ข้อความจากต่างมิติ - การดาวน์โหลด และ การผสานรวมเข้ากับตัวตนหลากมิติของตัวเราเอง

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 1:


ฉันคือไกอา ฉันคือพี่สาว-น้องสาวของคุณ ฉันคือเพื่อน และคู่ชีวิตของคุณ
และฉันก็คือดาวเคราะห์ของคุณด้วย ฉันอยากจะพูดกับพวกคุณสักระยะ
พูดจากจักระที่ 4 ของฉันซึ่งตั้งอยู่ที่ Maui ในหมู่เกาะฮาวาย...


จิตวิญญาณต้นธาตุของพวกเรา (Our Oversoul)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


ฉันไกอา เป็นน้องสาวคนที่ 8 ของกลุ่มดาวลูกไก่ (ตอนนี้กลุ่มดาวลูกไก่มีดาวอยู่ 7 ดวง
แต่ก่อนหน้านั้นมีอยู่ 8 ดวง ซึ่งก็คือไกอานั่นเอง – ผู้แปล) ฉันเป็นผู้ที่มีบุคลิกก๋ากั่นที่สุด
ในบรรดาพี่น้องทั้งหมดของฉัน ฉันมักจะรู้สึกราวกับว่า มันน่าจะมีอะไรที่ท้าทายมากกว่านี้ให้ทำอีก
หรือมีภาระกิจอะไรที่ท้าทายมากกว่านี้อยู่อีก ที่จิตวิญญาณต้นธาตุของฉันอยากจะให้ฉันไปทำ

ซึ่งภาระกิจที่ว่านั้น ก็คือการแยกตัวออกมาอยู่ในดินแดนที่รกร้างว่างเปล่า
ออกมาอยู่ขอบนอกของกาแล็กซี่ใหม่ กาแล็กซี่หนึ่ง เพื่อมามีประสบการณ์
กับความเป็นขั้ว แบบสุดขั้ว มากที่สุด เท่าที่เคยมีมา ของมิติที่ 3 แห่งนี้

และบรรดาผู้ที่อาสามาร่วมทางกับฉันในครั้งนั้น
ส่วนมากก็จะเป็นสมาชิกตัวตนอื่นๆ
ของจิตวิญญาณต้นธาตุของฉันเอง

พวกเราทั้งหมด ตั้งตารอคอยที่จะได้เลือกภาระกิจใหม่ของพวกเราเอง
และฉัน,ไกอา,ก็ได้เลือกที่จะเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณต้นธาตุของฉันทั้งหมด
ในขณะที่สมาชิกตัวตนอื่นๆของจิตวิญญาณต้นธาตุของฉัน ได้เลือกที่จะเป็นตัวแทนของฉัน
ในแบบที่แตกต่างกันไป แบบของใครแบบของมัน ซึ่งก็คือเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งนั่นเอง

ด้วยเหตุนี้ พวกเราแต่ละตัวตน จึงกลายเป็น
“ดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ในแบบของใครของมัน”
และฉันไกอา ก็ได้ทำหน้าที่เป็นแม่แบบให้กับทุกๆตัวตน

ซึ่งก็เหมือนกับที่มือและเท้าของพวกคุณ
เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์ของพวกคุณนั่นแหละ
ธาตุต่างๆที่เป็นองค์ประกอบของฉัน
และรวมถึงสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในและบนฉันทั้งหมด
ซึ่งหมายรวมถึงมนุษย์โลกทุกๆคนด้วย
ก็คือส่วนหนึ่งของร่างกายของฉันด้วย

สมาชิกบางตัวตนของจิตวิญญาณต้นธาตุของฉัน
ก็ต้องการที่จะมีประสบการณ์กับการเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 1 และ 2
ดังนั้น พวกเขาจึงได้ส่งส่วนหนึ่งของแก่นแท้ของพวกเขาเองลงมา
และเข้ามาอยู่ในแมตริกซ์ของมิติที่ 3 ของฉัน ตั้งแต่ตอนเริ่มแรก

ที่ฉันใช้คำว่า “ส่วนหนึ่งของแก่นแท้ของพวกเขาเอง”
ก็เพราะว่า พวกเขา และ รวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกๆชนิด
ที่อาศัยอยู่บนฉันก็ด้วย ล้วนมีตัวตนดำรงอยู่
ในหลากหลายสถานที่ และหลากหลายมิติ
เหมือนกันหมดทั้งสิ้น

ดังนั้น รูปธรรมชีวิตใดที่ปราถนาจะมีประสบการณ์กับการเป็นสิ่งมีชีวิตในมิติที่ 1 และ 2
จึงได้กลายไปเป็นก้อนหิน, น้ำ, พืช, สัตว์เลื้อยคลาน, แมลง และสัตว์อื่นๆของฉัน

มิติที่ 1 และ 2 อาจจะดูเหมือนว่ามีวิวัฒนาการน้อยกว่าพวกคุณ
แต่ว่าพวกเขาได้เลือกที่จะมาเป็นเช่นนั้นเอง เพราะว่าพวกเขารู้ดีอยู่แล้วว่า
พวกเขาจะไม่มีวันสูญเสียการเชื่อมต่อกับ “จิตสำนึกมวลรวมของดาวเคราะห์ทั้งดวง”
(Planetary Consciousness) ไปได้เลย

เพราะว่าพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์แห่งการแบ่งแยก แบบเป็นตัวใครตัวมันอย่างเด็ดขาด
ของมิติที่ 3 เลย และพวกเขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์กับการมีข้อจำกัดของมิติที่ 3 เลย
แต่ว่าพวกเขา ก็ไม่เคยมีความเสี่ยงกับการหลงลืมตัวเองอยู่ในความเป็นขั้วด้านมืดของตัวเองเลย
แต่พวกเขาจะคงความเป็นกลุ่มของจิตวิญญาณเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
เพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่เคยมีประสบการณ์กับ “การตาย” เลย

เพราะว่าเมื่อพวกเขา “ตาย” พวกเขาก็แค่กลับคืนไปสู่ “ความเป็นหนึ่งเดียว” เท่านั้นเอง
ที่ๆซึ่งพวกเขาไม่เคยขาดการเชื่อมต่อเลยอยู่แล้ว

แต่มนุษย์โลกของฉันส่วนใหญ่ ได้สูญเสียการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณต้นธาตุของพวกเรา
และกับตัวตนหลากมิติของตัวเองไปซะแล้ว ดังนั้น เมื่อมนุษย์โลก “ตาย” ลงไป
พวกเขาจึงรู้สึกว่ากำลังจากไปแล้ว

เมื่อการเชื่อมต่อไม่เคยขาดหายไปเลย การตาย ก็จะรู้สึกเหมือนกับว่า
กำลังกลับบ้านเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวเท่านั้นเอง

ยังมีสมาชิกคนอื่นๆของจิตวิญญาณต้นธาตุของพวกเรา
อย่างเช่น พวกคุณเองเป็นต้น ที่ได้เลือกแล้วว่าจะมาเป็น “มนุษย์” ในมิติที่ 3 นี้
ซึ่งบางคนก็ได้เข้ามาอยู่ตั้งแต่ยุคสมัยของอาณาจักรเลมูเรียโน่นแล้ว
ส่วนบางคนก็เข้ามาอยู่ในช่วงยุคสมัยของอาณาจักรแอตแลนติส
แต่บางคนก็มาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นอีก และอีกส่วนหนึ่งก็เพิ่งมาเมื่อเร็วๆนี้
ภายในรอบวัฏจักร 12,000 ปีนี้เอง

เพราะว่าพวกคุณ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 3 ของฉัน
ปราถนาที่จะมามีประสบการณ์กับความเป็นปัจเจกบุคคล
พวกคุณจึงได้เข้ามาสู่เกม 3 มิติแห่งนี้
ซึ่งได้ถูกเตรียมเอาไว้ให้พวกคุณก่อนหน้าที่พวกคุณจะมาเรียบร้อยแล้ว
โดยรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 1 และ 2 ทั้งหลาย

ดังนั้น เมื่อพวกคุณเข้ามาสู่เกม 3 มิติแห่งความเป็นขั้วแห่งนี้
ความตระหนักรู้ของพวกคุณจึงถูกจำกัดให้อยู่แต่ในหีบห่อของใครของมัน
ที่แบ่งแยกออกจากกัน ซึ่งก็คือร่างกายเนื้อของพวกคุณนั่นเอง
และดังนั้น พวกคุณจึงถูกแยกขาดจาก “จิตสำนึกมวลรวมของดาวเคราะห์โลก” ไป
รวมถึงยังถูกแยกขาดจากความตระหนักรู้ถึงจิตวิญญาณต้นธาตุของตัวเองด้วย

ในตอนแรก พวกคุณ เหล่ามนุษย์โลกของฉัน เคยมีความเชื่อมโยงกับฉัน
ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ของพวกคุณมากกว่านี้ แต่ว่า ภายหลังจากที่พวกคุณถูกแบ่งแยก
โดยโลกยุคศิวิไลซ์ของพวกคุณ ให้กลายเป็นตัวใครตัวมันมากขึ้น
พวกคุณก็สูญเสียการเชื่อมต่อนั้นไป


การกลับไปเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณต้นธาตุใหม่อีกครั้งหนึ่ง
(Reconnecting with Oversoul)


โลกแห่งความเป็นจริงในแต่ละมิติ จะประกอบไปด้วยมิติต่างๆที่อยู่ต่ำกว่าด้วยเสมอ
ดังนั้น พวกคุณซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในมิติที่ 3 นี้ จึงสามารถที่จะตระหนักรู้ถึงมิติที่ 1 และ 2 ได้เสมอ
แต่ว่าพวกคุณก็จะขาดการเชื่อมต่อกับมิติที่ 4 และมิติที่อยู่สูงกว่าขึ้นไปอีกไป

แต่โชคยังดีที่ตอนนี้ พวกคุณหลายคนกำลังอยู่ในระหว่างการทำให้เกม 3 มิตินี้มันจบลงอยู่
ที่พวกคุณได้พากันทำให้มันก้าวหน้ามาได้ขนาดนี้ ก็เพราะว่าพวกคุณได้เรียนรู้
ที่จะขยายความตระหนักรู้/จิตสำนึกของตัวเองออกไปได้แล้ว
เพื่อให้ตระหนักรู้ไปไกลกว่าขอบเขตอันจำกัดของร่างกายเนื้อ 3 มิติของพวกคุณเอง

และเพราะว่าจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณได้ขยายตัวออกไปแล้วนี่เอง
จึงทำให้พวกคุณสามารถที่จะจดจำวิธีการที่จะทำให้รับรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ในมิติที่ต่ำกว่า
และที่อยู่ในมิติที่สูงกว่ามิติที่ 3 อย่างมีสติสัมปชัญญะได้

เมื่อใดที่พวกคุณ สามารถที่จะขยายความตระหนักรู้/จิตสำนึกของตัวเองออกไปถึงมิติที่ 7 ได้แล้ว
พวกคุณก็จะสามารถกลับไปเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณต้นธาตุของตัวเองได้อีกครั้งหนึ่ง
และจะสามารถตระหนักรู้ได้ด้วยว่า พวกคุณได้กลับไปถึงบ้านแล้ว

ในความเป็นจริงแล้ว การเดินทางกลับบ้านในครั้งนี้ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ซึ่งพวกคุณ เหล่าสมาชิกของทีมเลื่อนระดับขึ้นแบบทั้งดาวเคราะห์โลกทั้งหลาย
(the Planetary Ascension Team) ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการ
กลับคืนไปสู่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองกันอยู่ เพื่อที่จะมีความตระหนักรู้แบบหลากมิติ

และก็เหมือนกับตัวฉันเอง,ไกอา, ที่มีรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติต่างๆ
และที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงต่างๆจำนวนมากมายหลายมิติ/โลก
อาศัยอยู่ในร่างกายของฉันนี้ พวกคุณก็เช่นกัน ที่กำลังตระหนักรู้แล้วว่า
พวกคุณเองก็มีรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติต่างๆ และที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงต่างๆมากมาย
หลายมิติ/โลกอาศัยอยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเองด้วยเช่นกัน

ส่วนประกอบของตัวตนของพวกคุณที่อยู่ในมิติที่ 1, 2 และ 4
กำลังทำหน้าที่เชื่อมต่อพวกคุณให้เข้ากับจิตสำนึกมวลรวมของดาวเคราะห์โลกอยู่
ส่วนตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 และ 6 ของพวกคุณ ก็กำลังเชื่อมต่อพวกคุณ
ให้เข้ากับจิตสำนึกมวลรวมของทั้งกาแล็กซี่อยู่
และตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 7 ของพวกคุณ ก็กำลังเชื่อมต่อพวกคุณ
ให้เข้ากับจิตสำนึกมวลรวมของทั้งจักรวาล หรือทั้งเอกภพอยู่เช่นกัน

.................

 

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 2: วิญญาณของธาตุต่างๆ (Elementals)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ส่วนประกอบทั้งหมดที่อยู่ในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ก็คือส่วนประกอบที่อยู่ในร่างกายของฉัน
(ดาวเคราะห์โลกดวงนี้) ด้วยเช่นกัน
และก็เป็นส่วนประกอบชนิดเดียวกันกับ
ส่วนประกอบที่มีอยู่ในร่างกายของสมาชิกตัวตนอื่นๆ
ของ Oversoul ของพวกเรา
ที่เลือกที่จะมาเป็นรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 1, 2 และ 4 ด้วยเช่นกัน

ตัวตนส่วนที่อยู่ในมิติที่ 1 และ 2 ของพวกคุณ
จะมีชีวิตอยู่แบบเป็นหนึ่งเดียวกันกับดาวเคราะห์โลก
เพราะว่าธาตุต่างๆที่อยู่ในร่างกายของพวกคุณ
และที่อยู่ในร่างกายของฉันเหล่านี้
ไม่ได้มีวิวัฒนาการสูงมากนัก
จนเพียงพอที่จะทำให้พวกเขา
สามารถเข้าใจการแบ่งแยกของมิติที่ 3 ได้

ดังนั้น พวกเขาก็จะใช้ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพวกเขานี้เอง
ติดต่อสื่อสารกับรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 4
ซึ่งก็คือ “วิญญาณของธาตุต่างๆ” (Elementals)
(ธาตุ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ) อยู่ตลอดเวลา
และอย่างเป็นเอกภาพด้วย

เช่นเดียวกันกับสมาชิกของ Oversoul ของเราบางพวก
ที่เลือกที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 1 และ 2
มันก็จะมีสมาชิกอีกพวกหนึ่ง ของ Oversoul ของพวกเรา
ที่เลือกที่จะมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 4 ด้วย
เพียงแต่ว่า จะแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 1 และ 2 ตรงที่
สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 4 นั้น จะมีความเป็นเอกเทศน์อยู่บ้าง
แต่ว่าพวกเขา ก็จะมี “จิตสำนึกแห่งความเป็นเอกภาพ”
(Unity Consciousness) ที่เข้มแข็งมากๆอยู่ด้วย

ซึ่งจิตสำนึกแห่งความเป็นเอกภาพนี้เอง
ที่ทำให้พวกเขาสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันและกัน
และถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ต่ำกว่าได้ตลอดเวลา

สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 4 ที่เกี่ยวข้องโดยตรง
กับชีวิตประจำวันของพวกคุณมากที่สุด
ก็คือ พวก “วิญญาณของธาตุต่างๆ” (Elementals)

เพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 1 และ 2
ซึ่งก็คือธาตุทั้ง 4 ซึ่งได้แก่ ธาตุดิน, น้ำ, ลม และ ไฟ นั้น
จะมีชีวิตอยู่ได้ ก็ต้องอาศัย “วิญญาณ/พลังปราณ” (spirit/prana)
จาก Elementals ทั้งหลาย ที่เป็นผู้ส่งไปให้

เพราะว่า Elementals เหล่านี้
จะแบ่งปันแก่นแท้ของวิญญาณของพวกเขาเอง
เพื่อมอบชีวิตให้แก่ธาตุทั้ง 4 เหล่านี้
ซึ่งก็จะเหมือนกันกับที่ “จิตวิญญาณ” (Soul) ของพวกคุณ
ต้องแบ่งปันแก่นแท้แห่งวิญญาณ (Spirit Essence) ของตัวเอง
ให้กับร่างกายเนื้อของพวกคุณที่อยู่ในมิติที่ 3 นี้นั่นแหละ

พวกคุณ คือส่วนหนึ่งของ Oversoul ของพวกเรา
ที่มาแสดงบทเป็นมนุษย์อยู่ พวกคุณมีวิญญาณของธาตุทั้ง 4
อยู่ในร่างกายเนื้อของพวกคุณ เช่นเดียวกับในร่างกายของฉัน
เพราะว่าพวกคุณคือ “จุลภาค” (microcosm) ของฉัน..ไกอา

ในร่างกายส่วนที่เป็นโครงสร้างคาร์บอนของพวกคุณ
หรือที่เรียกว่าส่วนของ “ธาตุดิน” นั้น
ก็จะมีวิญญาณของธาตุดิน ที่ชื่อ Gnomes ควบคุมอยู่

ในส่วนที่เป็นของเหลวของร่างกายเนื้อของพวกคุณ
หรือที่เรียกว่า “ธาตุน้ำ” นั้น
ก็จะมีวิญญาณของธาตุน้ำที่ชื่อ Undines ควบคุมอยู่

ในส่วนที่เป็น “ช่องว่าง” และออกซิเจน
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
หรือที่เรียกว่า “ธาตุลม” นั้น
ก็จะมีวิญญาณของธาตุลมที่ชื่อ Sylphs ควบคุมอยู่

และสุดท้าย ในส่วนที่เป็นการทำงานของระบบประสาท
และพลังกุณฑาลิณีภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
หรือที่เรียกว่า “ธาตุไฟ” นั้น
ก็จะมีวิญญาณของธาตุไฟที่ชื่อ Salamanders ควบคุมอยู่

เพราะว่าวิญญาณของธาตุทั้ง 4 หรือ Elementals เหล่านี้
เป็นรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 4
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ถูกควบคุม
ด้วยกฎแห่งการแบ่งแยกของมิติที่ 3

ดังนั้น ประสบการณ์ใดๆก็ตาม ที่ Elemental ใดก็ตาม
ได้รับมา ก็จะถูกแบ่งปันไปให้ Elementals อื่นๆ
ทุกๆ Elementals เพื่อให้มีประสบการณ์นั้นๆด้วย
อย่างทันทีทันใด

ในความเป็นจริงแล้ว Elementals ทั้ง 4 กลุ่มนี้
ทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกร่างกายเนื้อของพวกคุณ
จะทำงานอย่างสอดประสานซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา
ความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้น
จากโลกแห่งความเป็นจริงภายในของพวกคุณ
หรือก็คือจากร่างกายเนื้อของพวกคุณนั่นเอง
จะไปกระตุ้นการทำงานของ Elementals ทุกๆกลุ่ม
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง

และในทางกลับกัน Elementals เหล่านี้
ก็จะไปกระตุ้นการทำงานของ Elementals ทุกๆกลุ่ม
ที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงภายนอกของพวกคุณอีกต่อหนึ่งด้วย

ด้วยเหตุนี้ Elementals ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อ
และในสนามออร่าของพวกคุณ
จึงมีชีวิตอยู่อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่ตลอดเวลา
กับ Elementals ที่อยู่ภายในร่างกาย
และในชั้นบรรยากาศของฉัน

..........................

 

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 3: วิญญาณของธาตุไฟ – Salamanders
(Fire Elementals – Salamanders)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


พวกคุณซึ่งเป็นมนุษย์โลกของฉัน
สามารถส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์โลก,
ต่อสภาวะภูมิอากาศ, และต่อมนุษย์ทุกๆคน,
รวมถึงต่อพืช และต่อสัตว์ทั้งหลายที่พวกคุณไปสัมผัสได้
โดยอาศัย Elementals เหล่านี้เอง

ตัวอย่างเช่น “ความคิด” ของพวกคุณ ซึ่งเป็นผลลัพธ์สุดท้าย
ของการทำงานของกระแสประสาทของพวกคุณ
ที่วิญญาณของธาตุไฟที่อยู่ภายในตัวของพวกคุณ
ที่ชื่อ Salamanders เป็นผู้สร้างขึ้นมา
และ เป็นผู้ทำให้มันสมบูรณ์แบบขึ้นด้วย

และเพราะว่าวิญญาณของธาตุไฟ
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
จะทำงานอย่างสอดประสานกลมกลืนกัน
กับวิญญาณของธาตุไฟทั้งหมด
ที่อยู่ภายในร่างกายของฉันเองอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น “ความคิดส่วนตัว” ของพวกคุณ
จึงกลายไปเป็น “ความคิดของทั้งดาวเคราะห์” ไป
โดยอาศัยการมีชีวิตอยู่แบบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ของวิญญาณของธาตุทั้งหมด

เพราะฉะนั้น “ความคิด” ทุกๆความคิดของพวกคุณ
จึงมีผลกระทบต่อวิญญาณของธาตุไฟทั้งหมด
ที่อยู่ภายในดาวเคราะห์โลกของฉัน
และยังมีผลกระทบต่อทุกสรรพชีวิต
ที่อยู่ศัยอยู่บน/ในดาวเคราะห์โลกของฉันอีกด้วย

ดังนั้น เมื่อใดที่ความคิดของพวกคุณสะอาดและดีงาม
วิญญาณของธาตุที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ก็จะไปดึงดูดเอาวิญญาณของธาตุอื่นๆ
ที่สะอาดและดีงามเช่นเดียวกันเข้ามา

เมื่อใดที่พวกคุณเลือกที่จะคิดบวก
ความคิดของพวกคุณ ก็จะไปส่งผลกระทบในแง่บวก
ต่อ Fire Elementals ที่อยู่ภายในร่างกายของตัวเอง
ซึ่งก็จะไปส่งผลกระทบในแง่บวก
ต่อ Fire Elementals ของคนอื่นๆ
และของดาวเคราะห์โลกของฉันด้วยเสมอ

อนุภาคโฟตอนจากดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
กับ Fire Elementals ของฉัน
จะสามารถผสานรวมเข้ากับดาวเคราะห์โลกของฉันได้
อย่างง่ายดายขึ้น เมื่ออาศัยพวกคุณเป็นสื่อกลาง

และความคิดของคนอื่นๆก็จะสงบเย็นลง
เมื่อวิญญาณของธาตุที่อยู่ภายในตัวพวกคุณ
แบ่งปันความสงบสุขอันประเสริฐนี้
กับวิญญาณของธาตุต่างๆที่อยู่ภายในตัวของพวกเขาด้วย

ในทางกลับกัน ถ้าความคิดภายในของพวกคุณ
เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย, โกรธ หรือ กลัว
ความคิดที่เต็มไปด้วยความโกรธ
และความไม่สบายกาย-ไม่สบายใจอันนี้
ก็จะถูกแพร่กระจายออกไปสู่สิ่งแวดล้อมของพวกคุณ

ดังนั้น พวกคุณจึงไปดึงดูดเอาผู้คนผู้
ที่กำลังเป็นทุกข์เข้ามาหาตัวเอง
หรือไม่ก็พวกคุณก็จะไปทำให้ผู้อื่น “รู้สึกแย่” ตามไปด้วย

และพืชพันธุ์ต่างๆก็จะไม่เจริญเติบโตมาให้พวกคุณ
และสัตว์ทั้งหลายก็จะวิ่งหนีพวกคุณไป
หรือไม่ก็เข้ามาทำร้ายพวกคุณ
และพวกคุณก็จะทำให้สภาพภูมิอากาศของฉัน
กลายเป็นสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายไป

สภาพภูมิอากาศของฉัน
คือสิ่งที่สนองตอบต่อผู้ที่อยู่อาศัยบน/ในตัวฉัน
เพราะว่าฉันคือ “ส่วนรวมทั้งหมด” ของทุกสรรพชีวิต
ที่อาศัยอยู่บน/ในดาวเคราะห์โลกของฉัน

.........................

 

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 4: วิญญาณของธาตุดิน – Genomes
(Earth Elementals – Genomes)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


ความคิดของพวกคุณ จริงๆแล้วมันก็คือสิ่งหนึ่ง
ที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง
Earth Elementals กับ Fire Elemenatls ของพวกคุณเอง

โดยที่ Earth Elementals จะทำงานอยู่กับสสาร
ของสารส่งประสาท, เอนไซม์, และสารเคมีอื่นๆ
เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับความเป็นขั้ว
เพื่อที่จะก่อให้เกิดสัญญาณไฟฟ้าขึ้น
แล้วจากนั้น Fire Elementals
ก็จะไปจุดชนวนเซลประสาทเหล่านั้นต่อ

ดังนั้น ความคิดของพวกคุณ จึงมีผลกระทบอย่างมาก
ต่อ Earth Elementals ทั้งที่อยู่ภายใน
และภายนอกตัวพวกคุณด้วย

เมื่อใดที่ความคิดของพวกคุณว้าวุ่น,
หมกมุ่นอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากเกินไป และ/หรือ สับสัน
Earth Elementals ของพวกคุณ
ก็จะมีความยากลำบากในการทำให้ตัวมันเองอยู่ในความเสถียร
ซึ่งความไม่เสถียรส่วนตัวของพวกคุณอันนี้เอง
ก็จะไปส่งผลกระทบต่อ Earth Elementals
ของดาวเคราะห์โลกด้วย จนเป็นเหตุให้ธรณีวิทยาของโลก
เกิดความไม่เสถียรตามไปด้วย

และเมื่อพวกคุณเดินอยู่บนพื้นโลกของฉัน
ทุกๆย่างก้าวของพวกคุณ ก็จะไปส่งผลกระทบ
ต่อ Earth Elementals ของร่างกายของฉันด้วย

ซึ่ง Earth Elementals ของดาวเคราะห์โลกนี้
จะเก็บรักษา ”ข่าวสาร” ที่ก้าวย่างของพวกคุณส่งมาถึงมันเอาไว้
แล้วก็จะถ่ายทอดต่อไปให้กับ “คนถัดไป” หรือ “สัตว์ตัวต่อไป”
ที่จะมาเดินทับรอยเท้าของพวกคุณในภายหลังด้วย

พวกคุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมมันถึงรู้สึกดีมากๆ
เมื่อไปเดินอยู่ในสถานที่ที่วิเวกห่างไกลผู้คน
เช่น บนหาดทราย หรือ บนหิมะที่ตกใหม่ๆเป็นต้น?

นั่นก็เพราะว่า มัน “เงียบสงบ” จาก
ความคิดและจิตใจของผู้คนนั่นเอง
และ Elementals ของพวกคุณ
ก็ไม่ต้องไปตอบสนองต่อ Elementals ของคนอื่นเขาด้วย
ดังนั้น มันจึงเป็นการง่ายกว่าสำหรับพวกเขา
(Elementals ทั้งหลาย – ผู้แปล)
ที่จะตอบสนองต่อความคิดและจิตใจ
ของคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น

ประสบการณ์แบบนี้ ก็คือที่มาของคำพูดที่ว่า
“จงก้าวเดินไปตามรอยเท้าของเหล่าคุรุทั้งหลาย”
ซึ่ง “คุรุ” ในที่นี้ ก็หมายรวมถึงรูปธรรมชีวิต
ทั้งที่เป็นมนุษย์และที่ไม่ใช่มนุษย์ด้วย

คุรุคือผู้ที่สามารถเป็นนายเหนือความคิด
และความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว และเพราะฉะนั้น
พวกเขาจึงเป็นนายเหนือ “ธาตุ” ทั้ง 4
และเป็นนายเหนือ Elementals
ของร่างกายเนื้อของพวกเขาเองด้วย

คุรุเหล่านี้ จะทำงานกับ Elementals ของตัวเอง
และกับ Elementals ของโลกอย่างมีสติสัมปชัญญะ
รวมถึงจะทำงานกับธาตุทั้ง 4 ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของผู้อื่นด้วย
โดยการถ่ายทอดและเผื่อแผ่ความสงบสุขจากลึกๆภายใน
อันเกิดจากการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีการติดต่อสื่อสาร
กับตัวตนหลากมิติของตัวพวกเขาเองอยู่ตลอดเวลาออกมานั่นเอง

...........................

 

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 5: วิญญาณของธาตุลม – Sylphs
(Air elementals – Sylphs)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


Air Elementals จะช่วยในการไหลเวียนของออกซิเจน
ซึ่งเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต และเป็นสิ่งที่ทำให้พวกคุณ
มี “สติสัมปชัญญะ” ด้วย

ดังนั้น สิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นกับพวกคุณ
ถ้าพวกคุณขาดออกซิเจนก็คือ
ความคิดของพวกคุณจะสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งพวกคุณ “หมดสติ” ไป

ดังนั้น การไหลเวียนอย่างเพียงพอ
ของปริมาณออกซิเจนทั่วทั้งระบบร่างกายของพวกคุณ
จึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งยวดต่อการมีความคิดที่แจ่มใส

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม ธาตุลมจึงมีส่วนเกี่ยวข้อง
กับความคิดของพวกคุณด้วย

และ Air Elementals หรือ Sylphs นี้
จะช่วยในเรื่องการหายใจของพวกคุณ

Air Elementals หรือ Sylphs นี้
ยังช่วยทำหน้าที่ผสมรวมความคิดของตัวคุณเอง
ให้เข้ากับความคิดของคนอื่นๆทั้งหมดทั่วโลก
โดยผ่านทาง “จิตสำนึกอันเป็นเอกภาพ”
(Unity Consciousness)
ที่ Elementals ทุกๆกลุ่มแชร์ร่วมกันอยู่

ดังนั้น ทุกๆลมหายใจเข้าของพวกคุณ
พวกคุณจึงกำลังรับเอาคลื่นความคิดของผู้อื่นเข้ามาอยู่
และทุกๆลมหายใจออกของพวกคุณ
พวกคุณก็กำลังแผ่กระจายคลื่นความคิดของตัวเอง
ออกไปสู่ทั่วโลกภายนอกอยู่
โดยอาศัย Air Elementals ของตัวเองเป็นสื่อพาไป

แล้วจากนั้น คลื่นความคิดของพวกคุณ
ก็จะถูกป้อนเข้าไปใน “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก”
(the Collective Consciousness)
และถูกป้อนเข้าไปใน “จิตสำนึกมวลรวมของโลกทั้งโลก”
(the Planetary Consciousness) เป็นลำดับต่อไป

ซึ่งมันก็จะย้อนกลับมาส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ต่างๆ
ในชีวิตประจำวันของพวกคุณเอง
และของคนอื่นๆด้วย ในท้ายที่สุด

ฉันอยากจะอธิบายให้พวกคุณเข้าใจ
ถึงความแตกต่างระหว่าง “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก”
(the Collective Consciousness)
กับ “จิตสำนึกมวลรวมของโลกทั้งโลก”
(the Planetary Consciousness) ซักหน่อย

ว่า.. “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก”
(the Collective Consciousness)
คือจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ ที่เกิดจากการผสมรวมเอา
จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ ของมนุษย์ทุกๆคนบน/ในโลก
เข้ามาไว้ด้วยกัน ส่วน “จิตสำนึกมวลรวมของโลกทั้งโลก”
(the Planetary Consciousness) นั้น
คือจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ ที่เกิดจากการผสมรวมเอา
จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ ของสิ่งมีชีวิตทุกๆชนิด และทุกๆมิติ
ที่อาศัยอยู่บน/ในตัวฉันเข้ามาไว้ด้วยกัน

ดังนั้น “จิตสำนึกมวลรวมของโลกทั้งโลก”
จึงกว้างและใหญ่กว่า “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก”

Sylphs จะอาศัยอยู่ภายในสนามพลังออร่าของพวกคุณ
และจะส่งผลกระทบต่อสนามพลังออร่าของฉัน,
ชั้นบรรยากาศของฉัน และ คุณภาพของท้องฟ้า
และ อากาศของฉันอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น เมื่อใดที่พวกคุณมีความคิดที่ขุ่นมัว
ความคิดที่ขุ่นมัวอันนี้ของพวกคุณ
ก็จะถูกถ่ายทอดต่อไปยังชั้นบรรยากาศของโลก
ทำให้บรรยากาศของโลกขุ่นมัวตามไปด้วย

และในทางกลับกัน เมื่อใดที่พวกคุณมีความคิดที่แจ่มใส
พวกคุณก็จะทำให้ท้องฟ้าแจ่มใสตามไปด้วย

พวกคุณทุกคนรู้กันแล้วใช่ไหมว่า
ตอนนี้สภาวะภูมิอากาศของฉัน กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่
นั่นเป็นเพราะว่า พวกเรา, ดาวเคราะห์โลกของพวกเรา
ตอนนี้ส่วนใหญ่กำลังอยู่ในมิติที่ 4 แล้ว

เพราะฉะนั้นแล้ว โลกแห่งความเป็นจริงของพวกเรา
จึงมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และจึงถูกอิทธิพลของความคิด
และ ความรู้สึกทั้งหลาย ของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บน/ในโลก
ส่งผลกระทบได้ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย

แต่ได้โปรดอย่าเพิ่งตื่นกลัวไป
เพราะว่ามันก็จะนำพาความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่ามาให้ด้วย
เพราะว่า เมื่อใดที่พวกคุณทุกๆคน
ซึ่งเป็น “ผู้พิทักษ์ผืนดิน” ของฉันนั้น
สามารถควบคุมธาตุทั้ง 4 ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเอง
ได้มากขึ้นแล้ว Elementals ที่อยู่ภายในร่างกายของพวกคุณเอง
ก็จะช่วยให้พวกคุณ สามารถรักษาระดับความสั่นสะเทือน
แห่งการเป็นผู้สามารถนั้นเอาไว้ได้

และนอกจากนี้ Elementals ทั้งหลาย
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ก็ยังจะช่วยทำให้ “ระดับความสั่นสะเทือนแห่งการเป็นผู้สามารถ” อันนั้น
เกิดขึ้นกับ Elementals ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของผู้อื่น
และที่อยู่ภายในดาวเคราะห์โลกได้อีกด้วย

ซึ่งด้วยวิธีนี้เอง Elementals ทั้งหลาย
จึงทำหน้าที่ช่วยยกระดับความสั่นสะเทือนของ
“บุคคลผู้นั้น” ขึ้น และในขณะเดียวกัน
ก็ยังจะช่วยยกระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก
และของทุกสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่บน/ในโลกนี้ขึ้นไปพร้อมๆกันอีกด้วย

ความสามารถในการควบคุมธาตุทางกายภาพทั้ง 4
ของร่างกายเนื้อของพวกคุณได้นี้
จะช่วยให้พวกคุณ กลายไปเป็นพันธมิตรคนสำคัญ
ของ Elementals ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเอง
และรวมถึง ที่อยู่ภายในดาวเคราะห์โลกของฉันด้วยได้

พวกคุณทุกคน มีพลังอำนาจมาตั้งแต่กำเนิดแล้ว
ในอันที่จะเรียกใช้ Elementals ทั้งหลาย
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเอง
ให้มาช่วยทำให้ตัวพวกคุณเอง มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
และให้มาช่วยในกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณเอง
รวมถึง ให้มาช่วยทำให้ดาวเคราะห์โลกมีสุขภาพที่ดี
และให้มาช่วยในกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของดาวเคราะห์โลกด้วย

ตอนนี้พวกคุณรู้หรือยัง ว่าพวกคุณคือสิ่งมีชีวิต
ที่ทรงพลานุภาพอย่างแท้จริงมากเพียงใด?

............................

 

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 6: วิญญาณของธาตุน้ำ – Undines
(Water Elementals – Undines)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


“ธาตุน้ำ” จะเกี่ยวข้องกับ “อารมณ์”
เช่นเดียวกันกับที่ “ธาตุลม” จะเกี่ยวข้อง “ความคิด”

วิญญาณของธาตุน้ำในตัวพวกคุณ ที่ชื่อว่า Undines นี้
จะทำหน้าที่ควบคุมของเหลวทั้งหมด
ที่อยู่ในร่างกายของพวกคุณ
รวมถึง เลือด และการไหลเวียนของเลือดด้วย
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจของพวกคุณโดยตรง

ซึ่งถ้าหัวใจของพวกคุณไม่ทำงานแล้ว
พวกคุณก็จะต้องตาย
ดังนั้น ถ้าหัวใจของพวกคุณทำงานไม่ได้ดีแล้วหละก็
พวกคุณก็จะประสบกับอารมณ์แห่งความกลัว
คือ กลัวที่จะตายนั่นเอง

ในทางกลับกัน อารมณ์แห่งความรัก
ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับหัวใจของพวกคุณด้วยเช่นกัน
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เพราะว่า หัวใจของพวกคุณ
ก็คือบ้านของจิตวิญญาณของพวกคุณด้วยนั่นเอง
และก็เป็นที่ๆจะสามารถรู้สึกถึงความรักแบบไม่มีเงื่อนไขได้

และเพราะว่าอารมณ์ทุกๆชนิด
คืออ็อกเต็ปใดอ็อกเต็ปหนึ่ง ที่อยู่ภายในขอบเขต
ของความเป็นขั้วของมิติที่ 3 นี้
ซึ่งมีปลายขั้วด้านหนึ่งเป็น “อารมณ์ดี”
หรือ “อารมณ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก”
ส่วนปลายขั้วอีกด้านหนึ่งเป็น “อารมณ์ร้าย”
หรือ “อารมณ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกลัว”

ดังนั้น หัวใจของพวกคุณ และ รวมถึง Undines
หรือ วิญญาณของธาตุน้ำนี้ด้วย
จึงทำหน้าที่เป็นผู้แจกจ่ายอารมณ์ทั้งหลาย
ของพวกคุณออกไป

อารมณ์ของพวกคุณ คือรากฐานของจิตสำนึกของพวกคุณ
เพราะว่าพวกมันจะบ่งบอกถึงความสามารถในการ
”รู้สึกตัวเอง” หรือ “การตระหนักรู้ถึงตัวเอง” ของพวกคุณ

เมื่อตอนแรกเกิดนั้น ตัวตนของพวกคุณก็คือ
“จิตวิญญาณของพวกคุณเอง”
แต่ภายหลังจากที่กระบวนการเจริญเติบโตดำเนินไปแล้ว
พวกคุณก็ค่อยๆตระหนักรู้ถึงร่างกายเนื้อของตัวเอง
และตระหนักรู้ถึง ego ที่ควบคุมมันอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุดแล้ว ego ของพวกคุณ
ก็กลายมาเป็นตัวตนของพวกคุณแทนไป

แต่โชคยังดีที่ เมื่อจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
ขยายตัวมากขึ้นแล้ว พวกคุณก็จะสามารถรู้สึกถึง
และ ตระหนักรู้ถึง ผู้ชี้นำทางทั้งหลาย ที่อยู่ภายในตัวเองได้
ซึ่งก็คือพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ (Holy Spirit),
ทวยเทพทั้งหลาย และ สมาชิกอื่นๆ
ของโลกภายในของพวกคุณเองนั่นเอง

จนในที่สุดแล้ว เมื่อพวกคุณเดินอยู่บนเส้นทางนี้ต่อไปเรื่อยๆ
พวกคุณก็จะตระหนักรู้ถึงตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวเอง
(Higher Self) ได้อย่างมีสติสัมปชัญญะ
ซึ่งก็คือตัวตนที่พวกคุณได้ดาวน์โหลดเอาเข้ามาไว้แล้ว
และตอนนี้ก็กำลังทำการบูรณาการ
ให้เข้ากับร่างกายเนื้อของตัวเองอยู่นั่นเอง

น้ำไขสันหลังของพวกคุณ ก็คือธาตุน้ำอย่างหนึ่งด้วย
และเพราะฉะนั้นแล้ว มันจึงอยู่ภายใต้การควบคุม
ของ Water Elementals หรือ Undines ด้วย

น้ำไขสันหลังของพวกคุณ จะไหลอยู่ระหว่าง
สมองและกระโหลกศรีษะของพวกคุณ
โดยจะไหลผ่านไปตามโพรงสมองทั้งหลายของพวกคุณ
และจะไหลขึ้น และ ลง ตามแนวกระดูกสันหลังของพวกคุณ
ระหว่างเส้นประสาท และ ไขสันหลังของพวกคุณ
เพื่อหล่อเลี้ยงเส้นประสาททั้งหลายเอาไว้
และเพื่อช่วยในกระบวนการประสานประสาทเบื้องต้นของพวกคุณ

......................

 

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 7: การสมรสอันวิเศษ (The Mystical Marriage)


เมื่อใดที่พวกคุณตื่นขึ้นมาแล้ว
เทวีกุณฑาลิณี หรือ ที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่ง
ในซีกโลกตะวันออกว่าเทวี Shakti
ก็จะไหลพุ่งขึ้นจากจักระที่ 1 ไปสู่จักระที่อยู่สูงกว่าขึ้นไป
ทีละจักระๆ เพื่อไปรวมกับ “ส่วนเติมเต็มอันศักดิ์สิทธิ์”
(Divine Complement) ของเธอเอง
ซึ่งก็คือพระศิวะ ที่อยู่ที่จักระที่ 7 ของพวกคุณนั่นเอง

การสมรสอันวิเศษ ระหว่างความเป็นเพศหญิงกับเพศชาย
ภายในตัวของพวกคุณเองนี้ ไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดการเริ่มต้น
ของกระบวนการแห่งการหลุดพ้นจากความเป็นขั้ว
ของเกมในมิติที่ 3 นี้ได้เท่านั้น
แต่ยังจะทำให้ความถี่ของคลื่น ในน้ำไขสันหลังของพวกคุณ
เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอีกด้วย และยังจะทำให้
ศักย์ไฟฟ้าในระบบประสาททั้งระบบของพวกคุณ
เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอีกด้วย

เมื่อใดที่เทวีกุณฑลิณีไหลขึ้นมาสู่จักระที่ 6
ซึ่งอยู่ระหว่างคิ้วของพวกคุณได้แล้ว
เธอก็จะทิ้ง “เมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนรูปแบบ” ของเธอเอาไว้
ในโพรงสมองของร่างกายเนื้อที่อยู่ในมิติที่ 3 ถึง 4 นี้ของพวกคุณ

แล้วจากนั้น พระศิวะซึ่งกำลังรอคอยคู่ครองอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
อยู่ที่จักระที่ 7 หรือตรงกลางกระหม่อมของพวกคุณอยู่
ก็จะขยายพลังงานของพระองค์ลงมาในโพรงสมองของพวกคุณ
เพื่อปฏิสนธิกับ “ไข่” ที่คู่ครองของพระองค์ได้ทิ้งเอาไว้ให้แล้ว

ซึ่งการจับคู่ของทั้งสองพระองค์นี้
ก็จะทำให้ตาที่ 3 ของพวกคุณเปิดออก
และจะก่อให้เกิดการตั้งครรภ์
ของกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณขึ้น

และก็จะไปกระตุ้นให้ศักย์ไฟฟ้า
ในน้ำไขสันหลังของพวกคุณเพิ่มสูงขึ้นอีกระดับหนึ่งด้วย

การกระแทกของคลื่นความถี่ที่สูงกว่านี้
จะลุกลามไปทั่วทั้งสมองของพวกคุณ
และจะลุกลามลงมายังไขสันหลังของพวกคุณด้วย
โดยอาศัยน้ำไขสันหลังของพวกคุณเป็นสื่อ

ดังนั้น ณ.จุดนี้ น้ำไขสันหลังของพวกคุณ
ซึ่งถูกชาร์จด้วยพลังงาน
ที่มีคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าเรียบร้อยแล้ว
ก็จะไหลอาบไปทั่วทุกปลายเส้นประสาท
ที่อยู่ในสมองและที่อยู่ในไขสันหลังของพวกคุณ

จากนั้นไขสันหลังของพวกคุณ
ก็จะแบ่งปันคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นนี้
ไปให้กับเส้นประสาททุกๆเส้น
ที่เชื่อมต่ออยู่กับกระดูกสันหลังของพวกคุณ
เพื่อส่งไปหล่อเลี้ยงทั่วทั้งร่างกายของพวกคุณต่อไป

และเมื่อระดับความสั่นสะเทือน
ของร่างกายเนื้อของพวกคุณเพิ่มสูงขึ้นแล้ว
ความสามารถในการขยายตัว
ของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ

และเมื่อสมอเรือถูกดึงขึ้นมาแล้ว
เรือก็จะสามารถเริ่มออกวิ่งได้แล้ว

พวกคุณ,มนุษย์โลกของฉัน,ได้เริ่มต้นออกเดินทางมาแล้ว
และก็กำลังให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
ในการเริ่มต้นออกเดินทางของพวกเขาอยู่ ด้วยความรัก

ฉันอยากจะขอบคุณพวกคุณ
ที่ได้ช่วยชะลอกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบ
ไปเป็นกายแห่งแสงสว่างของตัวเองเอาไว้ก่อน
เพื่อที่จะรอคอย “ชั่วขณะแห่งปัจจุบันขณะ” อันนั้น
ซึ่งเป็นชั่วขณะที่ดาวเคราะห์โลกทั้งดวงของฉัน
และทุกสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่บน/ในฉัน
จะได้กลับไปสู่บ้านของตัวเองซะที
ซึ่งก็คือ กลับไปเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเรา
พร้อมๆกันหมดซะทีนั่นเอง

และเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมเอาไว้สำหรับชั่วขณะอันนั้น
ฉันจึงอยากจะนำพาพวกคุณ ไปติดต่อสื่อสาร
กับพี่น้องตัวตนอื่นๆของ Oversoul ของพวกเรา
ซึ่งก็คือเหล่า Elementals ทั้งหลายที่อยู่ในมิติที่ 4

และในทางกลับกัน Elementals เหล่านี้
ก็จะช่วยแบ่งปันข้อความของพวกคุณ
ไปให้กับธาตุทั้ง 4 ที่อยู่ในมิติที่ 1 และ 2 ของพวกคุณเองด้วย
เพื่อช่วยบำบัดรักษา และเปลี่ยนสภาพ
ร่างกายเนื้อในปัจจุบันนี้ของพวกคุณ

แล้วจากนั้น Elementals ของพวกคุณ
ก็จะติดต่อสื่อสารกับ Elementals ของฉัน
และของทุกสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่บน/ในตัวฉันอีกต่อหนึ่ง

.........................

 

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 8: การติดต่อสื่อสารกับ Elementals


การติดต่อสื่อสารกับ Elementals
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง
เป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นตอนหนึ่ง
ในการกลายเป็น “เจ้าแห่งพลังงาน” (Master of Energy)
ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่มีมาแต่กำเนิดของพวกคุณ

เมื่อใดที่พวกคุณ สามารถทำงานร่วมกับอาณาจักร Elementals
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเอง
ได้อย่างมีสติสัมปชัญญะแล้ว
พวกคุณก็จะสามารถทำงานร่วมกับ
อาณาจักร Elementals ที่อยู่ภายในร่างกายของฉัน
ได้อย่างมีสติสัมปชัญญะด้วย

เอาหละ..พวกเราจะมาเริ่มต้นกระบวนการนี้กัน
โดยเริ่มจาก Fire Elementals
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเองก่อน


Salamanders

ให้หายใจเข้าลึกๆยาวๆช้าๆ แล้วให้ทำความรู้สึกถึง
Fire Elementals ที่ชื่อ Salamanders นี้
โดยทำความรู้สึกถึงสายฟ้าแล็บขนาดเล็กๆ จำนวนมากมาย
ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ทั่วทั้งร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง

ให้รับรู้ถึงแสงที่แล็บแปลบปลาบออกมา
ของแต่ละ synapse ที่เกิดขึ้นอยู่ภายใน
ระบบร่างกายเนื้อของพวกคุณ
อันเนื่องมาจาก Salamanders
กำลังยุ่งอยู่กับการทำงานภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
อย่างที่เห็นนั่นแหละ

ให้ทำความรู้สึกถึงไฟที่อยู่ภายในเหล่านี้
แล้วให้เรียกหา Salamanders
เพื่อให้ช่วย update วงจรไฟฟ้าของพวกคุณ
เพื่อให้มันสามารถยอมรับและบูรณาการเข้ากับ
คลื่นความถี่ที่สูงกว่า ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามา
สู่ร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่นี้ได้

ให้หวนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาที่พวกคุณ
เคย “หลุดจากการควบคุม” ไฟ ที่อยู่ภายในของตัวเอง
ช่วงไหนก็ได้ แล้วให้หลับตาลง
แล้วจินตนาการว่า ได้กลับไปสู่สถานการณ์นั้นอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นก็ให้เรียกหา Fire Elementals
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเอง
ให้มาช่วยทำให้ความตื่นเต้นของพวกคุณสงบลง
และทำให้การดิ้นรนของพวกคุณบรรเทาลง

พวกเขาอาจจะค่อนข้างแปลกใจ
ที่รู้ว่าพวกคุณก็รู้จักพวกเขาด้วย ว่าพวกเขา
มีส่วนสำคัญอย่างมากในชีวิตของพวกคุณอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็จะรีบตอบสนอง
ต่อคำขอของพวกคุณอยู่ดี

คราวนี้..ให้นึกขอบคุณพวกเขา
สำหรับความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่ของพวกเขา
และโดยผ่านทางพวกเขา
ให้นึกขอบคุณ Fire Elementals ทั้งหมด
ของดาวเคราะห์โลกของฉันด้วย

ให้ตั้งใจให้แน่วแน่ว่า พวกคุณจะแสวงหาหนทางต่อไป
เพื่อนำเอาสิทธิ์อันชอบธรรมที่มีมาแต่กำเนิดของตัวเอง
ในการเป็น “เจ้าแห่งพลังงาน” (Master of Energy)
กลับคืนมาให้ได้ เพื่อที่พวกคุณ
จะได้แผ่กระจายความเป็นเจ้าเหนือพลังงานอันนั้น
ไปสู่ทุกผู้ทุกนาม โดยผ่านทาง Elementals ทั้งหลาย
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเอง


Gnomes

คราวนี้..ให้หายใจเข้าลึกๆ ไปสู่แก่นแท้ของ
Fire Elementals เหล่านี้ แล้วจากนั้น
ก็ให้หายใจออกช้าๆ ไปสู่เพื่อนร่วมงานของพวกเขา
ซึ่งก็คือ Earth Elementals ที่ชื่อ Gnomes นั่นเอง

ให้จินตนาการว่า Gnomes เหล่านี้
กำลังสร้าง และ ซ่อมแซมร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่

ให้สแกนไปทั่วทุกๆส่วนของร่างกายเนื้อของตัวเอง
เพื่อหาจุดที่กำลังเจ็บป่วย หรือกำลังไม่สบายอยู่
จากนั้นก็ให้เรียกหา Gnomes อย่างมีสติสัมปชัญญะ
เพื่อให้มาช่วยเยียวยารักษาจุดนั้นๆ

พวกเขาก็ด้วย อาจจะรู้สึกแปลกใจในช่วงแรกๆ
ที่รู้ว่าพวกคุณก็รู้จักพวกเขาด้วย
แต่ว่าพวกเขาก็จะรีบทำตามคำขอของพวกคุณอยู่ดี

ให้ขอบคุณพวกเขา สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่พวกเขาได้ทำให้กับคุณ

และโดยผ่านพวกเขา ให้ขอบคุณ Earth Elementals ทั้งหมด
ของดาวเคราะห์โลกของฉันด้วย

และเมื่อพวกคุณสามารถให้ความร่วมมือกับ
Earth Elementals ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเอง
เพื่อสร้างความเสถียรให้กับตัวเองมากขึ้นได้แบบนี้แล้ว
ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังทำให้ดาวเคราะห์โลก
มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอยู่ด้วย


Sylphs

คราวนี้..หายใจเข้าลึกๆ เข้าไปใน “ช่องว่าง”
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ซึ่งช่องว่างที่อยู่ระหว่างกลางเหล่านี้
อาจจะดูเหมือนว่ามันว่างเปล่า แต่แท้ที่จริงแล้ว
มันเต็มไปด้วยศักยภาพแห่งความเป็นไปได้

จงเรียกหา Air Elementals ที่ชื่อ Sylphs
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง
เพื่อให้มาช่วยทำให้ช่องว่างเหล่านี้สะอาดหมดจด
และรวมถึง มาช่วยทำให้อ็อกซิเจนทั้งหมด
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ สะอาดหมดจดด้วย

และด้วยความสะอาดเอี่ยมอ่องของร่างกายเนื้อของพวกคุณแล้วนี้
ก็ให้ทำความรู้สึกถึงความใสสะอาดของจิตใจของพวกคุณเอง
ที่ก็มีเพิ่มมากขึ้นแล้วด้วยเช่นกัน

ให้ขอบคุณพวกเขา สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่พวกเขาได้ทำให้กับพวกคุณ
และโดยผ่านทางพวกเขา ให้ขอบคุณ Sylphs ทั้งหมด
ที่อยู่ในดาวเคราะห์โลกของฉันด้วย

จงมีสติรับรู้ถึงความคิดของตัวเองในทุกๆลมหายใจออก
ก่อนที่พวกคุณจะส่งมันออกมา
และก็..ในทุกๆลมหายใจเข้า
ให้ตระหนักรู้ถึงความคิดของคนอื่นด้วย

เพราะว่าพวกคุณไม่ได้อยู่คนเดียว
ยกเว้นแต่จะถูกมายาการของมิติที่ 3 หลอกอยู่เท่านั้นเอง

ให้ทำความรู้สึกถึง
“ความเป็นหนึ่งเดียวกันของความคิดของคนทั้งโลก”
ที่ Air Elementals เป็นผู้พัดพาไป

จากนั้นก็ให้ตั้งใจให้แน่วแน่ว่า
พวกคุณจะระวังระไวความคิดของตัวเอง
ก่อนที่จะส่งเข้าไปรวมกลุ่มกับความคิดของคนอื่นๆ
ใน “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก” ทุกๆครั้งไป

แล้วจากนั้น ก็ให้ขอบคุณ Sylphs ทั้งหลาย
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเองอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่ของพวกเขา
ที่มีต่อพวกคุณ และที่มีต่อดาวเคราะห์โลก


Undines

ตอนนี้..ให้ใช้เวลาสักครู่หนึ่ง เพื่อเชื่อมต่อด้านอารมณ์
กับ Water Elementals ที่ชื่อ Undines
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง

ให้รู้สึกถึง Undines ที่กำลังเต้นไป
พร้อมๆกับจังหวะการเต้นของหัวใจของพวกคุณเองอยู่
และที่กำลังไหลไปพร้อมๆกับกระแสเลือดของพวกคุณเองอยู่

ให้ทำความรู้สึกว่า พวกเขากำลังประสานการทำงานกับ
Air Elementals หรือ Sylphs อยู่ เพื่อลำเลียงอ็อกซิเจน
ไปหล่อเลี้ยงทั่วระบบร่างกายเนื้อของพวกคุณ

ให้สัมผัสรู้ถึงการหลั่งไหลของ Water Elementals
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง
ซึ่งพวกเขาไม่ได้กำลังทำงานอยู่
และก็ไม่ได้กำลังตรากตรำอยู่ด้วย
เพราะว่าพวกเขาแค่เป็นเช่นนั้นเอง

ให้เรียกหา Undines ที่อยู่ภายในตัวพวกคุณเอง
เพื่อขอให้พวกเขาสอนพวกคุณ
ถึงศิลปะแห่งการ “ใช้ชีวิตอยู่แบบไหลไปตามกระแส”

แล้วจากนั้นก็ให้ขอบคุณพวกเขา
สำหรับความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่ของพวกเขา
ที่ได้ทำให้พวกคุณอยู่ดีมีสุขมาได้จนถึงเดี๋ยวนี้

เมื่อพวกคุณสามารถรู้สึกถึงการหลั่งไหลของกระแส
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเองได้แล้ว
พวกคุณก็จะเผื่อแผ่ความตระหนักรู้
ถึงความรู้สึกสงบและนิ่งอันนั้น
ออกมาสู่โลกภายนอกของพวกคุณด้วย
โดยผ่านทางความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ของ Elementals ทั้งหลาย

ให้รู้สึกถึง Undines ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ว่ากำลังอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร
และในการประสานงาน ให้กับ Elementals ทั้งหลาย
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่

ซึ่ง Elementals ทั้งหลายเหล่านี้
ก็จะไปทำให้ธาตุทั้ง 4 ซึ่งก็คือ ธาตุดิน, น้ำ, ลม, ไฟ
ที่อยู่ภายใน “ชุมชน” ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง
ให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อไป

พวกคุณคือกัปตันของยานพาหนะลำนี้
และพวกคุณก็มีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ
ที่จะอยู่ในตำแหน่งนี้ด้วย

และตอนนี้ ไม่ว่าจะมีความสอดประสานกลมกลืนกัน
หรือ ความขัดแย้งใดๆก็ตาม
ที่เกิดขึ้นภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง
พวกมันก็จะถูกฉายออกมา
สู่โลกภายนอกของพวกคุณเองทั้งหมด
โดยผ่านทาง “จิตสำนึกอันเป็นหนึ่งเดียวกัน”
ของ Elementals ทั้งหมด

ดังนั้น จงระวังระไวสิ่งที่พวกคุณกำลังจะฉายออกมาให้ดี
เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว สิ่งอื่นก็จะถูกฉายออกมาแทน อย่างแน่นอน

.............................

 

บางส่วนของข้อความจากไกอา
เรื่อง: วิญญาณของธาตุทั้ง 4 (Elementals)

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ตอนที่ 9: การบรรลุความเป็นคุรุ (Gaining Mastery)


พวกคุณจะสามารถเป็นผู้ควบคุมสิ่งใดได้
พวกคุณก็จะต้องมีความตระหนักรู้ถึงสิ่งนั้น
อย่างมีสติสัมปชัญญะเสียก่อน

ดังนั้น ด้วยการให้ความสนใจ
และด้วยการรู้จักและยอมรับพวกเขา
Elementals ทั้งหลายของพวกคุณ
ก็จะสามารถทำงานร่วมกันกับพวกคุณ
และทำงานร่วมกันเอง
ได้อย่างสอดประสานกลมกลืนกันมากยิ่งขึ้น

ซึ่งเมื่อใดที่พวกคุณ สามารถทำให้ทีมงามหลากมิติ
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของตัวเอง
ทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานกลมกลืนกันได้
อย่างมีสติสัมปชัญญะแล้ว
พวกคุณก็จะไปจุดประกาย
ให้ความมุ่งมั่นแห่งการร่วมมือร่วมใจกันอันนั้น
เริ่มต้นเกิดขึ้นกับโลกภายนอกตัวพวกคุณเองด้วย
ด้วยการเพียงแค่พวกคุณไปอยู่ที่นั่นเฉยๆเท่านั้นเอง

แล้วดวงอาทิตย์ ก็จะฉายแสงอยู่เหนือศรีษะของพวกคุณ
น้ำก็จะสงบลงเมื่อพวกคุณเดินผ่านไป
พื้นดินก็จะเบ่งบานในทุกๆย่างก้าวที่พวกคุณเหยียบย่ำลงไป
และท้องฟ้าเหนือพวกคุณ ก็จะสว่างสดใส

ใช่แล้ว..ชาวโลกที่รักของฉัน
นั่นแหละคือความสง่างามและยิ่งใหญ่
ที่พวกคุณเคยมี สมัยตอนที่ลงมาเหยียบบนพื้นโลกใหม่ๆหละ

และมันก็คือความสง่างามและยิ่งใหญ่
ที่พวกคุณกำลังจะได้รับกลับคืนมา
ในช่วงเวลาของการเลื่อนระดับขึ้นแบบทั้งดาวเคราะห์โลกนี้หละ

พวกเราจะสร้างชั่วขณะนั้นให้เกิดขึ้นด้วยกัน
ระหว่างมนุษย์โลก และ ดาวเคราะห์โลก
และ..แน่นอนว่า..รวมทั้ง “ผู้พิทักษ์ผืนน้ำ”
หรือเหล่าปลาวาฬและปลาโลมา อันเป็นที่รักของพวกเราด้วย

จงตื่นและลุกขึ้นมาเถิดที่รักทั้งหลาย
วันใหม่ของพวกเราได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว


ฉันคือไกอา

..........................

 

ขอบคุุณ คุณ Chayutt มากเลยครับ ที่มีข้อมูลดีๆมาแบ่งปันกันตลอดในหลายๆกระทู้ครับ

 

ข้อความล่าสุดยิ่งตระหนักให้รู้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของสรรพสิ่ง..เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว..ขอบคุณที่สละเวลานำเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันนะค่ะ

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ค่ะ

 

ข้อความบางส่วนของ Montague Keen - June 23, 2013
จากเวป Montague Keen - June 23, 2013

ตอนที่ ๑

คุณจะได้รับแรงบันดาลใจกับผู้ที่คุณเชื่อใจและในสิ่งที่คุณต้องทำ
นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากนะ...คุณต้องมั่นใจเสมอว่า “you are grounded”
(คุณคือตัวกลางหรือสายดินที่เชื่อมต่อกับโลกหรือแผ่นดินได้=ผู้แปล)

จงส่งความรักให้แก่ผู้ที่อยู่ในบัญชีดำที่คุณคิดที่ทำร้ายเขา
และส่งให้กับผู้ที่ยังไม่รู้จัก “ความรัก”...
ซึ่งบางทีอาจจะทำให้คนเหล่านั้นได้หันกลับมาสนใจใน “พลังแสงแห่งรัก “ นี้อีกครั้ง
และจะเป็นการร้องขอความเมตตาที่เขายังพอมีอยู่
ได้โปรดรับ”รัก”ที่คุณได้ส่งให้และคุ้มครองคุณด้วยเถิด...
ซึ่งเราต่างก็รู้ว่า “พลังของความรัก” นั้น ไร้ซึ่งขอบเขต...

ขณะนี้มีคุณหลายคนกำลังประสบกับอาการเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
จริง ๆ ก็แค่หลับตาและปล่อยให้กระบวนการของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างคุณมันทำงานเท่านั้น
ก็เพียงพอสำหรับความจำเป็นของการเลื่อนระดับที่สูงขึ้นไปนี้แล้วล่ะ
และจงให้การต้อนรับกับ “ความเปลี่ยนแปลง” ที่คุณรอคอย
มันไม่มีอะไรต้อง “กลัว” ...นี่เป็นเพียงกระบวนการของธรรมชาติ...
เชิญมันเข้ามาเถอะ...ไม่ต้องตกใจหรือรีบไปหาหมอที่ไหน
เพราะอาการ “ความเจ็บปวด” ที่มันมาจากความเปลี่ยนแปลงที่คุณกำลังรับมืออยู่นี่ ...
มันไม่ได้ต้องการยาชนิดใดมารักษา...
แต่ต้องการเพียงการเพิ่มระดับการสั่นสะเทือนเท่านั้น....

ในระหว่างนี้...คุณต้องคอยระวังข้อมูลผิดๆที่มันจะถือโอกาสนี้ส่งให้คุณ...
คุณต้องตรวจสอบ “ความจริง” ด้วยดวงตาทั้งสองของคุณให้ดีนะ

จงยอมรับ...กับสิ่งที่คุณเห็นกับตาคุณเอง( ณ.ขณะนั้น=ผู้แปล)
และอย่าได้ยอมรับกับสิ่งที่คุณบอกว่า “ฉันได้เห็น”...

คุณต้องควบคุมตัวเองให้ดีและเลิกทำตัวเป็นแกะ
ด้วยการปล่อยให้คนอื่นมาควบคุมคุณ......................

 

ข้อความบางส่วนของ Montague Keen - June 23, 2013
จากเวป Montague Keen - June 23, 2013

ตอนที่ ๒


คุณเคยบอกว่า....
ศาสนาเกิดขึ้นเพื่อให้คุณยอมรับ
ด้วยการผ่าน “ความกลัว”...โดยมิให้คุณมีคำถาม...
และพวกเขาก็ล้มเหลวกับการย้ำเตือนพวกคุณในเรื่อง “ ความปรารถนาที่เสรี” ( Free will)
งั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณแล้วละนะ...
ที่จะตัดสินใจว่าคุณควรจะยอมรับในเรื่องอะไร...

ทุกศาสนาล้วนถูกบัญญัติมาจาก “ความกลัว” ...
และใช้ในการควบคุมคุณได้สำเร็จซะด้วย
ตอนนี้ ... ถึงเวลาที่คุณต้องปล่อยให้ “ความรัก” มาแทนที่ “ความกลัว”...แล้วนะ
และเมื่อใดที่คุณได้เห็น “ความรัก” ด้วยตาคุณเอง...
ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแน่นอน...

ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เกิดขึ้นแล้ว...
ดังนั้น...ไปตามน้ำเถอะนะ...
เมื่อใดคุณได้เดินตามผู้ที่มานำทางคุณไปสู่ “แสงแห่งรัก”
คุณจะสัมผัสได้ว่า การฆ่าฟัน และการทำร้ายเด็กและผู้บริสุทธิ์ มันหมดไปเอง
ยังกับว่า พวกอาชญากรรมอันชั่วร้ายมันปรากฏขึ้นไม่ได้ หากเจอ “แสงแห่งรัก” นี่
พวกทุจริตจิตเสื่อมทรามก็จะลบตัวเขาออกจากโลกใบนี้เอง...
ไม่ต้องห่วง...เพราะทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้อย่าง “ ถูกที่ และถูกเวลา”
ด้วยจิตวิญญาณของเราที่คอยกำกับดูแล “การเปลี่ยนแปลง” นี้อยู่....................

ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของโลก...
เป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงในทุกระดับ ไม่ว่าทาง จิต กาย และ จิตวิญญาณ
และถึงเวลาที่คุณจะได้รู้ว่า แท้ที่จริง “คุณคือใคร”...
ด้วย ”แสงแห่งรัก” ที่เจิดจรัสในจิตวิญญาณของคุณ...

“ความมืดไม่เคยได้รับคำเชื้อเชิญจากแสงสว่าง”

Always, your adoring, Monty.

(rose)(rose)(rose)(rose)(rose)(rose)(rose)

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=DyoPZQ-1ZxU]Celtic Woman - When You Believe - YouTube[/ame]

 

love


เริ่มเข้ามาอ่านกระทู้ของคุณชยุตและรู้จักเพื่อนๆในกระทู้เหล่านี้ตั้งแต่ปลายปี 2012 แต่เฮ้อ...เพิ่งร่วมแสดงความคิดเห็นได้ก็วันนี้เอง (สมัครสมาชิก 3 ครั้งแน่ะ) ในที่สุดก็ได้มีโอกาสตอบโพส มันเป็นอะไรที่น่าปลาบปลื้มมากที่ได้อ่านข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย หัวใจมันฟูๆฟ่อง มันดีใจจนอยากร้องไห้...อาจจะเว่อร์ไปนิด แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆค่ะ...ว่าในที่สุดความโหยหาโลกที่เต็มไปด้วยการเกื้อกูล โลกที่อิสรภาพตั้งอยู่บนความรักและเมตตาก็มีจริงๆ ปลื้มมากที่ได้รับการยืนยันจากรูปธรรมต่างมิติมากมาย...ว่ามนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อรับกรรมและตายไปเพื่อมาเกิดใหม่นับชาติไม่ถ้วนอย่างไร้ความหมาย...ดีใจที่ได้รู้ว่าเรามาเพื่อการเรียนรู้อันยิ่งใหญ่
เคยฝันดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตว่า ล่องลอยอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว สงบเงียบ แต่ไม่เหงาเลย...เหมือนที่ว่าง ดวงดาว แสงสีืั้งหลายเป็นเพื่อนเราหมด มันสุขสบายอย่างมาก แต่พอจะยกแขนขาของตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่าตัวเราไม่มีร่างกาย มันแปลกแต่น่าทึ่งมาก เรามีแต่การรับรู้และมองเห็นที่อัศจรรย์ชัดเจนมากๆด้วย รู้สึกอิสระและสบายจนบรรยายไม่ถูก ทุกวันนี้ยังคิดถึงฝันนั้นเสมอ
ยิ่งได้อ่านที่คุณชยุตและเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนช่วยแปลให้อ่านตลอดมายิ่งตอกย้ำความยินดี เย้...ในที่สุด ตัวตนที่แท้ของเราก็ยิ่งใหญ่และมีอิสรภาพยิ่งนัก มิใช่ผู้ทนทุกข์อยู่ในภพชาติแต่อย่างใด เราคือนักเรียนที่ทรงภูมิต่างหาก อิอิ^^
อยากบอกว่ารักและขอบคุณทุกคนอย่างแท้จริงค่ะ rabbit_sleepy

 

การติดต่อสื่อสารกับ Elementals
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง
เป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นตอนหนึ่ง
ในการกลายเป็น “เจ้าแห่งพลังงาน” (Master of Energy)
ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่มีมาแต่กำเนิดของพวกคุณ

นี่แหละคือ ความเป็นพระเจ้าในตัวเอง

คุณต้องควบคุมตัวเองให้ดีและเลิกทำตัวเป็นแกะ
ด้วยการปล่อยให้คนอื่นมาควบคุมคุณ......................

 

ข้อความบางตอนของ
The Galactic Federation of Light - 23 June 2013
Precepts of the Divine Heart
http://galacticchannelings.com/english/sanat23-06-13.html


ความเป็นเอกภาพในทางความคิดและทางเดินในการดำเนินชีวิต
ระหว่างคนธรรมดากับ”ผู้รู้แจ้ง” นั้น มันแตกต่างกัน
ที่ความคิดที่ว่า … “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”…

หากคุณคิดว่า “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้... มันจะเป็นไปได้ “
คุณก็เป็นมนุษย์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
(เพราะความคิดนี้จะเป็นของผู้ที่ยังมีการขอพร
ขอสิ่งนั้นสิ่งนี้จากสิ่งที่เขาคิดว่าจะบันดาลให้ได้=ผู้แปล)


แต่หากคุณคิดว่า มีเพียงชีวิตและลมหายใจ...
“ความเป็นไปไม่ได้” ก็ไม่อาจก่อร่างขึ้นมาได้...
นั่นก็เท่ากับคุณเป็นผู้หนึ่ง(ผู้รู้แจ้ง=ผู้แปล)
ที่อยู่ในอาณาจักรแห่งดินแดนศักด์สิทธิ์แล้ว
(ผู้รู้แจ้งคือผู้ที่มีชีวิตอยู่กับลมหายใจหรือปัจจุบันขณะ...
ย่อมพ้นแล้วซึ่งคำว่า “เป็นไปไม่ได้”...=ผู้แปล)

 

ไม่มีสิ่งใดนอกจากดนตรี:
องค์ประกอบสำคัญของทฤษฏีซูเปอร์สตริง

บางตอน...จาก The Elegant Universe
Superstrings Hidden Dimensions and the Quest for the Ultimate Theory
ผู้เขียน Brian Greene
ผู้แปล: ดร. อรรถกฤต ฉัตรภูติ,ดร.ปริญญา การดำริห์

มีการใช้ดนตรีเป็นตัวเปรียบเทียบ
เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้พิศวงในคำถาม
เกี่ยวกับจักรวาลมานานแล้ว
นับตั้งแต่ "ดนตรีของทรงกลม"(music of the spheres)
ของปีทากอรัสในสมัยโบราณ
ไปจนถึง "ความกลมกลืนของธรรมชาติ" (harmonies of nature)
ที่ได้นำไปสู่การค้นหาความจริงมาหลายยุคหลายสมัย

เราได้ค้นคว้าหาบทเพลงของธรรมชาติ
ตั้งแต่ในการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ของวัตถุท้องฟ้า
รวมไปถึงการระเบิดอย่างโกลาหลของอนุภาคที่เล็กกว่าอะตอน

การค้นพบทฤษฏีซูเปอร์สตริงทำให้การอุปมาทางดนตรี
กลายเป็นความจริงที่น่าตกใจ เนื่องจากตัวทฤษฏีเสนอว่า
สภาพภูมิประเทศในระดับจุลภาคนั้นเต็มไปด้วยเส้นสตริงขนาดเล็ก
ซึ่งรูปแบบในการสั่นของพวกมันควบคุมวิวัฒนาการของจักรวาล
ตามทฤษฏีซูเปอร์สตริง สายลมของการเปลี่ยนแปลง
พัดผ่านไปทั่วจักรวาลของชาวกรีกโบราณ.....................

ปล... music of the spheres เป็นแนวคิดเชิงปรัชญาโบราณ
ที่ว่าสัดส่วนการเคลื่อนที่ของวัตถุในท้องฟ้า
เช่นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ประกอบกันเป็นดนตรี
คำว่าดนตรีนี้โดยปกติแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับการได้ยินดังที่เข้าใจ
แต่เป็นเรื่องของความกลมกลืนหรือแนวคิดทางคณิตศาสตร์หรือทางศาสนา=ผู้แปล

ไม่มีสิ่งใดนอกจากดนตรี
Music vidio ชุดนี้ดูดี...

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=I-G8IfjPAII]Josh Groban - You Are Loved (Don't Give Up) - YouTube[/ame]

 

.
เฮ้อ..กว่าจะอ่านจบชุดนี้ได้ ง่วงนอนซะจริงจริง ไม่รู้เป็นไร
รู้สึกเข้าใจยากจริงแฮะ ทำไมกันน้า แต่ก็ขอบคุณหลาย

ค้างคาวแห่งแสง / ผีเสื้อสื่อสาร
.

 

ใจเย็นๆนะ...สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาและควรที่จะต้องยากขึ้นเรื่อย ๆ ...

ก็เหมือนการปีนเขา...ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไหร่
"ความกลัว" ก็ทวีมากขึ้นเท่านั้น
การจะพิชิต "ความกลัว"ที่มากขึ้นๆ
สมทบกับความกลัวที่เพิ่งผ่านมาหมาด ๆ
แต่ยังมิได้ขจัดให้หมดสิ้น เพียงแค่พอผ่านๆได้เท่านั้น
เลยทำให้"ความกลัว" หนักเพิ่มขึ้น ๆ...

อย่างบางคนอุตส่าห์ปีนมาตั้งสูง เกือบถึงยอดเขาละ..
พอ"ความกลัว"ที่สะสมไว้มันเริ่มหนักขึ้น ๆ
เพราะเจ้าตัวไม่จัดการกับมันให้เด็ดขาดสักกลัว
สุดท้ายก็ต้องยอมยกธงขาว...แพ้มันง่าย ๆซะงั้น...
เลยกลิ้งตกจากเขา ลงมาตั้งต้นใหม่ก็มี ลงมาตายก็มี
หรือกลิ้งลงมาจมแผ่นดินไปก็มี...( ตกรูดเลย...)
อย่างนี้ก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ...
...และนี่ก็เป็นความยากลำบากในการที่จะพิชิตยอดเขา


การเลื่อนระดับจิตก็เช่นกัน...
เมื่อถึงเวลาที่จิตจะต้องเลื่อน...ยิ่งเลื่อนระดับสูงมากเท่าไหร่
ก็ต้องต่อสู้กับ "ความกลัว"..."ทุกข์"กับ ความกลัว
และเจออุปสรรค ที่จะยากและมากขึ้น ๆ เหมือนกัน
จะต่างกันก็ตรงรายละเอียดของความกลัว
ที่การปีนเขา ความกลัว อาจมีแค่ กลัวตกมาตาย
แต่เลื่อนระดับจิตนี่...สารพัด...กลัวไม่มีคนรัก กลัวแก่ต้องอยู่คนเดียว กลัวผี
กลัวไม่มีเงิน กลัวไม่มีงาน กลัวป่วย กลัวตาย...จิปาถะเยอะแยะ...
ก็เลยยากกว่าปีนเขาเยอะ ที่กลัวแต่เรื่องตายเรื่องเดียวในตอนที่ปีนเท่านั้น...

ก็ขอนำเสนอวิธีอ่านในเรื่องของข้อความต่างมิตินี้...
ให้คุณเลือกอ่านข้อความที่คุณชยุตได้แปลไว้
ตั้งแต่หลายปีมะโว้โน่นดูก่อน(หรือเลือกอ่านดูใหม่)
โดยเลือกข้อความชนิดที่ว่า คุณอ่านแล้วเข้าใจได้ดี
อ่านแล้วสนุก สบาย ไม่ง่วงหงาว หาวนอน...
แล้วก็ค่อย ๆ ไล่อ่านของปีมะเส็งนี้...คุณก็จะเข้าใจมากขึ้น ๆ...


ไม่มีคำว่า "ยาก" หากตั้งใจทำจริง...