คาถาปราบผีของหลวงพ่อเงิน..ตอนเดินธุดงค์

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย ปฐมฌาณ, 9 ธันวาคม 2010.

  1. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    [​IMG]

    เรื่องจากหนังสือ "ลานโพธิ์" ฉบับที่ 886

    "หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม" ท่านได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อครั้งที่ท่านได้เดินธุดงค์ไปแสวงหาความวิเวกทดสอบสมาธิจิต

    ในป่าเขตประเทศพม่า ได้พบกับสิงสาราสัตว์มากมาย ทั้งสัตว์ดุร้ายน่ากลัวและสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ช้าง เป็นต้น ท่านได้

    เล่าว่า สัตว์ต่างๆเหล่านั้น ท่านก็ได้ใช้วิธีการแผ่เมตตาให้ทุกครั้งที่เผชิญหน้า ก็ได้ผลดี บางครั้งพบเสือชนิดประจันหน้า

    ก็อาศัยการแผ่เมตตาช่วยทำให้เสือร้ายบ่ายเบนหลบทางไปได้ นับว่าบารมีแห่งการแผ่เมตตาตามแนวทาง

    แห่งพระพุทธองค์นั้น เป็นประดุจเกราะแก้วคุ้มภัยได้ประเสริฐกว่าสิ่งต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวง ท่านเล่าว่า มีครั้งหนึ่ง

    ที่ท่านเดินทางไปในป่าลึก ระหว่างทางพบกลดพระเก่าๆ หลายกลด ล้มระเนระนาด และมีเศษซากกระดูกคนซึ่งน่า

    จะเป็นกระดูกพระที่มาปักกลดอยู่ ท่านได้พิจารณาเห็นว่าสถานที่ตรงนั้น น่าจะมีอะไรเป็นพิเศษซึ่งเป็นอันตราย

    อยู่แน่นอน พระธุดงค์เหล่านั้นจึงมาจบชีวิต อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ท่านจึงได้เก็บเศษซากกระดูกเหล่านั้นมาทำพิธีบังสกุล

    อุทิศส่วนกุศลแล้วจัดการขุดฝังไว้ให้จนเรียบร้อยดี เพื่อพิสูจน์ว่าสถานที่ตรงนี้มีอะไรอยู่ ท่านจึงตัดสินใจปักกลดเพื่อ

    ปฎิบัติธรรมตรงนั้น ท่านเล่าว่า พอเวลาใกล้ค่ำก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น อากาศบริเวณนั้นเยือกเย็นลงอย่างรวดเร็ว

    จนท่านแทบจะทนไม่ไหว จึงรีบเข้ากลดแล้วบำเพ็ญภาวนาเพื่อระงับความเยือกเย็น กว่าจะดับความเย็นก็ใช้เวลาเกือบดึก

    แต่อากาศเริ่มเปลี่ยนเป็นอบอ่นและทวีความร้อนมากขึ้น จนท่านมีเหงื่อเริ่มออกที่จึวร ทันทีนั้นก็มีเสียงดังขึ้นรอบ ๆ

    กลดเกรียวกราว คล้ายกับเสียงเหวียดร้องของสัตว์ร้ายที่ไม่เคยรู้จัก แล้วก็ทวีความดังขึ้นเรื่อย ๆ ท่านก็ได้แต่ภาวนาจิต

    เข้าสู่สมาธิ พร้อมด้วยยกเอา " คาถาตวาดหิมพานต์" ตามที่ได้เรียนมากับอาจารย์ เข้าสู่การภาวนาร่ายเป็นพุทธมนต์

    ด้วยเสียงอันดังก้องกังวาลขึ้น เพื่อกลบเสียงร้ายเหล่านั้น พอร่ายพุทธมนต์จบ เหตุการณ์อันน่าสะพรึงเพริดก็บังเกิดขึ้น

    กลดที่คลุมอยู่เปิดขึ้นตรงเบื้องหน้าท่าน ท่านตกใจมากลืมตามองออกไป ปรากฏแสงสว่างจ้า

    ใบหน้าประหลาดเหมือนหน้าคนที่น่าเกลียด แต่เล็กเท่ากำปั้น ลอยอยู่มีเสียงพูดออกมาว่า

    "หมดหรือยัง"

    ท่านได้สติจึงได้รีบภาวนาร่ายพุทธมนต์ ต่อไปอีกหลายบท เพื่อไม่ให้ขาดเสียง

    จนหมดไส้หมดพุง นึกคาถาหรือบทสวดมนต์อื่น ๆ ไม่ได้อีกแล้ว จึงเงียบเสียงลง

    หลังจากเงียบเสียงลงได้เพียงครู่เดียว เหตุการณ์เช่นเดิมก็ปรากฏขึ้นอีก กลดถูกเปิดขึ้น

    เสียงพูดจาจากคนหน้าตาน่าเกลียดหัวเล็กเท่ากำปั้นดังขึ้นว่า

    "หมดแล้วรึ"

    ท่านรู้สึกตกใจมาก เสียงนั้นย้ำต่อในทันทีทันใดว่า

    "เอาล่ะนะ"

    หลวงพ่อเงินเล่าต่อว่า พอสิ้นเสียง "เอาล่ะนะ" กลดทุกด้านเปิดขึ้นทันที ท่านตกใจมาก

    ได้แต่ร้องคำเดียวว่า "อะ"

    สิ้นเสียงร้อง "อะ" ของท่าน

    กลดทุกด้านก็ปิดลง เสียงร้องหวีดโหยหวนก็ห่างไกลออกไปอย่างรวดเร็ว เหตุการณืเงียบสงบลง

    เสียงวิเวกแห่งป่าดง หรีดหริ่งและกังวาลของสัตว์ป่าในราตรีแห่งนั้นก็เข้ามาแทนที่

    ท่านเล่าว่า เมื่อเหตุการณ์สงบลงก็ได้พิจารณาเหตุที่เกิดขึ้น ก็ปลงใจว่า เจ้าตัวหัวเท่ากำปั้น ตัวเท่ากระพ้อมนั้น

    คงเป็น "ปอบ" ชนิดหนี่งที่มีวิชาแก่กล้า จึงไม่เกรงกลัวบทคาถาต่าง ๆ แด่มาพ่ายแพ้ต่อคำว่า " อะ" คำเดียว

    ท่านเล่าว่า ต่อมาภายหลังพระภิกษุมาขึ้นธุดงค์กับท่าน ท่านมักมอบคาถา "อะ" ให้พระธุดงค์เพื่อนำไปใช้เมื่อ

    พบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สุดความสามารถก็ล้วนได้ผลดียิ่ง


    จึ้ย....น่ากัว ...

    www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=1976
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ธันวาคม 2010
  2. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,550
    ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ผมจะนำไปเล่าเพื่อนๆ ต่อ ขออนุญาตด้วย
     
  3. ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +2,082
    ขอบคุณมากครับ

    ไม่รู้ผมมั่วหรือเปล่านะครับ เมื่อก่อนเคยอ่าน มันเป็นคำว่า นะ หรือเปล่าครับผมก็จำไม่ได้แล้ว
     
  4. purivat

    purivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +254
    ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ
     
  5. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ยินดีขอรับ..เกล้าฯคิดว่าองค์ท่านหลวงปู่ท่านคงมีความเมตตา..ต่อลูำกหลานทุกๆคน..อยากให้เผยแพร่..อยู่แล้วขอรับ
    โดยส่ีวนตัวของเกล้าฯ

    เกล้าฯรู้สึกศรัทธา..ในความเด็ดเดี่ยว...ขององค์หลวงพ่อเงินอย่างยิ่ง.ในการที่องค์ท่านไม่หวั่นเกรงภยันตราย..คือความตาย.

    .เกล้าฯก็เลยไปค้นหา..คาถาที่มีคำว่า..อะ..นำหน้า..เพราะรู้สึกคำว่าอะนี้จะไม่ธรรมดาเสียแล้ว..ไปเจอคำว่าอะ..อยู่ในคาถาไล่ผีและคาถาอื่นๆหลายคาถา..แต่ไปเจออยู่บทหนึ่ง....ในหนังสือคู่มือชาวพุทธ...ของห้องหนังสือเรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา

    เป็นคาถาท้าวเวสสุวรรณอีกแบบหนึ่ง(มีหลายแบบครับ)...คือ

    อะกะโต ท้าวเวสสุวรรณโณ สัพเพยักขา พลายันติฯ

    ก็เลยลองนำมาทดลองท่องดู...คือนอนท่อง..ขณะที่เคลิ้มๆ...จิตเป็นสมาธิ.ระดับอุปจาระ.ก็ท่องเลย...พอท่องจบเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดกับเกล้าฯ.....คือมือซ้ายของเกล้าฯได้ยกขึ้น.กำหมัดแน่น....แล้วทุบฟาดลงกับพื้นห้องสุดแรงเกิด(พื้นปูนซะด้วย)...โอ้ย..ตอนนั้นเกล้าฯรู้สึกว่า..กระดูกแขนจะหักเสียให้ได้....รู้สึกชาไปทั่วแขน..

    ..ทุกวันนี้..เกล้าฯเข็ดเลยขอรับ..ไม่กล้านำมาท่องเล่นโดยพลการโดยเด็ดขาด..เลยขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2010
  6. tomlucky

    tomlucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +166
    เมื่อคืนนี้ผมเจอดีครับ ใกล้รุ้งเช้าประมาณตี4กว่าๆ ตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงกำแพงดังเหมือนมีคนมาทุบดัง''ปึง'' ลืมตาดูรอบๆก็ไม่มีอะไร ก็เลยเคลิมๆจะหลับผีอำซ่ะงั้น!! แต่อำในท่านอนตะแครงแปลกมาก นึกคาถาไรไม่ออกเลยท่องคาถามงกฏพระพุทธเจ้าหลายจบมากๆ แต่ก็ยังอำอยู่อีก ลืมตาดูไปรอบๆก็ไม่มีอะไร สักพักก็หาย เหนื่อยมากมาย

    ต่อไปนี้จะใช้คาถา ''อะ'' ที่ท่านให้ไว้ ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาครับ สาธุ
     
  7. เบนนี่ เทพพงศ์

    เบนนี่ เทพพงศ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +28
    ขนาดพลังจิตหลวงพ่อเงินยังเหนื่อยเลย ถ้าเป็นเราๆจะไหวหรือครับ ผีอะไรถึงเหนียวขนาดนี้
     
  8. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    เคยได้ยินอีกบทหนึ่ง ที่ครูบาอาจารย์ท่านให้ท่องยามฉุกเฉิน คือ...
    พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ
     
  9. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ยืนยันขอรับ..เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเกล้าฯถูกอำจากผีอิสลามใส่ชุดดำ..ที่ห้อง..ท่องด้วยคาถาที่ท่านกล่าว...แต่ผีอิสลาม..ก็ทำเฉย
    (ที่รู้ว่าเป็นผีอิสลามก็เพราะเห็นในจิตในใจ)

    .ครั้งล่าสุดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา....เกล้าฯไปปฏิบัติธรรมกลางป่าช้า...ถูกวิญญาณผีสาวผูกคอตาย..มาอำ.ขณะยังไม่ได้หลับ..เกล้าฯก็ท่องคาถา..มงกุฏพระพุทธเจ้า...แต่ผีสาวเจ้าก็เฉย...

    แต่พอเกล้าฯเอ่ยคำว่า...นะ

    ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างอันตธาน.โล่งแจ้ง..จ่างป่าง.ว่างเปล่า..สะบายตัว

    (ที่รู้ว่าเป็นผีผูกคอตาย..เพราะท่านเจ้าอาวาสของวัดป่าดังกล่าวแจ้งตั้งแต่แรกแล้วว่าที่วัดแห่งนี้มีวิญญาณผีตายโหงที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด..กุฏิว่างหลายที่..ถ้าจะเลือกไปพักกุฏิร้างกลางป่าช้า..ก็ให้ระวังแต่ผีตายโหง..คือผีผู้หญิงผูกคอตายมันจะมาหา...และไม่ว่าใครก็ตามมาพักที่วัดแห่งนี้มันก็จะไปหาทุกครั้ง..ท่านยังบอกอีกว่ากุฏินั้นเคยมีพระไปพักผีมันเอาคางมาเกยหลังพระ(เวลากลางวัน...พระกำลังเปิดหาบทสวดมนต์).

    อนึ่ง..คาถาพระมงกุฏพระพุทธเจ้านั้น...อย่าได้ประมาทเป็นอันขาด....เพราะครั้งหนึ่งเกล้าฯ..ได้ฝันว่ามียักษ์ตัวเท่าตึก...เอาสองแขน..โอบรัดเกล้าฯ..แทบขาดใจ..แต่ที่รอดมาได้เพราะท่องคาถา..มงกุฏพระพุทธเจ้า...แล้วเกิดกำลังมหาศาล...ใช้กำปั้นทุบยักษ์จนจมดิน....

    วรรค.....พักหายใจ

    คำว่านะนั้นเป็นคาถา..ที่เกล้าฯใช้บ่อย...มาจาก

    นะ เมตตา
    โม กรุณา
    พุท ปราณี
    ธา ยีนดี
    ยะ เอ็นดู

    คาถานี้เกล้าฯได้จาก..ประวัติสามเณร..เดินธุดงค์.และองค์ท่านสามเณรได้เิดิน..เข้าไปในป่าชัฏ..ป่าดงดิบ..ไปเจอหลวงพ่อท่านหนึ่ง.หลวงพ่อท่านถามว่า..สามเณรมากับใคร...
    สามเณร:มาองค์เดียวครับ
    หลวงพ่อ:ถ้างั้น..หลวงพ่อจะให้คาถา...ไว้ป้องกันตัว..จะไปที่ไหนก็ไม่มีอันตราย

    สามเณรก็เลยท่องคาถาจนขึ้นใจ...พอเงยหน้า..อีกทีไม่รู้หลวงพ่อหายไปไหน..

    คาถานี้เกล้าฯมารู้ทีหลังว่าเป็นคาถาเมตตามหานิยม...จะมีเพิ่มมากกว่า..ที่เกล้าฯเขียน..แต่เกล้าฯก็ไม่ใส่ใจ...เพราะเชื่อมั่นในองค์หลวงพ่อที่หายตัวได้..ขอรับ..เรื่องนี้ท่านเขียนหนังสือออกมาตอนท่านได้อุปสมบทเป็นพระแล้ว

    เพื่อนสหธรรมิกบางท่านอาจไม่เข้าใจ..โลกของวิญญาณ..เกล้าฯขออนุญาติ..เล่าจากประสบการณ์..และที่เคยศึกษา..จากท่านผู้รู้ขอรับ

    ส่วนท่านได้ยินเสียงดังเหมือนทุบกำแพง.....ไม่ต้องกลัวขอรับ...ผีเขามาขอส่วนบุญ...ที่มาอำก็เพียงแต่..เขาอยากสื่อให้รู้ว่า...ว่าเขาลำบาก...
    ถ้าได้ยินเสียงร้องให้...เขาก็ต้องการบุญ..มิได้จงใจหลอกแต่อย่างใด..

    ถ้ได้เห็นผีเขย่าต้นไม้..อันนั้นเป็นเพราะเขาได้พยายามสื่อสารกับคุณแล้ว...แต่คุณไม่สามารถสื่อกับเขาได้.....เขาจึงเขย่าต้นไม้ให้รับทราบ..ว่าเขาอยู่ ณ ที่ตรงนั้น..ช่วยแผ่กุศลหรือทำบุญให้หน่อย..เขาลำบากจะแย่อยู่แล้ว

    ตามประวัติครูอาจารย์..แม้แต่องค์หลวงพ่อเงินเองตามที่ได้อ่านมาแต่เริ่มท่านก็ใช้เมตตาเป็นหลัก.....ขอรับ
    ส่วนที่ผีปอบ.ที่.อาวาทองค์ท่าน..เกล้าฯเชื่อว่า..มันไม่ยอมรับพลังแห่งเมตตาขอรับ...ด้วยเหตุนี้จึงมีคาถาปราบมารคำว่า..อะ..ปรากฏ....ขอรับ

    ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม..คาถาไหนดีก็ท่องจำไว้เลยขอรับ...พอตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน..พระธรรม..หรือคาถาที่ท่านได้หมั่นท่องไว้ดีแล้ว..จะผุดขึ้นมาช่วยเิอง..ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2010
  10. k_g

    k_g เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +170
    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ^^
    ทั้งน่ากลัว ทั้งน่ารัก ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆค่ะ
     
  11. RattanaMongkol

    RattanaMongkol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    906
    ค่าพลัง:
    +4,962
    จะใช้อีกคาถาหนึ่งก็ได้นะครับ นั่นก็คือ "พุทโธ" ใช้ได้ทุกสถานการณ์ และทุกขณะที่เราหายใจเข้าและหายใจออกครับ
     
  12. pum@ple

    pum@ple เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +128
    จะจดจำไว้ใช้ครับ

    อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ

    นี้ดีและ
     
  13. aoraoraor

    aoraoraor สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    เคยได้ยินมาว่า ผะรี๋ จะกลัวคนดุ

    ถ้าเราตวาดด้วยเสียงดุดัน โกรธกริ้ว เพราะมันมาก่อกวนความสงบของเรา

    เสียงที่ดุดัน โกรธกริ้ว ดังๆ (บวกพลังใจที่เข้มเเข็ง) ของเรา จะมีอานุภาพ

    ทำให้ผะอี๋หนีไป ใช่ป่าวคะ..

    เคยสังเกตุว่าเวลาเราโมโหดุดัน ตอนนั้นทั้งคนแระหมาก็ไม่กล้าเข้าใกล้

    เลยสรุปว่า ผะอี๋ก็คงไม่กล้าเข้าใกล้เหมือนกัน หุหุหุ
     
  14. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    อนุโมทนา..ขอรับ..คือสุดยอดพระคาถา..จริงๆ

    อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ

    คาถานี้มีชื่อว่า คาถาหัวใจพระพุทธคุณ ๙ ห้อง

    ตามหนังสือสวดมนต์ทั่วไปท่านให้ใช้ภาวนา เวลาตกอยู่ในห้วงอันตราย..ขอรับ.

    ..สุดยอดๆ...อนุโมทนามิ...
     
  15. Jindamunee

    Jindamunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,186
    ไม่แน่ใจครับ ผมอ่านดูแล้วเข้าใจว่าเป็นเพราะหลวงพ่อภาวนาคาถาตวาดหิมพานต์ไว้ก่อนออกเสียง อะ
    อาจจะเป็นเหตุให้ อะ เป็นคำออกเสียงแห่งอานุภาพจากคาถาตวาดหิมพานต
    นอกนั้น อะ ยังเป็นคำทางคาถาเช่น อะอย่านะ และ อะระหัง
     
  16. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    "อะ" คำนี้ น่าจะคือ อะ ที่นำหน้าบทบาลี ในหลายบทสวดที่สำคัญ เช่น ยอดพระกัณฑ์ฯ(ศักดิ์สิทธิดี) ที่หลวงปู่แสงท่านได้ค้นเจอ และนำมาให้ได้สวดกัน จะมี"อะ"อย่เต็มไปหมด จริงๆก้หมายถึงหัวใจ พุทธคุณ นี่แหละ "อุอะมะ มะอะอุ" นอกจากคำๆนี้ ผมเคยอ่านเจอเวลาเกจิฯ ที่เก่งๆหลายท่านเจออันตรายจากอมนุษย์อย่ตรงหน้าเวลาไปธุดงค์ จะใช้คาถานี้ ซึ่งเหมือนกับคำว่า "อะ" คือ พิจารณาความตายเป็นอารมณ์ ตายแน่ๆ ตายๆๆ ตายแล้วหนอๆ และอีกคาถานึง "บทบังสุกุล"ที่ใช้สวดอภิธรรมตามงานศพ ไหนๆเราก็จะตายแล้ว สวดให้ตัวเราเองดีกว่า เพื่อจะได้ไม่ประมาทก่อนตาย ไม่หลงตาย ซึ่งสองอย่างใช้ได้ดีมากๆ ในยามคับขัน หรือยามใกล้ตาย

    เหตุผลข้อหนึ่งที่ได้ผลมาจากพุทธะวจนะ คือ เราจะต้องไม่ประมาท มีสติโดยระลึกถึงความตายทุกๆลมหายใจ เข้า-ออกเป็นอารมณ์ ผู้นั้นได้ชื่อว่า "ผู้ไม่ประมาท"
     
  17. chenroom

    chenroom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +124
    อื่ม...จริงๆแล้วดีทุกบทนะ อยู่ที่จิตของเรานะ คาถาทุกบทดีหมดแต่จะให้ดีได้ เราต้องมั่นใจกำลังใจในคาถาจิตต้องบริสุทธิ์ก่อน โดยเราจะเก่งคนเดียวไม่ได้ อย่าลืมพระท่านสิ (ไม่มีอะไรเกินพระพุทธเจ้าไปได้)(ไม่มีอะไรเกินพระธรรมไปได้)( ไม่มีอะไรเกินพระอริยะเจ้าไปได้) ถ่องคาถาไม่ว่าบทไหน ควรนึกถึงพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาร์อาจารย์เป็นที่สุดก่อน ส่วนตัวผมโดนบ่อย มาดีบ้าง มาร้ายบ้าง บางทีก็กลิ่น บางครั้งก็เสียง บางครั้งก็มาหัวเราะเยาะเย้ย บางครั้งก็มาถึงขั้นเหยียบ "แนะนำ แผ่เมตาให้เขาก่อน"แต่หากยังไม่ไปหรือเขาไม่รับ ก็ขอบารมีพระท่านอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้นะ ส่วนคาถาที่ผมใช้หรือจะเรียกว่าถนัด
    คือ "สัมปจิตฉามิ"เป่าปู๊ด!!! หายหมด!!! แต่ก่อนท่องหรือภาวนา นึกถึงพระท่านก่อนด้วยความเคารพด้วยความจริงใจ นึกถึงพระท่านก่อนนะนึกให้เห็นภาพหรือพระพุทธเจ้าก่อน หากไม่รู้ว่านึกอย่างไงนึกเอาพระพุทธรูปที่เราชอบใจก็ได้เหมือนกันนั่นแหละ แล้วค่อยเดินคาถา แต่ก่อนตัวส่วนตัวเจ้าของก็ไม่รู้ ท่องดะส่ง ผล คือ ไม่อึไม่อือ บางที่เขาหัวเราะเยาะเข้าให้อีก บางทีเอาหนักเลย แต่หากยังไม่ได้ผลอะไร ก็ทำตามกระทู้ด้านบน ตายๆๆ ตายแล้ว จะไปไหน??? สวรรค์ พรหม หรือ นิพาน คนจะประสบณ์พบเจออย่างนี้ได้ส่วนใหญ่ต้องมีการปฏิบัติธรรมมาก่อนทั้งนั้นแหละไม่มากก็น้อยตามแต่วาระตามกรณี ฉะนั้นเขาไม่มาให้เปลืองแรงเปลืองเวลาเสียเปล่าเขาหรอก คือ
    1.เขามาขอบุญให้เราอนุเคราะห์สงเคราะห์เขา (มาดี)
    2.เขามาทดสอบกำลังใจ(มาดีเพื่อทดสอบ หรือ บางครั้งก็อาจเป็นอาจารย์พิเศษ)
    3.เขามามุ่งร้าย ส่วนใหญ่ก็เจ้าของที่บริเวณนั้นแหละที่เป็นมิฉาทิฐิ บางทีก็สัมมาทิฐิ
    (มาร้ายบางครั้งก็มาดี)
    4.พวกคนเล่นของพวกมีวิชาเขาลองดี หรือ ประสงค์ร้ายในบางสิ่งบางประการ (มาร้าย)
    (คาถาจะดีได้ ขึ้นอยู่ที่ศีลบริสุทธิ์-กำลังสมาธิ-กำลังใจมั่นคงในพระรัตนตรัย และ คาถา)
    ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่าน สวัสดี....
     

แชร์หน้านี้

Loading...