"ควันธูป-สารก่อมะเร็ง" มส.-พศ.เร่งหาวิธีป้องกัน

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย เฮียปอ ตำมะลัง, 3 สิงหาคม 2008.

  1. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    "ควันธูป-สารก่อมะเร็ง" มส.-พศ.เร่งหาวิธีป้องกัน

    คอลัมน์ สกู๊ปข่าวสด


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ธูปมีประวัติความเป็นมาในอดีตหลายพันปีก่อนหน้าพุทธกาลตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ การจุดธูปเป็นพิธีกรรมที่ชาวอียิปต์ใช้สักการะเทพเจ้าด้วยควันที่มีกลิ่นหอม วัฒนธรรมนี้ได้แพร่ขยายไปกรีกและโรมันโบราณ

    แต่ที่สำคัญที่สุดมาที่ประเทศอินเดีย เข้ามาในศาสนาฮินดูต่อมาในศาสนาพุทธ ต่อจากนั้นเข้ามาประเทศต่างๆ ในตะวันออกไกล ประเทศไทย เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน

    ทุกวันนี้คนมากกว่าครึ่งโลก ยึดถือวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีมาแต่โบราณ จุดธูปเพื่อสักการะเทพเจ้า เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรพบุรุษ และในพิธีกรรมของศาสนาทั้งฮินดูและพุทธศาสนา โดยมีความเชื่อว่าควันหอมนี้เป็นเครื่องบูชาสิ่งที่ตนสักการะ

    ธูปเป็นเครื่องหอมที่ทำจากขี้เลื่อย กาว น้ำมันหอมสกัดจากพืช ไม้หอม ใบไม้ เปลือกไม้ รากไม้ เมล็ดพืช เรซิ่น และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม พอกอยู่บนก้านไม้

    ธูปมีหลายรูป หลายขนาดตั้งแต่เล็กถึงใหญ่มาก เผาไหม้หมดในเวลา 20 นาที ถึง 3 วัน 3 คืน

    ในประเทศไทยคนไทยจุดธูป 1 ดอก เพื่อเคารพบูชาบรรพบุรุษหรือคนถึงแก่กรรม จุด 3 ดอก เพื่อบูชาพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ บางคนจุดทีเดียว 9 ดอกหรือมากกว่า คาดว่าในแต่ละปีมีคนจุดธูปทั้งโลกเป็นหมื่นถึงแสนตัน

    การเผาไหม้ของธูปจะปล่อยสารต่างๆ มากมายมีทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็กก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ มีเทน และสารก่อมะเร็งหลายชนิด เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ polycyclic aromatic hydrocarbons (PAH) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย เช่น เบนซีน (Benzene) และ 1, 3-บิวทาไดอีน (1, 3-butadiene)

    กล่าวได้ว่า ควันธูปเป็นมลพิษทางอากาศที่สำคัญในบ้าน อาคาร สถานที่ทำงาน วัด และศาลเจ้าที่มีการจุดธูป



    ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) จัดเวทีนำเสนอผลงานวิจัย "สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป" ณ อาคารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    เนื่องด้วยปัจจุบันโรคมะเร็งปอด นับเป็นโรคที่เป็นสาเหตุการตายในอันดับต้นของโรคมะเร็งที่พบมากทั้งในเพศชายและหญิง แม้ว่าสาเหตุการเกิดโรคประมาณร้อยละ 80-90 จะมาจากการสูบบุหรี่หรือได้รับมลพิษ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    แต่จากสถิติผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดในผู้หญิงกลับพบว่า ผู้ป่วยหญิงโรคมะเร็งปอดมากกว่าร้อยละ 50 ไม่พบประวัติสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ อีกทั้งไม่มีประวัติสัมผัสกับสารก่อมะเร็งจากการประกอบอาชีพเลย

    ล่าสุดผลการวิจัยการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของคนทำงานในวัดจากการสูดดมควันธูปซึ่งมีสารก่อมะเร็งของ น.พ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าไอซียู โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ร่วมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ พบว่าควันธูปมีสารก่อมะเร็งและอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เหนี่ยวนำให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้

    น.พ.มนูญ กล่าวว่า ทีมวิจัยได้ทำการตรวจหาปริมาณสารก่อมะเร็งในอากาศซึ่งมีการจุดธูปปริมาณมากจากวัด 3 แห่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ พร้อมทั้งทำการตรวจเลือดและปัสสาวะของคนงานที่ปฏิบัติงานในวัดจำนวน 40 คน คนที่นำมาตรวจจึงเป็นเพศเดียวกัน อายุใกล้เคียงกัน ไม่สูบบุหรี่เหมือนกัน และเลือกวัดต่างจังหวัดเพื่อหลีกเลี่ยงมลพิษจากท่อไอเสียเช่นเดียวกัน

    "ผลการวิจัยพบสารก่อมะเร็งในควันธูป 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ซึ่งสารกลุ่มนี้ล้วนได้รับการยืนยันจากทั่วโลกว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ที่สำคัญปริมาณสารที่พบยังมีความเข้มข้นสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้หลายสิบเท่าตัว โดยสารเบนซีนที่ตรวจพบในวัดมีถึง 94 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ขณะที่เกณฑ์ความปลอดภัยกำหนดไว้ไม่ควรมีความเข้มข้นเกิน 1.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

    สารตัวที่ 2 คือ บิวทาไดอีน พบในวัด 11 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มาตรฐานระบุว่าไม่ควรเกิน 0.33 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

    สุดท้ายสารเบนโซเอไพรีน วัดได้ 2.52 นาโนกรัม/ลูกบาศก์เมตร มาตรฐานระบุว่าไม่ควรเกิน 0.25 นาโนกรัม/ลูกบาศ์เมตร

    หากเปรียบเทียบง่ายๆ จะพบว่า ธูป 1 ดอกที่ถูกจุด มีปริมาณสารก่อมะเร็งไม่ต่างจากบุหรี่ 1 มวนเลยทีเดียว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    สำหรับในส่วนการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพด้วยการตรวจเลือดและปัสสาวะเพื่อติดตามดูการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมของคนงานพบว่า คนงานในหน่วยงานที่ไม่มีการจุดธูปจำนวนสารพันธุกรรมในร่างกายมีการแตกหัก แต่สามารถซ่อมแซมได้ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

    แต่ในคนงานที่ได้รับควันธูปเป็นประจำพบมีการแตกหักของสารพันธุกรรมเพิ่มขึ้นและมีการซ่อมแซมลดลง ซึ่งระยะเริ่มต้นของการเป็นมะเร็งคือมีการแตกหักของสารพันธุกรรมและไม่สามารถซ่อมแซมได้

    ทั้งนี้ แม้ในทางการแพทย์จะไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ควันธูป คือ ต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง แต่การค้นพบสารก่อมะเร็งในควันธูปและศักยภาพในการซ่อมแซมความผิดปกติของสารพันธุกรรมที่ลดลงของผู้ที่ได้รับควันธูปเป็นประจำ นับเป็นกลไกส่วนหนึ่งในการเหนี่ยวนำให้เกิดโรงมะเร็งได้

    น.พ.มนูญ กล่าวว่า ในควันธูปยังเต็มไปด้วยฝุ่นละออง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอก ไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ และมีเทน ซึ่งล้วนเป็นก๊าซเรือนกระจกต้นเหตุการเกิดภาวะโลกร้อนแทบทั้งสิ้น โดยมีผู้ทำการวิจัยและรายงานไว้ว่าการจุดธูป 1 ดอกจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเท่ากับ 1 ใน 3 ของน้ำหนักธูปทีเดียว

    อย่างไรก็ตาม การจุดธูปของคนไทยนั้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีกรรมทางด้านพระพุทธศาสนามายาวนาน แต่เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพประชาชน น.พ.มนูญ แนะนำว่า ภายหลังจากจุดธูปเพื่ออธิษฐานแล้วให้ดับธูปทันทีนับเป็นวิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากควันธูปมีอนุภาคที่เล็กมาก การใช้ผ้าปิดจมูกจึงไม่สามารถปิดกั้นสารกลุ่มนี้ได้

    พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวถึงกรณีผลวิจัยพิษภัยจากควันธูป ว่า ได้รับทราบถึงข้อมูลการวิจัยของสวทช.แล้ว ถือเป็นการวิจัยที่มีประ โยชน์เป็นอย่างมาก สำหรับพระภิกษุตามวัดต่างๆ และพุทธศาสนิก ชนที่นิยมจุดธูปเทียนบูชาพระหรือสวดมนต์ เท่าที่เราพบโดยทั่วไป สังคมไทยเป็นสังคมชาวพุทธที่มีพิธีกรรมทางศาสนาด้วยการสวดมนต์และใช้ธูปเทียนดอกไม้ไหว้บูชาพระพุทธรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะตามวัด ศาลเจ้า หรือแม้แต่ในบ้านก็ตาม

    การจุดธูปไหว้พระจนเกิดควันลอยคลุ้งปะปนไปในอากาศ สามารถทำให้ผู้ที่สูดดมสำลักควัน จนเกิดอาการไอได้ หากเป็นในห้องปิดที่ปล่อยให้ควันอบอวลในอากาศไม่มีทางระบายออก ย่อมจะเกิดอันตรายต่อร่างกายของผู้สูดดมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจ ส่วนผลร้ายในระยะยาวตามที่มีผลการวิจัยนำเสนอออกมา คงต้องทำให้เราหันมาตระหนักพิษภัยจากสิ่งของใกล้ตัว ที่บางครั้งเราได้มองข้ามไป ถือเป็นเรื่องดี

    พระธรรมกิตติเมธี กล่าวต่อว่า เมื่อเราทราบถึงผลร้ายจากควันธูปกันแล้ว เราคงต้องหาทางป้องกัน โดยไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของชาวพุทธทั่วไป จะไปห้ามจุดธูปเทียน เป็นเรื่องที่ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่เราหาทางป้องกันได้ โดยอาจจะจัดทำแบบวัดในประเทศจีน ที่มีการตั้งกระถางธูปใหญ่ๆ ไว้ด้านนอกศาลาการเปรียญ อุโบสถ หรือพระวิหาร ให้ญาติโยมได้จุดธูปไหว้พระ ให้เผาไหม้ธูปให้หมดก้านดอกโดยเร็ว

    ต่อไปในอนาคต เราอาจขอความร่วมมือไปตามวัดทั่วประเทศ มิให้นำธูปเทียนเข้ามาไหว้พระในสถานที่ปิด ตามโบสถ์วิหาร ซึ่งนอกจากเป็นการป้องกันไม่ให้เราสูดดมควันธูปเป็นเวลานาน ยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ หรือให้ควันธูปลอยไปตามอากาศ ไปสร้างความสกปรกตามเพดานหรือฝาผนังโบสถ์ นอกจากนี้ ควันธูปยังทำปฏิกิริยาในทางเคมี ทำให้สีเนื้อของพระพุทธรูปเกิดมัวหมอง สีตก ต้องทำให้วัดเสียค่าใช้จ่ายในการบูรณะซ่อมแซมตรงนี้ด้วย

    "อาตมาก็พบเห็นเป็นประจำตามวัดต่างๆ เวลาสวดมนต์ ที่มีควันลอยตลบไปทั่ว บางทีพระหรือญาติโยม ยังนั่งสำลักควัน ไอจามกันทีเดียว เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราอาจมองข้ามไป ไม่ได้ให้ความสำคัญ ซึ่งต้องขอบคุณทางกลุ่มผู้วิจัยด้วย และขอให้ส่งผลวิจัยนี้ มาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วย เพื่อนำผลวิจัยไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง หาทางออกให้กับพระและญาติโยมทั่วไป จะเป็นการดียิ่งขึ้น" โฆษก มหาเถรสมาคม กล่าว

    [FONT=Tahoma,]หน้า 30[/FONT]


    http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNVEF6TURnMU1RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdPQzB3TXc9PQ==
     
  2. หนึ่ง898989

    หนึ่ง898989 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +294
    วันแม่แห่งชาติ
    มีการสาธยายพระไตรปิฎก
    กรมการศาสนา
    ถวายเป็นพุทธบูชา

    และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินีนาถ

    ตลอด ๒๔ ชัวโมง
    ณ วัดใหม่ยายแป้น สี่แยกบางขุนนนท์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

    วันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม ถึง วันอังคาร ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๑

    เริ่มงานวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๑

    เวลา 0๘.00 น พร้อมกันที่พระอุโบสถ

    เวลา 0๘.๓0 น อันเชิญพระไตรปิฎกทักษิณาวัตรรอบพระอุโบสถ

    เวลา 0๙.0๙ น เริ่มพิธีที่พระวิหารพระไตรปิฎก

    ประธาน จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย

    เจ้าหน้าที่อาราธนาสีล ประธานสงฆ์ให้สีล ประกาศศักราช

    ประธานจุดเทียนบูชาพระไตรปิฎก

    เจ้าหน้าที่อาราธนาธรรม

    พระสงฆ์สวดพระธรรมจักร

    สาธยายพระไตรปิฎกเริ่มเล่มที่ ๓๕ เป็นต้นไปพร้อมกันตลอด ๕ วัน ๔ คืนไม่มีการหยุดสาธยาย

    ชมพระไตรปิฎกโบราณที่หาชมได้ยาก

    (งานนี้ไมมีการรับเงินบริจาคครับ)

    รับเป็นน้ำปานะภัตรตาหารเช้าภัตรตาหารเพล ครับ ท่านใดมีความประสงค์เป็นเจ้าภัตรหาร

    ให้ติดต่อพระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ

    02-435-7555

    มือถือ 089-963-4505

    โทรสาร 02-434-1238

    มีรถเมล์ผ่าน
    79 57 56 68 157 175 40 542 80 509 28 171
    ที่มาจากปินเกล้าลงที่สี่แยกบางขุนนนท์เชิงสะพานลอย
    ที่มาจากสามแยกไฟฉายลงที่เลยห้างแมคโคเดินขึ้นมา
    หรือติดต่อที่ผมก้ได้ครับ 0851245895 ครับ สุริยะ


    สีล คำนี้มาจากพระไตรปิฎกครับ

    ห้ามใส่เสิ้อผ้า สี่ดำมางานครับ
    ท่านใดมางานควรนำดอกบัวสีขาวมาบูชาพระพุทธองค์ด้วยครับ
     
  3. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของบทความ ท่านผู้ตั้งกระทู้ และท่านที่อนุโมทนาบุญ ครับ
    สาาาาา...ธุ
    สาาาาา...ธ
    สาาาาา...ธุ<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    กังวลอะไรกับแค่โรคมะเร็งล่ะครับ ไม่มีใครอยู่บนโลกนี้ได้ตลอดไปหรอก
     
  5. chanthawat_k

    chanthawat_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +413
    ยังไงก็ยังคงปฏิบัติตนเหมือนเดิมจุดธูปไหว้พระ
    ตายเพราะความดีได้ขึ้นสวรรค์ยังดีกว่าทำชั่วแล้วลงนรก..สาธุ
     
  6. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ขอขอบคุณสำหรับเนื้อหา และ อนุโมทนาบุญกับผู้โพสต์ครับ สาธุ
     
  7. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ถ้าผลวิจัยออกมาว่าอันตรายและเราสามารถรับรู้
    และหาวิธีการที่ได้รับมลพิษจากหนักให้เป็นเบาได้ก็ดีค่ะ
     
  8. เจ้าสัว

    เจ้าสัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +353
    <TABLE class=tborder id=post1402170 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:56 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #6 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>chanthawat_k<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1402170", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 02:47 PM
    วันที่สมัคร: Jan 2008
    ข้อความ: 433
    ได้ให้อนุโมทนา: 2,631
    ได้รับอนุโมทนา 2,506 ครั้ง ใน 402 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 66 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1402170 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ยังไงก็ยังคงปฏิบัติตนเหมือนเดิมจุดธูปไหว้พระ
    ตายเพราะความดีได้ขึ้นสวรรค์ยังดีกว่าทำชั่วแล้วลงนรก..สาธุ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    สาธุ... คิดเช่นเดียวกับผมเลยครับ อนุโมทนา....

    ตายเพราะความดีได้ขึ้นสวรรค์ยังดีกว่าทำชั่วแล้วลงนรก...
     

แชร์หน้านี้

Loading...