คำว่า "ป่าช้า" เกิดจากอะไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Apinya Smabut, 1 พฤษภาคม 2019.

  1. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    ถาม : พื้นฐานคำว่า " ป่าช้า" เกิดจากอะไรครับ ?
    ตอบ : ป่าช้าเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกคือสมัยก่อนป่าช้าคือป่าช้า ไม่มีใครอยากไปยุ่งด้วย เพราะรกมาก สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงยังอยู่วัดบางนมโค ท่านไปฝึกปฏิบัติธรรม ท่านบอกว่ามีชะมด มีเสือป่า มีกระต่าย เยอะแยะไปหมด ป่ารกขนาดนั้น คราวนี้ป่าก็รก หนามก็เยอะ ไปเร็วไม่ได้ก็เลยเรียกป่าช้า แต่ว่าทางด้านเหนือไม่เรียกป่าช้า เขาเรียกป่าเฮ่ว

    คนโบราณมักจะรู้ดีกว่าเรา เวลาไปทำอะไรจะมีการเซ่นนายป่าช้าก่อน นายป่าช้าบางที่ก็เป็นเวมาณิกเปรต ก็คือเป็นเทวดาอยู่ครึ่งหนึ่งและเป็นเปรตอยู่ครึ่งหนึ่ง บางที่ดุหน่อยก็เป็นมหิทธิกาเปรต หรือเป็นกาลกัญจิกอสุรกาย ไปทำอะไรแถวนั้นถ้านายป่าช้าไม่อนุญาตก็โดนอัด ต้องเซ่นสรวงนายป่าช้าก่อน

    หลวงพ่อท่านอยู่วัดบางนมโค มีวันหนึ่งจะไปเจริญกรรมฐานในป่าช้า ปรากฏว่าได้ยินผีคุยกัน นายป่าช้าถามลูกน้องว่า "บ้านไอ้นั่นเขาทำบุญกัน มีใครไปโมทนาบ้างไหม ?" ลูกน้องเป็นร้อย ๆ บอกว่า "ไม่มีใครไปหรอกครับเจ้านาย" ถามว่าทำไม ? "โอ้โห..ทั้งฆ่าวัวฆ่าหมูฆ่าไก่ ขืนไปโมทนาพวกผมจะซวยไปด้วย" เขาทำบุญก็จริงแต่เขาเริ่มต้นด้วยบาป ไปฆ่าสัตว์เลี้ยงคน เลี้ยงพระ ผีเขาไม่โมทนาด้วยหรอก ถ้าโมทนาด้วยก็แปลว่า นอกจากรับส่วนบุญแล้วส่วนบาปก็รับด้วย กลายเป็นซ้ำเขาให้หนัก

    อาตมาเพิ่งเข้าใจเหมือนกันว่า บุญของเราถ้าไม่บริสุทธิ์ ผีเขาไม่โมทนาด้วยหรอก หลวงพ่อวัดท่าซุงเลยแนะนำว่า ถ้าจะเลี้ยงพระให้ทำ ๒ วิธี วิธีแรกถ้าทำอาหารเองก็ทำอาหารเจไปเลย ไข่สักใบก็อย่าไปทุบ อีกวิธีหนึ่งคือจ้างคนอื่นเป็นแม่ครัว อย่างเช่นว่าจ้างร้านอาหารให้เขาทำแล้วยกมาตักถวายพระไปเลย ไม่อย่างนั้นแล้วทำบุญผสมบาปกันอยู่เรื่อย

    แต่ถ้าเราไปซื้อเนื้อในตลาดที่เป็นปวัตตะมังสะ ที่เขาฆ่าแล้วขายเป็นปกติก็ไม่เป็นไร แต่อย่าไปสั่งเขาฆ่า อย่าไปสั่งว่าพรุ่งนี้ฉันจะทำบุญเลี้ยงพระ ๙ รูป ช่วยเชือดไก่ให้ ๒ ตัว ถ้าอย่างนี้ก็โดนจนได้ ไม่น่าเชื่อว่าทำบุญแล้วผีเมิน ไม่มีใครมาโมทนาด้วยเลย

    ที่มา วัดท่าขนุน
     

แชร์หน้านี้

Loading...