ความเป็นมาของพระไตรปิฏก ตอน 64

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย guawn, 27 พฤศจิกายน 2006.

  1. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ความเป็นมาของพระไตรปิฏก ตอน 64

    คอลัมน์ ธรรมะใต้ธรรมาสน์

    ไต้ ตามทาง



    2.8 เถรคาถา เถรีคาถา ว่าด้วยบทกวีบรรยายธรรมบ้าง บรรยายประสบการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เกิดความรู้แจ้งเห็นจริง กล่าวบทกวีออกมาด้วยแรงบันดาลใจ มีลักษณะคล้ายพุทธอุทาน เนื้อหาของคาถาบางตอนก็มีซ้ำกับคาถาธรรมบท ความสอดคล้องของโครงสร้างภาษาและสำนวนภาษาคิดว่าไม่น่าจะเป็นภาษิตของพระเถระแต่ละรูปจริงๆ อาจเป็น "กวีนิรนาม" คนใดคนหนึ่งแต่งขึ้น โดยยืมชื่อพระเถระเหล่านั้นมาใช้ก็ได้ (โปรดดูบทความเรื่อง "คาถา-บทเพลงแห่งพระอรหันต์" ของผู้บรรยาย ในหนังสือ "ยุทธจักรดงขมิ้น"

    ต่อไปนี้ขอยกบทกวีเฉพาะบางส่วนใน "เถรคาถา" ที่มีความไพเราะกินใจให้ดูพอเป็นตัวอย่าง

    1. กายฉันอยู่บ้าน ใจฉันอยู่ป่า

    นอนอยู่ ฉันก็ไปได้

    ผู้รู้แจ้งชัด ไม่มีอะไรขัดข้อง

    2. ฝูงมยุราขนเขียว คองาม

    หงอนงาม ร่ำร้องอยู่ในป่า

    เริงร่ากลางลมหนาว

    ปลุกนักบำเพ็ญฌานผู้หลับไหล

    3. ณ พุ่มกอไผ่ ฉันนั่งกินข้าว

    เห็นขันธ์ เกิด-ดับ

    ฉันจะกลับไพรคีรี เจริญวิเวก

    4. ป่าหญ้าแพรก ป่าหญ้าคา

    ป่าหญ้ามุงกระต่าย

    ป่าอ้อ ป่าเลา

    ฉันจะเอาอุระแหวกฝ่าไป

    แสวงวิเวก

    5. เจ็บไข้เกิดขึ้น สติเกิดขึ้น

    เจ็บไข้เกิดขึ้น มิใช่เวลาประมาท

    6. มารดารักบุตรสุดที่รัก คนเดียว

    พระรักสรรพสัตว์ ทั้งโลก

    7. พระไม่สำรวม ละทิ้งสมาธิ

    เดินธุดงค์ตามหัวเมือง จะช่วยอะไรได้

    หยุดคิดใคร่สัญจรเถิด หันมาบำเพ็ญฌาน

    ตัดกิเลสตัณหา

    8. โคดีรู้งานลากคันไถไป สบาย

    เมื่อฉันได้รับความสุขที่แท้

    คืนวันผ่านไป สบาย

    9. โคอาชาไนยตัวประเสริฐ ล้มแล้วลุกได้

    สาวกของพระพุทธเจ้าเช่นเรา

    มีความเห็นถูกชัด จักปฏิบัติเช่นเดียวกัน

    10. ธรณีหลังฝนชุ่มฉ่ำ พระพายกระหน่ำพัด

    สายฟ้าจรัสแลบกลางเวหา

    วิตกข้าสงบสนิท จิตข้ามั่นคง

    11. ฝนตก ฟังเพราะดังเพลงสวรรค์

    กระท่อมฉัน มุงดีแล้ว มิดชิด สบายดี

    ฝนเอย เชิญเจ้าตกลงมาเถิด

    12. คนตาดี ย่อมมองเห็นคนตาดีและคนตาบอด

    คนตาบอด ย่อมมองไม่เห็นทั้งคนตาบอดและคนตาดี

    13. หลับตลอดราตรี คลุกคลีหมู่คนทั้งวัน

    คนโง่เขลาเช่นนั้น เมื่อไรจักพ้นทุกข์เล่า

    14. ครองเพศบรรพชิตนั้น แสนลำบาก

    ฆราวาสวิสัยก็ยาก เช่นเดียวกัน

    พระธรรมอันคัมภีรภาพ ยากเข้าใจ

    โภคทรัพย์กว่าจะหามาได้ ก็เหน็ดเหนื่อย

    มีชีวิตเรื่อยๆ อย่างสันโดษ ก็ยากเย็น

    ฉะนี้ น่าจะเห็น น่าจะคิด อนิจจัง

    15. กระท่อมน้อยมีห้าประตู

    วานรเข้าไปอยู่

    เวียนเข้า เวียนออก

    เสมอ เสมอ

    16. หยุดนะเจ้าลิง เจ้าวิ่งไม่ได้ดังเก่า

    ข้าจับเจ้าด้วยปัญญา เจ้าไปไหนไม่ได้ไกล

    17. ผู้ทรงความรู้ หมดกิเลส ชนะศัตรู

    คนไม่รู้ เบาปัญญา ดูหมิ่นว่า "ไร้ชื่อเสียง"

    ส่วนคนมีทรัพย์ ข้าวน้ำนับเอนกอนันต์

    ถึงจะชั่วช้ามหันต์ เขาก็สรรเสริญ

    18. เกาะขอนน้อย ลอยคอกลางมหาสมุทร

    ในที่สุดก็จมน้ำตาย คนที่มีชีวิตอยู่สบาย

    อาศัยความเกียจคร้าน ไม่นานก็ล่มจม

    19. คนเกี่ยวข้องกับคน คนยินดีกับคน

    คนถูกคนเบียดเบียน คนเบียดเบียนคน

    จะต้องการอะไรกับคน หรือผลผลิตของคน

    จงละทิ้งคนที่เบียดเบียนคนไปเสีย

    20. ถ้าตนไม่มั่นคง คนอื่นสรรเสริญ

    คำสรรเสริญนั้นเปล่าประโยชน์

    ถ้าตนมั่นคงดี คนอื่นนินทา

    คำนินทานั้นเปล่าประโยชน์




    ref.http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03bud06131149&day=2006/11/13
     

แชร์หน้านี้

Loading...