@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

เรื่อง พระมหาโพธิสัตว์

อจ. : เมื่อก่อนจงรักภักดีแต่ไม่ซาบซึ้ง จนมาเจอ ลปดู่. จึงรู้ว่าท่านเป็นหน่อพุทธภูมิทรงงานทั้งทางโลกและทางธรรม เพื่อรักษาพระศาสนาให้ยืนยง. ดำรงเป็นปฏิรูประเทศทุกขอบเขตแว่นแคว้นกลายเป็นแดนอุดม. ขอบังคมกราบไหว้. ชนชาติไทยมีสุขทุกถ้วนทั่วหน้าด้วยพระบุญญาบารมีของพระผู้เป็นศรีของประเทศ. ทรงปกป้องคุ้มเกศรอดพ้นจากเหตุทุกขภัย. ดังข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้อธิษฐานด้วยเทอญ

สุดกำสรวลแสนกำสรดสลดจิต ดั่งชีวิตจะปลดปลงล้มลงได้ พระดวงแก้วเสด็จห่างยังแดนไกล สู่สวรรคาลัยใจร้าวราน แต่เชื่อมั่นพระองค์ดำรงอยู่ ประทับขวัญเคียงคู่ทุกสถาน ผองชาวไทยทรงไว้ตลอดกาล อธิษฐานรองพระบาททุกชาติไป

ข้าพระพุทธเจ้า
นายศุภกฤษณชัยวงค์ แสงจันทร์
25 ตุลาคม 2560 บ้านพุทธฉัตร พระนครศรีอยุธยา


***************************************************************

 

*********************************************************

 

"คนที่จะไปนิพพานจะมาสายโพธิญาณก็ได้ หลวงปู่ท่านว่า...คนที่จะไม่เกิดบารมีต้องเต็ม ให้แผ่เมตตาไปเรื่อย ที่ทำทุกวันนี้คือการสะสมกำลังตามที่เราปราถนา ไม่ว่าจะปราถนาโพธิญาณหรือนิพพาน ขึ้นอยู่กับกำลังของเรา"

คติธรรมคำสอนของหลวงตาม้า วิริยธโร

 

การตั้งศาลพระภูมิตามแบบหลวงปู่ดู่ (ยาวหน่อยแต่ความรู้ทั้งนั้น)
ทำพิธีขิที่โดยใช้บทยัสมิง ซึ่งมีใน12ตำนาน ท่านบอกว่าจะไปอยู่ที่ใด บ้านใด เมืองใด เป็นการให้บุญกับเทวดาอารักษ์ เจ้าที่เจ้าทาง จะได้เป็นสวัสดิมงคลซึ่งเป็นบทที่ท่านให้พรเป็นประจำมีคาถาว่า " ยัสมิง ปะทิว กัปเปติ วาสัง ปัณทิตะชาติโย สีลม วันเตตถะ โภเชตวา สัญญะเต พรัหมะจาริโน ยา ตัตถะ เทวะตา อาสุง ตาสัง ทักขิณะ มาทิเส ตา ปูชิตา ปูชะยันติ มานิตา มานะยันติ นัง ตะโตนัง อะนุปะกัมปันติ มาตา ปุตตังวะ โอระสัง เทวะตา นุกัมปิโน โปโส สะทา ภัทรานิ ปัสสะติ" แปลโดยอรรถไม่ได้แปลพยัญชนะ ว่า บัณทิตหรือผู้มีคุณธรรมบังเกิดที่ใด พึงเชิญท่านเหล่านั้นมา แล้วทำการถวายทานให้ท่านเหล่านั้น ถ้ามีเทวดาประจำสถานที่แห่งนั้นให้อุทิศกุศลถวาย ผู้บูชาย่อมได้รับการบูชา ผู้นับถือย่อมได้รับการนับถือเมื่อท่านได้รับกุศลผลบุญแล้ว พึงให้ความอนุเคราะห์เขาเหล่านั้นประดุจหนึ่งมารดารักษาบุตรที่เป็นโอรสทั้งชายหญิงบุคคลใดมีเทวดาให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ ย่อมถึงความเจริญทุกเมื่อ เมื่อสวดแล้วให้ว่าต่อ นางพระแม่ธรณีเอ๋ยอยู่แล้วหรือยัง แล้วตอบเองว่า อยู่แล้ว ถ้าทางปักใต้จะใช้คำว่า ยัง ซึ่งหมายถึงอยู่ แล้วต่อด้วย สังขาตังโลกังวิทู ทั้งนี้ ก่อนจะทำพิธีอะไรก็ตามให้พึงตั้งนะโม 3จบ อาราธนาศีล 5 เสียก่อน แล้วขอบารมีพระตั้งแต่พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ เป็นที่สุดหรือสุดแท้แต่องค์ใดๆ ที่ท่านนับถือเพื่อขอแสงสว่างของบุญ สำหรับอ.ศุภรัตน์จะเติมต่อไปอีกว่าพระโพธิสัตว์ และมหาโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ขอความสัมฤทธิ์ผลจงปรากฏบังเกิด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้
ตั้งจิตอธิฐานขอเนื้อที่เป็นตารางเมตรหรือตารางวาในการตั้งศาล โดยมีเเท่นที่ตั้งเป็นเป็นเเท่นปูนสูง ๑ศอก หรือตามสภาพตามที่เเข็งเเรง เพื่อไม่ให้ศาลเอียง เพราะโบรานถือส่วนตรงกลางทำเป็นช่องช่องหลุมลึก เนื้อที่คือ๑คิวบิคคือ กว้างx ยาวx สูง๑ฟุตใส่ทรายไว้ให้เต็มหลุมเพื่อตอกไม้มงคลทั้ง๙อั้นได้เเก่ไม้ขนุน ไม้พยุง ไม้สัก เป็นต้น โดยตอกทั้ง๘ทิศ ตรงกลางเพื่อตอกให้ไม้ไผ่สุก ผู้ที่ทำการตอกให้เจ้าบ้านเป็นคนทำ โดยอธิฐานทีละต้น ด้วยคาถาอิติปิโสเเปดทิศ เรียงไปตามเข็มนาฬิกาโดยเริ่มจากทิศเหนือ จนครบทั้ง๘ ตรงกลางด้วยไม้ไผ่สีสุก หมายถึงความสูข ท่องด้วยบท นิพพานัง ปรัง สุขัง นิพพานังปรมังสูญญัง เมื่อครบเเล้วนำใบพุทธรักษาปูวางบน หลุมจนเต็ม ถ้ามีอิฐเงิน อิฐทอง นาค รวมทั้งเเผ่นโลหะก็วางจนครบ ใส่เงินลงไป๙บาทเป็นการซื้อที่ หรือเงินจะมากน้อยตามเเต่สถานะ โปรยข้าวตอกดอกไม้ ดอกดาวเรืองบานไม่รู้โรย ดอกรัก ใบเงิน ใบทอง ใบนาค ถึงพิธีสำคัญ คือการตั้งเสาพระภูมิให้ตั้งจิตภาวนาพระคาถาว่า ปฐวียังกกุสันโธ หมายถึงผื้นดินนี้ให้อยู่ในการคุ้มครองของพระกกุสันโธพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์เเรก ของภัทรกัปนี้ เเเล้วยกวิมานพระภูมิขึ้นบนศาลสวดด้วย อากาเสจะทีปังกะโร วิมานนี้ขอให้พระทีปังกรพุทธเจ้าทั้ง๒๘พระองค์ เป็นผู้ให้ความอนุเคราะห์รักษา หลวงพ่อท่านยังบอกอีกว่า บทนี้ใช้กันฟ้าผ่า เขาใช้เวลายกยอดปราสาทราชวัง
เมื่อตกแต่งศาลเรียบร้อยแล้ว ถึงคราวสำคัญคือการเชิญพระชัยมงคลเข้าประจำศาลโดยนำมาอธิฐานเป็นองค์พระตั้งอาการ 32 ขอบารมีพระพุทธเจ้าเพื่อให้เป็นพระชัยมงคลมหาจักรพรรดิ จะใช้บทมหาจักรพรรดิก็ได้ถ้ามีฆ้องหรือเพลงสาธุการก็เปิดสมโภชน์ ในขณะเชิญขึ้นศาลถ้ามีพระสงฆ์ท่านจะสวดชยันโตถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรสวดเองได้ แล้วก็ตั้งบริวารชายหญิง ช้างม้าตุ๊กตาประจำศาล กระถางธูปเชิงเทียน ดอกไม้พวงมาลัยถวายผ้าสามสีอย่าผูกเงื่อนตาย อธิฐานขอความร่มเย็นเป็นสุขแล้วตั้งเครื่องบวงสรวง ซึ่งปูด้วยผ้าขาว. เทียนธูปบูชาพร้อมปักเครื่องสังเวยถวายพระชัยมงคล
สิ่งทั้งหมดนี้เป็นอามิสบูชาก็จริงแต่เป็นประเพณีวัฒนธรรมซึ่งมีมานานแล้วอย่าถือว่าเป็นเรื่องไร้สาระถ้าทำได้ก็ดี หลวงปู่ท่านบอกว่าทำแบบนี้ " เค้าเรียกว่าซ่อนพระพุทธเจ้าคนไหว้จะได้ บุญเดี๋ยวนักปราชญ์ทั้งหลายจะหาว่าขาดไตรสรณคมน์การตั้งแบบนี้จะได้มีเทวดารักษาไม่ใช่ผีกะเลวกะราดมารักษา
การทำพิธีหลังจากบวงสรวงโดยกล่าวชุมนุมเทวดาแล้วท่านให้สวดบทอิติปิโส พาหุงมหาการหรือบทใดก็ได้ ที่เนื่องด้วยพระพุทธเจ้าเป็นการสักการะพร้อมขอพลังบุญญาบารมี เมื่อธูปเครื่องสังเวยหมด จึงขอส่วน อันเป็นมงคลโดยใช้คำว่า " เสสัง มังคะลา ยาจามิ "
เป็นอันเสร็จพิธี
ปกิณกะ เกี่ยวกับศาลพระภูมิ
1. พระภูมิ คือ ภุมมเทวดา อันรักษาภาคพื้นดิน
2. เจ้าที่ คือ เจ้าของที่ดินนั้นบางแห่งจึงมีตั้งศาลสี่เสาหรือศาลตายายซึ่งตามความเห็นอาจารย์จะตั้งหรือไม่ตั้งก็ได้แล้วแต่สะดวก ตามกำลัง ฐานะ
3. ถ้าเป็นตำราของหลวงปู่ การหันหน้าศาลให้หันทางทิศเหนือ (ทิศพระโพธิสัตว์) ทิศตะวันออก(พระพุทธเจ้าตรัสรู้) หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือยกเว้นทิศใต้(หลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกเงินไม่เหลือ) ทิศตะวันตก(หลวงปู่ว่าเป็นทิศของผี) และทำเลที่ตั้งควรให้เป็นที่สะอาดอยู่หน้าบ้าน
4. ถ้าบ้านใดไม่มีที่ท่านให้อธิษฐานบ้านหลังนี้ข้าพเจ้าขอถวายให้พระภูมิเจ้าที่ท่านเห็นตรงไหนสมควรก็ขอเชิญท่านอยู่ได้ตามสบายและขอขมาโทษไว้ล่วงหน้าถ้ามีท่านใดในบ้านทำการประมาทเกินเลยขออย่าให้มีเวรภัยเลย (เป็นการบอกของหลวงพ่อเป้า วัดถ้ำพรสวรรค์)
ทางภาคเหนือมีการสืบทอดกันถึงคำทักเทวดาที่มี
ณ สถานที่แห่งต่างๆ เพื่อจะได้รับพรอันเป็นสิริมงคลถ้าคิดในทางโลก คือ ถ้าเรานี้คือเป็นผู้ใหญ่เราเป็นเด็กก็ควรที่จะนอบน้อมถ่อมตนไม่แสดงกิริยา ยโสโอหัง คำทักเทวดา อาจารย์ได้ปริวรรตเป็นภาษาทางภาคกลางแล้วดังนี้
ในวัด " อิมัสมิง อาราเมเทวตา วะสันตา สุขิตา โหนตุ"
ส่วนในวิหาร หมู่บ้านเปลี่ยนเป็น "วิหาเร" หมู่บ้าน "คาเม"ในป่า "อรัญเญ"ต้นไม้"รุกเข"หอเรือน"เคหะเน"ป่าช้า"สุสาเน"ในถ้ำ"คูหาเน"ภูเข"ปัพพะเต"แม่น้ำ"นทิเน"
หลวงพ่อปานวัดบางนมโคท่านเคยกล่าวไว้ว่า "อย่าอวดดีกับผี อย่าเก่งดีกับพระ "เพราะหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านบอก "ผีคือผู้ที่ตายไปแล้วมีทั้งดีและไม่ดี ผีดีคือเทวดาซึ่งมีทั้งอริยะและเทวดาธรรมดา ผีไม่ดีก็มีมาก พระที่เป็นอริยบุคคลก็มีมาก แต่ท่านไม่ได้แสดงตัวอวดศักดาว่า ฉันนั้นฉันนี้ถ้าได้จริงก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ได้ก็โกหก ถ้าเข้าใจผิดก็ผิดวินัยถ้าเพื่อลาภสักการะถือว่าปาราชิก
หลวงพ่อโอภาสีวัดบางมดท่านเคยให้คาถา "อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปถวี คงคาพระภูมมะเทวา ขมามิหัง"หรือถ้าหลวงปู่ดู่ ท่านให้สวดกรณียเมตตาสูตร หรือใช่บทสั้นๆว่า "เมตตัญจะสัพโลกัสมิงมานะ" หรือ "พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักวาฬัง สังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ"
สำหรับออกไปในที่ต่างๆเป็นการให้บุญและบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางจะป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย





***********************************

 

ทาน ในรัตนะ 7




ความไม่โลภ คือการบริจาคทาน

ตา ไม่โลภในรูปแปลกๆสวยๆงามๆก็คือการให้ทานด้วยรูปรัตนะ
หู ไม่โลภในเสียงเพราะๆคือการให้ทานด้วยเสียงรัตนะ
จมูก ไม่โลภอยากดมกลิ่นหอมๆ ก็คือการให้ทานด้วยกลิ่นรัตนะ
ลิ้น ไม่โลภอยากลิ้มรสชาติอาหารอันโอชะทั้งหลายก็คือการให้ทานด้วยรสรัตนะ
กาย ไม่โลภในอาภรณ์เครื่องประดับเลิศหรู ก็คือการให้ทานด้วย สัมผัสรัตนะ ใจ ไม่โลภในชื่อเสียงในผลประโยชน์ ในความรักความหลงใหล ทางกาม ก็คือการให้ทานด้วยธรรมรัตนะ


ภาวะเดิม ไม่โลภในความสุขทางโลกียะวิสัย คือการให้ทานด้วย พุทธะรัตนะ


หากบุคคลใดเห็นแจ้งในการให้ทานด้วยรัตนะ 7 ในกายโดยอิสระ โดยเสรี โดยไม่เป็นทาสกิเลสตัณหาอุปาทาน
บุญกุศลที่ได้รับจะประเสริฐเลิศล้ำยิ่งกว่าบุญญานิสงค์จากการให้ทานด้วย รัตนะ 7 ในโลกอันได้แก่ แก้ว แหวน เงิน ทอง ซึ่งเปรียบกันไม่ได้เลย แม้เพียง 1 ใน100 ใน1000 ใน10000 เปรียบเทียบกันไม่ได้เลย ด้วยการให้ทานด้วยรัตนะ7 ในกาย



เมื่อเรารู้จักให้ทานแล้วจิตจะเบื่อหน่ายคลายความยึดติด เมื่อจิตคลายความยึดติด จิตก็พ้นผ่องแผ้ว ญาณทัศนะก็บังเกิด ภพชาติที่เวียนว่ายตายเกิดก็จะสิ้นสุด ฝั่งพระนิพพานทุกคนไปถึงไปได้ด้วยการให้ทานด้วยรัตนะ 7 ในกายของคนเรา

 

เมาเม๊าเมา เมือง จันท์
‎ศรัทธาบารมี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม



เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้
เกิดขึ้นจริงภายในครอบครัวผม
ไม่ได้อ้างอิงแต่อย่างใดครับ
..ประมาณต้นเดือน ตุลาคมที่ผ่านมา ยายผมป่วยหนัก ปอดติดเชื้อ..เขาโรงพยาบาลอยู่13วันได้
...หมอให้กลับบ้าน..อาการไม่ดีขึ้นเลย
เพ้อตลอด เนื่องด้วยยายผม มีอายุมากแล้ว
90ได้.อายุของยาย ...กลับมาบ้าน นอนได้คืนที่2
ยายจะเพ้อถึงคนตายตลอด....
...ผมรุ้สึกไม่ดีเลย...กลัวใครจะมาเอายายไป..
(ผมเคยอ่านเจอในเพจปาฎิหารหรืออะไรเนี่ยแหละ
...เกี่ยวกับหลวงพ่อกวย..ช่วยลูกศิษย์....
ส่วนตัวผมก็คนชอบพระเครื่องอยู่แล้ว...ที่คอก็คล้อง
ติดตัวเพียงองค์เดียว..รูปหล่อปี33 ออกวัดทับขี้เหล็ก
ที่ไม่ทันหลวงพ่อ แต่เป็นลูกศิกษ์สร้าง..นั้นคืออาจาย์
ตั้ว )..ผมจึงตัดสินใจถอดพระออกที่คอ
เพื่อเอาไปคล้องที่คอยาย..ก่อนจะคล้องผมอธิฐาน
ถ้ายายหมดอายุไขก็ขอให้ไปอย่างสงบ
ถ้ายายยังมีชิวิตอยู่ต่อก็ขอให้ตื่นมา กินข้าว
เนื่องจากกลับมาโรงพยาบาล 2 วันยายไม่กินอะไรเลย ถ้าหายก็ขอให้หายเป็นปรกติก เหมือนที่ยายเคยเป็น
ด้วยบารมีหลวงพ่อกวยจงคุ้มครองยายผมด้วย
หลังจากผมอธิฐาษเสร็จ ผมก็นำพระใส่คอยาย
่เพราะนี่คือสิ่งสุดท้ายและความหวังสุดท้าย
ของผม ไม่มีใครหรอกครับที่จะอยากเห็นคนที่เรารักจากไป
โดยที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ผมเชื่อแบบนั้น
เข้าวันที่3 ปาฏิหารมีจริงครับ ยายตื่นมาร้องหิวข้าว
ผมดีใจมาก..ป้อนไปกินไม่กี่คำ.ยายก็อิ่ม
แล้วยายก็เล่าว่าเมื่อคืนยายฝันเห็นพระองค์นึง ยายไม่คุ้นเลย ถือไม้เท้าไล่ตียอดหญ้า.แล้วก็มาหยุด
ที่ยาย แล้วก็ถามว่าโยมจะไปไหน
พร้อมเอาไม้เท้าเคาะหัวยาย แล้วบอกโยมกลับไปช่ะ
(ในฝันยายบอกว่ายายนั่งอยู่ใต้ต้นมะพร้าวหน้าบ้าน)
...หลังจากนั้นยายก็ก้มลงกราบพระองค์นั้น แล้วท่านก็เดินหายไป .. พอยายเล่าจบ
ผมก็เดินไปหยิบโทรสับ พร้อมเปิดรูปหลวงพ่อกวยให้ดู ใช่องค์นี้ไหมยาย
ยายบอก "ใช่องค์นี้แหละยายจำได้ องค์นี้เลย
แล้วยายก็ถามว่าไปเอารูปท่านมาจากไหน ผมก็ไม่ได้ตอบ เงียบๆ.

..แล้วก็บอกยายนอนพักผ่อนนะครับ
..เรื่องนี้เกิดขี้นจริง ส่วนตัวผมเชื่อนะ ถ้าไม่เกิดขึ้น
กับตัวเองจะไม่มีทางรุ้เลย
ที่สุดของคำว่า ครูแรง ที่สุดของคำว่าหว่งศิษย์
พ่อเปรียบ เหมือนบิดาของศิษย์ทุกคน.
ก้มกราบพ่อกวยด้วยเศียรกล้า


*********************************************************************

 

*******************************************************************************************

 

( บันทึกจากผู้เจริญวิชชาธรรมกายท่านหนึ่ง และแนวทางพิสูจน์ความเป็นไป
ว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำ(สด จันทสโร) ท่านอยู่ที่ใด )

หลวงพ่อสดอยู่ทุกธาตุทุกธรรม ส่วนละเอียดท่านก็สอนอยู่ในพระนิพพานด้วย นั่นส่วนละเอียด

เมื่อทำวิชชาไปจนสุดละเอียดจะเข้าสู่ปราสาททำวิชชา จะถึงพระพุทธเจ้าต้นธาตุฯอยู่ตรงกลางแวดล้อมด้วยกลางธาตุผู้ทำหน้าที่ปัจจุบัน เราจะเห็นผังสำเร็จของวิชชาธรรมกายตรงนั้น ใครเป็นใครเป็นได้รู้เห็นกันหมด เราจะเชื่อมกับหลวงปู่สดที่ตรงนั้นเป็นมาตรฐานเสมอ ไม่ใช่ที่อื่นๆ

ส่วนหยาบก็อยู่ในภพ 3 จะมีผู้พบเห็นท่านได้ในสวรรค์และพรหมโลกทุกชั้น สำหรับส่วนหยาบในภพ 3 ที่ชัดเจนมากคือ ชั้นดุสิต เป็นท้าวสันดุสิตองค์หนึ่ง แต่ในทางวิชชาเราเชื่อมต่อที่สุดละเอียด

ส่วนบางสำนักหรือสาธุชนท่านใด มีกำลัง มีความเชื่อ ที่จะเชื่ออย่างไร ก็ตามวินิจฉัยของแต่ละท่านครับ

 

ทุกอิริยาบถ ถ้าเราเห็นพระได้ จิตของเราจะไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เคลื่อนจากความดี พระมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง ไหว้ตรงไหนก็เจอ

คติธรรมคำสอนโดย... หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

Graphics by... ชยปุญฺโญ ภิกขุ (อธินันท์ อ่ำบุญ) Athinan Aumboon บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2552 ณ วัดป่าดาราภิรมย์ (พระอารามหลวง) ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

 

*********************************************************

 

หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน เมตตาบอกคาถาบารมี 30 ทัศต่อด้วยนะโมพุทธายะ ให้นำไปภาวนาทุกวัน แล้วอฐิษฐานนึกถึงภาพพระครอบตัวของเรา, คนในครอบครัวของเรา, บ้านของเรา จะได้ผ่อนกรรมหนักให้เป็นกรรมเบาลง


ถ้าทุกคนช่วยกันภาวนาพระคาถาบทนี้ ก็จะเป็นการช่วยผ่อนกรรมของประเทศได้อีกด้วย.



****************************************

 

...ถ่ายทอดสดการตอบปัญหาถึง20.30น. และสวดจักรพรรดิถึง 21.10 น.

https://www.facebook.com/ask.luangta/