คลิปแก้ข้อกล่าวหา "คลิปพระอยากดัง" โดยพระเกษม

<TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 5150514" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>เจ็ดแยก</TD><TD class=alt1>มีคนเขาเล่าให้ผมฟังว่า มีเจ้าสำนักดังแห่งหนึ่งแถวๆนี้ ให้ลูกศิษย์มีอะไรกันให้ท่านดู อันนี้จริงหรือเปล่าไม่รู้นะ หากท่านไม่มีอารมณ์ทางเพศแสดงว่าท่านบรรลุแล้ว ฟังคนอื่นมาอีกทีนะ ไม่ทราบว่าสมาชิกท่านอื่นพอจะเคยได้ยินข่าวนี้บ้างไหม </TD></TR></TBODY></TABLE>
คือ ผมกำลังตามหาเจ้าสำนักตัวนั้นอยู่ครับ เห็นคนเค้าว่าอยู่แถวๆนี้ คือกำลังหาเป็นตัวๆอยู่ครับ ไม่แน่ใจว่าใช่ตัวเดียวกันไม๊ อยากให้ลูกศิษย์ออกมายืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่ามันมีจริงไม๊ครับ ที่สำนักสามแยกมีการกระทำแบบนี้ไม๊ คือเพื่อนผมมันเล่าให้ผมฟังไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ใคร แต่มันคาใจมานานแค่นั้นเองครับ

 

คือแล้วอิที่ว่า ดูคนมีอะไรกันแบบตัวเป็นๆ ดูแบบหนังสด แล้วไม่มีอารมณ์เนี้ย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของเขา จึงคิดว่าเขาบรรลุอรหันต์แล้ว
แต่ผมสันนิษฐานได้สองอย่าง คือตัวท่านบรรลุแล้ว กับ นกเขาไม่ขันครับ ถ้าเป็นอย่างแรกมันก็ดีไป แต่ถ้าเป็นอย่างหลังผมเกรงว่าคนจะเข้าใจผิด คิดว่าอาการนกเขาไม่ขันมันเป็นอาการของผู้บรรลุธรรมขึ้นสูงครับ

 

แปลกดีกระทู้นี้มีคนไม่กี่คนออกมาแถ เปลี่ยนเรื่องจากจุดประสงค์การกระทำของ ไอ้เกษม และสำนักสงฆ์สามแยก มาเป็นเรื่องต่างๆที่ไม่ได้เกี๋ยวกันเลยท่านที่เข้ามาอ่านพอจะเห็นภาพชัดเจนหรือยังครับว่าพวก สำนักสามแยกมีพฤติกรรมอย่างไรลองพิจรณาดูเอาเองเถิด ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านวิเคาะห์ได้ หรือพูดง่ายๆว่าออกมาป่วนกระทู้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่คงยากเพราะเรื่องนี้ท่านผู้อ่านลองเข้าไปอ่านเวปอื่นดูแล้วจะทราบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ และเขาก็รู้ว่าคนกลุ่มนี้กำลังทำลายพระพุทธศาสนา พวกนี้จะชักชวนได้ก็แต่พวกโขลาเบาปัญญา หรือที่ออกมาป่วนกันก็อาจจะเป็นพวกที่เป็นคนในลัทธิอื่นเพื่อมุ่งหวังมาทำลายพระพุทธศาสนา พวกเราเป็นคนพุทธบิดามารดาของเราก็พุทธ ลูกหลานเราก็พุทธ หากพวกเราไม่มาช่วยกันกำจัดพวกบ่อนทำลายพระพุทธศาสนากันแล้ว อีกหน่อยเราลูกหลานเราก็คงเข้าใจผิดดำเนินวิถีพุทธที่ผิด และวันนั้นก็คงสมใจของเหล่า เดนมนุษย์ที่ตอนนี้กำลังทำลายพระพุทธศาสนาอยู่

 

ท่านอ่านแล้วพอจะดูออกไหมครับว่ามีใครบ้างมีไม่กี่ตัวหรอกครับอ้างพระธรรมคำสั่งสอน ทั้งที่พวกนี้รู้อยู่แก่ใจว่าผิด กำลังบิดเบือน นรกเป็นของพวกนี้แน่ทั้งนรกก่อนความตายและหลังความตาย

 

ตามรู้ ตามดู ตามเห็น กันดีกว่าเนอะ แล้วจะไปตัดสินกันทำไมว่า อะไรถูก อะไรผิด มองให้เป็นธรรมะก็พอแล้ว

 

สาธุ..สาธุ จงศึกษาสมมุติเพื่อเข้าสู่วิมุตติ

 

โค๊ะ ไม่ได้มาป่วนเด้อ แต่มาถามลูกศิษย์ท่านเกษมว่าข่าวที่ว่ามันจริงไม๊โฮ๊ะ! ที่ลูกศิษย์คนหนึ่งของท่านออกมาพูดว่า มันมีข่าวเรื่องการเสพหนังสด มันเป็นจริงไม๊ แต่ยังไม่เห็นใครออกมาพูดว่าจริงหรือไม่ เอ๊ะ! มันยังไงแน่ ศิษย์บางส่วนรับรู้ หรือ ศิษย์ทุกคนรู้เรื่องนี้ แต่ไม่กล้าเปิดเผยกันแน่ หรือว่าท่านถูกใส่ร้าย ก็ออกมาแก้ตัวกันหน่อย

<TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 5151728" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>goldtop</TD><TD class=alt1>แปลกดีกระทู้นี้มีคนไม่กี่คนออกมาแถ เปลี่ยนเรื่องจากจุดประสงค์การกระทำของ ไอ้เกษม และสำนักสงฆ์สามแยก มาเป็นเรื่องต่างๆที่ไม่ได้เกี๋ยวกันเลยท่านที่เข้ามาอ่านพอจะเห็นภาพชัดเจนหรือยังครับว่าพวก สำนักสามแยกมีพฤติกรรมอย่างไรลองพิจรณาดูเอาเองเถิด ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านวิเคาะห์ได้ หรือพูดง่ายๆว่าออกมาป่วนกระทู้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่คงยากเพราะเรื่องนี้ท่านผู้อ่านลองเข้าไปอ่านเวปอื่นดูแล้วจะทราบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ และเขาก็รู้ว่าคนกลุ่มนี้กำลังทำลายพระพุทธศาสนา พวกนี้จะชักชวนได้ก็แต่พวกโขลาเบาปัญญา หรือที่ออกมาป่วนกันก็อาจจะเป็นพวกที่เป็นคนในลัทธิอื่นเพื่อมุ่งหวังมาทำลายพระพุทธศาสนา พวกเราเป็นคนพุทธบิดามารดาของเราก็พุทธ ลูกหลานเราก็พุทธ หากพวกเราไม่มาช่วยกันกำจัดพวกบ่อนทำลายพระพุทธศาสนากันแล้ว อีกหน่อยเราลูกหลานเราก็คงเข้าใจผิดดำเนินวิถีพุทธที่ผิด และวันนั้นก็คงสมใจของเหล่า เดนมนุษย์ที่ตอนนี้กำลังทำลายพระพุทธศาสนาอยู่ </TD></TR></TBODY></TABLE>
อินีก็อย่า งง!น่ะจ๊ะ เพราะว่าสถานที่แห่งนี้มีความเป็นมาที่เคลือบแคลงใจของสังคมอยู่หลายเรื่องนะจ๊ะ

 

ตอบเรื่องพระพุทธรูป

พระไตรปิฎก มหามกุฏฯ เล่ม32 หน้า 214
บทว่า อปฺปฎิโม (ไม่มีผู้เปรียบ) ความว่า อัตภาพเรียกว่า
รูปเปรียบ. ชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบ เพราะรูปเปรียบอื่นเช่นกับอัตภาพ
ของท่านไม่มี. อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใด
ล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่า
ผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทรายให้เหมือนอัตภาพของ
พระตถาคต ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดย
ประการทั้งปวง. บทว่า อปฺปฎิสโม (ไม่มีผู้เทียบ) ความว่า ชื่อว่า
ไม่มีผู้เทียบ เพราะใคร ๆ ชื่อว่าผู้จะเทียบกับอัตภาพของพระตถาคต
นั้นไม่มี.

 

ท่านบอกว่า"เราศึกษาพระไตรปิฏกแล้ว" ท่านยังไม่เข้าใจถ่องแท้ แล้วท่านสอนคนที่ไม่รู้เรื่องพระไตรปิฏกเลย พวกเขาเหล่านั้นจะทราบแจ้งได้อย่างไร(กาลามสูตร) ในเมื่อผู้สอนเองยังไม่เข้าใจ
ท่านหยุดเสียเถิดตอนนี้ อย่าก้าวล้ำไปมากกว่านี้เลย

 

เอาอะไรมาวัดพระ ว่าพระอรหันต์ไหม อรหันต์ ไม่ต้องถึงคำว่าพระอริยเจ้า คนที่เขาเข้าในเขตของ ไตรสรณคมณ์ คนพวกนี้เค้าเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างสูงสุดที่แค่เป็นไตรสรณคมณ์นะ รู้จักไหมไม่ใช่ใครก็เป็นได้นะ ไตรสรณคมณ์นี่เขาเคารพด้วยปัญญา เขาใช้วิปัสนาเข้าไปพิจรณาถึงคุณความดี ต่างๆของพระไตรรัตน ไม่ใช่ซี้ซัวอ้างได้ คนพวกนี้เค้ามีปัญญา พวกนี้เขากำลังจะก้าวเข้าเขตของโสดาปัตติมรรค แล้วนี่มาอ้างว่าอรหันต์ นี่ยังไม่ได้ครึ่งของ ไตรสรณคมณ์เลย ปัญญาก็ไม่มี กล่าวตู่กันไป แอบอ้างกันไป คำว่าพุทธานุสติ ยังไม่รู้จัก แล้วจะมาพูดถึงอรหันตร์ได้ยังไง นี่มันเลวกว่าพระเทวทัตนะ พระเทวทัตน่ะ ก่อนจะตาย ถวายร่างกายและชีวิต เป็นพุทธบูชานะ ปราถนาเป็นพระปัจเจกไปดูในพระไตรปิฎก หรือวิสุทธิมรคได้ ในพุทธประวัติก็มีไปหาอ่านเอา หาปัญญามาใส่ตัวบ้างไม่ใช่หาแต่ความ จัญไร แบบนี้
อีกอย่างขอยกคำของหลวงปู่อ่อนแสง ปูชาจปูชนียานัง เอตัมมังคะละมุตตมัง นี่ในมงคลสูตรก็กล่าวไว้บูชาบุคคลที่พึ่งบูชา บุคคลใดที่พึ่งบูชา ก็คือ ผู้มีพระคุณ ผู้มีหิริและโอตปะ ผู้ทรงศีลทรงธรรม นี่บุคลแบบนี้จึงเป็นผู้ควรเคารพแก่การกราบไหว้ให้ บทสวดสังฆคุณก็มีไหว้ สงฆ์ ที่เหมาะจะรับไทยทาน รับการกราบไหว้ นี่ต้องเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชิบ ปฏิบัติตรงกับพระธรรมวินัย ปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมอันเป็นเครื่องออกจากทุกข์ เคยสวดแล้วแปลและทำความเข้าใจไหม เอาแต่โง่บัดซบ(เห็นชอบให้ด่าหยาบคายแล้วจึงเคารพขอเอามั่ง) การทำตัวเป็นโลกวัชชะนั้นไม่ใอยู่ในอริยประเพณี แม้จะอ้างว่าท่านเป้นผู้หลุดพ้นจากโลก(สมมติ)แต่กริยาของท่านจะแสดงแบบโลดโผนอย่างไรก็ไม่เคยที่จะทำการลบหลู่พระพุทธรูป อันนี้ไม่เคยเห็นเลย มีแต่คนจังไรจริงๆเท่านั้นที่ทำได้

ตอบกันเป็นข้อๆเลย
1.กฎเกณฑ์ต่างๆล้วนเป้นโลกสมมติปรุงมันขึ้นมาอันนี้จริง แต่ในสมมตินั้นก็มีเพื่อระเบียบแผนแผนอันดีงาม การกระทำบางการกระทำ ไม่เหมาะกับสมณะสารรูป หลวงปู่ตื้อเคยด่าผู้หญิงคนหนึ่งว่าอิตอแหล ด่ามันซึ่งๆหน้านี่ ด่ากันใน อรรถในธรรม แล้วการกระทำของคนๆนี้ ด่าใครซึ่งๆหน้าด่าใครหรอ เหมือนเป็นการกระทำของ อิสสตรีที่ไม่เปิดเผยไปด่าไปทำกันลับหลัง แล้วค่อยเอามา อัพอวดโชว์ชาวบ้านว่ากูแน่ กูด่าได้ กูเป็นแบบนี้ นี่ไม่มีในจริยาของพระ มันเป็นโลกวัชชะ

2.ทุกอย่างเป้นเพียงรูปลักษณ์ และกายขันธ์นี้ก็เป็นธาตุ4ปรุงมันขึ้นมาเป็นสังขาร แต่ว่าแม้จะเป็นเพียงรูปลักษณ์ แต่ถ้ามีความเกี่ยวพันกับพระพุทธเจ้า เป็นรูปเคารพกระทำออกไปแล้วจะเป็นการปรามาส การดูหมิ่น พระอริยเจ้าท่านก็ไม่ทำเพราะมันไม่ใช่เรื่อง มันเป็นความคิดปัญญาอ่อน พะรพุทธรูปนี่เป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน มันจะมาไหว้เพื่ออะไรของชั่งของเขา แต่เขามาไหว้แบบสบายใจ เมื่อใจสบายมันก็มีความสุข จิตใจก็จดจำใยพระพุทธรูป มีสุคติเป็นที่ไปถ้าบอกว่าพระพุทธรูปเป็นก้อนอิฐและทองเหลือง แต่ไตรปิฎกที่เอามาถือโก้ แบบคนปัญญาอ่อนนั่น ไม่ใช่กระดาษปึกหนึ่งเหมือนกันหรือ ตอบแบบโง่ๆอกีตะหาก ก็มีแต่คนปัญญาอ่อนไปฟัง
3.มันไม่เกี่ยวกับว่า จะพัฒนาไปถึงไหน แต่มันเกี่ยวกับที่ว่าการกระทำดังกล่าวหยาบคาย กล่าวตู่พระไตรปิฏก แสดงการเหมือนคนบ้า ขาดสติกระลึกได้จึงออกมาแก้ตัวแบบไม่สำนึก ซ้ำยังเที่ยวท้าชาวบ้านเขาไปทั่ว นี่ไม่ใช่การกระทำของ สมณะ ที่แปลวาสผู้สงบ

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อวตาร888
ผมได้ติดตามดูและอ่านเกี่ยวกับหลวงพ่อมาเยอะ พึ่งจะมาเจอของจริง ที่เวปธรรมจักรนี้แหละครับ.

กระทู้นี้
::


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อวตาร888
ความจริงก็คือ
บทความของคุณ คอแก้ง

เมื่อ1-2วันมานี้ ข่าวดังออกทีวี และ หนังสือพิมพ์หน้า1 ทุกฉบับ ว่าหลวงพ่อ พฤติกรรมไม่เหมาะสม

และ ลูกศิษย์ชอบอ้างว่า เกี่ยวดองกับหลวงตาบัว กับ หลวงปู่หล้า ซึ่งไม่ควรอย่างยิ่ง

คลิปนี้ออกทีวีไปทั่วประเทศ ยกเท้ากระทืบโรงทาน และเอาเท้าเตะโต๊ะ สบถคำหยาบมากมาย

ก่อนหน้านี้ ก็เอามือตบแก้มพระพุทธชินราช แล้วบอกไม่ใช่พระพุทธเจ้า

ความคิดเห็นที่ 49
เข้าใจในเจตนาของท่าน จขกท ครับ
พระเกษมท่านอ้างว่า ท่านเป็นศิษย์วัดป่าบ้านตาด และเป็นศิษย์วัดภูจ้อก้อ (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)

แต่จากการที่ผมได้รับทราบประวัติของพระเกษม และสอบถามจากครูบาอาจารย์ทั้ง ๒ วัด ตั้งแต่ ปี ๒๕๔๕ ซึ่งพระเกษมเริ่มมีชื่อเสียงใหม่ ๆ ในทางหูทิพย์ ตาทิพย์

ครูบาอาจารย์จากวัดป่าบ้านตาด และวัดภูจ้อก้อ ได้ชี้แจงว่า
พระเกษม บ้านเกิดอยู่บ้านตาดจริง แต่ไม่ได้บวชที่วัดป่าบ้านตาด ไม่เคยจำพรรษาที่วัดป่าบ้านตาด ไม่เคยถือนิสสัยกับท่านหลวงตาวัดป่าบ้านตาด เคยมาพักจำวัดที่วัดป่าบ้านตาด แต่พระภิกษุผู้มีหน้าที่ จัดที่พัก ให้พระเกษมจำวัดบนศาลาทุกครั้ง (ซึ่งเรื่องให้พระอาคันตุกะจำวัดบนศาลา ผู้ที่เข้าวัดบ้านตาดมานานหรือประจำ จะรู้จักดี)

ส่วนของวัดภูจ้อก้อ จ. มุกดาหาร (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต) ได้ชี้แจงว่า พระเกษม เคยมาขอศึกษาปฏิบัติธรรมกับท่านหลวงปู่วัดภูจ้อก้อ จริง
แต่ไม่ได้รับอนุญาต จากท่านหลวงปู่ให้อยู่พำนักด้วย
ท่านให้พระเกษมไปพักอยู่ที่วัดน้อย ซึ่งห่างจากวัดภูจ้อก้อประมาณ ๑ ก.ม.
เมื่อถึงกำหนดฟังเทศน์ ซึ่งหลวงปู่วัดภูจ้อก้อ จะเทศน์ทุก ๆ วันขึ้น แรม ๕ ค่ำ พระเกษมและพระสงฆ์สามเณร ในวัดใกล้เคียง รวมทั้งญาติโยม จะมารวมกันฟังเทศน์ในวันนั้น

ดังนั้น ต้องบอกว่าพระเกษม ไม่มีความเกี่ยวข้องกับวัดป่าบ้านตาด และวัดภูจ้อก้อ แต่อย่างใด การกระทำของพระเกษมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระมหาเถระทั้งสองรูป ซึ่งถึงมรณภาพ ไปแล้วแต่อย่างใดทั้งสิ้น

จากคำถามของท่าน จขกท
1. เรียนถามกลุ่มของศิษย์ของพระป่า
ที่รู้ถึงความเป็นมา เป็นไปของความเป็นพระป่าว่า
การแสดงท่าทางเช่นคลิปดังกล่าวนี้

หากมองด้วยสายตาของความเป็นลูกศิษย์สายวัดป่าแล้ว
มองด้วยความเข้าใจได้เช่นไร ?

ขอตอบว่า
ครูบาอาจารย์ในกลุ่มวัดป่าทั้งหลาย มองว่า พระเกษมติดใน นิมิต มากไป จนวิปลาสครับ ส่วนความหมายของคำว่า วิปลาส นี้ ผู้ปฏิบัติภาวนา น่าจะเข้าใจได้ดี และน่าจะเห็นบ่อย ๆ
แต่ผู้ที่ศึกษาทางปริยัติ ผมขออธิบายแค่ว่า เป็นวิปัสสนูปกิเลส อย่างหนึ่งครับ
อาการอย่างนี้ ที่เคยแก้กันมา คือ ยั่วให้โกรธ หรือหาหนัง หาละคร หาดนตรีมาให้ฟังให้ดู พอจิตเสื่อมจากสมาธิ ก็หายครับ

ถ้ายังไม่หาย ก็ให้ลาสิกขา ก็หายครับ
บางราย ลาสิกขาแล้วก็ยังไม่หาย จนได้เสพกามกับสตรี กับภรรยาเก่า ก็หายครับ
ที่กล่าวมานี้ จากประสบการณ์ที่เคยเห็น เคยได้ยินนะครับ

สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดหินหมากเป้ง ยังอยู่
พระที่เป็นวิปลาส แค่เห็นหลวงปู่ก็หายครับ
หลวงตาวัดป่าบ้านตาดก็เหมือนกัน พระวัดหินหมากเป้งเคยวิปลาสมาประมาณ ๒ ปี (หลวงปู่เทสก์มรณภาพแล้ว) แค่ได้ยินเสียงหลวงตาวัดป่าบ้านตาด ก็หายครับ

คำถามที่ ๒ ของท่าน จขกท
2. ชวนวิเคราะห์ปรากฏการณ์ฯ การแสดงท่าทางของพระเกษมเช่นนี้
ว่า เหตุใดชาวบ้านทั้งหลายที่เห็นในคลิปนี้ ยังคงศรัทธาท่าทางเช่นนี้
มีเหตุผลใดสนับสนุนถึงความศรัทธาเช่นว่านั้นครับ ?

เท่าที่ทราบ เขาศรัทธาว่าพระเกษมมีหูทิพย์ตาทิพย์ เห็นผีเห็นเทวดาทั่วไปหมดน่ะครับ
และบางคนอาจเห็นจนชินตาแล้วครับ กับกิริยาเช่นนี้ของพระเกษม
ส่วนตัวผมเอง ก็เห็นมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ โน่นแหละครับ ก็ไม่ได้สนใจอะไร
รู้ว่าพระเกษมวิปลาส หรือ บ้า ไปแล้ว ก็จบครับ
ถ้าไม่มีคนถาม ผมก็ไม่พูดนะเนี่ย

หนังสือ ซีดี ที่ลูกศิษย์ของพระเกษมพิมพ์ หรือทำออกมาแจกจ่าย ผมไปเจอตามบ้าน ตามวัด ผมขอเอามาเผา เอามาทำลายทิ้งหมดครับ ไม่ให้เหลือไว้เป็น มิจฉาทิฏฐิของคนรุ่นหลัง

พระวัดป่า โดยเฉพาะที่ อุดร หนองคาย หนองบัวลำภู เลย ท่านก็ให้เผาทำลายหนังสือ หรือซีดี ของพระเกษมทิ้งมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ แล้วครับ
ไม่ใช่ว่า เพิ่งมาทำเมื่อพระเกษมเป็นข่าวตามสื่อ

ส่วนที่พระวัดป่าท่านไม่ยุ่งเกี่ยวกับพระเกษม ก็เพราะท่านรู้แล้วว่า บ้า วิปลาส แล้วจะไปยุ่งเกี่ยวทำไมอีก ปล่อยให้เป็นไปตาม กรรม ของพระเกษมเองครับ

จากคุณ : คอแก้ง
เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 15:52:02

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A1.306713/page-6#post5152071

 

อนุโมทนาสาธุครับ ชัดเจนดีแท้

 

นอกจากพระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้า จะพยากรณ์บุคคลนั้นเป็นไปไม่ได้

มีปรากฏในพระพุทธพจน์ ผมจำไม่ได้แล้วว่าพระสูตรไหน

แล้วบอกว่าพระรูปนี้เป็นอริยะ คุณเป็นพระปัจเจกหรือพระพุทธเจ้าหรือไง?

ผมไม่ได้จะมาจับผิดหรอก มันผิดเลยพูดไปตามที่มันผิด ถ้าจับผิดจริง ๆ ทำดีก็ต้องว่าผิดด้วยสิ

 

สรณ ที่ถูกต้องไม่ใช่ พระพุทธรูป อันนี้ คนที่ศึกษาพระศาสนา แม้แต่ชาวบ้านแก่ๆก็รู้ ว่าพระพุทธรูปน่ะไม่ใช่ สรณะ แต่ที่เค้ากราบกันนั่น เค้ากราบกันอย่างมีปัญญาก็มี กราบพระให้ถึงพระ กราบที่คุณของพระ กราบด้วยเลื่อมใสศรัทธา รูปธรรมก็อย่างหนึ่ง นามธรรมก็อย่างหนึ่ง คนผู้มีปัญญา(วิปัสนา)น้อยแต่มีศรัทธ ได้เห็นรูปก็ยินดีพอใจในรูป สามารถชักจูงให้ได้เลื่อมใสศรัทธายิ่งขึ้นไป เป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน(ความสิ้นกิเลส อาสวะ)ในที่สุด แม้ชาตินี้ไม่ถึงแต่ก็เพราะเป็น นิสัยผูกพันธ์ไปในภพชาติต่อๆไป
การสร้างพระพุทธรูป จุดประสงค์ไม่ได้ให้ยึดเป็นสรณะ แต่เป็นเครื่องเชื่อมโยงให้ถึงในสรณะ การสร้างพระไตรปิฏหแบ่งออกแบบ สามหมวดหมู่จุดประสงค์คือ เรียบเรียงเพื่อการจดจำถ่ายทอด แต่ไม่ได้ให้ถือพระไตรปิฎกเป็นสรณะ แต่ให้ยึดถือเป็นแหล่งคำสอนไม่ใช่เอามาเป็นสรณะ ตัวธรรม(ธรรมมะ)นี้แหละจึงเป็นสรณะ ไม่ใช่ตัวคัมภีร์ พระพุทธเจ้าเองก็เคยติ พระสาวกองค์หนึ่งที่เอาแต่ติดคัมภีร์ท่านก็เรียก เถรใบลานเปล่า เพราะเอาแต่ยึดติดแต่ในตัวคัมภีร์ ตัวเองก็ยังไม่ก้าวหน้าในทางธรรม(การยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นจากความเป้นปุถุชน)คราวของหลวงปู่มั่นเองก็เช่นกัน ถ้าก็สอนว่าอย่าเอาแต่ศึกษาในพระไตรปอฎกให้มุ่งมั่นเอาอรรถ เอาธรรมเข้ามาในตัว แสวงหาธรรมที่มันเป็นของตน อย่าไปกล่าวตู่ธรรมของพระพุทธเจ้ามาเป็นของตน(ท่านว่าไว้เป็นภาษาอิสานผมสรุปลงมาประมาณนี้ ) แม้สงฆ์ ทั้งหลายนั้น จะมายึดเอา จีวร อัฐบริขารมาเป็นสงฆ์ก็ไม่ใช่ จะมายึดเอาการโกนหัวห่มเหลืองก็ไม่ใช่ สงฆ์ที่เป็นสรณะ คือทรงผู้ประพฤติ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติเพื่อบรรมลุธรรมอันเป็นเคร่องออกจากทุกข์ นั้นคือผู้ควรแก่การรับทักษณทาน ไทยธรรม การทำอัญชลี นี่แปลว่า บทพระสังฆคุณเลยนะ นี่แค่บทพระสังฆคุณนะไม่ต้องยก ไตรปิฎกมาอ้างก็เห็นชัดแล้ว
เห็นได้ชัดว่า แม้ตัวคัมภีร์ที่พวกคุณเอามาอ้าง ก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ สรณะ แล้วสรณะที่แท้จริงคืออะไร สรณะที่แท้จริงเอามาเป้นที่ยึดเหี่ยว คือความมั่นคงในพระรัตนไตร การจะมั่นคงในพระรัตน นั้นมันอยู่ที่ความศรัทธาเลื่อมใสเป็นเบื้องต้น พระพุทธรูปก็ดี ธรรมจักรก็ดี ไตรปิฎกก็ดี รอยพระพุทธบาทก็ดี เจดีย์ก็ดี จีวร ก็ดี นี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้คนเห็นแล้วรู้สึกเลื่อมใส เมื่อเลื่อมใสแล้วจึงมีศรัทธา เม่อศรัทธาแล้วก็มึความอยากรู้ อยากรู้ในธรรม อบากรู้ในการปฏิบัติ นำไปสู่การมีปัญญา เมื่อมีปัญญาแล้ว ก็จึงมีความมั่นคงในพระรัตนไตร มั่นคงอย่างไร มั่นคงในที่นี้ คือแบบแม้จะเป็นการกระทำอันเล็กน้อยที่จะด่างพร้อยต่อพระรัตนไตรนี้ก็จะไม่ยอมให้มีเกิดขึ้นกับตน ไม่ยอมแม้จะคิดเลย นี่จึงเรียกว่าผู้เข้าถึงไตรสรณคมณ์ นี่แค่เข้าถึงไตรสรณคมณ์นะ ไม่ถึงกับพระโสดาบัน ถ้าโสดาบันก็ต้องมีอีกขึ้นอีก คือศีล และมีความต้องการพระนิพพานเป็นอารมณ์อีกทั้งยังต้องเข้าใจในความเป็น อนิจจังทุกขัง อนัตตา นี่เอาแค่นี้ก่อน พระพุทธรูป ถึงแม้จะไม่ใช่สรณะ แต่เป็นตัวที่จะทำให้คนที่มีปัญญาในวิปัสนาน้อย เป็นการชักจูงให้คนมีความศรัทธา นี่คือจุดเริ่มต้นของปัญญาเลย รู้ไว้ อิพวกโง่ แล้วอย่ามาเถียงนะ ว่าก่อยสมัยพระเจ้า กนิษกะที่เป็นกษัตร์ในแคว้นคันธาระสร้างพระพุทธรูปเป็นครั้งแรก ก่อนสมัยนั้นไม่มีรูปเครพ ขอตอบเลยว่าก่อนสมัยพระเจ้ากนิษกะนั้นมีรูปเคารพในพระพุทธศาสนา เป้น ธรรมจักรก็ดี ฐานดอกบัวก็ดี พุทธอาสน(แท่นที่พระพุทธเจ้าเคยประทับตามสถานที่สำคัญ)ก็มี สังเวชชนียสถานเองนั่นก็ถือว่าเป็นที่เคารพแทนองค์พระศาสดา ไม่ใช่สรณะเหมือนกัน แต่ทรงบอกว่าให้ชาวพุทะถ้ามีโอกาสก็ให้ไปเพื่อระลึกถึง ตอนก่อนเสด็จดับขันธ์ นี่มึงเห็นกันหรือยัง อิพวกโง่ โง่แล้วอวดฉลาด อวดความณู้เท่าหางอึ่ง(อึ่งมันไม่มีหางเพราะฉะนั้น ปัญญาของบรรดามึงๆทั้งหลายก็ไม่มีเหมือนหางอึ้ง กูบอกให้เพื่อพวกมึงจะคิดไม่ได้)<<ขอประทานโทษที่ต้อหยาบคายเพราะ กะสัมเภสี สิงในพระศาสนาพวกนี้คำพูดธรรมดา ของหมู่บัณฑิตผู้เจริญในธรรมมันไม่เข้าไปในสมองเท่าเมล็ดถั่วที่ราบเรียบไร้รอยหยัก(ไร้รอยหยักแปลว่า โง่นะจ๊ะ)

 

สาธุ สาธุ สาธุ พูดได้โดนใจมากเลยค่ะมีสาระธรรม

 

[FONT=&quot]อยากจะบอกว่าเห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างบน การที่ใครสักคนจะเป็นพระอรหันต์ต้องแสดงพฤติกรรมเยี่ยงนี้หรือค่ะ สมัยพระพุทธองค์ท่านคือที่หนึ่งของศาสนาเป็นผู้ที่มนุษย์ทุกรูปทุกนาม แม้แต่เทวดา ยังเคารพกราบไหว้พระพุทธองค์ยังไม่เคยแสดงอาการเช่นนี้เลย แม้แต่องค์พ่อฟ้าหลวงของชาวไทยสูงส่งเหนือฟ้าท่านยังไม่เคยแสดงกิริยาอาการแบบนี้ให้ใครเห็นแล้วพระรูปนี้เป็นอะไรถ้าไม่ได้ยึดติดอัตตาตัวตนมากเกินไป ไม่ได้รู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้มีอคติอะไรใดๆแต่พูดถึงความถูกต้อง ความเหมาะสม[/FONT]

[FONT=&quot]ถ้าจะอ้างตัวเป็นพระอริยะสงฆ์ก็ควรทำตัวให้ผู้อื่นเคารพน้อมนอมกราบไหว้ ไม่ควรทำตัวเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี ซึ่งถ้าพระทุกรูปเป็นแบบนี้พวกเรายังจะเคารพกราบไหว้กันอยู่หรือป่าว ท่านเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เกิดพระสงฆ์รูปอื่นมีแนวคิดว่าท่านยังทำได้แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ ดีออก โก้ดีได้เด่นได้ดัง ได้ออกทีวี ได้ออกข่าว ไม่แคร์สื่อ ถือว่าเป็นการโปรโมทวัด แบบนี้มันใช่ไหมค่ะ
[/FONT]


[FONT=&quot]ที่ออกมาพูดนี่เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวไม่ได้มีเจตนาที่จะทะเลาะกับใคร แต่ถ้าไปสะดุดใจใครเข้าดิฉันก็กราบขออภัยมา ณ ที่นี้แล้วขอให้อโหสิกรรมให้ด้วย แต่อยากพูดเพราะว่าดิฉันมีประสบการณ์กับ “พระ” ที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยมาโดยตรง แต่ไม่ขอขยายความว่าเรื่องอะไร เพราะฉะนั้นถ้าจะมาบอกว่าพระรูปนี้คือพระอริยสงฆ์ ดิฉันว่างั้นดิฉันขอสักการะกราบไหว้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียวดีกว่ารวมทั้งครูบาอาจารย์อีกหลายรูปที่มีความเป็นพระอริยะแต่ไม่เคยมาอวดอ้างขออัญชลีท่านทั้งหลายเหล่านั้น แต่พระสงฆ์ที่ออกมาทำลายพระพุทธศาสนาคงไม่จำเป็นที่จะต้องเคารพกราบไหว้[/FONT]


[FONT=&quot]พวกเราทุกคนค่ะสังคมไทยทุกวันนี้ย่ำแย่ ต่ำทรามมากพอแล้ว เรายังจะปล่อยให้ศาสนาเสื่อมโทรมไปอีกหร๋อค่ะ ศาสนาที่บริสุทธิที่ประเสริฐที่พระพุทธองค์ได้ทรงเมตตาประธานให้กับเรา ทำไมเห็นชั่วเป็นดี เห็นดีเป็นชั่วกัน[/FONT]


[FONT=&quot]ไม่ต้องตอบกลับดิฉันหรอกค่ะที่ดิฉันเข้ามาโพสนี่ก็แค่ต้องการแสดงความคิดเห็นและต้องการจะปกป้องพระศาสนา ไม่ได้ต้องการจะมาฟังคำอธิบายหรือมานั่งโต้เถียงกับใคร พวกคุณที่คิดว่าการประพฤติตนในฐานะที่เป็นสงฆ์เยี่ยงนี้คือการทำถูก มันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของคุณ ดิฉันก็ไม่ได้อคติหรือคิดร้ายเพียงแต่ว่าพูดอย่างตรงไปตรงมาจากสิ่งที่เห็นและที่ได้รับรู้มา ความไม่เหมาะ ไม่ควร ไม่อยากให้ทุกท่านมองข้ามค่ะ ความชอบ ความเคารพศรัทธามันไม่มีใครห้ามใครได้อยู่แล้ว แต่อยากให้แยกแยะสักนิดว่าสมควรหรือไม่พฤติกรรมเยี่ยงนี้ หากการพูดครั้งนี้ของดิฉันจะทำให้ดิฉันต้องตกนรกเพราะไปปรามาสสมมุติ อริยสงฆ์ ดิฉันก็คงจะตั้งหน้ายอมรับเวรกรรมเพื่อรักษาพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์[/FONT]

 

ขอเราและท่านหยุดเถิด...ขอเราและท่าน จงดูต่อไป...

 

ตอบคำถามของผมก่อนได้ไม๊ครับ คือผมอยากทราบว่าจริงเท็จประการใด