คนเข้าใจธรรมดา เขาจะเบื่อในสังสารวัฎกันทุกคนหรือเปล่า

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 16 พฤศจิกายน 2016.

  1. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    พอดีผมเพิ่งเข้าใจธรรมดา ที่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างแจ่มแจ้งและ ทำใจให้เป็นปกติได้มาไม่กี่วัน เลยเกิดกำลังใจถดถอยในพุทธภูมิขึ้นมา เพราะ วางเรื่องที่ทำให้ทุกข์ลงได้เนื่องจากเข้าใจธรรมดา ของหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง ก็เกิดอาการเบื่อโลกขึ้นมาตะหงิด ๆ

    สงสารตัวเอง ที่ถูกโลกทำให้กลายเป็น คนที่ไม่มีใครรัก เพราะความไม่รู้ของเราที่มีมาตั้งแต่เด็กด้วยส่วนหนึ่ง

    พอเข้าใจธรรมดาแล้ว กลับยิ่งไม่อยากอยู่ในสังคมอีกส่วนหนึ่ง นิสัยผมจึงออกจะเป็นปัจเจกบุคคลไปเสียฉิบ

    คือเป็นคนธรรมดาที่ไม่ปกติ
    ที่ว่าเป็นคนธรรมดาเพราะเข้าใจธรรม ที่ว่าไม่ปกติ ก็เพราะเป็นคนที่ไม่เข้ากับสังคม หรือโลก 555

    แต่ก็สงสารสัตว์โลกเหมือนกัน อยู่กับความปกติคืออยู่อย่างมีปกติสุขในสังคม ที่ไม่เป็นธรรมดา คือเป็นสังคมไม่เข้าใจธรรมดา เพียงใช้ชีวิตอยู่ใน แบบแผน จารีต ประเพณี และกฎเกณฑ์ปกติของสังคม บ้างก็ใช้ชีวิตปกติอยู่ในสังคมยุคใหม่ ที่ใช้ชีวิตแบบ ไกลศีลไกลธรรม เพราะเห็นว่า งมงาย คร่ำครึกันเสียมาก

    บรรพบุรุษรุ่นก่อน ๆ ก็คงเข้าใจธรรมกันดีเลยสร้างระเบียบแบบแผนขึ้นมา แต่ ความเข้าใจธรรมของคนรุ่นต่อ ๆ มาคงเสื่อมถอย เลยใช้วิธีสอนแบบสักแต่ว่าให้ทำตาม ไม่ได้สอนให้เขาใจว่าเราต้องทำอย่างนี้ ๆ เพราะ "ธรรมดา" อะไร


    เมื่อเข้าใจเป็นการส่วนตัวดังนี้ ก็เกิดอาหารเบื่อขึ้นมา
    เราจะแน่วแน่ในสายพุทธภูมิได้อยู่หรือ
    เมื่อเห็นธรรมดาได้ป่านนี้ เมื่อเบื่อหน่ายกับโลกและสังสารวัฏป่านนี้

    คิด ๆ แล้ว ก็อยากจะหาที่ปฏิบัติธรรมให้มีความสามารถติดตัวไว้สังเกตธรรมดาของจิตตัวเอง เผื่อจะได้มีโอกาศรู้ธรรมดาที่ลึกซึ้งกว่านี้เข้าไปอีก

    นึกได้ดังนี้แล้ว ก็เลยนึกอยากถามท่านทั้งหลายครับ ว่า พุทธภูมิ เขาเข้าใจธรรมดาของสัตว์โลกกันหรือเปล่า และเมื่อเข้าใจแล้ว เขาจะเกิดเบื่อหน่ายในสังสารวัฏกันบ้างหรือเปล่าครับ? เพราะขนาดผมเข้าใจธรรมดาแค่เบื้องต้น และสามารถปล่อยวางความทุกข์เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แล้วผมคิดว่าจะต้องเวียนว่ายตายเกิดไปรับเคราะห์รับกรรมอะไรอีก ยังอยากนิพพานไปให้รู้แล้วรู้รอดเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2016
  2. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    คนธรรมดาที่ยังวิวัฒนามาเป็นมนุษย์ใหม่ๆได้ไม่กี่ชาติ ย่อมหลงใหลเพลินเพลินในความสุขเฉพาะหน้าที่เขาได้รับเป็นธรรมดาครับ
    ผิดกับพวก พุทธภูมิที่วิวัฒนาการตนเอง จนยอมที่จะเป็นผู้ให้มากว่าผู้รับ เกิดมาหลายชาติทั้งเทวดามุนษย์พรหม ผ่านมาหลายภพภูมิหลายกัปหลายกัลป์ครับ
    ..ความเบื่อหน่ายความเห็นทุกข์สัจจะในสังสารวัฏจึงไม่อาจสูงเท่ากันได้ครับ ..
    โมทนาสาธุครับ ..
     
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,101
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    ในระดับที่เข้าใจลึกซึิื้งเหมือนกัน หรือมากกว่าย่อมมีอยู่ครับ

    คนสองคน ยืนบนพื้นเรือนที่ไฟไหม้เหมือนกัน ( ก็ร้อนเหมือนกัน ไม่ต้องคิดพรรณามาก เป็นความรู้สึกทุกข์ล้วนๆ )
    คนหนึ่งทนกับไฟไม่ได้ ก็รีบกระโดดออกเรือนไป
    อีกคนยังพยายามทนๆๆๆๆๆ และเอาเชือกไปผูกกับชีวิตอื่นในบ้านไว้ด้วย
    เพื่อจะฉุดลากหรือนำทางชีวิตอื่นออกไปจากบ้านที่ไฟไหม้ด้วย
    คล้ายดังตัวอย่างที่ยกมานี้ ก็มีมากครับ
     
  4. Dazeng

    Dazeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +110
    ในเบื้องต้นเราไม่อาจทราบแน่ชัดว่าแท้จริงแล้วตนเองปรารถนาสิ่งใด จนกว่าจะได้พบผู้รู้จริงครับ

    ดังนั้นเพื่อมิให้เป็นการประมาทในชีวิต การตั้งกำลังใจปฏิบัติเพื่อพระนิพพานจึงเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด

    พุทธภูมิในอดีตหลายท่านต่างมุ่งพระนิพพานมาตั้งแต่ต้น มารู้เอาทีหลังเมื่อปฏิบัติไปได้ไกลมากแล้วครับ

    ดังนั้นหากว่าเราบารมีเข้มข้นจริงๆก็ไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆเว้นไว้แต่เรื่องพระนิพพานที่ต้องระลึกรู้อยู่ทุกลมหายใจ

    ประเด็นที่ถามคือพุทธภูมิเข้าใจเหมือนพระอริยะเข้าใจไหม ตรงนี้ตอบได้จากที่เคยศึกษามาว่าเข้าใจคล้ายกันครับ

    พระโพธิสัตว์อารมณ์ใจคล้ายกับพระอนาคามี ท่านตัดกามฉันทะออกได้ แต่ที่ยังอยู่ในสังสารวัฏก็เพราะยังมีห่วงลูกๆหลานๆครับ
     
  5. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    จริตของผมในชาตินี้คงจะเป็นพระปัจเจกครับ แตก็ได้อฐิษฐานเอาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย เพราะมีหลวงตาแถวบ้าน ให้พรว่าให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าให้ได้สอนคน ตอนนี้เริ่มอยากสอนคนเหมือนกันครับ เพราะเรารู้สึกว่าธรรมะ ที่จริงมันใกล้มาก แต่คนเราเอื้อมไม่ถึงกัน พอเข้าใจธรรมดาแล้วคันปากยิบ ๆ อยากทำให้คนอื่นเข้าถึงบ้าง แต่ตอนนี้ก็รู้ตัว ว่าตัวเองยังไม่พร้อม เพราะ ตั้งแต่เข้าใจคำว่าปกติ และธรรมดา มานี่ก็ตรวจสอบตัวเองได้เยอะเลย ว่าตัวเองยังขาดเหลืออะไรอยู่ คงต้องสะสมความรู้อีกสักหน่อย

    ตอนนี้มีความคิดว่า ชักจะอยากรู้แล้วว่าตนเองเป็นพุทธภูมิจริงหรือเปล่า และ ปรารถณาสายอะไรมาครับ เพื่อที่จะได้ดำเนินการสะสมบารมีถูก เท่าที่ คิดไว้ ดูทรงตัวเอง น่าจะเป็น ปัจเจกพุทธภูมิ ปัญญาธิกะบารมีครับ เพราะไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบการปฏิบัติเพื่อเข้าใจ ชอบการเข้าใจก่อนแล้วปฏิบัติมากกว่า แต่ก็ยังโง่อยู่มาก แต่ที่เชื่อว่าตนเป็นปัญญาธิกะบารมีเพราะขี้สงสัย และมักพิจารณาหาทางออกจากความทุกข์ของตนอยู่เสมอ และ หากเราปฏิบัติ ถ้าเราปฏิบัติไม่เข้าใจเราจะไม่มีความสุขเลย ความทุกข์จะบีบคั้นตลอด และจะพยายามคิดหาคำตอบอยู่อย่างนั้นจนเข้าใจเอง ค่อยสงบ แม้จะใช้เวลานานก็ตาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2016
  6. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ท่านเป็นสาวกภูมิครับ
     
  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,101
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    ใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง
    ที่เห็นทั้งสุข และทุกข์ ในทุกระดับ ทุกรูปแบบ
    ไม่ต้องใช้ความสามารถพิเศษใดๆมาสนองตัณหาและความอยากของกิเลสในใจตนให้มาก

    เผชิญโลกธรรมแปด เหมือนที่ทุกชีวิตเผชิญ

    แล้วดูว่า ไฟทุกข์ในชีวิตทุกขณะที่พบเจอ
    มันทำให้เมตตา กรุณาของคุณต่อทุกชีวิต
    ไม่ว่าเค้าจะดี จะเลวขนาดไหน
    มันแปรเปลี่ยนไปหรือไม่

    ทันทีที่คุณมีโอกาสจะช่วย หลังจากทนเฉยด้วยอุเบกขา
    คุณยังจะช่วยเค้าหรือไม่ ถ้าคุณทำได้ ตามกำลังที่คุณมี
    หรือมีเงืื่อนไขของกิเลส ถึงจะช่วย


    ......

    หากไม่เข้าถ้ำเสือ ก็ไม่ได้ลูกเสือ

    ถ้าไม่เกิดมาในโลก จะสร้างสายใย ความสัมพันธ์กับทุกชีวิต เพื่อฉุดช่วยได้อย่างไร

    จะเรียนรู้ความจริงของกองทุกข์ เพื่อจะให้ตนและชีวิตมากมายพ้นความครอบงำ
    ของกองทุกข์ทั้งหลายได้อย่างไร

    ถึงแม้จะยืนบนบก เพื่อโยนเชือกให้คนตกน้ำจับ และดึงขึ้นฝั่ง

    เชือกนั้น ก็ต้องจุ่มลงไปในน้ำ เพื่อให้เค้าอาศัย


    ธรรมหรือสิ่งที่เราจะใช้ช่วยชีวิตอื่นก็เช่นกัน

    ต้องสามารถปรากฏให้สัมผัสได้ในโลก ไม่ว่าทางอายตนะใด
    เพื่อให้พวกเค้าได้อาศัย พาตน ขึ้นจากกองทุกข์


    สิ่งที่เราจะหยิบยื่นให้เค้านั้น
    ก็ล้วนมาจากการได้เรียนรู้กองทุกข์ ขณะที่มีขันธ์ห้า ร่างกาย จิตใจ เหมือนพวกเค้านั่นเอง
     
  8. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    จขกท.ไม่ใช่เบื่อหรอกครับ คุณแค่ชินชากับความทุกข์ สุข ที่พบเจอในแต่ละวัน ซึ่งมนุษย์ทุกคนไม่ว่าชนชาติใด ศาสนาไหน ก็ย่อมรู้สึกและรับรู้ได้เหมือนกันหมด ไม่เจาะจงว่าจะต้องเป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธเท่านั้นถึงจะรับรู้ได้ ชาวต่างชาติเองพวกเขาก็สามารถปลงหรือปล่อยวางได้เพราะความชินชากับประสบการณ์ของชีวิตมามากมายหลายครั้ง

    ตัดเรื่องพุทธภูมิออกไปก่อนนะครับ เพราะดูแล้วจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรสักเท่าไหร่ ลองพิจารณาด้วยเหตุและผลในเบื้องต้นให้ดีๆเสียก่อนนะครับ จขกท.จะได้เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแก่ตนนั้นแท้จริงแล้วก็แค่ช่วงชีวิตของมนุษย์ธรรมดาๆคนนึงก็เท่านั้นเอง

    การจะเข้าถึงพุทธภูมิ ต้องโน่นเลยบารมี 30 ทัศ ต้องเคยได้พบพระพุทธเจ้าและได้รับการพยากรณ์รับรองเอาไว้แล้ว แน่นอนว่าเราไม่มีทางรู้ว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์หรือเปล่า เราอาจอยู่ในช่วงระหว่างสั่งสมบารมี หรือเราอาจไม่ใช่เลยก็เป็นได้ เพราะถ้าเรารู้ว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์มันจะทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงเพราะเราอาจเลือกที่จะไม่เดินตามทางนั้นด้วยเพราะกิเลสยังเจือปนอยู่ หรือเรายังเลือกเดินตามทางของพระโพธิสัตว์แต่มันอาจจะทำให้เราพบเจออุปสรรคมากขึ้น ดังนั้นการไม่อยากรู้ว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์หรือไม่ และไม่คิดทึกทักเอาเองว่าใช่ จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดครับ(ถ้าเราอยากจะทำอะไรก็ทำตามกำลังใจของเราไปเรื่อยๆก็พอแล้ว)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2016
  9. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ขอบคุณครับ 555 จะว่าไปผมก็ไม่น่าถามจริง ๆ นั่นแหละเนอะ ว่าตัวเองเป็นพุทธภูมิจริงมั้ย เพราะมีคนมาบอกจัง ๆ ว่าผมเป็นสาวกภูมิ ความอยากเป็นพระพุทธเจ้าของผมก็ยังไม่กระเทือนเลย ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบกระทู้ครับ

    บางท่านอาจเห็นด้วยญาณทัศนแล้ว ว่าชีวิตของผมเป็นอย่างไร

    ผมชอบเรียกตัวเองว่าพุทธภูมิ เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่เหมาะสมกับคำว่าพระโพธิสัตว์ครับ นี่คือวิธีการสร้างกำลังใจของผมด้วยน่ะนะ
    บารมีอื่น ๆ ไว้สร้างทีหลังก็ได้ ช่วงนี้ผมขออฐิษฐาน สร้างปัญญาบารมีติดตัวให้มาก ๆ ก่อนครับ ชาตินี้ผมอาจไม่พ้นนรก เพราะ ผมทำอะไรพลาดผิดมากเกินไป ด้วยความไม่รู้และไม่เข้าใจ

    ผมอยู่กับความไม่เข้าใจไม่ได้นานนักหรอกครับ

    และขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบกระทู้ ที่ช่วยให้ผมเข้าใจว่า ไม่ว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว มันก็อยู่ที่ตัวเรานี่แหละ ว่าจะทำอะไรต่อไป

    ขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนไตร หากข้าพเจ้าได้ทำการอย่างไรโดยไม่เหมาะสมด้วยกายวาจาใจ ข้าพเจ้า นายยุทธนา สารสังข์ ขออทิษฐาน ปรารถณาในพระสัมมาสัมโพธิญาณ
    ขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนไตร หากข้าพเจ้าได้ทำการอย่างไรโดยไม่เหมาะสมด้วยกายวาจาใจ ข้าพเจ้าขอสร้างสมปัญญาบารมีให้ยิ่ง และเกิดในศาสนาพุทธ นับจากชาตินี้เป็นต้นไป

    ขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนไตร หากข้าพเจ้าได้ทำการอย่างไรโดยไม่เหมาะสมด้วยกายวาจาใจ หากข้าพเจ้าไม่ได้เกิดในศาสนาพุทธ ข้าพเจ้าก็ขอปรารถณาเกิดเป็นผู้เข้าถึง สัมมาทิฐิ สัมมาสติ สัมมาวาจา สัมมาปฏิบัติ และมีเมตตา และจาคะ เป็นคุณธรรมติดตัว ตั้งแต่ชาติหน้าเป็นต้นไป


    แม้ชาตินี้จะต้องตายตกนรก หรือแม้จะต้องตายตกนรกในชาติใด แม้จะต้องพบเจอกับความทุกข์แสนสาหัส ขอความปรารถณาในสัมมาสัมพุทธภูมิของเราอย่าได้คลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2016
  10. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ผมคนหนึ่งล่ะครับที่ไม่อยากเกิดแล้วครับคุณ zalievan ผมปฏิบัติธรรมด้วยการรักษาศีลห้า ( บางทีก็ขาดบ้างไม่ก็ด่างพร้อยบ้าง แต่พยายามทําให้ดีที่สุด ) สวดมนต์ เดินจงกรม ทําสมาธิ วิปัสสนา และฝึกพิจารณามรณานุสติทุกวันมาเป็นเวลา 6 ปีได้แล้วไม่ก็อาจจะ 7 ปีกว่า ๆ ปฏิบัติแล้วกิเลสก็ลดลงเรื่อย ๆ แต่มันยังไม่หมดหรอก กิเลสจะหมดจริง ๆ ก็ต่อเมื่อเราเข้าถึงนิพพานได้จริง ๆ ทุกวันนี้พอเห็นความจริงว่า ชีวิตเราก็มีแค่นี้ เกิดแล้วก็ต้องตาย ถ้าต้องเกิดอีกก็ต้องมาเจอทั้งเรื่องสุขเรื่องทุกข์อีก คนเราถ้ายังยึดติดทั้งสุขและทุกข์ สุดท้ายแล้วก็ยังต้องทุกข์อยู่ดี อีกอย่างหนุึ่ง คือตอนนี้ผมก็มีคนที่รู้จักทั้งสนิทและไม่สนิทเสียชีวิตไปหลายคนแล้ว เห็นแล้วก็ได้แต่ปลง และทําให้เราเข้าใจว่า ชีวิตมันก็มีแค่นี้จริง ๆ บางคนก็เสียชีวิตก่อนเวลาอันควร คือชีวิตคนเราเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ คือมันน่าเบื่อมากกว่า สู้ปฏิบัติไปนิพพานดีกว่าจะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว อีกอย่างหากเราตายไปชาตินี้ เราก็ยังไม่รู้ว่าชาติหน้าเราจะไปเกิดเป็นอะไร ถ้าไม่ได้เกิดเป็นคน หรือไม่ได้ไปสู่สุคติยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอย่างที่รู้กันว่า การเกิดเป็นคนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ๆ ยิ่งถ้าเกิดมาแล้วปล่อยให้เวลาเสียไป โดยไม่ปฏิบัติธรรมจะเท่ากับเราเสียเวลาไปเลยชาติหนึ่ง ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ ไม่ต้องเอาอะไร ลองคิดกันเล่น ๆ ว่า หากเราต้องเกิดอีก เราก็ต้องมานั่งเรียนหนังสืออีกตั้งแต่อนุบาล คือชาตินี้เราก็เคยเรียนมาแล้ว ถ้าเกิดเป็นคนชาติหน้าก็ต้องกลับมาเรียนกันใหม่ พอเรียนจบก็ถึงวัยทํางาน ทํางานกันจนแก่ไปแล้วตายไปอีกชาติ ซึ่งในเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรที่สามารถรับประกันได้ว่า เราจะอยู่กันจนแก่ตายไปอีกชาติ หากเราทํากรรมเรื่องฆ่าชีวิตเอาไว้ เกิดชาติหน้าเราเกิดมาแล้วอายุสั้นล่ะ เราจะทุกข์แล้วจะเศร้าขนาดไหน ? คือแค่คิดว่าผมต้องเกิดอีก แค่นี้ผมก็เบื่อแล้ว แหะ ๆ

    ก่อนไปผมขอฝากบทเรียนปริยัติธรรม on line 10 บทดี ๆ ให้คุณ zalievan และทุกคนลอง download ไปอ่านดู ผมได้บทเรียนทั้ง 10 บทนี่ล่ะที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้ บทเรียนทั้ง 10 บทนี้ทําให้ผมรู้ว่า แท้จริงแล้วผมต้องการอะไรในชีวิต ซึ่งก็คือนิพพานนั่นเอง แต่ก่อนผมก็ยังไม่รู้หรอกว่า ผมต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ แต่พอได้เรียนบทเรียนทั้ง 10 บทนี้จบ ผมจึงรู้จุดหมายปลายทางของตัวเอง ซึ่งถือว่าผมโชคดีมาก ๆ ยิ่งได้มาฝึกวิปัสสนาด้วยทุกวันอีก ทุกวันนี้เวลาผมเจอเรื่องทุกข์หนัก ๆ ผมก็สามารถอยู่กับมันได้โดยปล่อยวางได้ง่ายขึ้นไม่เหมือนในอดีตที่เวลาผมเจอเรื่องทุกข์ ผมจะปล่อยวางไม่ได้ มีแต่ความร้อนรนในใจ มีแต่ความทุกข์กับตัวเอง ก่อนไปอยากให้คุณ zalievan อ่านให้หมดทุกบทจริง ๆ ครับ ดีมาก ๆ ผมขอรับรอง อ้อ แล้วขอฝาก clip ดี ๆ อีก clip หนึ่งให้ดูด้วย สนใจก็ดูได้ครับ อนุโมทนาครับ ขอให้โชคดีครับ

    http://palungjit.org/threads/downlo...ียนดีมาก-ๆ-เป็นแก่นหลักของธรรมะโดยตรง.561649/

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/ZjqT9ZXeop0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2016

แชร์หน้านี้

Loading...