คนที่เคยปรามาสพระอริยสงฆ์ หรือสูงกว่านั้นก็สามารถขึ้นสวรรค์หรือไปนิพพานได้ ??

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 12 พฤศจิกายน 2014.

  1. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ถาม: เคยอ่านหนังสือเจอเกี่ยวกับพวกสติปัฏฐาน เค้าบอกว่าถ้าเกิดเคยปรามาสพระอริยะ
    เค้าบอกว่าจะห้ามสวรรค์ห้ามมรรคผล อันนี้จริงหรือเปล่าครับ


    เอาจากที่พระพุทธเจ้าตรัสเองเลยนะ
    ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตรัสเรื่องสวรรค์นรก เคยตรัสเรื่องเกี่ยวกับพรหมภูมิ
    ตรัสเกี่ยวกับเรื่องนิพพาน พูดง่ายๆว่าตรัสเกี่ยวกับเรื่องเหนือโลก
    แล้วพระองค์ลงท้ายไว้นะครับว่า
    ตรงนี้พระองค์รู้ด้วยสัพพัญญุตญาณ ไม่ใช่ด้วยการคิดเอา
    ถ้าหากว่าใครนึกว่า ท่านตรัสเรื่องเหล่านี้ด้วยอาการคิดเอาด้นเดาเอานะครับ
    คนนั้นก็พูดง่ายๆว่า ได้ชื่อว่าปรามาสพระพุทธเจ้า
    แล้วถ้าไม่เปลี่ยนความคิดก่อนตาย ก็มีสิทธิได้ไปอบาย ไปทุคติภูมินะ


    อันนี้ท่านตรัสไว้ในแบบเป็นพุทธพจน์ เป็นสัจพจน์นะ เป็นความจริงตามธรรมชาติ
    ไม่ใช่ว่าท่านสาปแช่งใคร หรือยกตนเองว่าเป็นผู้วิเศษ ที่ไม่มีใครไปว่าได้ ไม่มีใครไปติเตียนได้
    ถ้าใครติเตียน ใครตั้งตนเป็นศัตรูกับพระองค์หรือว่าอริยเจ้าสาวกของพระองค์ จะต้องไปอบายนะ
    แต่ท่านตรัสไว้เป็นหลักของธรรมชาติว่า
    อริยเจ้าอริยสาวก หรือแม้แต่พระองค์ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ ผู้อยู่สูงสุด เป็นประมุขของพระพุทธศาสนา
    มีจิตที่พ้นแล้ว ปราศจากกิเลสแล้ว ไม่เบียดเบียนใครแล้ว
    เพราะฉะนั้นจึงมีผลใหญ่ ถ้าหากใครไปปรามาสเข้า ใครไปติเตียนเข้านะครับ
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พระองค์กำกับไว้ด้วยว่า ถ้าหากไม่เปลี่ยนความคิด ก็จะได้ไปอบาย
    แปลว่า ถ้าหากเปลี่ยนความคิดได้ทันก่อนตาย ก็ไม่ต้องไปอบาย
    ไม่ต้องห้ามแม้แต่กระทั่งสวรรค์หรือนิพพานด้วยนะครับ


    ลองคิดดูว่า อย่างคนที่พระองค์ไปสอน ก็มีที่บางคนมาติเตียนมาด่าว่าท่านอย่างรุนแรงเลย
    บอกเป็นคนไม่เอาไหน เป็นคนไม่เอาถ่าน เป็นคนอะไรต่อมิอะไรต่างๆ
    พูดง่ายๆว่า ใช้ภาษาที่แม่ค้าปากตลาดในปัจจุบันเค้าใช้กัน ด่าว่าพระองค์เลยนะ
    แต่ว่าพระองค์ก็ไม่ได้ทรงโต้ตอบด้วยอาการโกรธเกรี้ยว
    ตรงข้าม ท่านใช้เมตตาธรรมนะครับ แล้วก็คำสอนในแบบที่จะกลับใจคนๆนั้นได้
    คนๆนั้นก็เปลี่ยนจากต้นทางไปอบาย กลายเป็นได้บรรลุมรรคผลเลยนะครับ
    ถ้าผมจำไม่ผิด จะเป็นในวันนั้นเลยด้วยซ้ำ
    แต่ที่แน่ๆคือผมจำเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้
    เอาเป็นสรุปว่าในภายหลังท่านได้เป็นพระอรหันต์ทีเดียว


    เพราะฉะนั้นการปรามาสอริยเจ้าที่รองลงมาเป็นสาวกของพระองค์ ก็เหมือนกันนะ
    อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน
    คือว่าถ้าหากเรากลับใจ เราเปลี่ยนใจ เราไปขอขมาท่าน
    หรือว่าเปลี่ยนจากคำด่าคำติฉินนินทาเป็นคำสรรเสริญ พูดจากร้ายกลายเป็นดีเสีย
    ไอ้ที่จะห้ามสวรรค์ห้ามนิพพานอะไรมันก็หายไป
    ไอ้ที่จะต้องไปอบาย มันก็กลับเปลี่ยนเป็นสร้างทางที่จะได้ถึงพระนิพพานให้ตัวเองได้
    เพราะว่ากราบอริยเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอรหันต์
    ถ้าหากกราบด้วยใจ ถ้าหากว่ามีใจเคารพเลื่อมใสพวกท่านด้วยความบริสุทธิ์นะครับ
    ตรงนั้นก็เท่ากับกราบนิพพาน เพราะพวกท่านถึงนิพพานแล้ว
    เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ หรือเป็นตัวแทนนิพพาน เป็นประตูนิพพาน
    การที่เราได้กราบท่าน การที่เราได้พูดดีๆกับท่าน หรือว่าการได้สรรเสริญท่านให้คนอื่นฟัง
    มันก็คือการที่เราเข้าพวกกับนิพพานนั่นเอง พร้อมที่จะเข้ากระแสนิพพานนั่นเองนะครับ


    ฉะนั้นสบายใจได้นะครับ ถ้าหากว่าเคยผิดพลั้ง เคยพลาดไปปรามาสไว้
    ไม่ว่าจะเป็นอริยะที่ไหน หรือไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้ายังไงก็แล้วแต่
    มันไม่ได้ปิดประตูมรรคผลนิพพาน หากใจจริงของเราหันกลับมานะครับ
    มีความเคารพเลื่อมใสด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่เชื่อด้วยความงมงายนะ
    เชื่อด้วยเหตุด้วยผลว่าพวกท่านมีทางไปที่ดีแล้ว มีคำสอนที่ดีแล้ว เป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว



    ถาม: ถ้าเกิดอยากจะขอขมาตรงหิ้งพระที่บ้านได้ไหมครับ


    การเปล่งวาจาขอขมา มันมีผลดีอยู่นะครับ
    คือว่าทำให้เกิดความหนักแน่นขึ้นมา เพราะว่าใจของเราปกติมันจะเบา
    แค่คิดเฉยๆมันยังเหมือนเลื่อนลอย เพราะความคิดมันซัดไปซัดมาเหมือนฝุ่นทราย
    แต่ถ้าเมื่อไหร่เราหนักแน่นพอที่จะเปล่งวาจาขอขมาออกมา
    นั่นแสดงถึงความชัดเจนนะ ว่าจิตมีทิศทางที่ตั้งมั่นแน่วแน่แล้ว
    ว่าเราคิดอย่างนี้ เราถึงพูดอย่างนี้ นะครับ


    ฉะนั้นจะเป็นที่ตรงหน้าโต๊ะหมู่บูชา
    หรือว่าหน้ารูปเคารพของพระที่เราเคยปรามาสอะไรก็แล้วแต่ มันได้ทั้งนั้นแหละ
    เพราะว่ามันได้ที่ใจเราแน่ๆ มันได้ที่ปากเราแน่ๆนะครับ
    กรรมที่เกิดจากใจ แล้วก็กรรมที่เกิดจากปากนั่นแหละ
    ตัวนั้นแหละของจริงที่จะติดตัวเราไป
    ส่วนองค์ท่านจะมรณภาพไปแล้ว หรือว่าจะไม่อยู่แล้ว
    หรืออยู่ห่างไกลในประเทศไกลๆไป ตรงนั้นมันไม่ได้มีความหมายเท่า


    เพียงแต่ว่า คือถ้าพูดถึงอะไรแบบที่ครบวงจร แล้วทำให้เคลียร์จริงๆ ทำให้ดีจริงๆ
    ควรจะไปขอขมาต่อหน้า
    ทีนี้ถ้าในเมื่อไม่มีท่านให้ขอขมาแล้ว เราก็ใช้ใจของเรานั่นแหละ
    เป็นที่พึ่ง เป็นหลัก เป็นตัวตั้งกรรมใหม่


    (จาก คุยกับดังตฤณ 6 - ช่วงนิพพานมีจริง )
     
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    555 อาการวิตกจริต มันแก้ยากจริงหนอ ถ้าเป็นผมคงลืมไปนานแล้ว

    ชีวิตมีแต่อุปสรรค...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    หลวงพ่อคะ ลูกได้ทำบุญทำทานทำกุศลไว้มาก แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดชีวิตมีแต่อุปสรรค มีแต่ปัญหาถูกคนนินทาบ้าง ถูกคนว่าร้ายบ้าง แสดงว่าบุญกุศลที่ทำในชาตินี้ไม่ให้ผลดีใช่ไหมเจ้าคะ...?



    นั้นแหละให้ผลดีมาก เป็นมหากุศล ก็ทำถูกแล้วนี่ เราเกิดมาเป็นคน เกิดมาเพื่อพบกับคำนินทาที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    นัตถิ โลเก อนินทิโต
    คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก
    คนที่มีบุญใหญ่ ถูกนินทาใหญ่ คนที่มีบุญเล็ก ถูกนินทาเล็ก อย่างพระพุทธเจ้าเขาไม่นินทาน่ะ เขาด่าต่อหน้าเลยนะ โดนว่าหนักกว่าเรามาก นั้นแหละคนมีบุญใหญ่ ถูกนินทาใหญ่ ด่าแหลก เห็นไหมล่ะ

    เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบุญกุศลชาตินี้ชาติหน้าหรอก มันเป็นกฎธรรมดา เราเกิดมาเพื่อถูกนินทาแน่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดานะ อีกประการหนึ่งขอให้คิดว่าคนที่นินทาคนก็ดี คนด่าก็ดี เป็นลักษณะของคนบ้า เราก็ไม่ถือคนบ้าไม่ว่าคนเมาก็หมดเรื่อง ให้เขาว่าเพียงฝ่ายเดียว

    อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงตอบพราหมณ์ พระพุทธเจ้าท่านกำลังเทศน์อยู่ พราหมณ์โมโหที่ลูกศิษย์ของแกสรรเสริญพระพุทธเจ้า แกรู้ก็ไปชี้หน้าด่าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก้เลยปล่อยให้แก่เทศน์แทน ตามบาลีท่านบอกว่า ด่าแบบทาสกรรมกรด่ากัน ด่าไปด่ามาแกเหนื่อยแกก็หยุดแล้วชี้หน้า

    พระสมณโคดม แกแพ้ข้าแล้ว
    พระพุทธเจ้าถามว่า
    ตถาคตแพ้เธอตรงไหนเล่า....? ท่านพูดแบบเรียบๆ นะพราหมณ์ตอบว่า
    ข้าด่าแก แกไม่ด่าตอบนี่หว่า
    พระพุทธเจ้าก็ตอบว่า

    พราหมณ์ ตถาคตมีความรู้สึกว่าถ้าใครโกรธตถาคตมา ตถาคตโกรธตอบ ตถาคตเลวกว่าคนนั้นนะ
    โดนน๊อคเลย อีตานั้นนั่งทรุดเลย ยกมือไหว้ กล่าวว่า วาจาของท่านเหมือนสุภาษิต เหมือนกับหงายของที่คว่ำมารับน้ำค้าง ท่านก็เลยขอบวช บวชแล้วก็ได้เป็นพระอรหันต์
    แบบนี้ถึง 4 คนด้วยกัน ไม่ทราบว่าทำบุญอะไร ด่าพระพุทธเจ้าเป็นพระอรหัตน์ อย่าไปเอาเข้านะ นี่เพิ่งได้ 4 คน แต่อย่าไปว่าท่านนะท่านเป็นพระอรหัตน์ไปนิพพานหมดแล้ว
    ไอ้นี่แหละการนินทาหลบไม่ได้ ต้องถือว่าตามคติของพระพุทธเจ้าตรัสกับพระสงฆ์ ระหว่างพระองค์เดินไปกับพระสงฆ์ เมืองลันทากับกรุงราชคฤห์ต่อกัน
    ที่พราหมณ์นำคณะตามไป ท่านลุงนินทาพระพุทธเจ้าหลานสรรเสริญ พระกลับมาฉันข้าวแล้วก้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และเล่าให้ฟัง พระพุทธเจ้าก็บอกว่า

    พวกเธอทั้งหลาย จงอย่าสนใจในวาจาทั้งสอง คือ นินทาและสรรเริญว่าดี เราก็ไม่ดีไปตามเขาพูด เราจะดีหรือเลวอยู่ที่การประพฤติและปฏิบัติเท่านั้น
    พูดสั้นๆ เท่านี้พระพวกนั้นได้บรรลุมรรคผล นี่ต้องถือตามคตินี้นะ ถ้าไปคิดว่า เกิดมาชาตินี้ถูกนินทาแล้วกลุ้มใจตายตกนรกแน่




    จากหนังสือธรรมปฏิบัติ เล่มที่ 17
     
  3. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    อยากได้คาถาหลังไมค์มานะคุณ Sir-Pai

    ความกลัวนรกที่มากเกินไปนั้นมันบังทางออกหมด

    ลองเปลี่ยนความคิดว่า ไหนให้มันลองคิดขึ้นมา จะตกนรกขุมไหนก็ตกไปเลย ฉันไม่กลัวแล้ว ฉันกลัวไม่ได้เห็นตัวจริงของความคิดนั้นมากว่า ว่ามันเป็นอะไร

    แล้วพิจารณาว่าถ้าความคิดนี้อยู่ในความควบคุมของเรา เราก็ต้องระงับได้

    หากระงับไม่ได้แล้ว มันก็เป็นสิ่งภายนอก ที่ไม่ใช่เราเท่านั้น

    งัดกันไปจนกว่าอินทรีย์คุณจะมากพอในระดับที่กังวลน้อยลงหรือมีกำลังสติมาตัดมันได้
     
  4. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ ♫ <<< นิว จิ๋ว ร้องไว้ 55555+

    ปล.ผมสบายใจขึ้นเยอะแล้วคร้าบบบ แค่เอามาให้อ่านกัน และก็อ่านเองด้วยสุขใจดีครับผม :cool:
     
  5. noom8a

    noom8a เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +226
    ใกล้ก๊อันตรายห่างเกินก๊อันตรายสุขคนละแบบผมเคยสนุกแบบโลกๆไม่เคยเห๊นธรรมสนุกไปวันวันอยูเมืองนอกก๊หลายปีสงสัยพระดลใจไห้กลับไม่งั้นนรกแน่นอนบั้ปลายชีวิต
    ตอนนี้พระเยอะเลยคิดว่าพระเป้นตุ๊กตามั้งทำาเอางอมเลยอิ่มแค่เทพงังอิ่มเลยนับภาษาอะไรกับพระอริยะ
     
  6. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ผมจะบอกให้ใกล้พระน่ะโคตรอันตราย ไม่รู้จริงลงนรกง่ายมาก

    ถาม : ถ้าหากว่ามีคนฝากทำบุญ แล้วเราไม่ได้ทำให้เขา ?
    ตอบ : อันนั้นก็เสร็จแน่ ๆ สิ เท่ากับว่าสิ่งที่เป็นกึ่งกลางระหว่างสงฆ์ คือของที่เขาตั้งใจทำบุญ แต่ยังไม่ถึงมือพระ โทษจะเหมือนกากเปรต กากเปรตนี่เขาตั้งใจเอาอาหารมาถวายพระ พี่แกโฉบไปกินเสียก่อน ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นอีกา ตายแล้วกลายเป็นเปรตไป ของเขาตั้งใจทำบุญอยู่แล้ว ดังนั้นก่อนตายรีบทำให้เขาซะ
    ถาม : ถ้าหากว่าทำบุญผิดวัตถุประสงค์ล่ะคะ ? สร้างโบสถ์อย่างนี้ เอาไปถวายเป็นอย่างอื่น ?
    ตอบ : ถ้าอย่างนั้นเขาปรับโทษย้ายเจดีย์จ้ะ ถ้าเขาตั้งเจตนามาต้องทำตามนั้น เขาปรับโทษย้ายเจดีย์ ยกเว้นอย่างเดียวหากว่าพระที่รับ เงินเขาตั้งใจเป็นสังฆทาน เราเอาไปทำเป็นวิหารทานได้ เป็นธรรมทานได้เพราะบุญใหญ่กว่า แต่ส่วนที่เล็กกว่าเราทำไม่ได้ คือทำให้มากกว่าที่เขาต้องการ แต่ขณะเดียวกันถ้าของโยมเขาตั้งใจเจตนาอย่างไร ? เราต้องทำให้เขาอย่างนั้น ผิดเจตนาเขาไม่ได้
    กระโถนข้างธรรมาสน์ฉบับที่ ๙๔

    กรณีปรามาสพระ อีกพวกบ้าการเมือง ชอบด่าหลวงตามหาบัว

    พวกกรรมการวัดจัดสร้างวัตถุมงคล ก็ใช่ย่อย

    และอีกประการ หนึ่ง วัดร้างที่ไม่มีพระอยู่ แต่มีสภาพเป็นวัด กับที่ของสงฆ์ที่เป็นไร่นาไปแล้ว ไม่มีสภาพเป็นวัด ถ้าเราไปนำมานิดเดียวแม้แต่หญ้าต้นเดียว เขาถือว่า เป็นหนี้สงฆ์ อันนี้อันตรายมาก สมัยหลวงพ่อปาน ท่านก็แนะนำให้คน ชำระหนี้สงฆ์ บาทสองบาทสลึงสองสลึง บางคนไม่มีเงืนเอามาทำงานแทน ทำอะไรก็ได้ไม่บังคับ คือ ดายหญ้าก็ตามไม่เอาค่าแรง

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ พระเครื่อง ที่เขาไปขโมยมาแล้วเราเอามาห้อยคอ อย่างนี้จะบาปไหมครับ..?

    หลวงพ่อ : เดี๋ยวก่อน..พูดเรื่อง พระเครื่อง ก่อนพระที่คุณห้อยน่ะ ไม่มีเครื่องหรอก.. พระเครื่องต้องอย่างฉันนี่เดินได้ วิ่งได้ ใช่ไหม...อย่างนั้นเขาไม่เรียก "พระเครื่อง" เขาเรียก "พระห้อย" เขาขโมยมาจากใครล่ะ..?

    ผู้ถาม : ก็ไม่ทราบแน่ครับ อาจจะขโมยเจาะกรุมาก็ได้ครับ

    หลวงพ่อ : เสร็จ..ไอ้นี่พังแน่..!

    ผู้ถาม : อย่างนี้จะบาปไหมครับ......?

    หลวงพ่อ : รับของโจรมันก็บาปซิ

    ผู้ถาม : แต่ถ้าเราไม่ทราบนี่คงไม่เป็นไรนะครับ

    หลวงพ่อ : เราไม่ทราบก็บาป เราทราบก็บาป ไอ้บาปนี้เขาแปลว่า "ชั่ว" คนไปขโมยมาจากกรุ กรุมันเป็นของสงฆ์ ลักษณะของอาการมันเป็นของชั่ว ถ้าเราเอาของชั่วมาอยู่กับเราก็ชั่วด้วย อย่างใน "มงคลสูตร" ข้อหนึ่ง ท่านบอกว่า "อะเสวะนา จะ พาลานัง" อย่าคบคนพาล ถึงแม้นตัวราจะไม่พาล ถ้าเราเดินกับคนพาลเขาก็คิดว่าพาลไปด้วย" และท่านก็มีข้อเปรียบเทียบ ท่านบอกว่า

     
  7. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ในอดีตชาติก็เคยปรามาสต่อพระกัสสปพุทธเจ้า ภายหลังได้ฟังธรรมก็กลับใจเป็นสัมมาทิฐิแล้วออกบวช แต่ผลกรรมที่ดูหมิ่นพระพุทธเจ้านั้นก็ทำให้พระโพธิสัตว์ต้องรับวิบากแห่งกรรมโดยต้องไปทรมานร่างกายให้ได้รับความลำบากโดยไม่จำเป็นอยู่ถึง 6 ปี ก่อนจะบรรลุพระโพธิญาณ
     
  8. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ถึงทุกคนที่บอกว่าผมยังไม่หายและคนที่เป็นห่วงนะครับ >> ผมหายจากอาการควบคุมตัวเองไม่ได้ หายจากโรคเครียดแล้ว เครียดที่กลัวตกนรก เพราะถึงมันเป็นกรรมมันก็คือกรรมจากอดีตมาทำให้ผมปรามาสทางกริยาในปัจจุบันชาติโดยควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่จิตใจผมไม่ได้อยากทำหรืออะไรเลยผมคงไม่บาปถึงขั้นตัดสวรรค์-นิพพานหรอกครับ แต่ถ้าถามว่าผมยังแอบไปคิดในอดีตว่าผมทำบาปมากไหมผมยอมรับครับ เคยบ่อย แต่ไม่เป้นไรแล้วครับ

    ปล.จะพยายามสั่งสมความดีให้มากๆต่อไปเรื่อยๆครับ
     
  9. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    หวังว่าเส้นทางสวรรค์-นิพพานคงไม่ปิดอย่างที่ผมมั่นใจครับ

    บางท่านก็ชอบพูดแบบนี้ปรามาสต้องลงนรกอเวจีลูกเดียว

    แล้วท่านคิดว่าสวรรค์และนิพพานของผมจะถูกปิดแล้วผมจะตกอเวจีมหานรกไหมครับ ( ลองถามดูครับ อยากรู้แต่ละท่านคิดยังไง (สำหรับคนที่รู้เรื่องของผม) ) :cool:
     
  10. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ส่วนใหญ่ผู้ที่แย้งพระพุทธองค์ มักจะมีความเห็นผิด เป็นมิจฉาทิถฐิอยู่แล้ว เช่น นรกสวรรค์ไม่มี บาปบุญไม่มี เป็นต้น
    เมื่อมีความคิดอย่างนี้ ก็ย่อมก่อกรรมให้ลงอบายอยู่เนืองๆ ที่ลง ไม่ใช่เพราะปรามาส แต่เพราะทำตัวเอง จิตสุดท้ายล้วนๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...