คาถา บูชาเสด็จเตี่ย (กรมหลวงชุมพร) - เอื้ออังกูร

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย torphak, 1 กุมภาพันธ์ 2021.

  1. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
     
  2. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    “เสด็จเตี่ย” กรมหลวงชุมพรฯ ตอนที่ ๒๓ – ร่วมเครือนาวี จักยลปฐพีไพศาล
    10 พฤศจิกายน 2021 ศรัณย์ ทองปาน : เรื่อง

    ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ๒๔๕๐ กรมหมื่นชุมพรฯ ทรงนำนักเรียนนายเรือและนักเรียนนายช่างกลประมาณ ๑๐๐ คน ออกฝึกภาคทางทะเลโดยเรือ “มกุฎราชกุมาร” ไปยังเกาะสิงคโปร์ แล้วเลยไปถึงเมืองปัตตาเวียบนเกาะชวา (ปัจจุบันคือกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย)

    hms-makut-reverse.jpg
    เสด็จในกรมฯ ทรงเป็นผู้บังคับการเรือ พร้อมนายทหารประจำเรือและนักเรียน ซึ่งเป็นคนไทยทั้งสิ้น นับเป็นการฝึกภาคในต่างประเทศครั้งแรกของนักเรียนนายเรือสยาม
    ตามพระราชบัญญัติธง รัตนโกสินทรศก ๑๑๖ (พ.ศ. ๒๔๔๐) “มกุฎราชกุมาร” ตลอดจนเรือรบทุกลำของสยามขณะนั้น ต้องชักธงเรือหลวง คือธงพื้นแดง กลางธงเป็นรูปช้างเผือกทรงเครื่อง ยืนแท่น หันหน้าเข้าเสา

    การที่กรมหมื่นชุมพรฯ ทรงนำนักเรียนนายเรือไป “อวดธง” ครั้งนี้ เป็นเสมือนการประกาศให้นานาชาติรับรู้ว่า จากเดิมที่เรือรบทุกลำของสยามต้องใช้ฝรั่งต่างชาติมาทำหน้าที่กัปตัน บัดนี้ คนไทยฝึกหัดกันเองจนสามารถเดินเรือออกทะเลลึกได้แล้ว

    ดังนั้น ภายในเวลา ๑๔ ปี หลังจาก “วิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒” (๒๔๓๖) พระราชดำริของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ในอันที่จะให้ฝึกหัดนายทหารเรือไทยลงประจำเรือรบ แทนที่ทหารเรือฝรั่ง จึงบรรลุผลสำเร็จ

    การฝึกภาคทางทะเลปี ๒๔๕๐ ยังเป็นการ “เปิดหูเปิดตา” ให้นักเรียนนายเรือของสยามได้เห็นเมืองท่าต่างประเทศ ผจญกับคลื่นยักษ์กลางทะเล ทำพิธีข้ามเส้นศูนย์สูตร เยี่ยมชมเรือรบของชาติมหาอำนาจ รวมถึงลองลิ้มรสชาติเสบียงกรังอย่างฝรั่ง

    เสด็จในกรมฯ ทรงให้นักเรียนนายเรือสยามฝึกหัดกินอาหารตามแบบฉบับทหารเรืออังกฤษ คือเนื้อม้าเค็มบรรจุถังซึ่ง “เค็มขนาดกินเกลือ แต่เหนียวพอประมาณ มีมันเป็นชั้นๆ เลี่ยนๆ” กับขนมปังแห้งที่เรียกกันว่า “ขนมปังทะเล” (sea biscuit) ซึ่งนักเรียนนายเรือบ่นว่าแข็งจนกัดไม่เข้า ถึงกับเอาไปเล่าลือกันว่า “แข็งยิ่งกว่าเหล็ก!”

    ผลสืบเนื่องอีกประการหนึ่งจากการฝึกภาคทางทะเลครั้งแรกในปี ๒๔๕๐ ที่ยั่งยืนต่อมา คือแต่เดิม เรือรบและเรือพระที่นั่งของสยาม ตัวเรือทาสีขาว ปล่องและเสากระโดงทาสีเหลือง แนวน้ำทาสีแดง แต่เมื่อ“มกุฎราชกุมาร” แวะจอดทอดสมอที่เกาะสิงคโปร์ อันเป็นเขตอาณานิคมอังกฤษ นักเรียนนายเรือสยามจึงเพิ่งเคยเห็นว่าเรือรบชาติอื่นล้วนแต่ทาสีหมอก (สีเทา battleship gray) ตามหลักนิยมของเรือรบตะวันตกยุคนั้น ว่าสีหมอกหรือสีเทา แลดูกลมกลืนกับน้ำทะเลและภูมิประเทศ ช่วยพรางตาจากข้าศึกได้ดีในทุกสภาพอากาศ ทุกคนจึงพร้อมใจช่วยกันทาสีเรือหลวง“มกุฎราชกุมาร”เปลี่ยนให้เป็นสีเทาอย่างเรือรบฝรั่งเขาบ้าง

    พระยาหาญกลางสมุทรซึ่งร่วมฝึกภาคทางทะเลปีนั้น ในฐานะนักเรียนนายเรือชั้นสูงสุด คือชั้น ๕ เพียงคนเดียว เล่าว่า

    “…เมื่อเรือถึงกรุงเทพฯ แล้ว ทอดทุ่นหน้าโรงเรียนนายเรือในตอนบ่าย ทำความตื่นเต้นประหลาดใจให้กับทหารเรือและเรือรบลำอื่นๆ เป็นอันมาก เพราะเรือรบไทยทุกลำทาสีขาวจอดกันอยู่ทั้งแม่น้ำ ส่วนเรือมกุฎฯ ทาสีหมอกดูดำมืดอยู่ลำเดียว พวกในเรือเรียกเรือมกุฎฯ ว่า ‘เป็ดเทศ’ และรู้สึกภูมิใจเป็นที่ยิ่ง…”

    ต่อมาไม่นาน เรือรบของสยามทุกลำจึงทาสีหมอกทั้งหมด เว้นแต่เรือพระที่นั่ง “มหาจักรี”

    ที่มา : https://www.sarakadee.com/2021/11/10/นักเรียนนายเรือสยาม/
     
  3. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  4. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  5. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube Thai Military
    ยลโฉม! เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ
    www.youtube.com/watch?v=XrTeHlYPqXM
    อ้าว! คนอ่าน 2 คนเดิมป่าวเนี่ย โหไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำ ไม่ไปไหนเลยเหรอคะเนี่ย:D อ่ะล้อเล่น คงจะคนละคนกันอ่ะนะ :)
    .............................................
    ที่มา : youtube
    Townsends
    Ship's Bisket - Hard Tack: 18th Century Breads, Part 1. S2E12
    www.youtube.com/watch?v=FyjcJUGuFVg
    ใครอยากจะชิม sea biscuit บอกเรา เพราะทำขนมปังสูตรไหนก็ออกมาเป็น sea biscuit ทั้งหมดo_O
    (ไม่ใช่และ! คงเป็นเพราะแกทำขนมไม่เป็นต่างหาก ใครจะกินก็กินกระผมขอบาย:rolleyes:) นายสติได้กล่าวไว้
     
  6. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    upload_2021-11-28_12-20-9.jpeg upload_2021-11-28_12-20-32.jpeg
    ส่วนผสม
    แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
    น้ำตาลทราย 30 กรัม
    ผงฟู 2 ช้อนชา
    เกลือ 1 ช้อนชา
    เนยเค็มเย็น 30 กรัม
    ลูกเกด 30 กรัม
    ไข่ไก่ 1 ฟอง
    นมสด 80 ml

    1.เริ่มจากผสมของแห้ง แป้ง ผงฟู เกลือน้ำตาล
    2.เข้ากันดีแล้วต่อด้วย การบี้เนยกับแป้งจนเป็นเนื้อร่วนๆ แล้วใส่ลูกเกด
    3.ผสมของเหลวกัน ตีไข่กับนม แล้วเทลงผสมในชามของแห้ง
    4.นวดผสมจนจับเป็นก้อน นวดต่อนอกชามแบบเบามืออีกนิดหน่อย
    5.กดให้แบนๆหน่อยความหนาประมาณครึ่งนิ้ว ขนาดตามใจชอบ
    6.เข้าอบที่ไฟ 180 องศา 30-35นาที
    สูตรจาก https://pantip.com/topic/39351100

    (สโคนเราเคยทำกินเอง แถมทำแยมสตรอเบอรี่เองด้วย ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพราะเราชอบกิน)
    ปล. กินกับชา กาแฟ ต้องมีนะน้ำเนี่ย ไม่งั้นติดคอนะจ๊ะ มันแห้ง ๆ แต่เราช้อบชอบ
     
  7. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  8. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube คุณพระช่วย
    เพลงเอกรอบชิงชนะเลิศ ธัช เพลงพรานทะเล -เพลงวอลซ์นาวี จากรายการเพลงเอก
    www.youtube.com/watch?v=6opE7YNbIQg

    พูดถึงกาแฟเราก็เปรี้ยวปากขึ้นมาเชียว จำจักต้องเยื้องกายออกไปเสาะหากาแฟอันโอชะสะหน่อย ไม่เป็นไรนะทุกคนเดี๋ยวเรากินเผื่อนะ รอบนี้ลาไปก่อง รอบหน้าเจอกันใหม่ กินข้าวให้อร่อยนะจ๊ะเที่ยงนี้ :D
     
  9. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ประวัติศาสตร์มวยไทย
    ดูเพิ่มเติมที่: ประวัติศาสตร์มวยไทย
    ประวัติศาสตร์อันยาวนานของมวยไทยเริ่มมีและใช้กันในการสงครามในสมัยก่อน ซึ่งแตกต่างจากมวยไทยในปัจจุบันที่ใช้เป็นการกีฬา โดยมีการใช้นวมขึ้นเพื่อป้องกันการอันตรายที่เกิดขึ้น มวยไทยยังคงได้ชื่อว่า ศาสตร์การโจมตีทั้งแปด ซึ่งรวม สองมือ สองเท้า สองศอก และสองเข่า (บางตำราอาจเป็น นวอาวุธ ซึ่งรวมการใช้ศีรษะโจมตี หรือ ทศอาวุธ ซึ่งรวมการใช้บั้นท้ายกระแทกโจมตี)

    มวยไทยสืบทอดมาจากมวยโบราณ ซึ่งแบ่งออกเป็นแต่ละสายตามท้องที่นั้น ๆ โดยมีสายสำคัญหลัก เช่น มวยท่าเสา (ภาคเหนือ) มวยโคราช (ภาคอีสาน) มวยไชยา (ภาคใต้) มวยลพบุรีและมวยพระนคร (ภาคกลาง) มีคำกล่าวไว้ว่า "หมัดหนักโคราช ฉลาดลพบุรี ท่าดีไชยา ไวกว่าท่าเสา"

    ในสมัยโบราณจะมี สำนักเรียน (สำนักเรียนมวย แตกต่างจาก ค่ายมวย คือ สำนักเรียนจะมีเจ้าสำนัก หรือ ครูมวย ซึ่งมีฝีมือและชื่อเสียงเป็นที่เคารพรู้จัก มีความประสงค์ที่จะถ่ายทอดวิชาไม่ให้สูญหาย โดยมุ่งเน้นถ่ายทอดให้เฉพาะศิษย์ที่มีความเหมาะสม ส่วน ค่ายมวย เป็นที่รวมของผู้ที่ชื่นชอบในการชกมวย มีจุดประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนวิชาความรู้เพื่อนำไปใช้ในการแข่งขัน-ประลอง) โดยแยกเป็น สำนักหลวง และ สำนักราษฎร์ บ้างก็ฝึกเรียนร่วมกับเพลงดาบ กระบี่ กระบอง พลอง ทวน ง้าวและมีดหรือการต่อสู้อื่น ๆ เพื่อใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวและใช้ในการสงคราม มีทั้งพระมหากษัตริย์และขุนนางแม่ทัพนายกองและชาวบ้านทั่วไป (ส่วนใหญ่เป็นชาย) และจะมีการแข่งขันต่อสู้-ประลองกันในงานวัด และงานเทศกาลโดยมีค่ายมวยและสำนักมวยต่างๆ ส่งนักมวยและครูมวยเข้าแข่งขันชิงรางวัล-เดิมพัน โดยยึดความเสมอภาค

    6%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1_2560.jpg
    รูปปั้นจำลองของนายขนมต้ม นักมวยคาดเชือกชาวกรุงศรีอยุธยา ในงานรำลึกนายขนมต้ม ในวันที่ 17 มีนาคมของทุกปี
    บางครั้งจึงมีตำนานพระมหากษัตริย์หรือขุนนางที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ปลอมตนเข้าร่วมแข่งขันเพื่อทดสอบฝีมือที่เป็นที่ปรากฏได้แก่ พระเจ้าเสือ (ขุนหลวงสรศักดิ์) พระเจ้าตากสินมหาราช พระยาพิชัยดาบหัก ครูดอก แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ จนเมื่อไทยเสียกรุงแก่พม่า ปรากฏชื่อนายขนมต้ม ครูมวยชาวอยุธยา ซึ่งถูกกวาดต้อนเป็นเชลยศึกได้ชกมวยกับชาวพม่า ชนะหลายครั้งเป็นที่ปรากฏถึงความเก่งกาจเหี้ยมหาญของวิชามวยไทย ในสมัยอยุธยา ตอนปลายได้มีการจัดตั้งกรมทนายเลือกและกรมตำรวจหลวงขึ้นมีหน้าที่ในการให้การคุ้มครองกษัตริย์และราชวงศ์ ได้มีการฝึกหัดวิชาการต่อสู้ทั้งมวยไทยและมวยปล้ำตามแบบอย่างแขกเปอร์เซีย (อิหร่าน) จึงมีครูมวยไทยและนักมวยที่มีฝีมือเข้ารับราชการจำนวนมากและได้แสดงฝีมือในการต่อสู้ในราชสำนักและหน้าพระที่นั่งในงานเทศกาลต่างๆสืบต่อกันมาเป็นประจำ และเป็นที่น่าสังเกตว่า กองทัพกู้ชาติของพระเจ้าตาก ล้วนประกอบด้วยนักมวยและครูมวยที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นจำนวนมาก ถึงกับได้มีการจัดตั้งเป็นหน่วยรบพิเศษ 3 กอง คือ กองทนายเลือก กองพระอาจารย์ และกองแก้วจินดา ซึ่งได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญที่ทำให้คนไทยสิ้นความหวาดกลัวต่อทัพพม่า ในการรบที่บ้านนางแก้ว ราชบุรี จนอาจเรียกได้ว่า มวยไทยกู้ชาติ

    มวยไทยสมัยรัตนโกสินทร์

    %B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B9%88%E0%B8%AD.jpg
    การแข่งมวยคาดเชือกหน้าพระที่นั่งในประเทศไทย
    กีฬามวยไทยได้รับความนิยมมากในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ยุคที่นับว่าเฟื่องฟูที่สุดคือ รัชกาลที่ 5 พระองค์ได้ศึกษาฝึกฝนการชกมวยไทยและโปรดให้จัดการแข่งขันชกมวยหน้าพระที่นั่งโดยคัดเลือกนักมวยฝีมือดีจากภาคต่างๆ มาประลองแข่งขัน และพระราชทานแต่งตั้งให้มีบรรดาศักดิ์ ทั้งยังโปรดให้กรมศึกษาธิการ บรรจุการสอนมวยไทยเป็นวิชาบังคับ ในโรงเรียนฝึกหัดครูพลศึกษา มีการชกมวยถวายหน้าพระที่นั่งเป็นประจำจนถึงสมัย รัชกาลที่ 6 ที่วังสวนกุหลาบ ทั้งการต่อสู้ประลองระหว่างนักมวย กับครูมวยชาวไทยด้วยกัน และการต่อสู้ระหว่างนักมวย กับครูมวยต่างชาติ ในการแข่งขันชกมวยในสมัยรัชกาลที่ 6 ระหว่างมวยเลี่ยะผะ (กังฟู) ชาวจีนโพ้นทะเล ชื่อนายจี่ฉ่าง กับ นายยัง หาญทะเล ศิษย์เอกของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีท่าจรดมวยแบบมวยโคราช ซึ่งเน้นการยืดตัวตั้งตระหง่านพร้อมที่จะรุกและรับโดยเน้นการใช้เท้าและหมัดเหวี่ยง และต่อมาได้เป็นแบบอย่างในการฝึกหัดมวยไทยในสถาบันพลศึกษาส่วนใหญ่ สมัย รัชกาลที่ 7 ในยุคแรกการแข่งขันมวยไทยใช้การพันมือด้วยเชือก จนกระทั่งนายแพ เลี้ยงประเสริฐ นักมวยจากท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ ต่อยนายเจียร์ นักมวยเขมร ด้วยหมัดเหวี่ยงควายถึงแก่ความตาย จึงเปลี่ยนมาสวมนวมแทน ต่อมาเริ่มมีการกำหนดกติกาในการชก และมีเวทีมาตรฐานขึ้นแห่งแรกคือเวทีมวยลุมพินีและเวทีมวยราชดำเนินจัดแข่งขันมวยไทยมาจนปัจจุบัน

    แต่คำว่า มวยไทย มีมาใช้ในยุคหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายชาตินิยม ในยุคที่มี น.ต.หลวงศุภชลาศัย ร.น. เป็นอธิบดีกรมพลศึกษา มีการออกพระราชบัญญัติมวยไทย ซึ่งแต่เดิมมวยไทยจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามท้องถิ่น เช่น มวยโคราช, มวยไชยา และรวมถึงการก่อสร้างเวทีมวยมาตรฐานจวบจนปัจจุบัน คือ เวทีมวยลุมพินี และเวทีมวยราชดำเนิน

    ครูมวยไทยที่มีชื่อเสียงในแต่ละยุค
    ยุคอดีต

    ยุคปัจจุบัน
    200px--Thai_boxing_in_Wat_Kungtaphao.ogv.jpg
    การชกมวยไทยที่ดี มีหลักสำคัญ คือ มีการป้องกัน ด้วยการยืน มั่นคง เข้มแข็ง สูงเด่น การตั้งแขนป้องกัน (การการ์ดมวย) และการเก็บคาง เปรียบเสมือนป้อมปราการ เท้าหน้า จรดชี้ไปข้างหน้าวางน้ำหนักครึ่งฝ่าเท้า เท้าหลัง วางทแยงเฉียงกว้างกว่าหัวไหล่วางน้ำหนักเศษหนึ่งส่วนสี่ไว้ที่อุ้งนิ้วหัวแม่โป้ง ขยับก้าวด้วยการลากเท้าหลังตามพร้อมที่จะหลอกล่อ ขยับเข้า ออก ตั้งรับและโจมตีตอบโต้ แขนหน้ายกกำขึ้นอย่างน้อยเสมอไหล่ หรือจรดสันแก้ม แขนหลังยกกำขึ้นจรดแก้ม ศอกทั้งสองข้างไม่กางออกและไม่แนบชิด ก้มหน้าเก็บคาง ตาเขม็งมองไปตรงหว่างอกของคู่ต้อสู้ พร้อมที่จะเห็นการเคลื่อนไหวทุกส่วน เพื่อที่จะรุก รับ หรือตอบโต้ด้วยแม่ไม้ ลูกไม้และการแจกลูกต่างๆ มีการเคลื่อนไหวที่องอาจมีจังหวะ มีการล่อหลอกและขู่ขวัญที่มีการเปรียบเทียบว่า "ประดุจพญาราชสีห์ และพญาคชสีห์" อาวุธมวยที่ออกไป ต้องมีเป้าหมายและจุดประสงค์แน่นอน (แต่มักซ้อนกลลวงไว้) มีการต่อสู้ระยะไกล (วงนอก) และระยะประชิด (วงใน) และมีทีเด็ดทีขาดในการพิชิตคู่ต่อสู้ และ
    แม่ไม้มวยไทย เป็นท่าต่อสู้ของวิชามวยไทยที่สำคัญที่สุด

    ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/มวยไทย
     
  10. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  11. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  12. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  13. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  14. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  15. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    ที่มา : youtube THAI FIGHT OFFICIAL
    สืบสาน รักษา ต่อยอด
    www.youtube.com/watch?v=LTyklZsMvzU
    ตามกันไปดูกันได้เลย น่าดูทุกตอนค่ะ ดูไปก็เสียวซี่โครงค่ะ:)

    งานโฆษณาก็มาค่ะ คือนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ คือคนไทยผู้ยิ่งยง
    ที่มา : youtube umbababa
    คาราบาวแดง สร้างคุณค่าชีวิต
    www.youtube.com/watch?v=PsJtA_Eebcc


    ที่มา : youtube
    Scenario & Rachadalai
    ซมซาน | เจนนิเฟอร์คิ้ม และ ก้อง สหรัถ #เจ๊คิ้มกินรอบวง
    www.youtube.com/watch?v=Ue9-i6RylbQ

    นวอาวุธ ทศอาวุธ ซมซานตั้งแต่ first อาวุธ แล้วล่ะจ่ะ:D


    ที่มา : youtube Scenario & Rachadalai
    ดึงดัน | เจนนิเฟอร์คิ้ม และโดม จารุวัฒน์ x แก้ม วิชญาณี #เจ๊คิ้มกินรอบวง
    www.youtube.com/watch?v=F8IiChSwm64
    โอ้ใจเอ๋ย ทำไมเจ็บไม่จำ ไม่ต้องเลี้ยงด้วยลำแข้งนะ เราหาข้าวกินเองได้:confused:

    สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทั้ง 4 ท่าน อ่านประวัติมวยไทยสิจ๊ะ มีชื่อเสด็จเตี่ยเป็นครูมวยไทยด้วยนะ;)


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2021
  16. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  17. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  18. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
  19. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283
    images?q=tbn:ANd9GcTfns26Q-Xkf3PAfti8tdJ2we-SEfWz3cI7Qw&usqp=CAU.jpg upload_2021-11-29_7-13-45.jpeg images?q=tbn:ANd9GcQWzIX_WN89eTv5PMHomigE2lo4mXkr9Ax2Pw&usqp=CAU.jpg

    ดาบของชาติ เล่มนี้ คือชีวิตเรา
    ถึงจะคม อยู่ดี ลับไว้ สำหรับสู้ ไพรี
    ให้ชาติ เรานา ให้มิตรให้ เมียให้
    ลูกแล้ ชาติไทย
     
  20. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +283

แชร์หน้านี้

Loading...