@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969




    **************************************************


    วันนี้...ท่านกลับไปพักชั่วคราว

    เปลี่ยนร่างใหม่

    รอวันท่านกลับมา ยังต้องร่วมทางตามรอย เก็บรายละเอียดอีกมาก นานแสนนานนับอสงไขยไม่ถ้วน


    กราบส่งหลวงป๋าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2018
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    คำอธิษฐาน

    โดย
    พระเทพญาณมงคล (เสริมชัย ชยมงฺคโล) ( หลวงป๋า )
    เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี




    ขอกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ประกอบบำเพ็ญไว้ด้วยดีแล้ว
    มีทานกุศล ศีลกุศล ภาวนากุศล
    และการอุทิศแผ่ส่วนกุศลนั้น แก่สรรพสัตว์โลกทั้งหลายเป็นต้นนี้
    ตั้งแต่อดีต จนตราบเท่าถึงปัจจุบัน

    จงเป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย
    ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ปราศจากกิเลสนิวรณ์ และวิปัสสนูปกิเลสทั้งหลาย
    ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีปัญญาอันเห็นชอบในพระอริยสัจทั้ง ๔ และได้ดวงตาเห็นธรรม
    ขอให้สิ้นอาสวกิเลส ตัณหา อุปาทาน
    และได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ฝ่ายสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว
    และขอจงเป็นพลวปัจจัยเกื้อหนุนข้าพเจ้า

    ๑.ให้แตกฉานในพระไตรปิฎก
    มีพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และ พระอภิธรรมปิฎก

    ๒.ให้ถึงพร้อมด้วยจรณะ ๑๕ ธรรมเครื่องยังให้เกิดและเจริญ โพธิปักขิยธรรม
    องค์ธรรมเครื่องตรัสรู้ ๓๗ ประการ อันประกอบด้วย
    ทิพพจักขุ ทิพพโสต สมันตจักขุ ปัญญาจักขุ ธรรมจักขุ และพุทธจักขุ อันบริสุทธิ์
    พร้อมด้วยวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ และจตุปฏิสัมภิทาญาณ
    (สำหรับผู้ปรารถนา พุทธภูมิ พึงอธิษฐานเพิ่มว่า .....
    ให้เจริญด้วย อาสยานุสยญาณ และ อินทริยปโรปริยัตตญาณ ธรรมเครื่องช่วยในการโปรดสัตว์)

    ๓.ให้ได้เข้าถึง ได้รู้ เห็น และเป็นพระธรรมกายมรรค ผล และพระนิพพาน
    คือ ธรรมกายที่บรรลุพระอรหัตตผลแล้ว
    ทำให้แจ้งทั้งพระนิพพานถอดกาย และทั้งพระนิพพานเป็น โดยพลัน
    ให้ได้ตรัสรู้ในธรรมที่ควรรู้ ทั้งสังขตธาตุสังขตธรรม
    และอสังขตธาตุอสังขตธรรมทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง
    ให้สามารถละธรรมที่ควรละ ให้สามารถเจริญในธรรมที่ควรเจริญ
    มุ่งตรงต่อมรรคผลนิพพาน ที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ทั้งปวง

    ๔.ขอให้ได้บุญศักดิ์สิทธิ์ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ เฉียบขาด เป็นทับทวี
    ตามศักดิ์แห่งบารมี และหน้าที่ทนายแห่งพระพุทธศาสนา

    ๕.ขอให้ข้าพเจ้าได้ชนะศัตรู คือ กิเลสมาร ขันธมาร มัจจุมาร
    และอุปาทานในอภิสังขารมาร ด้วยตัณหาและทิฏฐิ คือ ความหลงผิด
    และขอให้พญามารทั้งหลายและบริวาร จงอย่าได้ช่อง
    เข้าครอบงำ ขัดขวาง และทำลายการบำเพ็ญบารมีแห่งข้าพเจ้า
    ตลอดทั้งเพื่อนผู้ร่วมบำเพ็ญบารมีทั้งหลายของข้าพเจ้าได้

    ๖.ให้ได้รู้ถูก เห็นถูก ในธรรมที่ควรรู้และควรเห็น
    ให้เป็นผู้คิดถูก พูดถูก กระทำถูก นำผู้อื่นถูก
    และทรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาของพระบรมศาสดาตลอดไป ในกาลทุกเมื่อ

    ๗.ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ฉลาดในอุบาย แห่งความเจริญและความเสื่อม
    เป็นผู้เฉียบแหลมในอรรถ และ ในธรรม

    ๘.ขอให้สุข สมบูรณ์ บริบูรณ์ ด้วยปัจจัย ๔ สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลาย
    มียวดยานพาหนะ และเครื่องใช้สอยต่างๆ เป็นต้น
    ขึ้นชื่อว่าความขาดแคลนในสิ่งเหล่านี้ อย่าได้มี

    ๙.แม้ว่าข้าพเจ้าจะยังอาภัพอยู่ ยังจะต้องท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสาร
    ก็ขอให้ได้เกิดในฤกษ์สร้างบารมี บริบูรณ์ด้วยสมบัติ ๖ ประการ คือ
    กาลสมบัติ ชาติสมบัติ ตระกูลสมบัติ ประเทศสมบัติ ทิฏฐิสมบัติ และอุปธิสมบัติ
    ให้ได้มีโอกาสศึกษาและปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ตามแนวทางพระพุทธศาสนา
    และขอให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้
    ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว ไม่กระทำอกุศลกรรมอันจะนำไปสู่อบายภูมิอีก
    และถ้าหากยังมีเศษกรรมเหลืออยู่ ก็ขออย่าได้ถึงฐานะแห่งความอาภัพต่างๆ

    ๑๐.เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ก็ขอให้ได้เพศบริสุทธิ์ เป็นชาย ให้ได้บรรพชาอุปสมบท
    เป็นผู้มีอายุยืนกว่าอายุขัยของมนุษย์ในกาลนั้นตามปรารถนา
    และแม้ว่าจะผ่านวัยกลางคน ก็ขอให้มีพลานามัยแข็งแรง
    อายตนะภายในดีเลิศ และสุขภาพจิตใจดีเลิศ

    ๑๑.ขอให้ข้าพเจ้าไม่พึงคบมิตรชั่ว ให้พึงคบแต่บัณฑิตในกาลทุกเมื่อ
    และขอให้ข้าพเจ้าเป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดี คือ
    เป็นผู้มีศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ ประกอบด้วยความเพียรและขันติ
    พึงเว้นจากเวรทั้ง ๕ ไม่เกาะเกี่ยวในกามคุณทั้ง ๕
    พึงเว้นจากเปือกตม คือ กาม
    พึงยินดีในการรักษาศีล เจริญสมาธิ ปัญญา
    วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ โดยสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว




    *** ที่มา
    หนังสือ ทางมรรคผลนิพพาน
    ธรรมปฏิบัติถึงธรรมกายและพระนิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2018
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    43548863_1989883867755509_996534048778092544_n.jpg
     
  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    43590333_2013050775420968_7264976978350964736_n.jpg

    ☆ในป้ายคำสอน เป็นเพียงการสรุปคำ
    โปรดฟังเพิ่มเติมจากคำสอนวันที่ 8 ต.ค.61
    คลิก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2018
  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    ******
    ...คฤหัสถ์ผู้ปฏิบัติผิดในภิกษุสงฆ์นั้น ด่า บริภาษภิกษุสงฆ์ ย่อมบังเกิดใน อบายทั้งหลาย มีนรกเป็นต้น เพราะเหตุนั้น ภิกษุสงฆ์นั้นท่านเรียกว่า ทักขิเณยยัคคิ ไฟคือทักขิเณยยบุคคล เพราะอรรถว่าตามเผาผลาญ...

    ดูรายละเอียดใน อรรถกถาปฐมอัคคิสูตร
    http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=43
    และในปฐมอัคคิสูตร อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต
    http://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=23&siri=43



    ?temp_hash=f0f31f9607a3680b6f0aa2b5ff65a844.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    พุทธนิมิต-ภูติพระเจ้า( ตอนที่ ๑)


    ภูตินี้หมายถึงพลังงานที่ยังหลงเหลืออยู่ เสมือนไฟที่เราก่อไว้แม้ดับลงไปแล้ว เมื่อเราเอามือไปจับจะรู้สึกยังมีความร้อนสะสมอยู่ แต่สำหรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พลังงานของท่านที่บริสุทธิ์ ซึ่งท่านอธิษฐานไว้เพื่อช่วยเหลือศาสนา อันเปรียบเสมือนตัวแทนของพระองค์แม้ทิ้งสังขารไปแล้ว
    แรงบันดาลใจที่ทำให้หลวงปู่ดู่ต้องการมาศึกษาเรื่องนี้คือว่า มีชาวบ้านคนหนึ่งกลืนพระวัดตระไกรลงไปในท้อง แล้วมาปรึกษาหลวงปู่ว่าจะทำอย่างไร ท่านบอกว่าให้ลองเอาผ้าขาวปูเวลานอนหลับ พอตอนเช้าพระก็ออกมาที่ผ้าขาว ซึ่งหลวงปู่คิดว่า การที่พระออกมาที่ผ้าขาวได้นั้น แสดงว่าพระจะต้องมีพลัง พลังอันนี้คือภูติพระเจ้า การเคลือนที่ของพระยังมีอีกมาก กรณี หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ตะกรุดโลกธาตุ บางคนเผลอกลืนเข้าไป ท่านจะสั่งให้เอาผ้าขาวปู พอตกกลางคืนเขาพยายามดูว่าตะกรุดออกมาตอนไหน จนกระทั่งหลับ เมื่อตื่นปรากฎว่าตะกรุดออกมาอยู่บนผ้าแล้ว แสดงว่าพลังงานของ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ถึงแม้จะปรินิพพานไปแล้วยังคงมีพลังงานเหล่านี้อยู่
    ส่วนเรื่องข้อขัดแย้งระหว่างหลวงปู่ดู่กับอาจารย์เฮง ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงปู่สี อาจารย์เฮงจะทำในด้านเกี่ยวกับพรหม คือเชื่อว่าพรหมยังมี แต่ขณะเดียวกันจะถือว่า พระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์พอเข้านิพพานแล้วก็สูญ ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีพลังเหลือ หลวงปู่จึงถามท่านว่า อาจารย์เคยไปพระปฐมเจดีย์แล้วเห็นพระธาตุเสด็จหรือเปล่า ท่านบอกว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย คือสมัยที่เป็นเสือป่าตามเสด็จรัชกาลที่ ๖ เมื่อครั้งยังเป็นพระบรมโอรสาธิราช ในคืนนั้นพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าได้เสด็จออกจากพระปฐมเจดีย์ ระยะหนึ่งแล้วก็กลับมาโดยมีรัศมีสีเขียว เป็นลูกกลมเท่าผลส้มเกลี้ยง อธิบายในแนววิทยาศาสตร์ คือ พระธาตุเป็นสสาร (รูป) และมีพลังงาน (นาม) ประกอบกัน จึงเกิดการขับเคลื่อนไปได้ตามทฤษฎีอะตอม ของ ดอลตัน กล่าวว่า สสารและพลังงานย่อมไม่สูญหายไป เปลี่ยนรูปร่างไปได้ตามสถานะ" เช่นนั้นมีทั้งของเหลวของแข็งและก๊าซ ซึ่งในการเห็นครั้งนี้รัชกาลที่ ๖ พร้อมทั้งข้าราชบริพารที่เสด็จก็เห็นโดยทั่วกัน พระองค์จึงทรงมีพระราชหัตถเลขาไปถึงพระราชบิดา โดยทรงอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ว่า "อาจจะเกิดจากสารเรืองแสง แต่ทรงมีข้อสงสัยว่าน่าจะต้องเกิดขึ้นหลังจากที่ฝนตก แต่การเสด็จของพระธาตุนั้นเกิดขึ้นในขณะที่ฟ้าโปร่ง" รัชกาลที่ ๕ ได้มี พระราชหัตถเลขาตอบมาว่า "ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนี้เพราะพระองค์พร้อมทั้งข้าราชบริพารได้เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของพระ พุทธานุภาพ คือ เป็นบารมีของพระบรมสารีริกธาตุนั้นเอง ตรงนี้อาจารย์เฮงบอกว่าตนเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย หลวงปู่จึงได้บอกว่า "ถ้าพระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุเคลื่อนที่ไปได้ก็แปลว่า จะต้องมีพลังงานในการขับเคลื่อนซึ่งพลังและบารมีนี้ก็แสดงว่า ไม่ได้สูญหายไปไหน " หลวงปู่ยังกล้าวอีกว่า "กระดูกคนตายหลายร้อยหลายพันราย เห็นทิ้งกันเกลื่อนกลาดดาษดื่น ถ้าภูติพระพุทธเจ้าหมดไปแล้วพระบรมสารีริกธาตุจะเสด็จไปได้อย่างไร "อาจารย์เฮงนั้งเงียบไม่สามารถจะหาข้อมาโต้แย้งกะบท่านได้เพราะการที่พระธาตุเสด็จ ก็เสด็จไปด้วยอำนาจของภูติเหล่านี้

    พุทธนิมิต-ภูติพระเจ้า (ตอนที่๒)
    เมื่อหลวงปู่ดู่กล่าวจบ ท่านได้เล่าความฝันให้ฟังต่อว่า "มีพระสงฆ์องค์หนึ่งรูปร่างใหญ่ผิวดำมาบอกว่า "ถ้าท่านต้องการของดีทำไมไม่หาภูติพระเจ้าให้พบ"แล้วพระองค์เดียวกันนั้นท่านเขียนคาถาใส่ธง ๓ ธง ขณะเขียนท่านเอียงข้างเขียน จึงมองไม่เห็นว่าเขียนอะไรเสร็จแล้วท่านเอามือตบที่ธง ๓ ครั้ง ธงก็ลอยขึ้นไปพะยาบพะเยิน หลวงปู่จึงตื่นขึ้น อีกครั้งหลวงปู่ฝันเห็นพระองค์หนึ่งท่านแบกใบลานเข้ามาบอกจะเอามาให้กิน หลวงปู่บอกว่า "ผมจะกินเข้าไปได้ยังไงใบลานตั้งแบก ท่านบอกว่ากินได้ประเดี๋ยวท่านจะทำให้ ท่านก็เผาใบลาน พอดีหนูเจ้ากรรมกระโดดตกลงขนบาตร เลยตกใจตื่นไม่ทันได้กิน"ซึ่งแสดงว่าท่านต้องเคยได้มาแล้วในอดีต เกิดเป็นแรงบุญบันดาลใจให้เกิดความฝันทำให้หลวงปู่คิดจะค้นคว้าว่า ภูติพระเจ้า หรือ พลังงานของพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน มีจริงหรือไม่ สำหรับพระสงฆ์องค์ที่หลวงปู่พบในฝัน คือ หลวงปู่ทวดนั้นเอง แสดงถึงบุญบารมีเก่าที่สร้างมาทำให้เกิดนิมิตขึ้นได้ นเรื่องนี้พระพุทธโฆษจารย์พระภิกษุยุคหลังพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว เป็นชาวเมืองสุธรรมวดี ตามคำกล่าวบวงสรวงสังคยานา สมัย ร.1 และกรมพระราชวังบวร ท่านเป็นผู้เดินทางแปลพระไตรปิฏก จากภาษาสิงหล แล้วนำกลับมาไทย ได้เขียนไว้ในอรรถาบทขุททกนิกายภาค ๖ ว่าด้วยตอนพระพุทธเจ้าแสดงปฏิหาริย์เสด็จขึ้นไปแสดงธรรมโปรดพุทธมารดายังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทรงแสดงอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดาติดต่อกัน ๑ พรรษา ตามเรื่องก็ว่า พระพุทธมารดาทรงฟังธรรมต่อเนื่องตลอด ๑ พรรษา เวลาใดพระพุทธเจ้าเสด็จไปบิณฑบาต เวลานั้นพระพุทธเจ้า จะทรงเนรมิตสิ่งที่เรียกว่า พระพุทธนิมิต ซึ่งเหมือนท่านทุกประการ ทำหน้าที่แสดงธรรม โดยพระพุทธเจ้าองค์จริงทรงแสดงธรรมถึงไหนแล้วหยุดตรงใดเพราะออกบิณฑบาต พระพุทธนิมิตก็เข้ามาทำหน้าที่แสดงต่อจากตรงนั้น ครั้นพระพุทธเจ้าทรงฉันอาหารเสร็จแล้วเสด็จมาแสดงธรรมต่อจากที่พระพุทธนิมิตได้แสดงไว้ ส่วนพระพุทธก็หายไปเป็นอย่างนี้ตลอด ๓ เดือน
    หลวงปู่เคยเล่าว่าครั้งพุทธกาลพระอรหันต์ ๑๒๕๐ รูปที่มาประชุมกันในวันมาฆบูชาเพ็ญเดือน ๓ นั้น ท่านได้ภูตพระเจ้าหรือพุทธนิมิตนี้ ท่านจึงมีใจตรงกันที่มานมัสการพระพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้าได้ประทาน โอวาทปาติโมกข์
    ดังนั้นคำว่า ภูติพระเจ้า ที่หลวงปู่กล่าวถึง คือพลังงานบริสุทธิ์ที่ยังคงอยู่ ไม่ได้เสื่อมสูญหายไปไหนขอให้นักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ได้โปรดเข้าใจ สิ่งใดก็ตามที่ทางโลกไม่รู้ไม่เห็นด้วยตาเปล่า หรือยังพิสูจน์ไม่ได้ เขาจะพูดว่าไม่มีไม่ได้สำหรับทางธรรมนั้น การเรียนรู้ถึงกิเลส เป็นสิ่งละเอียดเกินกว่าทางโลกจะเข้าไปสัมผัสได้ถึง จึงมิควรจะกล่าวว่าสิ่งนั้นไม่มี เหมือนกับเรามองไม่เห็นเชื้อจุลินทรีย์ได้ด้วยตาเปล่า แต่ถ้าใช้กล้องจุลทรรศน์ที่ทางโลกประดิษฐ์ขึ้น ก็สามารถเห็นได้ จนมีการประดิษฐ์กล้องอิเล็กตรอนทำให้เชื้อโรคเป็นสิ่งไม่ลึกลับอีกต่อไป
    ส่วนธรรมะของพระพุทธองค์นั้นมีอยู่สิ่งเดียวที่เราจะเข้าถึงได้ คือ การเรียนรู้ถึงเรื่องจิตใจอันเป็นสิ่งที่ต้องประพฤติปฏิบัติด้วยตนเอง เรียกว่า "ปัจจัตตัง" ทำให้เราเป็นคนฉลาด คือ กุศลกรรมบังเกิดขึ้นและจะไม่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการสบประมาทต่อสิ่งที่เราคิดว่าไม่มี เพื่อไม่ให้เกิดผลกรรมที่ตัวเองเป็นผู้กระทำโดยไม่ได้ตั้งใจ
    กล่าวโดยสรุปเมื่อปี ๒๕๒๘ ที่วัดสะแกได้เกิดพุทธนิมิตขึ้นคือ เกิดขึ้นที่พระพุทธรูปแก้วน้ำหรือสิ่งต่างๆมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปเป็นวิมานแก้วหรือรูปหลวงปู่เองก็ดี รูปพระสงฆ์องค์อื่นก็ดี มีพุทธศาสนิกชนมาดูกันมากมาย แล้ววิจารณ์ไปต่างๆนาๆว่าเป็นการสะท้อนของแสงหรือไม่ แต่พิสูจน์กันอย่างจริงจังแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเป็นภาพลวงตา หรือ แม้แต่ภาพหลวงปู่ในงานลอยกระทง เกิดเส้นแสงของพลัง(พระ)เกิดขึ้นพลังงานนี้ไม่ใช่เฉพาะหลวงปู่ดู่องค์เดียว ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานหล่อพระที่วัดพุทธไธฯวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ เป็นพระพุทธรูปปางอู่ทองซึ่งนำไปไว้ที่วัดถ้ำเมืองนะ เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่หลวงปู่ดู่ ในเทปวิดีโอที่ปรากฏขึ้นมานั้นมีลักษณะของวิมานแก้ว และลักษณะของพลังรัศมี ๖ ประการ
    สิ่งเหล่านี้ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า "อภิญญา"คือความรู้ยิ่งดังนั้นในเรื่องที่เกี่ยวกับพุทธนิมิต สิ่งที่เป็นตัวเสริมเหล่านี้มีจริงนั้น ก็ต้องอยู่ที่มีประพฤติปฏิบัติ เพราะบุคคลที่ประพฤติปฏิบัติแล้วไปพบพระพุทธเจ้า พบหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด จ เป็นเครื่องเจริญศรัทธา มีความก้าวหน้าเจริญยิ่งๆขึ้นไป สำหรับผู้มีปัญญาแล้ว การได้มานมัสการก็ดี ได้ชมพุทธนิมิตด้วยตนเองก็ดี จะเป็นภาพติดตาติดใจ เป็นพุทธานุสติกรรมฐานอีกด้วย ดังคำหลวงปู่ดู่ที่ว่า
    "ดูแล้วให้จำ จำแล้วเอาไปทำ (ปฏิบัติ)ที่บ้าน
    ถ้าเราทำเป็น ทำที่บ้านเราก็เห็น ไม่ต้องมาวัดหรอก"



    43828521_1006649516185678_5351302772895514624_n.jpg



    *********************************************

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    ภาวนาคาถาชินบัญชรจนได้อภิญญา

    ถาม : ได้สมาธิอยู่ค่ะ เวลาสวดมนต์เราน้อมจิตสวด...ถูกไหมคะ ? มีบทพาหุงฯ มงคลจักรวาฬน้อย ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก แต่จะดูหนังสือด้วย จะสวดยาวโดยไม่ดูหนังสือไม่ได้ บทที่จำได้มีแค่ชินบัญชร ?

    ตอบ : เอาให้ได้ก็แล้วกัน ครูของอาตมาภาวนาคาถาชินบัญชรวันละ ๕๐๐ จบ ท่านเป็นครูสอนอาวุธศึกษาให้กับอาตมาสมัยเป็นฆราวาส มีอยู่ช่วงหนึ่งท่านหมดลมไปแล้วและไปเจอพระ คือ หลวงพ่อโต วัดระฆัง

    หลวงพ่อโตท่านถามว่า "ต้องการให้ช่วยอะไรบ้าง ?"
    ครูกราบเรียนว่า "ยังเขียนนิยายเรื่องยาวยังไม่จบ (ท่านเขียนเรื่องเพชรพระอุมา) ถ้าหากว่าหลวงปู่ช่วยให้มีชีวิตอยู่จนเขียนนิยายจบได้ จะภาวนาคาถาชินบัญชรถวายวันละ ๕๐๐ จบ"

    แล้วครูก็ฟื้นกลับมาจริง ๆ ตั้งแต่นั้นมาท่านก็ภาวนาคาถาชินบัญชรทุกวัน ๆ ละ ๕๐๐ จบ จะไปทำงานทำอะไร สติจะอยู่กับการภาวนาตลอด เวลาท่านขับรถไปทำงาน ไปสำนักพิมพ์ หรือไม่ก็ออกไปทดสอบอาวุธตามสนามอาวุธต่าง ๆ หรือหน่วยทหาร ไปถึงตรงไหนภาวนาได้กี่จบท่านจะรู้ตลอด ท่านมีสมาธิขนาดนั้น คราวนี้ผลไปเกิดตรงที่ว่า พอสมาธิขนาดนั้นก็เกิดอภิญญาขึ้นมาเอง เพราะว่าตอนเด็กท่านมีพื้นฐานเรื่องคาถาจากปู่ จากพ่อและก็ครูพรานสอนมาอยู่แล้ว ก็พลอยทำให้ได้ผลมากขึ้น

    ครั้งหนึ่งฝรั่งเขาเอากระจกกันกระสุนมาให้ลอง จะเป็นแบบติดรถยนต์สำหรับผู้นำประเทศ เขายิงด้วยเอ็ม. ๑๖ จ่อยิงแล้วไม่เข้า ครูเขาบอกว่า ใครเขาทดสอบแบบนั้น ยิงแบบนี้ไม่เข้าแน่นอนเพราะไปจ่อยิง ปืนจะมีขีปนวิถี คือระดับความเร็วของกระสุน หากทรงตัวได้ระดับ ถึงจะแสดงอานุภาพออกมาเต็มที่

    ครูเขาถอยออกมาประมาณ ๑๐ เมตร ยิงทะลุฉลุยไปเลย ฝรั่ง (บริษัทการ์เดียน) เขาไม่ยอม กลับไปผลิตมาใหม่หนา ๒ นิ้ว คราวนี้ใช้ปืนอะไรก็ยิงไม่ทะลุ กระทั่งปืนไรเฟิลยิงช้าง ขนาด .๔๕๘ แม็กนั่ม ก็ยิงไม่ทะลุ ยิงไปก็แค่ร้าวเป็นรอยแบบใยแมงมุมเท่านั้น เขาลองยิงจนกระทั่งมั่นใจว่าปืนสั้นปืนยาวกี่ชนิดยิงไม่ทะลุแน่ ครูเขาว่าขอลองอีกที แล้วก็หยิบกระสุนขึ้นมาหนึ่งนัด เป็นกระสุนเล็ก ๆ ขนาด .๓๐๘ วินเชสเตอร์แม็กนั่มแค่นั้น เป่าพ่วง..! แล้วยิงทะลุฉลุยเลย ฝรั่งยืนงง..! ครูเขาบอกว่าไม่ต้องกลัว เรื่องแบบนี้ในประเทศไทยมีคนทำได้ไม่มากนัก..!

    เมื่อท่านยอมทุ่มเทภาวนาคาถาชินบัญชรวันละ ๕๐๐ จบทุกวัน จึงเกิดฤทธิ์เกิดอภิญญาขึ้นมาเอง ฉะนั้น..เรื่องของคนที่เคยทำ มีของเก่าเอาไว้ ถึงวาระ ถึงเวลา สมาธิถึงเมื่อไร ก็ขนของเก่ากลับมาใช้ได้หมดเลย

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

    Cr. M Rangsiya Pensirisopa
     
  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    กรรมไม่ว่าจะเล็กน้อยปานใด ถ้าถึงวาระก็จะให้ผล +++

    พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาโดนตะขาบกัดงวดนี้ พิสูจน์ให้พระท่านเห็นชัด ๆ ว่า #ยันต์เกราะเพชรนี่กันได้จริง#เพราะพิษมาแค่ข้อเท้า #แล้วไม่สามารถที่จะขึ้นมาได้ ติดอยู่แค่นั้นแหละ เท้าอ้วนปี๋เลย ยังบอกกับพระว่า จริง ๆ แล้วโชคดีนะ ถ้าหากว่ากันไม่อยู่ ขึ้นมาถึงแล้วไข่ดันบวมนี่ อาตมาจะเดินไม่ได้แล้ว พอขึ้นมาแค่ข้อเท้าก็เดินได้ บิณฑบาตจนเสร็จ

    #กรรมเรื่องนี้ไม่แล้วไม่เลิกสักที เพราะทำมาชาติแล้วชาติเล่า #ถึงเวลาก็ไปวางขวากดักข้าศึก ดักคนบ้าง ดักช้างบ้าง #โดยเฉพาะช้างศึกเวลาเหยียบขวากก็ทรุดอยู่ตรงนั้นเลย ไปไหนไม่ได้ น่าสงสารมาก #จะเห็นว่าอาตมาเองโดนทีไรจะโดนแต่เท้าซ้ายนี่แหละ แทบจะไม่โดนเท้าขวาเลย

    ปีก่อนตอนเจริญกรรมฐานอยู่ที่วัดบางช้างเหนือ พวกผึ้งหลวงเข้ามาเล่นไฟกลางคืน จนหมดแรงตกลงกับพื้น อาตมาก็ยกหนอ..ย่างหนอ แล้วเหยียบเข้าให้พอดี ก็โดนผึ้งต่อยบวมแบบนี้แหละ แต่ก็ยังเดินหน้าตาเฉย #จนกระทั่งประธานพระวิปัสนาจารย์ท่านมาเห็นก็บอกว่า “อาจารย์ไปนั่งเถอะ ไม่ต้องเดินแล้ว บวมเยอะขนาดนี้” #ก็โดนในช่วงระยะนี้เหมือนกัน เพราะว่า มจร.ส่วนใหญ่ปลายปีก็เริ่มมีการปฏิบัติธรรมประจำปี #วาระกรรมก็มาตอนช่วงจังหวะอย่างนี้พอดี

    จะเห็นว่าพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า #กรรมเป็นของน่ากลัว อย่าคิดว่าเป็นกรรมดีเพียงเล็กน้อยแล้วไม่ทำ และอย่าคิดว่าเป็นกรรมชั่วเพียงเล็กน้อยแล้วไปทำ #กรรมไม่ว่าจะเล็กน้อยปานใด #ถ้าถึงวาระก็จะให้ผล"

    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗
    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี

    44389141_2236914599712166_6282936846469038080_n.jpg
     
  9. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    44335533_2419082534785451_1401516496621928448_n.jpg?_nc_cat=105&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    44447685_2028996187159760_4478259960274223104_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.jpg


    ย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน ใครจะไปคิดว่าภายในวัดสะแก จะมีพระภิกษุรูปหนึ่งที่อธิษฐานธรรมอยู่แต่ในกุฏิ ไม่ออกจากวัดตลอดชีวิต ตั้งแต่หนุ่มตราบจนวันสุดท้ายที่ละกายสังขาร พระภิกษุรูปนี้มีนามว่า หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน หลายคนที่บังเอิญไปพบท่าน จึงเพียงแค่ทำบุญถวายสังฆทานกับท่าน แล้วกราบลา บางคนอาจคิดว่าท่านเป็นพระธรรมดา เป็นที่น่าเสียใจและเสียดายยิ่งนัก

    แต่บัวยังมีสี่เหล่า ยังมีบางคนที่พอจะมีศรัทธา มีวาสนาบารมี ได้เรียนรู้การภาวนากับหลวงปู่โดยตรง ซึ่งหลวงปู่ท่านเมตตาสอนให้ตามความสามารถที่บุคคลนั้นๆพอจะรับได้

    หลวงตาม้า(สมัยเป็นฆราวาส) ได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่เป็นประจำ บางวันสนทนาธรรมกับท่านจนถึงดึกดื่น แม้จะกลับ หลวงปู่ก็ยังเรียกไว้ ราวกับต้องการจะถ่ายทอดธรรมะตลอดจนสรรพวิชาต่างๆให้มากที่สุด อาจเพราะหลวงปู่ท่านทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าว่า ฆราวาสผู้นี้เป็นพระโพธิสัตว์ ต่อไปภายภาคหน้า จะเป็นตัวแทนท่าน ทำประโยชน์ให้กับศาสนาอย่างยิ่งใหญ่

    วันหนึ่งหลวงปู่เข้าไปในกุฏิ แล้วหยิบกระดาษมาให้ ในกระดาษเขียนคาถาไว้อยู่ คาถานี้ท่านมอบให้หลวงตาและกลุ่มญาติธรรมที่มาด้วยกัน ท่านให้เอาไปสวด เรียกว่า "คาถาจักรพรรดิ"

    ต่อมาภายหลัง กลุ่มลูกศิษย์คนอื่นๆได้มีการเรียกว่าบทบูชาพระ ซึ่งก็มิผิด เพราะสามารถนำไปใช้สวดบูชาพระได้ แต่ดั้งเดิมท่านเรียกว่า "บทจักรพรรดิ"

    หลวงตาม้า(สมัยเป็นฆราวาส) เคยถามหลวงปู่ดู่ว่า ผมนี่จะได้บวชมั้ย?

    หลวงปู่ท่านไม่ตอบว่าบวชหรือไม่บวช ท่านบอกได้ใจความว่า เอ็งสวดไปเรื่อยๆเถอะ สวดทุกวัน สวดมนต์ภาวนาทุกวัน รักษาศีลเจริญภาวนาทุกวันอย่างนี้ เดี๋ยวก็บวช

    ด้วยความรักเคารพเทิดทูนหลวงปู่ดู่อย่างสุดหัวใจ ปฏิบัติธรรมชนิดที่เรียกได้ว่ายอมมอบกายถวายชีวิตอุทิศให้พระศาสนา หลังจากปฏิบัติอยู่กับหลวงปู่ดู่นับสิบปี ก็สละเพศฆราวาส กราบลาหลวงปู่ดู่ ออกบวชแล้วเดินทางขึ้นเหนือ เพียรบำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำโดยไม่ออกมานานถึง 4 ปีสมกับฉายา "วิริยธโร" (ผู้มีความเพียรอย่างยิ่ง)

    จากวันนั้นจนถึงวันนี้ หลวงตาท่านเป็นร่มโพธิ์ใหญ่ให้ศิษย์รุ่นหลัง เป็นผู้สืบทอดวิชาและปฏิปทาของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    หลวงตาย้ำเสมอว่า หลวงปู่ดู่ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านสอนให้นึกถึงหลวงปู่ดู่เสมอ เวลาจะทำกิจการงานใด ทางโลกก็ดี ทางธรรมก็ดี ให้นึกถึงท่าน เพราะบารมีของท่านมากมายมหาศาล ท่านช่วยเราได้ ขนาดวัดหลวงตาม้าอยู่ติดชายแดน ห่างไกลความเจริญเป็นอย่างมาก ท่านยังสามารถสร้างพระแจก สร้างวัด สร้างวิหาร สร้างที่พักให้คนที่มาปฏิบัติธรรม ทั้งหมดนี้หลวงตาบอกว่า เป็นเพราะบารมีหลวงปู่ดู่ เป็นเพราะบทจักรพรรดิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2018
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    ความเมตตาเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้า

    พระอาจารย์กล่าว่า "...พวกนี้ส่วนใหญ่เคยเป็นพ่อมดหมอผีมาก่อน #แต่เมื่อเป็นมิจฉาทิฐิ #ตายแล้วไปเสวยทุกข์ในนรก #พ้นขึ้นมาก็มาเป็นมหิทธิกาเปรตหรือกาลกัญจิกอสุรกาย มิจฉาทิฐิเต็มหัวอยู่ ถือตนเป็นใหญ่ #ก็มักจะตั้งตนเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ พอเราไปในเขตของเขาถ้าไม่ชอบใจนี่เขาก็เล่นงานเลย

    ถ้าเจอผีระดับนั้นเที่ยง ๆ ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก อาตมาเจอนี่..เที่ยง ๆ #เดินทะลุข้างฝามาเลย #ตัวใหญ่เกือบเท่าภูเขา #เอื้อมมือกำอาตมาอย่างกับเด็กกำตุ๊กตา ไปนึกถึงตุ๊กตาขอฝนของญี่ปุ่น เหมือนตัวเราเหลือประมาณแค่นั้นเอง แล้วตัวเขาจะใหญ่แค่ไหน ? พยายามใช้อะไรก็สู้เขาไม่ได้ เพราะเขาอยู่ในความเป็นทิพย์ มีความคล่องตัวมากกว่า

    ท้ายสุดก็ตัดสินใจว่า “#ตายก็ตายละวะ #ในเมื่อตายก็ควรตายอย่างผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์#จึงแผ่เมตตาให้เขา ปรากฏว่าไปขี้ตรงร่องท่าไหนก็ไม่รู้ #เขาแพ้เราตรงนี้ #พอแผ่เมตตาตัวเขาก็หดเล็กลง#ท้ายสุดเราก็ใหญ่กว่าแบบนี้เอ็งก็เสร็จข้าแหละ..!

    ฉะนั้น..พวกเราไปลองดูได้นะ #ถ้าเราแผ่เมตตาด้วยความจริงใจ บางทีก็ชนะได้ทุกอย่าง #เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านยืนยันว่าเป็นอาวุธของท่านท่านเรียกว่า "#อาวุธพระพุทธเจ้า" หลวงปู่ดู่ท่านเรียก "#พระขรรค์เพชรพระพุทธเจ้า" ก็คือบท เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปริมาณังฯ เรียกง่าย ๆ ว่าบทกรณีฯ ที่ขึ้นด้วย กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะฯ นั่นแหละ ไปไหนให้ภาวนาเอาไว้จะปลอดภัย #อาตมาเสกพระขรรค์โสฬสก็ด้วยบทนี้แหละ ไม่มีคาถาอะไรมากกว่านี้หรอก"

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.(หลวงพ่อเล็ก สุธัมมปัญโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๗



    44522740_2244761685594124_1150414313152839680_n.jpg?_nc_cat=105&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.jpg
     
  12. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    ยศและลาภ หาบไป ไม่ได้แน่
    มีเพียงแต่ ต้นทุน บุญกุศล
    ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน
    แม้ร่างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ

    เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า
    เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน
    เจ้ามามือเปล่า เจ้าจะ เอาอะไร
    เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา
    (พระราชดำรัส ร.5)



    ?temp_hash=8a42fc26e776c6934c1beee81d4bd6f1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    ภาพหล่อพระจักรพรรดิ กินบ่เสี้ยง 5 องค์ เช้านี้ที่วัดถ้ำเมืองนะ ขณะนี้กำลังจัดขบวนผ้ากฐินและบริวารครับ โมทนาบุญ น้อมกุศลทุกท่านครับ


    ?temp_hash=34a1cac88a3aac122d7cd4f5a33e1410.jpg

    ?temp_hash=34a1cac88a3aac122d7cd4f5a33e1410.jpg

    ?temp_hash=34a1cac88a3aac122d7cd4f5a33e1410.jpg


    ?temp_hash=34a1cac88a3aac122d7cd4f5a33e1410.jpg


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    ?temp_hash=34a1cac88a3aac122d7cd4f5a33e1410.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    ?temp_hash=4700ffa775c432451d81dba62793bff2.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    โมทนาบุญกับกฐินวัดถ้ำร่วมกันนะคะ ความดีและแรงศรัทธาจากทุกท่านมาร่วมมือกัน ก่อเกิดเป็นงานนี้ กฐินทุกปี เป็น แค่เงา หลวงตาบอกว่า เป็น อยู่เบื้องหลังดีแล้วอย่าออกไปข้างหน้าเลย ทำดีอย่ามีตัวตน จบที่เรา เบาที่สุด จึงกลายเป็น " ใต้เงาวิริยธโร "



    IQQJ8Ks5D7juCzX0BNmeFJXm3O7txQj2rDZsDBeTrXAlE8V8q-Impa9IWlIyHFb7ZYYQ8xVQ&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    โจรปล้นถ้ำ
    ประมาณปี ๒๕๓๗-๒๕๓๘

    ทางคณะอาจารย์ศุภรัตน์ ได้นำคณะขึ้นไปทอดกฐินสมัยนั้นถ้ำยังไม่เจริญเหมือนทุกวันนี้ ชาวบ้านยังไม่นับถือพระเหมือนทุกวันนี้ ก็มีชาวบ้านมาร่วมทอดกฐินบ้างบางส่วน เมื่อตกตอนเย็นคณะศิษย์ก็นำยอดกฐินมานับสมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้า จึงใช้วิธีจุดเทียนนับเงินยอดกฐินวันนั้นได้ราวสามหมื่นกว่าๆ พอตกเวลาสองทุ่มก็เริ่มนั่งสมาธิกัน หลานอาจารย์ไม่ได้นั่งสมาธิด้วยจึงลงมานั่งดูหนังในรถตู้กับคนขับรถ เวลาผ่านไปซักพักหนึ่งมีชายฉกรรจ์ 3คนอาวุธครบมือได้มาจี้คนขับรถตู้โดยบอกให้เด็กคนนั้นขึ้นมาเอาเงินลงไปให้ จากนั้นพวกโจรก็ปล่อยให้เด็กคนนั้นขึ้นมาเอาเงิน พอเด็กคนนั้นขึ้นมาก็บอกกับผู้ใหญ่ที่นั่งสมาธิอยู่ว่า น้าๆมีโจรมาปล้น น้าคนนั้นก็อย่ามาเล่นคนจะนั่งสมาธิ ซักพักโจรมันตะโกนขึ้นมาว่า เฮ้ยๆเอาเงินมาสามหมื่น แล้วก็ยิงปืนขึ้นฟ้า เท่านั้นแหละคนนั่งสมาธิแตกตื่นกันใหญ่ ผู้ชายก็หยิบไม้ ผู้หญิงก็นั่งร้องไห้ถอดสร้อย เก็บตังค์ยัดไว้ตามซอกหินในถ้ำกลัวโจรจะเอาเงินไปหมด โจรก็ไม่มีทีท่าจะขึ้นมาแต่มันกลับปล่อยคนขับรถขึ้นมาเอาเงินให้มันแทน หลวงตาก็บอกไม่ต้องกลัวมันไม่กล้าขึ้นมาหรอกแล้วก็อมยิ้ม อาจารย์ศุภรัตน์หยิบจานขึ้นมาท่องคาถาแล้วร่อนจานลงไปที่กลุ่มโจร พอร่อนไปเท่านั้นแหละกลุ่มโจรแตกวิ่งหนีคนละทิศละทาง พอสบโอกาสลูกศิษย์ก็ได้ไปตีระฆังซักพัก ต.ช.ด. ฝั่งตรงข้ามก็มาแล้วตามจับโจร หลังจากนั้น1ใน3โจรถูกจับได้ ต.ช.ด. แล้วไต่ถามเรื่องราววันนั้น และมาเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า 2 คนที่ร่วมปล้นตกเขาตาย ส่วนอีกคนที่รอดเล่าว่าวันนั้นอาวุธคบมือก็จริงแต่ไม่กล้าขึ้นไปเอาเงินเองเพราะเห็นเหมือนมีงูตัวใหญ่มากพันอยู่รอบบริเวณปากถ้ำ จึงส่งให้เด็กและคนขับรถขึ้นไปเอาเงิน ส่วนที่หนีมาเพราะงูตัวนั้นกระโจมลงมาจากปากถ้ำทำให้เกิดความกลัวและหนี ส่วนเศษจานลูกศิษย์แย่งกันเก็บไปบูชากันหมด



    vhpqxWToQ8eePGBaCXMnR07miHchqZC46v-gAb4fDtQ7KQNipTYuVmmhI2s1NDcziQd-G_wA&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.jpg

    EpOALheBvzrulOfFMMqKKh5Rtf9eP31RxcjnhqyvDJunwMkIRJErXvnpmPsH82EH_aKiuXZQ&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg
     
  18. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
     
  19. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    วันนี้วันคล้ายพระโพธิสัตว์กวนอิม ออกบวช วันที่19เดือน9จีน
    น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ



    OLSt0ByBihysZZHrBkkM4VoIs3EmcThM97WoM4BwkatjGS9UcVgSOomGbycPSaE8VNenCdAQ&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.jpg
     
  20. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,080
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,969
    a.jpg


    #ตอน การฝึกดูพระพุทธรูปที่ทรงเครื่องจักรพรรดิ์

    คำถาม: การฝึกดูรูปพระพุทธรูปที่ทรงเครื่องจักรพรรดิ์แล้วก็ดึงกำลังนั้นมาไว้ที่ตัวแล้วทรงไว้ทำอย่างไร ?
    หลวงตา: สัพเพฯ เข้าไป ต้องเข้าใจเรื่องจักรพรรดิก่อน อันดับแรก คือจักรพรรดิเป็นพลังงานที่ไม่เหมือนกับ พลังงานของพุทธะ ไม่เหมือนฮะ แต่พุทธะแต่ละองค์ต้อง ผ่านการเป็นจักรพรรดิมา อย่างพระโพธิสัตว์ที่เป็นพุทธะ ต้องเคยเกิดเป็นจักรพรรดิมาหลายรอบ กำลังจักรพรรดิ ผู้
    มีบุญ อย่างเราสร้างบุญไปเรื่อย ๆ เราก็มีโอกาสเกิดเป็น จักรพรรดิ พอหมดบุญ ก็กำลังก็อยู่ในโลกนี้ จะเป็นสมบัติ จะเป็นจักร จะเป็นแก้ว จะเป็นพระขรรค์ จะเป็นแก้วแหวน เงินทอง หรือไม่ก็พบทองเนี่ย ไปถามที่ไหนถ้าเราไปเจอ ที่ไหนเนี่ย

    เค้าจะบอกของจักรพรรดิ ถามเทวดาเค้าจะบอกของจักรพรรดิ แต่เราไม่รู้หรอกใครเป็นจักรพรรดิ ใช่ไม๊ คือผู้มีบุญ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันถ้าไม่บวชสมบัติก็จะขึ้นภายใน 7 วัน เพราะฉะนั้นคำว่าจักรพรรดิเลยยาวยาวมาก ถ้าใครรู้เรื่องพลังงานแล้วจะเข้าใจ เวลาสวดจะเข้าใจ บทสวดอิติปิโส เนี่ยเป็นบทพุทธคุณ ของพุทธะแต่ละองค์ เขาใจไม๊ กำลังจักรพรรดิเข้าใจไม๊ เพราะเวลาสวดเนี่ย กายเรา อาทิสมานกาย หรือจิตเราเนี่ย จะทรงเครื่องจักรพรรดิ คือบทนี้จะนาน ๆ มีสักครั้ง เพราะว่าการปรารถนาของพุทธะแต่ละองค์ จะไม่เหมือนกันปัญญาธิกะ เนี่ย จะต้องมีปัญญามากกว่าทั่วไป เหมือนกับเรามีครึ่ง ๆ กลาง ๆ ระหว่างดี และไม่ดี ต้องใช้กำลังจักรพรรดิ

    แต่บางขณะพระพุทธเจ้าที่เป็นวิริยะ หรือศรัทธาจะไม่มีบทนี้ เพราะคนมีบุญเยอะ ปรารถนาก็ไม่ได้
    ต่อยาว นิพพานเป็นแท่งไป พระธาตุเป็นแท่ง ไม่กระจายฮะ แต่ในยุคนี้ทำไมถึงกระจาย เพราะพระพุทธเจ้า 4พระองค์ รอยต่อแต่ละพระองค์ มนุษย์ยังอยู่ ท่านบอกมนุษย์ข้างหน้าเนี่ย หมดพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเนี่ย 2พันกว่าปี เนี่ยมันจะเกิดกลียุค ท่านว่า คนมันฆ่ากัน แต่ยัง
    เหลือคนอยู่ จะเริ่มรักษาศีล เมื่อรักษาศีลคนจะอายุยืนขึ้นยืนขึ้นไปเรื่อย ๆ คนเกิดทีหลังดูคนข้างหน้าเวียนไปเรื่อยๆ มันยากแก่การสร้างบารมี เพราะคนมันน้อย มนุษย์จาก100 เป็น 200 เป็น 300 หลายหมื่นปี(ฟังไม่ชัด)ในช่วงนั้นจะมีพระ ปัจเจก หรือ จักรพรรดิ ลงมาเกิดในช่วงนั้น
    เลยไปถึง 8 หมื่นปี พระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ในกัปล์นี้ ก็
    ลงมา ท่านบอกลงมาแล้วเนี่ยไม่รู้ต่อศาสนาได้ไปอีกสัก
    เท่าไร ท่านบอก เอ็งสร้างบารมี ตอนนี้เอ็งสร้างได้ไม่เกิน
    20 ชาติ สร้างเจดีย์องค์ หนึ่งก็ พันปี2 พันปี(ฟังไม่ชัด)
    เจริญแล้วเสื่อม เจริญแล้วเสื่อม ไปเรื่อย ๆ ท่านบอก มัน
    จะเลาะไปแถบเอเชีย ศาสนาพทุธ แถวตาลีบันเมื่อก่อน
    เจริญมากศาสนาพุทธ ตอนนี้อยู่เมืองไทย ศาสนาพุทธ
    อีก 2 พันปี จะไปเจริญที่ไหนยังไม่รู้เลย ท่านบอกต้องดู
    กระแส กระแสของคนด้านนี้มันเสื่อม ด้านนี้เจริญ มันจะ
    ไล่ๆ ไป

    หลวงตาสอนศิษย์ 4
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...