ข่าวสาร วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี โดยเพจมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ, 19 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันที่ ๔ ธ.ค๖๑ ท่านพระครูปลัดสมนึก เจ้าอาวาสวัดท่าซุง เยี่ยมโยมถวายเพลพระ โดยมีคณะคุณต๋อย ดอกไม้เป็นเจ้าภาพหลัก และหลังจากฉันเพลแล้ว ท่านพระครูภาวนาธรรมนิเทศก์ (พระอาจารย์อาจินต์) สอนมโนมยิทธิฯ (สรุปท่องเที่ยว ญาณ๘) ที่ด้านหน้าพระประธานมหาวิหาร ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน

    -๔-ธ-ค๖๑-ท่านพระครู.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันที่ ๔ธ.ค.๖๑ พิธีอุปสมบทหมู่ธุดงควัตร
    วัดท่าซุง
    เวลาประมาณ ๖.๐๐น นาคทั้งหมดพร้อมกันที่ศาลาพระพินิจอักษร เพื่อทำการขอขมาต่อบิดามารดาและเจ้าภาพ จากนั้นรับมอบผ้าไตร เพื่อเข้าขบวนแห่รอบพระอุโบสถ ๓รอบ นำหน้าโดยวงโยทวาทิตนักเรียนร.ร.พระสุธรรมยานเถระวิทยา ร่วมขบวนด้วยญาติโยมสาธุชน ที่มาร่วมอนุโมทนาบุญกันเป๊นจำนวนมาก จากนั้นส่วนหนึ่งเข้าสู่อุโบสถวัดท่าซุง โดยมี ท่านเจ้าคุณพระราชอุทัยโสภณ เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เป็นองค์อุปัชฌาย์ และนาคอีกส่วนหนึ่ง อุปสมบทที่อุโบสถวัดยาง มีท่านพระครูอุทิตศุภการเป็นองค์อุปัชฌาย์

    -๔ธ-ค-๖๑-พิธีอุปสมบ.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
  4. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
  5. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    -๕-ธันวาคม-๒๕๖๑-ร้า.jpg

    วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ ร้านอาหารที่มาเลี้ยงงานธุดงค์ ในศาลา ๔ ไร่
    รายชื่อเจ้าภาพโรงทานงานบวชธุดงค์ วัดท่าซุง
    วันที่ ๒ – ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๑

    ๑. คณะโรงครัววัดท่าซุง
    ๒. โอเลี้ยง ลุงเต่า
    ๓.ร้านดินดี ไม้สวย
    ๔.คณะศิษย์เก่า พ ส ธ
    ๕.วัดถ้ำป่าไผ่
    ๖.กองบุญเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินชีวิตทุกอย่างสู่พระนิพพาน
    ๗.เจ๊วันดี
    ๘.ช่างโจ๋ ชัยนาท
    ๙.บารมีหลวงปูหลวงพ่อหลวงพี่
    ๑๐.ขนมครกหลวงพ่อโอ
    ๑๑.ศูนย์ปฏิบัติธรรมตรัยรัตน์
    ๑๒.มิสเตอร์เช็ค
    ๑๓.สุภาณินี อุสาหะ
    ๑๔.ท็อป. ตลาดสี่มุมเมือง
    ๑๕.คณะลานธรรมนำปัญญา
    ๑๖.คณะแม่เกษร ชัยภูมิ
    ๑๗.คุณศิราณี เมฆลอย บ้านไร่ภูผาทอง
    ๑๘.ร้านอาหารไทยสมาย Usa
    ๑๙.พิพัฒน์ – แม่น้อย อรวดี
    ๒๐.กระเพาะปลามหาเศรษฐี
    ๒๑.กาแฟสด ธรรมวิโมกข์ พระบุญมา
    ๒๒.ร้านขนมคุณพระ นครสวรรค์
    ๒๓.@แอ๊ทบ้านท่าซุงคาเฟ่
    ๒๔.คณะ อ.เชิด ปักธงชัย
    ๒๕.คุณหญิงผลไม้
    ๒๖.ภูษาล้านนา
    ๒๗.ณรงค์-อุบล-ณัฐสุดา สังข์ทอง
    ๒๘.คณะบูชาคุณพระรัตนตรัย(泰国感恩佛法僧善团)
    ๒๙.เกี๊ยวซ่า นครสวรรค์
    ๓๐.ยอด เศรษฐีธรรม
    ๓๑.คณะลับแล
    ๓๒.คณะพระอาจารย์สุเทพ โดยคุณราตรีตลาดไท
    ๓๓.สมชาย นิจจารีย์ และคณะ
    ๓๔.โรงแรมศิลาหยกแกรนด์055515555 จ ตาก
    ๓๕.คุณเอมอร
    ๓๖.ร้านแม่มล
    ๓๗.คุณเล็กพัทยา
    ๓๘.พระใบฎีกาพิษณุ
    ๓๙.คณะสายธรรมนำสู่นิพพาน
    ๔๐.พระมหาสมบัติ วัดสร้อยทอง
    ๔๑.พระครูวินัยธรยุคลธรณ์ วัดป่าเขาดิน
    ๔๒.น้ำดื่มสมุนไพรแม่มะยมหวานเย็น
    ๔๓.สเต็ก ฟรี เด้!
    ๔๔.ร้านสลัด เงินล้าน
    ๔๕.คณะทุ่งเสลี่ยม สุโขทัย
    ๔๖.ครัวแก้วทิพยมังสวิรัติ
    ๔๗.คณะฟ้าใส บุญรักษา
    ๔๘.คุณขวัญจิต ทองแท้และคณะ
    ๔๙.บ้านสุขสมใจ
    ๕๐.กลุ่มเพื่อนรักษ์ดี
    ๕๑.น้ำพริกครกคุณอัฐ(ศิษย์เก่า พ ส ธ )
    ๕๒.กลุ่มสะพานบุญเมืองพระชนก
    ๕๓.กลุ่มทำดีให้พ่อดู
    ๕๔.ครอบครัวเนตรบรรเจิดและเพื่อนๆ
    ๕๕.ลูกพ่อวิเชียรระยอง
    ๕๖.ร้าน สลัดเงินล้าน
    ๕๗.ร้านลูกชิ้นทิพย์
    ๕๘.ร้านหมูเจ๊หมวย อ.ต.ก 3 นนทบุรี
    ๕๙.คณะพระอาจารย์ สุเทพ
    โดยแม่ชีโสภนา และคณะ
    ๖๐.ณรงค์-อุบล-ณัฐสุดา สังข์ทอง
    ๖๑.ร้านทวีทรัพย์
    ๖๒.สายธารแห่งธรรมนำสู่นิพพาน ศิษย์วัดท่าซุง
    ๖๓.หม่าล่าสตาร์โชว์ โดย
    จิราพัชร์ และครอบครัว
    ๖๔.ครอบครัวชินนาอาชว์ พูลสวัสดิ์
    ๖๕.คณะวิหารน้ำน้อย หาดใหญ่
    ๖๖.ป้าประนอม โคราช
    ๖๗.คณะลูกหลานหลวงพ่อ
    ๖๘.คณะวงศ์นาครานาคี
    ๖๙.วัดป่าโนนสมบูรณ์

    ติดต่อพระเจ้าหน้าที่โรงทาน
    โทร.090 ‭289-4595‬.
    ‭093 539-0556‬
    ไอดี P2979
    พระใบฎีกาพิษณุ สุธมฺมธโร

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันที่ ๔ธ.ค.๖๑ งานธุดงควัตร วัดท่าซุง ผู้เข้าปฏิบัติธุดงค์ฝึกทบทวน ญาณแปด
    ช่วงการฝึกกรรมฐานเวลา ๑๒.๓๐น ท่านพระครูภาวนาธรรมนิเทศก์ สอนทบทวนและสอนญาณแปด แก่ผู้เข้าปฎิบัติธุดงค์ที่หน้าพระประธานในมหาวิหาร๑๐๐ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    -๔ธ-ค-๖๑-งานธุดงควั.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
  8. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
  9. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันที่ ๔ธ.ค. ๖๑ งานธุดงควัตร วัดท่าซุง เวลา๑๖.๐๐น หลังจากทำวัตรเย็นแล้ว พระภิกษุสงฆ์และพราหมณ์ชายหญิง เข้ารับการปฐมนิเทศ์กและสมาทานธุดงค์พร้อมกัน

    -๔ธ-ค-๖๑-งานธุดงควั.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  10. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
  11. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    กำหนดการถือธุดงควัตร วัดท่าซุง วันพรุ่งนี้
    วันพฤหัสบดีที่ ๖ – ศุกร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ (เริ่มปฎิบัติธุดงควัตร)

    เวลา ๐๔.๐๐ น. เสียงธรรมตามสาย ตื่นนอน
    เวลา ๐๔.๔๕ น. พระภิกษุสงฆ์ และพราหมณ์หญิงชาย เจริญกรรมฐานร่วมกัน ณ ลานธรรม
    เวลา ๐๖.๑๕ น. พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาต (บริเวณ ลานจอดรถ ๒๕ ไร่)
    เวลา ๐๗.๓๐ น. ทำวัตรเช้าที่มหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อฯ แล้วฉันภัตตาหาร(ฉันมื้อเดียว)
    เวลา ๐๘.๓๐ น. ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่นทำความสะอาดมหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อฯ เป็นต้น
    เวลา ๑๒.๓๐ น. ฝึกมโนมยิทธิ ครึ่งกำลัง (ขอให้ไปก่อนเวลา ๓๐ นาที)
    เวลา ๑๗.๐๐ น.ฉันน้ำปานะที่มหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    เวลา ๑๗.๓๐ น. ทำวัตรเย็น เจริญกรรมฐานร่วมกันที่ มหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    เวลา ๑๙.๓๐ น. สนทนาธรรม
    เวลา ๒๑.๐๐ น. เสียงธรรมตามสาย เข้านอน

    -วั.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันที่ ๕ธ.ค.๖๑ ภาพบรรยากาศป่าธุดงค์ในยามค่ำคืน
    พระภิกษุสงฆ์ต่างปักกลดและปฏิบ้ติธรรมในป่า๑๐๐ไร่กันอย่างเงียบสงบ ตามจุดที่กำหนดไว้ แยกตามกลุ่ม

    -๕ธ-ค-๖๑-ภาพบรรยากา.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  13. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันที่ ๕ธ.ค. ๖๑ งานธุดงควัตร วัดท่าซุง พระภิกษุเข้าปักกลดในป่า
    ช่วงเช้าหลังจากทำวัตรที่มหาวิหาร๑๐๐ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยานแล้ว พระภิกษุสงฆ์ได้แบ่งกลุ่มออกเป็น ๔กลุ่ม เพื่อจัดแถวเข้าปักกลดในป่าธุดงค์ นำโดยท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสฺทโธ เจ้าอาวาส และ พระครูวิชัยสารคุณ(หลวงพ่อหนุน)

    -๕ธ-ค-๖๑-งานธุดงควั.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  14. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    กำหนดการเดินทาง และ งานวัดท่าซุง มกราคม-กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒

    -ขอเชิญร่วมพิธี “สวดมนต์ข้ามปี”
    ณ วัดท่าซุง และ บ้านสายลม
    วันที่ ๓๑ ธ.ค. ๖๑ – วันที่ ๑ ม.ค. ๖๒

    -เดินทางไปสอนกรรมฐาน รับสังฆทาน บ้านดอนเมือง บ้านสายลม
    วันศุกร์ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ – วันอังคารที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๒

    -เดินทางไปนมัสการพระธาตุจอมกิตติ – พระธาตุดอยตุง
    วันที่ ๑๒ – ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒

    -สัมนาครูฝึกมโนมยิทธิ
    วันที่ ๑๙ – ๒๐ มกราคม ๒๕๖๒

    -ไปสอนกรรมฐานที่โรงงานทำร่มไทยโอเชี่ยน
    (บ้านคุณรัตนา ชินบุตรานนท์)
    วันพุธที่ ๓๐ -๓๑ มกราคม ๒๕๖๒

    -เดินทางไปสอนกรรมฐาน รับสังฆทาน บ้านดอนเมือง บ้านสายลม
    วันที่ ๑ – ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

    -งานพิธีพระราชทานเพลิงศพ
    หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล (อนันต์ พทฺธญาโณ)
    ระหว่างวันที่ ๗ – ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

    -ท่าซุง-กำหน.jpg

    วัดจันทาราม (ท่าซุง) – กำหนดการเดินทาง และ งานวัดท่าซุง มกราคม-กรกฎาคม พ.ศ.2562

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  15. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันที่ ๕ธ.ค. ๖๑ งานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
    เวลาประมาณ ๑๖.๐๐น ที่มหาวิหาร๑๐๐ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาส นำคณะพระภิกษุสงฆ์และพราหมณ์ชายหญิงที่เข้าปฏิบัติธุดงค์ ร่วมกันบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๕ ธันวาคม เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้ทำวัตรเย็น ต่อจากนั้นเป็นการปฐมนิเทศและสมาทานธุดงค์พร้อมกัน

    -๕ธ-ค-๖๑-งานบำเพ็ญก.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  16. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันพฤหัสบดีที่ ๖ – ศุกร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ (เริ่มปฎิบัติธุดงควัตร)

    เวลา ๐๔.๐๐ น. เสียงธรรมตามสาย ตื่นนอน
    เวลา ๐๔.๔๕ น. พระภิกษุสงฆ์ และพราหมณ์หญิงชาย เจริญกรรมฐานร่วมกัน ณ ลานธรรม
    เวลา ๐๖.๑๕ น. พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาต (บริเวณ ลานจอดรถ ๒๕ ไร่)
    เวลา ๐๗.๓๐ น. ทำวัตรเช้าที่มหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อฯ แล้วฉันภัตตาหาร(ฉันมื้อเดียว)
    เวลา ๐๘.๓๐ น. ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่นทำความสะอาดมหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อฯ เป็นต้น
    เวลา ๑๒.๓๐ น. ฝึกมโนมยิทธิ ครึ่งกำลัง (ขอให้ไปก่อนเวลา ๓๐ นาที)
    เวลา ๑๗.๐๐ น.ฉันน้ำปานะที่มหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    เวลา ๑๗.๓๐ น. ทำวัตรเย็น เจริญกรรมฐานร่วมกันที่ มหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    เวลา ๑๙.๓๐ น. สนทนาธรรม
    เวลา ๒๑.๐๐ น. เสียงธรรมตามสาย เข้านอน

    -๖-ศุกร์ท.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
    วันนี้วันพระ ตรงกับวันศุกร์ แรม ๑๕ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีจอ

    ขอให้ทุกท่านมีความสุขในธรรม

    ตอนที่ ๖ แก้อารมณ์โทสะและพยาบาท

    ท่านพระโยคาวจรทั้งหลาย สำหรับวันนี้ก็จะขอนำเอา “พรหมวิหาร ๔” ในพระกรรมฐาน ๔๐ มาแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย
    สำหรับ “พรหมวิหาร ๔” นี้ องค์สมเด็จพระมหามุนีทรงสอนไว้เพื่อ “แก้อารมณ์โทสะและพยาบาท” เพราะว่าอารมณ์โทสะและพยาบาทนี้เป็นเครื่องทำลายล้างความดี ที่องค์สมเด็จพระชินสีห์เรียกว่า “ไฟ” ประการหนึ่ง
    โทสัคคิ ไฟคือโทสะ เป็นเหตุสร้างความเร่าร้อน เป็นอาการบั่นทอนความสุขความเจริญของตน คนใดถ้ามีโทสะความโกรธมีเกิดขึ้น ความทุกข์มันก็เกิด ทุกข์ตรงไหนก็คือทุกข์ตรงที่เรียกว่า ปรารถนาคิดจะหักล้างทำลายเขา ถ้าอารมณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเมื่อไร ความไม่สบายกายไม่สบายใจมันก็เกิด ความไม่สบายกายก็เมื่อเราคิดจะหักล้างทำลายเขา ก็ใช้สมองคิดวางแผน
    การวางแผนนี้ต้องใช้อารมณ์มาก ดีไม่ดีก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ เอาอะไรดีกันไม่ได้เลย
    เมื่อมันกินไม่ได้หรือว่านอนไม่หลับ คิดมาก นอนไม่หลับ มันก็เลยกินไม่ได้ ความไม่สบายกายมันก็เกิด มันเกิดเพราะอาศัยความไม่สบายใจ เป็นอารมณ์ เป็นทุกข์ ถ้าอารมณ์อย่างนี้ไม่สามารถจะยับยั้งได้ ไปทำอันตรายบุคคลอื่นเข้า หรือว่าไปทำสิ่งที่ไม่พอใจให้เกิดแก่บุคคลอื่น เราก็กลายเป็นคนที่มีศัตรู
    คราวนี้ก็มีทุกข์หนัก จะนั่งก็ไม่สบาย จะนอนก็ไม่สบาย จะหลับก็ไม่สบาย จะตื่นก็ไม่สบาย จะไปไหนก็ไม่เป็นสุข เพราะเกรงว่าบุคคลที่เป็นภัยหรือที่เราไปสร้างศัตรูไว้ เขาจะทำอันตรายกับเรา เป็นอันว่าเราหาความสุขอะไรไม่ได้
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย องค์สมเด็จพระจอมไตรเห็นว่า ความโกรธ ความพยาบาท เป็นเครื่องบั่นทอนความดี และอีกประการหนึ่ง คนที่มีความโกรธ ความพยาบาทมากนี่แก่เร็ว เพราะว่าความโกรธ ความพยาบาทมีความเร่าร้อนเผาผลาญจิตใจ ทำให้ร่างกายทรุดโทรม โทรมเพราะความคิด อารมณ์ฟุ้งซ่าน พลุ่งพล่าน คิดอยากจะทำร้ายคนอื่น ทำให้ร่างกายโทรมนี่อย่างหนึ่ง
    และอีกประการหนึ่ง โทรมเพราะว่าโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเบียดเบียน เพราะคิดมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ โรคภัยมันก็เบียดเบียนนี่อย่างหนึ่ง
    และอีกประการหนึ่ง โทรมเพราะถูกคนอื่นทำร้ายร่างกาย
    และอีกประการหนึ่ง เมื่อไปทำร้ายร่างกายเขาเข้า ไปทำอันตรายเขาเข้า เจ้าหน้าที่จับได้ เราก็โทรม เข้าคุก เข้าตะราง คราวนี้โทรมทั้งกาย โทรมทั้งใจ โทรมทั้งทรัพย์สิน โทรมทั้งความสุข
    ก็รวมความว่าไม่มีอะไรเป็นความดี เมื่ออยู่เป็นอิสรภาพ เรามีศัตรูมากเราก็ไม่มีความสุข ถูกเขาจับไปขังไว้ เพราะอาศัยที่เราสร้างศัตรูไว้มาก เราก็ไม่มีความสุข หรือว่าเมื่อทำร้ายเขาได้แล้ว หนีหลบภัยจากการติดตามของพวกพ้อง ญาติพี่น้องของเขาก็ดี หนีจากเงื้อมมือของกฎหมายก็ดี เราก็ไม่มีความสุข รวมความแล้วไม่มีอะไรเป็นความสุข
    เมื่อเหตุปัจจัยไม่เกิดความสุขอย่างนี้ องค์สมเด็จพระมหามุนีคือพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมา ก็ต้องการจะสงเคราะห์ให้สัตว์โลกหรือพลโลกทั้งหมดมีความสุข แต่ทว่าการสงเคราะห์ของพระองค์นี้ จะมีใครรับการสงเคราะห์หรือไม่นั้นเป็นเรื่องของบุคคลผู้รับ
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงบังคับ ตรัสไว้เสมอว่า “อักขาตาโร ตถาคตา” ตรัสว่า
    “ตถาคตน่ะได้แต่เพียงผู้บอกเท่านั้น”
    คือได้แต่บอก บอกแล้วจะทำตามหรือไม่ทำก็ตามใจ ไม่มีการบังคับ พระพุทธศาสนาไม่คับแคบ มีใจกว้างพอ ใครทำตามก็ตามใจ ไม่ทำตามก็ตามใจ ไม่เคยขัดคอใคร นี่ความจริงไม่ได้ยกย่องพระศาสนานี้ว่าดีกว่าศาสนาอื่น แต่ว่ามีความรู้สึกอย่างนั้น ศาสนาอื่นก็อาจจะมีใจกว้างขวางเช่นเดียวกัน
    ทีนี้ต่อมาเมื่อองค์สมเด็จพระทรงธรรม์เห็นว่าความโกรธความพยาบาทเป็นการริดรอนความดี เมื่อมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีความสุข ตายไปแล้วก็ไม่มีความสุข
    แต่ความจริงเรื่องตายไปแล้วมันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน เรามาคิดกันในด้านปัจจุบันดีกว่า ว่าเอาเมื่อเวลาอยู่มีความสุข ตายไปแล้วมันจะสุขจะทุกข์ก็ช่างมัน ถือไว้เสมอว่าวันนี้เราเป็นคนดี เราหาปัจจัยให้เกิดความสุขในวันนี้ สุขเพราะมีความเมตตาปรานีเกื้อกูลสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน วันพรุ่งนี้มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน ไม่ต้องเป็นห่วง ถือวันนี้และเวลานี้เดี๋ยวนี้เป็นสำคัญ ดีไหม…

    ที่แนะนำพวกท่านอย่างนี้ บรรดาท่านนักปราชญ์ทั้งหลายเห็นว่าผิดไหมนี่ เป็นการคัดค้านพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระธรรมสามิสรหรือเปล่า ความจริงถ้าจะบอกว่าค้านก็ยอมรับ แต่เนื้อแท้ของจิตไม่ได้คิดว่าจะค้าน เห็นว่าคนทุกคนและสัตว์ที่เกิดมานี้มีแต่ปัจจุบัน อดีต อนาคตในอารมณ์ของจิตไม่มี กาลเวลามันมี แต่อารมณ์ของจิตเราไม่มีอดีต อารมณ์ของจิตเราไม่มีอนาคต
    เราลองช่วยกันวินิจฉัยว่า ความรู้สึกที่ท่านมีความรู้สึกขึ้นในขณะนั้น มันเป็นอดีตหรือมันเป็นปัจจุบัน หรือว่าเป็นอนาคต ต้นปีเราคิดอย่างนี้ ปลายปีเราคิดอย่างนี้ แต่อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นอดีตหรืออนาคต มันเป็นต้นปีหรือว่าเป็นปลายปี หรือว่า พ.ศ. นี้ พ.ศ. หน้า พ.ศ. ที่แล้วมา ความจริงความรู้สึกของคน มันมีความรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้อยู่เสมอ ความรู้สึกในปัจจุบันของร่างกาย มันไม่ได้มีความรู้สึกว่า โอหนอ..นี่เป็นความรู้สึกเมื่อวานนี้ นี่เป็นความรู้สึกเมื่อเดือนก่อน นี่เป็นความรู้สึกเมื่อปีก่อน ขณะนั้นที่มันหนาวก็ดี มันร้อนก็ดี มันป่วยก็ดี มันแข็งแรงก็ดี มันเดี๋ยวนี้หรือว่าเมื่อเดือนก่อน ปีก่อน
    รวมความว่าความรู้สึกที่เรามีความรู้สึกเป็นสุขเป็นทุกข์นี่ มันเป็นปัจจุบันคือเดี๋ยวนี้ ฉะนั้นถ้าหากว่าเรารักษาความดีเดี๋ยวนี้ไว้เป็นปกติ เดี๋ยวหน้ามันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน เพราะมันไม่มี ลืมตาขึ้นมาวันนี้ก็เดี๋ยวนี้ อยู่ไปถึงกลางวันหรือบ่ายมันก็เดี๋ยวนี้ เย็นคํ่ามันก็เดี๋ยวนี้ รุ่งขึ้นถ้าลืมตาขึ้นมาใหม่มันก็เดี๋ยวนี้
    ก็รวมความว่าเรารักษาความดีเดี๋ยวนี้ไว้ตลอดเวลา หมดเรื่องกัน

    นี่ความดีเดี๋ยวนี้ทำอย่างไร? “พรหมวิหาร ๔” มี ๔ อย่าง ท่านบอกไว้ว่า ๔ อย่างนี้เป็นปัจจัยของความสุข ถ้าใครทำได้ถึงที่สุด รักษาอารมณ์ได้ถึงที่สุด ก็ชื่อว่ามีความสุขถึงที่สุด ถึงที่สุดตรงไหน ถึงที่สุดก็คือหมดความทุกข์ไปเลย ขึ้นชื่อว่าอารมณ์ของความทุกข์ไม่มี นี่จะพูดให้ฟัง
    อันดับแรก เอากันเบาๆ ก่อน ขนาดเบาๆ เราทำความรู้สึกไว้เสมอว่าเราจะรักคนอื่นและสัตว์อื่นเสมอด้วยรักตัวเรา นี่แบบเบาๆ ไม่ใช่แบบหนักๆ ลืมตาขึ้นแต่ตอนเช้า จนกว่าจะหลับไปใหม่ ตื่นใหม่ๆ จะตื่นเช้า ตื่นดึก ตื่นสาย อะไรก็ช่าง พอลืมตาจากการตื่นขึ้นมา มีความรู้สึกไว้เสมอว่า “เราจะเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั้งหลายในโลก คนและสัตว์ในโลกนี้ ไม่มีใครเป็นศัตรูสำหรับเรา เรามีความรักตัวเราฉันใด เราก็จะรักบุคคลอื่นเท่านั้นเหมือนกัน”
    เราไม่ต้องการให้ใครมาทำร้ายเรา เราก็ไม่ทำร้ายบุคคลอื่น เราไม่ต้องการให้ใครมาลักมาขโมยทรัพย์สินของเรา เราก็ไม่ลักไม่ขโมยทรัพย์สินของบุคคลอื่น เราไม่ต้องการให้ใครมายื้อแย่งความรักของเรา เราก็ไม่ยื้อแย่งความรักของบุคคลอื่น เราไม่ต้องการให้ใครมาโกหกมดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด ยุยงส่งเสริมให้เขาแตกร้าวกัน ไม่ใช้วาจาสำราก เราก็ทำอย่างนั้นแก่ผู้อื่น เราไม่ต้องการดื่มนํ้าเมาหรือยาเสพติด หรือสิ่งที่ทำลายประสาทให้เกิดความประมาท ให้ประสาทมึนเมาไร้สติสัมปชัญญะ เราก็ไม่ยุให้ชาวบ้านทำอย่างนั้น ใจของเราคิดอย่างนี้แล้วเราก็ทำด้วย เจอะหน้าใครก็ยิ้มตลอดเวลา เห็นหน้าใครก็คิดว่าคนทั้งหมดเขาเป็นมิตรที่ดีสำหรับเรา เขากับเรามีอารมณ์เสมอกัน คือต้องการความรัก เราต้องการความรัก เขาก็ต้องการความรัก
    ฉะนั้น เมื่อเราพบหน้าเขาเราก็แสดงความรักด้วยความจริงใจให้ปรากฏ เมื่ออาการเป็นอย่างนี้ เราเห็นหน้าใครเราก็ยิ้มให้แก่คนทุกคน เห็นแก่คนที่มีวัยสูงกว่า มีคุณวุฒิสูงกว่า มีฐานะสูงกว่า เราก็ใช้ “อปจายนธรรม” ยกมือไหว้ทำความเคารพตามประเพณี อาการอย่างนี้ ท่านลองคิดว่ามันเป็นอาการของความสุขหรืออาการของความทุกข์ พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า
    “วันทโก ปฏิวันทนัง”
    ผู้ไหว้ย่อมได้ไหว้ตอบ
    “ปูชโก ลภเต ปูชัง”
    เราบูชาเขา เขาก็บูชาตอบ
    ถ้าเรายิ้มให้เขา เขายิ้มให้เราหรือไม่ ถ้ามันยิ้มยาก เราก็ยิ้มบ่อยๆ ยิ้มและยิ้มมันเข้าไว้ ในที่สุดมันก็ต้องยิ้ม
    เราก็มานั่งวัดใจของเรา การปฏิบัติธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องเอาใจของเราเป็นเครื่องวัดว่าถ้าใครเขาเห็นเราเขายิ้ม เรามีความรู้สึกอย่างไร มันชุ่มชื่นใจ หรือว่าอยากจะฆ่าคนยิ้มเสียให้ตาย ถ้าเขายิ้มด้วยความจริงใจ ยิ้มด้วยความมีเสน่ห์ เราก็แหม..เรียกว่าเกือบกระโดดเข้าไปกอด ไปรัดฟัดเหวี่ยงให้มันสมกับความดีของเขา นี่ความรู้สึกอาตมาเป็นแบบนี้นะ แต่ว่าความรู้สึกของบรรดาท่านทั้งหลายเป็นอย่างไร นี่อาตมาไม่ทราบ ก็ไม่รู้ที่พูดนี่ไม่เกี่ยวกับอารมณ์คนอื่น เกี่ยวกับอารมณ์ของคนพูดอย่างเดียว
    ทีนี้ถ้าหากว่าเรารักเขา เขาไม่รักเรา มันก็แปลก แต่ก็มีเหมือนกันคนบ้าๆ บอๆ ในโลกนี้ก็พอจะหาได้ คนอื่นใดที่เขาสร้างความดีให้ ก็สร้างความชั่ว เช่น พระเทวทัต เป็นต้น แต่ว่าคนประเภทนี้มีน้อย เราอย่าสนใจให้มากนัก เราทำความดีของเรา สร้างเมตตาจิตให้คิดอยู่ในใจ และก็ปฏิบัติในความรักด้วย ช่วยให้เขามีความสุข คนถึงจะเลวแสนเลวอย่างไร ต่อไปมันก็ทนไม่ไหว ทนดีไม่ได้ เมื่อทนดีไม่ได้ ใจเขาก็ต้องมีความรักสักวันหนึ่ง
    แต่เราอย่าหวังผลตอบแทน เราต้องการอย่างเดียว คือสร้างความรู้สึกของใจเราให้เป็นสุข เราถือว่าเรามีความรักในบุคคลอื่นและสัตว์อื่น ไม่ทำอันตรายเขา เรามีความสุขใจ แล้วผลอันนั้นมันจะสะท้อนมาถึงเราเอง
    ประการที่สอง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอก กรุณา ความสงสาร รักแล้วไม่พอยังสงสารด้วย หาทางช่วยเหลือตามกำลังปัญญา ตามกำลังทรัพย์ ตามกำลังกายเท่าที่จะมีอยู่ เห็นใครมีทุกข์ช่วยให้มีความสุขยิ่งขึ้น เขาหิวข้าวหิวอาหารมา เราก็ให้ตามมีตามเกิด มีอย่างไรสามารถแค่ไหน ช่วยแค่นั้น เอามาวัดถึงใจเราก็แล้วกัน ถ้าเราได้รับความช่วยเหลือแบบนั้นบ้าง เราจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ เราจะรักคนที่ให้เรา หรือว่าเราจะเกลียดคนที่ให้เรา เอาใจเราเป็นเครื่องวัด
    แต่ถ้าไปเจอะเอาคนจัญไรเข้าแล้วก็ช่างเถิด! อย่าถือโทษโกรธเกินไป ถ้าเราแสดงความดีกับเขา เขาไม่แสดงความดีกับเราด้วย อันนี้ก็คิดว่าเขาเป็นเผ่าพันธุ์ของเทวทัตก็แล้วกัน เทวทัตทำกับองค์สมเด็จพระภควันต์มากมาย แต่องค์สมเด็จพระจอมไตรก็ไม่ทรงโกรธทรงมีพระมหากรุณาธิคุณบอกว่า
    “เรารักเทวทัตเท่ากับรักราหุลลูกชายของเรา”
    นี่เราเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราก็ต้องทำอย่างนั้น เมื่อพระองค์ปฏิบัติมาตามนั้น เราปฏิบัติตามพระองค์ เขาด่าเรายิ้ม เขาว่าเรายิ้ม เขากลั่นแกล้งเรายิ้ม ผลที่สุดคนที่ทำเรา เขาก็จะมีผลเช่นเดียวกับเทวทัต คือมีความเร่าร้อนในปัจจุบัน และเวลาตายจากโลกนี้นั้น ก็มีความเร่าร้อนในนรก
    แต่ว่าเราอย่าไปคิดอย่างนั้น เราคิดอย่างเดียวว่าปลีกใจของเราออกจากความทุกข์ คือตั้งอยู่ใน “พรหมวิหาร ๔” คือ กรุณา และ เมตตา นี่เป็นประการที่สอง
    กรุณาและเมตตาเป็นปัจจัยแห่งการผูกมิตร กรุณา ความสงสาร ให้การเกื้อกูลและสร้างมิตรที่ดี อารมณ์ยิ้มคือเป็นคนใจดี ก็ย่อมเป็นที่รักของบุคคลส่วนใหญ่
    เราถือคนส่วนใหญ่เป็นสำคัญ ลองดูก็ได้ถ้าใครไม่เชื่อไม่มั่น ในตอนนี้แล้วก็เอาตั้งใจไว้เลย พอลืมตามาคิดว่าวันนี้ยิ้มทั้งวัน ใครมาหาเป็นปกติก็ยิ้ม เขาใช้งานเหนื่อยก็ยิ้ม ใช้งานหนักก็ยิ้ม ลองยิ้มอย่างนี้ดูสักเดือน ดูผลของการยิ้มว่ามันจะเป็นอย่างไร ถ้าหากว่ามีคนรักน้อยเกินไป มีแต่คนเกลียดมากขึ้นแล้วก็เลิกยิ้มได้ เป็นอันว่าคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรไม่มีผล
    และอีกข้อหนึ่งที่องค์สมเด็จพระทศพลตรัสว่าเกื้อกูลบรรดาสัตว์ หมายถึงคนและสัตว์ทั้งหมดให้มีความสุข ตามความสามารถที่เราจะพึงทำได้ ไม่นิ่งเฉย ไม่นิ่งนอนใจ มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างเถิด เห็นเขาป่วยไข้ไม่สบายใจมา ไม่มียา ไม่มีความสามารถก็ช่วยไปส่งหมอ ถ้ามีอะไรพอจะเกื้อกูลให้บ้าง มีอาหาร มีสตางค์ ให้ได้บ้าง เราก็ให้ตามกำลังที่เราจะพึงให้ ไม่ใช่บีบคั้น ลองคิดว่าถ้าเราถูกกระทำอย่างนี้เข้าบ้างจะเป็นอย่างไร เราจะรักเขาหรือว่าเราจะเกลียดเขา
    ประการที่สาม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า มุทิตา จงมีจิตอ่อนโยน คือมีอารมณ์ไม่อิจฉาริษยาบุคคลอื่น เห็นใครได้ดีก็ส่งเสริมความดีของเขา ส่งเสริมความดีที่เรียกว่าพลอยยินดีด้วย แต่ว่าอย่าไปส่งเสริมเฉยๆ ส่งเสริมเฉยๆ มันไม่ขาดทุน แต่ว่ามันไม่มีกำไร เราต้องเป็นคนหากำไร กำไรที่เราจะพึงได้มันจะมาจากไหน ก็ดูว่าเขาดีแบบไหน ที่เขามีความสุข เขารวยแบบไหน จึงมีความอุ่นหนาฝาคั่งในทรัพย์สิน เขาทำอย่างไรเกียรติยศเกียรติศักดิ์เขาจึงเจริญ เห็นเขาเข้าไม่อิจฉาริษยาเขาพลอยยินดีด้วย
    แต่ทว่าเราก็ต้องเอากำไร ไม่ใช่เป็นนิสัยคนเอาเปรียบ แต่ว่าต้องการกำไร กำไรที่จะพึงได้ ได้อย่างไรนั่นก็คือมองดู หรือว่าพิจารณาให้ดีว่าผลแห่งความดี ผลแห่งความสุข ที่เขาจะพึงได้มานั้น ศักดิ์ศรีที่เขาพึงได้มานั้น เขาได้มาด้วยอาการอย่างไร วินิจฉัยเสียให้ถ่องแท้แล้วก็อย่าปล่อยวินิจฉัยเฉยๆ อย่าใช้ปัญญาให้ไร้ประโยชน์ ย่องเอาความดีที่เขากระทำมาแล้วมาทำเสียด้วย มันจะได้ช่วยให้เรามีความดียิ่งขึ้นหรือสมํ่าเสมอเขา มันจะดีเท่าเขา หรือไม่ดีเท่าเขา ก็ช่าง!
    แต่ขอผลความดีที่เขาได้แล้วให้มาเป็นผลของเราบ้าง ไม่ใช่ไปขอทรัพย์ขอสิน แต่ขอแนววิธีการปฏิบัติ ปฏิปทาที่เขาทำอย่างนี้มีประโยชน์ใหญ่ คนที่เขามีความดีอยู่แล้ว ก็ไม่มีใครเขารังเกียจว่าเราจะไปยื้อแย่งความดีที่เขาปฏิบัติแล้ว ไม่มีใครเขาว่ามีแต่คนเขาชอบใจว่าเขาดี เราดี โลกก็มีความสุข นี่ว่ากันแบบธรรมดาๆ
    ข้อที่สี่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่าให้มี อุเบกขา ถ้ากฎของกรรมใดมันเกิดขึ้น ถ้าพ่อจะตาย แม่จะตาย พี่จะตาย น้องจะตาย ตัวเราจะตาย ไฟมันไหม้บ้าน หรืออะไรก็ตาม เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นมันเกิดขึ้นแล้ว เราระงับมันไม่ได้เป็นไปตามกฎของธรรมดา เราก็คิดว่านี่ โอหนอ..มันธรรมดานะ เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งใดที่เป็นไปแล้วอย่างนี้ ก็ไม่ทำความเศร้าใจให้เกิดขึ้น มันเป็นไปแล้วก็แล้วกันไป แล้วก็หาทางสร้างความดีต่อไป เพื่อเป็นปัจจัยของความพ้นทุกข์
    และอีกนัยหนึ่ง โลกธรรม ๘ ประการ ถ้ามันมากระทบกระทั่งใจ ความมีลาภเกิดขึ้น อย่าดีใจเกินไป เฉยๆ ไว้ และมีความรู้สึกว่าลาภมันจะต้องหมดไป เมื่อลาภหมดไปก็อย่าเสียใจ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
    เมื่อเขาให้ยศถาบรรดาศักดิ์ ก็ทำความรู้สึก ยศถาบรรดาศักดิ์นี้ใครเขาก็หากันได้ ที่ได้มาแล้วหมดยศไปถมเถไป ก็เตรียมกายเตรียมใจ เพื่อความหมดยศไว้ด้วย เมื่อยศสูญเสียไปเมื่อไร เราก็สบายใจ เฉย! ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา

    ถ้าใครเขามาสรรเสริญกันอย่างไรเล่า เราก็ไม่ได้ดีตามนั้น เราเป็นคนเลว เขาสรรเสริญว่าเป็นคนดีเราก็ไม่ดีไปด้วย ถ้าเราดีแล้วเขานินทาว่าเราชั่ว เราก็ไม่ชั่วด้วย คำนินทาและสรรเสริญมันเกิดขึ้นเราก็เฉย แต่ไม่แสดงอาการปฏิเสธในคำสรรเสริญ เขาสรรเสริญเราก็ยิ้ม เขามานินทาเสียดสีเรา เราก็ยิ้มเสียอีก มันก็หมดเรื่องกัน

    เป็นอันว่าคนสรรเสริญเรา เรายิ้มให้เขา เขาก็ปลื้มใจ คนที่เขามาด่าว่านินทาเรา เรายิ้ม เขาก็ชํ้าใจเหมือนกัน ชํ้าใจเพราะอะไร เพราะคำนินทาด่าว่ามันไม่มีผล หนักเข้าๆ เขาขี้เกียจด่าขี้เกียจว่า ทนไม่ไหวเขาก็เลิกด่าเลิกว่าไปเอง เป็นอันว่าเขาก็แพ้ไป ความจริงสิ่งนี้ไม่ได้ทำเพื่อความแพ้เพื่อความชนะ เราต้องการชนะเหมือนกันแต่ไม่ใช่ต้องการชนะคน คือชนะความโกรธ ชนะความพยาบาท
    ที่พูดมานี่เป็นแค่ทำแบบธรรมดาๆ ในด้านสมถภาวนา มันดีบ้าง มันก็ไม่ดีบ้าง มันทรงตัวไม่อยู่ ถ้าจะทรงตัวให้อยู่จริงๆ ตัวท้ายนี่ดีมาก อุเบกขา เราวางเฉยในโลกธรรมทั้ง ๘ ประการ มีความรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา และเมื่อวางเฉยในโลกธรรมทั้ง ๘ ประการนี้ ด้วยการข่มใจเพราะเรายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ เรายังไม่ได้เป็นพระอนาคามี ความสะดุ้งสะเทือนจากโลกธรรมมันก็มีขึ้นได้ แต่เมื่อสะดุ้งหวั่นไหวปั๊บจับมันกดคอเข้าไว้ ใจมันก็จะมีความสุข แต่มีความสุขอย่างใช้กำลัง ต้องเข้าประหัตประหารกันกับอารมณ์นั้น ใช้อารมณ์ความดีเข้าประหารความชั่ว ถ้าอย่างนั้นละก็ มันก็ต้องสู้กันอยู่ทุกวัน ทางที่ดีก็ประหารมันให้พินาศไปเสียเลย ทั้งนี้เพราะอะไร
    เพราะว่าเอาอุเบกขาตัวนี้แหละ มาเป็น “สังขารุเปกขาญาณ”

    “สังขารุเปกขาญาณ” หมายความว่า วางเฉยในขันธ์ ๕ เสียทั้งหมด ถ้าเราเฉยในขันธ์ ๕ ได้ เราก็เฉยในทุกสิ่งทุกอย่างได้ ขันธ์ ๕ ของใครที่เราวางเฉย เราก็วางเฉยในขันธ์ ๕ ของเราด้วย วางเฉยในขันธ์ ๕ ของคนอื่นด้วย ที่นอกจากตัวเราวางเฉยในขันธ์ ๕ ของสัตว์ด้วย และก็วางเฉยในทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเสียด้วย เฉยที่ไหน เฉยที่ใจ ใจเฉย!
    ร่างกายมันจะแก่ก็เชิญแก่ เพราะรู้แล้วว่ามันจะแก่ ร่างกายมันจะป่วยก็เชิญป่วย เพราะรู้แล้วว่ามันจะป่วย ร่างกายของเราจะตายก็เชิญตาย เพราะรู้แล้วว่าเกิดมาแล้วมันก็ต้องตาย ถ้ามีเกิดมันก็ต้องมีตายเป็นของธรรมดา ไม่สามารถจะหลีกจะเลี่ยงไปได้
    แล้วต่อไปก็เฉยต่อไปอีก ราคะ ความรัก ที่ชาวบ้านเขาพอใจกัน เราก็เฉยมันเสียไม่รัก เพราะจะไปรักมันทำไม มันไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ที่เราเห็นว่าวัตถุสวย คนสวย มันสวยไม่จริง ประเดี๋ยวมันก็พัง มันทรุดโทรมเราก็เฉย
    ความโลภ อยากจะเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี จะมั่งมีทรัพย์สินเหลือคณานับ เราก็เฉยมันเสียอีก ทำไมจึงเฉย เพราะว่าความรํ่ารวยทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัจจัยของความสุขแท้จริง มันเป็นความทุกข์ ตัวอย่างมีเยอะ ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ เราก็เฉย เฉยในความรวย
    ถ้าใครเขานินทาว่าร้าย ทำให้สะดุ้งสะเทือนใจด้วยอำนาจของความโกรธ เราก็เฉยมันเสียอีก เพราะที่เขาด่าเขาว่า เขาด่าขันธ์ ๕ เขาไม่ได้ด่าเรา เราคือ…”จิต”
    และความหลงใหลใฝ่ฝันในอามิส คือรูปโฉมโนมพรรณ เราก็เฉยมัน คิดว่าขันธ์ ๕ นี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราอาศัยมันชั่วคราว พังแล้วก็แล้วกันไป แล้วมันเองก็เป็นปัจจัยของความทุกข์ มันไม่ได้สร้างความสุขให้แก่ใคร
    ในเมื่อขันธ์ ๕ มันเป็นปัจจัยของความทุกข์ ไม่ใช่ปัจจัยของความสุข เรื่องอะไรที่เราจะไปสนใจ ในเมื่อเราไม่สนใจในขันธ์ ๕ เราก็ชื่อว่าไม่สนใจในความเกิด เราไม่สนใจในความรักคือราคะ เราไม่สนใจในโลภะคือความโลภ เราไม่สนใจในความโกรธ เราไม่สนใจในความหลง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไม่มีอะไรที่เราจะติดใจว่า มันเป็นเรา เป็นของเรา อย่างนี้อารมณ์ของบรรดาท่านพระสาวกขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าที่กำลังรับฟัง ก็ชื่อว่าเป็นอารมณ์ของ “พระอรหันต์”
    เป็นอันว่า เราเจริญ “พรหมวิหาร ๔” เพียงอย่างเดียว ก็สามารถจะทำจิตใจของเราให้เข้าสู่พระนิพพานได้ ได้หรือไม่ได้มันก็เรื่องของท่าน เวลาหมดแล้วก็ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาพุทธศาสนิกชนทุกท่าน

    สวัสดี*

    โพสต์โดย Achaya

    -ตรงกับวันศ.jpg

    ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  18. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
  19. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
  20. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6,570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    9
    ค่าพลัง:
    +395
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...