คัมภีร์เงาโลหิต (สำนักซูซาน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 9 กรกฎาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    เป็นการเขียนจากจิตใต้สำนึกนะครับ
    อย่ายึดมั่นมาก แต่อาจจะมีประโยชน์
    คัมภีร์นี้ เป็นวิชาเต๋าสายดำ ขั้นสูงสุด
    เหนือชั้นกว่าเก้าอิมดำ (และเก่ากว่า)
    ฝึกเพื่ออะไร? ก็เพื่อเคลียร์ตัวเราเอง
    ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายหลักการเขานะครับ

    โปรดใช้วิจารณญาณครับ
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    สรรพสิ่งล้วนเกิดจากศูนย์
    ว่างศูนย์จากสมมุติบัญญัติ
    เมื่อเกิดหนึ่งสมมุติบัญญัติ
    จึงมีสองสิ่งแตกต่างขึ้นมา

    สมมุติบัญญัติเรียกกันไปว่า
    หยินแลหยางเป็นคู่ตรงข้าม
    วิชาเต๋านั้นก็มีหยินและหยาง
    มีเต๋าสายขาวและเต๋าสายดำ

    วิชาเงาโลหิตเป็นเต๋าสายดำ
    มิพึงเปิดเผยหากยังไม่ถึงวาระ
    แต่ด้วยปวงสัตว์ถูกมารแทรก
    บัดนี้จึงถึงวาระจักเปิดเผยแล้ว

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทนำ"



    [​IMG]
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    มนุษย์นั้นก็เฉกเช่นกันไม่แตกต่าง
    ย่อมมีขาวและดำทุกทั่วในตัวตน
    ไม่มีใครจะมีแต่ด้านขาวด้านเดียว
    และไม่มีใครมีแต่ด้านดำด้านเดียว

    มนุษย์นั้นจึงมีตัวตนดั่งแสงและเงา
    ตัวตนแห่งแสงหลุดพ้นอยู่เบื้องบน
    ตัวตนแห่งเงาหลงอยู่ในโลกข้างล่าง
    แลแสงนั้นจะนำทางเงาให้หวนกลับคืน

    เมื่อแสงนั้นกลับสู่โลกก็เพื่อเก็บเงา
    แลเงานั้นตกค้างมาหลายชาติภพนัก
    ตัวตนภาคเงาจึงมีมากมายหลากหลาย
    ตัวตนภาคแสงจึงมีตัวตนหลากหลายมิติ

    ดุจกายซ้อนกาย เป็นกายในกายนั้นๆ
    วัวใครก็กลับเข้าคอกคนนั้น ตามเดิม
    ตัวตนภาคเงาก็กลับคืนร่างสังขารนั้น
    เพื่อรอวันหลุดพ้น หวนกลับคืนสู่ธรรม

    คัมภีร์เงาโลหิต "ปฐมบท"



    [​IMG]
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ดุจบุปผาเบ่งบาน หลายกลีบหลายชั้น
    ตัวตนแห่งแสงและเงาซ้อนกันหลายชั้น
    เมื่อเบ่งบานแล้วหนึ่งจึงเป็นที่พึ่งตนเอง
    ช่วยให้ตัวตนอื่นๆ ได้เบ่งบานตามๆ กัน

    ตัวตนหลากหลายมิติซ้อนกันดุจบุปผานั้น
    ค่อยเบ่งบานทีละกลีบ ที่ละชั้นอย่างช้าๆ
    วิชาเงาโลหิตหลอมรวมตัวตนกลับคืนธรรม
    พลิกผันสลับแสงเงา ขาวดำ ร้ายดี ไม่ติดยึด

    แท้แล้วตัวตนทั้งหลายล้วนมายาและไม่มีสาระ
    ดุจหัวโขนละคร สวมบทแล้วจึงแสดงออกไป
    เมื่อเบ่งบานแล้วจึงรู้ จึงสลายอัตตาตัวตนนั้นๆ
    ก้าวข้ามไปสู่อนัตตา มีตัวตนเหมือนไม่มีตัวตน

    อัตตาทั้งหลายนั้นล้วนเป็นกำลังแห่งมหากรุณา
    สมมุติทั้งหลายนั้นล้วนเป็นโกอานแห่งองค์พุทธะ
    อวิชชาทั้งหลายนั้นล้วนเป็นความลับแห่งปัญญา
    เงาและความมืดทั้งหลายนั้นจึงเป็นอนัตตาโดยนัย

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทบุปผาที่เบ่งบาน"



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2016
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    สูงเกินไป ชนทั้งหลายย่อมเอื้อมไม่ถึง
    บริสุทธิ์เกินไป ย่อมไร้เดียงสาอ่อนโลก
    สว่างเกินไป กลายเป็นร้อนแรงแผดเผา
    ว่างเปล่าเกินไป ก็เคว้งคว้างไร้แก่นสาร

    สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนมีคู่ตรงข้ามจึงสมดุล
    ขาดคู่แล้วไม่อาจสมดุล สมมุติจึงต้องมีคู่
    มีคู่เป็นเพียงสมมุติ อันวิญญูชนพึงเคารพ
    สมมุติธรรมล้วนมีคู่ตรงข้าม ทุกอย่างดังนี้

    ดุจมายาภาพในกระจกเงา ดุจแฝดต่างมิติ
    ตัวตนแห่งแสงและเงา ปรากฎดุจภาพสะท้อน
    เจ้าเห็นเรา เราเห็นเจ้า เฉกเช่นส่องกระจก
    เจ้าก็คือเรา เราก็คือเจ้า ยามเมื่อหลอมรวม

    กายในกายนั้นจึงปรากฎเป็นชั้นๆ ซ้อนกันอยู่
    เวทนาในเวทนานั้นจึงปรากฎตามความละเอียด
    จิตในจิตนั้นจึงปรากฎเป็นลำดับตามความล้ำลึก
    ธรรมในธรรมนั้นจึงปรากฎตามความสติอันเท่าทัน

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทแฝดต่างมิติ"



    [​IMG]
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    จงมีใจที่เปิดกว้างต่อทุกสรรพสิ่งในจักรวาล
    จงมีใจที่เห็นสรรพสิ่งเสมอภาคเท่าเทียมกัน
    จงมีใจที่ไม่แบ่งแยก ในสิ่งที่พึงแยกแยะได้
    จงมีใจที่ยอมรับสิ่งที่ยอมรับได้ยากด้วย "รัก"

    จงเปิดใจของเจ้าออกอย่างแผ่วเบาอ่อนโยน
    ดุจบุปผาที่คลี่บานอย่างช้าๆ และสง่างามนั้น
    เพื่อเปิดรับสิ่งที่ยากแก่การยอมรับด้วย "รัก"
    เพื่อหลอมรวมสิ่งนั้นๆ แปรเปลี่ยนเป็นพลัง

    จงหมุนเคลื่อนดอกบัวบานกลางหัวใจของเจ้า
    เพื่อขจัดปัดเป่าและแปรเปลี่ยนพลังด้านมืด
    ให้เป็นพลังที่ใสบริสุทธิ์ แลสว่างไสวเจิดจรัส
    เพื่อคลี่คลายปมในใจ สลายอัตตาตัวตนนั้นๆ

    จงแสดงธรรมะ ธรรมชาติ ตัวตนของเจ้าออกไป
    อย่างบริสุทธิ์ใสซื่อ ไร้เจตนา ไร้เป้าหมาย ว่างไร้
    จงดำเนินไปตามบทบาทแลหัวโขนที่เจ้าสวมใส่
    จงร่ายรำ จงเบิกบาน จงแสดงออกอย่างสง่างาม

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทหัวใจแห่งเงาโลหิต"



    [​IMG]
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    พลังมาร เป็นพลังแห่งจิตใจที่เข้มแข็ง
    พลังปีศาจ เป็นพลังแห่งธาตุที่สมดุล
    พลังภาคมืด เป็นพลังแห่งการค้นหา
    พลังเดรัจฉาน เป็นพลังที่ปรับตัวสู่โลก

    จงใช้พลังอย่างหลากหลายและสมดุล
    จงเห็นคุณค่าของทุกสรรพสิ่ง ทุกพลัง
    จงเห็นความเท่าเทียมกันของพลังนั้นๆ
    จงเห็นเหตุปัจจัยในสรรพสิ่งที่เกิด-ดับ

    แลสรรพสิ่งทั้งหลาย ไม่ว่าดี-ชั่ว, ถูก-ผิด
    ย่อมมิต่างกันด้วยเป็นเพียงสมมุติมายาการ
    ไร้แก่นสารใดจะพึงไปยึดติด มิใช่แก่นแท้
    ไร้ประโยชน์ที่จะปฏิเสธ, ปฏิฆะหรือต่อต้าน

    จงแปรพลังมาร เป็นพลังจิตใจที่เข้มแข็ง
    จงแปรพลังปีศาจ เป็นพลังธาตุที่สมดุล
    จงแปรพลังภาคมืด เป็นพลังในการค้นหา
    จงแปรพลังเดรัจฉาน เป็นพลังในการปรับตัว

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทพลังที่หลากหลาย"



    [​IMG]
     
  8. OSR

    OSR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +107
    [​IMG]
    ปัจจุบันขณะ คือ เงาของ พุทธะ
     
  9. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ใครไม่อยากบ้าอย่าอ่านจะดีที่สุด
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    แลบัดนั้น เจ้าจักก้าวข้ามกาลเวลาไป
    ตัวตนในอดีต, ปัจจุบันและอนาคตนั้น
    จะมาบรรจบพบเจอกันดุจหนึ่งเดียวกัน
    แท้แล้วมันไม่ใช่อัตตาที่แยกขาดกันเลย

    เหมือนเส้นเชือกยาวๆ ขมวดปมหลายปม
    ปมหนึ่งเรียกเป็นอัตตาตัวตนหนึ่งของเจ้า
    เส้นเชือกนั้นแท้แล้วก็มาจากเส้นเดียวกัน
    แลปมหนึ่งปมถูกเรียกเป็นหนึ่งอัตตาตัวตน

    เมื่อคลี่คลายปมอัตตาตัวตนของเจ้าสิ้นแล้ว
    ทุกอย่างเป็นดังเชือกเส้นตรงที่เรียบนิ่งนั้น
    ไม่มีปม อัตตาตัวตนเป็นตัวไหน ตัวใดๆ อีก
    แลตัวตนอดีต, ปัจจุบัน, อนาคตก็บรรจบกัน

    อย่าได้ยึดมั่นถือมันในอดีต, ปัจจุบัน ฤา อนาคต
    แลไม่ต้องยึดถือเพียง "ปัจจุบันขณะ" หนึ่งเดียว
    แต่จงมองให้ทะลุถึง "ภาวะที่เหนือกาลเวลา" นั้น
    ย่อมเห็นแจ้งแทงตลอดในอดีต, ปัจจุบัน, อนาคต

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทตัวตนเหนือกาลเวลา"



    [​IMG]
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    แท้แล้วแต่ดั้งเดิมมา เทพไม่มี มารไม่มี
    แลครั้งท่านเจียงจื่อหย๋าสถาปนาเทพนั้น
    สองฝ่ายล้วนได้รับการสถาปนาเป็นเทพ
    สถิตย์อยู่บนสวรรค์ในโลก คนละฟากฝั่ง

    แลภายหลังศิษย์เต๋ามิเข้าใจในวิถีดั้งเดิม
    จึงเกิดคำเรียกขานฝ่ายตรงข้ามว่า "มาร"
    การแบ่งแยกจึงเกิดขึ้นในโลก มิใช่สวรรค์
    สวรรค์แม้แยกกันอยู่ แต่มิได้แบ่งแยกกัน

    ศิษย์เต๋าเองก็มีสองสาย ดุจหยินแลหยาง
    มีเต๋าสายขาว และเต๋าสายดำ คานกันอยู่
    แลสำนักซูซาน ก่อกำเนิดเต๋าทั้งสองสาย
    คัมภีร์เงาโลหิตเป็นวิชาสูงสุดในเต๋าสายดำ

    ผู้มีบุญวาสนาจะฝึกนั้น จึงต้องเห็นเช่นนี้
    มีจิตเป็นกลางต่อทั้งเต๋าสายขาวและดำ
    ไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่แบ่งแยกเทพและมาร
    กลับคืนสู่ภาวะดั้งเดิมเริ่มต้นปฐมบทนั้นๆ

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทที่มาของเทพและมาร"



    [​IMG]
     
  12. OSR

    OSR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +107
    อ่านแล้ว น้ำตาจิไหล ....
    เหนือชั้น และ มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกินธรรมดาสามัญ
    คุณดอกไม้ครับ ส่งแก้วมา ผมจะรินให้ท่านสักพันจอก
    เพื่อจะกล่าวคำว่า "ขอบคุณครับ"
     
  13. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ผมจะบอกว่า.ผมไหลตั้งแต่เมื่อคืนแล้วอ่ะคับ..น้ำตาผม
    (ยิ่งอ่านพร้อมMeditation Music.ยิ่งเอาการอยู่ครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กรกฎาคม 2016
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746

    If you feel 'Yes!'
    It's your!
     
  15. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ทุกๆ นิรมาณกายแห่งองค์มหากรุณา
    ย่อมแปรเปลี่ยนผกผันไปตามจริตสัตว์
    ด้วยอนัตตานั้นไม่ยึดติดในตัวตนสมมุติ
    จึงหยิบยืมใช้ตัวตนสมมุติได้หลากหลาย

    ไม่ว่าเทพหรือมาร ล้วนมีหน้าที่ของตน
    ไม่ว่าสัตว์นรกหรือชาวสวรรค์ ล้วนสำคัญ
    ไม่ว่ามนุษย์หรือเดรัจฉาน ล้วนเป็นธรรม
    ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของธรรมหนึ่งเดียว

    จงหยิบยืมใช้ตัวตนสมมุติอย่างหลากหลาย
    ให้เหมาะสมกับบริบทตามความจำเป็นนั้นๆ
    ดุจเพชรย่อมมีหลายมุมเหลี่ยมแพรวพราว
    ประกายส่องสะท้อนเป็นตัวตนหลากหลาย

    แลอัตตาทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ว่าเป็นสัตว์ใด
    ก็เป็นดั่งภาพมายาในกระจกที่สะท้อนออก
    สำแดงถึงองค์มหากรุณาแห่งพุทธะทั้งหลาย
    ให้เฉิดฉายจำรัสเป็นรูปนามต่างๆ เท่านั้นเอง

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทนิรมาณกายแห่งองค์มหากรุณา"



    [​IMG]
     
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ชอบทุกบทค่ะ แต่ชอบบทนี้เป็นพิเศษ...
     
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ขออนุญาติร่วมวงด้วยคนนะคะ
    คำนี้ออกมาจากจิตใต้สำนึกของท่านใช่ไหมค่ะ
    แสง และ เงา...สอดคล้องกันกับสิ่งนี้เลยค่ะ

    แสง พวกเจ้ากระทำตนเหลวไหลเหลือเกิน
    จนมิติแห่งปัญญาปิดสนิท
    พวกเจ้าจึงลืมอดีตละทิ้งความจริงสูงส่ง
    ของตนเองเอาไว้เบื้องหลังมิติโลกเสียจนหมดสิ้น
    พลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่มีมาตั้งแต่ต้น
    เหมือนสูญสิ้น ..เพราะทำเสื่อมลง


    เงา ทั้งหลายปิดมิติปัญญาญาณของตนไว้
    จนไม่อาจเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณได้นี่เอง
    เงา..คล้ายแสดงออกซึ่งความโง่งมและงมงาย
    คล้ายคนมืดบอดทางปัญญา..จนกลายเป็น
    มนุษย์ที่ไร้พลังอำนาจของตนเอง...
    ไม่มีพลังอำนาจทางวิญญาณจะช่วยตนเอง
    ให้หลุดพ้นไปจากอำนาจของกฏแห่งกรรม
    มิอาจก้าวพ้นไปจากระบบโลก เพราะ....
    พลังอำนาจทางวิญญาณในตนเองไม่เพียงพอ

    คือ มีความใสสว่างและพิสุทธิ์ไม่ร้อยเปอร์เซนต์
    หมายถึง ดวงจิตธรรมญาณยังมิได้เป็น "สุญญตา"
    นั่นเอง
    (จิตจักรวาล) ค่ะ

    จงทำให้แสงและเงา รวมตัวกันดุจเป็นหนึ่งเดียว
     
  18. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    แสดงว่าท่านดอกไม้มองเห็นเมล็ดที่พร้อมจะหยั่งรากลงดินถึงได้แสดงธรรมบทนี้ออกมาซินะครับ
    เป็นบทความที่กลั่นจากภายในจริงๆ
    ชอบแบบนี้มากกว่าครับมันมีหัวใจอยู่ภายในนั้น
     
  19. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ธรรมภายนอกก็พร้อมหยั่งลงสู่ธรรมภายในก็ได้เหมือนกันนะคะ
    พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ให้รู้แจ้งทั้งธรรมภายนอกและภายใน
    รู้รอบในสมมุติบัญญัติ และ ปรมัตถ์บัญญัติ แสงและเงาร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
     
  20. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    วันนี้รู้สึกอิ่มเอิบอย่างประหลาดอ่ะคับ
    เหมือนภายในโดนบางอย่างกระตุ้นเตือน
    ิอ่า..เจ้ากำลังก่อเกิดใหม่อีกหนแล้ว...
    (ชอบกระทู้ท่านดอกไม้แนวนี้มากคับ ยืนจอกมาเด่วผมรินให้
    เชียสสสส.. ขอสันติจงบังเกิดแก่ท่านคับ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...