ความหมายของจิตคือพุทธะเสมอเหมือนกันที่วิมุติ (พระสูตร)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์โง่ V2, 18 กรกฎาคม 2018.

  1. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! วรรณะสี่เหล่านี้ คือกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทรมี อยู่, ถ้าชนใน แต่ละวรรณะเหล่านั้น ประกอบด้วยองค์แห่งผู้ควรประกอบความเพียรห้าเหล่านี้แล้ว, ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ความผิดแปลกแตกต่างกันแห่งชนเหล่านั้นจะพึงมีอยู่ในกรณีนี้อีกหรือ ?”

    มหาราช ! ในกรณีนี้ ตถาคตกล่าวแต่ความแตกต่างกันแห่งความเพียรของชนเหล่านั้น. มหาราช ! เปรียบเหมือนคู่แห่งช้างที่ควรฝึกคู่แห่งม้าที่ควรฝึก หรือคู่แห่ง โคที่ควรฝึก ก็ดี ที่เขาฝึกดีแล้ว แนะนำดีแล้ว และคู่แห่งช้างที่ควรฝึก คู่แห่งม้าที่ควรฝึก หรือคู่แห่งโคที่ควรฝึก ก็ดี ที่เขาไม่ได้ฝึก ไม่ได้แนะนำ ก็มีอยู่. มหาราช ! มหาบพิตรจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : คู่แห่งสัตว์ที่ฝึกดีแล้วนั้น จะพึงถึงซึ่งการณะแห่งสัตว์ที่ฝึกแล้ว พึงบรรลุถึงซึ่งภูมิแห่งสัตว์ที่ฝึกแล้ว มิใช่หรือ ?

    “ข้อนั้นเป็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า !”

    ส่วนคู่แห่งสัตว์เหล่าใดที่ไม่ถูกฝึกไม่ถูกแนะนำสัตว์เหล่านั้นจะพึงถึงซึ่งการณะแห่งสัตว์ที่ฝึกแล้วพึงบรรลุถึงซึ่งภูมิแห่งสัตว์ที่ฝึกแล้ว เช่นเดียวกับคู่แห่งสัตว์ที่ฝึกดีแล้วแนะนำดีแล้วเหล่าโน้น แลหรือ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” มหาราช ! ผลอันใดที่ผู้มีสัทธา มีอาพาธน้อย ไม่โอ้อวด ไม่มีมายา ปรารภความเพียร มีปัญญาจะพึงบรรลุได้นั้น, ผู้ที่ไม่มีสัทธา มีอาพาธมาก โอ้อวด มีมายา ขี้เกียจ ไร้ปัญญา จักบรรลุซึ่งผลอย่างเดียวกันนั้นได้หนอ ข้อนั้นไม่เป็นฐานะที่มีได้, ฉันใดก็ฉันนั้น.

    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างมีเหตุ พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างมีผล. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! วรรณะสี่เหล่านี้ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร มีอยู่. ถ้าชนในแต่ละวรรณะเหล่านั้น ประกอบด้วยองค์แห่งผู้มีความเพียรห้าเหล่านี้ แล้ว และเป็นผู้มีความเพียรโดยชอบอยู่ แล้วยังจะมีความผิดแปลกแตกต่างกันแห่งชนเหล่านั้น ในกรณีนี้ อยู่อีกหรือ ?”

    มหาราช ! ในกรณีนี้ ตถาคตไม่กล่าวความแตกต่างไร ๆ ในระหว่างชนเหล่านั้นเลย ในเมื่อกล่าวเปรียบเทียบกันถึงวิมุตติกับวิมุตติ. มหาราช ! เปรียบเหมือนบุรุษถือเอาดุ้นไม้สาละแห้งมาแล้ว ทำไฟให้เกิดขึ้น ทำเตโชธาตุให้ปรากฏ และบุรุษอีกคนหนึ่ง ถือเอาดุ้นไม้มะม่วงแห้งมาแล้ว ทำให้ไฟเกิดขึ้นทำเตโชธาตุให้ปรากฏ และหรือบุรุษอีกคนหนึ่ง ถือเอาดุ้นไม้มะเดื่อมาแล้ว ทำไฟให้เกิดขึ้น ทำเตโชธาตุให้ปรากฏ. มหาราช ! มหาบพิตร จะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : ความต่างกันใด ๆ ของไฟเหล่านั้นที่เกิดจากไม้ต่าง ๆ กันจะพึงมีแลหรือ เมื่อเปรียบกันซึ่งเปลวด้วยเปลว ซึ่งสีด้วยสี ซึ่งแสงด้วยแสง ?

    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”

    มหาราช ! ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน : เดชอันวิริยะนฤมิตขึ้น อันปธานกระทำให้เกิดขึ้น ใด ๆ มีอยู่, ตถาคตไม่กล่าวความแตกต่างไร ๆ ในเดชนั้น เมื่อกล่าวเทียบกันถึงวิมุตติ กับวิมุตติ ดังนี้.








    ดังนั้นแล้ว พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะ รวมถึงพระขีณาสพต่าง ๆ
    เมื่อยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ ก็ดำรงบทบาท หน้าที่ ปัญญา ความสามารถ
    ตามแต่กรรม แต่การกระทำ ที่เคยทำมา และยังส่งผลต่อขันธ์
    แต่เมื่อสละธาตุขันธ์ เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานแล้ว
    เสมอเหมือนกันหมด ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร
    ไม่มีใครสูงกว่าใคร ไม่มีใครฉลาดกว่าใคร
    ไม่มีใครบารมีมากกว่าใคร ไม่มีใครมีลูกน้องมากกว่าใคร
    ไม่มีใครมีวิมานใหญ่กว่าใคร

    เป็นความบริสุทธิที่เสมอเหมือนกันหมด
    เหมือนเมื่อครั้งที่ยังเป็นจิตเดิมแท้ เกิดกันมาครั้งแรก
    ทุกคนเสมอเหมือนกันหมด ก่อนที่กิเลสจะจรเข้ามา
    เพราะความเดียงสาของจิตเดิมแท้ เปรียบเสมือนเด็กน้อย
    ที่ยังไม่ประสีประสา สร้างบาปกรรม
    ทำให้เกิดวรรณะ ดีชั่ว หยินหยาง นายบ่าว

    เพราะจิตคือพุทธะ คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คือเนื้อเดียวกัน
    ทุกคนเสมอเหมือนกัน บริสุทธิเท่ากัน

    ฝากไว้เป็นข้อคิด
    สำหรับลัทธิ พระพุทธเจ้าเสด็จมา พร้อมด้วยสาวกซ้ายขวามากมาย
    และยังทำบุญตักบาตรกับท่านได้
    เมื่อบริกรรม ทำกรรมฐาน และไปเจอพระพุทธเจ้า

    เพราะพระพุทธเจ้า คือตัวคุณเอง....

    นะครับ...
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ฝากไว้เป็นข้อคิด
    สำหรับลัทธิ พระพุทธเจ้าเสด็จมา พร้อมด้วยสาวกซ้ายขวามากมาย
    และยังทำบุญตักบาตรกับท่านได้
    เมื่อบริกรรม ทำกรรมฐาน และไปเจอพระพุทธเจ้า

    สรุปว่า ท่านเป็นคนแบบนี้นี่เอง เข้าใจละ
     
  3. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    คืองง เห็นกันมาเป็นปี
    พึ่งรู้เหรอ........


    จะคัดง้างธรรมอะไร ก็พูดมาครับ
    ผมตอบคุณได้ทุกประเด็น.......
    แต่อย่าตัดแปะอะไรมายาว ๆ
    โดยไม่ได้อธิบายอะไรเสริมตามความเข้าใจตนนะครับ
    ปวดหัว ขี้เกียจอ่าน
     
  4. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    เดี๋ยวจะขอฝากกระทู้นี้ไว้ส่งท้าย
    นาน ๆจะตั้งซักที
    คิดว่าอยากจะลาเข้าถ้ำ
    ไปจำศีลที่ถ้ำขุนน้ำ นางนวล(ฮา)

    เริ่มเบื่อไม่มีอารมณ์อยากพูดคุยธรรมกับใคร
    อยากอยู่เงียบ ๆ

    ใครเห็นแย้งก็ถามได้ครับ ตามหัวกระทู้
    ถ้าตอบได้ก็จะตอบ นะ.....


    ไม่รู้จะทำได้ป่าว(ฮา)
     
  5. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    พุทธะคือคุณธรรมที่บังเกิดขึ้นเป็นพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณ
    ไม่ใช่บุคคลตัวตนเราเขา

    ที่สื่อสมมุติเอาชื่อนั้นชื่อนุ้นมาก้เพื่อใช้ในการสื่อสารเป้นลำดับของสมมุติบัญญัต


    ฉนั้นทุกดวงจิตสามารถอบรมจิตให้เข้าถึงคุณธรรมของความเป็นพุทธะเสมอเหมือนกันหมด
    เพราะเมื่อเข้าถึงปรมัตถ์มันจะไม่มีสมมุติมาแทรก

    เหตุนี้จึงเรียกว่าจิตคือพุทธะ

    จิตเดิมแท้ยังไม่เป็นพุทธะต้องอบรมจิตให้เข้าถึงคุณธรรมเสียก่อนจึงจะเรียกว่าเป็นพุทธะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2018
  6. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    เป็นฉะนั้นแล
    เมื่อถึงสภาวะวิมุติ จิตจะถึงบางอ้อ
    ว่าเราคือพระพุทธ เราคือธรรม เราคือสงฆ์
    เราเป็นทั้งหมด ตามสมมุติบัญญัติที่เคยรู้จักมา

    เราเสมอเหมือนกันหมด.....
    จึงเป็นที่มาของคำที่โด่งดังว่า
    "จิตคือพุทธะ"

    สาวกผู้ที่เขาถึงแล้ว
    จึงไม่มีความปรารถนาในพุทธภูมิแน่นอน
    เริ่มตั้งแต่อริยะขั้นต้น
    เพราะเห็นแล้วว่า เราเองคือพุทธะ จิตเราคือธรรม สงฆ์ก็คือเราเอง
    เสมอเหมือนกันแล้ว
    เมื่อออกจากการเห็นนั้นแล้ว
    จึงศรัทธายิ่ง มั่นใจยิ่ง รู้แจ้งยิ่ง ในศาสนานี้
    ดังนั้นการปรารภพุทธภูมิ จึงไม่มีแน่นอน
    แก่จิตที่แจ้งความจริงแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2018
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    บทความนี้ มีประเด็นที่ผ่านหูมา
    ๑.ช่วงแรกที่บอกว่าบริสุทธิ์เหมือนกันหมด
    เหมือนที่ได้ยินจาก ลป. ดุ..ย์. ท่านกล่าว
    ๒. ประเด็นเรื่อง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    เป็นเนื้อเดียวกัน เหมือนท่านผู้พลิกนามธรรม
    เป็นรูปธรรมท่านหนึ่ง ปัจจุบันละสังขารแล้ว ที่เคยแนะนำส่วนตัวมาบ้าง
    ท่านเคยเน้นประเด็นนี้เช่นกันครับ

    คาดว่าเป็นภูมิธรรมของท่านที่สำเร็จ
    ระดับจิตธาตุนะครับ

    เล่าให้ฟังเฉยๆ
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    อ้อ คับนึกว่าเป็นเรื่องของแต่ละจิต
    ที่ไม่มีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง
     
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    เอิ่ม......

    การ ที่จิตเปนพุทธ หากเหนจริง
    จะไม่กัน พุทธภูมิ ออกไปไหน

    หนทางอันเอก มรรคมีทางเดียว แนบกัน
    บน "หนทาง" ที่ตัว "เหตุ"

    ดังพระสารีบุตร ปฏิภาณ จะสาวก พระพุทธเจ้า
    ในอดีต หรือแม้นแต่......

    หรือแม้นแต่ พระพุทธเจ้าในกาลอนาคต ก้ แนบ
    สนิทใน "หนทาง" เดียว ไม่มีแตกต่าง

    ถ้า ยังแบ่งแยก เล็งเอา ส่วนผล มายกกีดกัน อำพราง

    ..................โอยยยยยยย...........


    ปล.ลิง ตะลิงปลิง จะอะทิงทิง หัวเสียบ หัวเสียบ
    ทักขินัยบุคคล พระพุทธองค์ตรัสว่า มี9 เพียงแต่
    ว่า ต้องเปนตามปัจจัยการ ไม่ใข่ อุปทานหมู่ อ้าง
    พุทธภูมเดินตามกันเปนฝูง....หรือไปนั่งกราบ
    ขอธรรมสาวก......ไม่มี!!!
     
  10. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    แล้วพวกที่ไปไม่ถึงฝั่งพุทธภูมิ ?
    พวกอินทรีย์ยังไม่ถึงนิตยโพธิสัตว์
    ประเภทถ้าลา ก็บรรลุธรรมเลย

    ที่อธิบายแยกไว้ตรงนี้
    เพือตอบคำถามสำหรับคำถามแบบนี้
    ประเภทว่า ยังเหลือเชื้อพุทธภูมิอะไรอยู่ไหมแบบนี้
    หากวิเคราห์ตามธรรมไป ก็จะเห็นเหตุผลว่าเพราะเหตุนี้
    ที่ทำให้ไม่เหลือเชื้อแล้วจริงๆ

    หรือหากเป็นสาวกอยู่แล้ว ก็ยิ่งมั่นใจลงไปอีก
    ว่าจะเป็นไปทำไมไม่อยากพุทธภูมิ
    (หากมีคนไปถามท่าน ท่านก็อาศัยอำนาจการระลึกตรงนี้ตอบไป)
    อะไรแบบนี้


    ปอ ลอ ตอบไปตามความเข้าใจ
    อย่าคิดเยอะ......

    ปอ ลอ2 แต่ผมแก้สำนวนแล้วนิดหน่อย
    เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นตรงตามวัตถุกประสงค์ที่จะสื่อ
    เพื่อกันความเข้าใจผิด ขอบคุณที่ท้วงติง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2018
  11. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    ก็ ท้วงไปงั้นๆ

    วิมุตติ ย่อมแนบสนิท แต่ ถ้ากล่าวเน้นมาก ต้องเข้าโบสถ์ ปลงอาบัติ แม้นจะมีจริง

    ทีนี้ ธรรมแนบสนิท ที่ ย้อนแย้งเอา เป็นเพียง ดึงแข้งดึงขา ให้มาที่ "ธรรมสามัคคี"

    ธรรมสามัคคี หรือ สังคม(เขียนบาลีใช้คำว่า สงฆ์ ) พระพุทธองค์จะเน้นตรงนี้
    และให้ความสำคัญกับตรงนี้

    ธรรมสามัคคี มีด้วยเหตุไร .......

    พอแจงออกมาแล้ว จะอยู่คนละฝากกับ วิมุตติ

    ลองสังเกต เหตุปัจจัย ที่ ทำให้ปรารภ "ขอบคุณ"

    ถ้า ใช้หลักธรรมสามัคคี จะไม่มีแบ่งแยก เรา เขา เหมือนกัน

    เป็นเพียง สิ่งที่เคลื่อนไปตาม ปัจจัยการ ตามธรรม
     
  12. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    ถึงคุณเล่าปัง
    ถามนอกเรื่องหน่อย
    ขนาดพระสารีบุตรเห็นร่อง น้ำยังกระโดด
    กำลังอินทรีย์สาวกนี่ ขจัดอุปาทิจนหมดได้ไหมฮับ

    ปล.ใช้คำผิด อัสมิมานะ
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    แป่ว

    รู้ที่มันมี ประโยชน์ จีฮับ

    ให้ พระ ท่านกล่าวถึง รส ปาปมุตติ น่าจะมันส์กว่า ไปฟังเรื่อง อฐานะ
    ( เช่น ให้หลวงปู่ตื้อ ฉันไป เล่าเรื่อง ปาปมุตติไป ...สนุกกว่า )

    ทีนี้

    หาก ลวกเพ่มี วาสนาทาง "ปัญจมฌาณ" ก็ วิแคะเอาเอง
    ให้วิจารณ์ ตายหยังเขียด กันพอดี
     
  14. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    เมื่อสองวันก่อนไปวัดป่าแถวบ้าน
    พระท่านน่าจะมาจากอีสาน พระธรรมดาไม่ดัง
    แต่พอเทศน์ ขึ้นอานาปาแบบพระสารีบุตรเลย ไปโพชฌงค์ สติปัฏฐาน ย่อลงขันธ์5 อายตนะ ปฏิจจสมุปบาท
    ยิ่งฟังยิ่งทึ่ง โคตรมันส์ แต่อย่างว่าท่านเทศน์เท่าภูมิคนฟัง

    เห็นเรื่องวิมุติ พุทธะ กับสาวก พอดี เลยนึกถึงเรื่องพระสารีบุตร อัสมิมานะ
    บางที่ว่าหมด เลยถามอินทรีย์พุทธภูมิดู สาวกปลายแถวงงเต๊ก

    แล้ว ปัญจมฌาน คือ ?
    ในตำราท่านว่า เหมือนรูปฌาน แต่ไปเพิ่มขั้นตรงวิตก วิจารณ์
    ต่างกันไงหว่า
     
  15. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ขอแทรกโฆษณาสั้น ๆ นะครับ

    อยากไปฟังด้วยเลย

    เรื่องนี้ก็"ขัดใจ"ผมมานานแล้ว
    คนเราเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน
    เป็นมาแล้วทุกอย่าง
    ทำไมถึงไปติดใจชาติลิง แค่ 500 ชาติ
    สงสัยเป็นลิงแล้วทำบารมี เป็นสาวกมือขวาได้
    เลยค้น ก็พึ่งรู้เมื่อกี้เองว่า.....
    https://pantip.com/topic/31432150

    ไม่มีใน 84000

    แป่ว!!!!


    เป็นฌานที่มีสติบริสุทธิ บวกกับ อุเบกขา
    แบบฌานที่ ๔
    แต่เอาอารมณ์ในอรูปเป็นองค์ฌาน
    นับอรูปทั้งหมด เป็น ปัญจมฌาน
    ปัญจมฌาน (ฌานที่ ๕)
    http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=35&A=8874&w=%BB%D1%AD%A8%C1%AC%D2%B9

    http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=35&A=8823&w=%BB%D1%AD%A8%C1%AC%D2%B9



    จบข่าว
    ขอเชิญท่านผู้ชมเข้าสู่รายการปกติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2018
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ป้าดดดดดดดดโถ้ คือ ช่างกล้า
    อ้างพระสารีบุตร เป็นวรรคเป็นเวร
    คงไม่คิดว่า พอมีพระมาเทศน์ให้ฟัง
    แล้วตัวเองจะมีธรรมเทียบเท่าพระสารีบุตร
    หรือพยายามพูดให้คนอื่นเข้าใจว่าตนมีคุณธรรมปัญญา
    เทียบเท่าหรือเสมอท่านหรอกนะ
    พูดแล้วคันปากทันที
    ชักอยากเจอคนแบบนี้แล้วซิ


    งั้นช่วยตอบคนกะโหลกกะลา ไร้ปัญญา
    แบบผมหน่อยว่า คำในตำราที่ท่าน
    ทั้งหลายเอามาพูดให้คนงงเล่น
    แถมอ้างมีพระมาสอนธรรมว่า
    เทศน์ตามภูมิธรรม ขึ้นแบบพระสารีบุตรด้วย
    แสดงจะบอกว่าตนเองมีเชื้อธรรมปัญญา
    แบบพระสารีบุตรหละซิ
    ต้องตอบคำถามแบบที่
    คนกะโหลกกะลาแบบผม
    ถามได้แน่เลย ไม่เกี่ยวกับท่านที่เทศน์นะ



    ถามว่า

    ๑.พระสารีบุตร ท่านฟังธรรมบทใด
    จากพระพุทธเจ้า
    แล้วท่านบรรลุธรรม? เชิญค้นตำราได้

    และ ๒. พอท่านบรรลุแล้ว ท่านเกิดความสามารถทางด้านไหนขึ้นมาบ้าง
    พูดง่ายๆว่าท่านได้ความสามารถพิเศษด้านไหนบ้าง จะหาจากแหล่งใดก็แล้วแต่

    ปล เกิดพร้อมกัน ๒ ด้านนี่หละ
    ในทางปฎิบัติเค้าจะพอรู้ๆกันได้
    ทางตำราไม่ทราบเพราะไม่เคยอ่าน

    ไหนตอบให้ชื่นใจหน่อยครับ
    ในกระทู้นี้ใครก็ได้
    ที่ไม่ใช่ คุณศิษย์โง่ V.2
    ไม่ใช่ คุณ Neoworld
    ไม่ใช่คุณปราเทวดา
    และคุณ Saber
    กับ ๔ รายชื่อข้างบนไม่อยากทราบ
    ถึงจะรู้ไม่รู้ก็ช่าง เพราะไม่โม้
    และเอามาอ้างยกตนอะไร


    ต้องการจาก รายช่ือที่เหลือที่เอาท่าน
    มาอ้างคุยเป็นวรรคเป็นเวร
    และยกเสริมตน ถ้าตอบไม่ได้

    จะโดนข้อหา โม้อ้างแบบกระจอกนะครับ
    เสียทีที่อุตสาห์เอามาอ้างนะครับ

    เข้าใจข้อหา. โม้อ้างแบบกะจอกนะครับ

    ถ้าดันตอบได้ จะขอพิสูจน์ความ
    สามารถอะไรบางอย่างหน่อย
    เพราะอย่างน้อยต้องรู้ว่า
    ผมทำอะไรได้ตอนนี้แบบชิวๆ
    แสดงว่าคงพอตัว


    จำไว้นะ อย่าอ้างว่าพอเข้าใจหรือบรรลุ
    อะไรอย่างเดียว โดยที่ไม่มีความสามารถอะไรเกิดขึ้นมานะ เพราะนั่นไม่ใช่
    แบบที่ปรากฏเกิดขึ้น กับ ท่านพระสารีบุตร


    ชัดเจน. เข้าใจตรงกันนะครับ
    กะโหลกกะลาด้อยปัญญาแบบผม
    จะรอฟังคำตอบ จากพวกที่
    เอาท่านมาอ้างเหลือเกิน
    อย่างใจจดใจจ่อ. ^_^
    ตอบให้ชื่นใจเป็นวิทยาทาน
    ต่อชาวโลกหน่อยครับ
    อย่าเอาแต่อ้างเสริมตนเอง ^_^
     
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    แหะแหะ

    ไม่มีอะไรหรอดกจั๊บ

    ที่เหนอยู่ดีๆ ก้ โพล่งทะลึ่ง ฉีกเรื่องไป. พระสารีบุตร

    จีจี คนถาม เขาไปอ่าน กระทู้อีกเว๊บไซทนึง. ที่มันมี
    รายละเอียด. ที่มา ที่ไป. ตามลำดับ. ค่อยๆกล่าวโน้ม
    น้าวให้สมาชิกอีกเว้บหนึ่งที่คอยกระทืบป๋มอยู่เหมือน
    กันให้ค่อย. สงบ รำงับ เงี่ยโสตสดับ. เฝ้นธรรมที่ควร
    แก่การ เพ่งพิสูจน์

    พี่ขาจอนเขาไม่แทรกทางโน้น. เลยมาฝนตก
    รั่วเลอะเทอะทางนี้ เลยวายป่วงไปตามเรื่องราว

    มะมีอะไรพิสดาร
     
  18. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    กลับมเรื่องตัดเข้าโฆษณา

    ปัจมฌาณ. ก้มีหลายปริเฉท. อธิบายกันหลากหลาย

    บ้างก้ระบุถึง. องค์ฌาน ที่ ระงับไป

    อย่าง ทุติยะ. วิตก. ระงับไป. เหลือตัวอื่น. ยังเสวย
    แล อาลัยอาวรณ์

    ปัญจมฌาณ. อุเบกขารำงับไป. เหลือเสวย
    เอกัคคตา

    ซึ่งเขาก้ระบุอีกว่า มีเฉพาะ ในโพธสัตวที่ตัวใหญ่
    กว่านกกระจาบ.......อะไรทำนองนี้

    ***ไม่ควรอื่นเกินวันละสองสวด ควรอ่านฉลาก.........
    บางคำบอกเล่าบางทีเปนบ่อพรางคำถาม....คนตอบ
    เชาตอบแล้วก้ไม่ต้องตัดเข้าโฆษณาก้ได้
     
  19. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    กลับมาตอบเชฟหมึกแดงแพลบ

    พระท่านสอนแบบพระสารีบุตร คือ
    ท่านสอนตามตำรา ปฏิสัมภิทามรรค
    ถ้างง ก็ไอตำราเนี่ยพระสารีบุตรเป็นคนจรนัย
    เลยบอกว่าท่านสอนแบบถอดแบบพระสารีบุตร

    แล้วหยุดตามภูมิธรรมเนี่ยหมายถึง
    ท่านหยุดแค่ส่วนมรรค
    ไม่ลงส่วนผล
    เพราะคนที่นั่งฟังสลอนยังไม่ได้บรรลุฮาไรนั่นเอง

    จบข่าว

    ปล.2 ถ้าเป็นเรื่องใหญ่กว่านกกระจาบ ขอพักยก !!
     
  20. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    พระสารีบุตรเก๊าก็ชอบนะ
    แต่ค่อน ๆ จะไปทางพระอานนท์แฟนคลับมากก่า
    ท่านน่าร๊อคคค ชอบถามคำถามแทนชาวพุทธ
    บางทีก็โดนพระพุทธเจ้าเอ็ดเอาบ่อย ๆ เพราะความซน
    พระพุทธเจ้าสอนใครต่อใครก็ต้องเอามาบอกท่านหมด
    ด้วยเหตุนี้ตอนสังคยานา ทุกคนจึงต้องรอท่านบรรลุ
    เข้ามาอย่างเท่ห์ เป็นคนสุดท้าย....

    #ทีมพระอานนท์ #พระอานนท์FC
     

แชร์หน้านี้

Loading...