เรื่องเด่น คติธรรมแฝง!! ที่มา "การโปรยทาน" ในงานบวช ได้อานิสงส์แรงอย่างที่คาดไม่ถึง!!

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 22 กรกฎาคม 2018.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    partiharn_1532251739_634.jpg


    คติธรรมแฝง!! ที่มา "การโปรยทาน" ในงานบวช ได้อานิสงส์แรงอย่างที่คาดไม่ถึง!!



    "การโปรยทาน" เราๆท่านๆ ในชีวิตนี้น่าจะเคยมีโอกาสได้ร่วมงานบวชนาคกันมาบ้างแล้ว ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่จะพบเห็นได้ในงานบวช และเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ลูกเล็กเด็กแดงรอคอยนั่นคือ "การโปรยทาน" ของนาค ก่อนที่จะเข้าอุโบสถ



    26-09-10-143141.jpg



    ซึ่งหลายๆท่านอาจสงสัยว่า แท้จริงการโปรยทานนี้มาจากไหน มีที่มาอย่างไร ? ทางเราจึงขอนำคำตอบมาให้ได้ทราบกันดังนี้ ...



    "การโปรยทาน" เป็นคติทางพุทธศาสนา โดยยึดตามพุทธประวัติว่า เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ทรงสละเงินทองทรัพย์สมบัติแล้วออกผนวช โดยไม่ปรารถนาที่จะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ดังนั้นการโปรยทานก่อนเข้าโบสถ์ของนาคจึงเป็นการแสดงว่าต่อจากนี้ไปนาคได้สละสมบัติทุกอย่างแล้ว เพื่อดำเนินชีวิตตามแบบอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


    การโปรยทานก่อนนำนาคเข้าโบสถ์ ตามประเพณีนิยม เมื่อแห่นาคไปยังโบสถ์ เวียนโบสถ์สามรอบพร้อมด้วยเครื่องอัฏฐบริขารที่ใช้ในการบวช และของที่ถวายพระส่วนเครื่องอัฏฐบริขารและของถวายพระ จะนำไปตั้งในโบสถ์ก่อนการวันทาสีมา นาคจะจุดธูปเทียน ที่เสมาหน้าโบสถ์แล้วนั่งคุกเข้าประนมมือกล่าวคำวันทาสา แล้วกราบ ปักดอกไม้ธูปเทียน ณ ที่จัดไว้ นำนาคมาที่หน้าโบสถ์ ‘นาคจะโปรยทาน’ เสร็จแล้วจะจูงนาคเข้าโบสถ์โดยบิดาจูงมือข้างขวา มารดาจูงมือข้างซ้าย พวกญาติคอยจับชายผ้าตามส่งข้างหลัง เมื่อพ้นประตูแล้วให้เดินตรงไปที่พระประธานประกอบพิธีต่อไป



    57b5cb4ab92df5789694b1a90aa5b3d9.jpg



    เชื่อกันว่าเงินที่นาคโปรยเป็นเงินที่บริสุทธิ์ สะอาด และเป็นการโปรยผลบุญที่บวชให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน เหรียญที่โปรยไม่นิยมนำไปใช้จ่าย แต่นิยมนำกลับบ้าน เพราะเชื่อกันว่าถ้ามีติดบ้านเรือนแล้วจะดี จะมีความเจริญรุ่งเรือง ติดกระเป๋าสตางค์แล้วจะทำให้ทำมาหากินขึ้น ค้าขายดี



    นอกจากนั้น การโปรยทานยังเป็นการสอนคนให้รู้จักเสียสละโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น การโปรยทานนั้นจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ ไม่ใช่ข้อกำหนดตายตัว เนื่องจากไม่ใช่พิธีที่เกี่ยวเนื่องกับการบวช ถึงไม่มีการโปรยทานก็บวชสำเร็จเป็นพระได้เช่นกัน และนอกจากการโปรยทานในงานบวชแล้ว ยังมีการโปรยทานสำหรับงานศพอีกด้วย โดยส่วนใหญ่การโปรยทานนี้จะประดิษฐ์เหรียญโปรยโดยใช้ สีริบบิ้นที่ใช้ส่วนมากเป็นสีขาว สีดำ



    ตามความเชื่อที่มาแต่โบราณ ว่าเมื่อคนในครอบครัวล่วงลับไป หลังจากงานเผาศพ ลูกหลานไม่อยากให้วิญญาณ เป็นวิญญาณที่เร่ร่อน ก็บอกเจ้าที่ เจ้าทาง ขอให้ดวงวิญญาณไปสถิตที่บ้าน โดยการโปรยทานเพื่อเป็นการซื้อทาง ให้ดวงวิญญาณผ่านไปได้ไม่ติดขัด แขกที่ไปร่วมงานที่เก็บเหรียญได้ จะนำไปทำบุญต่อเพื่ออุทิศบุญกุศลให้ผู้ล่วงลับ และก็จะได้บุญกุศลนี้ไปด้วย



    12.jpg



    อานิสงส์ของการ "โปรยทาน"

    การโปรยทาน นั้นถือเป็นการทำทานชนิดหนึ่ง ซึ่งคำว่า ทาน ที่แปลว่า การให้ นั้น จัดเป็นบุญเป็นกุศล เป็นความดีอย่างหนึ่ง หมายถึงเจตนาที่ เป็นเหตุให้เกิดการให้ก็ได้ หมายถึงวัตถุ คือสิ่งของที่ให้ก็ได้ ทานจึงมีความหมายที่เป็นทั้งนามธรรมและรูปธรรม ถ้าหมายถึงเจตนาที่ให้ก็เป็นนามธรรม ถ้าหมายถึงวัตถุที่ให้ก็เป็นรูปธรรม ในที่นี้จะขอกล่าวถึงทานในความหมายทั้งสองอย่างนี้รวมๆกันไป



    coin.jpg



    เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดการให้ทานนั้น แบ่งตามกาลเวลาได้ ๓ กาล คือ

    ปุพเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นก่อน คือเมื่อนึกจะให้ ก็แสวงหาตระเตรียมสิ่งที่จะให้นั้นให้พร้อม

    มุญจเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นในขณะกำลังให้ของเหล่านั้น

    อปรเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นหลังจากได้ให้เรียบร้อยแล้ว แล้วเกิดความปีติยินดีในการให้ของตน



    lb.jpg



    บุคคลใดที่ทำบุญหรือให้ทานด้วยจิตใจที่โสมนัสยินดี ทั้งประกอบด้วยปัญญา เชื่อกรรมและผลของกรรมครบทั้ง ๓ กาลแล้ว บุญของผู้นั้นย่อมมีผลมาก เจตนาทั้ง ๓ กาลนี้ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องดับไปเช่นเดียวกับสังขารธรรมอื่นๆ และเมื่อดับไปแล้วสามารถจะส่งผลนำเกิดในสุคติภูมิเป็นมนุษย์และเทวดาได้ ใน พระไตรปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน แสดงความบุพกรรม คือกรรมในชาติก่อนๆ ของผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่เกี่ยวกับทานไว้มากมาย ตัวอย่าง เช่น

    พระอรหันต์รูปหนึ่งในอดีตชาติได้ถวายผลมะกอกผลหนึ่งแก่พระพุทธเจ้าที่ประทับอยู่ในป่าใหญ่ รูปหนึ่ง เคยถวายดอกบุนนาค รูปหนึ่งเคยถวายขนม รูปหนึ่งเคยถวายรองเท้า เป็นต้น นับแต่นั้นมาท่านเหล่านั้นไม่เคยเกิดในทุคติภูมิเลย เกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิ เป็นมนุษย์และเทวดาเท่านั้น ตราบจนในชาติสุดท้ายได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์



    ขอบคุณข้อมูลจาก : http://พับเหรียญโปรยทาน.blogspot.com / ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก : ประณีต ก้องสมุทร / taanpaper.com





    เรียบเรียงโดย : เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ



    ขอบคุณที่มา
    http://www.partiharn.com/contents/5327
     
  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
     
  3. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +1,095
    sa209.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...