ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี ณ วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ (วัดห้วยตีนตั่ง)

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 15 ตุลาคม 2009.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    อานิสงส์ของทานและการชักชวนคนอื่นทำบุญ...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    การ ให้ทานนี้อย่างลืมนะว่าถ้าใจยังไม่หนักแน่นพอ คนที่เรายังไม่ชอบใจอย่างเพิ่งให้ ให้แต่คนที่เรารักหรือคนที่เราไม่เกลียดต่อไปถ้ากำลังใจสูงขึ้น จิตสบาย มีอุเบกขาดี มีเมตตาบารมีสูง ก็ให้ไม่เลือก ให้เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ คือกิเลสของเรา

    กำลังใจในการให้ทานน่ะเป็นจาคานุสสติ ก่อนที่จะคิดให้เป็นจาคานุสสติ อันนี้อนุสสติอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้ามีประจำใจแล้วมันก็ตกนรกไม่ได้ จะยกตัวอย่าง มันก็ยาวเกินไป จะขอพูดถึง อานิสงส์การให้ทาน ที่สมเด็จพระพิชิตมารทรงตรัสว่า สมัยพระพุทธกัสสปท่านเทศน์อย่างนี้ ท่านบอกว่า

    บุคคล ผู้ใดให้ทานด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนคนอื่น ตายจากชาตินี้ไปแล้วไปเกิดใหม่จะมีทรัพย์สมบัติมาก จะเป็นคนร่ำรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี แต่ว่าขาดเพื่อน ขาดคนเป็นที่รัก มันก็โดดเดี่ยวแย่เหมือนกัน

    บุคคลผู้ใดดีแต่ชักชวนบุคคลอื่น แต่ว่าตนเองไม่ให้ทาน ท่านบอกว่าตายจากชาตินี้ไปแล้วไปเกิดชาติใหม่ มีพรรคพวกมาก แต่ยากจน

    บุคคลใดให้ทานด้วยตนเองด้วยแล้วก็ชักชวนบุคคลอื่นด้วย ตายจากชาตินี้ไปเกิดใหม่ เป็นคนรวยด้วย มีพวกมากด้วย

    บุคคล ใดไม่ให้ทานด้วยตนเองด้วย แล้วไม่ชักชวนชาวบ้านด้วย จะไม่มีทรัพย์สมบัติเป็นคนยากจนเข็ญใจ เกิดเป็นคนยากจนไม่มีคนคบหาสมาคม ขอทานก็ยาก เป็นยาจก ขอทาน แล้วขอก็ไม่ค่อยจะได้ ไม่มีใครเขาอยากจะให้ มีแต่คนรังเกียจ

    การ ให้ทานที่ก่อนจะถึงนิพพานน่ะ เราจะต้องมีความสุขในทรัพย์สมบัติก่อน จะไปคิดว่าการให้ทานเป็นการกำจัดโลภะความโลภ หรือมีผลอันน้อยแค่กามาวจรอันนี้ไม่ถูก ถ้าเราจะไปนิพพาน ถ้าเราลำบากมันไปยาก ใจไม่สบาย จะเล่านิทานสักเรื่องหนึ่ง เอาไหม มันจะช้าก็ช้า จะจบเมื่อไรก็ช่าง ก็เล่าสู่กันฟัง

    ใน สมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่มีคนหนึ่งเขามาเกิด แต่คนคนนี้น่ะในชาติก่อนๆ เวลาบำเพ็ญบารมีตัดทานบารมีออกจากใจ แต่ความจริงเขาก็ไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติของใคร เขามีจาคานุสสติกรรมฐานเป็นปกติ ได้จาคานุสสติกรรมฐาน ตัวนี้เขาไม่ได้ให้ แต่จิตเขาละความโลภ คือละความอยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่นที่ใครไม่ให้เขาโดยชอบธรรมน่ะเขา ไม่เอา เขาไม่อยากได้ แต่ว่าเขาไม่ให้ทาน ที่ว่า "ทานัง สัคคโสน ปาณัง" ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ทานเป็นบันไดให้ไปเกิดบนสวรรค์" เขาบอกว่ามันต่ำไป เอาบุญที่เป็นปรมัตถบารมีดีกว่า คือ

    ๑. มีศีลบริสุทธิ์
    ๒. สมาธิตั้งมั่นก็ระงับนิวรณ์
    ๓. มีปัญญาแจ่มใส เพื่อตัดกิเลส

    ก็ เป็นการบังเอิญว่าชาตินั้นเขายังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้าก็ต้องตายจากความเป็น คน ไปเกิดเป็นเทวดา ก็สงสัยอาจจะเป็นเทวดาคนจนก็ได้ ทิพย์สมบัติอาจจะสู้ชาวบ้านเขาไม่ได้ ทีนี้ก็กลับมาเกิดใหม่ มาเกิดเป็นลูกหญิงแพศยา เป็นโสเภณี

    โสเภณี เวลานั้นถือว่าเป็นตระกูล เป็นอาชีพอาชีพหนึ่งสังคมหรือสมาคมหนึ่ง แต่ว่าโสเภณีน่ะเขาต้องการเฉพาะลูกผู้หญิง เขาไม่เหยียดหยามเหมือนสมัยนี้ว่าโสเภณีเลวไม่ใช่อย่างนั้น เขาถือว่าโสเภณีก็เป็นตระกูลหนึ่งที่มีศักดิ์ศรี พอออกมาเป็นลูกผู้ชาย เขาไม่ต้องการ เขาก็เลยไปหมกป่าไว้ ทิ้งปล่อยให้ตาย ก็สืบตระกูลเป็นโสเภณีไม่ได้<o></o>

    เวลา นั้นโสเภณีผู้ชายยังไม่มี ถ้าบังเอิญมีโสเภณีผู้ชายอย่างสมัยนี้ บางประเทศก็จะหากินคล่องเหมือนกัน เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของบุคคลแต่ละคน

    ก็ รวมความว่าเขาเกิดมาไม่มีความสุข ถูกปล่อย แต่เขาก็ไม่ตาย เขาไม่ตายเพราะอะไร เพราะว่ามีบุญรักษา เขาจะเป็นอรหันต์ในชาตินี้ เขาถูกหมกอยู่อย่างนั้นไม่ตาย ถูกแวดล้อมไปด้วยสัตว์รักษาไว้ จนกระทั่งเป็นหนุ่มเดินไปเดินมา เดินเที่ยวไปก็ไม่มีอะไรจะกิน แต่บุญรักษาเติบโตขึ้นมาได้โดยไม่ต้องกินอาหาร<o></o>

    ต่อ มาวันหนึ่งเดินเข้าไปชายป่า เห็นคนเขาเอาอะไรมาฝังไว้เป็นลูกเขาออก เอารกมาฝังก็แอบดู พอเขาไปแล้วก็ย่องเข้าไปขุดเห็นรกเด็ก เลยนำรกมากิน ในชีวิตเขาได้กินเท่านั้นอย่างเดียว นี่การขาดทานบารมี หลังจากนั้นก็เดินไปเดินมาเห็นพระท่านมีความสุข เลยขอบวช พระอุปัชฌาย์ก็ให้บวช<o></o>

    ใน เมื่อบวชแล้วเวลาบิณฑบาตตอนเช้า พระใหม่ก็ต้องเดินข้างหลังตามระเบียบ เพราะเดินตามอาวุโส ชาวบ้านใส่บาตรจากหน้า พอจะถึงองค์หลัง ข้าวหมดพอดี นี่อานิสงส์ของการไม่ให้ทาน ท่านก็เดือดร้อน ไม่ได้กินข้าว อุปัชฌาย์ต้องแบ่งให้ ถึงอุปัชฌาย์จะแบ่งให้ หาเองไม่ได้ ใจก็ไม่สบาย

    วันที่สอง ท่านอุปัชฌาย์บอกว่า "วานนี้เขาใส่หน้าไม่ถึงหลัง วันนี้คุณเดินข้างหน้า ทุกคนใส่จะต้องถึงคุณ" แต่ความจริงพระอุปัชฌาย์เป็นพระอรหันต์ อย่างต่ำก็ต้องเป็นวิชชาสามหรืออภิญญาหกแน่ เพราะรู้เรื่องในใจดี รู้กฎของกรรมดี ท่านต้องการพิสูจน์ผลว่า คนไม่ให้ทานนั้นมันมีผลเป็นอย่างไร<o></o>

    วันที่สอง ชาวบ้านว่า "วานนี้ใส่หน้าไม่ถึงหลังวันนี้รวมกันใส่จากหลังมาหาหน้า" พอจะถึงองค์หน้าข้าวหมดพอดี แต่ความจริงเขาตั้งใจจะให้ถึง แต่กฎของกรรมมันบันดาลให้ตักข้าวหมด<o></o>

    วัน ที่สาม อุปัชฌาย์บอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณยืนกลาง เขาใส่ทางไหนมันพอทั้งนั้น" เป็นอันว่าท่านยืนกลาง วันที่สาม ชาวบ้านบอกว่า "วัน ต้นใส่หน้าไม่ถึงหลัง วันที่สอง ใส่หลังไม่ถึงหน้า วันนี้เราแบ่งเป็นสองพวก ใส่จากข้างหน้ามาหนึ่งพวก ใส่จากข้างหลังมาหนึ่งพวก" เขาก็ทำตามนั้น ปรากฏว่าทั้งสองพวกพอจะถึงองค์กลางข้าวหมดพอดี<o></o>

    วันที่สี่ พระอุปัชฌาย์บอกว่า "ยืนรองฉัน มันใส่แบบไหนถึงทั้งนั้น
    ใน วันต่อมาเขาใสบาตรตามระเบียบ ใส่บาตรที่ ๑ เขาไม่เห็นบาตรที่ ๒ ไปใส่บาตรที่ ๓ พอวันต่อมาอุปัชฌาย์บอกว่า "คุณยืนรองฉัน" ท่านเอามือจับบาตรไว้ เขาจึงเห็นบาตรของท่าน<o></o>

    นี่ การให้ทานถ้าบารมีไม่เต็มจริงๆ ถ้าไปโดนเข้าแบบนี้เราจะถูกความหิวทรมานขนาดไหน แต่นั่นบังเอิญเป็นบารมีของท่านเต็มจะได้เป็นพระอรหันต์ ยังต้องถูกทรมานจิตใจแบบนั้น เห็นโทษเห็นทุกข์แห่งการเกิด อุปัชฌาย์แนะนำไม่นานนักท่านก็เป็นอรหันต์ เมื่อเป็นอรหันต์แล้วชาวบ้านก็เห็นบาตรเพราะเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว

    การให้ทานน่ะมีความสำคัญอย่างนี้นะ จง อย่าคิดว่าเราต้องการเฉพาะนิพพาน เราไม่ให้ทาน เราเอาเฉพาะศีลภาวนาอันนี้ไม่ได้ ท้องไม่อิ่มนี่ มันภาวนาไม่ไหว มันจะตายเอา ดีไม่ดีมันเป็นโจร

    การ ให้ทานของบรรดาท่านพุทธบริษัทเราจะต้องให้ ถ้าบุญบารมีของเรายังไม่เต็มเพียงใดเราก็เอาละ เราก็จะต้องใช้ต้องกิน แต่ถ้าบุญบารมีเต็ม เราก็จะมีความอุดมสมบูรณ์ อย่างตัวอย่าง ท่านสีวลี

    ท่านพระสีวลีนี้ ชาติหนึ่งเป็นชาวป่า วันนั้นเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระพุทธกัสสปเทศน์ บอกว่า<o></o>

    - คนใดให้ทานด้วยตนเอง เมื่อตายไปชาติหน้าจะมีโภคสมบัติมากแต่ไม่มีบริวารสมบัติ (ตามที่เล่ามาแล้ว)
    -บุคคลใดชักชวนบุคคลอื่น แต่ไม่ให้ทานเองจะมีพวกมาก แต่ว่ายากจน
    - ให้ทานเองด้วย ชวนบุคคลอื่นด้วย เกิดไปชาติหน้าเป็นคนรวยด้วย มีพวกมากด้วย
    - แล้วก็ไม่ให้ทานด้วยตนเองด้วย ไม่ชักชาวบ้านด้วยเกิดเป็นคนยากจนไม่มีคนคบหาสมาคม ขอทานก็ยาก

    ชาวบ้านจึงตั้งใจถวายทานกันอย่างหนัก มีทุกอย่าง แต่มันขาดน้ำผึ้งสด หาเท่าไรก็ไม่ได้ ตั้งคนไว้ที่ประตูเมือง ๔ ประตูให้เงินไว้ ๑,๐๐๐ กหาปณะ (เท่ากับ ๔,๐๐๐บาทสมัยนี้) บอกว่า "ถ้าใครเอาน้ำผึ้งสดมา นำรวงผึ้งสดมา จะซื้อจาก ๑ กหาปณะ ไปจนถึง ๑,๐๐๐ กหาปณะ"<o></o>

    พอ ดีท่านสีวลีเป็นชาวป่า ท่านจะมาหาเพื่อนในเมือง ไม่มีอะไรติดมือมาก็เลยเอาผึ้งมารวงหนึ่ง พอพวกนั้นเห็นเข้าก็ขอซื้อตั้งแต่ ๑ กหาปณะ ถึง ๑,๐๐๐ กหาปณะ
    ท่านบอกว่า "ฉันจะเอาไปให้เพื่อน" ก็สงสัยว่าผึ้งรวงนี้จริงๆ ราคาไม่ถึง ๑ กหาปณะ แต่เจ้าคนนี้ให้มากๆ คงจะสติไม่ดีหรืออาจจะมีเหตุใดเหตุหนึ่งเกิดขึ้นมีความจำเป็น จึงถามว่า<o></o>

    "ทำไมพวกท่านสติไม่ดีรึไอ้ผึ้งรวงหนึ่งราคาตั้ง ๑,๐๐๐ กหาปณะ ใครเขาซื้อเขาขายกัน ราคามันไม่ถึง ๑ กหาปณะ"
    เขาก็บอกว่า <o></o>

    "พวกเราจะทำบุญ แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีหมดมันขาดอยู่น้ำผึ้งสดอย่างเดียว เราต้องการมีทุกอย่าง"
    ท่านก็บอกว่า
    "ถ้าซื้อไม่ขาย แต่จะเอาไปให้เพื่อน แต่ว่าท่านจะให้ฉันร่วมบุญด้วย ฉันให้"
    ท่านสีวลีก็ให้เป็นการปิดรายการครบถ้วนพอดี เขาขาดอย่างนั้นท่านปิดพอดี มันก็ปิดให้เต็ม<o></o>

    หลัง จากชาตินั้นมาแล้ว ท่านมาพบองค์สมเด็จพระประทีปแก้วเกิดในชาตินี้ มาเกิดในชาติหลัง นี่เขาบอกว่า ท่านพระสีวลีไม่เคยมีโรคเลย โรคภัยไข้เจ็บไม่เคยมี เป็นพระที่มีลาภจริงๆ จะไปไหนก็ตาม คนก็ดีเทวดาก็ดีปรารภพระสีวลี ถ้าพระสีวลีไปด้วยไม่มีคำว่าอด จะมีความอุดมสมบูรณ์ แม้แต่เดินเข้าไปในป่าที่ไม่มีบ้าน

    ใน สมัยที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารจะเข้าไปเยี่ยม พระเรวัตในป่าไม้สะแก ที่ว่าเป็นน้องพระสารีบุตร อายุ ๗ ปี เป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ เวลาเดินเข้าไป ตอนจะไปเจอะถึงทาง ๒ แพร่ง พระพุทธเจ้าจึงได้ถามพระอานนท์ว่า "อานนท์ทางไปหาพระเรวัตไปทางไหน" ความจริงท่านทราบ<o></o>

    พระอานนท์บอกว่า "ถ้าไปทางอ้อมทางนี้เดินทาง ๖๐ โยชน์ มีบ้านบิณฑบาตตลอด ทางนี้เป็นทางตรงเดินไป ๓๐ โยชน์ ไม่มีบ้านใส่บาตร<o></o>

    สมเด็จพระบรมโลกนาถจึงตรัสถามว่า "สีวลีมาหรือเปล่า" แต่ความจริงท่านรู้ว่ามา แต่ต้องการจะประกาศความดี<o></o>

    พระอานนท์ก็กราบทูลว่า "มาพระพุทธเจ้าข้า"
    "ถ้าสีวลีมาตถาคตจะไปทางตรง"<o></o>

    พอ พระพุทธเจ้าตัดสินใจว่าจะไปทางตรง บรรดารุกขเทวดาและอากาศเทวดาทั้งหลายต่างคนต่างปรารภว่า เวลานี้ หลวงพ่อสีวลี ของเรามา ความจริงพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตรก็ไป พระพุทธเจ้าเสด็จด้วย แต่เทวดาไม่ได้ปรารภถึงเลย ปรารภเฉพาะท่านพระสีวลี จึงเนรมิตเรือนแก้ว กุฏิเป็นที่พัก วัดเป็นที่พัก สำหรับพระ ๕๐๐ รูป เป็นเรือนแก้วไว้แต่ละโยชน์ ๑ โยชน์ มี๑ วัด สร้าง ๓๐ วัด เป็น ๓๐ โยชน์

    เมื่อ พระพุทธเจ้าไปถึงวัดต่างๆ เขาก็แสดงตนเป็นคนธรรมดา พระพุทธเจ้าท่านรู้ นิมนต์พักวัดท่านก็พัก ตอนเช้าท่านนำอาหารการบริโภคเนรมิตจากจิตใจของเทวดาไม่ต้องหุง ถวายพระอิ่มหนำสำราญ แต่การที่เขามาถวายน่ะเขาปรารภพระสีวลีว่า "เราจะนำอาหารไปถวายหลวงพ่อสีวลีของเรา" เป็นอย่างนี้จนกระทั่งถึงสำนักของพระเรวัต

    นี่ แหละบรรดาเพื่อนภิกษุสามเณร และญาติโยมพุทธบริษัท ท่านพระสีวลีให้ทานด้วยรวงผึ้งรังเดียวปิดรายการแต่ชาติหลังท่านมีความอุดม สมบูรณ์ คนที่มีความอุดมสมบูรณ์จะปฏิบัติธรรมมันก็ดี ทำอะไรก็ดีทุกอย่าง มีการคล่องตัว รวมความว่ามีความปรารถนาสมหวัง แม้แต่จิตใจคนบางประเภทก็ซื้อได้ แต่บางประเภทเราก็ซื้อใจไม่ได้นะเงินน่ะ แต่บางประเภทเวลานี้ก็ ฟุ่มเฟือยมาก การซื้อก็ซื้อด้วยเงินสะดวกอันนี้มีประโยชน์มาก
    ฉะนั้น ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทหรือเพื่อนภิกษุสามเณรจงสนใจในการให้ทานให้มาก เพราะว่าการให้ทานนี่ไม่ใช่จะหวังเฉพาะการร่ำรวยอย่างเดียว การให้ทานเป็นปัจจัยของความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า

    การ ให้ทานนี่ขอพูดถึงอานิสงส์ของการให้ทานสักนิดหนึ่ง คืออานิสงส์ขอทานในชาติปัจจุบันเราจะเห็นได้ชัดๆ จริงๆ นั่นก็คือว่า ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของบุคคลผู้รับ คือว่าคนผู้ให้มีโอกาสชื่นใจว่า เราได้ให้ทาน แต่ว่าบางคนนะ บางพวก จอมอกตัญญูไม่รู้คุณคนนี่เยอะเหมือนกันนะ อย่าลืมว่าผมโดนมาแล้ว โดนมาตลอดชีวิต ให้แล้วมันก็กัด แต่ผมก็ไม่ได้ผูกใจเจ็บ ผมถือว่าเป็นความชั่วของเขา ผมไม่ยอมชั่วด้วย ไอ้ผมนั่นก็เลวอยู่แล้ว ถ้าจะไปโกรธเขาเข้า มันจะเลวมากขึ้น มันจะแบกไม่ไหว เอาแค่ความเลวที่มีอยู่มันก็เดินตุปัดตุเป๋ไปแล้ว เวลานี้ผมเดินตุปัดตุเป๋ไม่ตรงทาง หนักความชั่ว ความชั่วมีเยอะมหาศาลแต่ว่าพวกนั้นเขากลั่นเขาแกล้ง เขากินอิ่มเข้าไปแล้ว เขาคิดจะฆ่าผม คิดจะไล่ผม เขาชุมนุมกันเยอะแยะ เวลาที่พูดอยู่นี่ก็ยังมีร้องเรียนไปที่ไหนๆ ไปลงหนังสือพิมพ์ ด่าบ้าง ฟ้องไปทุกระดับ จนกระทั่งสำนักนายก เขาหาว่าคนของผมโหดร้าย แต่ผมไม่เคยแตะต้องอะไรเขาเลย แต่พวกนี้เป็นอย่างไร ได้ประโยชน์จากผมหมายความว่าคนจะมาหาเขา เขาจะร่ำรวย เขานึกว่าผมรวยก่อสร้างต่างๆ นานา ญาติโยมท่านให้สร้าง ญาติโยมท่านให้เก็บ แต่จริงๆ การก่อสร้างนี่เหน็ดเหนื่อยหนักใจหนักกาย แต่เพื่อความดีของญาติโยมผมไม่เหนื่อย ไม่หนัก ผมปลื้มใจ เพราะญาติโยมทำความดี ทุกคนเขาจะพ้นทุกข์กัน ฉะนั้นเราจะกักให้เขาให้อยู่ในแดนความทุกข์ยังไง ต้องสนองสนับสนุนตามที่พระพุทธเจ้าสนับสนุนแบบไหนเราทำกันแบบนั้น

    นี่ แหละบรรดาเพื่อนภิกษุสามเณรทุกท่าน ต้องจำไว้ว่าการให้ทานน่ะ มันก็มีการสะดุดแบบนี้ แต่เราจงอย่าคิด คิดอย่างเดียวว่าจิตใจของเราเป็นสุข สุขเพราะการเกื้อกูลแก่เพื่อนในเมื่อเราให้เขา ถ้ามีคนรัก ไอ้คนรักเรามากๆ ก็มีไม่ใช่เลว คนเลวมันน้อยกว่าคนดี ให้ทานแก่บุคคลที่รู้คุณคนนี่มี แต่เราอย่าไปคิด คิดอย่างเดียว ให้ทานเพื่อเป็นการสงเคราะห์ เรามีน้อยเราให้น้อย เรามีมากเราให้มาก ให้พอควร อย่าให้เกินพอดี อย่าให้เบียดเบียนตนเอง อย่าให้ถึงกับตัวมีความทุกข์ ผลแห่งการให้ทานจริงๆ มันก็มีประโยชน์ใหญ่ ไปที่ไหนมีแต่คนรู้จัก ความจริงเราไม่รู้จัก จำเขาไม่ได้หรอก จำเขาไม่ได้จริงๆ อย่างพวกท่านก็เคยไปกับผม ไปถึงญาติโยมก็มาหากัน ไปถึงก็หลวงพ่อหลวงปู่ หลวงน้า ผมก็มองหน้า ผมจำไม่ได้แต่ว่าท่านมาด้วยความดี ผมก็ปลื้มใจ ผมก็ดีใจ บางคราวท่านมากันมาก ในบางแห่งจนกระทั่งผมฉันข้าวไม่ได้ ฉันข้าวไม่ได้ไม่ใช่ญาติโยมจะมากวนใจผมหรอก ผมปลื้มใจในความดีของญาติโยม

    นี่ แหละบรรดาเพื่อนภิกษุสามเณรทั้งหลาย การให้ทานน่ะชาติปัจจุบันเราก็มีความสุขมาก ทั้งนี้เพราะอะไร มีคนเขาสนใจเรามาก ประคับประคองเรามาก ป้องกันอันตราย แต่อันตรายถ้ามันจะเกิดจาก กฎของกรรมก็อย่าไปโทษว่าทานไม่ช่วยนะ คิดไว้เสมอว่า กรรมที่เราทำไว้ในชาติก่อนมันตามมาเล่นงานเรายังไงก็ช่างมัน ชาตินี้ทำหนีมันไปให้ได้ อันดับแรกเอาทานบารมีเข้าชนกับมันก่อน เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้เราพอมีความสุข คนที่เขาดีมีความกตัญญูรู้คุณ เขาก็ให้การประคบประหงมเรา ให้ความสนิทสนมกับเรา เป็นที่รักของเรา เราก็ชื่นใจใน


    ความ สุข เว้นไว้แต่คนจังไรที่มีความอกตัญญูไม่รู้คุณ เขามีความทุกข์ ปล่อยให้เขาทุกข์ไปฝ่ายเดียว เราอย่าทุกข์กับเขา ถ้ากำลังใจของเราอย่างนี้ก็ถือว่า เป็นทานที่มีกำลังยิ่งใหญ่ ชาตินี้มีความสุข ชาติหน้าจะยิ่งสุขยิ่งไปกว่านี้ ถ้าบังเอิญบารมีของเรายังไม่ถึงที่สุดในชาตินี้ ก็อาจจะไปตกในชาติหน้าอย่างท่าน มณฑกเศรษฐี กับคณะก็ได้

    จากหนังสือ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
    __________________
    ที่มา
    http://palungjit.org/newreply....reply&t=155104
     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    พนักงานที่ทีโอทีอีกท่านหนึ่งฝากร่วมทำบุญ1,000บาทครับ
     
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  4. wirotp

    wirotp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ผมและครอบครัว ขอร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีวัดห้วยตีนตั่ง จำนวน 200 บาท ครับ
    -----------------------
    วิโรจน์ ผาณิตพจมานและครอบครัว
    75(64/42) ถ.เพชรเกษม 54 บางหว้า ภาษีเจริญ กทม.10160
    Tel.081-7506870
    -------------------------------------
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าและครอบครัว ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ เหล่าข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้และขอจงอโหสิกรรมให้แก่เหล่าข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เทวดาทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาเหล่าข้าพเจ้า รวมถึงภูมิเทวดาที่ปกปักษ์รักษาสถานที่อาศัยของเหล่าข้าพเจ้า และ เทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ พระยายมราช พระแม่ธรณี พระแม่โพสพ พระแม่นางกวัก ขอจงโมทนาส่วนกุศลนี้และเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของเหล่าข้าพเจ้าในครั้งนี้ ขอช่วยให้เหล่าข้าพเจ้าประสบแต่ความสุขสิริสวัสดิ์ เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุข พละ ปฎิภาณ ธรสารสมบัติ เจริญในทั้งโลกุตรทรัพย์ และโลกียทรัพย์ กอรปทั้งสติปัญญาที่ปราชญ์เปรื่อง ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย ครอบครัวสมบูรณ์ทุกด้าน ประสบความสำเร็จในการงาน การลงทุน กิจการค้าขายของครอบครัว บุตรและบริวารอยู่ในโอวาท มีขันติธรรมและบารมีทางธรรมในวาระที่สูงยิ่งขึ้นไป ได้อุปถัมภ์ทำบุญค้ำจุนพระพุทธศาสนาจนถึงสู่พระนิพพานเทอญ หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใดขอคำว่า ไม่รู้ ไม่มี ไม่สำเร็จในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่เหล่าข้าพเจ้า ขอผลบุญทั้งหลายที่เหล่าข้าพเจ้าได้กระทำดีแล้ว ตั้งแต่ อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด และขอให้บุญนี้จงเป็นปัจจัยให้เหล่าข้าพเจ้าได้บรรลุในศีล สมาธิ ปัญญา ตามที่ตั้งใจด้วยเถิด


    <TABLE class=ms10 width=570 bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=570>ระบบทำรายการตามคำสั่งของท่านเรียบร้อย ธนาคารขอขอบคุณที่ใช้บริการอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง</TD></TR><TR><TD align=middle width=570>Your request has been done. Thank you for using TMB Internet Banking. </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- <hr width="570" color="#AAAAFF" align="center"> --><TABLE class=ms10 cellPadding=2 width=560 bgColor=#f2f2e6 border=0><TBODY><TR><TD align=left width="50%"> ชื่อผู้ทำรายการ Transfered By</TD><TD align=left width="50%">วิโรจน์ ผาณิตพจมาน</TD></TR><TR><TD align=left> วัน/เวลา ทำรายการโอน Transfer Date/Time</TD><TD align=left>22/10/2009 08:58:09 PM</TD></TR><!-- From Account --><TR><TD align=left> ชื่อบัญชีส่วนตัวผู้โอน From Account Nickname</TD><TD align=left>aaa01</TD></TR><TR><TD align=left> ชื่อบัญชีผู้โอน From Account Name </TD><TD align=left>นาย วิโรจน์ ผาณิตพจมาน </TD></TR><!-- To Account --><TR><TD> ธนาคารผู้รับโอน To Bank</TD><TD>ธ.กรุงไทย - KTB</TD></TR><TR><TD> ชื่อบัญชีผู้รับโอน To Account Name</TD><TD>กุศลมงคล สุวรรณกูฏ </TD></TR><TR><TD> เลขที่บัญชีผู้รับโอน To Account No. </B></TD><TD>066-1-01206-9</TD></TR><TR><TD align=left> จำนวนเงินโอน Amount ( Baht )</TD><TD align=left>200.00</TD></TR><TR><TD align=left> ค่าธรรมเนียมการโอน Transfer Fee</TD><TD align=left>0.00</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=ms10 width=560 bgColor=#d8d8b1 border=0><!-- Confirmation Reference #--><TBODY><TR><TD align=left width="50%"> หมายเลขอ้างอิงรายการ Reference No.</TD><TD align=left width="50%">tmbi1201175 </TD></TR><TR><TD align=left width=270> หมายเลขอ้างอิงระหว่างธนาคาร ORFT Ref. No.</TD><TD align=left width=290>256219860723</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    คุณ?????????
    แสดงความจำนงค์ถวายผ้าไตร1ชุดครับ
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    คุณกรองกมลร่วมบุญอีก200บาทครับ(ยังไม่ได้นับซองที่กำลังรวบรวมครับ)

    สรุปที่แจ้งโอนทางบัญชีแบงก์ตอนนี้คือ

    200+1000+1000+500+200+200 =3100บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2009
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    คุณศรชัย-เค
    แสดงความจำนงค์ถวายผ้าไตรอีก1ชุดครับ

    สรุปตอนนี้มีผ้าไตร3ชุดแล้วครับ
    พรุ่งนี้จะไปหาบริจาคบาตร หาผ้าไตรต่อไปครับ
    สาธุๆๆ
     
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    :cool:

    สาธุๆๆ อนุโมทามิครับ
     
  9. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    <table style="width: 100%; border-collapse: collapse;"><tbody><tr><td>
    </td></tr></tbody></table>

    ทางวัดขาดปัจจัยบำรุงวัดอีกมาก เช่น เสนาสนะ วิหาร โรงเรือนต่างๆ ฯลฯ

    ขอให้เป็นปัจจัยบุญกุศลให้งานนี้สำเร็จโดยดีงามด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2009
  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]


    กฐินนั้จึงมีส่วนเป็นวิหารทานอีกด้วยครับ สาธุๆๆ
     
  11. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  13. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,091
    ร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี ณ วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ (วัดห้วยตีนตั่ง)

    ศรัืืทธา คุณแม่และคณะ พี่ชาย และข้าพเจ้า

    ขอโมทนา ทุกๆคนนะครับ
    *****************************************
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=textPriBld>เลขที่อ้างอิงการทำรายการ.: 225079562720091024 | วัน/เวลาการทำรายการ 24-10-2009 06:22:04</TD></TR><TR><TD class=bgPriMd bgColor=#5d8ab4>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD colSpan=2> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01>บัญชีผู้โอน </TD><TD class=cnt_02>KTB*กองทุนพุทธศาสนา*477-0-08361-0</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01>ยอดเงินที่ถอนได้ </TD><TD class=cnt_02></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01 width=255>บัญชีผู้รับโอน </TD><TD class=cnt_02 width=431>KTB*นายกุศลมงคล สุวรรณกู*066-1-01206-9</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01>ชื่อบัญชีผู้รับโอน </TD><TD class=cnt_02>กุศลมงคล สุวรรณกูฏ</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01>จำนวนเงิน </TD><TD class=cnt_02>300.00 บาท </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01 width="24%">ค่าธรรมเนียม </TD><TD class=cnt_02 width="76%">0.00 บาท (เก็บ ณ วันเกิดรายการ) </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01 height=22>รวมจำนวนเงิน</TD><TD class=cnt_02>300.00 บาท </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01 width="34%" height=22>ประเภทการโอนเงิน</TD><TD class=cnt_02 width="66%">ทันที </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. วัสสานะ

    วัสสานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +565
    สาธุ อนุโมทนา กับคุณ มุ่งเต็มใจและทุกท่านครับ
    ขอร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี ณ วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ ครับ ๑๐๐ บาท
    (แจ้งไว้ก่อนครับ กำลังจะออกไปโอน )

     
  15. วัสสานะ

    วัสสานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +565
    สาธุ อนุโมทนา กับคุณ มุ่งเต็มใจและทุกท่าน
    ขอร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี ณ วัดพระธาตุศรีสามรักษ์

    โอนแล้วครับ จำนวน ๑๐๐ บาท จากระบบออนไลน์ของกสิกรไทย
     
  16. Unique_Angel

    Unique_Angel ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +6,546
    อนุโมทนาในบุญกุศลที่ได้ร่วมแรงกันสร้างกองกฐินนะคะ สาธุ...
     
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    http://palungjit.org/threads/รวมพลเ...หาราชจอมราชันย์-แห่งสยามประเทศ.205692/page-68
     
  19. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    มีเครื่องกฐินพัีดลม12เครื่อง ฯลฯ ว่างจะมาจาระไนเพิ่มครับ
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    สติปัฏฐาน ๔ มีอาหาร คือ สุจริต ๓

    "
     

แชร์หน้านี้

Loading...