คาถา บูชาเสด็จเตี่ย (กรมหลวงชุมพร) - เอื้ออังกูร

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย torphak, 1 กุมภาพันธ์ 2021.

  1. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
     
  2. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    upload_2022-6-21_7-5-30.jpeg

    นายพลเรือตรี พระยาหาญกลางสมุทร ร.น. (บุญมี พันธุมนาวิน พ.ศ.2433 - 2516) ภาพนี้สันนิษฐานว่าถ่ายเมื่อ พ.ศ.2461 - 2464 ขณะเมื่อยังเป็น น.ท. หลวงหาญสมุทร ร.น. ต้นเรือ เรือพระที่นั่งมหาจักรี สมัย น.อ. พระยามหาโยธา (ฉ่าง แสง-ชูโต) เป็นผู้บังคับการเรือ

    พระยาหาญกลางสมุทร เป็นนักเรียนนายเรือรุ่นที่ 2 (รุ่นแรกมีเพียงคนเดียว คือ นายพลเรือโท พระยาราชวังสัน (ศรี กมลนาวิน)) ที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนนายเรือตั้งแต่เริ่มตั้งมา โดยสำเร็จออกรับราชการทหารเรือเพียง 3 คน นักเรียนนายเรือรุ่นแรกๆ นี้ นายพลเรือเอก กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ได้ทรงฝึกอบรมอย่างหนัก จนสามารถนำเรือรบออกไปในทะเลลึกได้จริงเป็นครั้งแรก (ก่อนหน้านี้จ้างชาวต่างประเทศมาเป็นผู้บังคับการเรือ)

    ราชการสำคัญของพระยาหาญกลางสมุทร คือ เมื่อ พ.ศ.2460 ประเทศสยามประกาศสงครามกับเยอรมนี-ออสเตรีย ฮังการี แล้ว ขณะนั้นยังเป็น น.ต. หลวงหาญสมุทร ร.น. ได้เป็นผู้บังคับกองจับเรือเชลย การปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อยอย่างดียิ่งจนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีชั้นอัศวิน จากนั้น โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้เป็นนายทหารเรือไทยคนแรกออกไปประจำกองเรือดำน้ำแห่งราชนาวีอังกฤษเพื่อศึกษาวิชาการเรือใต้น้ำเป็นเวลา 6 ปี
    ที่มา : สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

    1441.jpg
    อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเรือตรี พระยาหาญกลางสมุทร ต.ช., ต.จ.ว., ร.ด.ม., อ.ร. (บุญมี พันธุมนาวิน) ณ ฌาปนสถานของกองทัพเรือ วัดเครือวัลย์วรวิหาร วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2517

    ศิษย์เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ อีกท่านที่ถ่ายทอดความทรงจำไว้คล้ายคลึงกัน คือพลเรือตรี พระยาหาญกลางสมุทร ร.น. หรือ บุญมี พันธุมนาวิน หนึ่งในศิษย์นักเรียนนายเรือรุ่นแรก ๆ ของเสด็จในกรมฯ โดยพระยาหาญฯ ได้ให้สัมภาษณ์แก่คณะอาจารย์วิทยาลัยพณิชยการพระนคร เมื่อ พ.ศ. 2515 เล่าถึงบรรยากาศการเรียนการสอนของโรงเรียนนายเรือยุคหลังจากที่เสด็จในกรมฯ ทรงเข้าปรับปรุงหลักสูตร ความตอนหนึ่งว่า

    … ครูบาอาจารย์ที่ไม่เข้าใจวิชาอะไร ก็ไปเรียนจากเสด็จในกรม แล้วนำความรู้มาสอนอีกทีหนึ่ง เสด็จในกรมท่านสอนได้ทุกอย่าง ไม่ลืมสักวิชาเดียว นับว่าเป็นอัจฉริยบุรุษคนหนึ่งทีเดียว

    ต่อมาตั้งโรงเรียนช่างกลขึ้นอีก ปรับปรุงหลักสูตรใหม่ทั้งหมดนี่แหละ เสด็จในกรมทรงเป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นพ่อทหารเรือทีเดียวละ และเป็นต้นที่ทหารเรือเรียกว่า พ่อ

    แต่เท่าที่ทราบ คนที่เรียกท่านว่าพ่อ ท่านไม่ค่อยชอบนัก ท่านให้เรียกท่านว่า ทิดเตี่ย แต่ก็เป็นคนใกล้ชิดก็มีไม่กี่คนหรอก เสด็จในกรมท่านปกครองนักเรียนนายเรืออย่างกันเอง เรียกทหารเรือว่าลูก …
    ที่มา : https://hrh-abhakara-120anv-homecoming.com/hrhyoungster/

     
  3. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  4. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2022
  5. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
     
  6. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  7. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube กองทัพเรือ Royal Thai Navy - Official Channel
    เสด็จเตี่ย องค์บิดานาวีไทย ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ณ หาดทรายรี ชุมพร
    www.youtube.com/watch?v=7W-OWRnLJ3U


    ที่มา : youtube ฟังธรรมะ ออนไลน์
    ฟังธรรมหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง วิธีบนกรมหลวงชุมพร
    www.youtube.com/watch?v=gAwDJamwRSw


    ที่มา : youtube มูลนิธิก้าวคนละก้าว
    ตลาดใจ | นิ้วก้อย/ดูมั้ย ลิฟท์ กับ ออย

    www.youtube.com/watch?v=wQYxQz1dzkI
    www.youtube.com/watch?v=TDIbEE-R8zc
    ถ้าเธอไม่ให้นิ้วก้อย ก็เอานิ้วโป้งมาก็ได้ โครงการนิ้วแลกเงินo_O
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2022
  8. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  9. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  10. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  11. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  12. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube News1
    ช่วย 2 แม่ลูกรถเก๋งตกคลองด้วยมือเปล่า : [News Story]
    www.youtube.com/watch?v=s0MxH2Mvr_Q

    ทหารหน่วยซีล (ลูกชายเสด็จเตี่ย) ท่านนี้กำลังเดินทางไปงานศพของแม่ ประสบเหตุรถเก๋งหลุดโค้งตกคลอง ในรถมี 2 แม่ลูก (ลูกเป็นผู้ป่วยมะเร็งช่วยเหลือตนเองไม่ได้) ทหารท่านนี้เป็นผู้ช่วยเหลือ 2 แม่ลูกจนปลอดภัย ขออนุโมทนาบุญกุศลในครั้งนี้ด้วยนะคะ

    ที่มา : youtube
    คุณพระช่วย
    "ชัยรัตน์ เทียบเทียม" เพลงเธอที่รัก จากรายการเพลงเอกเสียงนี้ที่คิดถึง
    www.youtube.com/watch?v=ZFPGpovPFck


    ผู้ที่ทำความดีเพื่อผู้อื่น ดูดีสำหรับเราเสมอและแอบชมอยู่ในใจ เคยอยู่ในลิฟต์ พอลิฟต์เปิดส่วนใหญ่ผู้ชายที่ออกคนสุดท้ายคือใครรู้ไหม พนักงานส่งเอกสารค่ะ บางครั้ง (หลายครั้ง) ผู้ชายส่วนใหญ่ปาดหน้าออกไปก่อนเลย อย่าว่าเรานะเพราะคือเรื่องจริง :) เราจึงแอบชื่นชมพนักงานส่งเอกสารบ่อยครั้ง

    เดี๋ยวจะหาว่าผู้ชายคนทำงาน มีนะคะที่เอื้ออาทร หากเราเต็มไม้เต็มมือไปด้วยของเวลาได้ยินเสียงถามว่าไปชั้นไหนคะ ชั้นไหนครับ เรารู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ นี่แค่เพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันนะ ส่วนข่าวด้านบน เราเห็นแล้วรู้สึกดีมากๆ กับข่าวบวกยามเช้านี้ เลยมาแชร์ให้ทุกท่านค่ะ:D

    ที่มา : youtube Suthipongse Thatphithakkul
    เพลงความในใจ โดย เอ็ม ยืนชนม์ สมบัติเทพ
    www.youtube.com/watch?v=seVZIVf_4y8
    หลบตา กลัวรู้ใจล่ะสิo_O
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2022
  13. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  14. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  15. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    upload_2022-6-22_7-9-59.jpeg
    ไม่มีอะไรมาก แค่อยากยิ้มให้
    คิดว่าคงดีใจ อ้าวไม่ใช่จบกันo_O
     
  16. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    upload_2022-6-22_20-46-40.jpeg

    สังสารวัฏ ได้แก่ การเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์โลกทั้งหลาย วนเวียนอยู่ในวัฏฏะที่ไม่รู้จบสิ้น
    คําว่า สังสาร หมายถึง การท่องเที่ยวไปอย่างไม่รู้เบื้องต้นเบื้องปลาย
    คําว่า วัฏฏะ หมายถึง การหมุนไปสู่ภพภูมิต่าง ๆ คือเวียนไปสู่สุคติภูมิ หรือทุคติภูมิเป็นต้น
    ความหมายของคําว่า สังสารวัฏ ในพระพุทธศาสนา ท่านกล่าวไว้ ๒ ประการคือ กล่าวโดยสภาวธรรม และกล่าวโดยสัตว์บุคคล

    กล่าวโดยสภาวธรรม ได้แก่ ลําดับแห่งขันธ์ ธาตุ อายตนะที่หมุนไปสู่ภพ ๓ คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ โดยไม่ขาดระยะ ไม่รู้เบื้องต้นเบื้องปลาย ดังที่ท่านกล่าวไว้ในคัมภีร์ชินาลังการฎีกาว่า

    ขนฺธานญฺจ ปฏิปาฏิ ธาตุอายตนานญฺจ อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา สํสาโรติ ปวุจฺจติ ฯ

    แปลว่า ลําดับแห่งขันธ์ ธาตุ อายตนะที่เป็นไปไม่ขาดสาย ชื่อว่า สังสารวัฏ
    ขันธ์ ได้แก่ ขันธ์ ๕ คือ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์
    ธาตุ ได้แก่ ธาตุ ๑๘ ในพระอภิธรรม ท่านประสงค์ที่จะแสดงสภาวะที่เกี่ยวเนื่องในสันดานของสัตว์

    โดยอาศัยทวาร อารมณ์ และวิญญาณอย่างละ ๖ หมวด คือ
    โดยทวาร ได้แก่ จักขุธาตุ โสตธาตุ ฆานธาตุ ชิวหาธาตุ กายธาตุ และมโนธาตุ
    โดยอารมณ์ ได้แก่ รูปธาตุ สัททธาตุ คันธธาตุ รสธาตุ โผฏฐพพธาตุ และธัมมธาตุ
    โดยวิญญาณ ได้แก่ จักขุวิญญาณธาตุ โสตวิญญาณธาตุ ฆานวิญญาณธาตุ ชิวหาวิญญาณธาตุ กายวิญญาณธาตุ และมโนวิญญาณธาตุ

    อายตนะ ได้แก่ อายตนะ ๑๒ คือ อายตนะภายใน ๖ อายตนะภายนอก ๖
    อายตนะภายใน อายตนะที่มีอยู่ในกายตน ได้แก่ จักขวายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ และมนายตนะ
    อายตนะภายนอก อารมณ์ที่โน้มน้าวเข้ามาสู่อายตนะภายใน ให้เกิดความรู้ความเห็น ได้แก่ รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐพพายตนะ และธัมมายตนะ

    กล่าวโดยสัตว์บุคคล ได้แก่ ชีวิตของสัตว์โลกที่เวียนว่ายตายเกิดไปสู่ภพภูมิต่างๆ โดยไม่มีที่สิ้นสุด จากภพนี้สู่ภพโน้น จากภพโน้นกลับมาสู่ภพนี้

    ชีวิตของสัตว์โลกที่ท่องเที่ยวไปในภพภูมิต่าง ๆ ก็ด้วยอํานาจของ อวิชชา คือ ความไม่รู้ในธรรม ๘ ประการ คือ ไม่รู้ทุกข์ ๑ ไม่รู้เหตุที่ทําให้ทุกข์เกิด ๑ ไม่รู้วิธีที่จะดับทุกข์ ๑ ไม่รู้ข้อปฏิบัติที่จะทําให้ทุกข์ดับ ๑ ไม่รู้ขันธ์ อายตนะ ธาตุในอดีต ๑ ไม่รู้ขันธ์ อายตนะ ธาตุในอนาคต ๑ ไม่รู้ขันธ์ อายตนะ ธาตุทั้งในอดีตและอนาคต ๑ ไม่รู้ปฏิจจสมุปบาท คือธรรมที่เป็นปัจจัยอาศัยกันและกันเกิดขึ้น ๑

    อวิชชา ย่อมปกปิด หุ้มห่อ ไม่ให้เพื่อรู้ไม่ให้เพื่อเห็น เพื่อแทงตลอดความจริงแห่งขันธ์ ธาตุ อายตนะ ในกาลทั้ง ๓ คือ อดีต อนาคต ทั้งอดีตและอนาคต และไม่รู้นามรูปที่เป็นปัจจัยในธรรมทั้งหลายที่อาศัยกันเกิดขึ้น

    เพราะความไม่รู้ทั้ง ๘ ประการนี้ ย่อมยังสัตว์ให้แล่นไปในสังสารวัฏ ท่องเที่ยวไปในภพภูมิต่าง ๆ ด้วยอํานาจของกุศลและอกุศล คือ อปุญญาภิสังขาร ปุญญาภิสังขาร และอเนญชาภิสังขาร

    อปุญญาภิสังขาร (อกุศลเจตนา) เป็นปัจจัยให้ท่องเที่ยวไปใน อบายภูมิ ๔
    ปุญญาภิสังขาร (กุศลเจตนา) เป็นปัจจัยให้ท่องเที่ยวไปใน กามสุคติภูมิ ๗ และรูปภูมิ ๑๖
    อเนญชาภิสังขาร (กุศลเจตนา) เป็นปัจจัยให้ท่องเที่ยวไปใน อรูปภูมิ ๔

    ผู้ใดที่ถูกอวิชชาครอบงํา ย่อมไม่รู้ในทุกข์ ไม่รู้ในเหตุที่ทําให้ทุกข์เกิด ไม่รู้วิธีดับทุกข์ ไม่รู้ในข้อปฏิบัติที่จะทําให้ทุกข์ดับ จึงเป็นเหตุให้ธรรมทั้งหลายมีสังขารเป็นต้น อาศัยอวิชชาเกิดขึ้นในอายตนะ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่พอใจหรือเอาใจใส่เป็นพิเศษ อันเป็นเหตุให้มีกําลังเกิดขึ้นบ่อย ๆ ติดต่อกันเสพอารมณ์นั้นโดยไม่มีระหว่างคั้น แม้อวิชชาที่ยังไม่เกิดก็ยังทําให้เกิดขึ้นเป็นปัจจัย เพราะความที่ปราศจากกันไม่ได้

    อวิชชา จึงพาสัตว์ผู้ไม่รู้แล่นไปในสังสารวัฏ กระทํากุศลบ้าง อกุศลบ้าง เป็นหัวหน้า เป็นผู้นำพาสัตว์ทั้งหลายให้ท่องเที่ยวไปในภพภูมิต่างๆ ด้วยอํานาจของปฏิจจสมุปบาท คือ ธรรมที่อาศัยกันและกันเป็นปัจจัยเกิดขึ้น วนเวียนอยู่ในวงจรของ กิเลสวัฏ กรรมวัฏ วิปากวัฏ อันเป็นเครื่องหมุนเวียนให้สัตว์ข้องอยู่ในวัฏฏะทุกข์ ด้วยอํานาจของ ตัณหา คือความยินดีพอใจ เป็นเหตุให้สัตว์กระทํากรรมทางกาย ทางวาจา ทางใจ เมื่อสัตว์กระทำกรรมแล้ว

    กรรมนั้นก็ให้วิบากคือผลของกรรมที่ได้กระทําลงไป ถ้าได้รับผลที่ถูกใจก็มีความยินดี พอใจ ติดใจ หมกมุ่น มัวเมา เป็นเหตุให้เกิดกิเลสคือ ราคะ ถ้าได้รับผลไม่เป็นที่ชอบใจ ก็มีความไม่พอใจ เสียใจ โกรธแค้น ขุ่นเคือง เป็นเหตุให้เกิดกิเลสคือ โทสะ ทั้งนี้ ด้วยอวิชชาความไม่รู้เท่าทันในธรรม ๘ ประการ คือ โมหะ เมื่อกิเลสเกิดขึ้น ก็เป็นเหตุให้สัตว์นั้นกระทํากรรมอีก เมื่อสัตว์กระทํากรรมก็ย่อมได้รับวิบาก อันเป็นผลของกรรม วนเวียนเป็นวัฏฏะ แห่งทุกข์เช่นนี้ อย่างมิรู้จบสิ้น ไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่ยังหาทางออกจากวัฏฏะมิได้

    อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่มที่ ๒ หน้า ๑๖๓-๑๖๗ ปฐมโรหิตสสสูตร

    เทวบุตรชื่อโรหิตัสสะเข้าไปทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในที่สุดโลกใด สัตว์ ที่ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ บุคคลอาจรู้ หรือเห็น หรือไปถึงซึ่งที่สุดนั้นด้วยการเดินทางไปได้หรือไม่?

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า อาวุโสสัตว์ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ เรากล่าวว่าที่สุดโลกนั้น บุคคลไม่พึงรู้ ไม่พึงเห็น ไม่พึ่งไปถึงได้ด้วยการเดินทางไป

    โรหิตัสสะทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้อนี้ความเห็นของข้าพระองค์ ตรงตามที่พระองค์ตรัสโดยแน่แท้ว่า ในที่สุดโลกใด สัตว์ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ บุคคลไม่พึงรู้ ไม่พึงเห็น ไม่พึ่งไปถึงได้ด้วยการเดินทางไป

    ในกาลก่อน ข้าพระพุทธเจ้าเป็นฤาษีชื่อโรหิตัสสะ เป็นบุตรนายบ้าน มีฤทธิ์ไปในอากาศได้ ความเร็ว ของข้าพระองค์นั้น เปรียบได้กับนายขมังธนูผู้กํายํา ที่ฝึกหัดธนูศิลป์แล้วอย่างดีจนชํานิชํานาญสําเร็จการยิงแล้ว และยิงลูกธนูอันเบา มีการปะทะน้อย สามารถยิงให้ผ่านเงาต้นตาลทางขวางได้

    การย่างเท้าก้าวหนึ่งของข้าพระพุทธเจ้า ระยะเท่ากับจากมหาสมุทรเบื้องตะวันออก ถึงมหาสมุทรเบื้อง ตะวันตก ข้าพระองค์ยืนอยู่ที่ขอบปากแห่งจักรวาลเบื้องตะวันออก เหยียดเท้าผ่านขอบปากแห่งจักรวาลเบื้อง ตะวันตก เหยียดเท้าก้าวที่สองผ่านขอบจักรวาลอื่น โดยไม่ชักช้า ข้าพระพุทธเจ้าผู้มีความเร็วและก้าวเท้าเห็นปานนี้ มีความปรารถนาเกิดขึ้นว่า จักไปให้ถึงที่สุดโลก |

    ข้าพระองค์เว้นจากการกิน ดื่ม เคี้ยว ลิ้ม ถ่ายอุจจาระปัสสาวะ การนอน การหยุดพักเหนื่อย และใน เวลาภิกขาจาร ข้าพระองค์สีไม้สีฟันนาคลดา ล้างหน้าในสระอโนดาต เมื่อได้เวลาก็เที่ยวบิณฑบาตในอุตตรกุรุทวีป นั่งที่ขอบปากจักรวาลกระทําภัตกิจ หยุดพัก ณ ที่นั้นครู่หนึ่งก็โลดแล่นต่อไปอีก

    ข้าพระพุทธเจ้ามีอายุกว่า ๑๐๐ ปี ดํารงชีวิตอยู่ตลอด ๑๐๐ ปี เดินทางไปจนสิ้น ๑๐๐ ปี ก็หาถึงที่สุด โลกไม่ ข้าพระองค์ตายเสียในระหว่างทางนั่นเอง เมื่อทํากาละในที่นั้นแล้ว จึงมาบังเกิดในจักรวาลนี้ พระพุทธเจ้าข้า

    สมจริงดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า

    สัตว์ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ เรากล่าวว่าที่สุดโลกนั้น
    บุคคลไม่พึงรู้ ไม่พึงเห็น ไม่พึงไปถึงด้วยการเดินทางไป
    แต่ว่าเมื่อยังไม่ถึงที่สุดโลกแล้ว จักพ้นจากทุกข์ได้เป็นไม่มี
    เพราะเหตุนั้น ผู้มีปัญญาที่รู้จักโลก ถึงที่สุดโลก อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว
    รู้ที่สุดโลก สงบบาปแล้ว ย่อมไม่ปรารถนาทั้งโลกนี้และโลกอื่น.

    พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้โลก ถึงที่สุดแห่งโลกด้วยพระญาณ แต่ฤาษีโรหิตัสสะใช้เวลาตลอดชีวิต ๑๐๐ ปี เพื่อค้นหาคําตอบ ชีวิตของฤาษีโรหิตัสสะ จึงเป็นชีวิตที่รองรับพระพุทธญาณของพระพุทธองค์ได้อย่างชัดเจน

    ที่มา : https://www.nirvanattain.com/สิ่งที่ควรรู้/วัฏสงสาร/วัฏสงสาร-สังสารวัฏ-สงสารวัฏ.html
     
  17. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  18. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube Wat Bun Dan Jai
    โครงการศูนย์ปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก คลองเก้า
    www.youtube.com/watch?v=89KKa52GtCY


    ทุกคนเคยคิดเหมือนเราไหม? วันนี้ขณะขับรถกลับบ้านเรานึกถึงคำของพระอริยสงฆ์ที่ท่านเทศน์สอนว่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า ให้นึกถึงความตายไว้ทุกลมหายใจ เพราะนึกเพียงวันละครั้ง หรือสามครั้งไม่พอ เราก็เลยนึกว่าหากเราตายเนี่ย ยังไม่ได้ปัญญาทางธรรมไปชาติหน้าเพื่อเป็นฐานไปพัฒนาต่อเลยนะ ยังน้อยเหลือเกิน

    ในทุกวันสำหรับเราที่พยายามตั้งใจว่าไม่ให้กิเลสพาไป อยากสำรวมจิตใจ วาจา แต่หลุดตลอด ไม่มีอะไรคงที่ ไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้พอง พรุ่งนี้ยุบ (ไม่ใช่หุ่นนะ เพราะยังไม่ยุบพยายามไม่ให้พองไปมากกว่านี้o_O) กายไม่คงที่ ใจก็ไม่คงที่แปรปรวนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ที่ใช่เลยที่เรียกว่าไม่เที่ยง ไม่มีสิ่งใดที่่เที่ยง จิตเริ่มเข้าใจแบบซึมลึก ทุกวันนี้ชีวิตของเราทุกคนเหมือนหนูถีบจักร ตั้งหน้าตั้งตาปั่น ไม่รู้ว่าวันไหนจะหมดแรง หากแค่หมดแรงก็ยังได้พักและยังมีเวลาเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนวิถีชีวิต แต่หากเป็นมากกว่านั้น เราคงเสียดายเวลาในชาตินี้ที่เริ่มมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เป็นทางที่ถูก (ทางที่ชอบ) วันนี้มีสาระนะ เธอล่ะคิดเหมือนเราไหมo_O
     
  19. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  20. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube Bua Loy
    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ โดย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต (ฉบับถอดความภาคปฏิบัติ)
    www.youtube.com/watch?v=trK09GC96e4
     

แชร์หน้านี้

Loading...