คาถา บูชาเสด็จเตี่ย (กรมหลวงชุมพร) - เอื้ออังกูร

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย torphak, 1 กุมภาพันธ์ 2021.

  1. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    เปิดตำรายาโบราณหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อริยสงฆ์แห่งกรุงรัตน์โกสินทร์

    upload_2022-5-2_7-42-35.jpeg

    3-75.jpg
    “หลวงปู่ศุข เกสโร” แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า สุดยอดอมตะเถราจารย์ หมอยาสมุนไพรพื้นบ้านแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
    สุดยอดอมตะเถราจารย์ หมอยาสมุนไพรพื้นบ้านแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา


    วิถีชีวิตของคนไทยในสมัยโบราณ เมื่อโรคภัยไข้เจ็บมาเยือน ชาวบ้านจะเสาะหาสมุนไพรพื้นบ้านเท่าที่พอจะหาได้ มาบรรเทาอาการต่างๆ เหล่านั้น เมื่อไม่หายก็ต้องไปพึ่งหมอยา หรือที่ปัจุจบันเราเรียกกันว่า “แพทย์แผนไทย” ผู้มีความรู้และประสบการณ์ในการปรุงยาสมุนไพร ต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งสูตรยาบางตัวในยุคนั้นยังต้องใช้คาถากำกับยาในการรักษาโรคอีกด้วย

    วัดปากคลองมะขามเฒ่า หรือเดิมชื่อ วัดอู่ทอง ในสมัยนั้น มีความรุ่งเรืองความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม โดยเป็นแหล่งศึกษาพุทธาคม ตำรายามีพระธรรมกรรมฐาน และการเล่นแร่แปรธาตุ อีกทั้งมีทำเลตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ไปมาสะดวก จึงเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้รักษาผู้ป่วยด้านการแพทย์พื้นบ้าน มีการต้มสมุนไพร เป่าพ่น จับเส้น ต่างๆ นาๆ จึงมีผู้รู้และผู้อยากศึกษา ได้เข้ามาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวิชากันมาโดยตลอด ซึ่งหลวงปู่ศุข ท่านได้ถ่ายทอดการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรคให้กับลูกศิษย์และบุคคลทั่วไป แต่ไม่มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน มีเพียงตำรับตำรายาจากผู้สืบทอดที่ได้เล่าเรียนจากหลวงปู่ศุข ตั้งแต่สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยหลวงปู่บอกกล่าวให้จดบ้าง จากตำราที่ท่านเขียนด้วยลายมือเองบ้าง ตำรายาหลวงปู่ศุข มีสรรพคุณแก้โรคได้หลายขนาน อาทิ ยาแก้โรคมะเร็ง โรคเก๊าท์ โรคเบาหวาน ยาแก้สารพัดพิษ ยาแก้ลมอัมพาตเหน็บชา อายุวัฒนะ เป็นต้น

    บรรพชนไทยฉลาด รู้จักใช้ธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า
    ตำรับยาของหลวงปู่ศุขมีหลายขนาน บางตำรับก็สูญหายไป บางตำรับก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งลูกศิษย์ลูกหาที่ได้สืบทอดภูมิปัญญาของท่านมีมากมาย ส่วนมากเป็นผู้ที่เข้ามาบวชเรียนในพระพุทธศาสนา โดยมีหลวงปู่ศุขเป็นพระอุปัชฌาย์ อาทิ หลวงพ่อบุญญัง (อุปสมบทที่วัดหนองพญา ตำบลมะขามเฒ่า ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองน้อย ซึ่งท่านได้สงเคราะห์รักษาญาติโยมมิได้ขาด) อาจารย์กลับ แสงเขียว (อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนตาล เป็นผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ในสมัยนั้น หลังหลวงปู่ศุขมรณภาพ หลายท่านได้ลาสิกขาบทมาใช้ชีวิตฆราวาสเป็นหมอยา) อาจารย์พร แสงเขียว (ลาสิกขาบทมาใช้ชีวิตฆราวาสเป็นหมอยา) อาจารย์เสร็จ ฉิมดี (ปัจจุบันนางมาลัย ฉิมดี บุตรสาว ได้นำตำราของพ่อไปปรุงยารักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ให้กับชาวบ้าน) อาจารย์เนตร เพ่งกลิ่น อาจารย์ดำ ปรีชาจารย์ ขุนเธียรแพทย์เชื้ออภัย เป็นต้น ลูกศิษย์ที่ครอบครองตำราที่ได้จดบันทึกเป็นเอกสาร ที่เหลืออยู่นับได้มีทั้งสิ้นมีประมาณ ๑๑ ราย ผู้สืบทอดโดยตรงเสียชีวิตไปหมดแล้ว เป็นเพียงทายาทที่ครอบครองไว้เท่านั้น

    upload_2022-5-2_7-44-58.jpeg

    ส่วนศิษย์เอกหลวงปู่ศุข ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “หมอเทวดา” นั่นคือ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เจ้าฟ้าที่สืบทอดวิทยาคุณและคัมภีร์ยาในพระนาม “หมอพร” ที่ทรงใช้ชีวิตบั้นปลายดำเนินรอยตามหลวงปู่ศุข โดยเป็น “หมอ” ที่มีพระอัจฉริยภาพด้านสมุนไพรอย่างเอนกอนันต์ จนได้รับพระราชสมัญญาว่า “พระบิดาแพทย์แผนไทย” หมอพรยังทรงรวบรวมและบันทึกสูตรยาต่างๆ ทั้งตำรายาแผนโบราณและแผนปัจจุบันที่ได้ทรงศึกษา เพิ่มเติมไว้ในสมุดข่อยฝีพระหัตถ์ ทรงตั้งชื่อตำราเล่มนี้ว่า “พระคัมภีร์อติสาระวรรค โบราณะกรรม และปัจจุบันนะกรรม” ความผูกพันระหว่างอาจารย์กับศิษย์คู่นี้นั้นเป็นที่ประจักษ์กันดีอยู่แล้ว และเป็นที่น่าสังเกตุว่าหลวงปู่ศุขได้มรณภาพโดยโรคชรา ในปี พ.ศ. ๒๔๖๖ (สิริอายุได้ ๗๖ ปี) ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สิ้นพระชนม์อีกด้วย

    ปัจจุบันจังหวัดชัยนาท ได้อนุรักษ์สืบสานตำรายาสมุนไพรหลวงปู่ศุข โดยรวบรวมติดตามสูตรตำรับตำราเหล่านี้ จากบรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ศุข ที่มีตำรายาสมุนไพรครอบครองอยู่ ทั้งใบข่อย ใบลาน สมุดตำรายาโดยได้อ่านและแปลตำรายาสมุนไพรจากภาษาขอม (หลวงปู่ศุขรอบรู้เรื่องภาษาขอมโบราณ) ภาษาไทยโบราณ ให้เป็นภาษาไทยปัจจุบันที่เข้าใจง่าย นำมารวบรวมไว้ในอาคารแสดงตำรายาสมุนไพร หลวงปู่ศุข ที่ทางจังหวัดจัดสร้างขึ้นพร้อมกับอาคารบริการนวดไทย ซึ่งได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนได้เข้าชม เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตำรายาสมุนไพร เป็นคลังปัญญาให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาอนุรักษ์ เรียนรู้และดูแลสุขภาพตนเอง โดยหันมาใช้ภูมิปัญญาไทย และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรม ศาสนา และวิถีชีวิตพื้นถิ่น ซยังได้จัดงานมหกรรมตำรายาหลวงปู่ศุข และการนวดแผนไทยจังหวัดชัยนาท ขึ้นเป็นประจำทุกปีอีกด้วย

    หากใครได้ไปเยือนวัดมะขามเฒ่าแห่งนี้ ต้องไปศึกษาหาความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย ได้ที่อาคารแสดงตำรายาสมุนไพร หลวงปู่ศุข และอย่าลืมแวะไปชมภาพเขียนสีน้ำมันเป็นรูปหลวงปู่ศุขยืนเต็มตัวถือไม้เท้า พร้อมทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธประวัติในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นฝีพระหัตถ์ของกรมหลวงชุมพรฯ อันเป็นภาพเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าพบปัญจวัคคีย์ ที่ทรงตั้งใจวาดถวายแด่หลวงปู่ศุข ในวาระที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าสร้างอุโบสถหลังใหม่ พ.ศ. ๒๔๓๓ เป็นภาพที่หาชมได้ยาก เพราะในแต่ละปี ทางวัดจะเปิดให้ชมเพียงไม่กี่ครั้งเฉพาะในโอกาสพิเศษจริงๆ เท่านั้น จะหายหรือไม่ให้ทุกคนจงพึงระลึกอยู่เสมอว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฏแห่งกรรมไปได้

    ตัวอย่างบางส่วนจากตํารายาสมุนไพรหลวงปู่ศุข ที่รวบรวมสูตรยาสมุนไพรโบราณต่าง ๆ คัดมาพอเป็นสังเขปให้ได้พอเห็นภาพ ใครมีเวลาให้ไปลองหาอ่านได้ พิสูจน์แล้วว่าสัมฤทธิ์ผล มีแม้กระทั่งสูตรลดความอ้วนที่ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อยาราคาแพงมาใช้ ซึ่งท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง โดยปรับให้เข้ากับยุคสมัย อย่างในสูตรที่ให้นำบอระเพ็ดที่ตากจนแห้งดีแล้วมาบดให้เป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งแท้ ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทรา ใช้รับประทานครั้งละ ๓ เม็ด เวลาก่อนอาหารเช้า ทุกวันติดต่อกันประมาณ ๑ เดือน ความอ้วนจะค่อยๆ ลดลงไปตามลำดับ โดยไม่เสื่อมเสียสุขภาพและไม่เป็นการทรมานสังขารอีกด้วย มีสรรพคุณชะงัดนักแลฯ ในยุคสมัยนี้ท่านสามารถจะซื้อแบบผงที่บดละเอียดมาแล้ว หรือซื้อแบบที่เป็นแคปซูลมาใช้แทนก็ได้ สูตรยากัดฝ้าก็มี ท่านว่าเอาใบขี้เหล็กอ่อน ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ข้าวบูด ๑ เกลือเล็กน้อย ๑ ตำพอก กัดฝ้า เป็นต้น

    upload_2022-5-2_7-43-21.jpeg

    • ยาแก้โรคมะเร็ง
    ขนานที่ ๑ แสมทั้ง ๒ แก่นขี้เหล็ก ขันทองพยาบาทกำแพงเจ็ด รากพุงดอ รากสะแก รากขนุนสําปะลอ รากสาเก รากกรวย กำมะถันทั้ง ๒ ชุมเห็ดเทศ ทุกอย่างที่กล่าวมาหนักสิ่งละ ๒ บาท รวมกับ ทองพันชั่งหนักสิ่งละ ๑๒ บาท ยา ๑๒ สิ่งนี้ ต้มกินก่อนอาหารเช้า เย็น ๗ วันหาย

    • ยาแก้ความดันสูงความดันต่ำ
    ต้นเหงือกปลาหมอ ๑ โด่ไม่รู้ล้ม ๑ ต้นงวงช้าง ๑ กาฝากมะม่วงกะล่อน ๑ ยา ๔ อย่างนี้รวมกันต้มกินเช้า เย็น หายแล

    • ยาแก้ลมอัมพาตเหน็บชา
    เอาการบูร ๑ ตำลึง เอาหัวไพล ๑๐ บาท ว่านนางคำ ๑๐ ตําลึง ยางวงช้างทั้ง ๕ กำมือ ๑ รวมตำคั้นเอาน้ำได้เท่าใด เอาน้ำส้มสายชูใส่เท่านั้น เมื่อทารินใส่ถ้วยแล้วเอาดินประสิวใส่หยิบ ๑ แล้วทาหายแล

    ที่มา : http://article.culture.go.th/index....ons/3-column-layout-9/172-2019-12-06-02-34-29
     
  2. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    images?q=tbn:ANd9GcQgC_j7JiGFUDGRYEYaExSjw057Nh1FzPXMvg&usqp=CAU.jpg
    เรารักธรรมชาติ ธรรมชาติก็รักเรา

    ที่มา : youtube
    one31
    เธอเป็นหัวใจของฉัน : อุ๊บอิ๊บ | The Golden Song เวทีเพลงเพราะ 4 EP.19 | one31
    www.youtube.com/watch?v=P9KpMTxpjIw

    หวานไหมล่ะ o_O เบาได้เบานะน้ำตาลน่ะ
    เราจะไม่เป็นเบาหวาน ต้องดูแลและป้องกันไว้ก่อนนะพวกเรา จัดนี่เลย
    ที่มา : youtube
    Thai PBS
    8 ผักสมุนไพรสยบเบาหวาน : กินดี อยู่ดี กับหมอพรเทพ (11 ม.ค. 64)
    www.youtube.com/watch?v=oVj6xNljqYk
    ถูกใจสายผักอย่างเราอย่างยิ่ง:)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2022
  3. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  4. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
     
  5. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  6. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    images?q=tbn:ANd9GcQyi1DIuMdeT5-DN9kWhsTDoOugVFVyvE1YbQ&usqp=CAU.jpg images?q=tbn:ANd9GcSc3nQTcT7e_PVOUDG6h-gLy-igkh4Dd-VlsQ&usqp=CAU.jpg
    มาทายกัน หาดทรายที่เห็นคือที่ไหน? อะไรนะไม่ใบ้หรอก ทายมา คำถามง่ายๆ มันไม่ชาเล้น เข้าใจไหม?o_O
     
  7. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  8. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube Music Rewind
    ทรายกับทะเล - ธัช กิตติธัช [ Cover version ] | Song Book
    www.youtube.com/watch?v=bUXK-jCi5ws


    ทรายกับทะเล ทั้งเหและทั้งหัน
    ในเมื่อ เราต่างมีกัน เธอกับฉัน ทั้งหันและทั้งเห :rolleyes:กลอนอะไร..เนี่ยo_O
     
  9. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  10. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  11. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube โรงเรียนนายเรือ Royal Thai Naval Academy
    วีดีทัศน์ โรงเรียนนายเรือ ๖๕
    www.youtube.com/watch?v=rRss_vb7oJw


    ที่มา : youtube หนึ่ง จักรวาล 1Jakkawal
    Colors of my life | Someone To Love - หนึ่ง จักรวาร Featuring Janice & Jeffrey
    www.youtube.com/watch?v=8Lu5vUYq4VQ


    images?q=tbn:ANd9GcR61MLb5842Vnox3o7cquozZ2xS0Rd9FpE-TA&usqp=CAU.jpg
    ยิ้มแบบปล่อยวาง วางเถอะขนมo_O
     
  12. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    วัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร
    250px-WatSriSuRiYa_WongSaRam.jpg

    ชื่อสามัญ วัดศรีสุริยวงศ์
    ที่ตั้ง 365 ถ.อมรินทร์ ต.หน้าเมือง อ.เภอเมือง จ.ราชบุรี 70000
    ประเภท พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร
    นิกาย ธรรมยุตินิกาย
    พระประธาน พระประธานปางมารวิชัย
    ความพิเศษ วัดประจำตระกูลบุนนาค
    เวลาทำการ ทุกวัน 8.00-17.00
    จุดสนใจ สักการะพระประธานในพระอุโบสถ
    กิจกรรม 2 พ.ค. : งานบำเพ็ญกุศล อุทิศถวายอดีตเจ้าอาวาส
    25px-Dharma_wheel.svg.png
    ประวัติและความเป็นมา
    ในปี พุทธศักราช ๒๕๑๖ หลังจากที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) พ้นจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน รัชกาลที่ 5 แล้ว ท่านได้มาพำนักอยู่หัวเมืองราชบุรี และมีดำริจะสร้างพระราชวังถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงได้ขอพระบรมราชานุญาติและพระองค์ทรงโปรดฯ ให้สร้างพระราชวังขนาดเล็กขึ้นบนเขาที่เมืองราชบุรี ในปี พ.ศ. 2417 ในการสร้างวังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) กับเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี ในฐานะที่เคยอำนวยการสร้างพระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี เป็นแม่กองสร้างพระราชวังที่เมืองราชบุรีอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเดิมบนภูเขาสัตตนารถนี้เป็นวัด มีพระเจดีย์หนึ่งองค์กับวิหารพระพุทธไสยาสน์ตั้งอยู่ พระองค์จึงได้ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ผาติกรรมที่ธรณีสงฆ์ของวัดเขาสัตตนารถ แล้วย้ายวัดสัตตนารถไปสร้างใหม่ที่วัดร้างริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง บริเวณหน้าเมือง และพระราชทานนามว่า วัดสัตตนารถปริวัตร

    ในระหว่างนั้น ก็ได้สร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่ง เพราะได้พิจารณาเห็นว่า วัดสัตตนารถปริวัตร นั้นเป็นวัดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะสร้างขึ้นด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ โดยเลือกเอาบริเวณใกล้กับที่พำนัก เพื่อสะดวกในการเดินทางมาพำเพ็ญกุศลและเพื่อเป็นวัดประจำตระกูล เมื่อครั้งมาพำนักที่หัวเมืองราชบุรี โดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวและควบคุมการก่อสร้างเองทั้งหมด โดยมีรูปแบบสไตล์ตะวันตกผสมผสานเข้าด้วยกัน ซึ่งมีผลจากการเปิดประเทศของสยามในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ด้วยการรับเอาอารยธรรมตะวันตกเป็นแม่แบบใบการพัฒนา ทำให้เกิดการส่งเสริมศิลปะรูปแบบใหม่ทั้งการนำเข้าศิลปินสาขาต่างๆ ตลอดจนผลงานศิลปะจากยุโรปโดยตรง ทั้งจากความพยายามดัดแปลงประยุกต์ศิลปะยุโรปให้เข้ากับเอกลักษณ์ศิลปะแบบไทย และยิ่งไปกว่านั้น สมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ เป็นผู้มีความชำนาญในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงส่งผลให้สถาปัตยกรรมของวัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร มีความงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และหาชมได้ยากในปัจจุบัน

    เมื่อสร้างวัด มีเสนาสนะ พระอุโบสถ พระเจดีย์ เสร็จเรียบร้อยแล้วในปี พ.ศ. 2422 ได้กราบบังคมทูลน้อมเกล้า ฯ ถวายวัดให้เป็นพระอารามหลวงและขอพระราชทานนามวัดและวิสุงคามสีมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดพระราชทานนามวัด ว่า"วัดศรีสุริยวงษาวาส" (ตามลายพระราชหัตถเลขา ร.ท จ.ศ. 1241) และมี พระบรมราชโองการพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2422 (ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 1 จ.ศ. 1246 พ.ศ. 2427 ชื่อวัดพระราชทานนามว่า "วัดศรีสุริยวงษาราม") ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระครูอุดมบัณฑิต (อ่อน) จากวัดพิชยญาติการาม มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และโปรดพระราชทานให้เจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศารามมีฐานานุกรมช่วยงานในวัด

    200px-Sri_Suriyawongse.jpg
    upload_2022-5-5_7-39-26.jpeg upload_2022-5-5_7-38-44.jpeg
    สมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)
    รัชกาลที่5 พระราชทานพระราชทรัพย์ในการก่อสร้าง
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเงินสมทบในการปฏิสังขรณ์วัดศรีสุริยวงศ์ จำนวน 50 ชั่ง ในวันซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสมภพ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ดังปรากฏในลายพระราชหัตถเลขา ร.ที่ ว่า

    ถึง เจ้าคุณสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงษ์

    ด้วยเจ้าคุณสร้างวัดศรีสุริยวงษาราม ครั้งนี้เป็นการกุศลใหญ่และจะ เป็นเกียรติยศปรากฏสืบไปภายน่า ฉันมีใจศัทธายินดี ครั้นจะช่วยสร้างเจดีย์สฐาน ฤๅเสนาสนะอันใดให้เป็นของเฉพาะสิ่งอันซึ่งเป็นส่วนฉันมีอยู่ในวัดนั้น เจ้าคุณก็ได้ทำการเสียเสร็จแล้วจึงจัดเงิน 50 ชั่ง มอบให้ลูกหญิงศรีวิไลยมาช่วยเจ้าคุณแล้วแต่จะเห็นควร ใช้ในการกุศลครั้งนี้ หฤๅจะไว้เป็นส่วนสำหรับปฏิสังขรณ์และสร้างสมอันใดขึ้น ในวัดนี้ก็ตามแต่เจ้าคุณจะเห็นควร ขอให้เจ้าคุณได้รับไว้ในส่วนการกุศลให้สมประสงค์ฉันด้วย

    พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ณ วันพุธ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 2 ปีเถาะ
    เอกศก ศักราช 1241 (พ.ศ.2422) เป็นวันที่ 5054 ในรัชกาลปัตยุบันนี้
    (พระบรมนามาภิไธย) สยามินทร์
    ในขณะที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ทำการก่อสร้างวัดอยู่นั้น ท่านได้อนุญาตให้นายอากรซือ สร้างศาลเจ้าขึ้นหลังหนึ่ง ในบริเวณที่ดินของท่าน ซึ่งอยู่ติดกับวัดและศาลามณฑล ศาลเจ้านั้นคือ ศาลเจ้าพ่อกวนอู ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวราชบุรีมาก ตรงแท่นบูชาของศาลเจ้ามีป้ายชื่อของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ซึ่งเป็นการแสดง ถึงความกตัญญูต่อผู้มีอุปการคุณ

    วัดศรีสุริยวงศารามในอดีต
    วัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ทรงคุณค่าเป็นมรดกวัฒนธรรมของชาติที่ควรอนุรักษ์ไว้ ด้วยผู้สถาปนาวัดนี้ ในช่วงนั้นเป็นช่วงระยะเวลาที่ไทยเริ่มเผชิญวิกฤตการณ์กับชาติตะวันตก ท่านเจ้าคุณได้ใช้ความปรีชาฉลาดปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์ เพื่อปกป้องศาสนา ดุจหนามยอกต้องใช้หนามบ่ง ดังปรากฏเป็นสถาปัตยกรรมของวัดศรีสุริยวงศารามวรวิหารนี้ แม้เวลาจะผ่านเลยไป จนในยุคหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สภาพวัดศรีสุริยวงศารามก็ได้ทรุดโทรมลงอย่างหนัก เนื่องจากขาดพระภิกษุจำพรรษา จนเกือบจะมีสภาพเป็นวัดร้าง

    จนในที่สุดปี พ.ศ. 2491 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้มีพระบัญชาให้พระครูศรีธรรมานุศาสน์ (โสต สุมิตฺตเถร) เจ้าอาวาสวัดตรีญาติ อำเภเมือง จังหวัดราชบุรี ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศาราม เมื่อท่านได้มาจำพรรษาอยู่ ณ พระอารามแห่งนี้ ก็ได้เร่งมือปฏิสังขรณ์วัดที่ปรักหักพังจากภัยสงคราม และพัฒนาเรื่อยมา และท่านก็ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่ พระศรีธรรมานุศาสน์ และมรณภาพในวันที่ 2 พฤษภาคม 2525 ซึ่งทางวัดได้กำหนดเอาวันคล้ายวันมรณภาพของท่านเป็นวันบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่อดีตเจ้าอาวาส วัดศรีสุริยวงศารามทุกรูป ซึ่งในปัจจุบันนี้มี พระพรหมมงคลวัชราจารย์ (ไสว วฑฺฒโณ) เป็นเจ้าอาวาส และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต)

    ความสำคัญของวัด
    วัดศรีสุริยวงศาราม เป็นวัดที่มีความสำคัญของเมืองราชบุรี และของประเทศไทย เนื่องจาก

    1. ในฐานะมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาแน่ชัด สามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ของเมืองราชบุรีที่มีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของชาติได้

    2. ศิลปกรรมที่ปรากฏเป็นหลักฐานสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะอิทธิพลสถาปัตยกรรมตะวันตก อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองระหว่างประเทศที่แพร่หลายเข้ามาสู่ประเทศไทย ในสมัยรัชการที่ 5 คือนิยมแบบไทยประยุกต์กับตะวันตก

    3. เป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน การคมนาคมสะดวก มีประชาชนไปบำเพ็ญบุญกุศลและใช้ประโยชน์ในพิธีกรรมทางศาสนา ตลอดมา

    4. เป็นวัดประจำตระกูลบุนนาค และประจำตัวสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) รัฐบุรุษคนสำคัญของไทยในสมัยนั้น

    ถาวรวัตถุศาสนวัตถุที่สำคัญ
    เมื่อสมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นที่ทราบดีแล้วว่าท่านได้เริ่มสร้างวัดนี้เมื่อประมาณ ปี 2417 นั้น ท่านได้สร้างถาวรวัตถุไว้เป็นสมบัติของวัดสืบต่อมาจนบัดนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นโบราณสถานที่ทรงคุณค่าเป็นมรดกวัฒนธรรมของชาติที่ควรจะอนุรักษ์ไว้ ดังต่อไปนี้

    1. พระอุโบสถ สมเด็จเจ้าพระยาฯ สร้างขึ้นราวปี 2420 -2422 ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทรงไทยประยุกต์กับศิลปะตะวันตก ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในสมัยนั้น มีลักษณะทรงเตี้ย กว้าง 11.00 เมตร ยาว 18.00 เมตร ฐานสูง 30 เมตร ผนังก่ออิฐฉาบปูนเขียนลายเลียนแบบหินอ่อน มีเสาพาไลกลมแบบเสาโรมัน ปลายเสารับพาไลทำเป็นผนังโค้งติดกัน เดิมพื้นเป็นกระเบื้องโมเสก ปัจจุบันใช้เป็นหินอ่อน หลังคาเป็นกระเบื้องดินเผา ไม่มีช่อฝ้าใบระกา ในพระอุโบสถมีพระบรมศาทิศลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และรูปวาดของสมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงผู้ที่มีอุปการคุณต่อวัด

    2. พระประธาน เป็นพระพุทธรูปสัมริด ลงรักปิดทอง พุทธลักษณะ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 1.15 เมตร สูงจากฐานถึงเกศ 1.75 เมตร

    3 พระเจดีย์ ตั้งอยู่หลังพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงกลมระฆังคว่ำ ตั้งบนฐานสูง 8 เหลี่ยมมีเสาพาไลกลมแบบเสาโรมัน ปลายเสารับพาไลทำเป็นผนังโค้งติดกัน มีระเบียงรอบ มีบันไดก่ออิฐขึ้นสู่ระเบียง พื้นระเบียงเดิมเป็นไม้ ปัจจุบันเป็นพื้นปูน องค์พระเจดีย์ก่อด้วยอิฐฉาบปูน ฐานกว้าง 16.00 เมตร สูง 9.40 เมตร เชื่อกันว่าสร้างไว้เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

    4. กุฏิเจ้าอาวาส อยู่ทางทิศใต้ของพระอุโบสถกว้าง 9.10 เมตร ยาว 16.00 เมตร มีมุขหน้าออก 3.10 เมตร เป็นกุฏิก่ออิฐฉาบปูน 2 ชั้น พื้นปูด้วยไม้สัก หลังคามุงกระเบื้องดินเผา

    5. กุฏิญี่ปุ่น มี 2 หลัง กว้าง 7 เมตร ยาว 9 เมตร สร้างลักษณะสถาปัตยกรรมคล้ายพระอุโบสถ มี 2 ชั้น ชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูน ชั้นบนเป็นเสาร์ไม้ ผนังก่ออิฐฉาบปูน หลังคามุงกระเบื้องดินเผา

    6. ซุ้มประตู สร้างขึ้นโดยท่านเจ้าคุณ พระศรีธรรมานุศาสน์ (สุมิตฺตเถร) ออกแบบโดย พระมหาอัมพร อมฺพโร วัดราชบพิธ แทนซุ้มประตูทที่รื้อถอนไปเพื่อขยายอาณาเขตวัดให้กว้างขวาง โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบเดียวกับพระอุโบสถ มีตุ๊กตาโรมัน ก่ออิฐฉาบปูน เสากลม สร้างปี พ.ศ. 2498

    ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร
     
  13. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  14. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube Pinladies
    ราตรีประดับดาว Ratri Pradap Dao วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย TPO
    www.youtube.com/watch?v=k6bqv4ICrtw
     
  15. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    images?q=tbn:ANd9GcRA8wptF5usB3e4nu49vBIoqWywd1bRBu323Q&usqp=CAU.jpg
    กลับมาแว้ววว ทุ้กกกกคน รอยยิ้มอาจเปลี่ยนไปเล็กน้อย อิอิ
     
  16. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  17. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ขออนุญาตแชร์คลิปของคุณสัตหีบไบค์แมน (ไม่รู้จักท่านแต่ขอแชร์นิดนุงนะ)
    ที่มา : youtube สัตหีบไบค์แมน
    พาวิ่งขึ้นเขาเสด็จเตี่ยงานเดิน-วิ่ง 99 ปี วันอาภากร l สัตหีบ l ลองรัน
    www.youtube.com/watch?v=7OBVtYVzgZA

    และเราจะเล่าประสบการณ์ในงานวิ่งครั้งนี้ของเรา อยากฟังไหม อะไรนะ? ไม่อยากฟัง
    ถ้าไม่อยากฟังก็อ่านล่ะกันo_O
     
  18. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ในภาพที่เห็น ไม่มีเราในนั้นหรอก เพราะอะไรรู้ไหม เรากับเพื่อนไปไม่ทันตอนปล่อยตัวนักวิ่งอย่างไงล่ะ ขึ้นเรื่องมาก็ฮาเลย

    เรากะเพื่อเดินทางไปถึงสัตหีบก่อน 1 วันเพื่อเตรียมการอย่างดี ดูเหมือนมีความพร้อมแต่เปล่าเลย การซ้อมวิ่งของสองเรานั้น แยกกันซ้อม ซ้อมคนละ 5 กม. (เพื่อนดีหน่อยนางซ้อมวันเว้นวัน) ส่วนตัวเรานั้น ซ้อมได้ 2 วัน คิดว่าเอาน่าพอถึงวันจริงเราต้องมีแรงฮึกเหิม เพราะเห็นชาวบ้านวิ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราวิ่งตามเขาอย่างไม่รู้จักคำว่าเหน็ดหนื่อย

    นั่นคือความฝัน แต่ความจริงมันช่างโหดร้ายเสียเหลือเกิน เมื่อเช้าวันนี้มาถึง แต่งกายพร้อมมาก (วิ่งไม่ได้เรื่องแต่ชุดพร้อม) ขับรถใกล้ถึงแต่เราโดนทหารกักรถเราเพราะต้องเปิดทางให้นักวิ่ง 21 กม. วิ่งไปให้หมดก่อน ยังๆ ไม่จบพอ 21 กม.ไปหมด ต่อด้วยนักวิ่ง 10 กม. เราเห็นทีมเสื้อสีแสดมากันแล้ว รอไม่ได้แล้วร้อนตัวเลยทีนี้ เมื่อไม่ให้กลับรถหาที่จอดแถวนี้ล่ะกัน ที่จอดรถของใคร ณ จุดๆ นี้ไม่สนล่ะ จอดเลยแล้วรีบวิ่งไป ณ จุด start ทันที ชาวบ้านเขาวิ่งเพื่อไปขึ้นเขา เราวิ่งสวนทางไปจุด start สรุปวิ่งมากกว่า 10 กม. แถมไปปาดหน้านักวิ่ง 5 กม. ที่เตรียมปล่อยตัวอีก จุดนี้ไม่สนชาวโลกล่ะ คิดแค่ว่าทำยังไงให้วิ่งทันกลุ่มที่เขาออกตัวไปก่อนหน้า คงจะ 2 กม.แล้วล่ะ

    และแล้วเราก็มาทันแถวท้ายๆ ตอนขึ้นเขาแหลมปู่เจ้า (ค่อยยังชั่ว) ตอนขึ้นเขานะอย่าให้พูดเลย (คือไม่มีคำพูดจากปากเราเพราะเราใช้ปากในการหายใจ) หัวใจน่าจะออกมาเต้นข้างนอกนะเราว่า คนที่ลงมาสวนทางน่ารักมากมีให้กำลังใจกันสุดๆ อีกนิดเดียวจะถึงแล้ว (เสียตรงที่ว่าเราจำเส้นทางได้ว่ามันยังไปอีกไกลนะ ชันมากด้วย) แว่บนึงในสมองคิดนะ ถ้าเรายอมแพ้ได้ไหม ถ้าไม่ไหวจะทำยังไง สรุปมันก็ต้องมาทางนี้ล่ะ ก้มเดินเดินต่อไป เราเห็นคนวิ่งขึ้นคิดนะสุดยอดมากเลย เราแค่เดินยังหายใจจะไม่ทัน ถ้าวิ่งสงสัยรถวี่หว่อ ต้องมารับเราแน่นอน

    สุดท้ายความเหน็ดเหนื่อยก็หมดไปเกือบหมดเมื่อตอนขาลง นี่สินะรางวัลของความพยายาม ไม่ต้องเข้าเป็นอันดับต้นๆ แต่ขอให้เดินวิ่งให้ครบตามระยะทาง ไม่เกินเวลาก็เป็นความสุขที่บรรยายไม่ได้ การได้สัมผัสถึงลมเย็นๆ มองเห็นทิวเขาและท้องทะเล ทำให้เราผ่อนคลาย และความสุขนั้นก็ได้ติดตามเรากลับมาถึงกรุงเทพเลยนะ ประทับใจสุดๆ เลยค่ะ

    เมื่อวิ่งจบเขาแจกข้าว 2 กล่อง (มีให้เลือกนะ) เราหยิบมาตามโควต้าแต่ไม่ได้กินได้นำมาให้แม่บ้านของที่พักไปทานกับลูก เราจัดส้มไป 1 ลูก แล้วไปกินตอนเที่ยงเลยก่อนกลับ (เช้าไม่หิวคงกินอากาศไปจึงอิ่ม:D)

    เราบอกกับเพื่อน ถ้าวันนี้ลงวิ่ง 5 กม. เราคงเสียใจภายหลังเป็นแน่
    ความสุขที่มาจากความเหนื่อย แต่ได้รางวัลเมื่อถึงปลายทาง ประทับใจมิรู้เลือน ปล. ได้มีโอกาสแวะไปกราบเสด็จเตี่ยที่ กม. 6 ด้วยนะคะ ท่านใดยังไม่เคยไปขอเชิญเลยค่ะ จบข่าวค่ะ :)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2022
  19. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  20. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283

แชร์หน้านี้

Loading...