ข่าวสาร วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี โดยเพจมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

จากเรื่อง นิพพานมีสภาพไม่สูญ คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ธัมมวิโมกข์ ฉบับ ๔๕๓



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

เมื่อวันที่ ๒๔ ม.ค.๖๒ พิธีอัญเชิญสมเด็จองค์ปฐมและท่านท้าวมหาราช ทั้ง๔และท่านอินทกะ ทั้ง๔
ช่วงเช้า ท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาส ได้ทำพิธีบวงสรวงเพื่อทาสีซ่อมแซมมณฑปหน้าอุโบสถ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งเมื่อเสด็จมายังวัดท่าซุง รวมทั้งทาสีหอกลองด้วย จากนั้นท่านพระครูฯ ได้มาที่ลาน๒๕ไร่เพื่อทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญสมเด็จองค์ปฐมขึ้นสู่หน้าบันของรถแห่สรีระสังขารท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล และยกท่านท้าวมหาราชทั้ง๔ อันมี ท่านท้าวเวสสุวรรณ ประจำทิศเหนือ ท่านท้าววิรุฬหก ประจำทิศใต้ ท่านท้าวธตรฐ ประจำทิศตะวันออกและท่านท้าววิรูปักษ์ ประจำทิศใต้ รวมทั้งท่านอิทกะทั้ง๔ อันมี ทิศเหนือท่านปิยะยาวี ทิศใต้ท่านมหานาคา ทิศตะวันออกท่านศิริโภคาและ ทิศตะวันตกท่านมหาลาโภ ขึ้นสู่บุษบกทั้ง๔มุม ของเมรุชั่วคราว ณ ลาน๒๕ไร่



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

ประกาศ…งดสวดฯ



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๒ ความคืบหน้าการบูรณะศาลาเก่าริมน้ำ ช่วงนี้ได้เริ่มถอดกระเบื้องลงจาก
หลังคาเพื่อซ่อมแซมโครงสร้างหลังคาทั้งหมด














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๘.๐๐ น.คณะพระสงฆ์ ครูนักเรียน ล้างพื้นลาน ๒๕ ไร่ และในช่วงค่ำ ท่านพระครูปลัดสมนึก พร้อมด้วยพระสงฆ์วัดท่าซุง เข้าร่วมประชุม การจักขบวนเพื่อเตรียมซ้อมใหญ่ในวันพรุ่งนี้



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๒ ท่านพระครูปลัดสมนึก เจ้าอาวาสวัดท่าซุง คณะพระสงฆ์ และ คณะญาติโยม เดินทางมาพร้อมกันภายในพระมหาวิหาร ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน ในช่วงเช้าพิธีซ้อมอัญเชิญสรีระหลวงพ่อพระราชภาวนาโกศลจาก พระมหาวิหาร ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน ไปยังเมรุชั่วคราว ลาน ๒๕ ไร่ ในช่วงบ่ายประชุมพิธีการ และในช่วงเย็นซ้อมอัญเชิญอัฐิธาตุฯจากเมรุชั่วคราว มายังพระมหาวิหาร ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน จากนั้นเวลา ๑๙.๐๐ น.พระสงฆ์วัดท่าซุงสวดมาติกา ถวายหลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

จากคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ธัมมวิโมกข์ ฉบับ ๔๕๓



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันนี้วันพระตรงกับวันจันทร์ แรม ๘ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีจอ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในธรรม

คำว่า “บารมี”
พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า
ถ้ามีบารมีแก่กล้าละก็จะได้มรรคผล กล่าวคือถึงพระนิพพานเป็นอรหันต์ได้ภายใน ๗ วัน
ถ้ามีบารมีอย่างกลาง หมายถึงว่าขี้เกียจนิดหน่อย ขี้เกียจไม่มาก ก็จะได้สำเร็จอรหันต์ภายใจ ๗ เดือน
ถ้าขี้เกียจมากไปนิด หมายความว่าถ้ามีบารมีอย่างตํ่า
ไอ้คำว่า “บารมี” นี่น่ะตัวขยันหรือตัวขี้เกียจนั่นเอง และก็มีกำลังใจเต็มหรือไม่เต็ม มีกำลังใจเข้มแข็งหรือไม่
ที่มีกำลังใจเข็มแข็งก็คือคนขยัน
คนที่มีกำลังใจอ่อนไปหน่อยก็คือคนขี้เกียจ ว่าภาษาไทยกันมันฟังชัด
ไม่อย่างนั้นแปลคำว่า “บารมี”
บารมีนี่นึกว่าหาได้ยาก ไม่ใช่
มันเป็นความขยันหรือความขี้เกียจ
ตัดสินใจตรงหรือไม่ตรง
ทำถูกหรือไม่ถูก
แล้วทำเฉพาะความดีหรือเปล่า
ทำพอเหมาะพอดีหรือไม่
ถ้าทำเกินพอดีก็โง่
ถ้าหากว่าทำไม่ถึงดีก็โง่
ต้องเอากันแค่พอดี
ไอ้ตัวโง่ก็คือ อวิชชา

อวิชชา
คำว่า “อวิชชา” นี้ไม่ใช่แปลว่าไม่รู้
รู้เหมือนกันแต่รู้ไม่ค่อยจะตรง
รู้ไม่ค่อยจะหมด รู้ไม่ครบถ้วน
เอาละ ว่ากันต่อไปถึง ทิพจักขุญาณ
นี่ถ้าหากว่าจะดูกันให้แจ่มใสจริงๆ รู้กันให้แจ่มใสจริงๆ ก็ต้องทำจิตของเราเข้าสู่อารมณ์วิปัสสนาญาณ
แล้วอารมณ์วิปัสสนาญาณนี้ ต้องว่ากันให้ตรงจริงๆ นะ อย่าปัสฯ ส่งเดช ถ้าปัสฯส่งเดชไม่มีผล ถ้าเราได้ ทิพจักขุญาณ เสียแล้ว การปัสฯ ส่งเดชไม่มีผล
นี่สำหรับคนดีนะ แต่คนที่เหลิงแล้วก็ใช้อะไรไม่ได้เหมือนกัน
บางทีพอได้ ทิพจักขุญาณ แล้วก็เหลิง นึกว่าตัวเป็นผู้วิเศษ ความจริงยังไม่พ้นนรก
ถ้าเหลิงเสียหน่อยเดียวฌานโลกีย์มันก็จะเสื่อม ทิพจักขุญาณ มันก็จะสูญ

ต้องระวังอุปาทาน
ทีนี้ก็เหลือแต่ อุปาทาน
พวกเหลือแต่ อุปาทาน หรือพวกที่ได้ ทิพจักขุญาณ ใหม่ๆ จะมี อุปาทาน กันมาก จะพูดยกตัวอย่างให้ฟัง
เช่นไปเห็นรูป พระพิฆเนศ สมัยหนึ่งพวกพราหมณ์เขาสมมติขึ้นเป็นเทวดาหัวช้าง ประวัติเป็นมายังไงจะไม่นำมาเล่าให้ฟัง เพราะเปลืองเวลา ก็เลยนั่งไปแล้วนั่งหลับตาใช้ ทิพจักขุญาณ เป็นบาท
เห็นเทวดาองค์นี้หัวเป็นช้าง นี่ยังงี้ก็มี เห็นเทวดาไม่ใส่เสื้อเสียบ้างก็มี
อะไรอย่างนี้เป็นต้น
เห็น พระจุฬามณี เป็นอิฐเป็นปูนหรือเป็นทองคำ อย่างนี้ยังใช้ไม่ได้นะ เขาไม่ใช้กันเลยนะ เป็นอารมณ์จิตที่เลวมาก เรียกว่าเลวจนใช้ไม่ได้
ถ้าจะเป็นการตรวจคะแนนในสนามหลวง จะให้สักกี่ร้อยศูนย์ก็ยังไม่พอกับความเลว
ทีนี้ความจริงมันก็ดีบ้างแล้วเหมือนกัน
แต่ดีไม่ถึงดี ถ้าไปเทียบกับระบบของความดีเข้าก็เลวมาก เพราะฟั่นเฝือเห็นไม่ตรงกับความเป็นจริง ถ้าหากว่าเห็นได้ขนาดนี้ละก็ จงอย่าคิดว่ามันดี แต่การเห็นขนาดนี้ก็รู้ของผิวๆ ได้เหมือนกัน คือรู้ว่าที่นี่มีผีไหม ที่นี่มีเทวดาไหม ที่นี่มีอะไรสำคัญไหม ของตํ่าๆ อย่างนี้รู้ได้ แต่บางครั้งก็รู้เฝือเหมือนกัน รู้ผิดเพราะอุปาทาน เห็น
อุปาทาน นี้ก็ได้แก่ความยึดมั่น แปลง่ายๆ ว่า ความชั่วของจิต นั่นเอง ไม่ต้องแปลตามตัว ตีความหมายตามภาษาไทย เรียกว่า “ความชั่วของจิต” ยึดถืออารมณ์ หมายความว่ายึดถือสัญญาเดิมความจำไว้มากเกินไป ไม่ใช้ปัญญาเป็นเครื่องพิจารณา อย่างนี้จิตยังชั่วมาก
สำหรับนักปฏิบัติ พระคุณเจ้าที่เคารพ อย่าทำตามนั้นนะขอรับ แม้แต่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทก็เหมือนกัน
ทั้งนี้เพราะอะไร
นักเจริญพระกรรมฐานจะเป็น มหาสติปัฏฐานสูตร หรืออะไรก็ตาม พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า “พระ” คือ พระโยควจร
ชาวบ้านเขาก็เพ่งไปในแง่ของความดี เพราะถือว่าเป็นผู้มีจิตบริสุทธิ์ แต่ถ้าจิตของเราบริสุทธิ์ไม่ดีพอแล้ว เอาของเลอะเทอะไปมอบหมายให้แก่ชาวบ้าน เราพูดอะไรกับเขา เขายอมรับฟัง เขายอมเชื่อ ถ้ามันไม่ตรงกับความเป็นจริงแล้ว เราก็เป็นบาป
ปาโป แปลว่า ความชั่ว
จิตเราชั่วแล้วเราก็มอบเมรุประเคนขาด คือยกเอาชั่วให้เป็นสมบัติของคนอื่นอีก
อันนี้ไม่ดีนะขอรับ พระคุณเจ้าและบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทจงระมัดระวังให้มาก อย่าให้เป็นอย่างนั้น ถ้าจิตมันเป็นอย่างนี้อยู่ พยายามเข้าฌาน ๔ ให้มาก ทรงฌาน ๔ ให้มาก
เมื่อถอยหลังออกมาจากฌาน ๔ แล้ว ก็เข้าเจริญวิปัสสนาญาณ ชำระจิตให้ผ่องใส
เมื่อจิตมันจะเฝือไป ก็เข้าฌาน ๔ ใหม่สลับกันไปสลับกันมาอย่างนี้นะขอรับ จนกว่าสภาพจิตจะแจ่มใส

เมื่อจิตแจ่มใสดีแล้วก็คุมสภาวะไว้
รักษาศีลให้บริสุทธิ์
อย่ายุ่งกับเรื่องของชาวบ้าน
ระงับนิวรณ์ ๕ ประการ
อย่าให้กวนใจ
จิตทรงพรหมวิหาร ๔ เข้าไว้

อย่างนี้ไม่ช้านานเท่าไรก็จะถึงความดี

โพสต์โดย achaya



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

สรุปเส้นทางจราจรช่วงงานพระราชทานเพลิง หลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล ระหว่างวันที่ ๗ – ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ วัดจันทาราม (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒ ค่ำคืนนี้ เวลา ๒๑.๒๐ น. ท่านพระครูปลัดสมนึก เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ทำพิธีบวงสรวง หน้าเมรุชั่วคราว (ลาน๒๕ ไร่) รับลิฟต์ยกเตาเผาตัวใหม่ ซึ่งได้ทำพิธีบวงสรวงเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ที่ผ่านมา เข้าติดตั้งแทนตัวเดิม
ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันพุธที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๒
งานสอนพระกรรมฐาน ณ โรงงานไทโอเชี่ยน(บ้านคุณรัตนา ชินบุตรานนท์) จ.สมุทรปราการ
ช่วงเย็นวันนี้ มีการสอนพระกรรมฐานแบบวิชามโนมยิทธิ ให้กับพนักงานโรงงานไทยโอเชี่ยน โดยในเวลาประมาณ๑๘.๐๐น. ท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ ได้สนทนาและให้คำแนะนำเบื้องต้นกับพนักงานในการเข้าฝึกกรรมฐานแบบวิชามโนมยิทธิ เป็นเวลาพอสมควร หลังจากนั้นจึงเริ่มพิธีบวงสรวง โดยคุณรัตนา ชินบุตรานนท์จุดธูปเทียนที่โต๊ะบวงสรวง หลังจากนั้นจึงเปิดเสียงบวงสรวงของหลวงพ่อ สมาทานศีล และสมาทานพระกรรมฐาน หลังจากนั้นเปิดเสียงคำสอนหลวงพ่อเกี่ยวกับการฝึกมโนมยิทธิเบื้องต้นให้กับพนักงานทุกคนฟังเพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้เข้าฝึก หลังจากนั้นครูฝึกจึงแบ่งผู้เข้าฝึกตามกลุ่มต่างๆ โดยแบ่งเป็นการฝึกขั้นต้น และฝึกญาณ๘ โดยการฝึกครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง
สรุปผลการฝึก
ฝึกขั้นต้น จำนวน ๒๒ คน ฝึกได้ทั้ง ๒๒ คน
ฝึกญาณ๘ จำนวน ๑๑๔ คน
รวมผู้เข้าฝึกทั้งหมด ๑๓๖ คน
หลังฝึกเสร็จแล้ว ผู้บริหารและพนักงานโรงงานไทยโอเชี่ยนได้ร่วมกันทำพิธีบูชาสรรเสริญพระคุณครูพร้อมขอขมาพระรัตนตรัยและขอขมาต่อครูอาจารย์ หลังจากเสร็จพิธีแล้ว จึงร่วมกันทำบุญถวายสังฆทาน เสร็จแล้วร่วมกันอุทิศส่วนกุศลและคณะสงฆ์ให้พรเป็นอันเสร็จพิธีทั้งหมดในค่ำวันนี้
เวลาประมาณ ๒๑.๐๐น. ท่านพระครูปลัดสมนึกและคณะพระสงฆ์เข้าพัก

แจ้งประชาสัมพันธ์กำหนดการวันพรุ่งนี้
วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๑
เวลา ๐๘.๔๕ น. พิธีบวงสรวง
เวลา ๑๐.๐๐ น. คณะพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
เวลา ๑๑.๐๐ น. คณะพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพล














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๒
งานพิธีบวงสรวง ณ โรงงานทำร่มไทยโอเชี่ยน(บ้านคุณรัตนา ชินบุตรานนท์)
ช่วงเช้าวันนี้ ในเวลาประมาณ ๐๘.๕๐น. มีพิธีบวงสรวงของโรงงานทำร่มไทยโอเชี่ยน โดยหลวงพ่อท่านพระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร(หลวงพ่อโอ) และท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ ทำพิธีบวงสรวง และหลังจากที่บวงสรวงเสร็จแล้ว ได้มีการแสดงรำ โดยคณะนักเรียน จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ จำนวน ๒ ชุดการแสดง รำชุดแรกคือ รำบายศรีสู่ขวัญ และรำชุดที่สองคือ รำพุทธานุภาพ และเมื่อคณะนักเรียนทำการแสดงการรำเสร็จแล้ว คณะพระสงฆ์เถระโดยมี หลวงพ่อท่านพระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร(หลวงพ่อโอ),หลวงพ่อท่านพระครูภาวนาธรรมนิเทศก์(หลวงพ่ออาจินต์ ธมฺมจิตโต , หลวงพ่อพระปลัดวิรัช โอภาโส , ท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ , และ ท่านพระครูสมุห์ละออง ธมฺมจาโร ได้ให้รางวัลกับคณะนักเรียนที่ทำการแสดงทุกคน หลังจากนั้นคณะพระสงฆ์และญาติโยม ได้ไปยังศาลพระภูมิเจ้าที่ประจำโรงงาน เพื่อทำพิธีบวงสรวงอีก๑แห่ง เมื่อพร้อมแล้ว จึงเริ่มพิธีบวงสรวงโดยหลวงพ่อท่านพระครูสมุห์พิชิต(หลวงพ่อโอ)ทำพิธีบวงสรวงหลังจากบวงสรวงศาลพระภูมิเจ้าที่เสร็จแล้ว หลวงพ่อโอเมตตาประพรมน้ำมนต์ให้กับผู้บริหารและพนักงานโรงงานที่มาร่วมในพิธี หลังจากพิธีบวงสรวงเสร็จแล้ว คณะพระสงฆ์พร้อมด้วยญาติโยม ได้เดินต่อไปยังที่ห้องโถงชั้น๔ของโรงงาน และในเวลาประมาณ๑๐.๑๕น. พระสงฆ์เริ่มเจริญพุทธมนต์ โดยหลวงพ่อท่านพระครูภาวนาธรรมนิเทศก์(หลวงพ่ออาจินต์ ธมฺมจิตโต)ได้กล่าวนำให้ญาติโยมสมาทานรับศีล๕ก่อน และหลังจากที่คณะพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เสร็จแล้ว คณะผู้บริหารพร้อมด้วยคณะพนักงานโรงงาน ได้ร่วมกันถวายเครื่องไทยธรรมกับพระสงฆ์ และญาติโยมทุกคนร่วมกันอุทิศส่วนกุศล หลังจากนั้นพระสงฆ์ให้พร เป็นอันเสร็จพิธี
เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น.คณะพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพล หลังจากเสร็จพิธีการทั้งหมดแล้ว ในเวลาประมาณ ๑๓.๐๕น.ท่านพระครูปลัดสมนึก และคณะพระสงฆ์เดินทางกลับวัดจันทาราม(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๒ เวลา ๒๑.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง นำคณะพระสงฆ์ ปูพรม เมรุชั่วคราว ซึ่งทางร้านได้นำส่งเมื่อเวลา ๒๐.๔๐ น.
ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๖๖๒ เตรียมงานสถานที่ กางเต๊นท์ และปูพรม เมรุพระราชทานเพลิงชั่วคราว
ท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสฺทโธเจ้าอาวาส และพระสงฆ์วัดท่าซุงช่วยกันปูพื้นด้วยพรมแดงซึ่งเพิ่งส่งมาถึง บริเวณบนเมรุพระราชทานเพลิงชั่วคราว ตลอดจนถึงบันไดทางขึ้นลง














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ช่วงท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง พร้อมด้วยพระสงฆ์ ๓ รูป เดินทางมา สอนกรรมฐาน และรับสังฆทาน ณ บ้านสายลม กทม

โดยวันเสาร์อาทิตย์นี้ ท่านพระครูภาวนาธรรมนิเทศก์ (พระอาจารย์อาจินต์) จะนำฝึกทบทวนท่องเที่ยว และ ญาณ ๘ บนห้องกรรมฐานชั้นสอง (หลังเดียวกันกับพระรับสังฆทาน)














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ช่วงเช้าวันนี้พระสงฆ์วัดท่าซุง พระอาคันตุกะ คณะญาติโยม และนักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา ช่วยกันจัดเตรียมงานสถานที่ มีปูพรม ขนโต๊ะ จับจีบผ้า ล้างห้องน้ำในป่า














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันเสาร์ที่ ๒ และอาทิตย์ที่ ๓ ก.พ.๖๒ สอนกรรมฐานที่บ้านซอยสายลม
ช่วงเช้า ท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาส ลงรับสังฆทานจากญาติ
โยมที่มาทำบุญกันในวันนี้ จนถึงเวลาพักฉันเพล ต่อมาเวลา๑๒.๓๐น. เริ่มฝึกกรรมฐานมโมยิทธิวันเสาร์มีผู้รับการฝึก ๘๘ คน ไปนิพพานได้ ๗๓คน ไม่ได้ ๑๕คน ฝึกสรุปท่องเที่ยวโดยท่านพระครูภาวนาธรรมนิเทศก์ ๑๓๘คน
ส่วนในวันอาทิตย์มีผู้รับการฝึก ๖๙คน ไปนิพพานได้ ๖๒คน ไม่ได้ ๗ คน ฝึกสรุปท่องเที่ยวโดยท่านพระครูภาวนาธรรมนิเทศก์ ๑๓๐ คน
จากนั้นญาติโยมเข้าทำบุญกันจนถึงเวลา
๑๕.๓๐น ท่านพระครูปลัดฯจึงขึ้นพัก
ช่วงค่ำเวลา ๑๙.๐๐น. ท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ ลงรับสังฆทานจนได้เวลาเปิดคำสอนกรรมฐานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จบแล้วทั้งหมดเจริญสมาธิประมาณ๒๐นาที เสร็จแล้วดร.ปริญญานำอุทิศส่วนกุศล และกล่าวคำถวายสังฆทานพร้อมกัน ต่อมาญาติโยมทั้งหลายเข้าถวายสังฆทานกันต่อจนถึงเวลา๒๑.๐๐น. เริ่มเริ่มสวดบทอิติปิโสทำนองสรภัญญะ ต่อด้วยคาถาเงินล้าน จบแล้วพระสงฆ์ให้พร ท่านพระครูปลัดฯจึงขึ้นพักผ่อน














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

ล้างพื้น เตรียมงาน
ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วงโยทวาทิต นักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา ซ้อมเดิน บริเวณ หน้าเมรุชั่วคราว ลาน ๒๕ไร่
ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เตรียมสถานที่ งานพระราชทานเพลิง หลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล
ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา ๐๘.๐๐ น. พระสงฆ์วัดท่าซุง พระอาคันตุกะ ทำการติดตั้งพรมบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน ช่วงเช้านี้ท้องฟ้าคลึ้ม มีอากาศเย็นสบาย แต่พอสายๆหน่อย แสงพระอาทิตย์ทำหน้าที่ให้อากาศร้อนอบอ้าว
ภายในเต้นท์ต้อนรับติดตั้งผ้าใบใสเพื่อกันความเย็นออก และปูพรมแดงนำเก้าอี้และโต๊ะเคียง มาวางที่เต้นฑ์ประธานสงฆ์ โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก พระเทพปัญญาภรณ์ วัดตากฟ้า
ในส่วนเมรุวันนี้ช่างติดตั้งผ้าม่าน ติดสลิงกันลมตีผ้าม่าน ติดตั้งท่อสเปรย์น้ำรอบเตา ทำช่องใส่ดอกไม้จันทร์ ช่างไฟติดตั้งไฟหลีบบนฝ้า
ในส่วนงานจอLED ช่างติดตั้งนั่งร้านแบบลิ่มล็อก ซึ่งเป็นระบบที่แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี โดยติดตั้ง ๓ จุด และติดตั้ง นั่งร้านรับลำโพง ไลอเลย์ ๒ จุด
ในช่วงเย็น นักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา มาซ้อมวงโย ในส่วนของการจัดประดับผ้า ทางเดินต้อนรับพระเถระ ได้ทำการตกแต่งสวนทางเข้าให้ร่มรื่น บางส่วนได้ทดสอบแสงสว่างว่าพอต่อความต้องการสว่างพอหรือไม่ ในช่วงนี้พระได้ขนน้ำดื่มวางตามจุดต่างๆของงาน และ เมื่อถึงเวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น.จึงแยกย้ายกลับที่พัก














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร