หน้า 6 #106 ขึ้นไป การหล่อพระแก้วขนาดใหญ่ต้องมีฟองอากาศแน่นอน

สำรองพื้นที่

 

สำรองพื้นที่

 

นอกจากพระแก้วแล้ว ยังสร้างชิ้นงานแก้วอื่นๆได้อีกหลายอย่าง เช่น ในภาพนี้คือม้าแก้วกลวง ตัดและต่อเป็นตัวม้าขนาดเท่าม้าจริงๆ สร้างโดยมาสเตอร์พีโน่ ซิกโนเร็ตโต้ ศิลปินปั้นแก้วมือเปล่าฟรีฟอร์ม แต่ท่านก็หล่อแก้วด้วยเทคนิคนี้ได้ด้วยเช่นกัน ม้าแก้วขนาดใหญ่นี้ราคาเรียกว่าประเมินค่าไม่ได้ครับ

 

ใบตารางการอบลดอุณหภูมิของแก้วบางชนิดที่ต้องการการเริ่มต้นขบวนการ Annealing ที่ 516C ได้แก่แก้วโซดาไลม์ซิลิก้า ตามตารางนี้ ถ้าเราหล่อพระแก้วไม่ว่าปางอะไร ถ้ามีขนาดใหญ่มากๆไม่ว่าใหญ่ปานใด แต่ความหนาของแก้วอยู่ที่ 1 นิ้ว เราจะใช้เวลาการอบทั้งสิ้นเพียง 16 ชั่วโมงก็จะได้มาตราฐานแล้ว แก้วนั้นจะไม่มีความเครียดหลงเหลืออยู่เลย และมีอายุอยู่นานเป็นพันเป็นหมื่นปี (บางตำราของฝรั่งบอกว่ามากกว่าหมื่นปี) ยกเว้นแต่มีการทำให้แตกเสียก่อน ด้วยการทุบ

 

https://palungjit.org/attachments/c...8/?temp_hash=cf008255a2bc3e55c4aba054cb65ceac

ตารางการอบลดอุณหภูมิของแก้วชนิดไม่มีตะกั่วที่เริ่มลดที่ 480C ตามตารางของ Gaffer แสดงให้เห็นว่า ความหนาไม่เกินครึ่งนิ้วใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง 25 นาที และเมื่อความหนาถึง 10 นิ้ว เวลาอบก็จะยาวถึง 49 วัน 20 นาที

 

ดังนั้น ผมจึงเห็นว่า การหล่อพระแก้วขนาดใหญ่มากๆ เช่น หน้าตัก 50 นื้ว (ความจริงการหล่อกลวงสามารถเริ่มตั้งแต่หน้าตัก 7 นิ้วขึ้นไป แต่สวยๆก็ประมาณ 12 นิ้วขึ้นไปครับ)

ตัวอย่างชิ้นงานแก้วโปร่งที่มีความหนาไม่มากนัก ขนาดเท่าคนจริง ถ้าเป็นพระแก้วยืนก็สูงประมาณ 160 cm. ศิลปินเจ้าของงานเป็นผู้หญิงเขาแบ่งหล่อเป็นหลายชิ้น แต่ถ้าหล่อพระแก้วควรเป็นชิ้นเดียวกัน ไม่ตัดไม่ต่อ ต้นทุนถ้าใช้แก้วจีนคงไม่กี่หมื่นบาท (หมื่นต้นๆ) [ไม่รวมค่าช่างปั้นหุ่นและค่าช่างอื่นๆ] ซึ่งถ้าเป็นงานหล่อพระแก้ว ผมว่าจิตอาสาเยอะเลย อาจไม่ต้องจ้างครับ

 

ความจริงแก้วโปร่งนั้น สามารถหล่อได้ตั้งแต่ขนาดหัวใจก็ทำได้แล้ว เพียงแต่ว่าในกรณีที่เป็นพระแก้ว คนส่วนหนึ่งก็อยากได้อย่างตันๆถ้าหน้าตักไม่เกิน 9 นิ้วนะครับ ถ้าเกินหน้าตัก 10 นิ้วขึ้นไปแล้วทำเนื้อโปร่งก็คงไม่รู้สึกว่าไม่ดีครับ

 

ที่สำคัญคือ อย่าไปทำเนื้อกลวงหรือเนื้อโปร่งเหมือนอย่างพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษที่ทำเสร็จเหมือนเอาศิวลึงค์ไปอยู่กลางท้องหรือกลางอกพระแก้ว อย่างนั้นดูน่าเกลียดมากครับ

ถ้าทำภายในให้เรียบลื่น มีเนื้อแนบติดไปกับรูปทรงภายนอกไปเลย คล้ายการเป่าแก้วด้วยปอดที่มีความหนาของเนื้อแก้วมากหน่อย อย่างนี้ผมว่าโอเคครับ

 

ภาพนี้ศิลปินแก้ววิชาแขนง Hollow Core ได้แสดงให้เห็นการโปร่งภายในชิ้นงานครับ ว่าที่ว่าโปร่งหรือกลวงนั้น อย่างไร เนื้อแก้วมีความหนาประมาณใด ถ้าเป็นกรณีหล่อพระแก้ว เราไม่จำเป็นต้องแสดงแบบนี้ครับ เราหล่อองค์ที่เรียบร้อยไปเลย

 

องค์นี้คือโครงการสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วอย่างโปร่งเป่าแก้วด้วยปอดที่ผมขอให้โรงงานแก้วเจษฏาสร้างให้จำนวนน้อยมากๆครับ คือสร้างแค่ 500 องค์ ทางโรงงานเจษฏาซึ่งเมตตาผมอย่างเหลือเกิน คิดเพียงองค์ละ 450 บาท (รวมค่าน้ำแก้วค่าแรงค่าฝึกค่าทำฝ้าทำใสไว้เรียบร้อยแล้ว)

หมายเหตุ
ฐานทรงก้อนหินทำจากอลูมีเนียมที่ใส่ตัวติดขั้วไฟ E27 ไว้ 2 ขั้วราคาพร้อมทำสี 200 บาท ค่าหลอดไฟถ้าใช้ incandescent 60 watt 2 หลอด รวมทั้งชุดต้นทุน 750 บาทครับ

 

คราวนี้ถ้าสร้างด้วยวิธีหล่อกลวงหน้าตักสัก 30 นิ้ว หล่อไม่ใช่เป่าแก้วด้วยปอด เนื้อแก้วหนาแค่ครึ่งนิ้วก็พอ ต้นทุนทั้งองค์คงประมาณหมื่นต้นๆครับ

 

ต้นทุนนั้นถูกมาก แต่เนื่องจากราคาขายที่สูงเกินจริง อันเนื่องมาจากความนิยามกันว่า ถ้าเป็นงานแก้วแล้วจะต้องแพง เรื่องนี้ผมจะได้อธิบายเร็วๆนี้ครับ

เหตุผลที่เขานิยามกันแบบนี้ว่า งานแก้วต้องแพง มันมีที่มาที่ไป จึงในที่สุดก็มีบริษัทที่เขาทำตามคำสั่งของผู้นำในสมัยนั้น และยังคงทำต่อเนื่องมาถึงสมัยนี้ ซึ่งการกระทำนั้นถือว่า ทั้งดีและไม่ดี คือต้องทำให้ใส ใสจนกระทั่งแทบหาฟองไม่ได้ ( แทบนะครับ ยังคงมีกฏที่ว่าอนุญาตให้มีฟองได้บ้าง และฟองต้องไม่ขนาดใหญ่เกินเส้นผ่าศูนย์กลางกี่มิลลิเมตรในงานขนาดไหน ) กฏนี้ทำเฉพาะผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้าง ซึ่งถ้าระบุถึงขนาดว่า ไม่ให้มีฟองอากาศเลยแม้แต่เศษหนึ่งส่วนร้อยมิลลิเมตร และไม่ให้มีเส้นวุ้นเลยแม้แต่น้อย ก็จะหาผู้รับจ้างไม่ได้เลยบนโลกนี้

 

ผมมีไฟตั้งโต๊ะจานกลมเพียง 1 ดวง จึงวางตรงกลาง เอาไฟฉายแบบหิ้ว (สีของแสงจึงแบ่งเป็นสองอย่าง) วางด้านหลังของอีกสององค์ แล้วถ่ายพร้อมๆกัน

แก้วของจีนนั้น ถือว่า ถ้าขายทั้งแบบนี้ ไม่ขัดผิว ไม่เจียรนัย ไม่ทำอะไรเลย จะไปขายเท่ากับของฝรั่งเศสในขนาดใกล้เคียงกัน คือองค์ละประมาณ 5 - 6 หมื่นบาท มันก็สูงเกินไป เพราะงานของฝรั่งเศสส่วนมากมีการขัดหรือแต่งผิวภายหลังการหล่อแทบทั้งสิ้น

 

ต่อให้มีการขัดแต่งผิวก็ตาม ราคายี่ห้อแบรนด์เนมระดับท๊อปเท็นของโลก เขาย่อมต้องสูงกว่าเราอยู่ดี

เดิมทีเดียวบริษัทที่ปีเตอร์เคยอยู่มาก่อน เขาเคยสร้างพระแก้วเป็นพระพุทธหน้าตัก 5 นิ้ว แล้ววางขายองค์ละ 4 - 7 หมื่นบาทมาก่อน เมื่อมีงานเทศกาลก็ลด 20 - 30% แต่ก็ยังสูงเกินไปสำหรับคนไทย ในที่สุดบริษัทเขาจึงเลิกไป

งานสร้างพระพุทธหรือพระเกจิหรือจะเป็นเทวดาใดๆหรือครุฑ หรือนาค บริษัทนั้นควรเข้าใจว่า นี่ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติในการสร้างพระแก้วไม่เหมือนใครในโลก เพราะเราทำให้เกิดความเคยชินในด้านที่ว่า ต้องปลุกเสก ต้องมีสตอรี่มาก่อน หรือถ้าพูดง่ายๆก็คือ ต้องมีที่มาที่ไปและไปผูกกับพิธีกรรม + อะไรต่อมิอะไรอีกเยอะ จึงทำให้บริษัทข้ามชาติ ที่เขาไม่รู้ว่าตลาดไทยต้องการแบบนี้ ไม่ใช่มาถึงก็สร้างๆแล้วก็สร้าง ขาย ๆ แล้วก็ขาย ไม่ใช่แบบนั้น

 

ขออภัยหายไปเพื่อรับข่าวสร้างพระแก้วสูง 170 CM องค์พระแก้ว 130 CM มาครับ

พระแก้วเป็นปางนั่ง แยกเฉพาะองค์พระแก้วสูงประมาณ 130 cm หน้าตักกว้าง 130 cm

ฐานบัวแยกออกจากองค์พระสูงประมาณ 30 cm

ฐานแผ่นแก้วแบนกลมสูงประมาณ 10 cm

รวมความสูงขององค์พระแก้วรวมฐานแก้วมีความสูงประมาณ 170 cm เส้นผ่าศูนย์กลาง 130 cm

เนื้อแก้วตันๆทั้งองค์และทั้งฐานบัวและฐานแผ่น

 

หากเชือกขาดพระแก้วก็จะแตก

 

ต่อครับ

 

ผ.อ. คิดว่าหากพระอยู่กับเรา

 

ต่อครับ