คลิปพระอยากดัง มีความคิดเห็นอย่างไรกับพฤติกรรมแบบนี้?

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย roentgen, 20 กันยายน 2011.

  1. roentgen

    roentgen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +67
    แถมคนโพสก็เป็นตัวท่านเอง

    คิดเอง ทำเอง โพสเอง ไม่ได้ปรึกษาใคร

    วิธีแสดงออกมีตั้งเยอะแยะ ไม่เลือก ดันไปเลือกแสดงคำสบถด่าด้วยคำหยาบ กับเตะของ

    ทำตัวเองชัด ๆ ไม่ต้องไปโทษใคร
     
  2. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    เรื่องเห็น เทวดา ผีสาง นรก เปรต ยักษ์ๆลๆ

    คนธรรมดาก็ทำได้ครับไม่ต้อง อรหันต์หรอกครับ

    ดังนั้นสิ่งที่ท่านสอน ไม่จำเป็นต้องเชื่อว่าท่านบรรลุนี่ครับ
     
  3. เราปทปรมะ

    เราปทปรมะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา
    จงเลือกเอาส่วนที่ดีเขามีอยู่
    เป็นประโยชน์โลกบ้างก็น่าดู
    ส่วนที่ชั่วอย่าตามรู้ของเขาเลย
    จะเที่ยวหาคนที่ดีโดยฝ่ายเดียว
    อย่าไปเที่ยวตามหาสหายเอ๋ย
    เหมือนตามหาหนวดเต่าตายเปล่าเอย
    ฝึกให้เคยมองแต่ดี......มีแต่คุณ:cool::cool::cool:
     
  4. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    ถ้าไม่สวดมนต์ก่อน แล้วนั่งสมาธิจิตจะสงบอย่างใด
    จุ๊บดูคลิปหลวงปู่แล้วจุก...แต่ไม่ขอวิจารณ์ใดๆคะกลัวบาป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2011
  5. goldtop

    goldtop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +113
    ไม่เห็นเล่าให้ฟังบ้างเลยครับว่าผลพิสูจน์ออกมาเป็นอย่างไร แล้วที่ผ่านมานับพันปีเขาก็สอนผิดซิครับ เพิ่งจะมามีคนสอนถูกตอนนี้หรือครับ งั้นก็ดีแล้วคุณก็เอาไว้สอนลูกสอนสามีคุณเขาจะได้ได้ผลอย่างคุณ แต่คนที่เขานับถือพุทธศาสนาที่แท้จิงไม่มีใครเขารับเอาคำสอนลัทธิใหม่นี้หรอกครับ เวลาตายก็สั่งคนในครอบครัวด้วยว่าให้เอาไปเผาที่สำนักสงฆ์สามแยก เพราะวัดที่มีอยู่ในประเทศไทยล้วนแต่มีพระสงฆ์ที่จับเงิน และเคารพกราบไหว้พระพุทธรูปทั้งนั้น หากมาจัดในวัดแบบนี้จะไม่ถูกจริตกับดวงวิญญาณของคุณนะครับเดี๋ยววิญาณจะไม่สงบสุข แนะนำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2011
  6. POUND@

    POUND@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +263
    ผมว่าท่านได้ดังสมใจท่านแล้วละ่ แต่ไม่ชอบใจตรงที่เอาพทธรูปซึ่งเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าซึ่งเราชาวพุทธทั้งหลายให้การเคราพบูชา ว่าเป็นทองเหลื่องไม่ต้องไปกราบ หรือเอามือไปตีที่หน้าพระพทธรูป และเผาทำลาย ผมว่าองค์กรทางพุทธศาสนาต้องให้การดูแลครับ ที่จริงมีพระเพี้ยนๆแบบนี้อีกเยอะ ต้องกำจัดให้หมดไปเสียที ในนรกยังมีที่ว่างสำหรับพระแบบนี้อีกเยอะ พระอรหันต์ในบ้านเมืองเรา เช่น หลวงปู่คำพัน หลวงตามหาบัว พระอาจารย์มั่น หลวงพ่อพระราชพรหมยาน หลวงปู่แหวน หลวงพ่อโต ซึ่งทุกๆองค์ที่เอ่ยมาล้วนแล้วแต่เป็นพระพระอรหันต์ทั้งสิ้น ท่านยังกราบพระเลย แล้วคุณเป็นใคร คงพอแค่นี้ครับ พูดแล้วมันจะขึ้น ขอบคุณครับที่ให้แสดงความคิดเห็น
     
  7. Dang1410

    Dang1410 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +2
    แน่จริงมาตบหน้าพระพุทธชินราชองค์จริงที่พิษณุโลกซิครับ แล้วจะรู้......วิบากกรรมเร็วแรงขนาดไหนที่กระทำอุเทสิกเจดีย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    มันคนละเรื่องแล้วมั้งครับ กับเรื่องที่ท่านยกมากับชื่อกระทู้นะครับ
    มันคนละความหมายเลยนะครับ
     
  9. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ที่ได้ผลคงไม่เกิดจากแผ่ผลบุญหรอกมั้งครับ แต่ที่ได้ผลนั้นเกิดจากที่ท่านทำบุญเองนะครับ
    ส่วนแผ่ส่วนกุศลให้สัตว์เซลล์เดียวนะครับ มันไม่ได้ผลอะไรหรอก
     
  10. oum135

    oum135 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +2
    ไม่สำรวมแบบนี้ คงไม่ไหวนะครับ
    ก่อนจะดูภาย คนเค้าก็ดูกันที่ภายนอก
    แล้วไม่สำรวมกาย วาจา แบบ นี้
    ทำให้ พระ ศาสนา ของ ศาสดา เสื่อม เปล่าๆ
     
  11. roentgen

    roentgen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +67
    ยกพระพุทธพจน์มาให้ดูหน่อยเถอะนะ อุทิศบุญกุศลให้เชื้อโรค จุลินทรีย์เนี่ย?

    อย่าลืมอุทิศบุญกุศลให้แบคทีเรียสโตรมาโตไลต์ด้วยนะครับ เพราะว่าเป็นแบคทีเรียชนิดแรกของโลก ที่สังเคราะห์แสง ผลิตออกซิเจนให้โลก ไม่เข้าใจเอาชื่อแบคทีเรียไปเซิร์จในกูเกิ้ลก็ได้นะครับ ไม่ว่ากัน

    อ่านมา ศึกษามา ยังไม่เคยพบเคยเจอพระพุทธพจน์ตรงไหนที่เคยตรัสเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลย

    จะบ้า!!
     
  12. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603



    เข้ามาชมท่านผู้เจริญแสดงความคิดเห็นกันอย่างเมามัน เต็มกำลังปัญญาสุดความสามารถของท่าน

    การปล่อยให้แสดงความคิดเห็นนั้น ก็เพื่อเปิดมุมมองในความคิดเห็นอันหลากหลาย ทั้งที่ถูกใจเราหรือกระทบกระทั่งใจเราบ้างซึ่งนั้นเราจะต้องเปิดใจกว้างรับฟังและเคารพทุกความคิดเห็นที่แตกต่าง แล้วเราจึงจะพิจารณาและตัดสินได้ตามภูมิปัญญาหรือวิจารณญานของเราเอง

    สำหรับหัวข้อกระทู้ คลิปพระอยากดัง มีความคิดเห็นอย่างไรกับพฤติกรรมแบบนี้?

    ทุกท่านก็มีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ตามมุมมองของแต่ละท่านได้ตามเสรีในความคิดในวิจารณญานของแต่ละท่าน

    เมื่อเราเข้าใจดังนี้เราจะไม่ตำหนิหรือแบ่งแยกความคิดเห็นที่แตกต่างจากเราใดๆเลย

    ถ้าเราคิดเห็นแบ่งแยกและพิจารณาแยกแยะด้วยตนเองโดยถ่ายเดียว ยึดมั่นในอัตตาตัวตนของตนเองว่าถูกต้องแล้ว แต่จะถูกต้องตามธรรมหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ ดังนั้นเราอย่าเพิ่งพึงตัดสินสิ่งใดหรือความผิดชอบชั่วดี โดยอาศัยวิจารณญาณของตนเอง เพราะพวกเรานั้นกิเลสก็ยังมีเต็มหัวใจอยู่

    ผมได้แสดงความคิดเห็นไปแล้วตั้งแต่แรกนะครับตามคำถามของหัวข้อกระทู้ ว่าไม่เหมาะสมที่จะโพสต์ลงในที่สาธารณะ
    และแสดงแนวความคิดไว้ว่าไม่เหมาะสมเช่นไร ผมจะไม่กล่าวถึงอีก

    ต่อจากนี้จะเป็นการแสดงความคิดเห็นนอกเหนือออกไปจากหัวข้อกระทู้บ้างเล็กน้อยครับ
     
  13. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    ขอขอบพระคุณครับ เข้าไปชมแล้วครับ สำหรับผมเองก็ไม่ได้สะเทือนใจหรือกระทบกระทั่งในใจแต่อย่างใด เพราะรู้ในเหตุและผลทีพึงเป็นเหตุแห่งการกระทำนั้น จะไม่พูดนอกประเด็นไปอีกให้เยิ่นเย้อ

    ในสมัยพุทธกาล ท่านใดพูดตำหนิพระพุทธเจ้าดูถูกพระพุทธเจ้าที่เราศรัทธาและนับถือ ไม่ได้เราต้องเดือดร้อนปกป้องและสรรหาอุบายธรรมมาเพื่อแก้ต่างแทนพระองค์ คล้ายกับเราที่คิดว่าจะปกป้องพระศาสนาในกาลนี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ควรสรรเสริญอยู่เป็นอันมาก

    ผมจะไม่พูดถึงเรื่องวาสนาหรืออนุสัยของพระอรหันต์สาวกที่กล่าวมาแล้วคือ
    พระสารีบุตรและพระอรหันต์ถ่อยหรือพระปิลันทวัจนะอีก

    ตลอดจนพระอรหันต์อีกหลายพระองค์ที่มีอยู่และไม่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ตามอนุสัยหรือวาสนาของท่าน ที่แบ่งแยกได้ตามประเภทของพระเอตทัคคะ

    ซึ่งตามที่เราทราบดีอยู่แล้วว่าแม้พระอรหันต์ก็ยังไม่สามารถละอนุสัยหรือวาสนาได้หมด ยกเว้นแต่

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  14. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    ประเสริฐดีแท้ ยกคำพระอาจารย์หลวงปู่หล้า เขมปัตโต มากล่าวไว้

    ก่อนพระพุทธเจ้าจะดับขันธปรินิพพาน เหล่าพระอรหันต์สาวก กล่าวทูลถามว่าจากนี้ต่อไปในภายหน้า เมื่อพระพุทธองค์พระศาสดาทรงดับขันธปรินิพพานแล้ว

    จะยึดเอาสิ่งใดเป็นสรณะต่อจากพระองค์ พระเจ้าพุทธเจ้าข้าฯ

    ท่านผู้ประเสริฐทั้งหลายคงทราบกันดีอยู่แล้วนะครับ....

    จริตผมก็คงไม่ถูกจริตกับหลวงพ่อเกษมเท่าไรนักหรอกครับ ผมแค่มองท่านและคงไม่ได้เดือดร้อนไปกับท่านทั้งหลายเท่านั้นเอง

    เหล่านี้ท่านเป็นอาจารย์ที่ผมนับถือและมีพระคุณประสิทธิประสาทวิชชาและปัญญาให้ผมทั้งสิ้น

    สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์<O:p</O:p
    พระมหาเเถรคันฉ่อง

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี

    หลวงปู่ทวดจังหวัดปัตตานี

    หลวงปู่เสาร์ กันตสีโลจังหวัดอุบลราชธานี

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จังหวัดสกลนคร

    หลวงพ่อเงินจังหวัดพิจิตร

    หลวงปู่ขาว อนาลโย จังหวัดหนองบัวลำภู

    หลวงปู่แหวนสุจิณโณ จังหวัดเชียงใหม่

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก กรุงเทพมหานคร

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนจังหวัดอุดรธานี

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต จังหวัดมุกดาหาร

    พระมหาวีระ ถาวโร(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)จังหวัดอุทัยธานี

    หลวงปู่บุดดา ถาวโร จังหวัดสิงห์บุรี

    หลวงปู่จันทาถาวโร จังหวัดพิจิตร

    หลวงปู่อ่ำ ธัมมกาโมจังหวัดเพชรบูรณ์

    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย จังหวัดนครราชสีมา

    หลวงปู่ดูลย์อตุโล จังหวัดสุรินทร์

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีจังหวัดหนองคาย

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร จังหวัดเชียงใหม่

    หลวงปู่หลุยส์จันทสาโร จังหวัดเลย

    พระอาจารย์วัน อุตตฺโม จังหวัดสกลนคร

    หลวงพ่อลีธัมมธโล จังหวัดสมุทรปราการ

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโชจังหวัดชลบุรี

    หลวงปู่จันทร์แรม จังหวัดบุรีรัมย์

    หลวงปู่บุญเพ็งจังหวัดขอนแก่น

    หลวงปู่คำบ่อ จังหวัดสกลนคร

    หลวงปู่เจริญจังหวัดเชียงใหม่

    หลวงปู่สรวง จังหวัดยโสธร

    หลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโทจังหวัดสกลนคร

    หลวงพ่อทอง จังหวัดสมุทรปราการ

    พระอาจารย์ทูลขิปฺปปญฺโญ จังหวัดอุดรธานี

    พระอาจารย์คำจังหวัดหนองคาย

    พระอาจารย์ไพบูลย์ จังหวัดพะเยา

    พระอาจารย์จิรวัฒน์จังหวัดเพชรบูรณ์

    พระครูบาจิตโต

    ขออภัยมิได้เรียงตามลำดับพรรษาและที่ยังมิได้เอ่ยอีกอเนกอนันต์....∞

    <O:p</O:pสำหรับผมเป็นศิษย์สายนี้ครับเรียงตามลำดับ
    <O:p</O:p
    หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล>
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต >
    หลวงปู่ขาว อนาลโย >
    หลวงปู่จันทาถาวโร
    ผมบวชเป็นศิษย์ หลวงปู่จันทาถาวโร จำวัดที่โบสถ์กลางน้ำ ฉายา ปทุมโม

    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  15. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    คุณเป็นท่านหรือคุณจึงทราบกิจท่าน...? หรือคุณประเสริฐเลิศแล้วกว่าหรือท่านคุณจึงทราบวาระจิตของท่านพระอาจารย์หลวงปู่เสาร์ก่อนท่านละธาตุขันธ์...ฟังใครเขามาหรืออ่านมาจากไหน..ท่านผู้เจริญ

    ผมกล่าวไปแล้วว่าวาสนาบารมีต่างกันแม้พระอรหันต์สาวกทั้งหลายยังละอนุสัยตนเองไม่ได้

    เราจะไม่กล่าวถึงเรื่องทำลายพระพุทธรูปซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะต้องอธิบายกันอีกมากตามสมควร

    เราเปิดมองโลกให้กว้างตามปรมัตสัจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน พระองค์จึงไม่ทรงตรัสว่าให้สร้าง พระพุทธรูปแทนพระองค์ขนาดเสมือนจริงและต้องเป็นธาตุที่เลิศแล้วในโลกนี้มาแทนพระองค์

    เวลาเรากราบไหว้พระพุทธรูปนั่นจึงเรากราบไหว้พระพุทธเจ้า ไม่ได้กราบไหว้เทวดา พรหม ฟ้าดิน หรือรูปปั้นที่ทำมาจากสิ่งอันวิจิตรใดๆต่างหาก นั่นจึงจะถูกต้องตามธรรม

    ในปรมัตสัจธรรม พระองค์ทรงสั่งสอนไว้แล้วในธรรมอันประเสริฐ ครอบคลุมไปทั้งจักรวาลเหล่านี้

    เราเพียงเปิดมุมมอง เพียงแค่มองตามพระองค์ก่อน เราจะเป็นว่าโลกหรือเรื่องโลกๆนั้นเป็นแค่เศษธุลี ธรรมของพระพุทธองค์ที่ทรงมาบอกมาสั่งสอนชี้แนะแนวทางให้เราหลุดออกไปจากสังสารวัฏช่างลึกซึ้งนัก

    หลังจากพระองค์ตรัสรู้พระโพธิญาณ พระองค์จึงทรงเอือมระอากับมนุษย์และสรรพสิ่ง ทรงรำพึงว่า จะมีซักกี่คนในสามโลกธาตุกันหนอที่จะพึงได้รู้ได้เข้าใจได้ในธรรมอันประเสริฐ และพึงรู้เห็นธรรมอันประเสริฐเหล่านี้ตามได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  16. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ขอประกาศให้3โลกรู้ว่า จากที่ข้าฯได้ศึกษาวิสัยอริยะบุคคลจำนวนมาก แล้วมันเหลือเชื่อ ว่าเรามิอาจตัดสินได้จากกริยาภายนอกได้เลย แต่ตัดสินกันที่ จิตหลุดพ้นเท่านั้น แม้อริยะเหมือนกันแต่อาจมีความเห็นต่างในสมมุติ ด้วยเหตุนี้จึงก่อให้เกิดสายอาจารย์ นิกายต่างๆ จะรู้ได้ว่าเป็นอริยะหรือไม่ดูจากคำกล่าว ถึงสภาวะของท่านเองเท่านั้น สภาวะบางอย่างจำเพาะผู้เป็นอริยะเท่านั้น แต่ไม่ใช่ดูจากกริยาภายนอกอย่างเด็ดขาด อริยไม่จำเป็นต้องนั่งยิ้มทั้งวัน อริยไม่จำเป็นต้องนั่งนิ่งเฉยทั้งวัน เราอาจได้เห็นพระอริยบุคคลโกรธ ตกใจ หรือกิริยาที่เรารับไม่ได้ แต่ท่านไม่ได้โกรธ หรือตกใจจริงๆ เป็นปฏิกิริยาของร่างกายเท่านั้น ภายในว่างเปล่าและสงบที่สุดแล้ว สังเกตุง่ายๆดูแวตาท่านก็ได้ ระหว่างคนทั่วไปโกรธกับพระอริยโกรธ
    ผมยอมรับในส่วนหนึ่งว่าหลวงปู่เกษมเป็นอริยบุคคล ผมจึงไม่กล้าวิจารย์ท่าน แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับท่านในหลายๆเรื่อง เปรียบดังพสกนิกรไม่มีสิทธิตำหนิพระราชาฉันใด ปุถุชนก็ไม่อาจเอื้อมไปกล่าวร้ายพระอริยะฉันนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  17. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    กระทู้สารธารณะ..บางอย่างก็ไม่เป็นเหตุอันควร ถ้าคุณ สี่แยก ยังขัดข้องในใจ เมื่อถึงกาลอันเหมาะสมค่อยแยกประเด็นอีกที

    สำหรับคำถามหลวงปู่เสาร์นั้น ท่านถามเพื่อจุดประสงค์อันใด เพื่อเป็นไปตามตำราคำบอกกล่าวหรือคุณตามสภาวะจิตท่านไปติดๆก่อนท่านละธาตุขันต์ ผมถามคุณก่อนด้วยคำถามก่อนหน้านี้คือ

    คุณเป็นท่านหรือคุณจึงทราบกิจท่าน...? หรือคุณประเสริฐเลิศแล้วกว่าหรือท่านคุณจึงทราบวาระจิตของท่านพระอาจารย์หลวงปู่เสาร์ก่อนท่านละธาตุขันธ์...ฟังใครเขามาหรืออ่านมาจากไหน..ท่านผู้เจริญ

    ตอบคำถามผมก่อนแล้วกันนะครับ ผมจึงจะตอบคำถามท่าน

    ส่วนเรื่อง วาสนา อนุสัย อธิมุตติ ท่านคงได้ศึกษามาบ้างแล้ว อย่าเพิ่งมาถกกันในกระทู้นี้เลยครับ

    บอกกล่าวแก่ท่านเหล่ากัลยาณมิตรที่เพิ่งเข้ามาติดตามอ่านความคิดเห็นนะครับว่า นอกประเด็นไปเล็กน้อยนะครับ สำหรับหัวข้อกระทู้ จะได้ไม่สับสน ขอบพระคุณครับที่เข้าใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  18. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    ตอบคำถามเล็กน้อยครับเรื่องหลวงปู่จันทา
    สำหรับในวาระที่ผมบวชอยู่กับหลวงปู่จันทานั้น
    หลวงปู่จันทาและหลวงปู่อ่ำ ธรรมกาโม ท่านออกมาเผยแพร่ธรรมที่พิจิตรด้วยกัน ตั้งวัดป่าเขาน้อย

    หลวงปู่จันทาท่านแสดงธรรมเทศนาอบรมพระและฆราวาสอยู่เป็นปกติ แต่หลวงปู่อ่ำ ท่านจะไม่พูดไม่คุยกับใครธรรมนั้นท่านก็ไม่แสดงวันหนึ่งๆท่านแทบจะไม่พูดอะไรเลย

    ตอนที่ผมบวชขากลับมาจากรับกิจนิมนต์เสร็จแล้ว พระแยกย้ายกันกลับกุฏิ ผมเดินไปส่งหลวงปู่อ่ำที่กุฏิ ระหว่างทางเหลือกันอยู่ ๒ องค์
    ผมจึงพูดกับหลวงปู่ว่า " ปู่ครับไปไหนมีแต่คนขอเหรียญขอคาถาขอของวิเศษศักสิทธิ์กับหลวงปู่กันทั้งนั้น แล้วผมเป็นศิษย์หลวงปู่อยู่ตอนนี้ มีอะไรให้ศิษย์บ้างไหมครับปู่ "

    หลวงปู่อ่ำเดินไปพูดไป " ยังจะมาหาเอาอะไรอีกพระรัตนตรัยก็มีอยู่กับตัวแล้ว "

    ซึ่งจริงๆแล้วผมก็พูดไปอย่างนั้นแหละครับ ผมไม่เคยปรารถนาจะได้เครื่องรางของขลังหรือคาถาอาคมอะไร ที่มีอยู่เต็มบ้านนั้นทั้งพระและคนเค้าให้มาทั้งนั้น มีแค่องค์เดียวที่ผมเสียเงินเองคือพระพุทธสุวรรณภูมิศิริโชค ที่ตอนผมย้ายมาอยู่สนามบินสุวรรณภูมิใหม่ๆ



    การเปิดมุมมองและโลกกว้างตามหลักสัจธรรมแล้ว เราต้องมองให้กว้างและเป็นกลาง

    หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ศาสนาพุทธจึงแตกออกไปเป็น นิกายอีกจำนวนมาก

    การปลูกฝังให้เคร่งครัดในวิถีแห่งนิกายตน ว่าจะให้บริสุทธิ์หลุดพ้น จึงมีอยู่ไปตามวิถี

    ถ้าเราเปิดใจ ฟังพวกเถรวาทบ้าง นิกายวชิรญาณ นิกายเซนเหล่านี้ท่านนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนมาจากที่เดียวกัน เหมือนกัน แต่ถ่ายทอดออกไปตามวิถีแนวทางต่างกันไป

    พวก นิกายวชิรญาณ ในเนปาล นั่นนับถือพุทธ หนักว่านี้อีก นับถือพระพุทธเจ้าแถมมีภาพพระพุทธเจ้ากระทำอันไม่สมควร แค่นี้ก็แย่แล้วประเพณีไทยรับไม่ได้หรอกครับ แค่นับถือพุทธแล้วทำไมเอาศิวลึงค์มาประดับประดากันเต็มบ้านเต็มเมือง เรารับกันได้มั๊ยครับ

    อย่าลืมว่ามีแต่พระพุทธองค์เท่านั้นที่พุทธพยากรณ์ไว้ให้และรับรองความเป็นอรหันต์ให้แก่เหล่าสาวก

    เหล่าพระอรหันต์สาวกและพระอริยะทั้งปวง ไม่มีสิทธิรับรองว่าใครเหล่าใดคนใดว่า บุคคลนั้นเป็นพระอริยะพระอรหันต์ได้

    แล้วเราจะไปจัดแจงจัดการกับพระมหายานหรือพระที่ภูฏานอย่างไรดีเล่าครับ

    ย้อนกลับมาดู พระเกษม เลยกลายเป็นเรื่องขี้ผงไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  19. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    อือ..ไปรู้จากการอ่านงานเขียนของพระอาจารย์ ไพศาล วิสาโล มานั่นเอง

    แล้วรู้ไหม ผมสนทนากับพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ว่าอย่างไร แล้วท่านตอบคำถามผมไม่ได้ ด้วยความเคารพ ปี ๒๕๕๔ นี้นั่นแหละ

    ผมไม่ได้ปรารถนาที่จะแสดง แต่เห็นท่านอ้างขึ้นมาก่อน

    จะจบแล้วแหละครับ...สำหรับผม
     
  20. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    คุณๆเชื่อเรื่องว่า อายุดำรงอยู่ของพระศาสนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมว่าดำรงคงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีหรือไม่ครับ นี่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาประมาณมิได้นะครับ พระองค์ทรงปรารถนาไว้ ๑๐,๐๐๐ ปี แต่ลดลงมาครึ่งหนึ่งเพราะเหตุใด ไปหากันนะครับ

    ถ้าคุณเชื่อ เพราะว่าเป็นพุทธพยากรณ์ วาระก็ต้องเป็นไปดังนั้น เมื่อเป็นดังนั้น คุณจะไปเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วยเหตุอันใด

    เหตุปัจจัยมันต้องเป็นไปดังพุทธพยากรณ์เป็นแน่แท้

    แต่ถ้าคุณไม่เชื่อล่ะ ดำรงอยู่ไม่ครบ ๕,๐๐๐ ปี แน่ เพราะมีคนอย่างนั้น พระอย่างนี้ หรือ อายุดำรงอยู่ของพระศาสนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมว่าดำรงคงอยู่ได้เกินกว่า ๕,๐๐๐ ปีแน่ถ้ามี คนดีๆคนประเสริฐอยู่ในกาลนี้เยอะๆ พระปฎิบัติดีปฏิบัติชอบมากมาย

    ผมจะบอกว่า ในกาลปัจจุบันนี้ ถึงจะมีพระดี พระประเสริฐเลิศแล้วมากมาย หรือ มีคนดีมากกว่าคนชั่ว หรือมีคนชั่วมากกว่าคนดี มีคนประเภทบัวเหล่าใดอยู่มากน้อยกว่ากัน ฯลฯ

    จะมีพระเกษมอยู่ มีคุณๆอยู่ และจะมีผมหรือไม่มีผมอยู่ในกาลปัจจุบันนี้ มันก็ไม่ใช่สาระ ให้อายุดำรงอยู่ของพระศาสนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมว่าดำรงคงอยู่ได้ครบ ๕,๐๐๐ ปี หรอกครับ

    เพราะมันเป็น พุทธพยากรณ์ ซึงไม่มีข้อผิดพลาดขัดแย้งได้ตามเรื่องโลกสมมุติบัญญัติ

    คำถามอื่นๆผมไม่ตอบครับ ผมก็มีวาระหน้าที่ของผม ดูจิตดูใจของตัวเองไป มองเรื่องโลกๆก็มองตามจริงเป็นสัจธรรมแล้วก็วาง ไม่เอามาเป็นอารมณ์เกาะกินใจ

    แล้วผมจะไปติ่นเต้นหรือตกใจเซอร์ไพร์อะไรไปกับเรื่องเหล่านี้ ซึ่งต้องยังบังเกิดอยู่ไม่เฉพาะในกาลปัจจุบันนี้ ในอนาคตกาลยิ่งหนักกว่านี้อีก ทุกสิ่งมันเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ทำกรรมกันไว้เอง

    ด้วยความเคารพทุกความคิดเห็นหรือทรรศนะ ผมขอลาก่อนจากกระทู้นี้ ล้าลัลลา........................







     

แชร์หน้านี้

Loading...