"ความลับของลมหายใจ"

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย Snooty, 7 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    หนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ผู้นั่งสมาธิ อย่างสม่ำเสมอมีใบหน้าอ่อนกว่าวัย ก็เพราะพวกเขาได้มีโอกาสฝึกการหายใจ ให้เต็ม แน่น ลึก อย่างละเอียดอ่อนได้บ่อยๆ ครั้งนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสงบสุขในใจ และลดสารความเครียดในร่างกายเรา ที่เรียกว่า "ฮอร์โมนคอร์ทิซอล" (Cortisol) ซึ่งถ้ามีมากไปจึงเป็นสาเหตุหลักของการทำให้เซลล์ทั่วร่างกายเกิดอาการเหนื่อย ล้าแห้ง เหี่ยว และแก่ชราก่อนวัยอันควร

    เทคนิคการหายใจที่ดีคือ การหายใจอย่างเต็ม แน่น ลึก อย่าง "ละเอียดอ่อน" ซึ่งเป็นลักษณะการหายใจให้เข้าและออกอย่าง...ช้า ลึกและเบา โดยสูดลมหายใจเข้าทางรูจมูกทั้งสองข้างเท่ากัน จนทั่วปอด สุดลึกลงไปถึงท้องน้อย ให้หน้าท้องและท้องน้อยสุดค่อยๆ พองออก (เมื่อนั้นอากาศก็จะเต็มปอดไปในตัวด้วย) จนไม่สามารถพองต่อไปได้อีก แล้วจึงค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออกอย่างช้าๆ...ยาวๆ...สบายๆ...อย่างไม่ต้องเกร็ง จนออกหมดทั่วท้องและปอดจนเฮือกสุดท้าย ทำเท่านี้เพียง 4-5 ครั้ง ก็จะ รู้สึกได้เองว่าทั่วร่างกายเราเริ่มเบา ผ่อนคลาย สบายๆ อารมณ์ก็เริ่มเย็น ความคิดเริ่มโล่ง และสมองก็ เริ่มปลอดโปร่งขึ้นแล้ว

    การหายใจอย่างเต็มปอดเต็มท้องทั้งท้อง ยังช่วยฟอกเลือด ที่นำพาออกซิเจน ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของใบหน้าได้อย่างทั่วถึง และสม่ำเสมอ ทำให้เซลล์ทั่วสมองงอกงามดี จึงทำให้ใบหน้า ดูมีน้ำมีนวล เต่งตึง สดใส อ่อนกว่าวัย

    และสุดท้ายเลือดเหล่านั้น ก็ยังช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆ (detox) ออกจากอวัยวะ ทุกส่วนของร่างกาย และบนใบหน้าโดยผ่านออกทางปากได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย จะสังเกตได้ว่า เวลาที่เราโกรธ เกลียด กลัว ตกใจ เครียด หงุดหงิด วิตก กังวล หรือเกิดความทุกข์ใจ ลมหาย ใจของเราจะสั้น ตื้น และแผ่วเมื่อยามสิ้นหวัง

    แต่เวลาที่เรามีความ สงบ สบาย สุขุม สุข เกิดความมั่นใจในตัวเอง เกิดพลังชีวิต ลมหายใจของเรา จะเต็ม แน่น ลึกอย่างละเอียดอ่อน แล้วช่วงหายใจออกก็ออกได้ยาว ช้า และโล่งออกหมด

    ทั้งนี้สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ หากเราตั้งใจหายใจให้เต็มๆ แน่นๆ และลึกๆ สัก 4-5 ครั้ง สมองของเราจะถูกปรับไปเป็นว่า เรากำลังรู้สึกสบาย สุขุม มีความสุข และมีพลังชีวิตอยู่ในตัว กระบวนการนี้ตรวจหรือทดสอบกันได้ ที่เรียกว่า การทำ "Biofeedback" (การป้อนกลับทางชีวภาพ) โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า การตรวจคลื่นสมอง

    ถามว่าต้องทำและต้องฝึกบ่อยแค่ไหน คำตอบคือ "รู้ตัวเมื่อไหร่ ก็ทำเมื่อนั้น" หรือทำทุกครั้ง ที่รู้สึกว่าจิตเริ่มตก คือ เริ่มเกิดอาการเครียดที่มาจากความคิดวิตก กังวล กลัว โกรธ เกลียด เหนื่อย ที่เกิดจากภาวะกดดัน เบื่อ เซ็ง ซึม ท้อแท้ ทุกข์ใจต่างๆ

    ชีวิตของคนเรา แท้จริงอยู่ได้ด้วยลมหายใจ ที่เชื่อมต่อกันระหว่างเท้าขึ้นมาตรงกระดูกไขสันหลัง ผ่านทางท้องน้อยขึ้นมาท้องบน ทั่วปอดหัวใจ ลำคอ จนขึ้นไปถึงทั่วสมอง เพราะฉะนั้น การรู้จักหายใจที่หนักแน่นละเอียดอ่อน และที่ดีต่อสุขภาพชีวิตคนเราที่เรียกว่า "พลังปราณ" นี้ จึงเป็นเครื่องมือในการสร้างจิตใจให้สงบสุขได้ สร้างชีวิตที่ประสบความสุขอย่างสำเร็จได้ รวมทั้งการเสริมสร้างสุขภาพชีวิตให้ดี และอย่างย้่งยืนที่ง่ายที่สุด

    สิ่งมหัศจรรย์อันล้ำค่า อยู่ตรงปลายจมูกของเรานี่เอง

    - ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม -

    #clubคนรักสุขภาพ
     
  2. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    image_1484648296995.png
     
  3. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    เรื่องลมหายใจนี่สำคัญจริงๆ

    คุยกับน้องชายของลูกน้าสาว แล้วพูดไปว่าญาติเราคนนึงนะตายไปแล้ว ไอน้องชายมันปั้นหน้าจริงจังมาก

    พี่ๆ ผมรู้ว่าเขาเป็นอะไรตาย (แหม่ ตาจ้องเขม็งอารมณ์มาเต็ม)
    ก็หันไปมองมันอย่างเอาคำตอบจริงจัง

    ต้องใช่แน่ๆ เขาไม่หายใจเลยตายใช่มั้ย(ยังมีหน้าซีเรียส)

    ใจนี่อยากง้างมือตบกะโหลกมันซักฉาด คนตายบ้านไหนเขาหายใจบ้างฟร่ะ
     
  4. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    เห็นว่าในความเป็นจริงนี่เราใช้ปอดจริงๆประมาณ30% เพราะเราหายใจไม่ถูกหลักใช้ปอดไม่คุ้ม

    ที่แปลกก็คือคนบางคนยังคิดว่าหายใจเข้าท้องแฟบ หายใจออกท้องป่อง ซึ่งมันตรงกันข้ามกับที่ควรจะเป็น เราหายใจกันไม่ถึงขั้วปอด

    เท่าที่เจอมากลายเป็นว่าบางคนเหมือนพวกตื่นเต้นอยู่ไม่สุขตลอดเวลา บางคนก็ดูวิตกกังวลจนเหมือนพวกมีอาการทางจิต
    งานที่เราทำอยู่มันเลยยากถ้าลูกค้าไม่ผ่อนคลายให้ความร่วมมือกับเรา อยากจะบอกว่าถ้ายูกังวลกลัวนั้นกลัวนี่ให้นอนตีพุงเล่นที่บ้านอย่ามาเจอกันเลย(รำคาญ)
    แต่ในความเป็นจริงก็ทำไม่ได้ เลยได้แต่บอกฝรั่งมันว่าเออ หายใจเข้าออกลึกๆ สนใจแต่ลมหายใจ แล้วอย่าหยุด(ต้องบอกอย่าหยุดไม่งั้นมันหายใจลึกๆอยู่สองปื้ดแล้วเข้าอีหรอบเดิม:confused:)

    เวลาหายใจลึกๆออกซิเจนเข้าร่างกายเยอะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ เบี่ยงความสนใจไม่ให้มาสนใจว่าเราจะทำอะไร แล้วยังให้จังหวะเรา ลดการบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายด้วย เป็นหมอนวดนี่บางทีเจ็บตัวกระทันหันจากการเกร็งของลูกค้า บางคนนี่บอกไปเถอะเราเสียจังหวะน่ะ (ใจนี่อยากบ้องหูเลย)อยากบอกว่ากลับไปนอนบ้านไปถ้ากลัวขนาดนี้ แต่ทำได้แค่หายใจลึกๆกดข่มความโกรธ(แกไม่หายใจลึกๆช้านทำเองก็ได้) หายใจลึกๆนี่ช่วยลูกค้าหลุดพ้นเงื้อมมือนางมารร้ายมาหลายรอบแล้ว
     
  5. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    สายฮาทั้งตระกูลเลย ๕๕๕

    ส่วนอันนี้มีความจริงจัง ๕๕๕

    เรื่องลมหายใจช่วยลดความเจ็บปวดนี่เรื่องจริงเลย อย่างเวลาเราเล่นโยคะ บางท่าที่ครูยืดๆๆๆ และกดๆๆๆๆ และผลก็เลย เจ็บๆๆๆๆ อีนางก็เริ่มกรี๊ดๆๆๆๆ ครูก็จะบอกให้หายใจๆๆๆ

    นึกภาพถึงผู้หญิงสมัยก่อนตอนจะคลอดลูกออกนะ ที่ดึงผ้าไว้แล้วหายใจเข้าออกทางปากแรงๆฟึดๆๆๆ ปานนั้น แต่ๆๆๆมันช่วยได้จริงๆนะ จากความเจ็บร้อย ก็เหลือ เก้าสิบอะไรแบบนี้

    แต่ถ้าเอาตามหลักการฝึก จิตมันรับรู้ได้ทีละหนึ่งอย่างอ่ะนะ พอมันมารู้ลมหายใจ มันเลยไม่ได้จดจ่อกับความเจ็บ ออกแนวยิ่งไปสนใจมันยิ่งเจ็บ ว่างั้น...


    เคยไปหาหมอนวดท่านนึงที่อยู่จังหวัดชัยนาท ท่านรักษาอาการโรคต่างๆได้ด้วยการนวดและเทคนิคแบบพิเศษๆประกอบ (ยืมคำป๋านบ) ต้องบอกว่า "โอ้แม่เจ้าช่วยลูกด้วย" เวลาท่านกดเส้นแต่ละที ตรูจิอยากจะร้องไห้ มันเจ็บมากๆๆๆ และส่วนตัวไม่ค่อยชอบให้ใครมาโดนตัว (ก็ยืมคำป๋านบอีก) เลยไม่ชินกับการนวดเท่าไหร่ ก็ได้การหายใจนี่แร่ะที่หนีความเจ็บ และท่านก็ใช้การชวนคุยพูดจาตลก ฮาๆ เพื่อให้เราเลิกไปจดจ่อกับความเจ็บ devotee ก็ลองเอาเทคนิคชวนคุยเรื่องนู่นนี่ไปใช้ได้นะ ในกรณีที่เจ้าตัวหายใจไม่ได้

    ป.ล. เพียงแต่เล่าให้ฟัง (ก๊อบเค้าทั้งดุ้นเลย ครึครึ)
     
  6. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ร้านนวดเมืองไทยแบบบ้านๆมันคุยกันได้ค่ะ แต่ร้านเมืองนอกเน้นเงียบ(บางทีนึกว่ามาปลีกวิเวกป่าช้าเงียบจนน่ากลัว) เขาไม่ให้คุยกะลูกค้า ฝรั่งคนอื่นก็ไม่เข้าใจว่าจะอะไรกันนักกันหนา ลูกค้าคุยกันเองอีกคนนึงยังไม่พอใจ บอกว่าชั้นจะมาพักผ่อน (ฝรั่งที่นี่เรื่องเยอะจริงๆ)

    เจ้าของร้านหรือลูกค้าก็ไม่เข้าใจการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการคุย และส่วนตัวเวลานวดจะใช้สมาธิแทบไม่อ้าปากคุยเลย จะนิ่งมาก(ปกตินิ่งเวลาหลับ555) บางทีจะดุลูกค้าไปเลยว่าให้ผ่อนคลาย เขย่าตัวเป็นสัณญาณมันอยู่นั่นแหละ มีคนนึงเถียงว่ามันเจ็บ(ก็แกตึงแข็งไปหมดโดนนิดเดียวมันก็เจ็บ) แต่จะพยายามไม่เกร็ง สั่งเลยว่าไม่ต้องพยายามแต่ต้องทำ(จะกระโดดงับหัวแล้ว นวดกันหลายหนยังเกร็งอีก)

    พักหลังมีขู่ว่าถ้าไม่รีแล็กซ์มันจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นั่นแหละถึงจะรู้เรื่อง ชอบให้ใข้ความรุนเเรงจริงๆ:D

    ถ้าเกร็งทั้งเราและเขาเจ็บ แล้วมาบ่นว่านวดไม่ดี เวลานวดจะพยายามเซฟตัวเองให้มากที่สุดอยู่แล้ว เพราะถ้าเจ็บขึ้นมามันเรื่องใหญ่

    เป็นคนประหลาดค่ะ คือชอบถูกนวดน่ะ แต่ถ้าใครมานวดแบบง้องๆแง้งๆหรือคนที่เรารู้สึกว่าไม่ใช่ มันจะไม่สบายหรือเจ็บตัวได้ง่ายๆ รำคาญพาลอยากดีดเขาตกเตียงเลย นวดต้องหนักแน่นนิ่งและถูกจุด มาสะเปะสะปะนี่ไม่เอา เลยหาคนที่จะนวดให้ไม่ค่อยได้ กลายเป็นคนหวงตัวไปเลย หมอบางคนให้เรานวดพอให้เขานวดกลับก็บอกว่าไม่ต้องใช้มือนวดหรอก ยังไงก็ไม่ถึง เหยียบเราขึ้นทั้งตัวแล้วกัน ขนาดน้ำหนักเป็นเกือบร้อยโลเรายังนอนเฉยๆ ใครๆเขาก็ขยาดไม่ค่อยกล้าให้นวดกลัวนวดคืนเราไม่ถึง ให้เขาทำนี่ก็เอาแค่คลายๆก็ไม่อะไรมากมาย(แต่เขางงว่าทำไมอินี่นวดหนักจังร้องสักนิดไม่มี) เกรงใจไม่ค่อยให้ใครนวดให้กลัวเขาเหนื่อยแถมกลัวไปจี้สอนเขาอีก มันไม่ใข่เรื่อง

    มีพี่คนนึงแกอยากนวดให้เรามาก แต่เรารู้ว่าไม่ใช่ แต่แกทู่ซี้ก็ให้ลอง แกพยายามนวดแล้วนวดอีกจนขึ้นเหยียบ เราเอ่ยปากบอกว่า พอเหอะพี่ ลงไปเหอะ ต่อให้พี่ขย่มหนูก็ไม่รู้สึกลงไปเถอะรำคาญมาก คนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่:confused:
     
  7. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    555 คนไม่ใช่พยายามแค่ไหน เค้าก็ไม่รัก เย้ย ใจมันก็ไม่รับเนอะ

    อ่านโพสต์devotee นี่ได้ทั้งสาระและฮาเลย

    เคยลองฝึกนวดอยู่บ้าง แต่จะเป็นแนวการนวดสำหรับคลายเส้นของนักกีฬา เน้นเพื่อคลายอาการเครียดของกล้ามเนื้อ จับกล้ามเนื้อเค้าก็จะรู้เลยว่ามันตึง และมันมีปัญหามาจากไหน ก็ต้องไล่นวดไปจนถึงต้นตอ แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่จะออกงานวัดได้นะ แต่เห็นด้วยเลยว่าต้องใช้สมาธิอย่างยิ่ง และอาจได้ของแถมเป็นพลังงานตกค้างจากคนที่เรานวดให้ ก็เลยเลิกเล่น จะนวดให้เฉพาะคนที่สำคัญๆ เท่านั้น (จริงๆคือขี้เกียจนั่นแร่ะ ๕๕๕)

    วันนี้ครูโยคะก็พึ่งนวดให้แล้วชอบมาก แกจับๆ ยืดๆหดๆบิดๆ ทีกระดูกลั่นทั่วร่าง ยิ่งตรงขาหนีบ ครูแกขึ้นไปเหยียบเลย พอปล่อยเท่านั้นแร่ะ ลมวิ่งจากหัวถึงเท้าเลย แต่บางจุดก็แต่ะไม่ได้กันเลยทีเดียว คือ..มันจั๊กกะเดี้ยมมาก (ให้เดาว่าจุดไหน คริคริ)
     
  8. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    อันพลังงานตกค้างมันโดนอยู่แล้วค่ะ อิคิๆๆ
    เคยถามคุณพี่นพว่าตูข้าควรทำอย่างไรหนอ
    พี่ท่านก็เฉลยให้ฟัง แต่ข้าน้อยทำบ่ได้(แผ่เมตตาเป็นวงกระจายออกมาตอนนวด และใกล้จบ รวมถึงกรวดน้ำและอื่นๆจำได้บ้างมิได้บ้างเข้าใจบ้างมึนตึบบ้าง) ข้าเจ้านี่โง่บัดซบทำบ่เป็น เลยประทังชีวิตด้วยการไปทำบุญทำสังฆทานทุกวันพระแทน บางช่วงหนักหน่อยก็หยุดถือศีลแปดเอา แล้วงดทานเนื้อสัตว์และของที่แสลงกับอาการกล้ามเนื้ออักเสบ เช่น ข้าวเหนียว หน่อไม้ ของธาตุไฟทั้งหลาย กินน้ำย่านางสกัด ยาขมเม็ดในช่วงร้อนจัดๆ ก็พอกันตายไปได้5555

    แต่ก่อนมาเมืองหรั่งเราขออนุญาตกินเนื้อสัตว์กลัวมันจะลำบากเรื่องการกิน ก็กลับมาทานเนื้อสัตว์ได้ แต่พักหลังๆนี่หนักตัว(ความจริงก็อัวนอยู่แล้ว) แต่มันไม่เหมือนช่วงงดเนื้อสัตว์ที่ร่างกายเราฟื้นไวกว่า(ในความรู้สึกเราน่ะ) นวดตัวเองก็หลายครั้งกว่าจะหาย(ตอนนี้ก็ยอกหลังแบกของช็อปปิ้งเยอะเลยเจ็บก้ำกรรม) เจ็บอยู่เลย แต่ตอนเจ็บขามากๆแล้วใช้การแช่เท้าในน้ำเกลือแบบที่พี่นพบอกนี่สบายตัวขึ้นเยอะค่ะ

    เคยอยากไปลองเรียนแนวนวดนักกีฬาเหมือนกัน แต่ถ้าจะใช้ทำงานสายนั้นจริงๆมันก็หลายอย่าง แรงต้องดีสม่ำเสมอ(ไอเรามันติสต์แตกบางทีเซ็งๆนี่แรงตกเลย) พวกผู้ชายนี่จะสะดวกกว่าผู้หญิง ด้วยปัจจัยหลายอย่าง

    อยากลองเบนไปด้านสปา แต่นวดหน้าใครไม่ค่อยได้ มือเรามีกำลังและแข็งแรงพอควร นวดหน้าเขาเบาๆก็ทำย่นได้ จากเสริมสวยจะกลายเป็นเสริมสยอง5555

    กลับไทยคราวนี้ว่าจะไปเรียนคอร์สนวดแก้อาการทั้งหลายเสริมของเก่า นวดแก้กษัย รู้สึกน่าสนใจดี บางทีอาจไปเรียนแพทย์แผนไทยเต็มตัว6ปีเลยค่ะ เพราะเรามาเป็นหมอนวดเพื่อปูพื้นฐาน

    ส่วนตัวก็ไม่ชอบนวดคนใกล้ตัว เพราะรำคาญหลายๆอย่าง รวมถึงขี้เกียจ เจออาจารย์นี่แกใช้ตลอดเราก็ตีมึนตลอด หลายๆครั้งเข้าแกเลยมาเหยียบๆขาเราแล้วว่า ชั้นนวดแกแล้วแกก็มานวดชั้นบ้าง(นี่มันมัดมือชกชัดๆ)เลยต้องนวดให้ ยังโดนบ่นว่านี่ครูต้องง้อมัน(เบื่อบ้างไรบ้างคนอื่นก็ใช้ซิT_T)

    เราเป็นพวกนวดหนักและโดนแก้แบบโหดๆมาแล้ว (ไปหาหมอต่อกระดูกพื้นบ้านตั้งแต่ไม่เกิน6ขวบอยู่สามครั้งจากอาการแขนเดาะ) ตอนเรียนนวดก็คู่ผู้ชายเกือบตลอด
    รวมถึงไปบ้านหมอท่านนึงตามสายตระกูล ใช้น้ำมัน ใช้ือและไม้ขูด(แบบไม่ปรานีปราศรัย)กำกับคาถากินยากษัยเส้น นวดแบบเบาๆเบาะๆเลยไม่ระคายหนังอันหนาด้านเราเลย ฮุว้าฮ่ะๆๆๆๆ สรองได้อีก บึกบึนอะไรเยี่ยงนี้
     
  9. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    โห...พึ่งทราบว่าคุณ snooty และคุณ devotee57 มีความสามารถทางด้านนี้ด้วย มีพวกแระ ^_^
    ของดิฉันไปลงเรียนเพื่อประกาศอย่างเดียว ถ้าให้นวดตัวนี่แนวผ่อนคลายพอได้ ถ้าระดับจับเส้น ไล่เส้นคงส่ายหัวไม่ไหวค่ะ
     
  10. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    โนๆๆๆๆ ของคุณ devotee เค้าโปรซีรี่ย์ ส่วน snooty ออกแนวโปรเตโต้ค่ะ:p:p:p

    ที่สนใจเพราะตัวเองออกกำลังกาย เต้นรำ บ้าพลัง น่ะค่ะคุณวงกรตน้ำ และออกแนวผ่อนคลายเหมือนกันค่ะ ยังห่างไกลจากการจับเส้นอีกหลายกิโลอยู่ค่ะ อิอิ :D
     
  11. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    โนๆค่ะ ไล่เส้นพอได้ แต่จับเส้นแบบจริงๆจังๆทำไม่ได้ เอาเข้าจริงตอนนี้มีคนทำได้น้อยด้วย
    จับเส้นนี่นิ้วมือจะคีบเส้น ขยับๆแล้วกระตุกเลย
    เจ็บและโหดสลัดรัสเซียมาก(แต่ไม่เคยโดนเลย อยากเจอเหมือนกัน) พวกจับเส้นนี่จะเป็นคนแก่ๆซะเยอะ จับๆง้างๆดึงๆกระตุกนั่นนี่ (เหมือนจับดึง)เขาจะทีจังหวะของเขา เห็นว่าคนที่โดนๆกันนี่ร้องลั่นเลย
    เห็นว่าบางคนเขามีคาถาเรียกเส้นเรียกเอ็นด้วย มันจะปูดออกมาให้เห็นเลย

    ที่นวดไทยมาตรฐานปัจจุบันเป็นสายวัดโพธิ์ซะส่วนใหญ่ค่ะ(เค้าก็ด้วยฉายาว่าเป็นพวกหมอเส้น)
    อาจารย์ที่เปิดคอสสอนหรือที่ไปสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานจะเป็นสายนี้ค่ะ
    แต่ที่มีแตกต่างไปเพราะลูกศิษย์หรือร้านบางร้านไปปรับท่าเอง บางคนก็ไปเรียนจากสายอื่นๆมาก็มาผสมกัน

    แต่พวกสมาคมฯนี่จะมีเปิดหลักสูตรพิเศษด้วยเหมือนกัน เช่น ติววิชาเภสัช ฯลฯสำหรับคนที่จะเทินโปรไปเป็นอาจารย์สอน หรือนวดแก้แบบไม่เจ็บ ฯลฯ

    แต่ถ้าจะเป็นหมอ(แพทย์)้เต็มตัวนี่ต้องเรียนหลายอย่างค่ะ คล้ายพวกเป็นอาจารย์ แต่เรียนเก็บชั่วโมงจริงจังกันกว่า สาขานึงเป็นปีๆของแต่ละที่ไม่เท่ากันรวมถึงค่าเรียนด้วย แต่นับๆแล้ว4-6ปีแล้วแต่สถานที่ค่ะ ที่เราสนใจนี่6ปีค่ะ แต่สัปดาห์เรียน1-2วัน(มีเวลาทำมาหากิน)

    ถ้านวดแก้กษัย(ความเสื่อม)ี่นี่จะเน้นเฉพาะ ปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นอาการเกี่ยวกับปัญหากลุ้มใจคุณผู้ชายคุณผู้หญิง พอเลือดลมวิ่งดีเส้นเอ็นถูกที่ถูกทางทุกอย่างมันก็ดีตาม55555(ข้าน้อยอยากเรียนมาก อิคิๆๆๆๆ ค่านวดแพงน่ะเออ)

    พวกราชสำนักหรือแก้อาการ นี่ขั้นกว่าของสายวัดโพธิ์(แต่ไม่ได้หมายถึงหมอแก้ทุกคนจะนวดแบบราชสำนัก) ถ้าคุณคิดจะเจอความนุ่มนวลอ่อนหวานกับสายนี้คุณคิดผิด โหดบรรลัย จี้จึกๆๆเป็นจุดๆ บางทีกดไม่แรงแต่ตรงจุด ผู้ชายตัวกระบือๆก็ดิ้นร้องได้ยังกะกระบือถูกเชือด(ก็ว่าไปเราก็นวดสายนี้คึๆๆๆ) พวกนี้ง่ายๆคือนิ้วแข็งกดนิ่งเน้น

    ยังมีอีกมากค่ะ พวกทางสายตระกูลคาถาอาคมต่างๆก็มีอีกเยอะ อย่างทางบ้านแม่ตอนนี้เหลือหมอต่อกระดูก(หมอนวดหมอยามรณะภาพและตายไปหมดแล้ว) คือลูกหลานแต่ละคนรับกันไม่เหมือนไม่หมดน่ะค่ะ แต่ก็ต้องมีคนรับช่วงเป็นหมออย่างต่อเนื่อง ตอนนี้น้าชายทำหน้าที่อยู่ค่ะ ยังไม่ถึงเวลาของเรา(ถึงเวลาคงไม่ฮาอย่างนี้) อีกบ้านไม่แน่ใจว่าน้าสาวรักษาคนรึเปล่าหรือมีแต่งานไหว้ครู
     
  12. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    รู้ลึก รู้จริง เลยนะคะเนี่ย :eek::eek::eek:
     

แชร์หน้านี้

Loading...