คำสอนหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 19 สิงหาคม 2012.

  1. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    "ผู้ถือไม่มีบาป ไม่มีบุญ ก็มากมายเข้าแล้ว แผ่นดินนับวันแคบ มนุษย์แม้จะถึงตาย ก็นับวันมากขึ้น นโยบายในทางโลกีย์ใดๆก็นับวันประชันขันแข่งกันขึ้น

    พวกเราจะปฏิบัติลำบากในอนาคต เพราะเนื่องด้วยที่อยู่ไม่เหมาะสม เป็นไร่เป็นนาจะไม่วิเวกวังเวง ศาสนาทางมิจฉาทิษฐิ ก็นับวันจะแสดงปฏิหาริย์ คนที่โง่เขลาก็จะถูกจูงไปอย่างโคและกระบือ ผู้ที่ฉลาดก็เหลือน้อย

    ฉะนั้น พวกเราทั้งหลายจงรีบเร่งปฏิบัติธรรม ให้สมควรแก่แก่ธรรมดังไฟที่กำลังใหม้เรือน จงรีบดับเร็วพลันเถิด ให้จิตใจเบื่อหน่ายคลายเมาวัฏสงสาร ทั้งโลกภายในหนังหุ้มอยู่โดยรอบ ทั้งโลกภายนอกที่รวมเป็นสังขารโลก ให้ยกดาบเล่มคมเข้าสู้ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาติดต่ออยู่ไม่มีกลางวันกลางคืนเถิด

    ความเบื่อหน่ายคลายเมา ไม่ต้องประสงค์ ก็จะต้องได้รับแบบเย็นๆและแยบคายด้วยจะเป็นสัมมาวิมุตติ และสัมมาญาณะอันถ่องแท้ ไม่ต้องสงสัยดอก
    พระธรรมเหล่านี้ไม่ล่วง ไปไหน มีอยู่ ทรงอยู่ในปัจจุบัน จิตในปัจจุบัน ที่เธอทั้งหลายตั้งอยู่หน้าสติ หน้าปัญญา อยู่ด้วยกัน กลมกลืนในขณะเดียวนั้นแหละ"

    หลวงปู่มั่น ภิริทัตโต
     
  2. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อดีต คือ สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรไปทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง

    แม้จะทำความผูกพัน และ มั่นใจให้สิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปไม่ได้

    ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกแต่ผู้เดียวโดยความไม่สมหวังตลอดไป

    อนาคต ที่ยังมาไม่ถึง ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน

    อดีตควรปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตก็ควรปล่อยไว้ตามกาลของมัน

    ปัจจุบัน เท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ทำได้ไม่สุดวิสัย

    โอวาท พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
     
  3. ละโลก

    ละโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +654
    กราบหลวงปู่ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ กับเจ้าของกระทู้ครับ
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    วิธีสังเกตตัวเอง สังเกต จิต ที่มี นิสัยหลุกหลิกไม่อยู่เป็น ปกติสุข ด้วยมี สติ ตามระลึก รู้ ความเคลื่อนไหว ของ จิต โดยมี ธรรมบทใด บทหนึ่ง เป็น คำบริกรรม เพื่อเป็น ยารักษาจิต ให้ ทรงตัว อยู่ ด้วย ความสงบสุข ในขณะ ภาวนา ที่ให้ ผลดี ก็มี อานาปานสติ คือ กำหนด จิต ตาม ลมหายใจ เข้า ออก ด้วย คำภาวนา พุท โธ

    พยายาม บังคับใจ ให้อยู่กับ อารมณ์ แห่ง ธรรมบท ที่นำมา บริกรรม ขณะ ภาวนา พยายาม ทำ อย่างนี้ เสมอ ด้วย ความไม่ลดละ ความเพียร จิต ที่เคย ทำบาป หาบทุกข์ อยู่เสมอ จะ ค่อยรู้สึกตัว และ ปล่อยวาง ไป เป็นลำดับ มี ความสนใจหนักแน่น ใน หน้าที่ของตน เป็น ประจำ จิตที่สงบตัวลง เป็น สมาธิ เป็น จิต ที่มี ความสุขเย็นใจมาก และ จำไม่ลืม ปลุกใจ ให้ ตื่นตัว และ ตื่นใจ ได้อย่าง น่าประหลาด

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ลองอ่านนะครับ...

    การกินอาหารกินด้วยความมีสติ อร่อยก็รู้ว่าอร่อย ไม่อร่อยก็รู้ว่าไม่อร่อย กินเพื่อยังอัตภาพไปได้ เพื่อกำจัดความหิว กินแต่พออิ่ม อิ่มแล้วหยุด ดื่มน้ำตามสัก 2-4 แก้ว เป็นต้น ให้รู้ว่า กับข้าวที่กินก็เป็นธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ราคาแพงเกินไปก็อย่าใช้เงินเปลือง แต่ใช้สมฐานะและคุณพ่อคุณแม่ไม่เดือดร้อน เก็บเงินฝากธนาคารบ้าง อย่ากินด้วยเห็นว่าอยากโชว์ความรวย กินอย่างผู้กินเพื่อบำบัดความหิว และปฏิบัติทาน ศีล ภาวนา...
     
  6. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อร่อยรู้ว่าอร่อย อันนั้นไปรู้บัญญัติแล้ว ฟางว่าน ก็ถือว่ามีสตินะ แต่ยังไม่ละเอียด
    ถ้ารู้จริง จะเห็นแค่ เย็น ร้อน อ่อน แข็ง หยุ่น ตึง หย่อน ขยับ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด
     
  7. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    อินทรบุตร การจะนิพพานต้องทึบ คุณไม่รู้จักอริยสัจจ์สี่ข้อที่หนึ่ง คุณประมาท ยังไปไม่ถึงไหนเลย และคุณชวนคนอื่นมาส่องกระจกบ้านคุณ ตัวคุณไปส่องกล้องดูดาว ดูลม ไม่รู้มีอีกาบินผ่านมาหรือเปล่า ทำบุญบ้างนะ อย่าเป็นคนดูถูกคน วันนี้แค่นี้...
     
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    มันก็แน่นอนอยู่แล้วครับ

    ก็ผมยังไม่บรรลุนี่ ธรรมสูงๆ สภาวะธรรมลึกซึ้ง ผมยังเห็นไม่ชัด ผมจะไปแนะนำคนอื่นเกินกว่าชั้นเบื้องต้นได้ยังไงเล่า...
     
  9. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การกินเพื่อยังชีพให้อยู่รอด ผู้ที่กินอย่างสิ้นเปลือง คือ ผู้ที่ลุ่มหลง

    แต่ในบางเวลาที่มีสิ่งต้องสิ้นเปลืองจึงจำเป็นต้องสิ้นเปลืองครับ

    ผู้ที่ยังขอเงินจาก บิดา มารดา ต้องควรที่จะรู้จักถนอมทรัพย์ครับ

    อย่าสนใจในความอร่อยของอาหาร เพราะนั่นคือกิเลส

    สาธุครับ
     
  10. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เขาโกรธเรา แต่เราอย่าตอบ ให้พิจารณาความบริสุทธิ์ละลาย แล้วยกธงชัยขึ้น และมีอะไรก็สงเคราะห์เขาผู้ประม<WBR>าณ ไม่นานเขากลับคืนดี ไม่กลับคืนดีก็วิบัติถึงตายทีเดี<WBR>ยว

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ
     
  11. MindSoul1

    MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +496
    มุตโตทัย

    มูลการของสังสารวัฏฏ์

    ฐีติภูตํ อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา อุปาทานํ ภโว ชาติ

    คนเราทุกรูปนามที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์ล้วนแล้วแต่มีที่เกิดทั้งสิ้น กล่าวคือมีบิดามารดาเป็นแดนเกิด ก็แลเหตุใดท่านจึงบัญญัติปัจจยาการแต่เพียงว่า อวิชฺชา ปจฺจยา ฯลฯ เท่านั้น อวิชชา เกิดมาจากอะไรฯ ท่านหาได้บัญญัติไว้ไม่ พวกเราก็ยังมีบิดามารดาอวิชชาก็ต้องมีพ่อแม่เหมือนกัน ได้ความตามบาทพระคาถาเบื้องต้นว่า ฐีติภูตํ นั่นเองเป็นพ่อแม่ของอวิชชา ฐีติภูตํ ได้แก่ จิตดั้งเดิม เมื่อฐีติภูตํ ประกอบไปด้วยความหลง จึงมีเครื่องต่อ กล่าวคือ อาการของอวิชชาเกิดขึ้น เมื่อมีอวิชชาแล้วจึงเป็นปัจจัยให้ปรุงแต่งเป็นสังขารพร้อมกับความเข้าไปยึดถือ จึงเป็นภพชาติคือต้องเกิดก่อต่อกันไป ท่านเรียก ปัจจยาการ เพราะเป็นอาการสืบต่อกัน วิชชาและอวิชชาก็ต้องมาจากฐีติภูตํเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อฐีติภูตํกอปรด้วยวิชชาจึงรู้เท่าอาการทั้งหลายตามความเป็นจริง นี่พิจารณาด้วยวุฏฐานคามินี วิปัสสนา รวมใจความว่า ฐีติภูตํ เป็นตัวการดั้งเดิมของสังสารวัฏฏ์ (การเวียนว่ายตายเกิด) ท่านจึงเรียกชื่อว่า "มูลตันไตร" (หมายถึงไตรลักษณ์) เพราะฉะนั้นเมื่อจะตัดสังสารวัฏฏ์ให้ขาดสูญ จึงต้องอบรมบ่มตัวการดั้งเดิมให้มีวิชชารู้เท่าทันอาการทั้งหลายตามความเป็นจริง ก็จะหายหลงแล้วไม่ก่ออาการทั้งหลายใดๆ อีก ฐีติภูตํ อันเป็นมูลการก็หยุดหมุน หมดการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ด้วยประการฉะนี้


    หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ

    บันทึกโดยพระอาจารย์วิริยังค์ สิรินฺธโร ( ปัจจุบันพระราชธรรมเจติยาจารย์ วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ ) ณ วัดป่าบ้านนามน กิ่ง อ. โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร พ.ศ. ๒๔๘๖

    http://www.luangpumun.org/muttothai_2.html#6
     
  12. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เป็นบทธรรมที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงต้นตอแห่งการเกิด เป็นธรรมที่งดงามยิ่งนัก

    สาธุครับ
     
  13. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    "...ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอน
    ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน
    ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู
    ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่านั้น<WBR>"

    ...เถระธรรมพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต...
     
  14. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    "..ของดีมีอยู่กับตัวเรา ทุกคนก็พากันปฏิบัติเอา ทำเอา เมื่อเวลาตายแล้วจึงวุ่นวายหานิ<WBR>มนต์พระมากุสลามาติกา ไม่ใช่เกาถูกที่คัน ต้องรีบแก้เสียบัดนี้ คือ เร่งทำความดีแต่บัดนี้ จะได้หายห่วง.."

    โอวาทธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     

แชร์หน้านี้

Loading...