ความประมาท..เป็นหนทางของความตาย

มีเหตุการณ์นึง ที่ดิฉันประสบมาและอยากจะแบ่งปันให้สหายธรรมได้ดูได้อ่านไว้เตือนใจ
ว่าชีวิตคนเรานั้นแสนสั้น เราไม่รู้ได้เลยว่าเราจะจากคนที่รัก จะละสังขารเมื่อไรกัน...

วันนี้ช่วงเวลาใก้ล 6 โมงเย็นเป็นช่วงหลังเลิกงานผู้คนกำลังเดินทางกลับ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ หน้าตึก empire ใก้ลแยกถนนสาทร ช่วงเย็นซึ่งรถติดมากจริงๆ และจะมีช่องทางสำหรับรถ BRT วิ่ง ห้ามรถประเภทอื่นเข้าไปวิ่งเลย และด้วยความประมาทรถมอเตอร์ไซค์ ช่วงเร่งด่วน ณ เวลาที่เกิดเหตุจะมีแต่มอเตอร์ไซค์วิ่งเข้าไปในช่องทางรถ BRT

ปรากฏว่ามีรถมอเตอร์ไซค์หลายคันวิ่งนำหน้ารถ BRT แต่ก็มีคันที่ประสบเหตุ ขับไม่ทัน และรถ BRT ก็ไม่หยุดและไม่ชลอด้วย ทำให้ชนรถที่ประสบเหตุ ซึ่งช่องทางของรถ BRT นั้น ไม่ได้มีที่เหลือเผื่อให้รถใดวิ่งได้อีก ทำให้รถประสบเหตุติดอยู่หน้ารถด้านข้างทางขึ้นโดยลากไปด้วยกัน ซึ่งคนขับก็ไม่หยุดรถด้วย ซึ่งตอนนั้นสภาพก็แย่มากพอแล้ว ปรากฏว่าผู้หญิงที่นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ได้หล่นจากรถลงไป โดยคนขับมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นเพื่อนกันพยายามที่จะช่วย แต่ไม่เป็นผล ยังผลให้ถูกล้อรถ BRT ทับศีรษะจนไม่มีหน้าเหลืออยู่เลย คนในรถโวยวายคนขับจึงได้หยุดรถ ลงมาดูผลงานและหนีไปทันทีในระหว่างชุลมุน ดิฉันตะลึงมากที่สุดในชีวิต เพราะดิฉันอยู่ตรงนั้นพอดี และดิฉันเองก็ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ แต่อยู่นอกช่องทาง (กลัวตำรวจเรียกค่ะ..ละอายใจ) อีกอย่าง BRT ขับรถเร็วเพราะเป็นช่องทางของเขาเอง ไม่อยากจะบอกอาการตัวชา หน้าซีดของตนเองเลย อยากจะร้องไห้ไปกับเพื่อนของคนๆ นั้น คงมีแต่อาการเหมือนเลือดในกายดิฉันจะแข็งตัว แต่ไม่ลืมที่จะแผ่เมตตาและถ่ายภาพเอาไว้เตือนตนเอง และบอกกล่าวผู้อื่น ผู้ชายที่อยู่ในภาพเป็นเพื่อนของรถคันที่ประสบเหตุ ซึ่งคนขับรถประสบเหตุ ไม่ได้เป็นอะไรเลย พอลงมาดูเพื่อนที่เสียชีวิต ก็ร้องไห้และสลบไปเลยค่ะ เพื่อนที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ของพวกเขาตามๆ กันมา ก็โทรแจ้งญาติ บอกแฟน บอกแม่ ของผู้เสียชีวิต คิดดูเถอะค่ะว่า พวกเขาเหล่านี้จะรู้สึกยังไงเมื่อได้ทราบข่าวร้ายเช่นนี้..

 

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่สาลวัน แห่งมัลกษัตริย์
ทั้งหลาย อันเป็นทางกรุงกุสินารา ระหว่างแห่งสาลพฤกษ์ทั้งคู่
ในสมัยจะเสด็จปรินิพพาน.

ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เอาเถิด บัดนี้ เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมี
ความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงให้ถึงพร้อมด้วยความ
ไม่ประมาทเถิด ดังนี้ นี้เป็นวาจาครั้งสุดท้ายของพระตถาคต.

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 189


ขอยกพุทธพจน์ครั้งพุทธองค์ปรินิพพานให้ได้อ่านกันนะครับ

ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ

 

ถนน... แท้จริงแล้วก็คือสุสานดีๆ นี่เอง
ทุกๆ สี่แยก... ไม่เคยอิ่มต่อรสแห่งความตาย
โค้งอันตราย... ไม่เคยว่างเว้นต่อผู้ประมาท

ใครอยากจะเป็นรายต่อไป...?

 

ขอขอบคุณและอนุโมทนากับท่านน้องสีลสิกขาที่นำเรื่องราวมากล่าวให้ฟังซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเรื่องอุทาหรณ์สอนใจที่ความประมาททั้งหลายทั้งปวงสามารถนำไปสู่หนทางแห่งความหายนะ อาจสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน ร่างกาย รวมไปถึงบุคคลที่เรารักอีกด้วย

ตัวพี่ Bua เองก็เพิ่งประสบกับเหตุการณ์บนท้องถนนเมื่อ ๒ วันที่ผ่านมาคือวันที่ ๒๙ ก.ค. ตอนเย็นเลิกงานก็จะนั่งมอเตอร์ไซค์วินเป็นประจำเกือบทุกวัน เมื่อวันที่ ๒๙ ฝนเพิ่งหยุดตกหมาด ๆ ห่างจากที่ทำงานไปแค่เพียง ๕๐๐ เมตร จะเป็นสี่แยกไฟแดงถนน ๖ เลน มาถึงสี่แยกก็ติดไฟแดงอยู่ พอถึงรอบไฟเขียวรถก็ออกตัวตามปกติเพราะอยู่หน้าสุด รถยนต์จากสี่แยกไฟแดงฝั่งตรงข้ามก็เลี้ยวขวาตัดหน้าอย่างเร็วด้วยการทำผิดกฎจราจร ทำให้มอเตอร์ไซค์คันที่นั่งอยู่เสียหลักเพราะเบรกไม่ทัน รถก็เทกระจาดล้มกลิ้งไปด้วยกันกลางถนนทั้งคนขับคนซ้อน ส่วนคู่กรณีก็ขับหายไปโดยที่ไม่แยแสกับสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง ในวินาทีที่ล้มกลิ้งอยู่กลางถนนคิดแต่เพียงว่ารถที่ตามหลังมาอาจจะเบรกไม่ทันและคงได้เกิดอุบัติเหตุซ้ำสองอีกทั้ง ๒ คน แต่โชคดีที่อาจเป็นเพราะฝนเพิ่งหยุดตก ถนนลื่น ประกอบกับเพิ่งออกตัวจากไฟแดงทำให้รถยังชะลอความเร็วกันอยู่ก็เลยรอดมาได้ ตัวเองก็ได้แต่พยุงตัวขึ้นมาพร้อมทั้งเดินไปเก็บกระเป๋าสะพายที่กระเด็นห่างจากตัวไป และไปช่วยพยุงชายหนุ่มคนขับรถให้ลุกขึ้นมาเพราะเขาคงลุกไม่ขึ้นและโดนมอเตอร์ไซค์ของตัวเองทับขาอยู่ ในเหตุการณ์นั้นมีแต่คนมองดูไม่มีใครลงมาช่วยอะไร แล้วเราทั้ง ๒ คนก็หอบสังขารอันบอบช้ำของตัวเองจากไปในสถานที่ตรงนั้น โชคดีที่วันนั้นตัวเองสวมกางเกงและเสื้อสูทแขนยาว ก็เลยทำให้ได้รับบาดเจ็บที่เนื้อตัวไม่มากเท่าไร แต่กางเกงก็ขาดทะลุไปถึงเนื้อมีบาดแผลที่หัวเข่าทั้ง ๒ ข้าง ทั้งแขนและขาก็ฟกช้ำดำเขียวจนปวดระบมไปหมด แต่ตัวคนขับสวมเสื้อแขนสั้นทำให้มีบาดแผลที่แขนค่อนข้างมาก ตอนนี้ตัวคุณพี่ Bua ยังนอนระบมอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปทำงาน ๒ วันเจ้าค่ะคุณน้องสีลสิกขา ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไป พอดีได้เข้ามาอ่านเรื่องราวที่คุณน้องสีลสิกขาตั้งกระทู้ซึ่งก็ตรงกับเคราะห์หามยามร้ายของคุณพี่ Bua พอดี ก็เลยเหมาะเจาะที่จะนำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งตัวพี่ Bua เอง ก็ถือว่าเป็นความประมาทของเขาแต่เป็นเคราะห์กรรมของเราก็แล้วกัน และตามกระทู้ที่น้องสีลสิกขานำมาบอกกล่าวก็เกิดได้ทั้งเคราะห์กรรมของบุคคลนั้นและความประมาทจากผู้อื่นด้วยเช่นกัน

ตามหลักคำสอนโดยนัยพระสูตรมีว่า มนุษย์ที่มีอายุสั้น ตายก่อนวัยอันควร เกิดจากผลของอกุศลกรรมในอดีต แต่ยังมีส่วนประกอบอย่างอื่นที่ช่วยทำให้อกุศลกรรมให้ผล เช่น กาล ปโยคะ คติ อุปธิ เป็นต้น การขับรถด้วยความประมาท ก็เป็นปโยคะวิบัติ คือ การกระทำที่ทำให้อกุศลกรรมให้ผล เมื่อถึงคราวที่อกุศลกรรมให้ผล วิบากกรรมก็จะสร้างสถานการณ์ให้ผู้นั้นต้องไปประสบกับเคราะห์กรรมนั้น ๆ เช่น คนบางคน มีถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ถ้าดวงชะตาจะต้องเสียชีวิตที่เชียงใหม่ วิบากกรรมก็จะสร้างสถานการณ์ให้ผู้นั้นต้องออกเดินทางจากบ้าน แล้วมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่เชียงใหม่จนได้ เคราะห์หรืออันตรายจะรอคอยให้คนผู้นั้นมาประสบกับเคราะห์กรรม ณ สถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งที่กรรมได้กำหนดเอาไว้ แต่ถ้าหากก่อนจะถึงกำหนดเวลาที่จะประสบเคราะห์กรรม ผู้นั้นเปลี่ยนไปดำเนินชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งดีขึ้นกว่าเดิมและเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เช่น ไปบวชพระ บวชเณร บวชชีพราหมณ์ หรือถือศีลกินเจ ปฏิบัติธรรมชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือจนกว่าเคราะห์กรรมนั้น ๆ จะผ่านพ้นไป ก็จะปลอดภัยได้บ้าง

หรือกล่าวอีกแง่หนึ่งก็คือ อุบัติเหตุไม่ใช่เคราะห์กรรม แต่เกิดจากการกระทำของคนประมาท ปมาโท มจฺจุโน ปทํ คือความประมาทเป็นทางแห่งความตาย ความประมาท คือ การขาดสติ ปล่อยใจให้ล่องลอยไป ไม่รู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไร กำลังพูดอะไร ไม่รู้จักระวังตัวในสิ่งที่ควรระวัง ปราศจากความรอบคอบในการเตรียมตัวไว้เผชิญกับเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต

ในทางธรรมนั้นการไม่ระวังตัวทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน คิดแต่เรื่องอกุศล ก็อาจเป็นทางให้เดินไปสู่ความชั่วได้โดยไม่ตั้งใจ ส่วนในทางโลกการไม่ระวังตัวขาดสติ ไม่รอบคอบ ไม่หาทางป้องกันอันตรายหรืออุปสรรค ที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็อาจเป็นทางทำให้กิจการนั้น ๆ เสียหายหรือได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ฉะนั้นถ้าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเคราะห์กรรม ให้ใช้สติสัมปชัญญะในการดำเนินชีวิตให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก ก็อาจจะช่วยลดหรือบรรเทาสิ่งที่จะเกิดขึ้นลงได้บ้าง หรือมองอีกแง่หนึ่งก็คือเมื่ออกุศลกรรมให้ผล แม้ไม่ประมาทก็เกิดอุบัติเหตุได้

ความประมาทเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ความประมาทก็เป็นเรื่องที่สามารถป้องกันได้โดยการปฏิบัติตน คือ ๑. ไม่ควรทำผิดกฎหมายหรือระเบียบที่ปุถุชนมีหน้าที่ควรต้องปฏิบัติ ๒. ไม่ควรละเลยหน้าที่ในสิ่งที่ตนควรกระทำนั้น ๓. ไม่ควรลืมตัวว่าตัวเองอยู่ในสถานะใด สภาพการณ์ใด ๔. ไม่ควรอวดเก่ง คนประมาทมักประเมินค่าหรือประเมินความสามารถของตัวเองสูงกว่าความเป็นจริง

ฉะนั้นไม่ว่าจะทำการใด ๆ อยากให้ทุกคนมีสติเป็นเครื่องเตือนใจอยู่เสมอ ไม่มีใครอยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่การเกิดทุกครั้งส่วนมากเกิดจากความประมาทเป็นส่วนใหญ่ ความประมาทนั้นไม่ได้ส่งผลให้กับตัวเองเท่านั้น แต่มันยังส่งผลแก่คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอีกด้วย ถึงแม้มีสติเป็นเครื่องเตือนใจ แต่บางครั้งเรื่องที่ไม่คาดคิดก็มีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคนได้เสมอจริง ๆ

ขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ

 

รถBRT คืออะไรขอรับ..(ขออภัยที่ไม่ทราบจริงๆ)

เห็นแล้วนึกได้แต่ว่า ชาติหน้าอยู่ใกล้จริงๆ ..

ขออุทิศบุญกุศล ที่ข้่าพเจ้าได้อนุโมทนาในบุญที่ท่านศีลสิกขา ผู้ปรารภกระทำไว้เมื่อเร็วๆนี้ (วันเดียวกันกับที่พบเหตุ?) (เธอปรุงอาหารอันประณีตด้วยตนเองไปถวายพระที่สระบุรี--ขอเชิญร่วมอนุโมทนากันทุกท่านขอรับ)..ให้แก่ท่านผู้เสียชีวิตตามภาพและเรื่องที่ปรากฏนี้ ขอให้อนุโมทนารับเอาด้วยโสมนัสจิต ขอให้ไปสู่สุคติภพครับ..

ป.ล. ส่งกำลังใจมายังท่านBua ผู้ยังมีบุญหนุนให้ยังหายใจได้อยู่ แม้จะฟกช้ำไปบ้าง ขอให้หายกลับคืนปกติโดยเร็วครับ น่าเป็นห่วงผู้ที่ยังต้องใช้บริการเสี่ยงภัยจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เห็นใจทั้งคบขับและผู้โดยสาร..ขอให้ปลอดภัยคลาดแคล้วปวงภัยทุกๆคนถึงที่หมาย(ในปัจจุบัน)โดยถ้วนหน้าครับ...

 

ขอขอบคุณและขออนุโมทนากับท่าน ddman ในกำลังใจและคำอวยพรทั้งให้กับท่านน้องสีลสิกขา น้องสาวที่น่ารัก และตัว buakwun เองด้วยค่ะ ขอให้คำอวยพรและสิ่งดี ๆ รวมทั้งบุญกุศลที่ท่านเคยมาทั้งหมดทั้งสิ้นจงบังเกิดแต่สิ่งดี ๆ กับตัวท่าน ddman ด้วยเช่นกันค่ะ อนุโมทนาบุญ

 

BRT คือ รถโดยสารห่วยพิเศษหนะค่ะท่าน ddman 555 (เขาว่ากันว่าอย่างนั้นหนะค่ะ)

คือรถโดยสารด่วนพิเศษค่ะ (Busway) Bus Rapid Transit มีให้ใช้บริการประมาณ 2 ปีได้แล้วค่ะ นอกเหนือจาก BTS และ MRT (Sky train and Subway) เป็นอีกทางเลือกนึงค่ะ มีภาพและเส้นทางให้บริการ มาลงให้ดูด้วยค่ะ

 

สาธุ สาธุ สาธุ จ้าพี่ buakwun คุณ ddman และสหายธรรมท่านอื่นด้วยค่ะ
กับข้อคิดคติธรรม มะวานช่วงเช้าไปทำบุญถวายภัตตาหารเพลพระที่วัดในจังหวัดสระบุรีค่ะ โดยส่วนมากจะทำขนมด้วยตนเองค่ะ (บลูเบอรี่กะราสเบอรี่ชีสพาย)ทำด้วยใจค่ะ อร่อยหรือไม่อีกเรื่องนึงค่ะ หุหุ ^_^ ร่วมโมทนาบุญด้วยกันนะคะ..

อธิษฐานนะคะ ขอให้ข้าพเจ้าและทุกท่าน บรรลุ มรรคผล ในธรรมของพระพุทธองค์ ขอให้ข้าพเจ้าและทุกท่าน รู้แจ้ง ในสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น ขอเป็นปัจจัยส่งให้ข้าพเจ้าและทุกท่านในอนาคตอันใก้ลนี้ เมื่อดำรงอยู่ทางโลก ก็ขอให้อุปสรรคปัญหานานาประการ ได้มลายคลายไป ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าและทุกท่านได้เพียรสร้าง ด้วยเทอญ..^^

** หายเร็วๆ ค่ะพี่ bua ขอบุญรักษาพี่นะคะ เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพขนมไว้ให้พี่ดูเลยค่ะ **

 

อนุโมทนาในกุศลที่ท่านน้องสีลสิกขาได้ทำอยู่เป็นประจำเช่นกัน การได้สร้างบุญกุศลไว้ในชาตินี้ก็ถือว่าเป็นความไม่ประมาทในชีวิต เพราะมีโอกาสก็เร่งสะสมบุญไว้ ผู้ที่สั่งสมบุญไว้มากย่อมไม่หวาดกลัวต่อความตาย กลัวอย่างเดียวก็คือ กลัวว่าจะไม่ได้สร้างบุญ เพราะรู้ว่าบุญยังประโยชน์ให้ได้สมบูรณ์ในทุกสิ่งของชีวิต เมื่อมีบุญมากแล้ว แม้ต้องจากโลกนี้ไปสู่ปรโลก ย่อมเวียนวนอยู่ในสุคติโลกสวรรค์อย่างเดียว สิ่งใดที่เป็นบุญเป็นกุศลให้รีบทำทันทีโดยไม่ลังเล ให้ดีใจเถิดว่านั่นแหละจะเป็นสมบัติใหญ่ติดตามตัวเราไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม เราจะได้ไม่ต้องไปหวาดกลัวต่อปรโลกต่อมรณภัย เพราะชีวิตหลังความตายจะต้องไปสู่สุคติภูมิอย่างแน่นอน ด้วยเหตุที่ได้สั่งสมบุญบารมีไว้อย่างดีกันทุกคน

ขนมก็ไม่ได้กิน กลิ่นก็ไม่ได้ดม แม้แต่ภาพก็ยังไม่ได้ชมอีก แต่ยังไงก็ขอรอกินในชาตินี้ก่อน ไม่อยากรอตอนอุทิศบุญไปให้จ้ะ อิ่มตายย่อมดีกว่าอดตายเป็นแน่แท้ ๕๕๕

 

ขอให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุขตินะคะ

 

คนขับเข้าไปในช่อง BRT ก็ผิดกฏหมายแล้วนะคะ แต่คนขับ BRT นี่ผิดตรงที่ "จิตใจและคุณธรรม" นี่กะจะไม่ชะลอหรือหยุดรถกันเลยหรือ แต่บางทีถ้ามองในอีกมุมนึงตำแหน่งคนขับ BRT ขับอยุ่ในมุมสูง อาจมองไม่เห็นรถเลนปกติที่ขับเข้ามาก็ได้นะค่ะ
**ตามหลักแล้วเราก็ไม่ควรขับเข้าไปในตรงส่วนนั้นของ BRT ทางที่ดีอย่าใช้เลนนั้นเลยค่ะ ใช้เลนปกติดีกว่าเนาะ ใช้ชีวิตแบบไม่ประมาทค่ะ ^^

PS. เห็นรูปแล้วก็สงสารคุณผุ้หญิงคนนั้นมาก ขอให้ไปสู่สุขตินะคะ
== Rest In Peace ==

 

ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลของข้าพเจ้าให้กับน้องคนนั้นด้วยครับ

เมตตาธรรมค้ำจุนโลก= ถ้าคนขับรถ BRTเขามีความเมตตากว่านี้หน่อย ก็จะลดความโทสะในใจได้บ้าง ก็จะชะลอความเร็วรถ บีบแตรบอกให้ มอเตอร์ไซค์ขับออกไปนอกเลนส์ ก็อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้


แต่ทว่า
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามผลของกรรม = แม้ว่าจะอย่า่งไร น้องเขาก็คงจะหนีกฏแห่งกรรมไม่พ้น อาจจะเป็นกรรมเก่าที่ตั้งใจ

และก็กลายเป็นกรรมใหม่ของคนขับ

ช่างน่าสลดใจเหลือเกิน มนุษย์หนอ