ข้อขัดแย้งในพระไตรปิฎก : อาบัติปาจิตตีย์ เรื่องบอกอุตตริมนุสสธรรมแก่อนุปสัมบัน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Ron_, 22 สิงหาคม 2012.

  1. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    <CENTER>ข้อความในพระไตรปิฎก</CENTER><CENTER>พระบัญญัติ
    </CENTER> ๕๗. ๘. อนึ่ง ภิกษุใดบอกอุตตริมนุสสธรรมแก่อนุปสัมบัน เป็นปาจิตตีย์ เพราะมีจริง.

    แต่ตอนท้่าย ของหน้า กลับบอกว่า

    <CENTER>อนาปัตติวาร
    </CENTER> [๓๔๑] ภิกษุบอกอุตตริมนุสสธรรมที่มีจริงแก่อุปสัมบัน ๑
    ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑

    ไม่ต้องอาบัติแล.

    ตกลงแล้ว การบอกอุตตริมนุสสธรรมที่มีจริงแก่ อนุสัมปัน อาบัติปาจิตตีย์หรือไม่กันแน่ ???????
     
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ผมไม่เข้าใจหรอกครับ แต่ข้อแตกต่างของ ๒ ข้อความคือ

    ๕๗. ๘. อนึ่ง ภิกษุใดบอกอุตตริมนุสสธรรมแก่อนุปสัมบัน เป็นปาจิตตีย์ เพราะมีจริง.

    [๓๔๑] ภิกษุบอกอุตตริมนุสสธรรมที่มีจริงแก่อุปสัมบัน ๑ภิกษุอาทิกัมมิกะ ไม่ต้องอาบัติแล.

    เมื่อเกณฑ์ต่างกันก็ต้องพิจารณาต่างกัน ไม่เห็นแปลกเลยครับ
     
  3. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    เรื่องนี้ความต่างอยู่ตรงที่ อุปสัมบัน กับ อนุสัมบัน
    อุปสัมบัน คือ ภิกษุ ภิกษุณี
    อนุสัมบัน คือ ไม่ใช่ภิกษุ ภิกษุณี

    อุตตริมนุสธรรมมีจริงหรือไม่มีจริง... ใครตรวจสอบได้บ้าง
    อย่างเช่น ได้ โลกียฌาน
    ใครตรวจสอบได้
     
  4. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ขอบคุณครับ คุณ firstini ผมตาลายน่ะครับ เลยมองว่า อุปสัมบัน กับ อนุสัมบัน เป็นคำเดียวกัน นึกว่า ในเว็บพระไตรปิฎกพิมพ์ผิด

    คุณ e20aoa ครับ

    >คุณวิเศษต่างๆที่มีปรากฎเช่น หูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น ซึ่งผู้ที่กล่าวอาจมิได้มีคุณสมบัตินั้นก็เป็นได้ จึงเป็นอาบัติ

    ถ้าผู้กล่าวเป็นพระที่ไม่มีคุณวิเศษเช่นนั้นจริง แต่กล่าวว่ามี ก็จัดเป็นอาบัติปาราชิกพ้นสภาพจากพระและบวชใหม่อีกไม่ได้เลยครับ
    (ไม่ว่าจะกล่าวกับ ผู้ที่เป็นนักบวชในพุทธศาสนา หรือ ผู้ที่ไม่ใช่นักบวชในพุทธศาสนาก็ตาม)

    แต่ถ้าผู้กล่าวเป็นพระที่มีคุณวิเศษเช่นนั้นจริง ถ้ากล่าวกับ ผู้ที่ไม่ใช่นักบวชในพุทธศาสนา ก็จัดเป็นอาบัติปาจิตตีย์ แต่ถ้ากล่าวกับผู้ที่เป็นนักบวชในพุทธศาสนาด้วยกัน ก็ไม่จัดเป็นอาบัติ

    ส่วนเรื่องที่มีภิกษุกล่าวกับโยมที่มาสอบถามว่าเปรตมีจริงหรือไม่

    ถ้าภิกษุนั้นตอบว่า อาตมาไม่ทราบเพราะไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น แต่ถ้าความจริง ท่านเคยพบเห็น และรู้ชัดว่าเป็นเปรต เช่นนี้ก็เป็นอาบัติ ปาจิตตีย์ เพราะโกหก

    แต่ถ้าท่านไม่เคยพบเห็นจริงๆ หรือเคยเห็นแต่ไม่รู้ว่าใช่ แล้วตอบว่า อาตมาไม่ทราบเพราะไม่เคยพบ (หรือไม่เคยเห็น) ก็ไม่จัดว่าเป็นอาบัติ หรือจะตอบว่า มี (ตามตำรา) แต่อาตมายังไม่ได้พบก็ไม่จัดเป็นอาบัติเช่นกันครับ
     
  5. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    เพิ่มเติมคุณ firstini ที่ว่า อุตตริมนุสธรรมมีจริงหรือไม่มีจริง... ใครตรวจสอบได้บ้าง
    อย่างเช่น ได้ โลกียฌาน ใครตรวจสอบได้

    ผมว่า พวกที่ได้อภิญญา ก็คงตรวจสอบได้ครับ แต่ถึงแม้ว่า ไม่มีใครตรวจสอบก็ตาม อาบัติก็เกิดขึ้นแล้วเดี๋ยวนั้นตั้งแต่กระทำกรรมด้วยเจตนาโดยไม่ต้องมีใครบอก เพียงแต่เจ้าตัวจะรู้หรือไม่รู้แค่นั้นเอง

    ถ้ารู้ก็โชคดีหน่อยที่อาจจะมีเวลาปลงอาบัติได้ทัน (ถ้าไม่ใช่ปาราชิก) แต่ถ้าไม่รู้และไม่มีใครมาบอกนี่ก็คงโชคร้ายเป็นเวรกรรมติดตัวไป
     
  6. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ที่ผมทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น
    เพราะเวลาที่เราจะกล่าวโจทก์ว่าใครต้องอาบัติหรือปาราชิกนั้น... เราต้องระวัง
    เนื่องด้วยการตรวจสอบไม่ใช่ง่ายๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...