คาด เอลนินโญ่ เล่นงานไทย เหนือ-กลาง-อีสานเตรียมรับมือด่วน

ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัย และฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการติด ตามสถานการณ์เอลนีโญ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำทะเล ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและด้านตะวันออกมีอุณหภูมิสูงขึ้น
ข้อมูลล่าสุดพบว่า จากเดิมที่ค่าดัชนีระดับอุณหภูมิน้ำทะเลเคยสูงถึง ๑.๕ - ๒ องศาเซลเซียส มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๙ ปัจจุบันอุณหภูมิน้ำทะเลเริ่มมีแนวโน้มลดระดับลง แต่ยังไม่สามารถบอกว่าจะเป็นเอล นีโญระดับปานกลางหรืออ่อน เพราะต้องรอให้ดัชนีนิ่งก่อน คาดว่าอีก ๒ - ๓ สัปดาห์จะชัดเจน โดยผลกระทบจากเอลนีโญที่กำลังจะเกิดขึ้นมีแนวโน้มว่าฝนจะน้อยกว่าปีปกติร้อยละ ๒๐ และส่งผลให้อากาศแล้งและร้อนโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง อีสาน เหนือ โดยเฉพาะเดือน ม.ค.- พ.ค.นี้ และถ้าโชคดีช่วงกลางปีมีฝนตกลงมาจะทำให้วิกฤติแล้งคลี่คลายลงไปได้บ้าง
ดร.อานนท์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าจับตาใกล้ชิดคือพบข้อมูลด้วยว่า ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงภาวะเอลนีโญมาแล้วระยะหนึ่ง แต่ช่วงปลายปีจนถึงขณะนี้ มีพายุที่พัดมาจากทะเลจีนใต้ผ่านเข้ามาในประเทศแถบเอเชียประมาณ ๑๐ ลูก ถือว่ามีค่าเฉลี่ยเยอะมากในรอบ ๑๐ ปี และทุกครั้งจะมีระดับความรุนแรงสร้างความเสียหายกับประเทศที่เจอพายุมาก เช่น แถวประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ส่วนของไทยช่วงปลายปีพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันตกเจอคลื่นลมมรสุมที่มีกำลังแรงกว่า ๕ เมตรซัดเข้าสู่ฝั่ง ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่าหากพายุอ่อนกำลังลง ก็จะมีลมหนาวจากจีนแผ่ปกคลุมและดันลงมาทำให้เกิดภาวะแปรปรวน
"ถือเป็นปีเอลนีโญที่ค่อนข้างแปลกมาก เพราะมีฝน มีพายุในอ่าวไทย โดยเฉพาะช่วงนี้ขอให้ชาวบ้านในแถบจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี ลงไประมัดระวังคลื่น Swell ที่เกิดจากลมมรสุมฤดูหนาวที่พัดมาจากทางทิศเหนือตามลิ่มของมวลอากาศเย็น ซึ่งปกคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย เพราะมีโอกาสที่จะเจอคลื่นเหมือนกับฝั่งอ่าวไทยตะวันตกได้ เพราะมีความแปรปรวนของภูมิอากาศ" ดร.อานนท์ กล่าว