เรื่องเด่น คนใกล้ชิดอาจเป็นเจ้ากรรมนายเวร ของคุณ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 8 กันยายน 2018.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    คนใกล้ชิดอาจเป็นเจ้ากรรมนายเวร ของคุณ
    เจ้ากรรมนายเวรที่ว่าก็คือ คน สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายรวมไปถึง เจ้ากรรมนายเวรที่มองไม่เห็นที่เราได้ไปก่อกรรมให้เขาเกิดความไม่พอใจหรือเกิดความอาฆาตเพราะว่า เขามีเหตุต้องสูญเสียในสิ่งที่รักด้วยการกระทำของเรา

    การกระทำทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางตรงด้วยทาง กาย, วาจา, หรือใจก็ตาม หรือแม้แต่เราเป็นผู้มีส่วนในกรรมหรือการกระทำนั้น ๆด้วยสิ่งที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการจากเราก็คือ การ “ชดใช้” และเขาก็จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้เราได้ชดใช้การกระทำนั้น หรืออย่างน้อยถ้าเราไม่ได้มีส่วนร่วมในการก่อกรรมโดยตรงก็ต้องมีส่วนร่วมชดใช้กรรมดังกล่าวโดยทางอ้อม

    image-1494.jpg

    เจ้ากรรมนายเวรนั้น มีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ “เจ้ากรรมนายเวรที่ยังมีชีวิตและไม่มีชีวิต”

    ซึ่งตัวเราเองต้องแยกให้ออกเพื่อจะได้เข้าใจว่าเจ้ากรรมนายเวรที่แท้จริงของเราว่าท่านเป็นใคร เราจะได้ไปทำการแก้ไขและขออโหสิกรรมไม่ให้กรรมเก่านั้นส่งผลต่อเราอีก และกรรมใหม่ที่เรากำลังจะได้สร้างขึ้นนั้นเป็นกรรมที่ดีและเป็นกุศล ไม่ได้ก่อขึ้นเพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรเดือดร้อน อีกทั้งการสร้างกรรมนี้นั้นจะเป็นการคลายกรรมเก่านั้นให้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย

    1. เจ้ากรรมนายเวรที่ยังมีชีวิต

    เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้เราเห็นได้ในภพชาติปัจจุบัน เป็นได้ทั้งคน,สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตที่เราได้พบเจอ และเราเองเคยได้ก่อกรรมหรือมีส่วนร่วมในการกระทำนั้นทำให้เจ้ากรรมนายเวรเกิดความไม่พอใจ เป็นได้ ทั้ง พ่อ แม่ เพื่อนฝูงที่ทำงานหรือแม้แต่ญาติพี่น้องของตัวเองที่ต้องมีเหตุการณ์ใด ๆมาเกี่ยวข้องให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจหรือความทุกข์ในรูปแบบใด ๆทั้งทางกาย วาจา และใจก็คือการเกี่ยวพันกันของความเป็นเจ้ากรรมนายเวรอย่างหนึ่ง

    2. เจ้ากรรมนายเวรแบบที่ไม่มีชีวิต

    เจ้ากรรมนายเวรแบบนี้เราไม่อาจจับต้องพิสูจน์ให้เห็นกันจะ ๆแบบเจ้ากรรมนายเวรแบบมีชีวิตได้ เปรียบไปก็เหมือนกับกระแสไฟฟ้าที่มองไม่เห็นแต่สามารถทำให้หลอดไฟสว่างได้ หรือเป็นได้เหมือนกับคลื่นวิทยุที่มองไม่เห็น ไม่มีสี ไม่มีรูป แต่กลับมาทำให้วิทยุเกิดเสียง

    image-1495.jpg

    เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้จะเป็นผู้คอยสกัดกั้นความสุข หรือความสำเร็จของเราในทุกวิถีทางจนกว่าเราจะได้ชดใช้หนี้เขาให้หมดสิ้นจึงจะยอมปลดปล่อยเราให้เป็นสุขหรือเป็นอิสระเป็นได้ทั้งเหล่าภูตผีปีศาจ หรือวิญญาณตามอาฆาต

    เคล็ดการขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร

    หลังจากการทำบุญใดๆแล้วก็ตามให้รีบอุทิศบุญให้คนอื่นไปด้วยทั้งคนทำทั้งคนรับได้เหมือนกันหมด เหมือนจุดเทียนไว้เล่มหนึ่งแล้วต่อเทียนกันไปคนให้บุญก็ไม่หมดและเป็นแสงสว่างให้คนอื่น

    ผู้ที่เราควรจะส่งบุญไปให้ได้ได้แก่ พ่อแม่,ญาติพี่น้อง,ครูบาอาจารย์, เหล่าเทพเทวดา,เหล่าเปรตและภูตผีปิศาจ, เจ้ากรรมนายเวร และสุดท้ายคือสัตว์โลกทั้งหลายอีกมากมายที่ไม่อาจกล่าวถึงได้หมดให้ได้รับบุญไปด้วย สำหรับเจ้ากรรมนายเวรก็จะเอ่ยหรือนึกถึงแล้วส่งบุญไปให้ด้วยคำว่า

    “อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี” ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข”

    เสร็จแล้วให้ตั้งจิตอธิษฐาน หรือ กล่าวคำอธิษฐานอโหสิกรรมใหญ่กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายว่า

    image-1496.jpg

    “ข้าพเจ้า………………..ขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำให้แก่ผู้ใด ในชาติใดๆก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมนายเวรจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าอย่าได้จองเวรจองกรรมกันต่อไปอีกเลย หรือแม้แต่กรรมที่ใครๆทำแก่ข้าพเจ้าก็ขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทานเพื่อที่จะได้ไม่มีเวรมีกรรมกันต่อไป

    ด้วยอานิสงส์แห่ง อภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัวบุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติ และผู้มีอุปการคุณของข้าพเจ้า มีความสุข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีและสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ”

    (จากหนังสือ วิธีใช้หนี้พ่อแม่และหน้าที่ของเด็กโดย พระเดชพระคุณ พระธรรมสิงหบุราจารย์ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี)

    วิธีอธิษฐานจิตแผ่เมตตา ให้เกิดบุญมาก

    image-1497.jpg

    การสวดมนต์” การสวดมนต์นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคนในยุคนี้ สะดวกมากในทุกเพศ ทุกวัยและไม่ใช่แค่เรื่องของคนมีอายุ คนเคร่งครัดอีกต่อไป บทสวดมนต์ต่างๆ มีการเผยแพร่ออกมามากมายในรูปแบบต่างๆ ที่เห็นกันและได้ยินกันจนเคยชินมากมาย ทุกครั้งที่สวดมนต์ ตามจริตบุญของตนแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านบอกวิธีที่จะทำให้บุญมากคือ

    1. ทำสมาธิต่อหลังสวดมนต์ เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้ว อย่าเพิ่งเลิกให้นั่งทำสมาธิเจริญภาวนาต่อ เน้นไปที่ด้านวิปัสสนาเมื่อจิตเรานิ่ง ให้พิจารณาเรื่องไตรลักษณ์ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป การไม่เที่ยงทั้งหลาย ที่ต้องเสื่อมผุพังไปตามกาลเวลา หลายคนใช้วิธีนึกถึงภาพคนใกล้ชิด สรรพสัตว์ในการพิจารณาธรรมที่เคยสัมผัสเห็นมาทุกช่วงชีวิตทั้งเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่เราพิจารณานี้เป็นการวิปัสสนาซึ่งเกิดผลบุญเพิ่ม

    2.ให้อธิษฐานจิต เป็นการรวมบุญที่ทำมาในวันนี้และบุญที่เคยทำมาทุกภพชาติเป็นกองบุญพร้อมจะอุทิศให้แก่สรรพสัตว์ บรรพบุรุษ ตัวเราเอง และคน พรหมเทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดวงจิตวิญญาณที่เราปรารถนาที่จะส่งบุญ อุทิศบุญนี้ให้

    image-1498.jpg

    3.แผ่เมตตา กล่าวแผ่เมตตาให้ตนเอง ให้สรรพสัตว์ ให้ทุกผู้ทุกนาม ทุกดวงจิตวิญญาณที่เราอยากจะให้บุญแก่เขา

    ทั้ง 3 วิธีนี้เป็นเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ ที่ครูบาอาจารย์ท่านใช้และเกิดผลมากแก่คนทั้งหลาย บางคนเปลี่ยนชีวิตได้ทันที ขอจงอย่าประมาทในชีวิต และอย่าเสียโอกาสเมื่อเวลามาถึง ทาน ศิล ภาวนา เท่านั้นที่จะนำท่านไปสู่สุขติภพ ขอให้กัลยาณมิตร กัลยาณธรรม ทุกท่าน พบแต่ความสุข ความเจริญ รุ่งเรืองตลอดไป

    เรียบเรียงโดย Likepost.me



    ------------
    ขอบคุณที่มา
    https://likepost.me/15829/
     
  2. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    สาธุๆๆครับ
     
  3. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    อนุโมทนา สาธุค่ะ แผ่เมตตาทุกวันทุกเวลาให้เจ้ากรรมนายเวรจงได้รับอานิสงส์แห่งบุญที่เราทำทุกวัน และอุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวของเราด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...