ข่าวสาร เรื่องเล่า ประสบการณ์ และวัตถุมงคล หลวงพ่อตัด พระอาจารย์ทิน วัดชายนา

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย น้ำหนาว, 1 ตุลาคม 2014.

  1. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาใหม่
    เพื่อเผยแพร่ บารมี วัตรปฏิบัติ และปฏิปทาของหลวงพ่อตัด ปวโร
    และพระอาจารย์ทิน วัดชายนา จังหวัดเพชรบุรี
    รวมไปถึงประสบการณ์จากวัตถุมงคล ข่าวสารเกี่ยวกับวัดชายนา
    ตั้งแต่ในอดีตจนถึงยุคปัจจุบัน
    ยินดีต้อนรับทุกท่าน และเชิญเข้ามาร่วมสนทนากันครับ
    ขอเริ่มจากประวัติของหลวงพ่อตัด ปวโร จากหนังสือพระเกจิครับ

    [​IMG]


    สุดยอดคงกระพัน มหายันต์ มหาอุด

    ทั้งปลัดทั้งตะกรุด ขลังสุดๆ วัดชายนา

    สุดยอดเกจิอาจารย์แห่งวัดชายนา จังหวัดเพชรบุรี



    " พระพุทธวิริยากร " หรือ หลวงพ่อตัด ชื่อที่ลูกศิษย์ลูกหาและผู้คนทั่วประเทศ ต่างขนานนามให้ท่าน เป็นสุดยอดเกจิอาจารย์แห่งยุค โดยเฉพาะสุดยอดเครื่องราง อย่างปลัดและตะกรุดของสำนักวัดชายนา ประสบการณ์เป็นที่ยอมรับ จนชื่อเสียงของหลวงพ่อตัดขจรกระจายไปทั่วประเทศ ยอดเยี่ยมไม่แพ้สำนักใด แม้ว่าปัจจุบันท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ชื่อเสียง เกียรติคุณ และประสบการณ์ในวัตถุมงคลที่หลวงพ่อได้ปลุกเสกไว้ ยังจารึกอยู่ในใจ ลูกศิษย์ลูกหา และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ

    หลวงพ่อตัด ปวโร อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดชายนา จังหวัดเพชรบุรี นามเดิมของท่านชื่อ นายตัด นามสกุล คำใส เกิดเมื่อวันที่ ๒๘ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ที่ หมู่บ้านกระจิว หมู่ ๖ ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี บิดาของท่านชื่อ นายตอย คำใส มารดาท่านชื่อ นางเย็น คำใส หลวงพ่อตัดเป็นลูกคนโต มีพี่น้องร่วมบิดาแต่ต่างมารดาทั้งหมด ๕ คน

    ชีวิตในวัยเยาว์ของหลวงพ่อตัด ท่านมีอุปนิสัยที่ขยันขันแข็ง และมีความเพียรตั้งแต่เด็กๆ ท่านได้ศึกษาที่โรงเรียนวัดเขากระจิว จนจบประถมศึกษาปีที่ ๔ หลังจบการศึกษาท่านก็ช่วยงานบิดา มารดา อยู่ที่บ้านเกิดนี้เอง จนกระทั่งอายุได้ ๒๐ ปี ท่านก็มีความประสงค์จะอุปสมบท ณ วัดเขากระจิว เพื่อสืบทอดพุทธศาสนาตามทำเนียมปฏิบัติ และอุทิศบุญกุศลให้ยายและมารดาของท่าน เมื่อเดือน พฤษภาคม ปี พ.ศ.๒๔๙๔ โดยมี

    พระครูมหาสมณวงศ์ ( เล็ก ) วัดเขาวัง เป็นพระอุปัชฌาย์

    พระสมุห์ ล้อม วัดเขาวัง เป็นกรรมวาจาจารย์

    พระอธิการ ทอง วัดเขากระจิว เป็นอนุสาวนาจารย์

    พระภิกษุตัด ได้รับฉายาทางพุทธศาสนาว่า " ปวโร " แปลว่า ผู้ประเสริฐ เมื่อบวชแล้ว ท่านได้จำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อทองที่วัดเขากระจิว หลวงพ่อตัดท่านเป็นพระที่ใฝ่ในการศึกษาหาความรู้ ตั้งใจเรียนทั้งปริยัติ และปฏิบัติ มีความขยันขันแข็ง ช่วยเหลืองานในวัดทุกอย่างด้วยความอุตสาหะ ทั้งงานทุบหินสร้างโบสถ์ใหม่ ทำถนนทางเดิน และทำงานทุกอย่างสุดแต่หลวงพ่อทองท่านจะมอบหมายให้ หลวงพ่อตัดท่านมีความอุตสาหะพากเพียร เรียนจนสอบนักธรรมเอกได้ ในปี ๒๕๐๓ หลวงพ่อตัดท่านเป็นพระที่มีตบะมาก ตั้งแต่ยังหนุ่ม ญาติของผู้เขียนเองในสมัยยังเด็กนั้น ตอนที่หลวงพ่อยังอยู่ที่วัดเขากระจิว ได้เห็นหลวงพ่อตัดถือไม้กระบองมาคุมงานสร้างถนนเข้าวัดเขากระจิว เพียงแค่เห็นหลวงพ่อ ก็รู้สึกเกรงกลัวท่านมาก ต่อมาได้มีชาวบ้านจากหมู่บ้านในดง มาหาหลวงพ่อทองเพื่อมานิมนต์พระไปสร้างวัด หลวงพ่อทอง ก็เรียกประชุมพระลูกวัดรวมทั้งหลวงพ่อตัดด้วย เพื่อถามความสมัครใจ แต่ก็ไม่มีผู้ใดออกไปอยู่ เพราะเป็นถิ่นกันดาร ห่างไกลความเจริญสู้วัดเขากระจิวไม่ได้เพราะใกล้ อ.ท่ายาง เมื่อเป็นเช่นนั้น หลวงพ่อตัด ท่านก็เลยรับนิมนต์เอง เพื่อไปสร้างวัดและอยู่จำพรรษา ณ ที่ว่าง ซึ่งเดิมทีเป็นป่าช้าเก่าของหมู่บ้านในดง ได้รับการ บุกเบิก โดยหลวงพ่อตัด ปวโร พร้อมด้วยชาวบ้าน ต.บ้านในดง และญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๕ พื้นที่แปลงนี้อยู่ในความดูแลของอดีตกำนัน คำ ทองทา ถวายไว้เพื่อให้สร้างวัด เนื่องด้วยหมู่บ้านในดงยังเป็นที่ห่างไกลความเจริญ ยังไม่มีไฟฟ้าและประปาใช้ ถนนหนทางก็ไม่ดี เดินทางไปไหนก็ลำบาก ตั้งแต่ท่านสร้างวัดและจำพรรษาอยู่นั้น แม้จะมีปัญหาและอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยความเพียรอย่างอุตสาหะ และปฏิปทาอันดีงามของท่าน วัดชายนาจึงเจริญรุ่งเรือง สวยงาม เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ สืบทอดพุทธศาสนาอย่างมั่นคงเข้มแข็ง อย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ก็เพราะบารมีของหลวงพ่อตัดโดยแท้
     
  2. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    วัตรปฏิบัติ และปฏิปทาของหลวงพ่อตัด


    หลวงพ่อตัดนั้นท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และมีเมตตาสูง
    ไม่ยึดติดกับลาภสักการะ ความเมตตาของหลวงพ่อตัดนั้นไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
    เด็กหรือผู้ใหญ่ คนรวยคนจน ท่านเมตตาเสมอภาคกันหมด
    สังเกตได้ตอนท่านมีชีวิตอยู่ เมื่อมีญาติ โยมนำของกินของใช้มาถวายท่าน
    ท่านก็จะเดินแจกเณรและศิษย์วัดโดยเสมอภาคกัน
    กับการไม่ยึดติดและสะสมนั้น หากท่านใดเคยเข้าไปในกุฎิของหลวงพ่อ
    ท่านก็จะเห็นที่นอนจำวัดของหลวงพ่อว่า
    มีแค่เพียงจีวรหมอน และพื้นที่แค่เพียงซุกตัวนอนได้ท่ามกลางกระป๋อง และลังที่ใส่วัตถุมงคลที่พร้อมปลุกเสกเมื่อยามท่านตื่นจากจำวัดในยามดึกสงัด
    (หลวงพ่อชอบปลุกเสกตอนดึกๆ เงียบสงบ) กับการปฏิบัติอย่างสมถะเรียบง่ายของท่าน จึงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พระภิกษุสามเณรภายใต้การปกครองของท่าน
    ว่าเมื่อมาบวชแล้วควรปฏิบัติตนให้สมกับสมณะเพศ ในกุฏิของท่านนั้นไม่มีเครื่อง อำนวยความสะดวกความสบาย เช่น แอร์ ทีวี เครื่องเสียง ส่วนตู้เย็นนั้นมามีเมื่อปี ๒๕๕๑ ที่มีได้ก็เพราะมีผู้มีจิตศรัทธานำมาถวาย สำหรับแช่เครื่องดื่ม เพื่อรับญาติโยมที่มากราบหลวงพ่อและและทำบุญภายในวัด
    และสิ่งยืนยันอีกอย่าง คือ เมื่อครั้งเปิดห้องหลวงพ่อหลังจากงานศพท่านลุล่วงแล้ว เพื่อสำรวจทรัพย์สินของมีค่าของท่าน ปรากฏว่าภายในกุฎิของท่าน นอกจากวัตถุมงคลของทางวัดแล้ว ก็มีเพียงสมุดบัญชีธนาคารที่มีเงินฝากสะสม เพียง ๔๐,๐๐๐ บาท เท่านั้นที่เป็นของท่าน ซึ่งก็เป็นเงินเดือนประจำตำแหน่งเจ้าอาวาสของท่าน เท่านั้นเอง

    ดังที่กล่าวมาแล้วว่า หลวงพ่อตัดนั้น ท่านเป็นผู้มีเมตตาสูง และไม่ยึดติดกับลาภสักการะ ปัจจัยที่ได้มาจากการทำบุญ กฐิน ผ้าป่า วัตถุมงคล หรือจากญาติโยมและ ผู้มีจิตศรัทธา ท่านจะนำไปสร้างถาวรวัตถุเสนาสนะภายในวัด เช่น สร้างโบสถ์ สร้างกุฎิสงฆ์ สร้างหอฉัน สร้างศาลาเอนกประสงค์ สร้างเมรุ สร้างโรงอาหาร และอื่นๆอีกมากมาย ภายในวัด ไม่เพียงแต่ในวัดชายนาของท่านเท่านั้น ท่านยังบริจาคทรัพย์เพื่อสังคมและชุมชน อันมีโรงเรียน หมู่บ้าน วัดทั่วไป หรือแม้กระทั่งหน่วยงานของราชการ สถานพยาบาล ถ้ามีผู้มาร้องขอท่าน ถ้าท่านมีท่านไม่เคยขัดให้ได้ตามความเหมาะสม ดังเช่น บูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถ วัดเขากระจิว บริจาคปัจจัยสร้างโบสถ์และกุฎิสงฆ์ วัดหนองหงส์พัฒนา อ.ชะ อำ ร่วมสร้างก่อตั้งมูลนิธิคณะสงฆ์ธรรมยุติเพชรบุรี ณ วัดสนามพราหมณ์ และยังมีอีกหลายวัดที่ท่านร่วมสร้างบริจาคปัจจัยเพื่อการ นั้นๆ จนสำเร็จลุล่วงด้วยดี ผู้เขียนเคยได้ยินหลวงพ่อท่านพูดว่า
    " เงินทำให้คนต้องเสียคนพระเสียพระ เมื่อมีเงินจึงต้องใช้ให้หมด ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ "

    ด้วยคุณงานความดีที่หลวงพ่อเพียรทำมาตลอดชีวิตของท่าน และวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัดในพระธรรมวินัย อีกทั้งผลงานด้านพัฒนาและการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา อันมีคุณต่อสาธารณประโยชน์ต่อส่วนรวมมากมายที่ท่านได้มอบไว้ให้ ด้วยความดีดัง กล่าวจึงทำให้ท่านเจริญด้วยสมณศักดิ์ ดังนี้ - พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดชายนา อย่างเป็นทางการโดย เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุติ - ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูบวรกิจโกศล - พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้รับการแต่งตั้งเป็น พระอุปัชฌาย์ โดยเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุติ - เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์พัดยศในพระราชทินนามเดิม - และวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์พัดยศเทียบเท่าเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอาราม หลวงชั้นพิเศษ - วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ในพระราชินนามว่า “พระพุทธวิริยากร” อันเป็นสมณศักดิ์ครั้งสุดท้าย ของท่าน...
     
  3. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    การศึกษาพุทธาคม



    หลวงพ่อตัด ท่านสนใจใคร่รู้ในเรื่องวิชาอาคม เครื่องราง ของขลังต่างๆ เมื่อท่านบวชแล้ว ท่านก็เพียรพยายาม ไปเล่าเรียนวิชาต่างๆ ใครว่าที่ไหนมีวิชาดี อาจารย์ที่ไหนดัง ท่านดั้นด้นไปขอเรียนมาจนหมด ดังรายนามอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาของหลวงพ่อ ตามที่มีการสอบถามและบันทึกไว้ได้มีดังนี้



    - หลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

    หลวงพ่อทองท่านก็สืบทอดวิชามาจากหลวงพ่อกริช เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดเขากระจิว หากกล่าวถึงหลวงพ่อกริชนั้น ท่านก็ได้สืบทอดวิชามาจาก หลวงพ่อกุน วัดพระนอน จ.เพชรบุรี เจ้าของตำนานตะกรุดไมยราพสะกดทัพอันโด่งดังอันดับต้นๆของเมืองไทย นอกจากวิชาทำตะกรุดของวัดเขากระจิว หลวงพ่อตัดท่านยังได้ศึกษาวิปัสสนา กัมมัฏฐานกับหลวงพ่อทอง ซึ่งหลวงพ่อทองท่านมีความสนิมสนมกับท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส ในฐานะเคารพเป็นครูบาอาจารย์ อีกทั้งตำราเก่าๆที่รวบรวมสรรพวิชาต่างๆมากมาย ที่ตกทอดสืบมาจากหลวงพ่อกริช หลวงพ่อก็ได้ศึกษาจนแตกฉานหมดสิ้น



    - หลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิ บางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี

    พระอาจารย์องค์สำคัญอีกองค์หนึ่ง หลวงพ่อท่านมีความศรัทธาหลวงพ่อชุ่มมาก หลังจากที่ได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาท่านเอง เมื่อครั้งที่หลวงพ่อชุ่มท่านได้มาพุทธาภิเษก วัตถุมงคลที่วัดเขากระจิว เมื่อปี ๒๔๙๖ หลวงพ่อตัดจึงตามไปขอเรียนวิชาทำปลัดขิกจากหลวงพ่อชุ่มจนสำเร็จ



    - พระเทพวงศาจารย์หลวงพ่ออินทร์ วัดยาง

    หลวงพ่ออินทร์ ช่วงวัยเด็กท่านศึกษาวิชาอยู่กับหลวงพ่อกุน วัดพระนอน และเคยจำพรรษาเพื่อเล่าเรียนวิชากับหลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม หลวงพ่อตัดท่านได้ไปกราบท่านเจ้าคุณอินทร์เพื่อปรึกษาเรื่องการสร้างวัด และขอเรียนวิชาทำตะกรุดไร้โรคา วิชาโภคทรัพย์และเคล็ดวิชาอีกบางประการ



    - หลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์

    หลวงพ่อเทพท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่คนในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีนับถือมาก โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ท่านเชี่ยวชาญเรื่องการดูฤกษ์ยาม การเจิมรถ วิชาเกี่ยวกับการค้าขายเรียกคนเรียกทรัพย์ หลวงพ่อตัดท่านได้ไปเรียนวิชา นะเมตตา วิชาประสบเนตรและเกร็ดวิชาอื่นๆเกี่ยวกับเมตตามหานิยม



    - หลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร

    ท่านเป็นเกจิยุคเก่าที่เชี่ยวชาญเรื่องการปลุกเสกปลัดขิกมาก เวลาท่านทำปลัดเสร็จ ท่านจะให้ลูกศิษย์ยกไปเทใส่กองไฟ ตัวไหนไม่ไหม้ไฟจึงจะใช้ได้ หลวงพ่อตัดท่านได้ไปเรียนวิชาทำปลัดขิกเพิ่มเติมจากศิษย์หลวงพ่อบุศย์ ที่เป็นฆารวาสที่สืบทอดวิชา รวมทั้งตำราเก่าต่างๆ



    - หลวงพ่อเทียบ วัดมาบปลาเค้า

    ท่านเป็นศิษย์อธิการชัน เกจิยุคเก่าอีกองค์ที่ไม่ธรรมดา สายวิชาหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว หลวงพ่อตัดได้เรียนวิชาตะกรุดทองคำและเคล็ดวิชาอื่นๆ



    ในที่นี้ผู้เขียนขอเล่าถึงหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อทองศุขท่านถือได้ว่าเป็นเกจิอาจารย์ใหญ่แห่งยุคในจังหวัด เพชรบุรี ผู้เขียนได้เรียนถามกับหลวงพ่อตัดท่านโดยตรงว่าท่านได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อ ทองศุขหรือไม่ หลวงพ่อตัดท่านเล่าว่าท่านไม่ได้ศึกษากับหลวงพ่อทองศุขโดยตรง เพียงแต่ได้ไปกราบนมัสการ และสอบถามเคล็ดวิชาบางประการเท่านั้น ซึ่งหลวงพ่อทองศุขก็เมตตาบอกเคล็ดวิชาบางประการให้ พร้อมพูดกับหลวงพ่อตัดด้วยประโยค ซึ่งหลวงพ่อท่านจำได้ดี

    หลวงพ่อทองศุข ท่านพูดว่า " ถ้ามึงทำได้จริงเมื่อไหร่ มึงจะเดือดร้อน " ซึ่งในภายหลังก็ตรงกับกับพูดของหลวงพ่อทองศุขจริงๆ เพราะช่วงหลังในบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อตัด ท่านก็มีลูกศิษย์มากราบนมัสการมากมายตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันดึกดื่น แทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย





    - โยมพุฒ บ้านบางเก่า อ.ชะอำ

    หลวงพ่อได้เรียนวิชามนต์จินดามณี หรือมนต์พระสังข์เรียกเนื้อเรียกปลา และวิชาการทำพระขรรค์ ได้รับ การถ่ายทอดจากโยมพุฒ เป็นอาจารย์ฆราวาส บ้านอยู่เขต อ.ชะอำ วิชามนต์จินดามณีวิชานี้เด่นทางเรียกคน เรียกทรัพย์ วิชานี้เป็นวิชาอาถรรพ์ สืบทอดกันได้แค่คนต่อคนเท่านั้น คือเมื่อเจ้าของเดิมเลือกที่จะถ่ายทอดให้ใครไปแล้ว ก็ต้องเสียชีวิตลงภายในเวลาไม่นานนัก และโยมพุฒ ก็เสียชีวิตลงภายใน ๓ วัน หลังจากมอบให้กับหลวงพ่อตัด



    - อาจารย์พงษ์ บ้านหนองจอก

    เป็นอาจารย์ฆราวาสที่มีชื่อเสียงทางด้านการสักยันต์ บ้านอยู่ที่ ต.หนองจอก วิชานางโลมของอ.พงษ์นี้เป็นสรรพวิชาที่รวมเอาทั้งคงกระพัน มหาอำนาจ แคล้วคลาด และเมตตาอยู่ในหนึ่งเดียว ซึ่งอาจารย์พงษ์ หวงวิชานี้มาก แต่ถ่ายทอดให้กับหลวงพ่อตัดมา อาจารย์พงษ์ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง และลูกศิษย์หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง ก่อนที่อาจารย์พงษ์จะเสีย ท่านได้ให้คนไปตามหลวงพ่อเพื่อจะถ่ายทอดวิชาฝังเข็มทอง แต่หลวงพ่อท่านไม่ขอไปเรียน ตำราฝังเข็มทองในเพชรบุรีจึงขาดการถ่ายทอดไป



    - โยมมอญ

    เรียนวิชานะมหาอ่อนใจ ซึ่งโยมมอญท่านหวงมาก หลวงพ่อตัดใช้ความพยายามเรียนอยู่ถึง ๓ ปี จึงจะสำเร็จ โยมมอญเป็นอาจารย์ฆราวาสและท่านเป็นอาจารย์หญิงท่านเดียว ที่หลวงพ่อตัดไปขอเรียนวิชาด้วย ซึ่งวิชานี้หลวงพ่อตัด ท่านใช้สร้างและปลุกเสกสีผึ้งเมตตาค้าขายของท่าน



    - อาจารย์หวั่น บ้านปราณบุรี

    หลวงพ่อท่านไปเรียนวิชาขุนแผนชมตลาด ทั้งบทย่อและบทเต็ม วิชานี้เด่นทางมหาเสน่ห์กับเพศตรงข้าม มหานิยม เมตตาค้าขาย และหลวงพ่อตัดท่านได้ใช้วิชานี้ มาสร้างและปลุกเสกพระขุนแผนของท่านด้วย



    - หมอพรหม บ้านเขากระจิว

    ท่านเป็นอาจารย์ฆราวาสที่มีเชื้อสายลาวโซ่ง ซึ่งมีวิถีชีวิต วัฒนธรรมเกี่ยวกับภูตผี หลวงพ่อท่านได้เรียนวิชา กันคูณไสย ลมเพลมพัด วิชาขับไล่ผี





    อันวิชาที่ท่านเรียนมานี้ ยังมีอีกมากที่เราไม่ทราบว่าท่านเรียนมา จากที่ใด อาจารย์องค์ไหน และรวมไปถึงการไปขอต่อวิชาเพิ่มเติมกับอาจารย์ท่านอื่นๆ อีกแต่คิดว่ามีแน่ เพราะหลวงพ่อท่านชอบศึกษาเรียนรู้ในทางนี้มาก ตำรับตำราเก่าๆสายเพชรบุรีทั้งหลวงพ่อกุน วัดพระนอน หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวงและอื่นๆท่านก็ศึกษามาหมด แต่ท่านไม่ชอบพูดคุยหรือโอ้อวดให้ใครฟัง ทำให้เรารู้แต่เพียงคร่าวๆ เท่านี้ครับผม
     
  4. ยกกระบัตร

    ยกกระบัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +173
    กราบหลวงพ่อตัดและพระอาจารย์ทิน

    ผมเคยไปกราบพระอาจารย์ทินที่วัดนานแล้ว ท่านใจดีมาก ท่านยังให้พระผงกับผมและแฟนคนละ4องค์
     
  5. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    พระครูสารธรรมนิเทศ หรือพระอาจารย์ทิน เจ้าอาวาสวัดชายนาองค์ปัจจุบัน
    ผู้สืบทอดพุทธาคมจากหลวงพ่อตัดอย่างแท้จริง
    หากใครไปวัด ไปนั่งสนทนากับท่านก็จะเห็นรอยยิ้มของท่านแบบนี้
    ท่านเมตตากับลูกศิษย์ลูกหาทุกคนโดยเท่าเทียมกันจริงๆ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_9782.JPG
      IMG_9782.JPG
      ขนาดไฟล์:
      394.6 KB
      เปิดดู:
      37,262
  6. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ในยุคปัจจุบัน ตัวแทนของความเข้มขลัง ที่เกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ทั้งหลาย เลือกที่จะสร้างเพื่อมอบเครื่องรางไว้แจกลูกศิษย์ลูกหา และญาติโยมเพื่อไว้คุ้มครองป้องกันตัว ก็จะมีปลัดขิกอยู่เป็นตัวเลือกหนึ่งเสมอ
    จากการสังเกตของผู้เขียนนั้น เกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างและเสกปลัดขิกได้อย่างเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ ส่วนใหญ่ท่านจะอยู่ในแถบจังหวัดชายทะเล ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก ทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ผู้เขียนมิได้เอ่ยนาม
    ล้วนแต่เชี่ยวชาญในการสร้างและปลุกเสกปลัดขิกเป็นอย่างยิ่ง
    ส่วนในยุคปัจจุบันที่ผู้เขียนขอกล่าวถึงและเล่าให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ
    เนื่องด้วยได้สัมผัสใกล้ชิดและเห็นด้วยตาตนเองหลายต่อหลายครั้งถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างและปลุกเสกปลัดขิกได้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มิแพ้ใคร
    ซึ่งท่านก็เป็นเกจิอาจารย์เมืองชายทะเลเช่นเดียวกัน
    นามของท่านคือ พระพุทธวิริยากร หรือหลวงพ่อตัด ปวโร วัดชายนา จ.เพชรบุรี
    หลวงพ่อตัด ท่านได้สืบทอดวิชาปลุกเสกปลัดขิกได้ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังมากๆไม่แพ้เกจิอาจารย์ในยุคก่อนๆเลยทีเดียว หลวงพ่อตัดท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่คนเพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียงนับถือท่านมานานหลายสิบปี มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งชาวสวน ชาวไร่ พ่อค้า ตำรวจ ทหาร แม้กระทั่ง มือปืน และเสือร้ายต่างๆ ต่างเคารพบูชาท่านสุดหัวใจ
    เหตุด้วยวัตถุมงคลของท่าน มอบประสบการณ์ที่ประสบพบกับตัวอย่างฉะกาดฉะกัน มาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งในยุคแรกๆที่ท่านสร้างวัตถุมงคลแจกลูกศิษย์ลูกหานั้น ท่านจะแจกปลัดขิกเสียส่วนใหญ่ ด้วยเหตุที่ท่านสามารถสร้างและเสกปลัดขิกได้วิเศษ เข้มขลัง และศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่สมัยท่านยังเป็นพระหนุ่มๆ จึงเป็นเครื่องรางที่ท่านมั่นใจมาก หลวงพ่อตัด ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชา การสร้างและเสกปลัดขิกมาจากหลายสำนัก โดยอาจารย์ท่านแรกของหลวงพ่อตัดคือหลวงพ่อชุ่ม วัด กุฏิบางเค็ม วิชาปลัดหลวงพ่อชุ่มนั้น ท่านจะเน้นธาตุ ๔ ถ้าฝึกสำเร็จจะสามารถบังคับปลัดขิกให้ขยับเขยื้อนได้ตามต้องการ
    ซึ่งหลวงพ่อตัดท่านก็ได้ไปเรียนมาจนแตกฉานเชี่ยวชาญหมดสิ้น นอกจากนี้ยังสืบทอดวิชาเสกปลัดขิกของหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก วิชาปลัดขิกของหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร อดีต สองเกจิอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองเพชรบุรี จึงถือได้ว่าหลวงพ่อตัดท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญสร้างและปลุกเสกปลัดขิกได้อย่างวิเศษยอดเยี่ยม
    ปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้น ท่านทำไว้หลายประเภท หลายชนิด ทั้งปลัดขิกกันคูณไสย ปลัดขิก กันโรคระบาด ปลัดขิกค้าขาย ปลัดขิกบูชา ปลัดขิกของท่านโด่งดังมาก และเป็นสุดยอดเครื่องรางที่ลูกศิษย์ลูกหาต้องมีติดตัวไว้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นปลัดขิกโลหะ งาช้าง กัลปังหา หรือ ปลัดขิกไม้ต่างๆ เช่น ไม้ มะยม ไม้ขนุนไม้ งิ้วดำ ทองระอา ไม้รัก ไม้โมก ไม้พุฒ และอื่นๆ แต่ที่นิยมและเล่นหากันราคาแพงก็ได้แก่ไม้ผูกคอตายแบบต่างๆ ซึ่งหลายคนหลายเสียงพูดเหมือนกันว่า ปลัดมีตัวมีตน อยู่ประจำตัวปลัด นั่นเอง ปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้น ท่านเคยกล่าวไว้ว่าปลัดของท่านไม่ว่าไม้อะไร พกแค่ตัวเดียวก็เหลือกินเหลือใช้แล้ว ยิ่งปลัดตัวไหนที่หลวงพ่อท่านลงอักขระเอง ยิ่งเป็นที่ต้องการเสาะแสวงหาของลูกศิษย์เป็นอย่างมากเพราะมีน้อย

    ปลัดขิกหลวงพ่อตัดที่ประสบการณ์มากมายเลื่องลือนั้นส่วนใหญ่แล้วที่พบเห็นทั่วไปจะเป็นลายมือของพระครูสารธรรมนิเทศ หรือพระอาจารย์ทิน ลูกศิษย์เอกของหลวงพ่อตัดและเป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันของวัดชายนา
    พระครูสารธรรมนิเทศ หรือรู้จักกันในนามของพระอาจารย์ทิน
    ท่านเป็นศิษย์เอกที่ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจากหลวงพ่อตัดโดยตรง
    พระอาจารย์ทินท่านเป็นพระที่สนใจใฝ่รู้ ชอบศึกษา ชอบทดลอง
    ในสมัยที่หลวงพ่อตัดยังอยู่ นอกจากศึกษาวิชาจากหลวงพ่อตัดแล้ว ท่านยังเดินทางไปศึกษาวิชาจากอาจารย์ท่านอื่นเพิ่มเติม ทั้งที่เป็นพระและฆราวาส
    แต่สุดท้ายก็มาเรียนจนแตกฉานหมดสิ้นที่หลวงพ่อตัดนี่เอง
    ท่านได้รับความไว้วางใจให้ช่วยจารอักขระต่างๆ ลงในวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดเกือบทั้งหมด เรียกว่าให้เป็นตัวแทนก็ว่าได้
    จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่า ท่านพระครูสารธรรมนิเทศ พระอาจารย์ทิน วรจิตฺโต ท่านได้สืบทอดวิชาของหลวงพ่อตัด วัดชายนามาอย่างเต็มภาคภูมิครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

    ปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้น มีมากมายหลากหลายยุค และ หลากหลายไม้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    สมเด็จเยี่ยวชะนียุคแรก ประมาณปี 2505
    เรื่องนี้ผู้เขียนได้ไปสอบถาม
    และถ่ายทอดมาจากคำบอกเล่าของคุณปู่ท่านนึงที่บวชในยุคนั้น
    และได้จำพรรษาที่วัดชายนาในปีนั้น
    ปัจจุบันท่านก็อายุแปดสิบเศษแล้ว
    พระชุดนี้จัดสร้างยุคแรกราวๆปี 2505
    มีด้วยกัน 3 พิมพ์ คือ
    พิมพ์พระรอด
    พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น
    และพิมพ์คะแนน
    โดยที่สมเด็จพิมพ์คะแนน จะสร้างน้อยที่สุด ประมาณหลักร้อยองค์(ไว้คั่นระหว่างนับพระพิมพ์อื่นๆเมื่อครบสิบองค์ หรือ ร้อยองค์)
    รองลงมาเป็นพิมพ์พระรอดประมาณ 500 องค์
    พิมพ์สมเด็จประมาณ 10 บาตรพระ อนุมาณว่าได้สัก 1500 องค์
    พระพิมพ์สมเด็จจะมี 2 โทนเนื้อ
    คือเนื้อออกขาว ผสมว่านดอกทอง
    และเนื้อแดง ผสมกระเบื้องหลังคาโบสถ์
    บางองค์จะมีรอยจารด้วยดินสอ ซึ่งหลวงพ่อตัดท่านเป็นผู้จารเองทั้งหมด
    สร้างครั้งเดียวในพรรษา
    ปลุกเสกอยู่หลายพรรษาด้วยกันกว่าจะนำมาออกแจกจ่ายให้ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในช่วงนั้น ปู่ท่านนั้นบอกว่าหลวงพ่อนำมาแจกเมื่อตอนช่วงปี 2507 โดยประมาณ
    ถือว่าเป็นสมเด็จเยี่ยวชะนีรุ่นแรกที่หลวงพ่อท่านทำเอง จารเอง เสกเอง
    พุทธคุณท่านว่า สีแดงจะเด่นไปทางแคล้วคลาดคงกระพัน
    ส่วนสีขาวนั้น จะดีทางเมตตามหานิยม เพราะมีส่วนผสมเป็นว่านดอกทอง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  8. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    กราบหลวงพ่อตัด พระอาจารย์ทิน
    ยินดีกับกระทู้ใหม่ ติดตามอ่านครับ...
     
  9. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ขอบพระคุณครับ
    จะพยายามเขียนเนื้อหา สาระต่างๆมาให้อ่านทุกวันครับผม
     
  10. iamchatchai

    iamchatchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +106
    รอติดตามอ่านครับ....:cool::cool:
     
  11. Surfers

    Surfers เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    10,498
    ค่าพลัง:
    +26,963
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อตัด พระอาจารย์ทินครับ

    ยินดีกับอาจารย์ไผ่สำหรับกระทู้เพื่อเผยแพร่บารมีครูบาอาจารย์
    แหล่งรวมความรู้แลกเปลี่ยนความรู้สำหรับลูกศิษย์สายวัดชายนาทุกท่านด้วยครับ
     
  12. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,373
    ค่าพลัง:
    +3,130
    กราบ หลวงพ่อตัดและพระอาจารย์ทิน ครับผม และสวัสดีคุณน้ำหนาวและศิษย์วัดชายนาทุกท่านครับผม ติดตามอ่านบทความดีๆต่อครับผม
     
  13. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา
    สร้างขึ้นปี พ.ศ.2518
    เป็นเนื้อทองแดงรมดำทั้งหมด จำนวนทั้งหมด 1,500 เหรียญ
    จัดว่าเป็นรุ่นที่ศิษย์สายวัดชายนาหลายๆคนใฝ่ฝันอยากจะได้มาครอบครอง
    เพราะประสบการณ์มีมากมาย และบรรดาเซียนเล็กเซียนใหญ่ก็ตามเก็บเข้ารัง
    ทำให้พระที่สวยๆออกมาในสนาม น้อยมากๆ

    อักขระยันต์ที่ลงไว้บนหลังเหรียญรุ่นแรกนั้น อาจจะเรียกได้ว่า
    เป็นยันต์ประจำตัวของหลวงพ่อตัดเลยก็ว่าได้
    ด้านหลังเหรียญคือคาถา "อุ สะ หะ สะ ปะ สะ อุ"
    ดีทุกทาง เป็นคาถาที่หายสาบสูญไปนานมากๆแล้ว
    และคาถาหลักที่หลวงพ่อใช้เสกพระของท่านมากมายหลายรุ่น
    ก็คือคาถาที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าเหรียญรุ่นแรก คือ "พุทธะสังธัมมังโลเก"
    ตีความหมายว่า "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์คุ้มครองโลก"
    หลวงพ่อตัดท่านออกเหรียญรุ่นแรกเมื่อท่านยังหนุ่มๆ
    แสดงว่าท่านต้องมั่นใจมากๆว่าวิชาของท่านช่วยลูกศิษย์ลูกหาได้จริงๆ
    ได้ไปสอบถามข้อมูลจากศิษย์เก่าหลายๆท่าน
    และคนท้องที่เรื่องพุทธคุณของเหรียญรุ่นแรก ที่เข้าไปอยู่กับหลวงพ่อตัดสมัยยุคแรกๆ
    ได้ความว่า หลวงพ่อตัดท่านเสกไว้ให้ครบทุกด้านเลยจริงๆ
    สมัยปี 18 นั้น หลวงพ่อตัดท่านยังหนุ่มๆ
    มีกำลังวังชาดี หยิบเหรียญมาจารและเสกทีละเหรียญ
    และมีพระที่บวชขณะนั้นอีก1องค์ช่วยจาร โดยที่หลวงพ่อท่านได้สอนวิธีภาวนาก่อนที่จะจารลงไปบนเหรียญนั้นๆ
    เสร็จก็นำไปใส่ในบาตร ได้ประมาณหนึ่ง
    ท่านก็จะปลุกเสกรวมโดยใช้มือของท่านคนๆๆเหรียญที่อยู่ในบาตร และบริกรรมคาถาไปด้วย
    ทำอย่างนี้ไปทุกวัน ทุกวัน พอท่านจารจนครบหมดทุกเหรียญแล้ว
    ท่านก็นำไปเสกรวมปิดท้าย ก่อนที่จะนำไปให้ชาวบ้าน ลูกศิษย์ลูกหาบูชากัน

    จะเห็นได้ว่า เหรียญรุ่นแรกทุกเหรียญ ที่บริเวณจมูก หน้าผากของหลวงพ่อด้านหน้า
    จะมีรอยสึกแทบทุกเหรียญ
    เนื่องด้วยการปลุกเสกด้วยวิธีดังที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น
    และสำหรับเหรียญรุ่นแรก ที่จมูกไม่สึกนั้น
    จะมีน้อยมากๆจึงทำให้กลายเป็นที่ต้องการนั่นเอง

    และเนื่องด้วยเหรียญที่สร้างจำนวนน้อย และเป็นที่ตามหาในตลาด
    จึงทำให้ในปัจจุบัน ของเลียนแบบทำออกมาเยอะ
    จนฝีมือพัฒนาขึ้นมาใกล้เคียงทุกวันๆ
    เพราะฉะนั้น หากต้องการหาเช่าบูชา
    ต้องระมัดระวังให้ดี มิเช่นนั้นอาจจะถึงขั้นลมจับได้เลยทีเดียว

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • RIMG0489 (1).JPG
      RIMG0489 (1).JPG
      ขนาดไฟล์:
      348.6 KB
      เปิดดู:
      34,193
    • RIMG0491.JPG
      RIMG0491.JPG
      ขนาดไฟล์:
      341.6 KB
      เปิดดู:
      33,734
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 ตุลาคม 2014
  14. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    สวัสดีครับพี่ๆสมาชิกทุกท่าน
    วันนี้ขอพาย้อนกลับไปเมื่อสมัยงานผูกพัทธสีมาของวัดชายนา
    เมื่อปีพ.ศ. 2525
    ในปีนั้นจะมีวัตถุมงคลแจกมากมายหลายอย่าง

    กล่องเดิมๆจะเป็นเช่นในรูป
    ที่เห็นในรูปก็จะมี
    -พระผงสมเด็จรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงพ่อตัด หรือ สมเด็จนั่งโต๊ะ(ขาโต๊ะ)
    -หวายลูกนิมิต
    -เหรียญรุ่นสอง
    -นางกวัก
    -สมเด็จคะแนน
    และปลัดขิก
    จริงๆแล้วจะมีการแจกสีผึ้งอีกหนึ่งอย่าง
    วันหลังจะนำมาให้ชมกันครับ และบางส่วนก็จะได้ผ้ายันต์แดงรุ่นแรกอีกด้วย

    กล่าวถึงวัตถุมงคลที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมของปี 2525
    เริ่มจากพระผงรูปเหมือนรุ่นแรก หรือสมเด็จขาโต๊ะ
    เริ่มสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2518 สร้างมาเรื่อยๆ
    จนครบ 100,000 องค์ และเริ่มแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ลูกหาเมื่อปี 2525
    เป็นรุ่นที่หลวงพ่อตัดท่านชื่นชอบและภูมิใจมากๆ
    เพราะหลวงพ่อท่านตั้งใจสร้างเต็มที่
    มวลสารของพระรุ่นนี้มีว่านต่างๆ มากมายที่หลวงพ่อตัดและพระลูกวัดสมัยนั้นช่วยกันหามา แต่ที่บิ่นหักแตกชำรุดไปก็มีจำนวนพอสมควร
    และรวมทั้งได้เก็บบางส่วนลงกรุไว้
    บางส่วนนำมาเป็นมวลสาร ผสมพระในรุ่นหลังๆด้วย
    ทำให้พระรุ่นนี้ออกมาในตลาดไม่ถึง 100,000 องค์
    ปัจจุบันจะหาเก็บองค์สวยๆก็ไม่ง่ายแล้วเพราะลูกศิษย์ลูกหาตามเก็บกันจนหมด

    พระพิมพ์นี้มีสรรพคุณของว่านในการดูดพิษ
    หากถูกแมงป่องหรือตะขาบกัดให้อาราธนาพระฝนๆและนำไปผสมกับน้ำมะนาว
    ใช้ระงับพิษ หายปวดจากบาดแผล
    หลวงพ่อตัดท่านเคยพูดไว้ว่า "รุ่นนี้ดีทุกทาง พวกมึงเก็บให้ดี ต่อไปจะหาไม่ได้"
    ถ้าเน้นพุทธคุณ รุ่นนี้ไม่ควรจะมองข้ามเลยทีเดียว

    -เหรียญรุ่นสอง หลวงพ่อตัด
    สร้างเนื้อเดียวคือทองแดงรมดำ ทั้งหมดจำนวน 10,000 เหรียญ
    จะมีบางส่วนที่รอยที่ปากและจมูก เนื่องจากบล็อคแตก
    สวยๆจะหายากแล้ว
    เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดคงกระพันมากๆ
    มีคนโดนยิงไม่เข้า บ้างก็โดนรุมตีด้วยไม้ ไม่ปรากฏว่ามีเลือดออกมาแล้ว
    ถือว่าเป็นรุ่นที่ราคายังไม่แพง น่าเก็บน่าใช้อีกหนึ่งรุ่น เหมาะให้ลูกๆหลานๆห้อยเพราะขนาดเล็กกระทัดรัด

    -ปลัดขิกไม้มะยมตายพรายปี 2525
    ปลักขิกรุ่นนี้มีศิลป์เป็นเอกลักษณ์
    ด้วยรูปร่างบริเวณหัวจะลักษณะคล้ายเห็ด
    และมีขนาดเล็ก ยาวแค่ 1-2 นิ้วเท่านั้นเอง
    สามารถพบเจอบางส่วนที่หลวงพ่อจารไว้ด้วย

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ปฐมบท ตะกรุด 3 แบบ 3 ยุคของวัดชายนา
    ที่ใส่หลอดไว้ 3ดอกแรก เป็นตะกรุดมหาอุด 3 ดอก
    ตำรับลพ.กริช วัดเขากระจิว
    ซึ่งหลวงพ่อตัดท่านได้สร้าง และปลุกเสกไว้หลายวาระ
    ที่นำมาลงให้ชมกันนั้น สร้างปี 2548 เพียง 13 ชุดเท่านั้น
    วิชาสร้างตะกรุดชุดนี้เป็นวิชาเฉพาะของสายวัดเขากระจิว
    และตกทอดมาที่หลวงพ่อตัด มีอานุภาพโดดเด่นด้านมหาอุด
    ป้องกันภัย กันฟ้ากันไฟ เป็นที่เชื่อถือมานาน
    ตะกรุดมหาอุดชุดนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ดอก สามารถแยกใช้กันได้ แต่อานุภาพก็จะลดลงไป
    ตะกรุดแต่ละดอกจะมีอานุภาพต่างกัน
    ดอกที่ 1 ลั่นไกมิออก
    ดอกที่ 2 ลูกมิออกจากลำกล้อง
    ดอกที่ 3 ลำกล้องแตก
    สำหรับยันต์ที่ลงในตะกรุดแต่ละดอกนั้นไม่ซ้ำกัน
    และไม่ซ้ำกับยันต์ของสำนักใดในประเทศ
    วิธีการลงอักขระสร้างตะกรุดมหาอุด 3 ดอก
    อักขระบางตัวมีการกำหนดเคล็ดวิชาเฉพาะเอาไว้
    เพื่อเพิ่มพุทธคุณให้ครบทุกๆด้าน คือนอกจากจะโดดเด่นด้านมหาอุดแล้ว
    ก็ยังมีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และเมตตามหานิยมครบเครื่อง
    นอกจากนั้นการสร้างตะกรุดชุดนี้ต้องดูฤกษ์ยามให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้
    ดังนั้นในบางปีจะมีฤกษ์ให้ประกอบพิธีเพียงวันเดียวเท่านั้น
    ด้วยเหตุนี้ตะกรุดชุดนี้จึงมีจำนวนไม่มากนัก
    และสำหรับผู้ที่จะลงตะกรุดชุดนี้ได้ ผู้ลงต้องรู้กลเม็ดเคล็ดวิชาด้วย
    จึงจะลงได้อย่างสมบูรณ์ มิใช่ว่ารู้เพียงอักขระแล้วลอกตามแบบเท่านั้น
    ด้วยเหตุที่ตะกรุดมหาอุด 3 ดอกชุดนี้มีอานุภาพมากมาย แต่สร้างยาก
    หลวงพ่อตัดท่านจึงย่อยันต์ในตะกรุดทั้ง 3 ดอกลงมา
    แล้วนำไปจัดสร้างเป็นตะกรุดมาตรฐานชุดแรกของวัดชายนาคือ
    "ตะกรุดเตา"
    ตะกรุดในดวงใจของใครหลายๆคน

    "ตะกรุดเตา"
    นับได้ว่าเป็นตะกรุดรุ่นแรกของวัดชายนาที่เป็นมาตรฐาน
    ทำออกมาราวๆ 1800 ดอก เท่าที่ไปสอบถามข้อมูลมา
    ผู้จารตะกรุดรุ่นนี้ มีอยู่4ท่าน คือ หลวงพ่อตัด พระอาจารย์ทิน และพระลูกวัดที่บวชขณะนั้นอีก 2 คน โดยที่หลวงพ่อท่านหยิบไปจารไว้ประมาณ 30 แผ่นเท่านั้น
    ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ใครจะเป็นคนจาร ก็ไม่สำคัญเท่าจิตของผู้เสก

    ตะกรุดชุดนี้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวคือ
    เป็นตะกั่วหนา มีขนาดสั้น กระทัดรัด และไม่มีการตอกโค๊ดใดๆทั้งสิ้น
    แผ่นตะกั่วที่นำมาจารจะมีความหนาและแข็งกว่าแผ่นตะกั่วในยุคปัจจุบัน
    และเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งคือ การม้วนของตะกรุด จะม้วนไว้ 4 ชั้น
    ปลายชนปลาย ครบรอบพอดี

    สำหรับความเป็นมาของตะกรุดเตาหลายๆท่านคงทราบกันดี
    ตะกรุดเตานั้นถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2534
    โดยทางวัดชายนาต้องการจะทำลานเตาเผาศพ
    หลวงพ่อตัดท่านก็ได้ดำริให้ทำตะกรุดเพื่อแจกญาติโยมที่ช่วยกันออกกำลังทรัพย์
    หรือออกกำลังแรงกายในการสร้างลานเตาเผาศพ

    และไปยังยุคสุดท้าย คือตะกรุดมหาอุดปั๊ม หรือ ตะกรุดในบาตร
    เริ่มสร้างเมื่อปลายปี 2549 จนถึง ปี 2551
    ซึ่งเป็นตะกรุดที่ใช้ยันต์มหาอุดรูปแบบเดียวกับตะกรุดเตาเป็นหลัก
    และเพิ่มยันต์อื่นๆเข้ามา เช่น เฑาะว์ปถมังคงกระพัน ที่ปั๊มไว้ด้านนอกของตะกรุด
    มีเอกลักษณ์ตรงที่จะเห็นตัวยันต์ที่ปั๊ม
    บางดอกก็เห็นเป็นแถวๆ
    บอกดอกก็จะเห็นเป็นยันต์เฑาะว์
    และเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่คล้ายกับตะกรุดเตาตรงคือ
    ตะกรุดในบาตรส่วนใหญ่จะไม่มีโค๊ด
    ซึงจริงๆแล้วหลวงพ่อตัดท่านก็ไม่ชอบให้ใช้โค๊ดมาตอกบนตะกรุด
    เพราะท่านเห็นว่าเป็นพุทธพาณิชย์
    แต่เนื่องด้วยลูกศิษย์ต้องการให้เป็นที่รู้ว่าตะกรุดนั้นๆเป็นของวัดชายนา
    ก็เลยนำโค๊ดต่างๆมาตอกเป็นยุคๆไป
    สมัยก่อนหากใครนำแผ่นที่ตอกโค๊ดแล้วไปขอเมตตาให้หลวงพ่อตัดท่านจารตะกรุดให้
    ท่านจะนิยม"แกล้ง"คือเวลาม้วน ท่านจะม้วนด้านทีมีโค๊ดเข้าไปด้านใน
    ที่เคยผ่านตามาก็หลายดอก ทั้งตะกรุดโค๊ดเรียงและโค๊ดกระโดด
    ที่หลวงพ่อท่านจารเสร็จและท่านม้วนซ่อนโค๊ดไว้...

    ....ถ้าถามว่า วัตถุมงคลอะไรที่เหมาะสำหรับผู้ศึกษาสะสมรุ่นใหม่ๆที่ควรมีติดตัวไว้
    คำตอบก็คือตะกรุดในบาตร
    ถือได้ว่าเป็นตะกรุดราคาหลักร้อยพุทธคุณหลักล้านก็ว่าได้
    หลวงพ่อท่านปลุกเสกในห้องของท่าน ตั้งแต่ปลายปี 49 จนกระทั่งก่อนท่านมรณะ
    สมัยหลวงพ่อตัดยังมีชีวิตอยู่ ท่านแจกไปเป็นจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่าหลักแสนดอก
    ปัจจุบันที่วัด จำนวนตะกรุดในบาตรนี้ก็ได้ลดลงเรื่อยๆ
    คาดคะเนเท่าที่เห็นเหลืออยู่ประมาณ 1 โอ่งใหญ่กับอีกประมาณ 2 กะละมังเท่านั้น
    ถามว่าเยอะมั้ย ก็ต้องบอกว่าน้อยลงมาจากเมื่อสองสามปีก่อนมากนัก

    ตะกรุดในบาตร มีประสบการณ์เกิดขึ้นกับผู้ที่พกไว้มากมาย
    ทั้งเรื่องยิงไม่เข้า สั่นเตือนภัย และอื่นๆอีกมากมายที่เล่ากันไม่รู้จบ
    ดังนั้นเป็นตะกรุดที่ไม่ควรมองข้ามเลย
    ราคาค่างวดไม่ได้แพงอย่างที่คิด
    เผลอๆอีกไม่นาน อาจจะหมดไปจากวัดอย่างรวดเร็วก็เป็นได้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Surfers

    Surfers เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    10,498
    ค่าพลัง:
    +26,963
    ของสุดยอดเลย พี่ยังหาไม่ได้เลย:':)':)'(
     
  17. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,373
    ค่าพลัง:
    +3,130
    ชอบสมเด็จเยี่ยวชะนียุคแรกจังเลยครับผม เนื้อหามวลสารสุดๆจริงๆครับผม เห็นรอยจารที่คุณปลัดแบบนี้ นี่แหละรอยจารหลวงพ่อ แหะๆ กราบหลวงพ่อตัดครับ
     
  18. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,163
    ค่าพลัง:
    +3,303
    พรุ่งนี้เป็นวันงานใหญ่ประจำปีของวัดชายนาอีกหนึ่งวัน
    คืองานทอดกฐินประจำปี 2557 ลูกศิษย์ลูกหาหลวงพ่อตัด และพระอาจารย์ทินท่านไหนว่าง
    ไปร่วมงานกันได้นะครับ

    และเป็นประจำสำหรับวัดชายนา ที่จะมีวัตถุมงคลแจกให้ญาติโยมที่ไปทำบุญที่วัดทุกปี
    ทำกันมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อตัดท่านยังอยู่ และทำมาเรื่อยๆทุกปี
    นี่เป็นของแจกปีนี้ครับ เพชรพญาธรเนื้อผง
    พระอาจารย์ทินได้เมตตาออกแบบเอง

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. Surfers

    Surfers เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    10,498
    ค่าพลัง:
    +26,963
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อตัด พระอาจารย์ทินครับ

    [​IMG]
     
  20. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    กราบนมัสการ หลวงพ่อตัด
    ดีใจที่มีกระทู้นี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...