ความสัมพันธ์ของ จักระ ปราณ และ สวัสดิกะ (เครื่องหมายแห่งพลัง)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมรังสี, 9 ตุลาคม 2013.

  1. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    ผู้ดูแลเว็บอยู่ไหน
     
  2. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    ถ้าพ่อแม่มันมาอ่านจะเสียใจขนาดไหนนี่

    กรรมจริงๆ

    จะเก็บไว้อ่านเตือนใจก็แล้วกัน แต่ทางที่ดีหยุดสร้างอกุศลกรรมเถอะ อย่าทำชีวิตให้ตกต่ำไปกว่านี้เลย
     
  3. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    อภัยอยู่แล้ว แต่บอกให้มันเลิกเข้ามาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายได้ไหมละ หรือจะให้อาตมาไปกราบมันก่อน ลองดูที่มันเขียนมาตั้งแต่ต้นสิ อาตมาก็เขียนแบบสุภาพไปหมดแล้ว มันทำอย่างกับอาตมาเป็นเพื่อนเล่นของมัน แล้วมันหยุดไหม เที่ยวเกะกะระรานชาวบ้านเขาไปทั่ว มันก็ปากเก่งแต่ในเว็บเท่านั้นแหละ คนประเภทนี้ ลองไปเจอคนจริงนอกเว็บดูก็หัวหดทุกทีไป ดูสิว่ามันสำนึกไหม ในเมื่อมันไม่สำนึก อาตมาก็เลยอยากรู้ว่า ทางผู้ดูแลเว็บจะดำเนินการอย่างไร

    แล้วผู้ดูแลเว็บไปไหนกันหมด ทำไมปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้อยู่ได้ ไม่ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในเว็บเลย

    หรือจะรอให้เรื่องถึงโรงถึงศาลก่อน แล้วค่อยออกมา

    พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ก็มีอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2013
  4. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    มันไม่สะท้าน และไม่สะเทือน
    เพราะว่า การปฏิบัติผิดวิธี
    ประเภทเดียวกับพวก ทำลายขันธ์ตัวเอง

    เขาจะอ้างว่า ดับจิต ดับขันธ์ แล้วสบาย
    แบบนี้ เรียกว่า ทำลายตัวเองไปแล้ว

    สิ่งที่อยู่ภายในจึงไม่ใช่ ตัวตนแท้ของเขา
    ถูกควบคุมโดยอมนุษย์ ที่ต่ำทราม เหมือนกับ
    พรหมครอบร่าง นั่นแล

    มันจะพยายามให้ ผู้อื่น ออกนอกเส้นทาง พยายามทำลาย
    และมันจะพยายามมาสอนเราว่า นี่ไงล่ะ ตัวตนแท้ ที่อยู่ภายใน

    การกระทำแบบนี้ มันทำให้สัญญาขันธ์ ของมนุษย์ เบี่ยงเบน
    เพราะแทนที่ สัญญาขันธ์ จะถูกบันทึกด้วยความดี สืบเนื่องต่อไป
    มันกลับทำให้สัญญาขันธ์ ที่ไม่ดี ปรากฎและบันทึก เกิดขึ้นมาอีกรอบ

    มันเป็นวิถี่ ผิดปกติ เข้าใจธรรม แต่นำดัดแปลงธรรม หรือ กลืนธรรม
    ให้เป็นแบบอื่น ดูฤทธิ์ มันไปว่า ตัวตนภายในมันมีอะไร ที่แสดง
     
  5. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +2,259
    ขำๆน่าภูดิษ มันเป็นเรื่อง ฝนตกขี้หมูไหล คนจังรายมาพบกัน นะจ๊ะ
    แล้วก็ตกนรกด้วยกันนะจ๊ะ

    เอ้าภูดิษเจ้าแห่งมนดำ กับอลเจ้าแห่งเครื่องรางของขลัง มาเจอกัน เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย
     
  6. Fergie

    Fergie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +167
    พระกริ่งของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ท่านอาจารย์ได้ถ่ายรูปไว้บ้างหรือเปล่าครับ อยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง รัศมีขององค์พระเป็นสีขาวเหมือนพระสมเด็จหรือเปล่าครับ แล้วตอนนี้อยู่ในความครอบครองของฆราวาส หรือพระภิกษุครับ
     
  7. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    เคยเห็นตอนอาตมาเป็นทหารเกณฑ์เมื่อนานมาแล้ว เจ้าของเป็นนายทหาร

    ท่านเอาพระมาให้อาตมาชมหลายองค์ หนึ่งในนั้นคือ พระกริ่ง องค์เล็กกว่าพระกริ่งทั่วไป เนื้อสัมฤทธิ์ แผ่นโลหะและเม็ดกริ่งใต้ฐานหลุดไปแล้ว พระพักตร์ไม่เหมือนพระกริ่งในปัจจุบัน สภาพเก่ามาก

    ท่านเจ้าของบอกว่า เป็นพระกริ่งประจำตระกูล ตกทอดมานานแล้ว และตระกูลของท่านเป็นทหารมาหลายชั่วอายุคนแล้ว

    รังสีสีแดงสลับด้วยสีม่วงเข้ม สว่าง (คงกระพันชาตรีและอิทธิฤทธิ์สูง) มีเทวดารักษา
     
  8. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    ไม่ทราบว่าผู้ดูแลเว็บปล่อยไว้ได้อย่างไร

    ไม่ต้องแช่งหรือพยากรณ์ใครว่าจะตกนรกหรอก

    ตายเมื่อไหร่เดี๋ยวรู้เองนั่นแหละ หมดทางเยียวยาแล้ว ช่างมันเถอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2013
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ปกติผมไม่เคยปล่อยอะไร ทิ้งให้เสียผ่านไป และจะตรวจสอบเรื่องราวประจำ

    ยกตัวอย่างอาทิ

    สมัยก่อน ผู้ร้ายสมัยพุทธกาล ผู้อิจฉา องค์พุทธ มักจะแสดงธรรมหรือสร้าง
    บัญญัติวิถีปฏิบัติอะไรที่ ยิ่งกว่าองค์พุทธกำหนด เพื่อแสดงว่า วัตรของตนเอง
    ยิ่งกว่า องค์พุทธะ

    มาสมัยนี้ ไม่ใช่ขัดแย้งกับองค์พุทธะ แต่จะมาแนวทางเดียวกับองค์พุทธะ
    แต่จะกลืนธรรม แต่จะเบี่ยงธรรมที่ถูกต้อง โดยอ้างอิงมาจากธรรมแบบนี้
    สุดแต่จะทำกัน

    สมัยก่อนใครทำ มาปัจจุบัน มันก็มาเป็นทายาทของสมัยก่อนนั่นแล
    อาจารย์ของมัน ก็ไม่ได้แตกต่างจากมันเท่าใดนัก

    ไม่ต้องไปสืบให้มัน(อมนุษย์)ตามมา เอาแค่ผมบอกเป็นนัย
    และพิจารณา ดู

    ใช้พลังสืบมันก็หาแหล่งสืบกลับได้

    ผมไม่กลัวมันสืบ ดอก มาทั้งโคตรยิ่งดี ....
     
  10. Fergie

    Fergie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +167
    ชาตรี(หินเบา)สายหลวงพ่อกลั่นนี้ต้นตำหรับมาจากไหนครับ (เฮ กิง กัง บาตู)ประดู่โรงธรรมหรือเปล่า บ้างว่าเค้าเงื่อนมาจากแขก คือผมไม่อยากเชื่อเลยว่าแขกจะเก่งกว่าไทย แล้วชาตรีฉบับไทยๆมีบ้างไหมครับ
     
  11. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    เฮ กัง กิง บา ตรู ฯลฯ หรือ วิชาชาตรีเก้าเฮ (ขึ้นต้นด้วยคำว่า เฮ 9 บทคาถา) ต้นสายมาจากวิชาพรหมศาสตร์ เป็นภาษากูโบ๊ส บางท่านเข้าใจว่าเป็นของแขกอิสลาม ซึ่งไม่ใช่ ภาษาอาจดูคล้ายกัน เพราะภาษาอาหรับก็ตาม ภาษาฮิบรูก็ตาม อักขระพรหมิก็ตาม อักษรเทวนาครีก็ตาม มีความใกล้เคียงกับภาษากูโบ๊สมาก

    วิชาชาตรีแบบไทยๆ คือ พระคาถา...


    ท่านใดประสงค์จะสนทนากับอาตมาเป็นการส่วนตัว กรุณาเข้ามาที่

    https://m.facebook.com/profile.php?__user=100003823303613



    ถ้าเป็นความรู้เพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก อาตมาจึงจะเขียนลงในกระทู้นี้

    ขอเจริญพร

    พระอาจารย์ พ.ธรรมรังสี
     
  12. Fergie

    Fergie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +167
    ขอบคุณท่านอาจารย์มากครับที่กรุณาตอบคำถาม ถ้าผมตั้งค่าเป็นคงได้เข้าไปสนทนาเป็นการส่วนตัว คือผมค่อนข้างจะโบราณหน่อยน่ะครับ ไม่สันทัดเทคโนโลยี แต่ยังไงก็จะรออ่านความรู้จากพระอาจารย์นะครับ
     
  13. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    ถามมาใน pm ก็ได้ (แบบส่วนตัว)


    อยู่ในโลกนี้ จำเป็นต้องทันโลกตามสมควร ตามหน้าที่และตามความใฝ่รู้ของแต่ละคน

    แต่ทางธรรมสอนให้รู้เท่าทันโลก และ อยู่เหนือโลก

    ที่สำคัญต้องอยู่กับโลกให้ได้อย่างมีสติมีปัญญาและมีความสุขจากความดี มีความสุขจากการใช้ชีวิตด้วยทางสายกลาง นี้เป็นความสุขที่ยั่งยืนในโลกมนุษย์




    โคลงสี่สุภาพ (บทพระราชนิพนธ์ ของรัชกาลที่ ๕)


    ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน

    ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง

    ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด

    เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ ฤาไหว




    หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ได้แปลและแต่งเป็นภาษาอังกฤษแต่ใช้โครงสร้างโคลงสี่สุภาพดังนี้


    Born men are we all and one

    Brown black by the sun culture

    Knowledge can be done alike

    Only the heart differs from man to man.
     
  14. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218
    สิ่งที่อาตมามีความรู้ 10 อันดับ

    1. ธรรมะในพระพุทธศาสนา ทั้ง หินยาน และ มหายาน

    2. พระคาถาต่างๆ ในทาง พุทธศาสตร์ และ พรหมศาสตร์

    3. การบวงสรวงอัญเชิญเบื้องบน จิตศาสตร์ วิญญาณศาสตร์

    4. พระกรุ พระเก่า วัตถุกายสิทธิ์ และ ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าทั่วประเทศ

    5. การตรวจดวงชะตาด้วย พยากรณ์ศาสตร์ และ โหราศาสตร์

    6. ภาษาโบราณ และ ประวัติศาสตร์โลก

    7. สมุนไพร

    8. วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ จักรวาลวิทยา

    9. พิชัยสงคราม

    10. รถยนต์


    ทั้ง 10 อันดับ เป็นสิ่งที่อาตมาให้ความสนใจ และศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ถือเป็นความชอบส่วนตัว และจัดเรียงตามความรู้ที่มีอยู่ ซึ่งมีธรรมะเป็นอันดับหนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2013
  15. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218
    หากต้องการให้ประเทศชาติสงบ มีทางเดียว ไปเชิญ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล มาเป็นนายกฯ 

    เชิญตัวแทนคณาจารย์ทุกสถาบันเป็นคณะที่ปรึกษานายกฯ 

    และหากมีโครงการที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ให้ทำประชามติ-ประชาพิจารณ์ก่อน



    ประเทศที่ขับเคลื่อนไปด้วยอารมณ์และอวิชชา ย่อมนำพาสู่ความวิบัติ

    ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยสติปัญญาและธรรมะ ย่อมนำพาสู่ความเจริญ
     
  16. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218
    ชีวิตนี้ น้อยนัก สำคัญนัก

    แจ้งประจักษ์ ในหลัก พระทรงสอน

    สมเด็จพระ สังฆราช ชนอาวรณ์

    ถวายพระพร พระองค์ ทรงนิพพาน


    กราบถวายสักการบูชาพระเมตตาคุณอย่างสูงสุดด้วยเศียรเกล้า

    ประพันธ์โดย พระอาจารย์ พ.ธรรมรังสี
     
  17. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    แม้ ดี ไอเดียดี
    ก็ เห็นพวกบ้าอำนาจ หลงไหลในอำนาจ

    สืบทอดจากเหล่าที่ไปเรียนวิชาจากตะวันตก
    เรียนจบ มันมาปล้นอำนาจ จากใคร ....
    ปล้นเสร็จ ก็ไม่ได้สืบเจตนาของผู้ให้... เลยแม้นแต่น้อย

    พวกมันบริหารขัดขากันเอง เหมือนเล่นขายหม้อข้าวหม้อแกง
    หวังชิงความเป็นใหญ่ แก่พวกพ้อง คืนอำนาจให้พวกพ้อง

    แต่มันไม่เห็นหวังชิง เพื่อคืนอำนาจให้เจ้าของที่แท้เลย
    เป็นลูกที่เฮงซวยจริง ๆ
     
  18. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218
    เจริญพร ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

    ถ้าท่านไม่รู้จักการทำประชามติ-ประชาพิจารณ์ก่อนที่คิดจะทำอะไรที่มีผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ รับรองว่าท่านจะอยู่อย่างลำบาก ตัวอย่างมีให้เห็น บทเรียนมีให้ดู แต่ไม่รู้จักจำ สอนไม่ได้ เตือนไม่ฟัง ครอบงำประเทศ หลงอำนาจที่ประชาชนส่วนใหญ่ไว้วางใจมอบให้เพื่อบริหารประเทศ แต่กลับใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง สุดท้ายก็จะอยู่อย่างลำบาก และมีแต่ความอัปยศอดสูในที่สุด

    ท่านบอกว่า จะไม่ทำอะไรที่เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ท่านลองทบทวนดีๆว่า การสร้างความแตกแยกของคนในชาติด้วยการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่ยอมทำประชามติ-ประชาพิจารณ์ก่อน จนก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายไปทั้งประเทศ ไม่เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือ

    หยุดเถอะ หยุดทำตามอำเภอใจได้แล้ว ถ้าท่านไม่หยุดก็จะมีคนหยุดท่านเองอย่างแน่นอน 

    อาตมาชื่นชมความสามารถของท่านทักษิณมาโดยตลอด แต่ถ้าท่านยังไม่หยุดใช้อำนาจในทางที่ผิด ครอบงำประชาธิปไตย ไม่ได้ดำเนินตามหลักแห่งประชาธิปไตยแล้ว ท่านจะไม่มีวันได้กลับมาประเทศไทยอีกอย่างแน่นอน

    เหตุการณ์ที่ผ่านมา (พ.ร.บ.อัปยศ) ถ้าไม่เป็นเหตุให้รัฐบาลต้องยุบสภา ก็ต้องขอนายกฯพระราชทาน อาตมาไม่เห็นทางอื่นจริงๆ หรือจะให้คนไทยยกพวกมาฆ่ากันเอง ท่านทั้งสองถึงจะพอใจ

    หวงกันอยู่ได้ อำนาจ !

    เป็นคนธรรมดากันไม่ได้หรือยังไง ?
     
  19. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    มัชฌิมศีล
    [๑๐๔] ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการพรากพืชคามและภูตคาม เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการพรากพืชคามและภูตคามเห็นปานนี้ คือ พืชเกิดแต่เง่า พืชเกิดแต่ลำต้น พืชเกิดแต่ผล พืชเกิดแต่ยอด พืชเกิดแต่เมล็ดเป็นที่ครบห้า แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๐๕] ๒. ภิกษุเว้นขาดจากการบริโภคของที่ทำการสะสมไว้ เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการบริโภคของที่ทำการสะสมไว้เห็นปานนี้ คือ สะสมข้าว สะสมน้ำ สะสมผ้า สะสมยาน สะสมที่นอน สะสมเครื่องประเทืองผิว สะสมของหอม สะสมอามิส แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๐๖] ๓. ภิกษุเว้นขาดจากการดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังขวนขวายดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล เห็นปานนี้คือ การฟ้อน การขับร้อง การประโคมมหรสพ มีการรำเป็นต้น การเล่านิยาย การเล่นปรบมือ การเล่นปลุกผี การเล่นตีกลอง ฉากภาพบ้านเมืองที่สวยงาม การเล่นของคนจัณฑาล การเล่นไม้สูง การเล่นหน้าศพ ชนช้าง ชนม้า ชนกระบือ ชนโค ชนแพะชนแกะ ชนไก่ รบนกกระทา รำกระบี่กระบอง มวยชก มวยปล้ำ การรบ การตรวจพลการจัดกระบวนทัพ กองทัพ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๐๗] ๔. ภิกษุเว้นขาดจากการขวนขวายเล่นการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังขวนขวายเล่นการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเห็นปานนี้ คือ เล่นหมากรุกแถวละแปดตา แถวละสิบตา เล่นหมากเก็บ เล่นดวด เล่นหมากไหว เล่นโยนบ่วง เล่นไม้หึ่ง เล่นกำทาย เล่นสะกาเล่นเป่าใบไม้ เล่นไถน้อยๆ เล่นหกคะเมน เล่นกังหัน เล่นตวงทราย เล่นรถน้อยๆ เล่นธนูน้อยๆ เล่นเขียนทายกัน เล่นทายใจ เล่นเลียนคนพิการ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๐๘] ๕. ภิกษุเว้นขาดจากการนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่เห็นปานนี้ คือ เตียงมีเท้าเกินประมาณ เตียงมีเท้าทำเป็นรูปสัตว์ร้าย ผ้าโกเชาว์ขนยาวเครื่องลาดที่ทำด้วยขนแกะวิจิตรด้วยลวดลาย เครื่องลาดที่ทำด้วยขนแกะสีขาว เครื่องลาดที่มีสัณฐานเป็นช่อดอกไม้ เครื่องลาดที่ยัดนุ่น เครื่องลาดขนแกะวิจิตรด้วยรูปสัตว์ร้ายมีสีหะและเสือเป็นต้น เครื่องลาดขนแกะมีขนตั้ง เครื่องลาดขนแกะมีขนข้างเดียว เครื่องลาดทองและเงินแกมไหม เครื่องลาดไหมขลิบทองและเงิน เครื่องลาดขนแกะจุนางฟ้อน ๑๖ คน เครื่องลาดหลังช้าง เครื่องลาดหลังม้า เครื่องลาดในรถ เครื่องลาดที่ทำด้วยหนังสัตว์ชื่ออชินะอันมีขนอ่อนนุ่ม เครื่องลาดอย่างดีทำด้วยหนังชะมด เครื่องลาดมีเพดาน เครื่องลาดมีหมอนข้างแม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๐๙] ๖. ภิกษุเว้นขาดจากการประกอบการประดับตกแต่งร่างกายอันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังขวนขวายประกอบการประดับตบแต่งร่างกายอันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว เห็นปานนี้ คือ อบตัว ไคลอวัยวะ อาบน้ำหอม นวด ส่องกระจก แต้มตา ทัดดอกไม้ ประเทืองผิว ผัดหน้า ทาปาก ประดับข้อมือ สวมเกี้ยว ใช้ไม้เท้า ใช้กลักยา ใช้ดาบ ใช้ขรรค์ ใช้ร่ม สวมรองเท้าประดับวิจิตร ติดกรอบหน้า ปักปิ่น ใช้พัดวาลวิชนี นุ่งห่มผ้าขาว นุ่งห่มผ้ามีชาย แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๐] ๗. ภิกษุเว้นขาดจากติรัจฉานกถา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบติรัจฉานกถา เห็นปานนี้ คือ พูดเรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอำมาตย์ เรื่องกองทัพ เรื่องภัย เรื่องรบ เรื่องข้าว เรื่องน้ำ เรื่องผ้า เรื่องที่นอน เรื่องดอกไม้ เรื่องของหอม เรื่องญาติ เรื่องยาน เรื่องบ้าน เรื่องนิคม เรื่องนคร เรื่องชนบท เรื่องสตรี เรื่องบุรุษ เรื่องคนกล้าหาญ เรื่องตรอก เรื่องท่าน้ำ เรื่องคนที่ล่วงลับไปแล้ว เรื่องเบ็ดเตล็ด เรื่องโลก เรื่องทะเล เรื่องความเจริญและความเสื่อมด้วยประการนั้นๆแม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๑] ๘. ภิกษุเว้นขาดจากการกล่าวถ้อยคำแก่งแย่งกัน เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังขวนขวายกล่าวถ้อยคำแก่งแย่งกันเห็นปานนี้ เช่น ว่าท่านไม่รู้ทั่วถึงธรรมวินัยนี้ ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึง ท่านรู้จักทั่วถึงธรรมวินัยนี้ได้อย่างไร ท่านปฏิบัติผิด ข้าพเจ้าปฏิบัติถูกถ้อยคำของข้าพเจ้าเป็นประโยชน์ ของท่านไม่เป็นประโยชน์ คำที่ควรจะกล่าวก่อน ท่านกลับกล่าวภายหลัง คำที่ควรจะกล่าวภายหลัง ท่านกลับกล่าวก่อนข้อที่ท่านเคยช่ำชองมาผันแปรไปแล้ว ข้าพเจ้าจับผิดวาทะของท่านได้แล้ว ข้าพเจ้าข่มท่านได้แล้วท่านจงถอนวาทะเสีย มิฉะนั้นจงแก้ไขเสีย ถ้าสามารถ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๒] ๙. ภิกษุเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรมและการรับใช้ เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังขวนขวายประกอบทูตกรรมและการรับใช้เห็นปานนี้ คือ รับเป็นทูตของพระราชา ราชมหาอำมาตย์ กษัตริย์ พราหมณ์ คฤหบดีและกุมารว่า ท่านจงไปในที่นี้ ท่านจงไปในที่โน้น ท่านจงนำเอาสิ่งนี้ไป ท่านจงนำเอาสิ่งนี้ในที่โน้นมา ดังนี้ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๓] ๑๐. ภิกษุเว้นขาดจากการพูดหลอกลวง และการพูดเลียบเคียง เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังพูดหลอกลวง พูดเลียบเคียง พูดหว่านล้อม พูดและเล็ม แสวงหาลาภด้วยลาภ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
    จบมัชฌิมศีล.

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๙ หน้าที่ ๕๙/๓๘๓
     
  20. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    มหาศีล
    [๑๑๔] ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างสมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายอุปบาต ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่า บูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู เป็นหมอยาพิษ เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอทายเสียงกาเป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๕] ๒. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทายลักษณะแก้วมณี ทายลักษณะผ้า ทายลักษณะไม้พลอง ทายลักษณะศาตรา ทายลักษณะดาบ ทายลักษณะศร ทายลักษณะธนู ทายลักษณะอาวุธ ทายลักษณะสตรี ทายลักษณะบุรุษ ทายลักษณะกุมาร ทายลักษณะกุมารี ทายลักษณะทาส ทายลักษณะทาสี ทายลักษณะช้าง ทายลักษณะม้า ทายลักษณะกระบือ ทายลักษณะโคอุสภะ ทายลักษณะโค ทายลักษณะแพะ ทายลักษณะแกะ ทายลักษณะไก่ ทายลักษณะนกกระทาทายลักษณะเหี้ย ทายลักษณะตุ่น ทายลักษณะเต่า ทายลักษณะมฤค แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๖] ๓. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาจักยกออก พระราชาจักไม่ยกออก พระราชาภายในจักยกเข้าประชิด พระราชาภายนอกจักถอย พระราชาภายนอกจักยกเข้าประชิด พระราชาภายในจักถอย พระราชาภายในจักมีชัย พระราชาภายนอกจักปราชัย พระราชาภายนอกจักมีชัย พระราชาภายในจักปราชัย พระราชาองค์นี้จักมีชัย พระราชาองค์นี้จักปราชัย เพราะเหตุนี้ๆ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๗] ๔. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ พยากรณ์ว่า จักมีจันทรคราส จักมีสุริยคราส จักมีนักษัตรคราส ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินถูกทาง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินผิดทาง ดาวนักษัตรจักเดินถูกทาง ดาวนักษัตรจักเดินผิดทาง จักมีอุกกาบาต จักมีดาวหาง จักมีแผ่นดินไหว จักมีฟ้าร้อง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักขึ้น ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักตก ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ และดาวนักษัตรจักมัวหมอง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ และดาวนักษัตรจักกระจ่างจันทรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ สุริยคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตรเดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตรเดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ มีอุกกาบาตจักมีผลเป็นอย่างนี้ มีดาวหางจักมีผลเป็นอย่างนี้ แผ่นดินไหวจักมีผลเป็นอย่างนี้ ฟ้าร้องจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรขึ้นจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรตกจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรมัวหมองจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรกระจ่างจักมีผลเป็นอย่างนี้ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๘] ๕. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ พยากรณ์ว่า จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง จักมีภิกษาหาได้ง่าย จักมีภิกษาหาได้ยาก จักมีความเกษม จักมีภัย จักเกิดโรค จักมีความสำราญหาโรคมิได้ หรือนับคะแนนคำนวณ นับประมวลแต่งกาพย์ โลกายศาสตร์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๑๙] ๖. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ให้ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์หย่าร้าง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ให้ยาผดุงครรภ์ ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง ร่ายมนต์ให้คางแข็ง ร่ายมนต์ให้มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอทรงกระจก เป็นหมอทรงหญิงสาว เป็นหมอทรงเจ้า บวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงท้าวมหาพรหมร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๒๐] ๗. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตาปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    [๑๒๑] ดูกรมหาบพิตร ภิกษุสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้ ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เลยเพราะศีลสังวรนั้นเปรียบเหมือนกษัตริย์ผู้ได้มุรธาภิเษก กำจัดราชศัตรูได้แล้ว ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เพราะราชศัตรูนั้น ดูกรมหาบพิตร ภิกษุก็ฉันนั้น สมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้แล้วย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เพราะศีลสังวรนั้น ภิกษุสมบูรณ์ด้วยอริยศีลขันธ์นี้ ย่อมได้เสวยสุขอันปราศจากโทษในภายใน ดูกรมหาบพิตร ด้วยประการดังกล่าวมานี้แล ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล.

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๙ หน้าที่ ๕๙/๓๘๓
     

แชร์หน้านี้

Loading...