"คนรักษ์วัด" สานสัมพันธ์วิถีพุทธ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย aprin, 25 เมษายน 2007.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514

    สังคมไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะ " เทคโนโลยี" ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

    ทำให้เกิดการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันทุกด้าน สิ่งยั่วยุ แหล่งอบายมุข และวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาอย่างแพร่หลาย และครอบงำวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย

    ทำให้คนไทยบางส่วนออกห่างจากวัดโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้ปัญหาสังคมทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากคนขาดการขัดเกลาจิตใจ ทั้งยังไม่มีความละอายและไม่เกรงกลัวต่อบาปด้วย

    สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงได้จัดโครงการ "คนรักษ์วัด" ขึ้น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างวัด พระสงฆ์ ชุมชน โรงเรียน พุทธศาสนิกชน เครือข่ายองค์กรต่างๆ ในท้องถิ่น รวมทั้งเด็กและเยาวชนของชาติ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาและสืบสานพุทธศาสนาได้อย่างยั่งยืน

    "จุฬารัตน์ บุณยากร" ผู้อำนวยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงโครงการนี้ว่า "คนรักษ์วัด" เป็นหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลสนับสนุนให้มีการพัฒนาวัดไปสู่ความยั่งยืน โดยดึงชุมชนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาและมีส่วนร่วมในกิจกรรมของวัดมากยิ่งขึ้น

    เพื่อให้คนมีความสัมพันธ์กับวัด ช่วยดูแลรักษา อุปถัมภ์คุ้มครองวัดและคณะสงฆ์ รวมทั้งช่วยส่งเสริมกิจกรรมเป็นไปตามวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงาม พร้อมส่งเสริมให้วัดมีสภาพร่มรื่น สะอาด สงบ สว่าง และสร้างความสุขทางจิตใจให้แก่ประชาชน

    นอกจากโครงการ "คนรักษ์วัด" แล้ว เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปีนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยังได้มีแผนเร่งขับเคลื่อนโครงการคนรักษ์วัดนำร่อง 801 วัด จากทั้งหมด 32,000 วัดทั่วประเทศ

    เบื้องต้นคาดว่าจะมีเด็กและเยาวชน รวมทั้งประชาชนในชุมชนที่อยู่รอบวัด เข้ามาร่วมเป็นอาสาสมัครดูแลวัด ศาสนสถาน ช่วยพัฒนาวัดและทำหน้าที่คุ้มครองวัด พร้อมเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้น วัดละไม่ต่ำกว่า 100 คน หรือรวมกว่า 80,100 คน

    "ภายใน 3 ปี จะขยายผลโครงการฯนี้ให้ได้จำนวน 5,500 วัด กระจายในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ คาดว่าจะสามารถดึงประชาชนเข้าสู่วัดไม่ต่ำกว่า 550,000 คน" ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกล่าว

    โครงการ "คนรักษ์วัด" มุ่งให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา สอดคล้องกับหลัก 4 ประการ ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา และวิมุตติ ซึ่งจะทำให้เกิด "4 ส" คือ สะอาด สงบ สว่าง และสร้างความสุข โดยประชาชนและชุมชนจะสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิต ทำให้อยู่ได้อย่างเป็นสุข

    ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ บอกว่าขณะนี้ได้เปิดตัวโครงการฯไปแล้ว 2 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือที่วัดทุ่งบ่อแป้น อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่วัดจันทรสามัคคี อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก

    และภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะเร่งขับเคลื่อนโครงการคนรักษ์วัดในเขตภาคกลาง และภายในเดือนสิงหาคมจะขยายผลสู่พื้นที่ภาคใต้ โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมและเกิดความยั่งยืน

    "ในอนาคตคาดว่า เด็ก เยาวชน ประชาชน รวมทั้งชุมชนรอบวัดจะมีจิตสำนึกในการร่วมดูแลรักษา ช่วยเหลือคุ้มครองวัดและพระสงฆ์ ขณะที่วัดและพระสงฆ์ก็จะมีความปลอดภัยต่อทรัพย์สินและชีวิต พุทธศาสนิกชนจะมีส่วนร่วมสนับสนุนงานพระพุทธศาสนาทุกๆ ด้าน ทั้งยังจะได้ใกล้ชิดวัด พระสงฆ์ ซึ่งจะทำให้มีความเข้าใจพระพุทธศาสนาเพิ่มมากขึ้น และอาสาสมัครรวมทั้งชุมชนรอบวัดจะมีความเข้าใจในหลักธรรมของพุทธศาสนา ขนมธรรมเนียม วัฒนธรรม จารีตประเพณีอันดีงาม และน้อมนำหลักธรรมไปประพฤติปฏิบัติ ตลอดจนนำไปขยายผลแก่ผู้อื่นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาสืบสานพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงสืบไป"

    "คนรักษ์วัด" จึงนับเป็นหนึ่งโครงการดีๆ ที่จะดึงประชาชนคืนสู่วัดและได้ใกล้ชิดกับ " ธรรมะ" มากขึ้น ซึ่งจะช่วยบ่มเพาะ ขัดเกลา และยกระดับจิตใจของพุทธศาสนิกชนให้สูงขึ้น

    อย่าปล่อยให้ "วัด" เป็นเพียงที่พึ่งสุดท้ายเมื่อมีทุกข์ ดังนั้นอย่ารีรอที่จะพาครอบครัวเข้าหาวัด ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือทำประโยชน์ให้กับวัดสัปดาห์ละครั้ง นับเป็นความสุข สงบ ที่หาได้โดยไม่ต้องลงทุน

    อย่างน้อยๆ ก็ "สุขใจ"


    ที่มา : http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01pra05250450&day=2007/04/25&sectionid=0131


     

แชร์หน้านี้

Loading...