ความเร่าร้อนภายในใจ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 14 พฤษภาคม 2019.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    44934660_2126641284021801_8166674361072222208_n.jpg
    #ความเร่าร้อนภายในใจ

    “...ศาสนาอื่นเขายังดีกว่าพวกเราอีกนะ พวกคริตส์หรืออะไรวันอาทิตย์เข้ายังเข้าโบสถ์อยู่นะ แต่พวกเรานี่เหินห่างจากศาสดาตัวเองอยู่ ถ้าพวกอิสลามอะไรเขาก็เอาจริงเอาจังอยู่ แต่เราไม่ค่อยจริงจังไม่เคารพศาสดาตัวเองมันก็เลยยากอยู่ ความเร่าร้อนมันก็เกิดขึ้นๆมันก็ยากอยู่นะ ในการที่จะตะเกียกตะกายทำคุณงามความดีมันก็ต้องฝืนอยู่ เราแพ้ศาสดาอื่นเขานะ นานๆทีถ้าไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยหรืออะไรก็ไม่มีเหตุพากันทำคุณงามความดีในศาสดาตัวเองเลย มันก็ยากอยู่ พุทธศาสนาต้องอาศัยพวกเราถ้าพวกเราไม่ช่วยกันคนละไม้ละมือ ศาสดาของตัวเองก็คล้ายๆจะเลือนรางไปจากความทรงจำ เขาจะเคารพศาสดาเขานะในศาสนาอื่นแต่พวกเราไม่ค่อยเคารพเท่าไร เวลามาวัดมาวากิริยาท่าทางต่างๆนาๆที่ไปเห็นตามวัดวาอารามมันไม่มีความเคารพ ดูศาสนาพราหมณ์ในประเทศอินเดียเขาตัดทางไม่ให้เข้าไปเลยในสถานที่ที่เขาเคารพ วัวของเขาเวลาขวางทางรถติดกันระเนระนาดเลยติดกันยาวจริงๆเทพเจ้าของเขา ความเคารพของเขา

    ถ้าพวกเราเคารพศาสดาตัวเองเคารพพระพุทธศาสนาหลวงปู่ว่ามันจะดีกว่านี้มาก หมายถึงภายในใจตัวเอง ให้รู้จักปรับสภาพของตัวเอง รู้จักเข้าวัดฟังธรรม รู้จักอุปถัมภ์อุปัฏฐากอาจารย์ผู้มีอรรถมีธรรมพวกเราก็จะอยู่กันอย่างสบายอยู่นะ แต่นี่อยู่ทางโลกมากนานหนักเข้าๆความเร่าร้อนมันก็เพิ่มพูนพอกพูนซิมีแต่ไฟนะทางโลกหาความชุ่มเย็นไม่ได้ ไฟความโกรธหนึ่งล่ะ ไฟความโลภโมโทสัน ไฟความหลง ไฟความรัก ไฟความแค้น ไฟความไม่พออกพอใจผู้อื่น มีแต่ไฟทั้งนั้นเผารนในจิตในใจตนเองมันก็เร่าร้อนไป นั่นนะชาวพุทธของเราก็เลยอยู่ไม่เป็นสุข ก็กลับเข้าวัดไปหารดน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ก็เท่าเก่านั่นแหละ อาบที่บ้านยังสบายกว่าได้ซักฟอกถูสบู่อยู่สุขสบายจะอาบนานแค่ไหนจะรดนานแค่ไหนก็อยู่อย่างสบายอยู่ในห้องน้ำตัวเองดีกว่า ครูบาอาจารย์ทำให้ก็ให้เป็นกำลังใจทุกคนแค่นั้นในวัดวาอารามต่างๆ แต่มาอยู่กับหลวงปู่นี่นานๆทีเพราะหลวงปู่ไม่อยากจะเอาตัวนี้เข้าไปเชื่อมเท่าไร อยากจะให้พวกเราปรับสภาพฝืนจิตฝืนใจสั่งสอนตัวเองที่เป็นชาวพุทธให้สมบูรณ์บริบูรณ์หน่อย

    ให้คนอื่นช่วย ตัวเองไม่ช่วยตัวเองมันก็ยากอยู่ แม้แต่บุญแต่บาปพวกเราก็ไม่ทราบว่าบาปมีบุญมีอยู่ ก็ทำตามศาสดาของตัวเองก็ทำเล่นๆหัวๆไปก็แล้วกันไปแต่ละวี่แต่ละวัน หาความสัจความจริงมันก็ไม่ค่อยได้ หลวงปู่ต้องการให้พวกเราปรับสภาพไม่ใช่อะไรหรอกก็ช่วยอยู่ไม่ใช่ไม่ช่วยแต่ก็ช่วยพอเหมาะพอเจาะพอดิบพอดีพองามตา พอเป็นกำลังใจแค่นั้น แต่จะให้ช่วยชนิดที่ว่าสุดๆไปเลยอย่างนั้นมันก็ยากอีกก็ไม่สามารถช่วยกันได้ถึงที่สุดของมันได้เลยนอกจากตัวเองต้องช่วยตัวเอง บังคับคู่เข็ญจิตใจของตัวเองที่มันเร่าร้อนให้มันชุ่มเย็นลงไป มันตะเกียกตะตายลุกลี้ลุกลนก็ปรับสภาพ พยายามบังคับตัวเองให้มีพุทโธ ธัมโม สังโฆ ในใจนั่น ให้ระลึกถึงศาสดาของตัวเองคือพระพุทธเจ้า ระลึกถึงพระธรรมคือคำสอนของพระพุทธเจ้า ระลึกถึงพระสงฆ์ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นพระผู้ที่เลิศที่เลอเป็นผู้ที่สิ้นกิเลสนั่น กามภพ รูปภพ อรูปภพกราบอย่างสุดหัวจิตหัวใจหลวงปู่ต้องการให้เราเป็นแบบนั้นที่หลวงปู่ช่วยก็เป็นเพียงเป็นที่พึ่งให้พวกเราในเบื้องต้น พองามหูงามตาเท่านั้น อย่างนั้นจะไปช่วยให้พวกเราหายจากสิ่งพวกนี้ได้มันก็ยากอีก นั่น ถ้าใจของตัวเราเองไม่ปรับสภาพมันก็ยากอยู่อีก พอตัวเองคิดอะไรขึ้นมาก็ไปตามความรู้สึกนึกคิดของตัวเองแม้แต่บุญแต่บาปมันก็ยังไม่เข้าในจิตในใจพวกเรามันก็ยากอยู่ ยังไม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาปทำตามประเพณีวันเข้าพรรษาบ้างออกพรรษาบ้าง วันพระบ้าง ก็ทำตามประเพณีแต่ความรู้สึกนึกคิดที่จริงมันไม่มี มันยากมาก อยากที่จะทำให้จิตใจของตัวเองชุ่มเย็นไม่ใช่ว่าอะไรหรอกมันก็เร่าร้อนเร่าร้อนต่อไปก็ ไฟแห่งความโกรธ ความโลภ ความหลง ทิฐิมานะมันเต็มอยู่ในจิตในใจก็เผาตัวเองนั่น ร้อนต่อไปๆๆและไปโทษคนอื่น โทษนั่น โทษที ก็ต้องโทษตัวเองก่อน

    หลวงปู่เป็นมาก่อนทั้งนั้นพูดให้ฟัง หลวงปู่ก็โทษคนนั้นเขามาใส่กูมั้ง โทษคนนี้เขาคงเอาอันนี้มาใส่เรา โทษคนนั้นทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจแต่ไม่โทษตัวเองว่าตัวเองนั้นเป็นแบบไหน สัตว์โลกทั้งหลายเป็นแบบนี้มนุษย์ทั้งหลายเป็นแบบนี้ มันก็ยากที่จะปรับสภาพจิตใจตัวเองให้ชุ่มเย็นได้ หลวงปู่เป็นมาก็ทราบทำไมจะไม่ทราบเพราะตัวเองเป็นมาก่อนเวลาจิตใจมันเร่าร้อนทุรนทุรายวุ่นวายก็ไปโทษคนอื่น โทษหมู่โทษคณะ โทษผู้หญิงคนนั้นผู้ชายคนนี้ ทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนแต่ความจริงแล้วก็ตัวเองนั่นล่ะทำตัวเองให้เดือดร้อน เพราะไม่ปรับสภาพก็ให้ร้ายแต่คนอื่นมันก็อยากอยู่ที่มนุษย์ทั้งหลายและสัตว์โลกทั้งหลายจะรู้จักตัวเอง ก็ความไม่รู้จักตัวเองจึงวุ่นวายก่ายกองทุกวันเลยนะ ทุกวี่ทุกวันก็ว่าได้หาความชุ่มเย็นไม่มีแต่ถ้ารู้จักตัวเองแล้วความชุ่มชื่นชุ่มเย็นในจิตในใจตัวเองมันก็เกิดตลอดๆๆพยายามฝึกสอนจิตสอนใจตัวเองให้ได้ สอนตัวเองให้เข้าสู่คุณงามความดี สอนใจให้เขารู้จักบุญรู้จักบาป รู้จักว่าสิ่งไหนควรไม่ควร รู้จักว่าสิ่งไหนควรอดทนอดกลั้น รู้จักทำให้จิตใจตัวเองชุ่มเย็น ด้วยน้ำของพุทธะ ธัมมะ สังฆะ คือน้ำแห่งความเมตตา น้ำแห่งความเมตตาของพระพุทธเจ้า ที่เราระลึกอยู่เนืองๆว่าพุทโธ ธัมโม สังโฆ นั่น จะสามารถดับไฟแห่งความเร่าร้อนในจิตในใจของตัวเองได้อย่างสบาย ถึงจะยากหน่อยฝึกยากหน่อยสอนยากหน่อยก็พยายามสอนตัวเองมันก็ได้อยู่

    อย่างงั้นก็อายสัตว์เดรัจฉานเขานะแม้นแต่พวกลิงพวกค่างหรือพวกสุนัข พวกเรามาสอนให้พวกมันพนมมือไหว้มันก็ยังทำได้อยู่นะ แต่มนุษย์เรามันจะโง่กว่าสัตว์อีกมันสอนตัวเองไม่ได้นะมันจะยากมากอย่าคิดว่าสัตว์เดรัจฉานอยู่ในภพภูมิที่ต่ำทรามและรังเกียจเดียดฉันท์มันก็พูดได้อยู่แต่เขาสอนง่ายกว่าเรา สอนให้กราบสอนให้ไหว้ สอนให้มีสัมมาคาราวะ สอนให้อยู่สอนให้กินเขาก็สอนได้ทั้งๆที่เขาเป็นสัตว์เดรัจฉานก็พอบอกพอสอนได้อย่างง่ายดายกว่ามนุษย์อยู่ ไม่กี่วันไม่กี่ปีเขาก็สอนได้แต่พวกเราสอนตัวเองตั้งแต่เกิดจนแก่แล้วมันยังสอนตัวเองไม่ได้อยู่ยังคิดว่าตัวเองถูกอยู่ ยังคิดจะไปสอนคนอื่นเขาไม่ยอมสอนตัวเองมันก็ยากอยู่นะ นั่น พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นเพื่อให้สัตว์โลกทั้งหลายรู้จักตัวเองให้รู้จักสอนตัวเองและให้ใครคนอื่นมาสอนตัวเองมันก็ไม่สามารถสอนได้ สอนไม่ได้ ตัวเองต้องสอนตัวเองให้จิตใจชุ่มเย็นรู้จักรับผิดชอบในครอบครัว มันต้องเป็นครอบครัวที่อบอุ่นไม่ว่าหญิงและชาย ผัวก็รักเมีย เมียก็รักผัว มีความอบอุ่น พอมีลูกเป็นพยานครอบครัวนั้นก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่น น่าอยู่ ใจตัวเองก็ไม่เร่าร้อนก็ชุ่มเย็น ก็ไปตะเกียกตะกายทุรนทุรายว่าคนนั้นคนนี้ทำตัวเองมันก็ยากเพราะตัวเองยังไม่เห็นตัวเอง

    อย่างงั้นสัตว์โลกทั้งหลายจึงวุ่นวายเพราะสิ่งนี้ อยู่กันในครอบครัวก็เป็นครอบครัวที่แตกร้าว ครอบครัวที่มีแต่ความวุ่นวายก่ายกอง มีแต่ไฟเผาในครอบครัวนั้นหาความสุขไม่ได้ ทั้งพ่อ แม่ ลูก และญาติโกโหติกา แต่ถ้ามีไฟคือความเมตตาของ พุทธะ ธัมมะ สังฆะ เข้าไปเคลือบแล้วรู้จักประมาณ รู้จักว่าสิ่งไหนควรไม่ควร รู้จักนี้คือผัว รู้จักนี้คือเมีย สมควรที่จะปฏิบัติต่อกันแบบไหน รู้จักว่านี่คือลูก นี่คือญาติโกโหติกา สมควรที่จะปฏิบัติต่อกันแบบไหนไฟแห่งความเร่าร้อนมันก็จะไม่เกิดนั่น ดับได้ซิทำไมจะดับไม่ได้ถ้าดับไม่ได้แล้วบรมศาสดาเอกจะมาสั่งสอนโลกทำไม เป็นหน้าที่ของพวกเราที่เป็นชาวพุทธหลวงปู่อยากจะขอให้พวกเราเป็นชาวพุทธที่สมบูรณ์บริบูรณ์ไม่อยากให้วิ่งเต้นขวนขวายไปเอาสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเป็นสรณะนั่นเป็นหนทางฉิบหายของพวกเราที่มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นชาวพุทธพิจารณาดูให้ดี หลวงปู่อยากเห็นพวกเรานั้นเป็นชาวพุทธที่สมบูรณ์บริบูรณ์เพราะหลวงปู่เป็นมาแล้ว สมบูรณ์บริบูรณ์แล้วสามารถที่จะสอนพวกเรา สอนเทวดา สอนจิตวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์บริบูรณ์ในทางที่ดี หลวงปู่ละชั่วมาตั้งนานแล้วตั้งแต่เป็นฆาราวาส นานแล้ว ประพฤติปฏิบัติตนเป็นเยี่ยงอย่างของพวกเราที่เป็นมนุษย์ และพวกกายทิพย์ทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาล ประพฤติตนเป็นผู้ที่ชอบธรรมเป็นผู้ที่เที่ยงธรรมให้กับพวกจิตวิญญาณทั้งหลายที่มาอยู่มาอาศัยไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัก เสมอต้นเสมอปลายเป็นกลางในการตัดสินคดีความทั้งหมดถ้าใครผิดก็ว่ากันตามผิด ถ้าใครถูกก็ยกย่องสรรเสริญและพวกเราที่เป็นมนุษย์ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะปรับสภาพเพราะยังไม่ตายมันยังปรับสภาพได้อยู่ทำได้อยู่แต่ถ้าตายแล้วมันก็ยาก”

    โอวาทธรรม:องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ (๒๐๐)
    #ความเร่าร้อน #องค์หลวงปู่น้อย #วัดป่าห้วยริน
     

แชร์หน้านี้

Loading...