เรื่องเด่น ขันธ์ 5 เป็นของหนักเน้อ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย นาคบุตร, 27 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. Kritsanw

    Kritsanw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +208
    ถึง จขกท.

    ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง
    เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ ก็เกิดกับตัวผมเอง แต่ไม่ได้ทรง

    สาธุ กับปัญญาบารมีที่สั่งสมมา
    ทำให้กลับตัวทัน กลับตัวจากอวิชชา

    สาธุ สาธุ สาธุ
    อนุโมทามิ
     
  2. สมิตา

    สมิตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +189
    ขอโมทนา สาธุด้วยค่ะ คุณนาคบุตรยังมีอีกหลายคนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ถ้าใครคิดว่าตัวเองจะมีองค์แล้วกลัวก็เริ่มสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆ์คุณ วันละ108จบแล้วนั่งสมาธิสัก 10 นาทีแล้วแผ่เมตตาคุณจะรู้สึกดีขึ้นคะ
     
  3. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    อนุโมทนาด้วยค่ะ ที่นำประสบการณ์ดีๆ มาบอกกล่าว ช่วยเป็นแนวทางในการพิจารณาเรื่องร่างทรง
     
  4. TIPOLEE

    TIPOLEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +197
    ตัวดิฉันเองก็เคยเจอเหตุการณ์เกี่ยวกับการรับเป็นร่างทรงเหมือนกัน ซึ่งแต่ก่อนก็สวดมนต์ไหว้พระปกติแต่ไม่ค่อยได้ทำทุกวัน แต่เมื่อ4-5 ปีที่ผ่านมาได้เริ่มปฎิบัติจากไหว้พระสวดมนต์ปกติ ก็มีการนั่งสมาธิวิปัสนากรรมฐานร่วมด้วย สายสติปัฏฐาน4 หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี และได้มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมากมายจากการปฏิบัติ และวันหนึ่งได้มีการไปไหว้พระแม่อุมาเทวี ที่วัดแขก คืนนั้นหลังจากสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ กำลังจะเคลิ้มหลับ ได้ยินเสียงแหวกม่านมาเลยใส่ชุดสีแดงและพระแม่ได้พูดว่า รู้อย่างนี้ให้รับเป็นร่างทรงตั้งแต่แรกแล้ว ดิฉันก็บอกว่า ข้าพเจ้าขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอันสูงสุด และก็สะดุ้งตื่น และลุกขึ้นบอกกล่าวท่านอีกครั้ง
     
  5. prarot

    prarot สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +11
    อนูโมทนาครับ
    การมีอยู่ในขันธ์ ทั้ง 5 ให้ รู้ว่ามี แล้ว ให้ รู้ว่า เป็น อย่าง ไม่ควร มี และ เป็น
    เพราะ ขันธ์ ทั้ง 5 ไม่ใช่ของเรา
    หากเป็นของเรา ขันธ์ ทั้ง 5 ต้องทำให้เรามี สุข ไม่ทำให้เกิด ทุขก์ ไม่ทำให้เราเจ็บเราป่วย
    ต้องทำให้เราสบาย ใจ สบายกาย
     
  6. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,940
    เรื่องนี้น่าจะทำให้หลายคนตาสว่างขึ้นนะครับ....อนุโมทนาด้วย
     
  7. นาคบุตร

    นาคบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +826
    สาธุและโมทนากับทุกๆข้อคิดเห็นครับ *** การมีองค์เทพรักษา หรือ การเป็นร่างทรงไม่ใช่สิงไม่ดีครับ ถ้าเรารู้ว่าขณะนั้นเรากำลังทำอะไรอยู่แล้วรู้จักแยกแยะว่าไหนเทพไหนคน ไม่ใช่ว่าพร่ำเพรื่อและเจตนาหวังแต่ลาภยศสรรเสริญ เส้นทางในการปฏิบัติของแต่ละคนมีไม่เหมือนกันแล้วแต่บุญและกรรมที่ทำกันมาเพราะ แท้จริงๆแล้วร่างทรงที่ทำตัวไม่ดีไม่ใช่อยู่ที่เทพเทวดาแต่อยู่ที่จิตใจของคนต่างหากที่กำหนดให้เป็นไปตามสิ่งที่ตัวเองหวังโดยใช้ความพิเศษที่มีมาในทางที่ผิดและเห็นแก่ตัวเองมากกว่าที่อยากจะทำกุศลด้วยความเมตตากรุณา อนึ่งการเป็นเทพที่แท้นั้นกว่าจะเป็นได้จะต้องมาจากการที่ดวงจิตนั้นสั่งสมบุญมาเพียงพอที่จะไปจุติเป็นเทพได้หากไม่ทำบุญกุศลอย่างต่อเนื่องก็จะกลับมาเวียนว่ายตายเกิดเช่นเดิม เพราะฉะนั้นเทพที่แท้จริงจะหมั่นสั่งสมบุญกุศลรักษาศีลภาวนา รักษาสภาวะความเป็นเทพจนกว่าจะนิพพานเป็นอรหันต์นั่นเองจึงจะหลุดพ้นบ่วงทุกข์นี้ได้ *** ไม่มีทุกข์ใดจะเทียบได้กับการได้กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก และ ไม่มีไครจะมาปลดบ่วงกรรมให้เราได้นอกจากตัวของเราเอง ** สาธุ สาธุ กับทุกๆท่านอีกครั้งครับ
     
  8. suwas

    suwas Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +54
    เรื่องเกี่ยวกับร่างทรงนี้เมื่อ 4 ปีก่อนแฟนผมป่วยหนักมีเพื่อนสนิทกันนี่แหล่ะเขาเป็นห่วง เขาไปหาคนที่เขานับถือเป็นร่างทรงของใครผมจำไม่ได้แล้ว เขาก็เอาชุดขาวกลับมาให้ชุดหนื่งแล้วบอกให้ไปรับขันธ์เสียแล้วจะหายป่วย ถ้ารับขันธ์แล้วจะรอดและจะเก่งกว่าผมอีก(ในทางธรรม)ให้เป็นร่างทรง ทีแรกก็ว่าจะพาไปแต่เพราะว่าเดินทางไกลต้องไปที่สำนักสุดท้ายก็ไม่ได้ไปเวลานี้แฟนผมเสียไปได้ 2ปีกว่าแล้ว ถ้าตอนนั้นไปรับขันธ์จริงๆแล้วถึงตอนนี้เธอจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่นี่ผมก็ไม่รู้ แต่เธอไปสบายแล้วเพราะตอนหมดลมผมได้ส่งเธออยู่ข้างๆเตียงได้มีโอกาสบอกทางให้และได้ไปในที่ดีแล้วครับ
     
  9. Vijittra

    Vijittra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +77
    เห็นด้วยค่ะ เราก็มีครูบาอาจาร์ยเหมือนกันไม่เรียกว่าองค์ ไม่เคยรับขันธ์ เพียงแต่รับรู้และบอกกล่าวท่านว่าเรายินดี ครูบาอาจาร์ยของเราต้องการให้เราปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์และช่วยบำรุงพระศาสนาเท่านั้น และเมื่อเราปฏิบัติกรรมฐานหรือสวดมนต์เรายกบุญให้ท่านร่วมอนุโมทนาบุญด้วยทุกครั้งค่ะ
     
  10. Vijittra

    Vijittra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +77
    เห็นด้วยค่ะ เราก็มีครูบาอาจาร์ยเหมือนกันไม่เรียกว่าองค์ ไม่เคยรับขันธ์ เพียงแต่รับรู้และบอกกล่าวท่านว่าเรายินดี ครูบาอาจาร์ยของเราต้องการให้เราปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์และช่วยบำรุงพระศาสนาเท่านั้น และเมื่อเราปฏิบัติกรรมฐานหรือสวดมนต์เรายกบุญให้ท่านร่วมอนุโมทนาบุญด้วยทุกครั้งค่ะ
     
  11. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
    หนึ่งในขันธ์ 5 ที่ใกล้ชิดตัวเราคือ สังขาร ที่ควรพิจารณาละก่อนเลย
    สัพเพ สังขารา อะนิจจา
    สังขารคือร่างกาย จิตใจ และรูปธรรม นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น มันไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วดับไปมีแล้วหายไป
    สัพเพ สังขารา ทุกขา
    สังขารคือร่างกาย จิตใจ แลรูปธรรม นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น มันเป็นทุกข์ทนยาก เพราะเกิดขึ้นแล้ว แก่ เจ็บ ตายไป
    สัพเพ สังขารา อะนัตตา
    สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ทั้งที่เป็นสังขาร แลมิใช่สังขารทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ควรถือว่าเรา ว่าของเรา ว่าตัวว่าตนของเรา
    ในพิธีการบวชพระ
    พระอุปัชฌาย์ต้องสอน ตจปัญจกกรรมฐาน (กรรมฐานมีหนังเป็นที่ 5)
    แก่ผู้บวชใหม่เพื่อเป็นเครื่องขัดเกลาจิตเบื้องต้น
    กรรมฐาน 5 นี้ ประกอบด้วย
    เกสา(ผม) โลมา(ขน) นะขา(เล็บ) ทันตา(ฟัน) ตะโจ(หนัง)
    เวลาท่านสอนให้พระใหม่ภาวนา ท่านจะสอนให้ภาวนาในใจ ทั้งตามลำดับและทวนลำดับ(อนุโลม-ปฏิโลม) คือ
    เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ
    ตะโจ ทันตา นะขา โลมา เกสา

    ให้ฝึกภาวนาดังนี้ จนใจสงบ เกิดเป็นสมาธิ
    เพราะเป็นกรรมฐานเบื้องต้นอย่างนี้เอง ตจปัญจกรรมฐานนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า มูลกรรมฐาน คือกรรมฐานอันเป็นเบื้องต้น การภาวนาโดยใช้ส่วนทั้ง 5 เป็นที่ตั้งนี้
    ถ้าภาวนาเพื่อให้ใจสงบ ก็จัดเป็นสมถกรรมฐาน แต่ถ้าใช้ปัญญาพิจารณาเห็นถึงความเป็นสิ่งปฏิกูล ไม่อยู่ในอำนาจ ความควบคุมบังคับไม่ได้ของสิ่งเหล่านี้ และพิจารณายกขึ้นสู่ไตรลักษณ์ มองเห็นถึงความไม่เที่ยง ทนได้ยาก และหาตัวตนเที่ยงแท้มิได้ ก็จัดเป็นวิปัสสนา ในชีวิตประจำวันของคนธรรมดา ต้องคอยบริหารส่วนทั้ง 5 นี้ให้เป็นสิ่งน่าภิรมย์อยู่เสมอ ทั้งตัด ย้อม ทา ดัด เสริม แต่งเติม (พอก) ฯลฯ เราจะเห็นได้ว่า มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ออกมา เพื่อช่วยในการปกปิดสิ่งเหล่านี้ เราจึงมองไม่เห็นความเป็นสิ่งปฏิกูลของสิ่งทั้ง 5 นี้
    สำหรับชาวบ้านผู้ถือศีลแปด
    ท่านให้ละสิ่งต่าง ๆ ที่ปกปิดสิ่งเหล่านั้นออกเสียบ้างเช่น ไม่ให้มีเครื่องประทินผิว ลูบไล้ต่างๆ เป็นต้น จุดหมายก็เพื่อให้เห็นความเป็นปฏิกูลในสิ่งเหล่านี้เอง
    สำหรับพระสงฆ์นั้น ตามวินัยแล้ว ต้อง 15 วันถึงจะอนุญาตให้อาบน้ำได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้มองเห็นความเป็นสิ่งปฏฺิกูลได้ง่ายขึ้น
    พระที่ปฏิบัติกรรมฐานนี้อย่างเคร่งครัดจะมีกลิ่นติดตัวกันทุกองค์ กลิ่นนี้เรียกกันว่า
    "กลิ่นกรรมฐาน"
     
  12. ทางสวรรค์

    ทางสวรรค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +347
    ยินดีด้วยนะครับ หมั่นตั้งใจปฏิบัติธรรม ขออนุโมทนาครับ
     
  13. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ผมสรุปเลยนะ มัวแต่ไปรับขันธ์ รับองค์ ที่บอกว่าทางธรรมไปได้ดีๆ ก้าวหน้านะ ผมบอกเลยคิดเอาเอง เอาบรรทัดฐานที่ไปทางเปลือกมาใช้ เสียเวลา
    เป็นผม ผมไม่ยอม.......เสียเวลามากๆ .....แค่ปฎิบัติทุกวันนี้เรายังไม่ถึงไหน เอาองค์เทพมาใช้ ยิ่งไปกว่า เพราะเทพ พรหมที่รู้ ระดับชั้นอนาคามีถึงสอนพวกนี้ได้ แต่ก็ไม่หลุดพ้น ถ้าไม่ลงมาปฎิบัติเอง หรือพระพุทธเจ้าท่านสั่งสอน ก็ยังคงอยู่แค่นั้น (เชิญกด Dislike ผมได้เต็มที่นะครับ)
     
  14. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... ที่คุณพูดก็มีส่วนถูกนะคะ เพราะโดยส่วนมากพอรับขันธ์กันแล้วมักจะเกิดตำหนักตามมา ลาภยศสรรเสริญย่อมตามมาด้วย เมื่อถึงจุดนี้ กิเลส จะเริ่มเข้าครอบงำจิตใจเรามากขึ้น ไม่มีเวลาปฏิบัติธรรมยังไม่พอเพราะรับแขกเยอะ ซ้ำร้ายพลาดท่าเสียทีกิเลสเข้าก็จบเห่ เทวดาหนีหมดเหลือแต่ผีละทีนี้ ... ตาย ๆ

    ... แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งก็ดีตรงที่มีเทพรักษาเราในการสร้างบุญสร้างกุศล ถือศีลบริสุทธิ์ สร้างบารมีได้ไวด้วย ถ้ารู้จักใช้เป็นนะคะ .. เพราะส่วนมากจะมีของเก่าติดสอยตามมาด้วย ทำให้เรียนได้เร็วขึ้น เพราะร่างทรงอย่างน้อยต้องถือ ศีล 5 อย่างเคร่งครัด ต้องหมั่นทำบุญบ่อย ๆ สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน วันพระก็ต้องลงอุโบสถศีล 8 ให้บริสุทธิ์ .. ถ้าทำได้รับรองว่าดีแน่นอนคะ เทวดาที่ไหนก็อยากอยู่กับคนดีมีศีลธรรม .. จริงไหม๊คะ
     
  15. โอม อุดมชัย

    โอม อุดมชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +2,527
    “ ขันธ์ทั้งห้าเป็นของหนักหากอยากที่จะหลุดจากบ่วงทุกข์จะต้องตัดขาดจากอกุศลกรรมทั้งปวงและหยุดยึดติดกับขันธ์ทั้งหลายซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน และให้ผมหยุดทรงเสียเพราะการทรงจะบั่นทอนบุญบารมีของตัวเองเสียเปล่าหากเป็นการทรงที่ไม่แท้ ให้กลับไปถอนขันธ์ที่รับมาเสียเพราะขันธ์มีอยู่กับตัวเรามาตั้งแต่เกิดแล้วให้ ยึดที่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง หมั่นเจริญภาวนาปฏิบัติตนเป็นคนดีแล้วความดีจะหนุนนำเราเองโดยที่ไม่ต้องเป็นร่างทรง ให้ตั้งจิตระลึกว่าเสมอว่า ขันธ์ห้า อันได้แก่ รูป เวทนา สังขาร วิญญาณ และสัญญา เป็นของหนัก พึงสลัดมันออกไปเสีย"
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ร่างทรงก็คนธรรมดานี่แหล่ะ คนธรรมดาที่มีอะไรๆเท่าๆกันกับคนอื่น ศักยภาพทางทำมาหากิน ทางสติปัญญาก็มีเท่ากันกับปุถุชนคนธรรมดา แต่ร่างทรงจะมีพิเศษกว่าคนอื่นนิดหน่อยตรงที่มีความอยากมากกว่า รู้ไม่จริงสักเรื่องมีแต่เขาเล่ามาองค์ท่านบอกมาอันนั้นห้ามอันนี้ไม่ได้พอย้อนถามกลับก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่เคยรู้เรื่องใจตัวเองเลย
     
  17. nasamred

    nasamred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +238
    การเข้าใจในธรรม ประพฤติปฎิบัติธรรม เป็นสิ่งประเสริฐที่สุด สิ่งที่คุณดำเนินนั้น เรียกว่ามาถูกทางแล้ว ขออนุโมทนาจากใจจริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...