คำทำนายภัยพิบัติที่แม่นยำ และการปกป้องภัยพิบัติ ของพระมหาโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล

คนดีไม่โอ้อวดค่ะ
ดังบ่ดี ดีบ่ดัง

 

ถูกต้องนะคร้าบ ... ที่ผ่านมา อวดโอ้ อวดอ้าง ก็ทุกราย ... สุดท้ายก็อย่างที่รู้กัน ยิ่งดูถูกคนอื่นนำมาก่อนแบบนี้ ชัวร์ ...

 

ปั่นกระทู้เองด้วย เหอๆ คารวะ 1 จอก

 

ขออนุโมทนาคุณ ณ เขาควง นะคะ...ให้กำลังใจแต่ต้องทำใจค่ะ ลุงมหาท่านมีศรัทธาจนล้น....คนที่ศรัทธามากเกิน ปัญญาจะน้อยค่ะ....

 

หางเครื่อง & บ่างช่างยุ คำทำนายล่าสุด

ขออนุญาตครับ
ท่านอาจารย์ปู่ หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปัณโน
ท่านโอ้ท่านอวดไหมครับ ท่านออกแสดงธรรมไปทั่วประเทศเลยนะครับ
ท่านอวดธรรมครับ

ดังบ่ดี ดีบ่ดัง

หลวงตามหาบัว ท่านดังไหมครับ หลวงตามหาบัว ท่านดีไหมครับ

หางเครื่องเห็นๆครับ บ่างช่างยุหน่อยๆ อีกต่างหาก

ปั่นกระทู้ต้องอย่างนี้ครับ อย่างลืมไปคารวะให้ครบนะครับ เดี๋ยวจะเสียมาตรฐาน

ท่านน่าจะรู้ อะไรควรไม่ควร ท่านน่าจะมีดวงตาเห็นธรรมบ้างแล้ว
น่าสงสารก็แต่หางเครื่องกับบ่างช่างยุ นั้นละครับ


ขอเข้าเรื่องคำทำนายต่อนะครับ

ทางมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิได้จัดให้มี การทอดผ้าป่าสามัคคีประจำปี 2555
ในวันที่ 6-7-8 เมษายนนี้
รอให้ท่านอาจารย์ทิพากร บอกอะไรดีๆก่อนนะครับ
แล้วจะนำมาถ่ายทอดให้อีกที

ส่วนท่านที่ออกแนวทำนายอย่างหนักหน่วงนั้น
ถ้าไม่เกิดก็ออกตัวว่า เป็นเรื่อง สตาร์วอร์ เวอร์ชั่นล่าสุดก็ได้นะครับ
เพราะเห็นถึงตอนสถาปนา จักรพรรดิ์ของจักรวาลแล้ว

ส่วนผมเป็นแค่ผู้ถ่ายทอดครับ เพราะมีบุญบารมีอยู่แค่นี้

ขออนุโมทนาร่วมกับญาติธรรมผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศลที่ช่วยกันแก้ไขภัยพิบัติทุกๆท่าน

ขออนุโมทนา
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา

 

เข้ามาอ่านจนเหนื่อย

ขอเสนอเรื่องลำดับการสักการะหน่อยครับ
จริงๆ พุทธศาสนามีหลายนิกายเหลือเกิน ในนิกายมหายาน และ วัชรยาน นั้น
บอกว่าพระโพธิสัตว์ มีลำดับรองจากพระพุทธเจ้านะครับ

ส่วนของเราเถรวาท ก็อย่างที่รู้ๆ กันน่ะครับ

ส่วนเรื่องการทำบุญ นั้น ก็ขอยืนยันว่า "บุญเป็นของพึ่งได้จริง" ส่วนท่านใด
จะเลือกทำบุญแบบไหน จะดูแลพ่อแม่ ให้อาหารสัตว์
หรือแม้กระทั่งการตั้งใจกับตนเองว่า ทุกวันเกิด ฉันจะไม่กินเนื้อสัตว์นะ
อันนี้ก็ถือเป็นบุญ ทำให้บ่อย ทำให้เยอะ แผ่เมตตาเยอะ ๆ ใจจะได้เย็น ๆ
โลกจะได้เย็นลงสักหน่อยครับ

 

อ่านไปอ่านมาอย่างกะโดนปล้น เอาตังค์มา ไม่งั้นตาย (ด้วยภัยพิบัติ)

 

ความเชื่อ ความเข้าใจ ในสิ่งที่ลึกซึ้ง ต้องมารู้เองเห็นเอง สัมผัสเอง

ขออนุญาตตอบรวมๆกันนะครับ

ชัดเจนอย่างนี้ ยังจะเรียกว่าปล้นเอาหรือครับ

ง่ายๆนะครับ

ญาณที่อยู่เลยของพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ญาณที่อยู่เลยผู้มีฤทธิ์ทั้งหลาย
ญาณที่เป็นรองก็แต่พระพุทธองค์ ก็คือญาณของพระโพธิ์สัตว์อย่างไรละครับ

แค่พิจารนากันว่า ท่านอาจารย์ปู่หลวงปู่มหาบัว ที่ท่านทำบุญสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่

"ผ้าป่าช่วยชาติ"

ยังไม่สามารถนำกุศลผลบุญอันนั้นมาแผ่มาแก้ไขภัยพิบัติได้
แล้วเรายังจะหวังพึ่งบุญอันใดอีก

อยากรู้ อยากเห็น อยากเข้าใจต้องมาสัมผัสเองครับ
ยากจะหาท่านผู้ใดเข้าใจได้ ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตนเอง

ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับญาติธรรมผู้มีจิตเป็นบุญ เป็นกุศลทุกๆท่าน

ขออนุโมทนา

ขอขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

ศึกษาให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยเข้ามาร่วมบุญนะครับ


ขออนุญาตครับ

การเข้าร่วมงานกับสายบุญมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมินั้น
ต้องเข้ามาด้วยใจศรัทธาจริงๆนะครับจึงจะเกิดผลดีได้

เช่นการบอกบุญของมูลนิธินั้น ไม่บอกบุญแก่คนทั่วไป
เพราะถ้าเขาไม่ศรัทธาแล้ว จะเกิดผลเสียแก่คนผู้นั้นทันที
เพราะเมื่อเขาไม่ศรัทธา

จิตของคนผู้นั้นจะเกิดเป็นอกุศล

เมื่อเป็นอกุศล ก็เกิดบาปขึ้นแล้ว ดังนั้น การบอกบุญ แทนที่จะเป็นบุญ ก็เป็นบาปไปเสีย

บางท่านก็เลยถึงกับเข้ามาขอห้ามไม่ให้ผมเผยแพร่เรื่องราวพระใหญ่ไปเลย

ก็เลยกลายเป็นว่า ท่านที่มาห้าม เกิดเป็นกรรมหนักมากกว่าผู้อื่นเสียอีก

ท่านอาจารย์ทิพากรนั้น ท่านจะเน้น การบอกเล่าเรื่องราวพระใหญ่ชัยภูมิ การบอกบุญ ให้ตามนี้

1. คนในครอบครัว ญาตืพี่น้อง
2. เพื่อนฝูงทั้งหลาย เช่น เพื่อนเรียน เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนร่วมชมรมกลุ่มกิจกรรมร่วมกันต่างๆ
3. คนในชุมชนเดียวกัน เช่นคุ้มเดียวกัน หมู่บ้านเดียวกัน ตำบล อำเภอ จังหวัดเดียวกัน ภาคเดียวกัน

เพราะอะไรหรือ ก็เพราะว่า กลุ่มคนเหล่านี้ มีเวลาพบปะพูดคุยกันมาก มีเวลาที่จะชักชวนกันมา ร่วมกิจกรรมพระใหญ่ชัยภูมิได้มาก

มีโอกาสศึกษารายละเอียด ข้อห้าม ข้อควรกระทำได้มาก ทำให้เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง นำไปสู่กการเกิดผลดีได้ง่าย ได้เร็ว

ดังนั้น ท่านที่ชอบอยู่คนเดียว ไม่สุงสิง ไม่พบปะพูดคุยกับใคร
ถ้าท่านไม่ฉลาดปราญเปรืองจริงๆ
ท่านก็ไม่สามารถ เข้ามาตักตวงเอากุศลผลบุญใดๆได้

เพราะงานบุญพระใหญ่นั้น เป็นงานบุญของเหล่าเทวดาโดยตรง
ทุกๆท่านที่ได้มาร่วมงานล้วนแต่ถูกเทวดา ตลอดจน ทวยเทพ จนถีงเทพเจ้า ฝ่ายสัมมาทิฐิชักชวนชักนำมาทั้งสิ้น

ส่วนท่านที่มาเพราะมาเพราะอยากมา โดยไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจอย่างละเอียดลึกซึ้ง
ท่านก็จะกลายเป็นว่าท่านถูกชักจูง ชักนำเข้ามาโดยเทวบุตรมาร
หรือเข้ามาแล้วก็ถูกชักจูงชักนำโดยเทวบุตรมาร

ดังนั้นการเข้ามานั้นสามารถทำให้เกืดทั้งผลดีและผลเสีย

โดยเฉพาะท่านที่เข้ามาเพราะอยากได้ผลประโยชน์ส่วนตน
อยากให้ตน หรือญาติพี่น้อง หายทุกข์ โศก โรคภัย หายหนี้หายสิน

เมื่อเข้ามาแล้ว ท่านไม่เข้าใจ ท่านไม่ปรับตัวให้ถูกต้อง

ท่านก็อาจจะถูกเทวบุตรมารเข้าแทรกได้ง่ายที่สุด

เหมือนดังงานบุญ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน นี้
ผมยังเห็นบางท่าน ทั้งๆที่เป็นสตรีสาว กลับยังสวมกางเกงขาสั้นเข้ามาในงาน
เข้ามาในเขตการก่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ที่ได้กำหนดเขตล้อมรั้วเอาไว้ทั้ง 27 ไร่นั้น

แถมยังเข้าไปใกล้ๆ ท่านอาจารย์ทิพากร ห่างจากท่านเพียงแค่ไม่ถึงสิบวา

ผมอยากจะเข้าไปเตือนแต่ก็สังเกตุว่า ท่านมากับกลุ่มญาติธรรมพระใหญ่อยู่แล้ว

ยังไม่เลิกงานเมื่อวานผมก็ได้ทราบข่าว รถในกลุ่มของท่านที่มาด้วยกัน คว่ำซะแล้ว เดชะบุญไม่มีใครบาดเจ็บแต่อย่างไร

แถมในงานก็ยังเห็นสตรีบางท่าน ใส่กางเกงสีดำ เดินไปเดินมาซะอีก

ศึกษาให้เข้าใจก่อนเข้ามา ท่านไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแต่อย่างใด

ส่วนท่านที่มีความเข้าใจไม่ถูกต้อง ท่านก็คงจะเป็นกลุ่มท้ายๆ โน่นละครับ

พบปะ พูดคุย ศึกษาข้อมูลให้ดี ให้เข้าใจ ก่อนเข้ามา

ท่านอาจารย์ถึงเตือนให้บอกบุญบอกข่าวแก่คนใกล้ชิดเท่านั้น
เพราะจะได้มีเวลาบอก เวลาพูด เวลาอธิบายได้นาน จะได้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น

ส่วนท่านที่ไม่ชอบศึกษา ชอบอ่านไม่กี่บรรทัด ถ้าท่านจะสร้างบาปให้แก่ตนเอง ผมก็คงไปห้ามท่านไม่ได้

ส่วนท่านที่รู้ธรรม เห็นธรรม ระดับหนึ่ง แล้ว ก็ขอให้ระมัดระวัง
อย่าได้เอา ภูมิรู้ ภูมิธรรมของท่าน มาเปรียบ มาวัด กับของผม

เพราะถ้าท่านอาจารย์ทิพากร ท่านอนุญาตให้ผมมาเผยแผ่ข้อมูลในเว็บแล้ว
ท่านย่อมรู้จิตรู้ใจผมทะลุปรุโปร่ง

ด้วยญาณบารมีอันสูงส่งของท่าน

สูงส่งระดับ ที่มองเห็น นานาธาตุญาณ รู้เห็น การเคลื่อนไหวของกลุ่มลาว่าในแกนโลก

รู้เห็น กลุ่มหินที่เรียงซ้อนกันในชั้นต่อมา รู้เห็น ช่องโหว่ รอยซ้อน รอยเลื่อนต่าง

รู้เห็นจนกระทั่งว่า จะสร้างกุศลผลบุญอะไร จะสร้างกุศลผลบุญแบบไหน
จึงจะลด จะเลื่อน จึงจะหยุดยั้งภัยพิบัติได้

ส่วนท่าน หรือกลุ่มท่าน ที่รู้ที่เห็นแล้วบอกคำทำนายภัยพิบัติต่างๆนั้น

สำหรับผมแล้ว พวกท่านกำลังเอาเชือกผูกคอตนเอง โดยมีปลายอีกข้างหนึ่งมัดขือไว้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อไรที่ท่านถีบเก้าอี้ที่ท่านยืนอยู่ออก ซึ่งก็คือ เวลาที่ท่านบอกว่าภัยพิบัติจะเกิดแล้วมันเกิดไม่ได้

เพราะเราชาวมูลนิธิำพระใหญ่ชัยภูมิ สร้างกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ต้านไว้

เมื่อนั้นท่านก็จะฆ่าตัวตายไปเอง เมื่อนั้นท่านก็จะหมดความเชื่อถือไปเอง
เมื่อนั้น มาร มันก็จะทิ้งท่านไปหาสาวกใหม่มาทำหน้าที่แทนท่านต่อไป

ฝ่ายเราชาวมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ เราก็มุ่งหาผู้มีบุญ มีกุศล มาร่วมกันกัน
สร้างพระใหญ่ชัยภูมิ เพื่อต่อต้าน เพื่อแก้ไขภัยพิบัติต่อไป

อย่าลืมนะครับ หาญาติธรรมใกล้ตัวท่านที่สุด ถามเขา ศึกษาจากเขาให้เข้าใจ
แล้วค่อยเข้ามาร่วม เข้ามาทำบุญ

ถ้าท่านยังไม่พร้อม ก็ขอให้อนุโมทนาเพื่อรับกุศลผลบุญไปพลางๆก่อน นะครับ

การทำบุญกับพระใหญ่นั้น แม้เพียงบาทเดียวก็มีผลอย่างมากมายมหาศาลแล้ว

เอาไว้ให้เหลือกิน เหลือเก็บ เหลือใช้ เหลือจาก เลี้ยงดู พ่อ แม่ บุตร ภรรยา สามี
เหลือจากช่วยเหลือสังคม แล้วค่อยมาทำบุญ

นอกจากนี้ก็เก็บตังเหรียญ บาทสองบาท ทำบุญไปก่อนก็พอแล้ว

เราสู้ตั้งแต่ยังไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง เราสู้ตั้งแต่ เจาะเสาร์เข็มฐานราก 3-4 เดือนต่อหลุม

สู้มาจนสามารถ เจาะเสาร์เข็มฐานรากได้ 36 ชั่วโมงต่อหลุม ต่อเครื่องเจาะได้แล้ว

ก็ไม่เห็นจะต้องไปกังวลอะไรอีก แค่ทำใจให้ปลอดโปร่งสะบายๆ ก็เท่านั้นเอง

ขออนุโมทนาร่วมกัยญาติธรรมผู้ทรดอดทน ผู้กล้าหาญชาญชัย ผู้จะสู้เพื่อคนทั้งโลก

ขออนุโมทนา

ขอขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

ผมไม่รู้ว่าความเห็นทั้งหมดนั่นมาจากอาจารย์ทิพากร หรือเจ้าของกระทู้ใส่ความคิดตนเองลงไปด้วย แต่ขอฝากข้อคิดไว้หน่อย

- พระโพธิสัตว์ที่ปราถนาพุทธภูมิจะปรามาสพระอรหันต์นั้นสมควรแล้วหรือ ในเมื่อตนเองยังไม่เป็นพระพุทธเจ้า บวชก็ไม่ได้บวช จะถือตัวว่าสำคัญกว่าพระนั้นสมควรหรือ

- พิธีเปิดบุญนั้นท่านว่าเป็นพิธีของพราหมณ์หรือของพุทธ ศาสนาพุทธให้พึ่งเทวดาหรือให้ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอันสูงสุด

- ภัยพิบัติจะหยุดยั้งได้เพราะพระที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือเพราะศีลธรรมคุณงามความดีกันแน่ สร้างพระใหญ่เสร็จแต่คนไม่มีศีลคิดว่าจะพ้นภัยพิบัติหรือไม่ ศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่สมัยพุทธกาลนั้นปัจจุบันเป็นอย่างไรก็เห็นอยู่ แล้วจะไปถือเอาวัตถุเป็นที่พึ่งได้หรือ จะมีประโยชน์ก็เพียงแต่ให้น้อมระลึกถึงพระพุทธองค์ รู้จักทำบุญทำทาน แต่ผมไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์มาชักชวนให้คนสร้างพระใหญ่ที่สุดในโลก มีแต่ชักนำให้คนมีศีล มีสติ มีสมาธิและปัญญามากกว่า

- ที่ผมเคยทราบมาช้างป่าเลไลย์คือครูบาศรีวิชัย ก็พิจารณาเอาละกันว่าใครน่าจะเป็นมากกว่า พระโพธิสัตว์ก็ย่อมบำเพ็ญเนกขัมบารมี แต่ทำไมอาจารย์ทิพากรไม่บวช ถือศีล 8 ก็ยังไม่บริสุทธิ์(ยังจัดคอนเสิร์ต จัดให้มีการร่ายรำบูชาเทวดา) แบบนี้คือวิสัยของพระพุทธเจ้าจริงหรือ

- ถามว่ามีฌาณจริงมั้ย อาจมี แต่ก็คงเป็นโลกียฌาณเหมือนพระเทวทัตนั้นแหละครับ

-ถามว่าถ้าไม่มีบารมีจะสร้างศาสนสถานใหญ่โตได้ขนาดนี้หรือ ก็ลองดูวัดธรรมกายละกันว่าแบบนั้นเรียกว่าบารมีธรรมรึเปล่า

 

ผมเตือนไปมากแล้วนะครับ ถ้าท่านอยากหาบาปใส่ตัวเองผมก็คงช่วยไม่ได้

ขออนุญาตครับ

ผมได้เตือนทุกๆท่านไปมากแล้ว
ขอให้พิจารนาเอาเองนะครับ
เมื่อท่านกล้าต่อต้านแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ
ก็แสดงว่าท่านกล้าหาญชาญชัยพอตัว
เมื่อท่านกล้าทำ ก็ขอให้กล้ารับผลของมันด้วย

ท่านอาจารยฺทิพากร ท่านนำพาสร้างพระใหญ่ชัยภูมินั้น
ท่านก็บอกอย่างชัดเจนว่า

สร้างเพื่อป้องกันแก้ไขภัยพิบัติทั้งสี่

สร้างเพื่ออัญเชิญพระมหาพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์
มาแผ่พุทธบารมีเพื่อควบคุมธาตุดิน ไม่ให้ปั่นป่วน
เพื่อให้ธาตุดินนั้นไปควบคุมธาตุอื่นๆต่อไปเป็นลูกโซ่

เช่นทรงดลบัญดาลให้ธาตุดิน กลายเป็นหิน เพื่อปิดกั้น เพื่อควบคุม ลาว่า ใต้พื้นโลก

เพื่อควบคุม เพื่อปรับ ความสมดุลของโลก ไม่ให้เสียสมดุล ฯลฯ

เมื่อท่านไม่เชื่อ พระมหาพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์ ก็แล้วแต่ท่าน

เมื่อท่านเชื่อกฏแห่งกรรม ก็แล้วแต่ท่าน

เมื่อท่านเชื่อในคุณงามความดี เชื่อในกุศลผลบุญก็แล้วแต่ท่าน

ที่ผมบอกไปคราวก่อน ก็ขอให้ท่านพิจารนาด้วย ที่ผมบอกว่า

ขนาดท่านอาจารย์ปู่หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปัณโน ที่ท่านนำพาสร้างกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่

นำพาทำผ้าป่าช่วยชาติ มัคนร่วมทำบุญ ทั่วประเทศหลายล้านคน
ได้เงินทองมามากมายถึง สอง-สามหมื่นล้านบาท
ยังไม่อาจจะนำพา เอากุศลผลบุญอันนั้น
มาช่วยต้านภัยพิบัติ เรื่อง สึนามีที่ภาคใต้ได้
แม้องค์ท่านเองที่ผมเคารพอย่างสูงสุด
แม้ท่านเรียกหา ผมก็ไม่อาจขยับกายเข้าไปหาท่านได้
ด้วยดวงจิตของผมนั้น เห็นครูบาอาจารย์พระผู้ใหญ่ ให้ความเคารพท่านอย่างสูงสุด
คนตัวเล็กๆอย่างผมใหนเลยจะกล้าหาญบังอาจไปรบกวนท่านได้

ท่านที่พร่ำถึงการสร้างคุณงามความดี กุศลผลบุญทั้งหลาย
ก็ขอให้พิจารนาจุดนี้ให้จงหนัก

ถ้าท่านไม่ศรัทธา ถ้าท่านไม่เห็นด้วย ผมก็อยากถามท่านว่า

แล้วท่านมาแย้ง มาต่ิอต้าน มาสร้างอกุศล ให้ตัวเองทำไม
มาสร้างผลบาปให้ตัวเองทำไม

แค่เรามุ่งสร้างกุศลผลบุญ มุ่งสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
เพื่อป้องกัน เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ

เราไปสร้างความเดือดร้อน อะไรให้ท่านหรือ
ท่านเดือดร้อนเรื่องอะไรหรือ

เห็นคนสร้างกุศลผลบุญ แล้วท่านเดือดร้อน
เห็นเขาสร้างพระพุทธปฏิมา แล้วท่านเดือดร้อน
ท่านยังเป็นชาวพุทธอยู่หรือ

ที่เขาพากันทำนายภัยพิบัติกันอยู่นั้น เขาเห็น เขานำพา แก้ไขภัยพบัติกันบ้างไหม

เขามีความชัดเจน เขากล้าหาญชาญชัย พอที่จะถ่าย วีดีโอ ให้เห็น ให้ดู อย่างชัดเจนบ้างไหม

ที่ท่านกล่าหาว่าเรา ปรามาศพระนั้น ยกมาโูให้ชัดเจนหน่อย
ที่ท่านอาจารย์ทิพากร ท่าน แสดงความเคารพนอบน้อม ต่อพระรัตนตรัยนั้น
วีดีโอก็บอกอย่างชัดแจ้งแล้ว

ขออนุโมทราร่วมกับญาติธรรมผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศลทุกๆท่าน

ขออนุโมทนา

ขอขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

- ที่ผมค้านก็เพราะหวังดีกับลุงมหาครับ
เดิมที่ผมไม่คิดจะขัดศรัทธาใครหรอก ใครอยากทำบุญแบบไหนก็แล้วแต่ ผมก็รู้จักคนที่ไปเปิดบุญอยู่ ไม่คิดจะห้ามเขาเพราะเห็นว่าเขายังยึดมั่นในพระรัตนตรัยอยู่ แต่กับลุงมหาผมค่อนข้างกังวล ถึงกับปรามาสหลวงตาบัว ปรามาสพระอรหันต์ของไทยทั้งหลาย

หลวงปู่มั่นท่านก็เป็นพุทธภูมิ แต่ท่านละแล้วเลือกเป็นอรหันต์ท่านก็ไม่เห็นกล่าวเรื่องนี้ ถ้าภัยธรรมชาติแก้ด้วยการสร้างพระใหญ่ที่สุดในโลกทำไมในพระไตรปิฎกไม่บอกไว้ พระพุทธเจ้าท่านให้แก้ที่ตัวเราไม่ได้ให้ไปแก้ที่อื่นครับ

- ผมถึงได้เตือน ผมเสียดายคนดีที่มีศรัทธาทำบุญ ยังไงซะคนที่เจตนาดีทำบุญก็ได้บุญ แต่บุญนั้นจะมีอานิสงฆ์แค่ไหนก็ขึ้นกับผู้รับด้วยว่ามีศีลธรรมแค่ไหน ผู้ที่หลงผิดก็ย่อมพาผู้อื่นหลงทางไปด้วย รบกวนพิจารณาด้วยครับ ขอยืนยันว่าผมไม่มีเจตนาใดๆที่ไม่ดีต่อลุงมหา เป็นแค่คนที่แวะผ่านมาแล้วคิดว่าน่าจะพอทำประโยชน์อะไรได้ก็แค่นั้น

ปล. - ผมว่าผู้มีธรรม ผู้ที่เห็นทุกอย่างตามสภาพความเป็นจริงย่อมมองอะไรเป็นเหตุเป็นผล หลวงตาบัวท่านหาทองเข้าคลังหลวงนั่นก็มีเหตุผลทางหลักเศรษฐศาสตร์รองรับ แต่ที่บอกว่าต้องสร้างพระพุทธรูปใหญ่สุดในโลกเพื่อให้เกิดพุทธานุภาพจะได้คุมธาตุดินไม่ให้แผ่นดินไหว ผมว่าสิ่งก่อสร้างใหญ่โตนี่แหละตัวดีที่จะทำให้แผ่นดินไหว และพอไหวรุนแรงก็ล้มทับคนสร้างความเสียหายอีก คนที่หลงกับนิมิตตกเป็นทาสกิเลสก็ย่อมไม่รู้แจ้งเห็นจริงตามสภาวะธรรม
- ขนาดปลาบู่ผมว่ายังน่าเชื่อถือกว่า รู้ว่าเขื่อนจะพังก็หาเหล็กไปเสริมโครงสร้าง แบบนี้ยังมีเหตุผลกว่า แต่พระใหญ่นี่ผมไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไร (แล้วสร้างที่ชัยภูมิที่โอกาสเกิดแผ่นดินไหวน้อยจะไปช่วยอะไร ทำไมไม่สร้างที่ๆจะเกิดแผ่นดินไหวหากคิดว่าไปเสริมธาตุดินจริง)

 

พระพุทธเจ้าโคตมตรัสกาลามสูตรไว้ให้เป็นเครื่องมือของเราทั้งหลาย พุทธทำนายที่สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดียน่าสนใจมาก เพราะมีข้อความตรงกับคำทำนายของศาสนาอื่นๆ รวมทั้งคำทำนายของนอสตราดามุสด้วย เราไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกเป็นไปตามคำทำนาย เราไม่ควรประมาทใช่ไหมครับ

 

ถ้าห้ามแล้วไม่ฟัง ผมว่าลุงมหาก็ปล่อยไปเลยครับ ไม่ต้องห้ามอีกแล้ว อุเบกขาลูกเดียว เอาไว้ชีวิตหลังความตายเป็นตัวตัดสินว่าใครจะถูกใครจะผิด............

 

พระบอก

บุญทุกอย่างที่ทำในชาตินี้ มีผลในชาติหน้า(ยกเว้นสมาธิ)
วันนี้จะสร้างบุญยังไงก็หนีภัยพิบัติไม่ได้ ทางเลือกก็คือ เก็บเงินเก็บทองเก็บสะสมอาหารเลือกที่อยู่ให้เหมาะสมกันดีกว่านะ

 

บุญถ้ามีกำลังสูง ให้ผลในชาตินี้แหละ ไม่ต้องรอไปถึงกับชาติหน้า ทำไมหลายคำทำนายถึงคลาดเคลื่อนไป หรือว่านั่นเป็นเพราะเดา หรือว่านั่นเป็นเพราะทำนายไม่แม่น น่าคิดนะ

ทางเลือกที่ดีที่สุด คือสะสมอริยทรัพย์ เก็บเงินเก็บทองเก็บสะสมอาหาร ถ้าไม่มีน้ำ และอากาศบริสุทธิ์ ก็ตายได้เหมือนกัน

ถึงเวลาจะมีสถานที่แห่งหนึ่งที่จุคนได้นับหมื่นๆคน ไม่ต้องไปค้นหาให้เสียเวลาหรอก เพราะถ้าไม่มีคำว่าบุญ ก็ผ่านไม่ได้

 

หรือแม้กระทั่งต่อให้เตรียมการดีอย่างไร เตรียมสถานที่หลบภัยดีอย่างไร เตรียมเสบียงกรังไว้เพียงพอจะประทังชีพได้เดือนนึง สองเดือน สามเดือน หนึ่งปี

แต่นึกหรือว่า....ท่านจะรอดเสมอไป อาจมีเหตุทำให้ท่านต้องออกจากสถานที่หลบภัย อาจมีเหตุทำให้ท่านไปไม่ถึงสถานที่หลบภัยที่เตรียมการอย่างดี หรือหาทางเข้าไม่เจอ หรือแม้กระทั่งเกิดโรคระบาด อาหารหมด เพราะภัยพิบัตินั้นมันเนิ่นนานเกินกว่าจะคาดคิด

การที่มนุษย์จะรักตัวกลัวตาย ต้องเตรียมการต่างๆนานานั้น เป็นเรื่องปกติ และใครอยากเตรียมก็เตรียมไปเถิด แต่สิ่งที่มนุษย์จะต้องเตรียมยิ่งกว่าเสบียงกรัง ที่หลบภัย ก็คือ คำว่า อริยทรัพย์ เพราะภัยพิบัติเป็นปัจจัยที่ทำให้มนุษย์ต้องสร้างบุญสร้างกุศลให้มากขึ้น ให้พลังขาวมีอำนาจมากกว่าพลังดำ และแม้ท่านอาจสิ้นอายุขัย แต่อริยทรัพย์จะติดตามตัวท่านไปทุกภพทุกชาติ

เพราะฉะนั้น ขอย้ำว่าท่านจะเตรียมการอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน แต่อย่าลืมเตรียมใจและเตรียมอริยทรัพย์ เพราะนี่คือสิ่งที่มนุษย์ผู้มีปัญญาจะได้เรียนรู้จากมหาภัยพิบัติในครั้งนี้

 

ผมเชื่อว่าสักวันก็จะมีภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติเกิดขึ้น เป็นธรรมดาของโลกที่เป็นอนิจจัง แต่ผู้ที่จะอยู่รอดก็คือคนที่มีศีลมีธรรม ต่อให้ไม่รอดจากภัยพิบัติก็ยังได้ไปสู่สุคติภูมิเพราะสร้างบุญบารมีไว้ช่วงที่มีชีวิต

แต่ผมไม่เชื่ออาจารย์ทิพากรที่ท่านอ้างว่าเป็นพระโพธิสัตว์ มีทิพยจักขุญาณแจ่มชัดยิ่งกว่าพระอรหันต์ และต้องสร้างพระใหญ่ชัยมงคลถึงจะพ้นภัยพิบัติ เหตุผลก็ดังที่ตั้งข้อสังเกตไว้ข้างต้น และผมก็เจอพวกที่ได้โลกียฌาณแล้วเที่ยวหลงว่าตนเป็นนั่นเป็นนี่ เห็นนั่นเห็นนี่ (เคยได้ยินพระท่านว่าคนรู้จริงเขาไม่อยู่เป็นฆราวาสหรอก เขาบวชกันหมด เพราะพอรู้ก็ย่อมจะเกิดความเบื่อหน่าย)

ปล. เอาแค่น้ำท่วมปีก่อน ถ้าคนไทยรู้จักช่วยเหลือกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ทำลายคันกั้นน้ำ ใครไม่จมก็ช่วยคนจม ใครที่จมก็ไม่ไปด่าคนไม่จมหรือต้องให้มาจมเหมือนกัน ผมว่าก็จะผ่อนหนักเป็นเบา ไม่มีเรื่องต้องขัดแย้งแย่งชิงปล้นขโมย ลองเรียนรู้จากอดีตกันเถอะครับ ถามว่าถ้ามีพระใหญ่แล้วจะไปช่วยอะไร (อาจช่วยในแง่ให้คนไปเที่ยวชมวัดแล้วก็ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม บ้าง แต่การเผยแพร่ศาสนาไม่ได้อยู่ที่การสร้างพระพุทธรูปหรือสร้างวัดอย่างเดียวหรอกครับ ต้องสร้างพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสืบทอดพระศาสนาด้วย ชาวพุทธก็ต้องรู้จักทาน ศีล ภาวนา แล้วพิธีเปิดบุญทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้อย่างไรบ้าง ลองไปพิจารณากันเอง)

 

ต้องถามก่อนว่าในที่นี้มีใครเจออาจารย์ทิพากรหรือยัง มีใครได้สนทนาธรรมกับอาจารย์ทิพากร เพราะฉะนั้น การจะกล่าวพาดพิงถึงบุคคลใดๆที่อยู่นอกเหนือจากความรู้ความเข้าใจของเรา เป็นสิ่งพึงระวัง เพราะถ้าใช่ อย่างที่เราเข้าใจ อย่างมากเราก็เสมอตัว แต่ถ้าไม่ใช่ขึ้นมา กลายเป็นว่าเราเข้าใจผิด กรรมหนักก็จะตกอยู่กับเรา และสิ่งที่เราเชื่อ สิ่งที่เรายืนยัน ยิ่งมีคนอ่านมากเท่าไหร่ เห็นมากเท่าไหร่ กรรมตรงนั้นก็จะเพิ่มพูนเป็นร้อยเท่าพันทวี

จริงอยู่การเผยแพร่ศาสนาไม่ได้อยู่ที่การสร้างพระพุทธรูปหรือสร้างวัดอย่างเดียวหรอกครับ การเผยแพร่พระศาสนาต้องทำหลายๆอย่างและหลายๆทางหลายๆวิธี ถ้าจิตใจคนในปัจจุบันมีความละเอียด ไม่มีความหยาบในกมลสันดาน ก็อาจไม่ต้องมีการสร้างศาสนาวัตถุอะไรเลยก็ได้

พระที่ผมเคารพนับถือรูปหนึ่งสอนลูกศิษย์ลูกหารวมถึงผมว่า สมมติต้องเต็ม เมื่อสมมติเต็ม ถึงจะข้ามพ้นสมมตินั้นไปได้ จะมีใครเข้าใจความนัยตรงนี้หนอ

การสร้างพระใหญ่นั้นต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจของทุกดวงใจ หลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียว การที่จิตของทุกคนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เพราะมีสิ่งยึดนั่นก็คือองค์แทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อให้เกิดพลังมหาศาล นั่นก็คือ พลังจิตของคนเหล่านั้นในทางที่ดี นี่ยังไม่ต้องพูดถึงพลังพุทธานุภาพ พลังเทวานุภาพ พลังแห่งการโมทนาบุญของทุกภพทุกภูมิ พลังเหล่านี้แหละที่จะมาต้านภัยพิบัติ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ถ้าจะว่าไป ขึ้นอยู่กับอำนาจผู้ทำลายซึ่งอยู่เหนือความรู้ความเข้าใจของมวลมนุษย์ สิ่งที่จะไปลดความรุนแรงได้ก็คือพลังบุญ

และสำหรับผม ผมมีประสบการณ์ที่เกินคำบรรยายในการสร้างพระมานับครั้งไม่ถ้วนก่อนที่จะสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ แม้กระทั่งในทุกวันนี้ผมก็ยังเพิ่มพลังงานอย่างไม่รู้จักหยุดรู้จักหย่อน เพียงแต่ผมไม่นำมาลงในอินเตอร์เนตเท่านั้นเอง ...........

เพราะฉะนั้น โปรดคิดพิจารณาไตร่ตรองให้ดีสำหรับการวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ เพราะอย่างที่บอก ถ้าใช่ ก็เสมอตัว ถ้าไม่ใช่ ก็ขาดทุนป่นปี้

 

วันคืนล่วงไป ล่วงไป บัดนี้เราทำอะไรอยู่ (เหลืออีกเจ็ดปีเท่านั้น)