ความโลภ ความโกรธ ความหลง สิ่งไหน ขจัดได้ยากที่สุด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Nuthsunti, 28 ตุลาคม 2010.

  1. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ความโลภ ความโกรธ ความหลง 3 อย่างนี้ สิ่งไหน ขจัด หรือ ทำให้ เบาบางจนหมดไป ได้ยากที่สุดครับ

    สำหรับตัวผมแล้ว ความโลภ กับความโกรธ นั้น พอจะเข้าใจบ้าง จึงพอจะค่อยๆ ลด ละ เลิก
    แต่ความหลง นี่สิ ยังไม่ค่อยมั่นใจว่า สิ่งที่คิดว่า เป็นความดี เห็นถูกต้อง ตรงไปตามความเป็นจริงนั้น มันจะไม่ใช่ว่าเรา หลงคิด ไปเอง หรือเปล่า
     
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    อย่าไปดูเอาตรงที่มันจะตัดสินสิ มันช้าไป

    ให้มาดูที่ ลังเลสงสัย ดูอาการนี้แหละ ดูเป็นก็จะเห็น มันสัดส่าย มันหมองๆ
    มันมึนๆ มัววังเวงๆ มันวิเวกวิโหวงเหวง มันซึม มันนิ่ง มันไม่มีน้ำไม่มีนวล
    มันลูบๆคลำๆ อันไหนก็ได้ เลือกเอาสักตัวหนึ่งที่พอเห็น แล้วดูไปเรื่อยๆ

    ก็จะเข้าใจว่า มันก็คล้ายดู การพุ่งออกไปกั้น(โทษะ) การพุ่งออกไปฉวย(โลภะ)
    ซึ่งมันจะต้องเริ่มจาก มึนๆ ซึมๆ มัวๆ หมองๆ หรือเริ่มด้วยโมหะ ก่อนที่จะเป็น
    โลภะ โทษะ

    พอเห็นสภาวะที่เกิดขึ้นก่อน โลภะ โทษะ เห็นความไม่สว่าง ดูความไม่สว่างของ
    ความคิดความอ่านอันเกิดจากโมหะห้อมล้อม คราวนี้ก็จะไม่ต้องกลัวว่า จะคิดไปเอง
    หรือเปล่า เพราะ เมื่อไหร่คิดไปเองก็จะพอเห็น เมื่อไหร่ไม่ได้คิดไปเองก็จะเลือนๆ
    และ เมื่อไหร่เราไม่ได้ร่วมคิดแต่จิตมันคิดของมันเองก็จะแจ้งขึ้นมา ดูแล้ว เห็นแล้ว
    ก็วางๆไป เพราะ ธรรมะนั้นต้องเป็นไปด้วยความไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่ยึดในรู้ ไม่ยึด
    ในคิด แต่ ยอมรับการมีอยู่ของกฏแห่งกรรม
     
  3. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    สำหรับตัวเอง...ความโกรธ ขจัดยากที่สุด กำลังพยายามขจัดมันให้ออกไปจากชีวิตอยู่rabbit_run_away

     
  4. everpook

    everpook เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +129
    สำหรับเรา..ความโลภ...มั้ง..(แต่ต้องไม่เบียดเบียนใครนะ..)
    ก็ยังอยากถูกหวย..อยากรวย...อยากได้รถ...อยากมีบ้าน...อยากสะบาย
     
  5. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    ความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะว่าเราไปยึดมั่นถือมั่นเป็นเจ้าข้าเจ้าของ จนเกินขอบเขตของความพอดี ทำให้เกิดความทุกข์ เกิดความต้องการ เมื่อได้สมหวังก็เป็นเพียงคลายทุกข์ (บางคนเรียกว่าสุข แต่เป็นสุขปลอม) ไปในระดับหนึ่ง แต่กลับสร้างความอยาก ความต้องการสูงขึ้น เริ่มเข้าไปยึดติดยึดมั่นเพิ่มความอยาก เพิ่มความต้องการ ทุรนทุรายเป็นทุกข์เมื่อยังไม่ได้สมใจ ทั้งสามสิ่งตามที่กล่าวแล้วนั้นน่ากลัวพอๆกัน ขึ้นอยู่ว่าใครไปติดไปยึดมั่นในสิ่งใดมากกว่ากัน ทางแก้ก็พอมีแต่จำเป็นต้องฝึกฝนฝึกปฏิบัติ อย่างความโลภเราก็ใช่การให้ทานเป็นตัวช่วย ความโกรธเราก็จำเป็นต้องใช้สติตามพิจารณาให้ระงับลงให้ได้ ก่อนที่จะระเบิดออกมาจนสายเกินแก้ สำหรับความหลงย่อมต้องใช้ปัญญาเข้าแก้ไขให้หลุดจากบ่วงมาร หลวงปู่ดู่ท่านได้ให้เราเตือนตัวเองอยู่เสมออย่าได้ประมาท ตัวไหนเกิดขึ้นก่อนก็ให้รีบดับลงไปให้เร็วที่สุด อย่าได้ทิ้งไว้ให้พอกพูนจนฉุดรั้งไม่ได้ ถามว่าดับให้เร็วลงไปได้อย่างไรหละ ก็ให้เจริญ ทาน ศีล ภาวนา อย่างสม่ำเสมอ ก็จะรู้เท่าทันบ่วงมารทั้งหลายเหล่านั้น แล้วจะไม่ปรุงแต่งจนเกินความพอดี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ขอเพียงอย่าได้ปรุงแต่งให้เป็นทุกข์เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ปรุงแต่งให้เป็นโทสะที่ระงับไม่ได้
     
  6. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ดูที่ตัวสงสัย นั่นแหละ อย่างคุณเอกวีร์
    ที่สงสัยนั่นนะ มันไหลไปแต่เมื่อไหร่ มันไหลไปได้ยังไง แล้วมันจะจบยังไง
    แล้วค่อยมาดูอีกว่า มันไหลอีกหรือเปล่าหรือว่ามันไม่ไหลไปกับความคิดใดๆอีกแล้ว
    ถ้าสิ่งใดที่ไหลไปกับความคิดแล้วหาคำตอบไม่ได้ วกวนๆ หมุนติ้วๆ ก็กลับมารู้ว่าที่ตัวคิดนะครับ

    นั่นไม่ใช่การแสวงหาความจริง แต่เป็นแสวงหาที่ถือว่าอยู่ในค้นการหาความถูกผิดและชั่งน้ำหนักครับ
    มันก็ดีสำหรับบางเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่ไม่ดีสำหรับเรื่องที่เกี่ยวการปฏิบัติกรรมฐานนี้ แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะเก็บเอาเข้ามาเพราะเก็บเข้ามามันก็เปรียบเสมือนเรือที่พายฝั่งเดียววนอยู่แต่ที่เดิมนั่นแหละ

    โปรดจงระวังกระแสเชี่ยวแห่งความคิด เพราะมันจะหลอกเอาโดยไม่รู้ตัว ความคิดนี้ก็เปรียบเสมือนกระแสน้ำที่ไหลจากแหล่งกำเนิดแหล่งเดียวกันมีที่มาและที่จะไปคือที่เดียวกัน
    เมื่อเกิดต้นน้ำก็ย่อมหมายความว่ามันก็จะต้องไหลลงสู่ที่ต่ำเป็นธรรมดา
    เช่นเดียวกับกระแสแห่งความคิดเมื่อมันได้ผุดคิดขึ้นมาก็ย่อมจินตนาการต่อยอดไปเรื่อยๆ
    อาจจะจางหายไปชั่วขณะแต่ก็จะกลับมาคิดใหม่อีก ก็ลองพิจารณาดูว่าจะล่องเรือไปในแม่น้ำหรือจะยืนอยู่บนที่สูงมองเห็นการไหลของสายน้ำก็เลือกเอาเถิด..
    ไม่มีผิด ไม่มีถูก มีแต่สัจจธรรม

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2010
  7. หนีนรก

    หนีนรก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +666
    ตัวหลง คะ
    สังเกตุง่ายๆ ในพุทธศาสนา จะบอกอ่อนไปหาเข้ม อันไหนยากสุดจะอยู่ท้าย เบาสุดจะอยู่บน รัก โลภ โกรธ หลง สิ่งที่่ทำให้งมงามมากที่สุดคือหลง ถ้าได้หลงอะไรก็ตามก็หาทางไปไม่ถูกแน่นอน หลงคุมตัวอื่นๆได้อีกด้วย เช่น หลงรัก (หลงก่อนถึงรัก) หลงเชื่อ และอีกสาระพัดที่จะหลง หลงมักจะเป็นตัวคุมเกมส์อีกทีเป็นเหมือนหัวหน้าหรือจ่าฝูง

    อย่างศีล 5 ข้อ สุราเมรยฯ อยู่สุดท้าย เพราะถ้าได้เมาซะ ก็แตกแถวได้หมด ไม่ว่าจะเมาหรือจะหลง ก็ทำให้เราขาดสติิไม่สามารถตัดสินใจอย่างถูกต้อง หากเราโกรธ แต่ยังประคองสติไว้ก็ยังพอถูถไถ่หาทางออกแห่งปัญญาได้ เพื่อหาที่จะหยุดมันหรือระงับไว้ ไม่ให้เราเกิดทุกข์ได้ แต่ถ้า หลงเข้าไปในความโกรธของตัวเอง ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมหยุดอย่างเด็ดขาด อยากจะอยู่ดื่มด่ำกับมันอยู่อย่างนั้น ไม่อยากให้ใครมายุ่งอีกต่างหาก

    นั้นแหละเป็นเหตุผลว่าทำไม คนบางคนถึงเราจะช่วยให้เขาพ้นทุกข์ให้ตายยังไงก็เหนื่อยเปล่า ถึงจะเตือนหรือบอกกล่าวยังไง เขาก็ไม่ฟัง และบอกเราว่า "เธอไม่เข้าใจหรอก" เขาจะปฏิเสธมือเรา ที่จะช่วยพาเขาออกไปเสมอ ต่อให้เขาเหนื่อยอ่อนจนเขาไม่อาจต้านทานแรงเราจนเราลากเขาแบบถูกลู่ถูกกังเอาเขาออกมาได้ แต่พอเขามีแรง เข้าก็จะวิ่งกลับเข้าไปใหม่อยู่อย่างนั้นทุกครั้งไป

    หลงคือความไม่รู้ เพราะถ้ารู้ก็จะไม่หลง เพราะไม่รู้เราถึงหลงได้เสมอ ถ้ารู้ว่าหลงแล้ว ก็ต้องรีบหาทางออก อย่ามัวเสียเวลา ตอนนี้ข้าพเจ้าเองก็กำลังจัดการกับความโกรธอยู่ รักกับโลภนี้ขำๆ เพราะหลงไม่เข้ามาแจมด้วย แต่พอโกรธที่ไรหลงก็ตามติดเป็นฝาแฝดมาด้วยทุกที โมโหเทือบสิ้นใจ กว่าจะกดหัวมันลงไปได้ เล่นเอาเหนื่อย เผลอเมื่อไหร่ก็โผล่หน้ามาก่วนประสาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤศจิกายน 2010
  8. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ขอบคุณอย่างมากสำหรับความรู้ คำแนะนำ ที่มีค่า เพื่อนำไปปฏิบัติ จากหลายท่าน เลยครับ
    รวมทั้งท่านที่รู้ตัวเองว่า ยังมีข้อบกพร่องจุดไหน ที่จะต้องแก้ไขต่อไป
    ผมว่าคนส่วนใหญ่บนโลกนี้ มักจะไม่รู้ว่าตัวเองมีจุดบกพร่อง ที่จะต้องแก้ไข
    ดังนั้นคนที่รู้ว่า ตัวเองมีจุดบกพร่อง ที่จะต้องแก้ไข คงต้องได้ สั่งสมบารมี มาพอสมควรทีเดียวครับ
     
  9. มีไรป่าว

    มีไรป่าว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +17
    ของที่ยังมองไม่เห็น ไม่ได้หมายความว่าไม่มีให้เห็น

    ของที่ยังไม่รู้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีให้รู้

    ของนั้น จึงชำระได้ยากที่สุด
     
  10. รัก_D

    รัก_D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ความหลง ฟันธง เพราะตัวนี้แหล่ะ มันนำพาเรา ไปหากาม ทั้งหลาย ถ้าตัวนี้พัง อีกสองตัวมันไม่ยากแล้ว มันเหมือนคนไม่มีอารมณ์ทางเพศ แล้ว ย่อมยากที่จะอยากสัมผัสทางกาย

    จะเอามันออกก็ง่าย แต่จะตัดมันขาดหน่ะยาก ไอ่ตัวหลงเนี่ย มันหลงในรูปก็เพ่งของไม่สวย พิจารณากันไป หลงในรูป รส กลิ่น เสียง ก็หา อุบายมาทำให้มันคลาย ให้มันหน่าย หลงคนสวย หล่อ ก็ให้ไปดูคนแก่ ถ้าจะให้มันพังลงไป ก็คงต้องปฏิบัติเคร่งๆหน่อยละคับ ถ้าเอาให้มันเบาบาง ในบางครั้งมันตีกลับขึ้นมาแล้วกำลังมันแรงกว่าเดิมยังไงก็ไม่รู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2010
  11. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    สำหรับติงเอง ความหลง ขจัดได้ยากที่สุดค่ะ
     
  12. ดินหอม

    ดินหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +185
    ความจริงขาดตัวสำคัญที่สุด ความรัก

    ความรักคือการผูกมัดเหนียวแน่นเป็นตัวตนเป็นเจ้าของ
    หากปราศจากความรัก อีกสามสิ่งจะไม่เกิดเลย เช่น

    รักตนเอง ทำให้โลภแสวงหาทรัพย์ หาอาหารมาสะสมตุนไว้ กลัวอดตาย
    ขนาดมีทรัพย์จนกินใช้ทั้งชาติไม่หมด ยังไม่ยอมหยุด ไม่ยอมให้ใคร
    มีภรรยามีลูก เพราะรักมันมาก สุขมาก รักขนาดยอมตายแทนได้
    โลภก็เพราะรัก

    มีทรัพสมบัติมีคนรักมากมายก็หลุ่มหลงยึดมั่น รักมากให้ใครไม่ได้
    แบ่งปันไม่ได้ หลุ่มหลงมาก เป็นทุกข์มาก
    กลัวพลัดพลากจากสิ่งที่ตนรัก
    หลงก็เพราะรักจนโงหัวไม่ขึ้น

    หากใครมาแย่งชิงเอาไปก็โกรธ ต้องไปเอาคืนแม้ต้องฆ่ากัน
    ของรักของห่วง ใครจะยอม ติดคุกตารางมามากมาย
    โกรธก็เพราะรักสิ่งของนั้น

    ความรักคือความทุกข์เพราะมันเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง

    หยุดรัก หยุดผูกพัน อีก 3 สิ่งไม่มี..


    แต่พรมวิหาร4
    ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นความสุขแท้ เป็นสิ่งค้ำจุนโลก
    .

    4สิ่งนี้ จะทำให้ความรักความยึดมั่นถือมั่นน้อยลง จนดับไปในที่สุด..

    ความรักคือการเอาการยึดติด เหนียวแน่น
    ความเมตตาคือการให้ การคลายจากการยึดติดทั้งปวง..

     
  13. ชินนา

    ชินนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +248
    ให้เทียบกับสังโยชน์ ๑๐ ครับ

    โกรธกับโลภนั้นหมดไปถึงที่สุดเมื่อถึง "พระอนาคามีผล"

    สำหรับข้อ ๖-๑๐ จัดว่าเป็นหลงละเอียดซึ่งเป็นอนุสัยกิเลสทั้งนั้น เห็นยากสุดแก้ยากสุด แต่จะอ่อนแรงลงเมื่อถึง "พระอนาคามีผล" และ เดิน "อรหัตมรรค" เพราะจิตท่านละเอียดแล้ว และมีฌาณสมาบัติมั่นคงแล้วนั่นเอง

    ผู้เขียนๆ จากสัญญาครับ
     
  14. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    อนุโมทนาค่ะ
    สำหรับเรา ความหลงขจัดยากสุด
    หากเมื่อใดหลงแล้วย่อมหมายถึงไม่รู้ตัวไปซะแล้ว
    ใช้การเจริญสติเพื่อรู้ตัว
    เจริญในธรรมค่ะ
     
  15. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,077
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,669
    ถ้ารู้ตัวว่าหลง มันก็ไม่ใช่หลงสิครับ ความหลงนี่แหล่ะ เห็นได้ยาก
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ทั้ง 3 ตัวมีรากเหง้า เป็นกิเลสที่ พระอนาคามี และ พระอรหันต์ เท่านั้นที่ขจัดได้

    บุคคลทั่วไป ควรทำให้เบาบางลง ด้วยการ ทำสมาธิ เพื่อให้จิตใจสงบไม่วิ่งสอดส่าย ไม่หิวอารมณ์เหล่านั้น
    ถือศีล ข้อวัตร หักห้ามใจ ไม่ทำตามสิ่งที่ไม่ดี
    และ ใช้วิธีการ คิดใคร่ครวญ ในผลที่ไม่ดีที่จะตามมา และ ผลดีที่เราจะได้รับเมื่อไม่ทำตาม โลภ โกรธ หลง

    แต่ว่า มันมีอยู่ตัวหนึ่ง คือ หลง หลงนี้ก็คือ อวิชชา ซึ่งเป็นความไม่รู้ ทั้งหมด ทั้งไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทั้งรู้ตัวแต่ไม่รู้ผลดีร้าย หรือรู้ผลดีร้ายแต่ไม่รูู้ตัว คล้อยตามไป

    ดังนั้นแล้ว ตัวหลงนี้ จะเป็นตัวกำหนด ความเป็นไปของเรา มากที่สุด ทำให้เราคล้อยตามเพลงกิเลส

    สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราทำอะไรไม่ผิดพลาด ก็คือ ชั่วใดๆ ทั้งปวงไม่ทำ แม้ว่าจิตใจมันอยากจะทำ แต่ก็ให้ศรัทธาในบาป ในบุญ ในกรรม ไม่ทำตามสิ่งชั่วทั้งปวง

    กุศลใดๆ ทั้งปวง บุญทาน ทำไป จะมากจะน้อย สมาธิ สติ จะดีจะน้อย ก็ทำไป

    แล้วหมั่น เจริญสติ อยู่เสมอ ก็จะค่อยๆ ลด ละ เลิก โลภ โกรธ หลง ไปได้เอง
     
  17. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    ชอบประโยคนี้จังเลยครับ เพราะเจอบ่อย

    อืม...ผมก็ว่าไอ้คนที่เราพยายามแนะนำมันเป็นอะไรของมันหว่า บอกอะไรก็พูดแต่ประโยคแบบนี้ จนเอือมระอาที่จะแนะนำอะไรแล้ว
     
  18. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +2,985
    ความโลภ ความโกรธ ความหลง มีความยากเท่าเทียมกันในการขจัด เพราะวิธีขจัดมีวิธีเดียวกัน ดังนี้.........

    พุทธดำรัสตอบ ดูก่อนมาลุงกยบุตร ในบรรดาธรรมที่เธอเห็นแล้ว ฟังแล้ว รู้แล้ว รู้แจ้งแล้วเหล่านั้น ในรูปที่เห็นแล้ว จักเป็นแค่เห็น ในเสียงที่ได้ยิน จักเป็นแต่ได้ยิน ในอารมณ์ที่จักเป็นแต่รู้ ในอารมณ์ที่รู้แจ้งจักเป็นแต่รู้แจ้ง เธอจักเป็นผู้ไม่ถูกราคะย้อม ไม่ถูกโทสะประทุษร้าย ไม่หลงเพราะโมหะ......

    สังคัยหสูตร ที่ ๒ สฬา. สํ. (๑๓๓)
    ตบ. ๑๘ : ๙๑ ตท. ๑๘ : ๗๙
     
  19. สัมมาสติ

    สัมมาสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +229
    ทั้งความโลภ และ ความโกรธ ก็มีรากเหง้า มาจากความหลง คือ อวิชา ความไม่รู้ ถ้าเราละ ความหลงได้เพียงตัวเดียว ความโลภ ความโกรธ จะมาจากใหน ? เหมือนเก้าอี้สามขา เมื่อขาหนึ่ง (ความหลง) หักลงไป อีกสองขา ก็ไม่สามารถ ทรงตัวอยู่ได้ ..

    การวัดผลของการปฏิบัติ ก็ดูที่ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ที่มากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ พิจารณาดูดิ ว่าเราหวั่นไหว กับสิ่งเหล่านี้ ได้มากน้อย เพียงใด อันดับแรก การปฏิบัติ เราต้องการแค่เพียงให้มัน บรรเทา เบาบาง ลงไปเท่านั้น ..
     
  20. primrose

    primrose เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +527
    ความลังเลสงสัยค่ะ ...
    มันมาเมื่อไหร่
    จะเกิดความหลงทันที หลงไปควานหาคำตอบ
    เกิดความโลภ โลภอยากภาวนาให้ได้ดี
    เกิดโทสะ โทสะที่ไม่สามารถภาวนาให้ดีได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...