความดี อาศัยเวทีที่จิตที่ใจเรานี่ล่ะ ถ้าเราเผอเรอปล่อยให้มาเพ่นพ่านในใจเราปั้บ มันจะออกมาสกัดกั้น ไม่ได้นะ มันจะหมด ทรัพย์ที่เราหามาได้ด้วยความชอบธรรม ให้เราใช้ด้วยความชอบธรรมบ้างได้ไหม เวลาจะใช้ ไม่เป็นอิสระ มันมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ มันมาเจ้ากี้เจ้าการบริหารทรัพย์แทนเรา คิดดูสิ เรามีอิสระไหมล่ะ เราตกอยู่ภายใต้อำนาจความห่วง ความหวง ความขี้ตระหนี่ ที่นักปราชญ์ท่านว่าเป็นพิษเป็นภัยต่อความเจริญ คือกิเลส

กิเลสประเภทหนึ่งคือ โลภะมูล ออกมาจากอกุศลมูล กุศลมูลเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่นี่เป็นอกุศลมูล เป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ เหตุแห่งสุขคือกุศลมูล ออกมาจากรากเหง้าของแหล่งเดียวกัน คือจิตคือใจ แต่เป็นคนละกิริยา คือความเสียสละ แบ่งปัน ให้ทาน ยกออก นำออก นำออกเท่าไรเรายิ่งเบา นำออกเท่าไรเรายิ่งได้ ได้ความปีติ ความสุข ความอัศจรรย์ในจิตใจ ยิ่งขนเข้ามาทับเจ้าของมันจะหนัก เอาภูเขาทั้งลูกมาทับเจ้าของมันจะไม่หนักหรือ นี่พวกขี้ตระหนี่ถี่เหนียว พวกห่วง พวกหวง ได้มาก็ยึดมาเป็นของกู ๆ มันก็ของกูจริง ๆ ล่ะ แต่มันไปถึงไหน มันไม่เลยป่าช้านะ แต่บุญกุศลส่งเราข้ามภพข้ามชาติ ติดจิตติดใจ มันต่างกันตรงนั้นล่ะ แล้วเราจะเอาธรรมสมบัติหรือโลกิยสมบัติ โลกิยสมบัติส่งเราถึงป่าช้า แต่จิตใจเรามันเลยป่าช้าไปอีกนี่นา นอกเหนือจากบุญกุศลแล้วไม่มีอย่างอื่น

พระอาจารย์สามดง จันทโชโต
ปรารภธรรมเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

เรื่องยอดฉัตรพระเจดีย์นี่มีที่มาอย่างไร ก็เริ่มแต่ตอนที่พี่น้องชาวพิษณุโลกมาถามว่า ท่านครับ ยอดฉัตรพระเจดีย์ของหลวงตาจะใช้อะไร ทองเหลืองหรือสเตนเลส หลวงพ่อก็เลยถามไปทางผู้ออกแบบ ทางผู้ออกแบบก็ว่าได้ออกแบบเป็นทองเหลือง ๕ ชั้น หลวงพ่อได้ยินก็คิดว่าองค์หลวงตาได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมากมาย หาทองคำเข้าคลังหลวงในช่วงเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง หลวงตาออกมาหาทองคำเพื่อค้ำพยุงชาติ เพื่อไม่ให้เงินบาทของเราตกต่ำ ท่านจึงได้ออกหาทองคำ ได้ทองคำเข้าคลังหลวงถึง ๑๓ ตัน ไม่ใช่น้อยนะ และเงินอีกสิบล้านกว่าดอลลาร์ เมื่อหลวงตาจุตินิรพานไป มาถึงโค้งสุดท้ายอย่างนี้ เมื่อเราสร้างพระเจดีย์ ยอดฉัตรพระเจดีย์ของหลวงตาที่เป็นจุดสูงสุดของพระเจดีย์จะเป็นทองเหลืองก็ไม่น่าจะถูก

ในตอนนั้น โยมทางพิษณุโลกก็เลยขอถวายทองคำเป็นประเดิม ๓ กิโลกว่า จุดนั้นก็เป็นจุดที่หลวงพ่อได้ทองคำเป็นจุดแรก จากนั้น หลวงพ่อก็เลยประกาศว่า คณะศรัทธาญาติโยมเห็นด้วยไหม ยอดฉัตรเจดีย์ของหลวงตาเป็นทองเหลืองไม่น่าจะถูกนะ

จากนั้นโยมทางลพบุรีก็ถวายมาอีก ๔ กิโลกว่า หลังจากนั้นหลวงพ่อก็เลยประกาศต่อ ๆ มาอีก หลวงตาหาทองคำเข้าคลังหลวงมากมาย พวกเราควรจะรวบรวมมากน้อยไม่ว่ากัน

ก็มีคนถามว่า หลวงพ่อต้องการทองเท่าไร หลวงพ่อก็คิดว่า การทำงานต้องมีเป้าหมาย ไม่อย่างนั้นเราจะทำงานอย่างสะเปะสะปะ หลวงพ่อจึงประกาศว่า อายุของหลวงตา ๙๘ ปี สมควรที่เราจะหาทองคำให้ได้ ๙๘ กิโล เพื่อทำยอดฉัตรเจดีย์ขององค์หลวงตา นี่คือเป้าหมายที่เราต้องการ ส่วนจะถึงหรือไม่ถึงก็ว่ากันอีกที ถ้าเกินก็อาจทำให้ใหญ่ขึ้นสวยงามขึ้น แต่ถ้าไม่พอก็เท่าไรก็เท่านั้น

แต่ที่หลวงพ่อพูดนี้ ไม่ให้ใครผู้ใดหนักใจนะ แต่ถ้าเราไม่ทำเสียเลย ก็เหมือนเราไม่ระลึกถึงองค์หลวงตา เราทำคนละมากคนละน้อยไม่ว่ากัน การสร้างเจดีย์ถวายองค์หลวงตา เป็นการสร้างถวายพระอรหันต์

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “บุญกรรมข้ามภพชาติ”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

เวลานี้เรามีอยู่แล้วโภคทรัพย์ แก้วแหวนเงินทองเป็นโภคทรัพย์ เราจึงมารณรงค์อยู่เวลานี้ เรื่องอะไร เรื่องทำทานจาคะเสียสละทองคำ เอามาจำแนกแจกทานบูชาพระคุณขององค์หลวงตาเรา องค์หลวงตาเราท่านสิ้นไปแล้ว แต่ท่านไม่ได้ไปไหน ท่านอยู่กับพวกเรา อยู่ด้วยความเมตตา กิริยาของท่านก็คือเมตตา เมตตากรุณาสงสารเรา ก็องค์แทนของท่านนั่นล่ะ ประมวลเข้าไปคือองค์แทนของพระศาสดา ทุกอย่างอยู่ที่นั่นคือพระรัตนตรัย

พระรัตนตรัยอย่างหยาบก็คือศรัทธา ศรัทธาเป็นอริยทรัพย์อย่างหนึ่ง จิตขององค์ท่าน จิตใจของครูบาอาจารย์ท่านกลั่นตัวไปเป็นพุทธะ พุทโธ เราคิดว่าอยู่ไหนล่ะ ท่านไม่ได้ไปไหน อยู่กับพวกเรา อย่าเจือจาง อย่าจืดจาง พวกเรามีศรัทธาให้เข้มข้นขึ้นไปได้ไหม ท่านจะอยู่ใกล้เพราะความเข้มข้น เราก็ต้องฟิตตัวขึ้นไป ยกตัวขึ้นไปสู่องค์ท่าน ท่านอยู่กับพวกเรา มาหาพวกเราด้วยกิริยาอาการที่เราบูชาพระองค์ท่าน มันจะยึดโยงหากัน เห็นได้ชัดว่าท่านไม่ได้ไปไหน เราต่างหากที่ห่างเหินท่าน เราจึงต้องยื้อขึ้นไปหาท่าน โดยมีครูบาอาจารย์คือท่านอาจารย์อินทร์เป็นผู้รับทองคำให้ เพื่อจะสร้างฉัตรประกอบพระเจดีย์องค์หลวงตาพระมหาบัวที่วัดป่าบ้านตาด สูงตระหง่าน ถึงจะไม่เฉียดฟ้า ก็สูงตามกำลังทรัพย์ของพวกเรานั่นล่ะ

นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น เป็นของที่มีสาระแก่นสาร เป็นของที่มีอุปการคุณแก่จิตใจผู้มีศรัทธา ยกจิตที่มีศรัทธาขึ้นเป็นสมบัติอริยทรัพย์ติดจิตติดใจต่อยอด จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ ขึ้นอยู่กับกำลังความสามารถของแต่ละผู้แต่ละคน ทำเพื่อสำรอก ทำเพื่อปลอกออกซึ่งความเห็นแก่ตัว ความขี้ตระหนี่ถี่เหนียว ความโลภ โลภโมโทสันไม่ใช่ของดี การเสียสละแบ่งปันให้ทานต่างหากเป็นคุณานุคุณ เป็นอานิสงส์ที่จะมายกจิตยกใจ จิตใจของเราจะสูงส่ง สูงส่งเพราะอรรถเพราะธรรม เพราะเราอ้างถึงบุคคลผู้มีความประเสริฐเลิศโลก เหนือกว่าโลกเพราะก้าวไปสู่ธรรม

ธรรมเหนือโลกอยู่ที่จิตที่ใจของครูบาอาจารย์ที่เราเคารพ ครูบาอาจารย์แต่ละองค์แต่ละรุ่นท่านถือไม้รับภาระแบกหามเรื่องธรรมวินัยมาให้พวกเราได้ยินได้ฟัง กลิ่นไอของอรรถของธรรม เรื่องราวของศีลของธรรมกระเทือนเลื่อนลั่นอยู่เวลานี้เพราะท่านเหล่านั้นยอมตัวมาเป็นผู้ถือบวช ถือธรรมวินัยมาให้เรา พวกเราก็ถือต่อไป หยิบยื่นต่อไป เปลี่ยนรุ่นไป เพื่อประโยชน์ของมหาชน กุลบุตร กุลธิดา เพื่อประโยชน์ของลูกของหลาน เพื่อประโยชน์ของสัตวโลก จะโลกนี้หรือโลกไหนก็เถอะ ขอให้มาทัศนาการ จะมีความเลื่อมใส เลื่อมใสในความดี ความดีจะยกจิตยกใจขึ้นไป

พวกเราเหมือนทำข้างนอก แต่ผลที่สุดมันจะมุ่งเข้าไปหาหัวใจจิตใจ เพื่อศูนย์รวมของจิตของใจองค์แทนของพระรัตนตรัย จากนั้นพวกเราจะยกเจ้าของขึ้นสู่ความเป็นผู้มีศีลธรรม จากนั้นศีลธรรมจะเป็นภาชนะรับรองจิตใจของเรา จิตใจของเรานิ่งพอ และสมาธิธรรมก็จะมาบรรจุที่จิตที่ใจที่นิ่งนั้น จิตใจที่นิ่งที่มีสมาธิ ที่มีเวล่ำเวลาคิดอ่านไตร่ตรองความเป็นจริงของสัตว์สังขาร ก็ปล่อยวางกองสังขาร ยกจิตยกใจขึ้นสู่ความเป็นอิสระชน เห็นไหมล่ะ เป็นทางดำเนินของไตรสิกขา เริ่มจากทาน ต่อมาก็ศีล สมาธิ ปัญญา ยกขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่าไปคิดว่าเป็นของเล็กน้อย

พระอาจารย์สามดง จันทโชโต
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

พวกเราศิษยานุศิษย์ของหลวงตา ขอเชิญมาร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคีรวมฉัตรยอดพระเจดีย์ขององค์หลวงตา ก็ขอเชิญมาร่วมกัน และก็มีคณะศรัทธาญาติโยมถามมาว่ายอดทองคำยังขาดเท่าไร ตอนนี้หลวงพ่อก็รวบรวมทองคำได้แล้ว ๕๐ กิโลกว่า ๆ และทองคำของหลวงปู่อุ่นหล้าที่หล่อพระทองคำเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ที่วัดป่าบ้านตาด ทองคำยังเหลืออยู่ ๑๒ กิโล ท่านก็มอบให้ทำเป็นยอดฉัตรพระเจดีย์หลวงตา เพราะฉะนั้นรวมแล้วก็ประมาณ ๖๒ กิโล กว่า ๆ และปัจจัยที่ญาติโยมโอนเข้าไปในบัญชียอดฉัตรพระเจดีย์ขององค์หลวงตา ก็เป็นเงินทั้งหมดตอนนี้ประมาณ ๔๒ ล้าน ๓ แสน ถ้ามาซื้อทองคำก็จะได้ประมาณ ๓๐ กว่า กิโล รวมแล้วก็ประมาณ ๙๐ กิโล

เพราะฉะนั้นที่หลวงพ่อประกาศว่าต้องการทองคำ ๙๘ กิโล เท่าอายุขององค์หลวงตา ก็ยังขาดไม่มาก ถ้าหากลูกหลานคนใดช้าจะตกขบวนนะ แต่หลวงพ่อก็จะยังไม่ปิดบัญชี เพราะงานเรายังไม่เสร็จ อาจจะมีการหล่อตรงนั้น เสริมตรงนี้อีก ก็จะเปิดไว้ก่อนจนกว่าจะหล่อฉัตรจึงจะปิดบัญชีทองคำ

ปัจจัยเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของหลวงตาก็ไหลมาเรื่อย ๆ ผู้มีจตุปัจจัยก็สมทบเข้ามา ผู้ยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรเพราะยังไม่พร้อม แต่ก็ควรจะมีส่วนร่วมนะถึงจะมากน้อยก็ตาม การสร้างบารมีกับองค์หลวงตาจะหาได้ที่ไหน เราซื้อก๋วยเตี๋ยววันหนึ่ง ๒๐-๓๐ บาท เราซื้อได้ เราจะทำบุญกับองค์หลวงตา ๒๐-๓๐ บาท ไม่ได้หรือ ก็ต้องถามกิเลสภายในใจเราเหมือนกัน แต่ไม่ใช่มีเท่าไรก็ทุ่มเททั้งหมดก็ไม่ถูก เราต้องดูสถานะความเป็นอยู่ของเรา ไม่ให้ตนเองเดือดร้อน ไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน แต่จะไม่ทำเสียเลยก็ไม่ดี เพราะไม่มีบุญ คนไม่มีบุญไปอยู่สถานที่ใดอย่าไปบ่นว่าตัวเองอดอยาก ก็เพราะอานิสงส์ทานไม่มี

พวกเราเกิดมาพบพระพุทธศาสนา ได้พบพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ได้พบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ก็ให้ทำบุญทำทาน ให้จิตใจกว้างขวาง เมื่อได้ทำบุญทำทาน อานิสงส์ทานไม่ไปไหน มันไหลทะลักเข้ามาสู่จิตสู่ใจของพวกเรา อานิสงส์ท่านจะเกื้อกูลหนุน เกิดมาภพใดชาติใดจะไม่อดอยาก หลวงตามหาบัวท่านก็ท้าทายไว้อีก ลูกหลานผู้ใด ถ้าทำบุญตามทำนองคลองธรรมแล้วฉิบหายล่มจม บอกมา เราจะคืนให้ ท่านเชื่อมั่นถึงขนาดนั้น

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “ถ้าทำบุญแล้วล่มจมให้บอกมา”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

ตั้งแต่วันที่ริเริ่มหาทองคำเพื่อทำยอดฉัตรทองคำเจดีย์ขององค์หลวงตาในวันที่ ๖ มีนาคม หลวงพ่อได้ประกาศเพราะทราบว่าผู้ออกแบบได้ออกแบบยอดฉัตรเป็นทองเหลือง พอหลวงพ่อได้ยินว่าเป็นทองเหลือง หลวงพ่อก็คิดว่า หลวงตาหาทองคำเข้าคลังหลวงเป็นตัน ๆ แต่พอยอดฉัตรเจดีย์ของหลวงตาเป็นทองเหลืองไม่น่าจะถูกต้อง หลวงพ่อจึงออกมาประกาศกับคณะศรัทธาญาติโยมลูกหลาน ก็ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี

ตั้งแต่วันที่ ๖ มีนาคมจนเดี๋ยวนี้ หลวงพ่อได้รวบรวมทองคำกับคณะกรรมการได้ทองคำทั้งหมด ๕๐ กว่ากิโล และมีทองคำของหลวงปู่อุ่นหล้าที่ท่านจะหล่อพระทองคำ ๕๒ กิโล ไว้ที่ยอดพระเจดีย์ขององค์หลวงตา แต่เมื่อหล่อแล้วมีทองคำเหลือจากพระพุทธรูปทองคำของท่าน ๑๒ กิโล ท่านจึงให้นำมาทำยอดฉัตรทองคำ พอรวมกันแล้วก็ ๖๐ กว่ากิโล

และมีปัจจัยที่คณะศรัทธาญาติโยมโอนเข้าบัญชีเพื่อทำยอดฉัตรทองคำ ปัจจัยก็งอกเงยขึ้นเรื่อย ๆ ยอดปัจจุบันขึ้นมาเป็น ๔๒ ล้าน ๗ แสน ถ้าซื้อทองคำ ๙๙.๙ จะได้ทองคำ ๓๐ กว่ากิโล มารวมกับ ๖๒ กิโล ก็ได้มาแล้ว ๙๐ กว่ากิโล ก็ใกล้ความจริงอย่างมากแล้ว หลวงพ่อตั้งเป้าหมายไว้ ๙๘ กิโลเท่าอายุขององค์หลวงตา ถ้าถึงวันที่ ๒๔ นี้ ที่จะมีงานถวายผ้าป่าและทองคำเพื่อสร้างยอดฉัตรทองคำพระเจดีย์ ก็น่าจะเข้าเป้า จึงขอประกาศให้คณะศรัทธาญาติโยมได้รับทราบ แต่ก็ยังจะไม่ปิดบัญชีจนกว่าจะได้หล่อยอดฉัตรจึงจะปิดโครงการนี้ เพราะเมื่อหล่อยอดฉัตรเสร็จแล้วก็อาจจะต้องหล่อเสริมเพิ่มเติมในบางมุมอีก

และเมื่อหล่อยอดฉัตรเสร็จแล้ว จะมีการทำผอบทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า พระธาตุของพระอรหันตสาวก และพระธาตุขององค์หลวงตา ก็มีคนถามว่า ถ้าเราเอาพระธาตุของพระอรหันตสาวกขึ้นไปไว้ด้วยกันกับพระบรมสารีริกธาตุ จะไม่เป็นการเปรียบเทียบ เทียบเท่ากับองค์พระพุทธเจ้าหรือ

หลวงตาท่านเคยบอกว่า ถ้าจิตบริสุทธิหลุดพ้นจากอาสวกิเลสแล้ว จิตดวงนั้นเสมอกัน จิตของผู้ที่เข้านิพพานแล้วเสมอกัน ท่านเปรียบเทียบเหมือนแม่น้ำโขง แม่น้ำไนล์ แม่น้ำน่าน แม่น้ำปิง แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำฮวงโห เมื่อไหลลงสู่ทะเลแล้วก็เรียกว่าน้ำทะเล ไม่เรียกว่าแม่น้ำนั้นแม่น้ำนี้ รสชาติก็เหมือนกันคือเค็มเป็นน้ำทะเลทั้งหมด

นี้ก็เหมือนกัน พระอรหันตสาวก ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ไหน เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ความบริสุทธิหลุดพ้นเสมอกัน แต่ในโลกสมมติ เราก็เปรียบเทียบมีสูงมีต่ำ มีพระพุทธเจ้า มีพระอรหันตสาวก มีสาวกผู้ใหญ่ผู้น้อย แต่โดยความบริสุทธิหลุดพ้นแล้วเหมือนกัน คือจิตบริสุทธิหลุดพ้นแล้วเสมอกัน

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “จิตผู้บรรลุธรรมเสมอกัน”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

หลวงพ่อได้ติดตามใส่ใจในเจดีย์พิพิธภัณฑ์ขององค์หลวงตามาโดยตลอด ศรัทธาญาติโยมถวายทองคำมา หลวงพ่อก็เก็บหอมรอมริบ ไม่ได้ตกหล่นไปไหน ได้บอกกล่าวในคณะศรัทธาญาติโยมทราบสม่ำเสมอ

หลวงพ่อทำงานชิ้นนี้เพื่อบูชาพระคุณขององค์หลวงตา พระคุณของหลวงตาท่วมท้นในจิตใจของหลวงพ่อ เพราะฉะนั้นหลวงพ่อเองได้ออกมาคราวนี้ถึงหลวงพ่อจะอายุแก่ขนาดนี้ก็พยายามทำให้ดีที่สุด ปีสองปีนี้ก็คงจะจบ เมื่อเจดีย์ขององค์หลวงตาเสร็จแล้ว หลวงพ่อก็คงจะเหมือนกับยกภูเขาออกจากศีรษะของหลวงพ่อ เพราะทำหน้าที่เสร็จแล้ว บริบูรณ์แล้ว สุดความสามารถของหลวงพ่อแล้ว หลวงพ่อจึงได้บอกประกาศให้คณะศรัทธาญาติโยม ช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนละมากคนละน้อยไม่ว่ากัน หลวงพ่อรับไปก็นำไปรวมกันทำยอดฉัตรเจดีย์ขององค์หลวงตา หลวงตาหาทองคำเข้าคลังหลวงถึง ๑๓ ตัน เงิน ๑๐ ล้านกว่าดอลลาร์ให้ประเทศชาติบ้านเมือง แต่ยอดฉัตรเจดีย์ขององค์หลวงตาจะเป็นทองเหลืองอ๋อยต๋อยก็ไม่น่าจะถูกต้อง หลวงพ่อจึงกระโดดออกมาประกาศให้คณะศรัทธาญาติโยมช่วย ๆ กัน คณะศรัทธาญาติโยมก็ให้การตอบรับดีเยี่ยม ไม่กี่เดือนจะได้ทองครบแล้ว

เมื่อสร้างยอดฉัตรเจดีย์ขององค์หลวงตาแล้ว ให้ตั้งความปรารถนาเลย สาธุเน้อ ข้าพเจ้าได้ทำยอดฉัตรเจดีย์ขององค์หลวงตา ได้ทำถวายพระอรหันต์คือองค์หลวงตา ข้าพเจ้าเองมั่นใจว่า องค์หลวงตาคือพระอรหันตสาวกองค์หนึ่ง ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำ คำว่าตกต่ำอย่าได้มี ข้าพเจ้าเกิดในภพภูมิใดก็ตาม ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้สูงส่งด้วยลาภคือความมั่งมี ด้วยยศ คือความยกย่องสรรเสริญในชุมชน ด้วยสุข คือความทุกข์อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าจนกว่าข้าพเจ้าพ้นทุกข์ในวัฏสงสารถึงแดนพระนิพพาน ให้เราปรารถนาอย่างนั้น ให้ปรารถนาถึงแดนพระนิพพานเลย อย่าได้มาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอีกอย่างที่หลวงตาได้รู้ได้เห็นธรรมนั้นด้วยเทอญ

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “จิตผู้บรรลุธรรมเสมอกัน”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

นายภีรียศ เมฆม่วงแก้ว ขอเรียนถามว่าการหล่อยอดพระเจดีย์ทองคำหลวงตาเร่ิ่มหล่อวันไหนและหล่อเสร็จสิ้้นวันไหนครับ(ว/ด/ป)
และร่วมทำบุญโดยโอนเงินผ่านทางธนาคารวันสุดท้ายถึงวันท่ี่เท่าไหร่ครับ ขอบพระคุณมาก.

 

การหล่อฉัตร ตามที่ได้รับทราบเบื้องต้นคณะกรรมการได้กำหนดในวันที่ ๑๒ สิงหา ซึ่งเป็นวันเกิดขององค์หลวงตาครับ
และเมื่อหล่อยอดฉัตรเสร็จแล้ว จะมีการทำผอบทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า พระธาตุของพระอรหันตสาวก และพระธาตุขององค์หลวงตา
ปัจจุบันยังไม่ทราบกำหนดวันปิดบัญชีร่วมบุญ หากทราบแล้วจะรีบแจ้งให้ทราบต่อไปครับ

 

ขอร่วมบุญด้วยครับ 20.- และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

 

สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับคุณ Techit168 ที่ได้ร่วมทำบุญสมทบปัจจัย ทำฉัตรทองคำ ยอดเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ในครั้งนี้ด้วย

 

เย็นวันอาทิตย์ที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๑ พระอาจารย์ประดุง อาภาธโร นำคณะศิษยานุศิษย์ สำนักสงฆ์ยวนผึ้ง จ.ภูเก็ต เข้ากราบหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เพื่อถวายทองคำ ๕๓ บาท ในการสร้างยอดฉัตรทองคำเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว)

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

ยอดทองคำตอนนี้ยอดยังไม่แน่นอนเพราะยอดหลังๆ นี้ ยังไม่ได้ชั่ง แต่ที่เอาไปเข้าตู้นิรภัยครั้งสุดท้ายก็ได้ทองคำประมาณ ๕๐ กิโล ต้น ๆ และทองคำที่หลวงปู่อุ่นหล้าวัดป่าแก้วชุมพลที่ท่านมรณภาพ ท่านได้หล่อพระทองคำ ๕๒ กิโล ที่วัดป่าบ้านตาด ทองคำเหลือ ท่านจึงมอบให้หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ เป็นผู้จัดการดูแล ท่านสุธรรมจึงมอบทองคำ ๑๒ กิโล ให้หลวงพ่อสุดใจ หลวงพ่อสุธรรมท่านบอกว่า ผมได้มอบทองคำให้หลวงพ่อสุดใจแล้ว ถ้ารวมกัน ก็ ๖๐ กว่ากิโล และถ้ารวมกับจตุปัจจัยที่เข้าในบัญชีตอนนี้ ๔๓ ล้าน ๕ แสนกว่า แต่จะนำไปเปลี่ยนเป็นทองคำได้ขนาดไหนก็ยังไม่แน่ เพราะราคาทองก็มีขึ้นมีลง นี่คือเรื่องทองคำที่ดำเนินการกันอยู่

ถ้าได้ทองคำ๙๘ กิโล กระโจมข้างบนจะเป็นทองคำสูงประมาณเมตรกว่า ๆ ความหนาของทองจะมีทองเหลืองเป็นแกนหลัก และเททองคำหุ้มความหนาประมาณครึ่งเซ็นต์ ทองคำ ๙๘ กิโล หล่อกระโจมได้หนาประมาณครึ่งเซ็นต์เท่านั้นนะ ตอนนี้ก็กำลังติดต่อบริษัทหลอมไว้ และเราได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะหล่อวันที่ ๑๒ สิงหา เพราะหลวงตาเกิดวันที่ ๑๒ สิงหา แต่ก็มีการทำหนังสือทูลเชิญเบื้องบนเสด็จ ต้องรอดูกำหนดการที่พระองค์จะโปรดลงมาอีกทีว่าพระองค์จะสะดวกเมื่อไร

เมื่อหล่อแล้ว เราก็กะว่าจะยกฉัตรวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๒ เพราะเป็นวันมรณภาพขององค์หลวงตา และจะมีการทูลเชิญเสด็จด้วยอีกเหมือนกัน ก็ต้องรอดูว่าพระองค์จะโปรดลงมาเมื่อไร เราก็ต้องคอยรับฟัง

หลังจากนั้น เมื่อยกยอดฉัตรแล้ว ก็จะมีการรื้อนั่งร้านลงมา มาถึงเบ้าใหญ่ที่เป็นโพรงที่จะบรรจุพระพุทธรูปทองคำของหลวงปู่อุ่นหล้า จะมีการเจาะเป็นโพรงเข้าไปในพระเจดีย์ที่ข้างบน ห่างจากพื้นดิน ๓๐ กว่าเมตร เมื่อบรรจุพระพุทธรูปและผอบทองคำที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุไว้บนพระเจดีย์แล้ว จากนั้นก็ปิด

แต่การบรรจุก็คงต้องมีการทูลเชิญอีก เพราะการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเป็นเรื่องใหญ่ ตั้งแต่โบราณมาการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุต้องเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากนั้นก็จะมีการตกแต่งภายในและภายนอก ก็จะเสร็จภายใน ๓๖ เดือน ภายในมิถุนายน ๒๕๖๓ จากนั้นพวกเราก็จะสมโภชใหญ่

นี่คือหลวงพ่อเรียงลำดับให้ฟังที่พวกเราตั้งเป้าเอาไว้

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

บ่ายวันนี้ (๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๑) หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ได้มอบหมายให้ตัวแทนคณะสงฆ์และคณะกรรมการวัดป่านาคำน้อย พร้อมด้วยผู้ประสานงานโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) มาชั่งทองคำ และแยกประเภท ทองคำที่มีผู้ถวายต่อหลวงพ่ออินทร์ถวาย เพื่อสร้างยอดฉัตรทองคำเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล โดยมีรายละเอียดดังนี้

๑. ทองคำแท่ง ๙๙.๙๙ % จำนวน ๑๑,๐๒๑.๘๐ กรัม
๒.ทองคำแท่ง ๙๖.๕ % จำนวน ๒๒,๑๒๗.๒๐ กรัม
๓.ทองคำแท่งไม่ระบุเปอร์เซ็นต์ จำนวน ๗,๓๔๔.๓ กรัม
๔.ทองคำรูปพรรณ จำนวน ๑๒,๖๒๙.๘ กรัม

รวมทองคำในส่วนที่มีการถวายต่อหลวงพ่ออินทร์ถวายทั้งสิ้นเป็นจำนวน ๕๓,๑๒๓.๑๐ กรัม เท่ากับทองคำ ๕๓ กิโลกรัมกับอีก ๑๒๓.๑๐ กรัม และได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ตู้นิรภัยธนาคาร ก่อนจะนำไปหลอมเป็นยอดฉัตรทองคำเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคลต่อไป

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

 

ในครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยปรารภเรื่องการสร้างพระเจดีย์ หรือยอดฉัตรพระเจดีย์ หรือไม่ เคยนะ มีอยู่หลายเรื่อง

ในเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องของพระลกุณฏกภัททิยะ ท่านเกิดในศาสนาของพระพุทธเจ้ากัสสปะในภัทรกัปป์นี้ เมื่อพระพุทธเจ้ากัสสปะปรินิพพานไปแล้ว ทั้งกษัตริย์ เศรษฐีและคนทั้งหลายก็จะสร้างพระเจดีย์ของพระพุทธเจ้ากัสสปะ จะสร้างกว้างสูงเท่านั้นเท่านี้โยชน์ แต่นายช่างใหญ่ในสมัยนั้นบอกว่า ไม่น่าจะสร้างใหญ่ขนาดนั้น เพราะสร้างก็ยาก การดูแลรักษาก็ยาก น่าจะสร้างขนาดย่อม ๆ จะได้เสร็จเร็ว ๆ

พอลงมติกันคนจนก็มากกว่าคนรวย คนรวยเสียงสู้คนจนไม่ได้ ก็เลยสร้างไม่ใหญ่ สร้างเป็นขนาดย่อม ๆ จากนั้น พระลกุณฏกภัททิยะซึ่งก็คือนายช่างใหญ่สมัยนั้น เกิดมาภพใดชาติใด ตัวเตี้ยตลอด เพราะวิบากที่บั่นทอนความใหญ่สูงโอ่อ่าสวยงามของพระเจดีย์ พอมาเกิดในศาสนาของพระพุทธเจ้าปัจจุบัน พระลกุณฏกภัททิยะท่านเป็นผู้เสียงไพเราะ แสดงธรรมเป็นที่จับใจ เป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ แต่ตัวเตี้ยเหมือนเณรน้อย

วันหนึ่ง พระพุทธองค์ประทับที่วัดป่าเชตวันมหาวิหาร มีพระกลุ่มหนึ่งได้เข้ามากราบพระพุทธเจ้า พระกลุ่มนี้เห็นพระลกุณฏกภัททิยะที่เข้าไปก่อนเดินออกมา พระกลุ่มนี้ก็เอามือขยุ้มหัวพระลกุณฏกภัททิยะ เพราะคิดว่าเป็นสามเณรน่ารัก

พอเข้าไปกราบพระพุทธเจ้า ท่านจึงกล่าวว่า ดูก่อนพระสงฆ์ทั้งหลาย พวกเธอเห็นไหม พระเถระที่เดินออกไปสักครู่ พระเหล่านั้นก็ตอบว่าไม่เห็น เห็นแต่สามเณรพระเจ้าข้า

พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า นั่นล่ะพระเถระ พระเหล่านั้นก็ตอบว่า ไม่ใช่พระเจ้าข้า สามเณร จนพระพุทธเจ้าต้องยืนยันถึงสองสามครั้งว่า นั่นล่ะพระเถระ

พระสงฆ์ทั้งหลายจึงถามว่าทำไมพระเถระตัวเตี้ยนัก พระพุทธองค์จึงบอกว่าเป็นบาปกรรมในอดีตตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะที่เขาจะสร้างพระเจดีย์ให้ใหญ่สวยงาม แต่ตัวเองไปคัดค้าน เกิดมาชาติใดจึงตัวเตี้ยตลอด

เพราะฉะนั้น คณะศรัทธาญาติโยม ที่เขาจะสร้างยอดฉัตรทองคำ ๙๘ กิโล ถ้าไปบอกว่า โอ้ย ๒-๓ บาทก็พอ ระวังต่อไปภายภาคหน้า ความขี้ร้ายขี้เหร่จะเกิดขึ้นกับเรา แต่ถ้าหลวงพ่อบอกว่า ๙๘ กิโล พวกเราว่า โอ้ย น้อยไป อย่างน้อยต้องร้อยกิโล ถึงจะถูกนะลูกหลาน

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “บุญกรรมข้ามภพชาติ”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๑

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก