ขอเชิญร่วมสมทบทุนสร้างเจดีย์เทสก์รังสี

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนสร้างเจดีย์เทสก์รังสี เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึง หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี ผู้เป็นบูรพาจารย์ ที่วัดป่าเลิงจาน

วัดโพธิชัยวราราม หรือ วัดป่าเลิงจาน ตั้งอยู่ที่ ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ปัจจุบัน พระครูสุนทรธรรมโฆษิต หรือ หลวงเตี่ยสุรเสียง ปัญญาวชิโร ดำรงตำแหนง เจ้าอาวาสวัดและเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย (ธรรมยุต)
ภายหลังจากที่ พระครูสุนทรธรรมโฆษิต ได้มาอยู่จำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดป่าเลิงจาน จนมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ ในปี พ.ศ 2548 วัดป่า เลิงจาน ได้มีโครงการก่อสร้างเจดีย์เทสก์รังสียังไม่คืบหน้าจนถึงปัจจุบัน ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ด้วย ขาดทุนทรัพย์ เป็นจำนวนมาก เหตุเพราะเป็นวัดที่อยู่นอกเขตเมือง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของชาติตกต่ำ ทำให้การร่วมบริจาคลดลง ตามไปด้วย

ท่านใดที่มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคซื้อวัสดุก่อสร้าง
ติดต่อได้ที่ หลวงเตี่ยสุรเสียง (เจ้าอาวาส)
โทรศัพท์ 086-635-0037, 086-792-8460
หรือโอนเงินเข้าบัญชีพระครูสุนทรธรรมโฆษิตวัดป่าเลิงจานเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย ต.แก่งเลิงจาน อ. เมือง จ.มหาสารคาม (ธ) หมายเลขบัญชี 569-0-12437-4 ธนาคารกรุงเทพสาขากันทรวิชัย​

ที่มา Surasieng.org :: หลวงปู่สุรเสียง :: วัดป่าเลิงจาน​

 

ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร

ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร

วัดป่าเลิงจาน
ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม


๏ อัตโนประวัติ

“หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร” หรือ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต” เป็นพระป่ารูปหนึ่งที่ครองตนอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์อย่างสมถะเสมอต้นเสมอปลาย และเป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนในวงกว้าง ท่านเป็นศิษย์สายพระกัมมัฏฐานที่ได้ศึกษาแนวทางปฏิบัติมาจากพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) แห่งวัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร มีนามเดิมว่า สุรเสียง แซ่เตี๋ย เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน พุทธศักราช 2483 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง ณ ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โยมบิดาชื่อ นายเป็งติ่ง แซ่เตี๋ย เกิดที่เมืองจีน โยมมารดาเป็นคนไทยชื่อ นางเปี่ยม มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 3

ปัจจุบัน สิริอายุ 69 พรรษา 25 (เมื่อปี พ.ศ.2552) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าเลิงจาน ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม และเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย (ธรรมยุต) จ.มหาสารคาม


๏ อาชีพและการอุปสมบทครั้งแรก

ชีวิตในวัยเด็กเป็นคนที่ต่อสู้ชีวิตดิ้นรน เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ท่านจึงจบการศึกษาเพียงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน ในขณะที่มีอายุได้เพียง 11 ปี

หลังจากนั้นก็ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาพักอาศัยกับญาติ และได้ไปฝึกงานซ่อมรถที่อู่เคาะพ่นสีรถ ย่านสีลม ทำงานอยู่ได้นานถึง 20 ปี จนอายุย่างเข้าเลขสี่ จึงได้เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุ ซึ่งเป็นการบวชตามประเพณีเท่านั้น บวชอยู่ได้ 5 เดือนก็ลาสิกขา ไปทำงานเกี่ยวกับซ่อมรถต่อ โดยทำงานอยู่ในฐานะเจ้าของอู่ดำเนินการซ่อมรถด้วยตนเอง

ในปี พ.ศ.2512 ขณะที่กิจการกำลังเจริญรุ่งเรือง อู่ก็ถูกไฟไหม้จนหมดเนื้อหมดตัว แต่ท่านก็ไม่ยอมย่อท้อ ได้ต่อสู้หาเงินมาลงทุนใหม่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้หันเหชีวิตเปลี่ยนอาชีพมาทำงานด้านรับเหมาถมดินถมทราย แต่มีคู่แข่งขันแย่งชิงกัน ท่านจึงถูกคุกคามข่มขู่จะเอาชีวิตจากผู้ที่เสียผลประโยชน์จึงต้องหนี หลังจากที่ท่านครุ่นคิดว่าจะหนีไปไหน ก็ได้คิดว่านอกจากวัดก็คงไม่มีที่ใดดีไปกว่านี้ซึ่งมีความสงบ
๏ การอุปสมบทครั้งที่ 2

อุปนิสัยของท่านเป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม ชอบศึกษาหาเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของพระภิกษุสายกัมมัฏฐาน โดยเฉพาะท่านให้ความศรัทธาในวัตรปฏิบัติหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ดังนั้น วัดที่ท่านหนีไปพักก็คือ วัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

การไปปฏิบัติธรรมในครั้งนั้น ทำให้ท่านได้สัมผัสกับรสชาติแห่งความสงบ จึงได้ตัดสินใจสละทางโลกมุ่งหน้าเข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์ เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้ง ณ พัทธสีมาวัดหินหมากเป้ง เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2527 โดยมีพระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิชัยวัฒนกิจ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระชุมพล อภิพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์


หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี


๏ สายธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

หลักจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อสุรเสียงได้พำนักจำพรรษาแรกอยู่กับ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย เพื่อฝึกปฏิบัติภาวนาจากบรมครูหลวงปู่เทสก์ ซึ่งท่านเมตตาคอยให้คำชี้แนะแนวทางการปฏิบัติธรรมแก่หลวงพ่อสุรเสียงมาโดยตลอด

หลวงพ่อสุรเสียงเล่าว่า ระหว่างที่ปฏิบัติภาวนาอยู่ก็เกิดโอภาสเป็นแสงสว่างสุกใส เย็นตาเย็นใจ กว้างไกลไม่มีประมาณ ครั้นเมื่อท่านไปเล่าให้หลวงปู่เทสก์ฟัง หลวงปู่ท่านก็บอกว่าบางคนปฏิบัติเป็นสิบๆ ปีก็ยังไม่เกิดแบบนี้เลย ฉะนั้นโอภาสที่ได้จึงถือว่าเป็นวาสนาบารมีเก่าอย่างหนึ่งซึ่งเคยบำเพ็ญมา ตลอดเวลาถึงแม้หลวงพ่อสุรเสียงจะเพิ่งบวช แต่ท่านก็ใส่ใจต่อการเจริญภาวนาอย่างเต็มที่ จนเกิดผลเป็นความสงบแก่จิตใจ จากความคิดที่จะบวชเพียงชั่วคราวจึงหมดไป กลายเป็นความคิดที่อยากจะอุทิศชีวิตให้กับพระศาสนาต่อไป

หลวงพ่อสุรเสียงเมื่อได้รับถ่ายทอดอุบายธรรมจากหลวงปู่เทสก์ จนกระทั่งมีภูมิปัญญาพอที่จะรักษาตัวได้แล้ว ท่านก็เริ่มออกจารึกธุดงค์ ท่านไปมาหลายแห่งหลายที่ แต่ที่ท่านประทับใจมากที่สุดคือ สถานที่ที่หลวงปู่มั่นเคยไปอยู่ คือ ถ้ำยูงทองหรือน้ำตกยูงทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี โดยท่านเดินด้วยเท้าจากจังหวัดหนองคาย ไปด้วยกัน 3 รูป ต่างแยกกันอยู่คนละภูเขา องค์หนึ่งอยู่ที่ถ้ำน้ำทิพย์ คือพระอาจารย์นิรันดร อีกองค์หนึ่งคือพระอาจารย์ทองพูล ปุญญกาโม ปัจจุบันนี้จำพรรษาอยู่ที่วัดเทสก์รังสีอเมริกา


๏ สร้างวัดกกไม้แดงและวัดประชาบำรุง

หลังจากนั้นหลวงพ่อสุรเสียงก็กลับมายังวัดหินหมากเป้ง หลวงปู่เทสก์ก็ได้ให้หลวงพ่อสุรเสียงไปช่วยงานที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งในขณะนี้พระอาจารย์ทองพูลได้ไปจำพรรษาอยู่ที่ป่าช้าบ้านหนาด อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ก่อนแล้ว ครั้นเมื่อหลวงพ่อสุรเสียงไปถึงแล้ว พระอาจารย์ทองพูลได้ไปเรียนธรรมกถึก ที่ศูนย์อบรมพระธรรมกถึกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดบึงพระลานชัย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมกันนั้นก็ได้ชวนหลวงพ่อสุรเสียงไปเรียนธรรมกถึก รุ่นที่ 15 ด้วยกัน

หลังจากนั้น หลวงพ่อสุรเสียงกลับมาจำพรรษาที่ป่าช้าบ้านหนาด และได้ร่วมกันสร้างวัดสีลวรรณ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดกกไม้แดง” ซึ่งเป็นวัดแรกที่หลวงพ่อสุรเสียงได้สร้างไว้ในพระศาสนา ด้วยเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงทำให้ท่านเริ่มมีชื่อเสียงเลื่องลือ แม้ว่าอายุพรรษาจะยังน้อยก็ตาม

หลวงพ่อสุรเสียงได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ในปี พ.ศ.2528 ถึง พ.ศ.2530 ตามลำดับ แล้วได้สร้างวัดที่ 2 ขึ้น คือวัดประชาบำรุง ซึ่งเป็นวัดกรรมฐาน จากคุณงามความดีของหวงพ่อสุรเสียง ต่อมาพระราชวินยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม ฝ่ายธรรมยุต ได้มีหนังสือไปขอตัวหลวงพ่อสุรเสียงจากหลวงปู่เทสก์ มาสร้างวัดป่าโนนแท่น ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม


๏ สร้างวัดป่าโนนแท่น

หลวงปู่เทสก์จึงได้บอกกับหลวงพ่อสุรเสียงว่า สมควรจะไปช่วยงานเพราะเป็นพระฐานานุกรม ดังนั้นท่านจึงได้สร้างวัดป่าโนนแท่นขึ้น เนื่องมากจากได้มีโยมท่านหนึ่งมอบที่ดินให้จำนวน 7 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา หลวงพ่อสุรเสียงร่วมกับบรรดาศรัทธาญาติโยมช่วยกันก่อสร้าง “วัดป่าโนนแท่น” จนแล้วเสร็จใช้เวลา 3 ปี จึงได้รับตราตั้งเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดป่าโนนแท่น

หลวงพ่อสุรเสียงได้พยายามทุ่มเทพลังกายพลังใจพัฒนาวัดป่าโนนแท่น จนเจริญรุ่งเรืองในเวลาอันรวดเร็ว ปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีแต่ความร่มรื่นสวยงาม จนกลายเป็นลานธรรม


๏ พัฒนาวัดป่าเลิงจาน

หลังจากพัฒนาวัดป่าโนนแท่นจนเจริญรุ่งเรืองแล้ว หลวงพ่อสุรเสียงได้ย้ายไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิชัยยาราม อยู่ริมแก่งเลิงจาน บ้านโนนหัวฝาย ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นวัดร้าง ในอดีตมีพระธุดงค์มานักอยู่ชั่วคราวแล้วก็จากไป จนทำให้บางครั้งที่วัดแห่งนี้ว่างขาดพระภิกษุสงฆ์พำนักจำพรรษา

หลวงพ่อสุรเสียงจึงเริ่มพัฒนาวัดขึ้นใหม่ สร้างเสนาสนะต่างๆ ขอซึ้อที่ดินจำนวน 7 ไร่จากชาวบ้าน ซึ่งที่เดิมเป็นเขตป่าช้าของวัด แต่ถูกชาวบ้านจับจองจนเหลือเนื้อที่เพียง 18 ไร่ ท่านสร้างกุฏิพร้อมห้องน้ำห้องส้วม รวมทั้ง จัดหาพระพุทธรูปปางต่างๆ มาประดิษฐานไว้ตามมุมต่างๆ ในวัด ให้พุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติธรรมได้สักการบูชา และในเวลาต่อมาวัดโพธิชัยยารามได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “วัดป่าเลิงจาน”


หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร


๏ ลำดับงานปกครองและสมณศักดิ์

พ.ศ.2532 ได้รับฐานานุกรมเป็นพระครูปลัดสุรเสียง

พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”

พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม และได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย ฝ่ายธรรมยุต จ.มหาสารคาม

หลวงพ่อสุรเสียงได้ไปเรียนหลักสูตรครูสอนปริยัติชั้นต้น ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ศึกษาต่อจนจบพระสังฆาธิการ ชั้นต้น-ชั้นสูง รุ่น 16 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ และจบหลักสูตรครูสอนปริยัติธรรมชั้นกลาง ที่วัดศรีษะเกษ อ.เมือง จ.หนองคาย เป็นต้น


๏ สร้าง “วิหารเจดีย์เทสรังสีรำลึก”

ตลอดเวลาหลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร ได้ยึดแนวทางการปฏิบัติจากหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี อย่างเคร่งครัด สมกับเป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนาโดยแท้ ปัจจุบันท่านได้มีโครงการก่อสร้าง “วิหารเจดีย์เทสรังสีรำลึก” เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงบูรพาจารย์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) ณ วัดป่าเลิงจาน ซึ่งภายในเจดีย์ทั้ง 4 ทิศ จะบรรจุอัฐิธาตุของพระบูรพาจารย์สายกรรมฐานที่มีชื่อเสียงทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ประกอบกับจะสร้างให้วัดป่าเลิงจานเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับสาธุชนทุกสารทิศ

 

ไม่ทราบว่า ตอนนี้ การก่อสร้างใกล้จะเสร็จ หรือยังครับ....จะเป็นการทอดผ้าป่า เหรอเปล่าครับ....อยากร่วม อนุโมทนาครับ ต้องทำยังไงครับ

 

ท่านใดที่มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคซื้อวัสดุก่อสร้าง

ตอนนี้การก่อสร้างพระเจดีย์ยังไม่แล้วเสร็จนะคะ

ท่านใดที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคซื้อวัสดุก่อสร้าง ติดต่อได้ที่ หลวงเตี่ยสุรเสียง (เจ้าอาวาส)
โทรศัพท์ 086-635-0037, 086-792-8460 หรือ
โอนเงินเข้าบัญชีพระครูสุนทรธรรมโฆษิตวัดป่าเลิงจานเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย ต.แก่งเลิงจาน อ. เมือง จ.มหาสารคาม (ธ) หมายเลขบัญชี 569-0-12437-4 ธนาคารกรุงเทพสาขากันทรวิชัย​

ที่มา Surasieng.org :: หลวงปู่สุรเสียง :: วัดป่าเลิงจาน​

<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอเชิญ ทุกๆท่าน ที่ต้องการสร้างเกราะป้องกันตัวเองจากการ ร่วมทำบุญสร้างอุโบสถครับ นานๆมีครั้งครับ ทำบุญกับพระอริยเจ้าครับ ของแท้ครับ.....
สาธุ...

 

หากจะติดต่อทางวัด ต้องติดต่อท่านเจ้าอาวาสโดยตรงเลยเหรอครับ....

 

น่าจะใช่ค่ะ ลองติดต่อดูนะคะ
ร่วมสร้างมหากุศลด้วยกันค่ะ

 

ท่านใดสนใจจะร่วมบุญ วันอาทิตย์นี้ หลวงพ่อท่าน และ พระรูปอื่นๆสาย หลวงปู่มั่น จะมาที่ บ้านลานเสียงธรรม ซอยนาคนิวาส40 ลาดพร้าว 71 ครับ..ขอเชิญไปทำบุญกันได้ครับ...สาธุ...