ข้อคิดก่อนฟังธรรม (หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก)

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย songsakth, 22 พฤษภาคม 2018.

  1. songsakth

    songsakth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,964
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +2,661
    image.jpeg

    ในชีวิตประจำวัน เราควรจะได้ยินได้ฟังธรรมะบ้าง ส่วนอื่นเราก็ได้ยินได้ฟังกรอกเช้ากรอกเย็น เว้นเสียแต่หลับจึงไม่ได้ยิน แต่ที่ได้ยินนั้นโดยมากจะเป็นเรื่องวัฏฏะ ที่จะทำให้จิตใจลุ่มหลงมัวเมากับกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ เหล่านั้น

    หลวงพ่ออยากจะให้พวกเราฟังธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หรือของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้แสดงธรรมให้พวกเราฟังต่างกรรมต่างวาระต่างองค์ ถ้าท่านผู้ใดเคารพนับถือครูบาอาจารย์ท่านใด ครูบาอาจารย์องค์ไหนที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ในหลักพระธรรมวินัย ควรจะฟังพระธรรมเทศนาของท่านบ้าง อย่างน้อยถ้าไม่ทุกวันก็ให้เป็นวันพระ แปดค่ำ สิบห้าค่ำ หรือวันเสาร์อาทิตย์ที่พวกเราว่าง ก็น่าจะฟังให้พระได้เทศน์ได้สอนบ้าง เพื่อจะนำพระธรรมคำสั่งสอนนั้นมาประพฤติปฏิบัติปรับปรุงกายวาจาใจของเรา ถ้าพวกเราไม่ได้ยินพระธรรมคำสั่งสอนหรือไม่ได้ยินพระพูดพระเทศน์เสียเลย พวกเราจะหวังความสุขทางด้านจิตใจคงเป็นไปได้ยาก

    แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้ฟังเทศน์หลวงพ่อทุกวัน จะองค์ไหนก็ได้ที่ท่านแสดงธรรมมีกฎมีเกณฑ์ มีเหตุมีผล พวกเราก็ควรจะฟัง ศึกษา ติดตามพระธรรมเทศนาของท่าน และนำมาประพฤติปฏิบัติ ปรับปรุงกายวาจาใจของเรา

    ในการฟังธรรม คนที่ฟังธรรมแบ่งเป็น ๔ ประเภท เปรียบเทียบกับถ้วยน้ำชา ๔ ใบ

    ใบที่หนึ่ง คว่ำปาก จะเทน้ำชาเท่าไรมันก็ไม่ขังไม่เข้า เพราะคว่ำปากไปแล้ว นี่คือคนที่ไม่ยอมรับฟังเหตุผล จะมีเหตุผลดียังไงก็ไม่ยอมรับทั้งนั้น

    ใบที่สอง หงายปากแต่ก้นรั่ว ถึงจะเทยังไงก็รับไม่อยู่ เพราะรั่วที่ก้นถ้วย เหมือนกับคนที่ใครพูดที่ไหนฟังหมด ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ฟังหูขวาทะลุหูซ้าย แปลว่าไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้ยึดแนวทางปฏิบัติ

    ใบที่สาม ถ้วยน้ำชาเต็มแก้ว ใครจะพูดให้ฟังก็เอาเข้าไม่ได้แล้ว เพราะเต็มแก้วแล้ว คือคนที่ได้ยินได้ฟังแล้ว ถ้าเข้ากับความคิดเห็นของตนเองก็บอกว่าเขาพูดถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้ยอมรับเขา แต่ยอมรับเพราะตรงกับที่เราคิดอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาพูดมาถึงจะมีเหตุผลแต่ไม่ตรงกับความคิดตัวเอง คนประเภทน้ำชาเต็มแก้วจะบอกว่าไม่ใช่ ไม่ถูก เหตุผลของคนอื่นผิดหมด คนประเภทนี้มีเยอะ เชื่อมั่นในตนเองจนไม่ยอมฟังเหตุผลของคนอื่น

    ใบที่สี่ แก้วน้ำชาหงาย น้ำชาพร่อง แก้วหงายพร้อมที่จะรับได้ทุกอย่าง เมื่อเทน้ำชาลงไป น้ำชาก็ไปขังในแก้วนั้น ก็พร้อมที่จะรับไปพิจารณาเหตุและผล ถ้าเหตุไม่ดีก็ไม่เอา ถ้าเหตุดีก็รับไว้


    ใบที่สี่นี้ เข้าตามหลักที่พระพุทธเจ้าบอกว่า กะลามะพร้าว ตุ่ม โอ่ง อะไรก็ตาม ถ้าคว่ำปากลงไปแล้ว ถึงน้ำฝนจะตกลงมาตั้งกัปป์ตั้งกัลป์ก็ไม่สามารถขังน้ำได้ เพราะว่าปากมันคว่ำ คนที่ไม่ยอมรับเหตุผลแล้ว ถึงจะพูดธรรมะดีขนาดไหนก็ไม่ยอมฟังเหตุผลนั้น เพราะฉะนั้น ให้พวกเราโอปนยิโกดูว่า พวกเราเป็นถ้วยชาประเภทไหน

    หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
    พระธรรมเทศนา “ข้อคิดก่อนฟังธรรม”
    แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐

    เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
     

แชร์หน้านี้

Loading...